เซลันด์ (Zeeland) เป็นจังหวัดทางภาคตะวันตกของประเทศเนเธอร์แลนด์ ประกอบไปด้วยเกาะต่าง ๆ มากมาย รวมทั้งเกาะ Schouwen-Duiveland และเป็นที่รู้จักจากชายหาดที่สวยงามและเมืองที่งดงามราวภาพวาด เมืองหลวงของจังหวัดเซลันด์ คือ มิดเดลเบิร์ก (Middelburg) โดยมีอุตสาหกรรมหลักในพื้นที่ขึ้นชื่อเกี่ยวกับการเกษตรและการท่องเที่ยว ในบทความนี้จะพาทุกคนขับรถเที่ยวในจังหวัดเซลันด์ไปพร้อม ๆ กัน ครอบคลุมถึงที่เที่ยวและกิจกรรมน่าสนใจในเมืองมิดเดลเบิร์ก เซียริกเซ และเฟียร์เรอะ ที่สามารถเที่ยวได้แบบเดย์ทริป
การเดินทางไปยังเซลันด์ (Zeeland)
เดินทางด้วยรถยนต์จากกรุงอัมสเตอร์ดัม ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที
เมืองในจังหวัดเซลันด์ (Zeeland)
จังหวัดเซลันด์ประกอบไปด้วยเขตเทศบาล 13 แห่ง และมีเมืองที่น่าสนใจ ได้แก่
- Middelburg: เมืองหลวงของจังหวัดเซลันด์
- Zierikzee: เมืองเล็ก ๆ ที่มีศาลากลางอายุเก่าแก่ถึง 450 ปี
- Veere: เมืองเล็ก ๆ ที่ขึ้นชื่อในเรื่องท่าเรือ
เที่ยวเมืองเซียริกเซ
เซียริกเซ (Zierikzee) เป็นเมืองเล็ก ๆ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศเนเธอร์แลนด์ อยู่ห่างจากเมืองรอตเตอร์ดัมประมาณ 50 กิโลเมตร ตั้งอยู่ในเขตเทศบาล Schouwen-Duiveland ของจังหวัดเซลันด์ เซียริกเซเป็นอีกหนึ่งเมืองประวัติศาสตร์ที่สามารถเดินเที่ยวได้ง่าย ภายในเมืองมีอนุสรณ์สถานแห่งชาติมากถึง 568 แห่ง ประชากรโดยส่วนใหญ่ประกอบอาชีพชาวประมงและธุรกิจท่องเที่ยว โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อนที่นี่จะเต็มด้วยนักท่องเที่ยวมากมายที่ส่วนใหญ่เป็นชาวดัตช์และเยอรมัน เนื่องจากเป็นเมืองที่มีชายทะเลอยู่ใกล้กับประเทศเยอรมนี เหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจได้เป็นอย่างดี
การเดินทางไปยังเมืองเซียริกเซ
เดินทางแบบหลายต่อ (เนื่องจากที่เมืองเซียริกเซไม่มีสถานีรถไฟ) เดินทางด้วยรถไฟจากกรุงอัมสเตอร์ดัมสถานี Amsterdam Centraal ไปยังเมืองรอตเตอร์ดัมลงที่สถานี Rotterdam Centraal จากนั้นนั่งรถไฟต่อไปยังเมือง Goes ลงที่สถานี Goes Station จากนั้นนั่งรถบัสไปยังเมืองเซียริกเซลงที่สถานี Zierikzee ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 2 ชั่วโมง 55 นาที ค่าโดยสารรวมประมาณ 32 ยูโร วางแผนการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะในเนเธอร์แลนด์
เดินเที่ยวในเมืองเซียริกเซ (Zierikzee)
ด้วยความที่เซียริกเซเป็นเมืองเล็ก ๆ ทำให้ง่ายต่อการเดินเที่ยว โดยมีระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดิน 1-2 ชั่วโมงก็เพียงพอสำหรับการเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ นอกจากนี้ภายในเมืองยังมีสัญลักษณ์และป้ายอธิบายความสำคัญของแต่ละสถานที่ ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าจะหลงทางหรือพลาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไป เช่นเดียวกับมีศูนย์บริการข้อมูลนักท่องเที่ยว (VVV Zierikzee) สำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

โรงสี Mill Den Haas (The Hare)
นักท่องเที่ยวสามารถเริ่มต้นเดินจากท่าเรือใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่บริการเรือโดยสารขนาดใหญ่ รวมถึงพื้นที่จอดเรือขนาดเล็กของผู้คนในพื้นที่ เมื่อเดินผ่านท่าเรือนี้ไปจะเจอกับ Mill Den Haas ตั้งอยู่ทางซ้ายมือ ความน่าสนใจของโรงสีแห่งนี้คือเคยเป็นโรงโม่แป้งที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1727 จากนั้นมีการใช้งานจนทำให้เกิดความทรุดโรม ในปี ค.ศ.1984 เทศบาลได้ซื้อสถานที่แห่งนี้และบูรณะซ่อมแซมอย่างละเอียดในปี ค.ศ. 1987 จนกลายมาเป็นโรงสีข้าวโพดที่ใช้งานได้อีกครั้ง นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมการทำงานของโรงสีภายในได้

บ้านเรือนจากศตวรรษที่ 17
หลังจากชมโรงสีแล้วสามารถเดินต่อไปตามถนนผ่านที่ตั้งของศูนย์บริการนักท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวจะพบกับร้านค้า ร้านอาหาร และคาเฟ่ตั้งอยู่หลายแห่ง รวมถึงบ้านเรือนที่มีรูปร่างและสีสันแปลกตา โดยบ้านเรือนที่เห็นอยู่นั้นส่วนใหญ่มาจากศตวรรษที่ 17 และได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี

ประตูท่าเรือทิศใต้ (Zuidhavenpoort)
จากย่านบ้านเรือนเก่าแก่เดินไปจนสุดถนนจะพบกับ Zuidhavenpoort ซึ่งเป็นหนึ่งในสามประตูเมืองของเมืองเซียริกเซ ตั้งอยู่ที่ทางเข้าท่าเรือเมืองเก่าถัดจากประตูท่าเรือทางทิศเหนือ สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 13

ประตูท่าเรือทิศเหนือ (Noordhavenpoort)
ถัดไปอีกนิดจะเจอกับ Noordhavenpoort ซึ่งเป็นหนึ่งในสามประตูเมืองที่เหลืออยู่ของเมืองเซียริกเซ ตั้งอยู่ตรงข้ามประตูท่าเรือทิศใต้ สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14

ท่าเรือเก่าเมืองเซียริกเซ (Zierikzee)
ตลาดกลางเมืองเซียริกเซ (Zierikzee)
จากย่านท่าเรือเมืองเก่าต่อไปจะเข้าสู่ย่านใจกลางเมืองที่มีบรรยากาศคึกครื้น โดยรวมร้านอาหาร คาเฟ่ ตลอดจนร้านหนังสือไว้มากมาย นับว่าเหมาะทีเดียวสำหรับการเดินชมความมีชีวิตชีวาของเมืองในย่านนี้

พิพิธภัณฑ์เมืองเซียริกเซ (Stadhuismuseum)
Stadhuismuseum หรือ Town Hall Museum เป็นพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวและประวัติศาสตร์ของเมืองเซียริกเซ ภายในจัดแสดงนิทรรศการภาพวาด แบบจำลองเรือ แผนที่เก่า หลักฐานทางโบราณคดี และเครื่องเงิน รวมถึงศาลากลาง ซึ่งเป็นอาคารอนุสรณ์สถานที่มีอายุกว่า 450 ปี เรียกได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญของเมืองเก่าเซียริกเซ
นอกจากนี้พิพิธภัณฑ์เมืองเซียริกเซยังเคยเป็นที่ตั้งของสภาเมือง รวมถึงศาลและโรงชั่งน้ำหนักในอดีต เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ควรเข้าชมหากเดินทางมาเที่ยวที่เมืองเซียริกเซ พิพิธภัณฑ์เปิดวันจันทร์-วันเสาร์ เวลา 11:00-17:00 น. วันอาทิตย์ เวลา 13:00-17:00 น. ราคาตั๋วเข้าชม 9.50 ยูโร หรือใช้บัตร Museumkaart เข้าชมฟรี


หอคอยเอียงจากศตวรรษที่ 15 (Sint-Lievensmonstertoren)
จากพิพิธภัณฑ์เมืองเซียริกเซเดินต่อไปจะเจอกับ “Sint-Lievensmonstertoren” ซึ่งเป็นหอคอยของโบสถ์ “Sint-Lievens” มีอายุย้อนไปถึงศตวรรษที่ 15 หอคอยนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า “หอคอยสัตว์ประหลาด” และมีชื่อเสียงจากรูปร่างที่บิดเบี้ยว ถ้าสังเกตดี ๆ จะเห็นว่าหอคอยเอียงทำมุมประมาณ 2.5 องศา โดยสันนิษฐานว่าสาเหตุของการเอียงของหอคอยน่าจะมาจากดินอ่อนที่สร้างและฐานรากไม่ลึกพอ อย่างไรก็ตามหอคอยนี้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมและให้ทัศนียภาพอันงดงามของเมืองและบริเวณโดยรอบ

ลองทานขนมดั้งเดิม “Zeeuwse Bolus”
แน่นอนว่าเมื่อมาเที่ยวที่เมืองเซียริกเซแล้วต้องไม่พลาดที่จะทานขนม “Zeeuwse Bolus” ซึ่งเป็นขนมต้นตำรับของเมืองนี้ โดยรูปร่างหน้าตาคล้ายกับขนมม้วนแบบกลมเคลือบด้วยน้ำตาลทรายแดงและผงอบเชย มีรสชาติหวานและหอมกลิ่นอบเชย ยิ่งทานคู่กับกาแฟหรือช็อกโกแล็ตอุ่น ๆ ยิ่งเข้ากันดี๊ดี

หลังจากแวะพักทานขนมและกาแฟรองท้องเป็นอาหารเที่ยงแล้ว เราก็ออกเดินทางต่อไปยังเมืองเฟียร์เรอะ (Veere) โดยเส้นทางผ่านจะพบกับที่เที่ยวน่าสนใจอีกหนึ่งแห่งนั้นก็คือ “Oosterscheldekering” ซึ่งเป็นเขื่อนกั้นน้ำขนาดใหญ่ ที่สร้างขึ้นเพื่อป้องกันคลื่นพายุหลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในปี พ.ศ. 2496 สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ระหว่างเมืองเซียริกเซและเมืองมิดเดลเบิร์ก
ชมเขื่อนกั้นน้ำขนาดใหญ่ (Oosterscheldekering)
ใช้เวลาเดินทางจากเมืองเซียริกเซประมาณ 20 นาทีเราก็มาถึงเขื่อนกั้นน้ำ Oosterscheldekering ความสำคัญของสถานที่แห่งนี้จนต้องหยุดแวะชมให้ได้คือเป็นเครื่องกีดขวางคลื่นพายุขนาดใหญ่ ที่สร้างขึ้นหลังเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในจังหวัดเซลันด์เมื่อปี พ.ศ. 2496 เพื่อป้องกันไม่ให้พัดเข้าท่วมบ้านเรือน โดยที่ประตูของเขื่อนสามารถเปิดปิดได้ตามปกติ ทำให้น้ำทะเลบางส่วนยังคงไหลเข้ามา ช่วยให้ปลาน้ำเค็มและสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำอีกฝั่งสามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้
ภายในบริเวณเขื่อนกั้นน้ำ Oosterscheldekering มีสถานที่จอดรถ รวมไปถึงพื้นที่ทางเดินชมเขื่อนโดยรอบ นักท่องเที่ยวยังสามารถมองเห็นสำนักงานขนาดใหญ่ของสถานีดูแลและจัดการเขื่อนนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าเขื่อนกั้นน้ำจะยังคงแข็งแรงและช่วยปกป้องเนเธอร์แลนด์จากคลื่นพายุได้ในระยะยาว


เที่ยวเมืองเฟียร์เรอะ (Veere)
Veere เป็นเมืองเล็ก ๆ ในจังหวัดเซลันด์ มีชื่อเสียงในเรื่องของการท่องเที่ยวริมทะเลสาบ รวมถึงท่าเรือที่มีเรือยอร์ทจอดอยู่จำนวนมาก นักท่องเที่ยวสามารถใช้เวลาประมาณ 1-2 เพื่อเดินชมความน่ารักของเมือง
โบสถ์ขนาดใหญ่ (Grote Kerk Veere)
Grote Kerk เป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์จากศตวรรษที่ 15 ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของเฟียร์เรอะ ปัจจุบันถูกใช้เป็นศูนย์วัฒนธรรม การจัดแสดงคอนเสิร์ตและนิทรรศการต่าง ๆ ตลอดทั้งปี รวมถึงเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม

ถังรองรับน้ำในอดีต Cistern
ตรงข้ามโบสถ์ Grote Kerk มีอนุสรณ์สถานอีกหนึ่งแห่งคือ Cistern จากศตวรรษที่ 15 เคยใช้เป็นถังน้ำรองรับน้ำที่เก็บจากหลังคาโบสถ์
ศาลากลาง (Town Hall of Veere)
Town Hall of Veere สร้างขึ้นสมัยศตวรรษที่ 15 ในสไตล์กอทิกตอนปลาย

ท่าเรือ (Harbour of Veere)
จุดท่องเที่ยวสำคัญของเมืองเฟียร์เรอะนั้นก็คือท่าเรือ เหมาะสำหรับการเดินเล่นชมความสวยงามของทะเลสาบ

บ้านเรือนจากยุคเก่าในเมืองเฟียร์เรอะ
เที่ยวเมืองมิดเดลเบิร์ก (Middelburg)
มิดเดลเบิร์ก (Middelburg) เป็นเมืองหลวงของจังหวัดเซลันด์ ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศเนเธอร์แลนด์ ในอดีตเมืองมิดเดลเบิร์กมีความรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก เคยเป็นเป็นเมืองทางการค้าที่สำคัญระหว่างอังกฤษและเมืองต่าง ๆ ของฟลานเดอร์ส และเป็นที่รู้จักกันในนามเมืองอนุสาวรีย์ที่มีอาคารทางประวัติศาสตร์มากมาย โดยมีอาคารต่าง ๆ ที่สะท้อนให้เห็นถึงความความมั่งคั่งของผู้คนในอดีต
ปัจจุบันอาคารเหล่านั้นได้มีการผสมผสานจนกลายมาเป็นร้านค้า บาร์ และร้านอาหารมากมายสำหรับผู้คนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามเมืองมิดเดลเบิร์กส่วนใหญ่ถูกทำลายจากการทิ้งระเบิดช่วงสงครามโลกครั้งที่สองในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2483 ทำให้อาคารทางประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่เสียหายและได้รับการสร้างขึ้นใหม่ในภายหลัง
การเดินทางไปยังเมืองมิดเดลเบิร์ก
เดินทางด้วยรถไฟจากกรุงอัมสเตอร์ดัมสถานี Amsterdam Centraal ไปยังเมืองรอตเตอร์ดัมลงที่สถานี Rotterdam Centraal จากนั้นนั่งรถไฟต่อไปยังเมืองมิดเดลเบิร์กลงที่สถานี Middelburg Station ใช้เวลารวมประมาณ 2 ชั่วโมง 23 นาที ค่าเดินทางรวมประมาณ 27 ยูโร
โบสถ์ Oostkerk
Oostkerk เป็นโบสถ์โปรเตสแตนต์ในเมืองมิดเดลเบิร์ก

ประตูเมืองสไตล์กอทิก Gistpoort
Gistpoort เป็นประตูเมืองสไตล์กอทิกตอนปลายในเมืองมิดเดลเบิร์ก สถานที่แห่งนี้นอกจากจะมีชื่อว่า Gistpoort แล้วยังมีชื่อ ว่า Blauwe Poort (Blue Gate) หมายถึงประตูสีน้ำเงิน อีกชื่อหนึ่งคือ Ankerpoort ซึ่งตั้งชื่อตามโรงเบียร์ ‘Den Anker’ ที่เคยตั้งอยู่ในจุดนี้ ประตูเมือง Gistpoort เริ่มต้นก่อสร้างในปี ค.ศ. 1509 และสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1512 ปัจจุบันเป็นที่เที่ยวทางประวัติศาสตร์ของเมืองมิดเดลเบิร์ก

ที่ตั้งของรัฐบาลประจำจังหวัดเซลันด์ (Abbey of Middelburg)
Abbey of Middelburg เป็นที่ตั้งของรัฐบาลประจำจังหวัดเซลันด์ และพิพิธภัณฑ์ Zeeuws Museum ในอดีตสถานที่แห่งนี้เคยเป็นสำนักสงฆ์มาก่อน โดยประกอบไปด้วยอาคารทรงกลมและหอคอยขนาดใหญ่จำนวน 4 หลัง และหอคอยขนาดเล็ก 1 หลัง ภายในมีประตู รวมถึงจัตุรัสตรงกลางและต้นไม้ขนาดใหญ่
หอคอยชมวิว (Lange Jan Abbey Tower)
Lange Jan Abbey Tower เป็นหอคอยที่เป็นส่วนหนึ่งของอาคาร Abbey of Middelburg Jan มีความยาว 90.5 เมตร ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางเมือง และมีบันไดกว่า 207 ขั้น สามารถเดินขึ้นไปชมวิวข้างบนได้ (มีค่าตั๋วเพิ่มเติม) ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสสามารถมองเห็นหมู่เกาะเซลันด์โดยรอบได้จากหอคอยแห่งนี้
ศาลากลางจังหวัดเซลันด์ (Town Hall of Middelburg)
Town Hall of Middelburg เป็นศาลากลางจังหวัดตั้งอยู่ที่ตลาดเมืองมิดเดลเบิร์ก ตัวอาคารสร้างด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์กอทิก ตกแต่งด้านหน้าด้วยประตูและหน้าต่างสีแดง พื้นที่ทางด้านหลังของศาลากลางยังเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยท้องถิ่น (University College Roosevelt) เนื่องจากศาลากลางแห่งนี้มีความสวยงามจึงถูกใช้เป็นสถานที่แต่งงานอีกด้วย
ประตูเก่าแก่จากศตวรรษที่ 15 (Kuiperspoort)
Kuiperspoort เป็นประตูในเมืองมิดเดลเบิร์ก ชื่อของสถานที่แห่งนี้หมายถึง Kuipersgilde ที่ก่อตั้งขึ้นในศตวรรษที่ 17 ซึ่งเป็นกลุ่มของผู้คนที่มีอาชีพทำถังไม้และงานฝีมือถังไม้ในอดีต โดยพวกเขาเหล่านั้นเคยทำงานที่สถานที่แห่งนี้ ก่อนที่อาชีพดังกล่าวจะค่อย ๆ เลื่อนหายไป
ปัจจุบันบริเวณประตูแห่งนี้ถูกครอบคลุมด้วยด้วยถนนสายเล็ก ๆ ปูด้วยหินกรวดและมีทางออกบนเขื่อน และอีกด้านหนึ่งมีประตูทางเดินไปสู่ถนน Rouaansekaai และยังรวมบ้านเรือนของผู้คนในพื้นที่ไว้หลายหลัง และยังเป็นที่เที่ยวยอดนิยมที่ผู้คนแวะมาถ่ายภาพประตูเก่าแก่แห่งนี้

สะพานพับ (Spijkerbrug Middelburg)
Spijkerbrug เป็นสะพานพับในเมืองมิดเดลเบิร์ก สร้างขึ้นเมื่อปี 1853 เพื่อข้ามคลองระหว่างถนน Kinderdijk และ Rouaansekaai สะพาน Spijkerbrug ยังเป็นอนุสรณ์สถานแห่งชาติในประเทศเนเธอร์แลนด์

ประตูห้องใต้ดิน (Kelderluik)
นอกจากมิดเดลเบิร์กจะมีที่เที่ยวน่าสนใจหลายแห่งแล้ว สิ่งหนึ่งที่หลายคนอาจสะดุดตานั้นก็คือหน้าบ้านแต่ละหลังจะมีประตูสร้างติดกับถนน แล้วประตูเหล่านี้มีไว้เพื่อทำอะไรนะ? เราก็เป็นอีกคนที่สงสัยเหมือนกัน พอลองไปค้นหาข้อมูลแล้วพบว่าประตูเหล่าคือประตูห้องเก็บของใต้ดิน ในสมัยก่อนมีการนำสิ่งของที่มีน้ำหนักมาก ทำให้ลำบากต่อการเคลื่อนย้ายเข้าบ้าน จึงมีการสร้างประตูห้องใต้ดินติดกับตัวบ้าน ทำให้ง่ายต่อการขนย้ายสิ่งของลงไปในนั้นโดยที่ไม่ต้องเปิดประตูบ้านแล้วขนย้ายเข้าไปหลายต่อนั้นเอง


เราใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งก็เดินเที่ยวรอบเมืองมิดเดลเบิร์กจนทั่ว อาจจะไม่ได้เข้าชมพิพิธภัณฑ์เนื่องจากมีเวลาไม่มาก สำหรับใครที่มาเที่ยวเมืองมิดเดลเบิร์ก ถ้ามีเวลาแนะนำให้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ Zeeuws Museum และขึ้นหอคอย Lange Jan Abbey Tower ไปชมวิวจากด้านบน
โดยรวมแล้วเมืองมิดเดลเบิร์กเป็นเมืองที่คล้ายกับอัมสเตอร์ดัมในเรื่องของอาคารและสิ่งปลูกสร้าง บ้านเรือนมาจากอาคารในยุคก่อนก็จริง แต่ถูกตกแต่งด้วยสีสันที่ทำให้ดูเหมือนอาคารใหม่อยู่ตลอดเวลา ผู้คนที่นี้ก็มีความเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวและใช้ชีวิตที่ไม่หวือหวาเหมือนกับผู้คนในเมืองใหญ่

ก่อนเดินทางกลับเราแวะไปที่เมือง Domburg ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวในจังหวัดเซลันด์ มีชายหาด Domburg และร้านอาหารจำนวนมาก โดยแวะทานอาหารเย็นที่นั้นประมาณหนึ่งชั่วโมงและเดินทางกลับอัมสเตอร์ดัม ทริปเที่ยวจังหวัดเซลันด์จึงขอจบลงด้วยภาพบ้านเรือนเก่าแก่จากเมืองมิดเดลเบิร์ก