อัมสเตอร์ดัม (Amsterdam) เมืองหลวงของประเทศเนเธอร์แลนด์ มีชื่อเสียงในเรื่องลำคลองที่สวยงามและบ้านเรือนที่มีรูปทรงแปลกตา หากคุณวางแผนมาเที่ยวอัมสเตอร์ดัมไม่เพียงแต่จะได้ภาพบรรยากาศของความสวยงามเหล่านั้น แต่ยังมี สถานที่ท่องเที่ยวในอัมสเตอร์ดัม อีกหลายแห่งที่จะพาคุณไปสัมผัสเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ศิลปะและวัฒนธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงศตวรรษที่ 17 ซึ่งเป็นยุคทองของดัตช์ ที่เนเธอร์แลนด์มีความเจริญรุ่งเรืองอย่างขีดสุดและยังคงสะท้อนให้เห็นมาจนถึงทุกวันนี้ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับสถานที่ท่องเที่ยวในอัมสเตอร์ดัมมากขึ้น รวมถึงกิจกรรมที่สามารถเก็บเข้าสิสต์ไว้ไปเดินเที่ยวอัมสเตอร์ดัมด้วยตัวเอง
50 สถานที่ท่องเที่ยวในอัมสเตอร์ดัม
1. พระราชวังหลวงอัมสเตอร์ดัม (Royal Palace of Amsterdam)

พระราชวังหลวงอัมสเตอร์ดัม (Royal Palace of Amsterdam) หรือที่เรียกในภาษาดัตช์ว่า “Koninklijk Paleis van Amsterdam” เป็นสถานที่อันงดงามหรูหรา ตัวอาคารได้รับการออกแบบอย่างโอ้อ่าสะท้อนถึงอำนาจและความรุ่งเรืองอย่างขีดสุดในช่วงยุคทองดัตช์ เป็นหนึ่งในสามพระราชวังในประเทศเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่ในย่านจัตุรัสดัมสแควร์ (Dam Square) ตรงข้ามอนุสรณ์สถานสงคราม (National Monument) และอยู่ติดกับโบสถ์ใหม่ (Nieuwe Kerk)
ในอดีตเคยเป็นศาลากลางในศตวรรษที่ 17 กว่า 150 ปี ต่อมากลายเป็นพระราชวังของกษัตริย์หลุยส์ นโปเลียน และต่อมากลายเป็นราชสำนักดัตช์ ปัจจุบันโดยส่วนมากใช้เป็นสถานที่ต้อนรับแขกของราชวังดัตช์และงานเลี้ยงรับรอง รวมถึงโอกาสอื่น ๆ ของราชวงศ์ เช่น งานเลี้ยงต้อนรับปีใหม่ งานกาล่าดินเนอร์ และพิธีมอบรางวัล และยังเปิดให้ผู้คนทั่วไปเข้าชมเมื่อไม่ได้ใช้งานอย่างเป็นทางการ เนื่องจากพระราชวังมีพื้นที่ค่อนข้างใหญ่ แนะนำให้เผื่อเวลาเข้าชมไว้ประมาณ 1-2 ชั่วโมง
ข้อมูลการเข้าชมพระราชวังหลวงอัมสเตอร์ดัม
- ตั้งอยู่ที่: Nieuwezijds Voorburgwal 147, 1012 RJ Amsterdam
- เวลาเปิดทำการ: วันอังคาร – วันเสาร์ เวลา 10:00-17:00 น.
- การเดินทาง: เดินจากสถานีรถไฟ Amsterdam Centraal Station ใช้เวลาประมาณ 15 นาที
- ราคาตั๋วเข้าชม 12.50 ยูโร หรือใช้บัตร Museumkaart เข้าชมฟรี
- จองตั๋วออนไลน์ก่อนเข้าชมได้ที่: Royal Palace of Amsterdam Ticket
2. บ้านเรือนคัลเลอร์ฟูลที่ท่าเรือ Damrak Waterfront

ไม่ไกลจากย่านดัมสแควร์มีอีกหนึ่ง สถานที่ท่องเที่ยวในอัมสเตอร์ ที่น่าสนใจก็คือ บ้านเรือนคัลเลอร์ฟูล ที่ใครหลายคนอาจจะเคยเห็นมาบ้างแล้ว ตั้งอยู่ที่ท่าเรือ Damrak Waterfront ตรงข้ามกับถนน Damrak (ถนนสายหลักที่เชื่อมต่อระหว่างสถานีรถไฟ Amsterdam Centraal ทางตอนเหนือ และดัมสแควร์ทางตอนใต้) ที่นี่มีลำคลองกั้นกลางบางส่วนเราจะมองเห็นฉากหลังเป็นบ้านเรือนรูปทรงแปลกตาที่มีสีสันสวยงาม และสวยเป็นพิเศษในตอนกลางคืนด้วยไฟประดับพร้อมแสงสะท้อนที่ตกกระทบน้ำในลำคลอง ถ้าคุณชอบอะไรที่น่ารักและแปลกใหม่แบบนี้สามารถเดินจากดัมสแควร์เพียงเดินแค่ 3 นาทีไปถ่ายรูปกับบ้านเหล่านี้ได้
3. โบสถ์เก่าแก่ (Old Church)

จากเรือ Damrak Waterfront เพียง 8 นาที มีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์แห่งหนึ่งตั้งอยู่ นั่นก็คือโบสถ์เก่าแก่ (ภาษาดัตช์: Oude Kerk) จากสมัยศตวรรษที่ 13 อยู่คู่เมืองอัมสเตอร์มายาวนานกว่า 700 ปี ด้านในโดดเด่นด้วยเพดานไม้และประดับด้วยออแกนขนาดใหญ่ โบสถ์ยังตั้งอยู่ทางตอนเหนือของย่านโคมแดง โดยมีจัตุรัส Oudekerksplein ล้อมรอบโบสถ์ ที่นี่เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชม มีค่าธรรมเนียม 13.50 ยูโร หรือใช้บัตร Museumkaart เข้าชมฟรี
4. พิพิธภัณฑ์แห่งชาติอัมสเตอร์ดัม (Rijksmuseum)

Rijksmuseum เป็นหนึ่งในสิบหกพิพิธภัณฑ์แห่งชาติในประเทศเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่ที่ Museumstraat 1 ใกล้กับจัตุรัส Museumplein ด้านในรวบรวมผลงานชิ้นเอก “The Night Watch” ของแร็มบรันต์ และผลงานจากจิตรกรชาวดัตช์ชื่อดัง เช่น Johannes Vermeer และ Frans Hals มากกว่า 8,000 ชิ้น รวมไปถึงวัตถุโบราณและคอลเล็กชันพิเศษบอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์แบ่งตามช่วงเวลาต่าง ๆ
การจัดแสดงนิทรรศการมีแผนผังที่เดินชมสะดวกและง่ายต่อความเข้าใจ ผู้เข้าชมยังสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Rijksmuseum สำหรับรับฟังคำบรรยายเสียงเพิ่มเติม เนื่องจากที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่แนะนำให้เผื่อเวลาเข้าชมไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง ช่วงเวลาที่แนะนำคือ 09:00-11:00 น. และควรจองตั๋วเข้าชมล่วงหน้าออนไลน์ ช่วยประหยัดเวลาในการยืนต่อคิวที่หน้าเคาน์เตอร์พิพิธภัณฑ์
ข้อมูลเข้าชมพิพิธภัณฑ์แห่งชาติอัมสเตอร์ดัม
- ที่อยู่: Museumstraat 1, 1071 XX Amsterdam
- เวลาเปิดทำการ: ทุกวัน เวลา 09:00-17:00 น.
- ราคาตั๋วเข้าชม 22.50 ยูโร หรือใช้บัตร Museumkaart เข้าชมฟรี
- จองตั๋วออนไลน์ก่อนเข้าชมได้ที่ Rijksmuseum
5. พิพิธภัณฑ์แอนน์แฟรงค์ (Anne Frank Huis)

หลายคนคงได้ยินเรื่องราวของสาวน้อย “Anne Frank ผ่านหนังสือ “The Diary of young girl” มาก่อน เราเองก็เป็นหนึ่งในนั้นที่รับรู้เรื่องราวของเธอผ่านตัวหนังสือ จนได้มีโอกาสมาเข้าชมบ้านที่แอนน์แฟรงค์ด้วยตัวเอง ที่นี่เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ในอัมสเตอร์ดัม ตั้งอยู่ที่อาคารที่ 263 Prinsengrach ซึ่งแอนน์และครอบครัวใช้เป็นสถานที่หลบซ่อนตัวเป็นเวลากว่าสองปีในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ส่วนที่เป็นเอกลักษณ์ของพิพิธภัณฑ์แอนน์แฟรงค์ คือ Secret Annex ซึ่งแอนน์เขียนถึงเรื่องราวของเธอในตอนนั้น และได้กลายเป็นไดอารีที่มีชื่อเสียงระดับโลก ภายในเป็นห้องเปล่า เช่น ห้องเก็บของ ห้องนอน ห้องครัว ห้องน้ำ โดยมีเอกสารและสิ่งของของบุคคลแปดคนที่ใช้ระหว่างหลบซ่อนตัวในอาคารแห่งนี้ บ้านด้านหน้าบอกเล่าเรื่องราวของแอนน์แฟรงค์โดยอ้างอิงจากบันทึกประจำวัน เอกสารทางประวัติศาสตร์ รูปภาพ ภาพถ่ายจากภาพยนตร์ และวัตถุดั้งเดิม ในอีกห้องหนึ่งจัดแสดงบันทึกประจำวันและงานเขียนต้นฉบับของแอนน์แฟรงค์
The Anne Frank House ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ปี ค.ศ. 1957 โดยความร่วมมือกับ Otto Frank บิดาของแอนน์แฟรงค์ เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรอิสระที่ดำเนินงานพิพิธภัณฑ์ในบ้านที่แอนน์แฟรงค์เข้าไปหลบซ่อนตัว และเพิ่มการรับรู้เรื่องราวชีวิตของแอนน์ไปทั่วโลก
ข้อมูลเข้าชมพิพิธภัณฑ์แอนน์แฟรงค์
- ที่อยู่: Westermarkt 20, 1016 DK Amsterdam
- เวลาเปิดทำการ: ทุกวัน เวลา 09:00-15:30 น.
- ราคาตั๋วเข้าชม 16 ยูโร หรือใช้บัตร Museumkaart เข้าชมฟรี
- จองตั๋วออนไลน์ก่อนเข้าชมได้ที่ Anne Frank House (มีค่าจองตั๋วออนไลน์ 1 ยูโร)
6. พิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะห์ (Van Gogh Museum)

Van Gogh Museum เป็นหนึ่งในสถานที่ยอดนิยมของอัมสเตอร์ดัม สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับจิตรกรชาวดัตช์ชื่อดัง ‘Vincent van Gogh’ ตั้งอยู่ที่ Paulus Potterstraat ในย่าน Museumplein ที่นี่รวบรวมผลงานชื่อดังอย่าง “The Flower” และภาพวาดมากกว่าห้าร้อยภาพ ภาพสะสมญี่ปุ่น และอื่นๆ ทั้งหมดนี้จะพาคุณเดินทางไปกับชีวิตของ Vincent van Gogh ชมผลงานชิ้นเอก ความคิดและเรื่องราวที่อยู่เบื้องหลังงานศิลปะของเขา รวมถึงอาการเจ็บป่วยและการเสียชีวิต
ข้อมูลเข้าชมพิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะห์
- ที่อยู่: Museumplein 6, 1071 DJ Amsterdam
- เวลาเปิดทำการ: ทุกวัน เวลา 09:00-17:00 น.
- ราคาตั๋วเข้าชม 22 ยูโร หรือใช้บัตร Museumkaart เข้าชมฟรี
- จองตั๋วออนไลน์ก่อนเข้าชมได้ที่ Van Gogh Museum
7. พิพิธภัณฑ์บ้านแร็มบรันต์ (Rembrandt House Museum)

Rembrandt House Museum เป็นพิพิธภัณฑ์และอนุสรณ์สถานของประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่แร็มบรันต์ (Rembrandt Harmenszoon van Rijn) ศิลปินเอกและช่างพิมพ์ที่มีชื่อเสียงก้องโลก เคยอาศัยและทำงานอยู่ระหว่างปี 1639-1656 ภายในบ้านได้รับการตกแต่งด้วยผลงานภาพวาด เฟอร์นิเจอร์และสิ่งของจากศตวรรษที่ 17 รวมถึงผลงานภาพพิมพ์และแกะสลักของแร็มบรันต์ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะพาคุณย้อนกลับไปยังศตวรรษที่ 17 พร้อมสัมผัสกับประสบการณ์เรื่องราวของแร็มบรันต์และชีวิตการทำงานศิลปะที่เขารักแบบเต็มอิ่ม พิพิธภัณฑ์แร็มบรันต์มีขนาดไม่ใหญ่มาก เผื่อเวลาการเข้าชมไว้ประมาณ 1-1.5 ชั่วโมง
ข้อมูลเข้าชมพิพิธภัณฑ์บ้านแร็มบรันต์
- ที่อยู่: Jodenbreestraat 4 1011 NK Amsterdam
- เวลาเปิดทำการ: วันอังคาร – วันเสาร์ เวลา 10:00-18:00 น.
- ราคาตั๋วเข้าชม 17.50 ยูโร หรือใช้บัตร Museumkaart เข้าชมฟรี
- จองตั๋วออนไลน์ก่อนเข้าชมได้ที่: Rembrandt House Museum
8. พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่และการออกแบบร่วมสมัย (Stedelijk Museum)

สำหรับใครที่ชื่นชอบผลงานศิลปะสมัยใหม่ ห้ามพลาดที่จะเข้าชมพิพิธภัณฑ์ Stedelijk Museum Amsterdam ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ระหว่างประเทศที่จัดแสดงผลงานศิลปะและการออกแบบร่วมสมัย ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1874 ในปี ค.ศ. 1895 พิพิธภัณฑ์ได้เปิดอาคารใหม่ใน Paulus Potterstraat ใกล้กับพิพิธภัณฑ์แห่งชาติอัมสเตอร์ดัมและพิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะห์ ด้านในประกอบด้วยอาคารสองชั้น จัดแสดงผลงานศิลปะสมัยใหม่ ภาพกราฟฟิก ของสะสม และศิลปะแบบประยุกต์ที่น่าสนใจ
ข้อมูลเข้าชมพิพิธภัณฑ์ Stedelijk Museum Amsterdam
- ที่อยู่: Museumplein 10, 1071DJ Amsterdam
- เวลาเปิดทำการ: ทุกวัน เวลา 10:00-18:00 น. (วันศุกร์ เวลา 10:00-22:00 น.)
- ราคาตั๋วเข้าชม 22.50 ยูโร หรือใช้บัตร Museumkaart เข้าชมฟรี
- จองตั๋วออนไลน์ก่อนเข้าชมได้ที่ Stedelijk Museum
9. พิพิธภัณฑ์ Museum Van Loon

เคยสงสัยกันไหมคะว่าบ้านของตระกูลผู้มั่งคั่งในประเทศเนเธอร์แลนด์สมัยก่อนเขาอาศัยอยู่เป็นแบบใด? พิพิธภัณฑ์ Museum Van Loon จะพาทุกท่านไปร่วมค้นหาคำตอบนั้น ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ในบ้านริมคลอง Keizersgracht ที่มีชื่อเสียงของอัมสเตอร์ดัม ถูกตั้งชื่อตามตระกูล Van Loon ที่อาศัยอยู่ในบ้านตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 สร้างขึ้นในปี 1672 โดยสถาปนิก Adriaen Dortsman มีผู้อาศัยคนแรกคือจิตรกร Ferdinand Bol (ลูกศิษย์ของแร็มบรันต์)
การตกแต่งภายในบ้าน Van Loon ส่วนใหญ่ยังคงสภาพสมบูรณ์ในช่วงหลายศตวรรษที่ผ่านมา และยังคงทำให้นึกถึงความงดงามของศตวรรษที่ 17 ภายในพิพิธภัณฑ์ยังมีการจัดแสดงคอลเลกชันภาพวาด เฟอร์นิเจอร์ชั้นดีสีเงินล้ำค่า และเครื่องลายครามจากศตวรรษต่าง ๆ ส่วนทางหลังบ้านยังมีสวนดอกไม้ขนาดเล็ก ทุกอย่างนี้มีบรรยากาศที่เงียบสงบและถูกซ่อนตัวอยู่ภายในเมืองชั้นในสมัยใหม่ และถ้าคุณไปที่นี่จะได้สัมผัสกับบรรยากาศเหล่านั้นด้วยตัวเอง
ข้อมูลเข้าชมพิพิธภัณฑ์ Museum Van Loon
- ที่อยู่: Keizersgracht 672 1017 ET Amsterdam
- เวลาเปิดทำการ: วันพุธ – วันอาทิตย์ เวลา 10:00-1:00 น.
- ราคาตั๋วเข้าชม 13.50 ยูโร หรือใช้บัตร Museumkaart เข้าชมฟรี
- จองตั๋วออนไลน์ก่อนเข้าชมได้ที่: Museum Van Loon
10. พิพิธภัณฑ์การเดินเรือแห่งชาติอัมสเตอร์ดัม (Het Scheepvaartmuseum)

ร่วมย้อนเวลาดำดิ่งไปสู่โลกแห่งการเดินเรือพร้อมเรียนรู้ประวัติศาสตร์แห่งน่านน้ำที่ยาวนานกว่า 500 ปี ผ่านแกลลอรีภาพเขียนการเดินเรือในสมัยก่อน แบบจำลองเรือ รวมไปถึงแผนที่การเดินเรือ โดยใช้องค์ประกอบแสดงสีเสียงได้อย่างน่าสนใจกับพิพิธภัณฑ์การเดินเรือแห่งชาติ (Het Scheepvaartmuseum) ตั้งอยู่ที่ Kattenburgerplein 1 ในกรุงอัมสเตอร์ดัม ที่นี่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1656 ภายในประกอบด้วยอาคารและพื้นที่ขนาดใหญ่ปกคลุมด้วยหลังคากระจก ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจากเข็มทิศและแผนภูมิเดินเรือเก่า
พิพิธภัณฑ์การเดินเรือแห่งชาติ (Het Scheepvaartmuseum) ประกอบไปด้วยพื้นที่ 3 โซน ได้แก่ West wing, North wing และ East wing มีพื้นที่สำหรับจัดแสดงแกลลอรีหลัก ‘Republic at Sea’ รวบรวมผลงานชิ้นเอกมากกว่า 50 ชิ้น บอกเล่าเรื่องราวอันน่าทึ่งของเนเธอร์แลนด์ในฐานะประเทศทางทะเล การเชื่อมโยงกับทะเลผ่านทางการค้าและสงคราม ไปสู่ยุคทองของดัตช์ (Dutch golden age)
นอกจากนี้คอลเลกชันยังถูกแบ่งออกเป็นนิทรรศการย่อย ๆ ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อแสดงรายละเอียดที่สำคัญ ได้แก่ ‘Rising Tide’ (วิกฤตกระแสน้ำที่เพิ่มขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ) ‘The Royal Barge’ (การสร้างเรือสำหรับพระมหากษัตริย์ในยุโรป) ‘Maps & marvels’ (แผนที่นักเดินเรือ) ‘The yacht models’ (เรือยอทช์ที่ได้รับการตกแต่งอย่างหรูหรา) ‘The navigational instruments’ (การค้นหาเส้นทางเดินเรือในสมัยก่อน) ‘The ship decorations’ (ชิ้นส่วนและการตกแต่งเรือ) และนิทรรศการสำหรับเด็ก ‘The table of the whale’ (เรียนรู้ชีวิตของปลาวาฬ การล่าวาฬ และวิธีที่ทำให้วาฬเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์)
ข้อมูลเข้าชมพิพิธภัณฑ์การเดินเรือแห่งชาติอัมสเตอร์ดัม
- ที่อยู่: Kattenburgerplein 1 1018 KK Amsterdam
- เวลาเปิดทำการ: วันอังคาร – วันอาทิตย์ เวลา 10:00-17:00 น.
- ราคาตั๋วเข้าชม 17.50 ยูโร หรือใช้บัตร Museumkaart เข้าชมฟรี
- จองตั๋วออนไลน์ก่อนเข้าชมได้ที่: The National Maritime Museum
11. พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมและสังคมโลก (Tropenmuseum)

Tropenmuseum เป็นพิพิธภัณฑ์ทางวัฒนธรรมที่รวบรวมมุมมองและเรื่องราวต่าง ๆ ทั่วมุมโลกไว้ด้วยกัน ตั้งอยู่ในอาคารอันหรูหราแห่งหนึ่งในเนเธอร์แลนด์ ภายในจัดแสดงนิทรรศการถาวรมากมายไม่ว่าจะเป็น ‘Indonesia’ (บอกเล่าประวัติศาสตร์กว่า 350 ปีของชาวดัตช์ในอินโดนีเซีย รวมถึงเมื่อครั้งอินโดนีเซียเคยอยู่ในช่วงการปกครองของดัตช์) ‘New Guinea’ (ประวัติชาวนิวกินี รวบรวมวัตถุมีค่า รูปปั้นบรรพบุรุษ วิดีโอและภาพถ่าย) ‘Southest Asia’ (ประติมากรรมบุโรพุทโธ สถาปัตยกรรมที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของศาสนาพุทธลัทธิมหานยาน เครื่องประดับทองที่สร้างขึ้นอย่างประณีต และคอลเลกชันสำริดของอินโดชวาแบบพิเศษ)
พิพิธภัณฑ์ Tropenmuseum ยังได้เปิดนิทรรศการถาวรอีกหนึ่งแห่งในปี 2018 ในชื่อ ‘Things That Matter’ ผ่านธีมที่เชื่อมต่อผู้คนทั่วโลก รวมถึงประเด็นทางสังคมในปัจจุบัน เช่น การย้ายถิ่นและอัตลักษณ์มีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้อย่างไร ทั้งหมดนี้จะพาคุณร่วมเปิดใจและดำดิ่งสู่โลกแห่งเพศสภาพ เพื่อค้นพบความหมายเหล่านั้นผ่านศิลปะภาพถ่ายแฟชั่นและเรื่องราวส่วนตัว
ข้อมูลเข้าชมพิพิธภัณฑ์ Tropenmuseum
- ที่อยู่: Linnaeusstraat 2, 1092 CK Amsterdam
- เวลาเปิดทำการ: วันจันทร์ – วันอาทิตย์ เวลา 10:00-17:00 น.
- ราคาตั๋วเข้าชม 16 ยูโร หรือใช้บัตร Museumkaart เข้าชมฟรี
- จองตั๋วออนไลน์ก่อนเข้าชมได้ที่: Tropenmuseum
12. พิพิธภัณฑ์ Dutch Resistance Museum (Verzetsmuseum)

เราอาจจะเคยได้ยินเรื่องราวของสงครามโลกครั้งที่สองมาก่อน อย่างไรก็ตาม Verzetsmuseum ไม่ใช่พิพิธภัณฑ์สงคราม หากแต่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่ามุมมองและการตอบสนองของพลเมืองดัตช์ที่มีต่อการยึดครองโดยระบอบนาซีที่เป็นเผด็จการและเหยียดเชื้อชาติ ตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2483 ถึง 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2488 เนเธอร์แลนด์ถูกยึดครองโดยนาซีเยอรมนี ชาวดัตช์เกือบทุกคนได้รับผลกระทบจากการยึดครอง
พิพิธภัณฑ์นำเสนอเรื่องราวผ่านวัตถุของจริงรวมกับเทคนิคสมัยใหม่ และเล่าผ่านเหตุการณ์ของบุคคลที่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก การต่อต้านนำมาในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การนัดหยุดงาน การช่วยเหลือผู้คนในการหลบซ่อน หนังสือพิมพ์ใต้ดิน เส้นทางหลบหนี การต่อต้านด้วยอาวุธ การจารกรรม การปลอมเอกสารเพื่อซ่อนข้อมูลที่ไม่ให้บ่งชี้และส่งตัวไปยังค่ายกักกัน ชาวดัตช์ต้องเผชิญกับสถานการณ์เหล่านี้เป็นเวลานานเกือบห้าปีที่เต็มไปด้วยความสูญเสียทั้งชีวิตและบ้านเรือน ก่อนที่สงครามโลกครั้งที่สองจะสิ้นสุดลง ชาวดัตช์บางส่วนรอดชีวิตจากค่ายกักกันและเดินทางกลับมายังบ้านเกิด ชาวยิวกว่า 101,500 รายเสียชีวิตจากการการยึดครองในครั้งนี้
ข้อมูลเข้าชมพิพิธภัณฑ์ Verzetsmuseum
- ที่อยู่: Plantage Kerklaan 61 1018 CX Amsterdam
- เวลาเปิดทำการ: วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 10:00-17:00 น.
- วันเสาร์ – วันอาทิตย์ เวลา 11:00-17:00 น.
- ราคาตั๋วเข้าชม 14 ยูโร หรือใช้บัตร Museumkaart เข้าชมฟรี
- จองตั๋วออนไลน์ก่อนเข้าชมได้ที่: Verzetsmuseum
13. เช่าจักรยานปั่นชมเมืองอัมสเตอร์ดัม

อัมสเตอร์เป็นเมืองที่เป็นมิตรกับจักรยาน ผู้คนในท้องถิ่นนิยมปั่นจักรยานเนื่องจากเข้าถึงสถานที่ต่าง ๆ ได้สะดวกมากกว่ารถยนต์ นักท่องเที่ยวก็เช่นกันสามารถเช่าจักรยานปั่นไปยังสถานที่ท่องเที่ยวในตัวเมืองได้อย่างสะดวก ราคาเริ่มต้นที่ 3-5 ยูโร ต่อ 1 ชั่วโมง คุณสามารถหาเช่ารายวันได้ในราคาเพียง 10-15 ยูโร (สำหรับจักรยานธรรมดา) และ 17-27ยูโร (สำหรับจักรยานไฟฟ้า) ค้นหารายชื่อร้านเช่าจักรยานเพิ่มเติมได้ที่ Bike hire in Amsterdam
14. ล่องเรือเที่ยวในคลองอัมสเตอร์ดัม

กิจกรรมอีกหนึ่งอย่างที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวอัมสเตอร์ดัม คือ การล่องเรือเที่ยวในคลองอัมสเตอร์ดัม มีบริการเรือล่องอยู่หลายแบบ แบบที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวคือ City Canal Cruise เหมาะสำหรับคนที่มีเวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง เรือที่ใช้เป็นเรือขนาดใหญ่แบบดั้งเดิมมีหลังคากระจกพร้อมที่นั่งรองรับผู้โดยสารได้มากถึง 40-50 คน การล่องเรือแบบนี้ส่วนใหญ่ใช้เวลาประมาณ 1-1.5 ชั่วโมง ไกด์บรรยายเป็นภาษาอังกฤษเวลาผ่านสถานที่สำคัญต่าง ๆ ราคาอยู่ที่ระหว่าง 12-23 ยูโรมักรวมเครื่องออดิโอเสียงขนาดเล็กที่รองรับภาษาต่าง ๆ และภาษาไทย
นั่งเรือฟรีด้วยบัตร I amsterdam City Card
รู้หรือไม่ว่าหากคุณถือบัตร I Amsterdam City Card สามารถใช้บัตรนี้ล่องเรือเที่ยวในคลองอัมสเตอร์ดัมแบบ City Canal Cruise ได้ฟรี 1 ชั่วโมงกับบริษัทผู้ให้บริการล่องเรือ 4 เจ้า คือ Blue boat Amsterdam Canal Cruises, Amsterdam Circle line Sightseeing, Lovers Canal Cruises และ Stromma โดยไม่ต้องจองล่วงหน้า เพียงแค่ขึ้นเรือในช่วงเวลาที่สะดวก
I Amsterdam City Card เหมาะสำหรับผู้ที่วางแผนเที่ยวในอัมสเตอร์ดัม 1-3 วัน หรือต้องการเข้าชมพิพิธภัณฑ์มากกว่า 2-3 แห่ง ราคาบัตร 65 ยูโร (24 ชั่วโมง) 80 ยูโร (48 ชั่วโมง) 95 ยูโร (72 ชั่วโมง) 105 ยูโร (196 ชั่วโมง) และ 115 ยูโร (120 ชั่วโมง) ใช้สำหรับขึ้นรถบัส รถราง และรถไฟใต้ดินของ GVB ในอัมสเตอร์ดัมได้ไม่จำกัด บัตรนี้ยังสามารถนำไปเข้าชมเข้าชมพิพิธภัณฑ์และสถานที่ท่องเที่ยวมากกว่า 60 แห่งในอัมสเตอร์ดัมฟรีอีกด้วย
15. ทัวร์โรงเบียร์ไฮเนเก้น (Heineken Experience)

ไฮเนเก้น เอ็กซ์พีเรียนซ์ หรือ “โรงเบียร์ไฮเนเก้น” (Heineken Experience) เป็นทัวร์แบบอินเทอร์แอคทีฟของเบียร์ยี่ห้อดังระดับโลก “ไฮเนเก้น” (ภาษาดัตช์: ไฮเนอเกิน) ตั้งอยู่ในโรงเบียร์เก่าแก่ที่สุดใจกลางกรุงอัมสเตอร์ดัม ที่นี่เคยเป็นโรงผลิตเบียร์ตั้งแต่ปี 1864 แต่ต่อมาในปี 1988 ต้องปิดตัวลงเพราะมีขนาดเล็กเกินไป ก่อนที่ฐานการผลิตแห่งใหม่จะย้ายไปอยู่ที่เมืองซูเทอร์เวาเดอร์ (Zoeterwoude) ในจังหวัดเซาท์ฮอลแลนด์ของเนเธอร์แลนด์ สถานที่แห่งนี้จึงกลายมาเป็นอาคารทางประวัติศาสตร์ที่บอกเล่าเรื่องราวของเบียร์ไฮเนเก้น กระบวนการผลิตเบียร์ ที่จะพาคุณไปสัมผัสประสบการณ์ของแบรนด์แบบเต็มอิ่ม พร้อมลิ้มสรสชาติเบียร์สดในตอนท้ายฟรี ปัจจุบันโรงเบียร์ไฮเนเก้นเป็นหนึ่งในสถานที่เที่ยวยอดนิยมของอัมสเตอร์ดัม และการมาเที่ยวอัมสเตอร์ดัมจะครบสมบูรณ์ไม่ได้ ถ้าขาดทัวร์โรงเบียร์ไฮเนเก้นนี้ไป
ข้อมูลเข้าชมโรงเบียร์ไฮเนเก้น
- ตั้งอยู่ที่: Stadhouderskade 78, 1072AE Amsterdam
- เวลาเปิดทำการ: ทุกวัน เวลา 10:30-19:30 น. (วันศุกร์และวันเสาร์เปิดเวลา 10:30-21:00 น.)
- การเดินทาง: เดินจากพิพิธภัณฑ์แห่งชาติอัมสเตอร์ดัมจากย่าน Museumplein ไปตามถนน Stadhouderskade เพียง 7 นาที โรงเบียร์ไฮเนเก้นจะตั้งเด่นสง่าอยู่ทางขวามือ ถ้าใครที่เริ่มต้นการเดินทางจากสถานีรถไฟ Amsterdam Centraal สามารถนั่งรถไฟสายติดสาย 52 มาลงที่สถานี Vijzelgracht จากนั้นเดินอีก 4 นาที โรงเบียร์ไฮเนเก้นจะตั้งเด่นสง่าถัดจากสะพาน Nieuwe Vijzelstraat
- ราคาตั๋วเข้าชม 21 ยูโร
- จองตั๋วออนไลน์ก่อนเข้าชมได้ที่: Heineken Tour Ticket
16. ทัวร์สนามฟุตบอลโยฮัน ไกรฟฟ์อาเรนา (Johan Cruijff ArenA)

สนามฟุตบอลโยฮัน ไกรฟฟ์อาเรนา (Johan Cruijff ArenA) เดิมชื่ออัมสเตอร์ดัมอาเรนา (Amsterdam ArenA) เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของอัมสเตอร์ดัม ตั้งอยู่ที่ย่าน Zuidoost ห่างจากตัวเมืองอัมสเตอร์ดัมประมาณ 20 นาที ความน่าสนใจของที่นี่นอกจากจะเป็นสนามเหย้าของสโมสรทีมฟุตบอลชื่อดังอย่างอาเอเซ อาแจ็กซ์ AFC Ajax อัมสเตอร์ดัมแล้ว (ภาษาดัตช์: อายักซ์) ยังเป็นสนามกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเนเธอร์แลนด์ ชื่อของสนามฟุตบอลโยฮัน ไกรฟฟ์อาเรนา ได้ถูกนำมาใช้อย่างเป็นทางการในปี 2018 เพื่อเป็นเกียรติแก่ให้กับโยฮัน ไกรฟฟ์ ตำนานนักเตะผู้ยิ่งใหญ่ของสโมสร หากคุณไปเที่ยวที่นี่ไม่เพียงแต่จะสัมผัสประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นของโลกแห่งฟุตบอล แต่ยังจะแต่ยังจะได้เรียนรู้เรื่องราวของนักเตะในตำนานคนนี้ด้วย
ข้อมูลเข้าชมสนามฟุตบอลโยฮัน ไกรฟฟ์อาเรนา
- ตั้งอยู่ที่: Johan Cruijff Boulevard 1, 1100DL Amsterdam
- เวลาเปิดทำการ: ทุกวัน เวลา 09:30-16:30 น.
- การเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดินสาย 54 จากสถานีรถไฟ Amsterdam Centraal มาลงที่สถานี Amsterdam Bijlmer Arena จากนั้นเดินอีก 7 นาทีไปยังประตูทางเข้าหลัก E
- ราคาตั๋วเข้าชม 20 ยูโร
- จองตั๋วออนไลน์ก่อนเข้าชมได้ที่: Johan Cruijff ArenA Stadium Tour Ticket
17. แวะชิมช็อกโกโลนี่ดัตช์ชื่อดัง (Tony’s Chocolonely)

ใครที่มาเที่ยวอัมสเตอร์ดัมเดินเข้าซูเปอร์มาร์เก็ตดัตช์อาจจะสะดุดตากับช็อกโกแลตยี่ห้อหนึ่งชื่อว่า “Tony’s Chocolonely” (โทนี่ช็อกโกโลนี่) พวกเขาเป็นช็อกโกแลตแบรนด์ดังสัญชาติเนเธอร์แลนด์แท้ ๆ ก่อตั้งขึ้นในปี 2548 ก่อนที่จะกลายมาเป็นผู้ผลิตช็อกโกแลตรายใหญ่ของเนเธอร์แลนด์ด้วยส่วนแบ่งการตลาดถึง 18% ความโด่งดังของโทนี่ช็อกโกโลนี่ไม่ได้มีแค่ผลิตภัณฑ์ที่สะดุดตาเท่านั้นแต่รสชาติยังมีความเข้มข้นโดนใจผู้ทาน ถ้าคุณวางแผนมาเที่ยวอัมสเตอร์ดัม ย่านดัมสแควร์จะมีร้านโทนี่ช็อกโกโลนี่ตั้งอยู่ที่ตึก Beurs van Berlage ที่นั่นไม่เพียงแต่คุณสามารถลิ้มลองช็อกโกแลตหลายรสชาติ แต่ยังสามารถออกแบบกระดาษห่อและเลือกรสชาติช็อกโกแลตที่ชื่นชอบได้ด้วย พวกเขายังเปิดคาเฟ่ขนาดใหญ่สำหรับทานอาหารและเครื่องดื่มตั้งอยู่ใกล้กันอีกนะคะ ไปที่นี่แล้วได้เที่ยวแบบสองต่อเลย
ข้อมูลร้าน Tony’s Super Store
- ร้านตั้งอยู่ที่: Oudebrugsteeg 15, 1012JN Amsterdam
- เวลาเปิดทำการ: ทุกวัน เวลา 11:00-19:00 น. (คาเฟ่เปิดเวลา 10:00-19:00 น.)
- การเดินทาง: เดินจากท่าเรือดัมรัค 5 นาที ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือของอาคาร Beurs van Berlage
18. ชมจัตุรัสเก่าแก่ (Begijnhof)

Begijnhof สถานที่ใครหลายคนอาจไม่คุ้นหู ซ่อนตัวอยู่ใจกลางเมืองอัมสเตอร์ดัมภายใต้บรรยากาศที่เงียบสงบ ด้านในเป็นจัตุรัสไม้สีเขียวล้อมรอบด้วยบ้านทรงหน้าจั่วที่สวยงาม ที่นี่ก่อตั้งขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 14 โดยมีรากฐานมาจากโบสถ์คาทอลิกในสมัยนั้น สถานที่แห่งนี้จึงเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่น่ามาเยี่ยมชมสักครั้ง คุณสามารถเดินจากย่านจัตุรัสดัมสแควร์เพียง 5 นาที จากนั้นเลี้ยวเข้าสู่ถนน Begijnensteeg จะพบกับทางเข้า (เส้นทางไปยัง Begijnhof) เนื่องจากสถานที่แห่งนี้เป็นพื้นที่อาศัยส่วนบุคคลของผู้คนในพื้นที่ ไม่ควรส่งเสียงดังขณะเข้าชม
19. พิพิธภัณฑ์อัมสเตอร์ดัม (Amsterdam Museum)

พิพิธภัณฑ์อัมสเตอร์ดัม (Amsterdam Museum) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองภายในอาคารเก่าแก่จากศตวรรษที่ 16 ระหว่างถนน Kalverstraat และถนน Nieuwezijds Voorburgwal ห่างจาก Begijnhof เพียง 2 นาที ที่นี่บอกเล่าข้อมูลเชิงลึกทางประวัติศาสตร์และการพัฒนาเมืองจนทำให้อัมสเตอร์ดัมกลายมาเป็นเมืองหลวงที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปไว้ได้อย่างน่าสนใจ
ภายในยังรวบรวมเล็กชันและของสะสมของพิพิธภัณฑ์ที่ประกอบด้วยวัตถุประมาณ 80,000 ชิ้น และการจัดแสดงนิทรรศการถาวรและนิทรรศการชั่วคราวที่มีการหมุนเวียนเป็นประจำเพื่อความหลากหลาย เหมาะสำหรับการเข้าชมทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ใช้เวลาประมาณ 1 ถึง 1.5 ชั่วโมง หากเข้าชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้แล้วจะทำให้เข้าใจประวัติศาสตร์และความเจริญของกรุงอัมสเตอร์ดัมมากยิ่งขึ้น และนั้นถึงแม้ว่าจะกลายมาเป็นเมืองหลวงแห่งเสรีภาพแล้ว แต่เชื่อว่าอัมสเตอร์ดัมยังคงไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนาเมืองให้ก้าวไปถึงขีดสุดในหลาย ๆ ด้าน
ข้อมูลเข้าชมพิพิธภัณฑ์อัมสเตอร์ดัม
- ที่อยู่: Kalverstraat 92, 1012 PH Amsterdam
- เวลาเปิดทำการ: ทุกวัน เวลา 10:00-17:00 น.
- การเดินทาง: เดินจากสถานีรถไฟ Amsterdam Centraal ใช้เวลาประมาณ 17 นาที หรือนั่งรถรางของ GVB สาย 2 หรือ 12 จากสถานีรถราง Amsterdam Centraal Station (Westzijde) ไปลงที่สถานี Dam/Paleisstraat แล้วเดินต่ออีก 3 นาทีไปยังพิพิธภัณฑ์ Amsterdam Museum ค่าโดยสาร 16 ยูโร (สำหรับการเดินทางเที่ยวเดียว)
- ราคาตั๋วเข้าชมราคา 18 ยูโร
- จองตั๋วออนไลน์ก่อนเข้าชมได้ที่: Amsterdam Museum Ticket
20. เดินเที่ยวย่านยอร์ดาน (Jordaan District)

ยอร์ดานเป็นย่านเพื่อนบ้านของอัมสเตอร์ดัม ตั้งอยู่ห่างจากดัมสแควร์เพียงแค่ 15 นาที ที่นี่มีชื่อเสียงในเรื่องของบ้านที่มีรูปลักษณ์สวยงาม ร้านอาหารบรรยากาศดี และร้านค้าดั้งเดิมที่มีสินค้าคุณภาพดีขายเยอะเลย คุณสามารถเดินเล่นไปตามลำคลองและถนนสายเล็ก ๆ ที่เชื่อมต่อกัน ที่นั่นมีมุมสำหรับถ่ายภาพสวย ๆ แบบนับถ้วน ยอร์ดานยังมีถนนยอดนิยม ได้แก่ ถนน Prinsengracht, Westerstraat, Haarlemmerstraat และถนนเก้าสาย ‘9 straatjes’ (The Nine Streets) บนถนน Prinsengracht คุณยังสามารถมองเห็นโบสถ์ Westerkerk ซึ่งเป็นที่ฝั่งศพของแร็มบรันต์ (Rembrandt) ศิลปินผู้มีชื่อเสียงก้องโลก และถัดไปสามารถมองเห็นบ้านแอนน์แฟรงค์ (Anne Frank) ที่ใช้เป็นสถานที่หลบซ่อนตัวในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
21. ชมโบสถ์คริสตจักรโปรเตสแตนต์ (Westerkerk)

Westerkerk เป็นคริสตจักรโปรเตสแตนต์หลักของอัมสเตอร์ดัม สร้างขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1620 ตั้งตระหง่านอยู่ทางตะวันตกของคลองสี่สาย (Canal Belt) ใกล้ย่านยอร์ดาน ด้านข้างโบสถ์คุณสามารถมองเห็นหอคอย Westertoren ความสูง 85 เมตร พร้อมระฆังและหน้าปัดเวลา หอคอย Westertoren ยังถูกกล่าวในไดอารี่ของแอนน์แฟรงค์หลายครั้ง เมื่อเธอถูกปลุกด้วยนาฬิกาจากหอคอยและยังไม่ชินกับเสียงนาฬิกาที่ดังทุก ๆ สิบห้านาที
22. เยือนคลองสี่สายในกรุงอัมสเตอร์ดัม (Amsterdam Canal Belt)

Amsterdam Canal Belt เป็นคลองสี่สายที่ประกอบกันเป็นคลองชั้นในในกรุงอัมสเตอร์ดัม ได้แก่ Singel, Herengracht, Keizersgracht และ Prinsengracht รู้จักกันดีในภาษาดัตช์ว่า “Grachtengordel” ลำคลองในอัมสเตอร์นอกจากจะมีความสวยงามแล้วยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกเมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2553 บ้านริมคลองหลายหลังก็สร้างขึ้นช่วงยุคทองของดัตช์ศตวรรษที่ 17 หากคุณตัดสินใจที่จะเดินเล่นไปตามรอบ ๆ ลำคลองอัมสเตอร์ดัมแล้วไม่เพียงแต่จะได้สัมผัสความงดงามของบ้านเรือนเหล่านั้น แต่ยังสามารถมองเห็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์หลายแห่งที่มีสถาปัตยกรรมงดงามสะท้อนความเป็นอัมสเตอร์ดัมได้อย่างลงตัว

23. ถ่ายภาพหอคอย Westertoren บนสะพาน Hilletjesbrug

รู้หรือไม่ว่าเมื่อเดินเข้ามาในถนน Eerste Leliedwarsstraat ย่านยอร์ดานประมาณ 3 นาทีคุณจะพบกับสะพาน Hilletjesbrug ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างคลอง Egelantiersgracht และถนน Eerste Leliedwarsstraat เมื่อมองกลับไปจะพบกับมุมที่สวยงามสำหรับถ่ายภาพหอคอย Westertoren ที่ตั้งเด่นสง่าเป็นพระเอกของงาน บนสะพาน Hilletjesbrug ยังมีมุมสำหรับถ่ายภาพในลำคลองที่สวยงามเช่นกัน
24. เดินเล่นและชอปปิงสินค้าวินเทจที่ถนนเก้าสาย (De Negen Straatjes)

ถนนเก้าสาย (The Nine Streets) เป็นย่านเล็ก ๆ อยู่ติดกับย่านยอร์ดานและห่างจากพระราชวังหลวงอัมสเตอร์ดัมไม่กี่นาที ชื่อของถนนสายนี้เป็นที่รู้จักกันดีในภาษาดัตช์ว่า ‘De Negen Straatjes’ มาจากจำนวนถนนสายแคบ ๆ ซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านค้าแนววินเทจจำนวน 9 สายได้แก่ Wijde-Heisteeg, Huidenstraat , Runstraat, Berenstraat, Wolvenstraat, Oude Spiegelstraat, Gasthuismolensteeg, Hartenstraat และ Reestraat ถนนเหล่านี้ตั้งอยู่ระหว่างคลอง 4 สาย ได้แก่ Singel, Herengracht, Keizersgracht และ Prinsengracht รวมกับเป็นลำคลองที่มีชื่อเสียงในภาษาดัตช์ว่า “Grachtengordel” (Amsterdam Canal Belt)
ย่านถนนเก้าสายเต็มไปด้วยร้านค้าแนววินเทจ ออกแบบโดยดีไซเนอร์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ขายสินค้าแฟชั่นประเภทเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋าวินเทจ ของเก่าและของใช้ในบ้าน ที่นี่จึงเรียกได้ว่าเป็นแหล่งชอปปิงสุดฮิปที่เต็มไปด้วยดีเทลเล็ก ๆ อย่างน่าสนใจ ใครที่สนใจมาเดินชอปปิงย่านนี้ลองค้นหาร้านค้าเพิ่มเติมไว้ก่อนได้ที่ The Nine Streets
25. ชิมชีสที่พิพิธภัณฑ์ชีสอัมสเตอร์ดัม (Amsterdam Cheese Museum)

Amsterdam Cheese Museum เป็นร้านขายชีสเล็ก ๆ ที่ถูกออกแบบผสมกับพิพิธภัณฑ์เพื่อบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับชีสให้กับผู้ที่สนใจ ที่นี่ตั้งอยู่ที่ Prinsengracht 112 ในย่านยอร์ดานถัดจากพิพิธภัณฑ์บ้านแอนน์แฟรงค์เพียง 2 นาที ถ้าคุณเดินเข้าไปในร้านจะพบกับชีสหลายชนิดที่จัดเรียงไว้เป็นหมวดหมู่อย่างสวยงาม คุณสามารถชิมชีสเพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อได้ ที่นี่ยังขายของฝากแบบน่ารักอีกหลายประเภทรวมไปถึงขนมสโตรปวาเฟิลชื่อดัง ถ้าคุณเดินต่อลงไปยังชั้นใต้ดินจะพบกับพิพิธภัณฑ์ชีสที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับชีสไว้หลายด้าน ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์เล็ก ๆ ถ้าคุณมาเที่ยวย่านยอร์ดานและมีเวลาเหลือประมาณ 20-30 นาที นั่นเพียงพอที่คุณจะแวะมาเที่ยวที่นี่
ข้อมูลพิพิธภัณฑ์ชีสอัมสเตอร์ดัม
- ที่อยู่: Prinsengracht 112, 1015 EA Amsterdam
- เวลาเปิดทำการ: ทุกวัน เวลา 10:00-19:00 น.
- การเดินทาง: นั่งรถรางสาย 12 จากสถานี Amsterdam Centraal ประมาณ 5 นาที มาลงที่สถานี Dam Square จากนั้นเดินต่ออีก 8 นาทีไปยังพิพิธภัณฑ์ชีสอัมสเตอร์ดัม ร้านจะอยู่ฝั่งซ้ายมือบนถนน Prinsengracht
26. เดินเล่นต่อที่ลำคลอง Prinsengracht

Prinsengracht เป็นคลองที่สี่ที่ยาวที่สุดและอยู่นอกสุดของอัมสเตอร์ดัม ได้รับการตั้งชื่อตามเจ้าชายวิลเลียมแห่งราชวงศ์ออเรนจ์ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องการต่อต้านชาวสเปน คลอง Prinsengracht เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์แอนน์แฟรงค์ และโบสถ์สมัยศตวรรษที่ 17 Westerkerk รวมไปถึงร้านค้าขนาดเล็กจำนวนมาก
27. ถ่ายรูปกับบ้านเรือนอัมสเตอร์ดัม

บ้านเรือนในกรุงอัมสเตอร์ดัมส่วนใหญ่สร้างขึ้นในยุคศตวรรษที่ 17 บางแห่งยังคงความสวยงามและตกทอดมาผู้คนรุ่นหลังจนทุกวันนี้ บางแห่งเสียหายจากช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง มีการสร้างและปรับปรุงโดยเหลือเค้าโครงในอดีตไว้ อย่างไรก็ตามทั่วทุกมุมในกรุงอัมสเตอร์ดัมไม่ว่าจะเดินไปที่ไหนคุณจะพบกับบ้านเรือนที่มีรูปทรงแปลกตาสวยงาม และไม่ควรพลาดที่จะเก็บภาพความสวยงามเหล่านั้นไว้
28. ถ่ายรูปกับริมคลองที่อัมสเตอร์ดัม

ลำคลองในอัมสเตอร์ดัมไม่เพียงแต่มีความสวยงาม แต่ยังบอกเล่าถึงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ในสมัยก่อน ส่วนมากถูกสร้างให้ขนานไปกับบ้านเรือนตามการออกแบบผังเมืองที่มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย บนสะพานมีการประดับด้วยดอกไม้ บ้างก็เต็มไปด้วยจักรยานจอดอยู่เรียงรายอยู่จำนวนมาก หากถ่ายภาพบนสะพานที่นี่จะเห็นลำคลองที่ทอดยาวโดยมีฉากหลังบ้านเรือนและสถานที่สำคัญในกรุงอัมสเตอร์ดัม
29. ปิคนิคที่สวนสาธารณะ Vondelpark

ในกรุงอัมสเตอร์ดัมนอกจากจะมีลำคลองและบ้านเรือนที่สวยงามแล้ว ยังมีพื้นที่สีเขียวตามสวนสาธารณะหลายแห่ง เหมาะสำหรับการพักผ่อนปิคนิคกับกลุ่มเพื่อน ‘Vondelpark’ เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่รู้จักกันดีในอัมสเตอร์ดัม ภายในมีบรรยากาศร่มรื่นเหมาะสำหรับการพักผ่อนหรือใช้เวลาในวันหยุดสบาย ๆ คุณสามารถเตรียมน้ำดื่มและขนมมารับประทานที่นี่ได้ ด้านหน้าทางเข้ามีที่สำหรับจอดรถจักรยาน ส่วนด้านในก็มีห้องน้ำให้บริการฟรี (สำหรับความสะอาดนั้นอาจขึ้นอยู่กับคนจำนวนมากที่ใช้งาน)
30. เดินเที่ยวตลาดดอกไม้บลูเมนมาร์ค (Bloemenmarkt)

Bloemenmarkt เป็นตลาดดอกไม้ที่มีชื่อเสียงในอัมเตอร์ดัม ตั้งอยู่ใจกลางเมืองห่างจากย่านดัมสแควร์เพียง 7 นาที วิธีการเดินทางที่สะดวกที่สุดคือการเดินมาที่นี่ จุดเด่นของตลาดดอกไม้บลูเมนมาร์คคือเป็นสถานที่รวบรวมดอกไม้นานาพันธุ์ที่บรรจุอยู่ในซองพร้อมนำไปปลูก ที่นี่คุณยังสามารถหาซื้อดอกไม้สด ดอกไม้ทำมือสำหรับนำไปประดับตกแต่งห้อง รวมไปถึงของฝากจากอัมสเตอร์ดัมที่มีอยู่เยอะเลยทีเดียว นอกจากนี้คุณยังสามารถหามุมถ่ายภาพที่สวยงามและมักพบในอินสตราแกรมได้ที่ร้านหัวมุมติดกับถนน Muntplein ใกล้กับตลาดบลูเมนมาร์คติดกับหอคอย Munttoren ก็มีร้านขายเครื่องปั้นดินเผาและเครื่องเคลือบกระเบื้องสีฟ้า ไปเดินเที่ยวที่นี่แล้วรับรองได้เลยว่าคุณจะได้ของฝากกลับบ้านไปแบบเต็มไม้เต็มมือ
31. แวะไปถ่ายภาพกับสะพาน Skinny Bridge

Skinny Bridge หรือในภาษาดัตช์เรียกว่า Magere Brug เป็นสะพานที่มีรูปทรงแปลกตา ตั้งอยู่ระหว่างถนน Keizersgracht และ Prinsengracht ใช้สำหรับเป็นเส้นทางเดินเท้าและเส้นทางจักรยานข้ามแม่น้ำ Amstel ตัวสะพานสร้างขึ้นครั้งแรกในปี 1691 ต่อมาได้มีการปรับปรุงและซ่อมแซ่มแทนสะพานเก่าที่พังยับเยินจนมีรูปร่างอย่างที่เห็นในปัจจุบัน ตัวสะพานทาด้วยสีขาว ส่วนใต้สะพานมีความกว้างเพียงพอที่เรือนำเที่ยวสามารถลอดผ่านไปได้ ตอนกลางคืนที่นี่จะสวยงามเป็นพิเศษด้วยไฟประดับมากถึง 1,200 ดวง สะพานนี้ยังปรากฎอยู่ในภาพยนตร์หลายเรื่อง รวมไปถึงภาพยนตร์เจมส์บอนด์ “Diamonds Are Forever” ในปี 1971 ซึ่งเล่าถึงตำนานของสะพานที่สร้างขึ้นโดยไกด์นำเที่ยวทางเรือ คุณสามารถเดินไปถ่ายภาพกับสะพานนี้ได้ภายใน 13 นาทีจากตลาดดอกไม้บลูเมนมาร์ค
32. เดินตลาดวินเทจ Waterlooplein Market

Waterlooplein Market เป็นตลาดแนววินเทจขนาดใหญ่ตั้งแต่ปี 1885 ตั้งอยู่ที่ Waterlooplein 2 ห่างจากสถานีรถไฟใต้ดิน Waterlooplein เพียง 1 นาที ที่นี่คุณจะพบกับแผงลอยขายสินค้ามากกว่า 300 ร้านซึ่งรวบรวมสินค้าหลากหลายประเภท เช่น เสื้อผ้ามือสอง หนังสือมือสอง สร้อย แหวน กำไลข้อมือ เครื่องใช้ไฟฟ้า ไปจนถึงวัตถุโบราณ และของกระจุกกระจิกทั่วไป ตลาดเปิดวันจันทร์ถึงวันเสาร์ เวลา 09:00-17:30 น. ถ้าคุณตัดสินใจแวะไปที่นี่ยังสามารถหาอาหารราคาถูกรับประทานได้ง่าย ด้านข้างของตลาดยังมีร้านเช่าจักรยานจำนวนมากอีกด้วย
33. เที่ยวย่าน Museumplein

Museumplein เป็นย่านที่ต้องมาให้ได้เพราะรวมพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงของอัมสเตอร์ดัมไว้หลายแห่ง เช่น พิพิธภัณฑ์แห่งชาติอัมสเตอร์ดัม พิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะห์ และพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัย (Stedelijk Museum) ในช่วงฤดูหนาวที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของลานสเก็ตสำหรับงาน ICE* Amsterdam ช่วงเดือนธันวาคม คุณยังสามารถพบร้านขายของฝากขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใกล้กับพิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะห์ (ด้านหน้าลานน้ำพุ) รวมไปถึงร้านอาหารจำนวนมาก ถ้าคุณมาที่นี่ในช่วงหน้าร้อนลานสนามหญ้าของ Museumplein จะเต็มไปด้วยผู้คนที่มาปิคนิคกันอย่างหนาแน่น
34. เล่นสเก็ตที่งาน ICE Amsterdam

ในช่วงฤดูหนาวมีอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจในกรุงอัมสเตอร์ดัมนั้นก็คือ ICE Amsterdam ตั้งอยู่ในย่าน Museumplein จัดขึ้นประมาณกลางเดือนพฤศจิกายนถึงสิ้นเดือนธันวาคมของทุกปี ซึ่งมีพื้นที่ลานสเก็ตขนาดใหญ่ที่เปิดให้ผู้คนสามารถเข้ามาเล่นสเก็ตได้อย่างสนุกสนาน มีร้านค้าจำหน่ายสินค้าและอาหาร ดื่มด่ำกับบรรยากาศในฤดูหนาวและเทศกาลคริสต์มาส ใครที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมช่วงฤดูหนาวสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านเว็บไซต์ทางการของ ICE Amsterdam
35. แวะไปย่านฮิป De Pijp

De Pijp เป็นย่านของผู้คนสมัยใหม่ (คล้ายกับสยามบ้านเรา) อยู่ห่างจาก Museumplein เพียง 13 นาที คุณสามารถนั่งรถรางสาย 12 จากป้าย Concertgebouw มาลงที่ป้าย De Pijp ที่นี่คุณจะพบกับร้านอาหารสมัยใหม่ ผับและคาเฟ่แบบดั้งเดิม รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของอัมสเตอร์ดัม เช่น ตลาด Albert Cuyp Market, โรงเบียร์ไฮเนเก้น (Heineken Experience) และสวนสาธารณะ Sarphatipark ที่นี่ยังตั้งอยู่ใน Oud-Zuid ซึ่งเป็นหนึ่งในย่านที่มั่งคั่งที่สุดของอัมสเตอร์ดัม ถ้าคุณตัดสินใจแวะมาเที่ยวที่นี่จะพบกับบรรยากาศการใช้ชีวิตที่แตกต่างจากในตัวเมืองมากทีเดียว
36. เดินตลาดดัตช์ Albert Cuyp Market

Albert Cuyp Market เป็นตลาดที่มีชื่อเสียงในอัมสเตอร์ดัม ตั้งอยู่ในย่าน De Pijp ที่นี่เหมาะสำหรับการเดินชมบรรยากาศตลาดดัตช์ (คล้ายกับตลาดนัดบ้านเรา) มีสินค้าให้เลือกซื้อหลายประเภท เช่น เสื้อผ้ามือสอง ของใช้ในครัวเรือน ดอกไม้ อาหารทะเลสด ขนมและช็อกโกแลต ฯลฯ คุณยังสามารถหาขนมสโตรปวาเฟิลหรือปลาเฮร์ริงทานได้ที่นี่อีกด้วย พวกเขาทำสดใหม่จากเตาและที่สำคัญราคาไม่แพง ที่นี่ยังขายของฝากหลายประเภท รวมไปถึงสร้อยและกำไลทำมือ และสินค้าชิ้นเล็ก ๆ น่ารักแบบกรุบกริบ และนั่นก็เป็นความคิดที่ดีไม่น้อยถ้าคุณจะจะไปเดินตลาดนี้เพื่อหาอาหารเช้าราคาถูกรับประทานก่อนออกเดินเที่ยวอัมสเตอร์ดัม
ข้อมูลตลาดดัตช์ Albert Cuyp Market
- ที่อยู่: Albert Cuypstraat, 1073 BD Amsterdam
- เวลาเปิดทำการ: วันจันทร์ถึงเสาร์ เวลา 09:00-17:00 น.
- การเดินทาง: เดินจากพิพิธภัณฑ์แห่งชาติอัมสเตอร์ดัมเพียง 11 นาที หรือนั่งรถรางสาย 12 จากสถานี Concertgebouw ประมาณ 4 นาที มาลงที่สถานี De Pijp จากนั้นเดินต่ออีก 6 นาทีจะเจอกับตลาดตั้งอยู่ทางขวามือ
37. ลิ้มลองขนมสโตรปวาเฟิล (Stroopwafel)

ขนมสโตรปวาเฟิลเป็นหนึ่งในขนมดัตช์ชื่อดัง ทำจากแป้งบาง ๆ สองชั้นประกบเข้าด้วยกัน นิยมรับประทานแบบเดี่ยว หรือราดด้วยซอสคาราเมลร้อน ๆ จุดกำเนิดของขนมสโตรปวาเฟิลเริ่มต้นขึ้นที่เมืองเกาดา (Gouda) จังหวัดเซาท์ฮอลแลนด์ ก่อนที่จะแพร่หลายและได้รับความนิยมไปทั่วประเทศ คุณสามารถลิ้มลองขนมสโตรปวาเฟิลได้ตามตลาดนัดดัตช์ เช่น ตลาด Albert Cuyp Market มีจำหน่ายแบบทำร้อน ๆ จากเตา ราคาชิ้นละ 2.50 ยูโร มาพร้อมท็อปปิ้งให้เลือกตามความชอบ เช่น ซอสราคาเมล นูเทลร่า หรือช็อกโกแลต หากคุณอยากได้เป็นของฝากกลับบ้านที่นี่ก็มีจำหน่ายแบบถุงขนาดเล็ก ราคา 2.50 ยูโร นอกจากนี้คุณยังสามารถหาหาซื้อขนมสโตรปวาเฟิลได้ตามร้านซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป รวมไปถึงร้านขายของฝากในอัมสเตอร์ดัม
38. ลิ้มลองปลาเฮร์ริง (Haring Fish)
ปลาเฮร์ริง (Haring Fish) เป็นปลาชนิดหนึ่งที่ชาวดัตช์นิยมรับประทานสดพร้อมกับหัวหอมซอย รสชาติคล้ายปลาส้มบ้านเรา วิธีการรับประทานปลาเฮร์ริงตามแบบฉบับชาวดัตช์ต้องยกตัวปลาขึ้นพร้อมกับอ้าปาก และค่อย ๆ ปล่อยปลาลงมาที่ปากเรา ถ้าใครรู้สึกว่ากลิ่นแรงไปไม่ไหมลองทานคู่กับหอมซอยช่วยดับกลิ่นได้ดี คุณสามารถหาซื้อปลาเฮร์ริงทานได้ตามตามร้านขายอาหารสด บาร์ขายปลาเฮร์ริง ซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป รวมไปถึงแผงขายอาหารสดตามตลาดนัด
39. Blond Amsterdam นั่งคาเฟ่และร้านขายของขวัญสาวผมบลอนด์

บลอนด์อัมสเตอร์ดัมเป็นคาเฟ่ขนาดเล็กตกแต่งด้วยสีชมพูเกือบทั้งหมด ตั้งอยู่ห่างจากตลาด Albert Cuyp Market เพียง 4 นาที ที่นี่เกิดจากความตั้งใจของเพื่อนชาวดัตช์ผมบลอนด์สองคน คือ Femque และ Janneke พวกเธอทำของขวัญภายใต้ชื่อ Blond Amsterdam โดยใช้ภาพวาดสาวผมบลอนด์ที่มีสีสันฉูดฉาด รวมไปถึงข้อความตลกน่ารักลงบนผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น แก้วน้ำ ที่รองแก้วน้ำ กาน้ำชา ไปจนถึงการ์ดอวยพร อุปกรณ์การเรียน ผ้ากันเปื้อน เคสโทรศัพท์มือถือและอื่น ๆ อีกมากมาย ด้วยความที่ผลงานเหล่านี้มีความน่ารักเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองทำให้ได้รับการตอบรับที่ดีจนมีชื่อเสียง และมันก็เหมาะมาก ๆ ที่จะซื้อเป็นของฝากแบบใช้งานได้จริง คุณสามารถแวะไปเยี่ยมสตูดิโอสีชมพูของพวกเธอในอัมสเตอร์ได้ที่ Ferdinand Bolstraat 44 ที่นั่นยังเปิดเป็นคาเฟ่สำหรับแวะพักทานขนมและเครื่องดื่มและร้านขายของขวัญในเวลาเดียวกัน
ข้อมูลคาเฟ่บลอนด์อัมสเตอร์ดัม
- ร้านตั้งอยู่ที่: Ferdinand Bolstraat 44, 1072LL Amsterdam
- เวลาเปิดทำการ: วันอังคารถึงวันเสาร์ เวลา 10:00-17:00 น.
- การเดินทาง: รถไฟใต้ดินหรือรถรางสถานี De Pijp จากนั้นเดินอีก 4 นาที
40. เดินเล่นที่ย่าน Leidseplein

Leidseplein เป็นจัตุรัสที่มีชื่อเสียงอีกหนึ่งแห่งของอัมสเตอร์ดัม ตั้งอยู่วงแหวนรอบนอกของคลองสี่สาย ที่นี่เป็นแหล่งรวมสถานบันเทิงสุดครึกครื้นยามค่ำคืนจำนวนมาก รวมไปถึงโรงภาพยนตร์ โรงละคร ร้านอาหารและคาสิโน ถ้าคุณแวะไปที่นี่จะได้สัมผัสบรรยากาศการเที่ยวกลางคืนมีสีสันไม่แพ้ย่านอื่น ๆ เลยทีเดียว ในช่วงฤดูร้อนที่นี่ยังเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวและผู้คนในท้องถิ่นที่ออกมาเที่ยวนอกบ้าน ระเบียงด้านนอกของคาเฟ่และร้านอาหารบริเวณนี้ถูกจับจองไปด้วยจำนวนผู้คนที่หนาแน่น เป็นอีกย่านหนึ่งที่คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศความมีชีวิตชีวาอย่างเต็มอิ่ม
41. ปั่นจักรยานชมธรรมชาติที่เมือง Ouderkerk aan de Amstel

หลายคนก่อนมาเที่ยวอัมสเตอร์ดัมอาจจะยังติดภาพบ้านเรือนที่มีรูปทรงแปลกตาและสร้างติดกัน พร้อมบรรยากาศการใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยจักรยาน รวมถึงลำคลองที่ประดับดอกไม้ มองไปมุมไหนก็ดูน่ารักไปหมด ในความเป็นจริงแล้วสิ่งที่กล่าวมาอาจจะไม่ได้มีให้เห็นไปหมดซะทีเดียว ถ้าคุณลองปั่นจักรยานไปยังนอกเมืองอัมสเตอร์ดัม คุณจะพบกับภาพบรรยากาศที่แตกต่าง ซึ่งส่วนใหญ่เน้นไปทางพื้นที่ธรรมชาติและการเกษตร
Ouderkerk aan de Amstel เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่อยู่ห่างจากอัมสเตอร์ดัมเพียงครึ่งชั่วโมง ที่นี่เหมาะสำหรับเป็นเส้นทางปั่นจักรยานและชมบ้านเรือนรอบนอกอัมสเตอร์ดัม เพราะเต็มไปด้วยบ้านเรือนที่สร้างแบบไม่ได้อยู่ติดกัน คุณยังสามารถเห็นโรงเรือนขนาดใหญ่สำหรับเลี้ยงสัตว์และพืชผลทางการเกษตร รายล้อมด้วยทุ่งหญ้าสีเขียว และลำคลองตามธรรมชาติซึ่งมีเรือขนาดเล็กจอดอยู่ประปราย
ชาวดัตช์ส่งออกพืชผักและดอกไม้เป็นอันดับต้นๆ ของโลก ทั่วทุกพื้นที่ในประเทศเนเธอร์แลนด์จึงมีทุ่งสีเขียวขนาดใหญ่สำหรับทำการเกษตร และโรงเรือนเพาะชำ (Green House) สำหรับปลูกพืชผักหน้าร้อนโดยเฉพาะ พื้นที่ในประเทศเนเธอร์แลนด์กว่าครึ่งยังมีระดับต่ำกว่าระดับน้ำทะเล ทำให้บ้านเมืองที่นี่จึงอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล อีกอย่างเมื่อชาวดัตช์เริ่มต้นสร้างครอบครัวพวกเขามักจะย้ายไปอยู่เมืองเล็ก ๆ โดยรอบอัมสเตอร์ดัม หรือเมืองที่มีพื้นที่ไม่แออัด เหมาะสมสำหรับการเติบโตเด็ก ๆ เมืองเล็ก ๆ รอบกรุงอัมสเตอร์ดัมจึงเต็มไปบ้านเรือนขยายที่พร้อมสำหรับการสร้างครอบครัว รวมถึงธรรมชาติที่มองแล้วแตกต่างจากกรุงอัมสเตอร์ดัม ที่สำคัญค่าครองชีพมีราคาไม่แพงเมื่อเทียบเท่ากับการอาศัยอยู่ใจกลางเมืองที่ค่อนข้างแออัด
42. ชมดอกซากุระบานที่สวนสาธารณะ Bloesempark

มาเที่ยวอัมสเตอร์ดัมก็มีดอกซากุระให้เห็น ใช่แล้วค่ะฟังไม่ผิด! สำหรับใครที่มาเที่ยวอัมสเตอร์ระหว่างช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายนมีโอกาสที่จะได้เห็นดอกซากุระบานสะพรั่ง ตามสถานที่หลายแห่งคุณสามารถแวะไปชมความสวยงามของดอกซากุระได้ เช่น สวนสาธารณะ Bloesempark ที่นั่นมีต้นซากุระมากถึง 400 ต้น เมื่อดอกซากุระบานมันจะกลายเป็นสถานที่ดีสำหรับเก็บภาพดอกซากุระสวย ๆ ที่นอกเมืองอัมสเตอร์ดัมอย่าง Ouderkerk aan de Amstel ถ้าคุณปั่นจักรยานไปเที่ยวแถวนั่นจะเห็นดอกซากุระบานสะพรั่งเป็นช่วง ๆ ชาวดัตช์นิยมปลูกต้นซากุระไว้ที่สวนหน้าบาน เมื่อถึงฤดูกาลดอกซากุระบานมันจะกลายมาเป็นภาพสีชมพูที่น่ารักเลยทีเดียว
43. แวะทานอาหารที่ Food Hallen

สถานที่ที่เหมาะสำหรับทานอาหารหลังจากเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวันนอกจากจะเป็นตลาดดัตช์และร้านอาหารทั่วไปแล้ว ยังมีศูนย์อาหารอีกที่หนึ่ง นั่นก็คือ ‘Food Hallen’ ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเพียง 15 นาที ที่นี่ตั้งอยู่ในศูนย์วัฒนธรรม De Hallen ในอดีตเคยเป็นสถานีรถไฟเก่าย่าน Oud-West ต่อมาไม่ได้ใช้งานและได้มีการปรับปรุงพัฒนาจนกลายมาเป็นสถานที่พบปะที่มีชื่อเสียงของผู้คนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวพร้อมเปิดให้บริการในเดือนกันยายน ปี 2014
ภายใน Food Hallen มีบูทร้านอาหารเล็ก ๆ จำนวนมากที่มาพร้อมอาหารหลากหลายสไตล์ให้คุณเลือกซื้อทาน วันศุกร์ที่นี่จะมีบรรยากาศที่สนุกสนานพร้อมความมีชีวิตชีวาเป็นพิเศษ คุณยังสามารถพบกับร้านขายของฝากที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ร้านขายกางเกงยีนส์ที่โชว์ให้เห็นกระบวนการทำแบบเปิดเผย รวมไปถึงห้องสมุดสำหรับอ่านหนังสือ และโรงภาพยนตร์ขนาดเล็กที่ฉายภาพยนตร์สวนกระแส (และในกระแส) ถ้าคุณเดินต่อไปทางด้านหลังของ De Hallen จะพบกับตลาดดัตช์ขนาดเล็ก “Ten Katemarkt” เหมาะสำหรับการเลือกซื้อผักสด ผลไม้ และอาหารในราคาไม่แพง เปิดให้บริการวันจันทร์ถึงเสาร์ เวลา 09:00-18:00 น.
ข้อมูล Food Hallen
- ร้านตั้งอยู่ที่: Bellamyplein 51, 1053 AT Amsterdam
- เวลาเปิดทำการ: ทุกวัน เวลา 07:00-22:00 น.
- การเดินทาง: นั่งรถรางสาย 13 จากสถานี Amsterdam Centraal ประมาณ 9 นาที มาลงที่ป้าย Bilderdijkstraat จากนั้นเดินอีก 7 นาทีจะเห็น De Hallen ตั้งอยู่ทางขวามือ
44. ดื่มเบียร์สดที่ Brouwerij-‘t-IJ

ที่อัมสเตอร์ดัมไม่ได้มีแค่เบียร์ Heineken ที่มีชื่อเสียงเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีเบียร์อีกหลายยี่ห้อที่คุณควรลิ้มลอง เช่น Bavaria Beer, Grolsch Beer, Amstel, La Trappe, Arcense Bierbrouwerij, Brouwerij’t IJ, Brouwerij De Molen เวลาดื่มเบียร์คนที่นี่มักจะมีเครื่องเคียงทานคู่กัน เช่น Bitterballen
Brouwerij’t IJ เป็นโรงเบียร์ขนาดเล็กในกรุงอัมสเตอร์ดัม ตั้งอยู่ในโรงสีขนาดใหญ่เด่นสง่าด้วยกังหันลม ความพิเศษของที่นี่คือเขาก่อตั้งขึ้นในปี 1985 เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ที่สนใจดื่มเบียร์แบรนด์ท้องถิ่น และนั่นก็ทำให้พวกเขากลายมาเป็นโรงเบียร์ท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงในอัมสเตอร์ดัม คุณสามารถแวะไปลิ้มลองเบียร์สดได้ที่นี่
ด้านในเปิดเป็นผับพร้อมระเบียงกลางแจ้ง มีบรรยากาศที่ดี ถ้ามาในช่วงหน้าร้อนระเบียงด้านนอกจะเต็มไปด้วยผู้คนที่แน่นขนัด ถ้าอยากไปแวะไปแนะนำให้จองโต๊ะล่วงหน้า โรงเบียร์เปิดวันจันทร์ถึงวันพฤหัสบดี เวลา 14:00-20:00 น. ส่วนวันศุกร์ถึงวันอาทิตย์ เวลา 12:00-20:00 น. เดินทางสะดวกด้วยรถรางสาย 14 จากสถานี Amsterdam Centraal ไปลงที่ป้าย Pontanusstraat จากนั้นเดินอีก 1 นาที โรงเบียร์จะอยู่ทางขวามือ
เบียร์ Brouwerij’t IJ และบางยี่ห้อที่กล่าวไปข้างต้นยังมีจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไปด้วยนะคะ ใครที่ดื่มแล้วชอบก็ไปหาซื้อดื่มต่อกันได้ หรือถ้าอยากดื่มเบียร์ไม่มีแอลกอฮอล์ต้องลอง Radlers Citroen beer 0.0% ยี่ห้อที่ลองดื่มแล้วชอบมาก คือ Amstel มีขายในซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไปเช่นกัน
45. ดินเนอร์ที่ Moon Restaurant

Moon Restaurant ตั้งอยู่ที่ฝั่ง Amsterdam-Noord นั่งเรือข้ามฟากสาย F3 (เส้นทาง Centraal Station – Buiksloterweg) ไปได้เพียง 5 นาที จุดเด่นของที่นี่คือที่นั่งจะหันหน้าออกจากตึกและสามารถหมุนได้รอบด้านทำให้คุณเห็นวิวของอัมสเตอร์ดัมยามค่ำคืนแบบเต็มอิ่มไปเลย ถ้าคุณสนใจอย่าลืมจองโต๊ะก่อนนะคะ ที่นี่ยังอยู่ตึกเดียวกับ Amsterdam Lookout อีกด้วย
46. ชมวิวกรุงอัมสเตอร์ที่ Sky lounge Amsterdam
Sky lounge Amsterdam ตั้งอยู่ที่ชั้นบนสุดของ DoubleTree by Hilton สามารถเดินไปได้จากสถานี Amsterdam Central Station ประมาณ 10 นาที เมื่อถึงโรงแรมแล้วขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นบนสุด มีสองโซนให้เลือก คือ ด้านในเหมาะสำหรับทานอาหาร ดื่มชากาแฟ พร้อมบรรยากาศแบบผ่อนคลาย ส่วนด้านนอกเป็นพื้นที่เปิดโล่งไม่มีหลังคา เหมาะสำหรับทานอาหารและเครื่องดื่ม พร้อมชมวิวสวย ๆ ของกรุงอัมสเตอร์ดัมไปในตัว ที่นี่ไม่มีค่าธรรมเนียมในการเข้าใช้บริการ หากเป็นไปได้ควรจองโต๊ะล่วงหน้าก่อน นอกจากการทานอาหารระหว่างวันที่นี่ยังเหมาะสำหรับดินเนอร์และชมวิวสวย ๆ ของกรุงอัมสเตอร์ยามค่ำคืน
47. สังสรรค์ตามแบบฉบับชาวดัตช์ที่ Ton Ton Club
มาเที่ยวอัมสเตอร์ดัมทั้งทีอาจจะสัมผัสบรรยากาศการสังสรรค์ตามแบบฉบับชาวดัตช์ Ton Ton Club เป็นบาร์ที่จะให้ภาพบรรยากาศนั้นกับคุณ ที่นี่ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองเพียง 15 นาที ความพิเศษของที่นี่คือเป็นบาร์ที่รวบรวมร้านอาหารและตู้เกมส์ไว้ด้วยกัน ถ้าคุณเดินเข้าไปด้านในจะพบกับบาร์ที่ผู้คนนิยมมาสร้างสรรค์หลังเลิกงานหรือทานข้าวเย็นนอกบ้าน เดินต่อไปยังชั้นสองคุณจะพบกับพื้นที่ทานอาหารและตู้เกมส์แบบหยอดเหรียญจำนวนมาก คุณสามารถแลกเหรียญมาเล่นเกมส์เหล่านี้ได้ ที่นี่จึงเป็นอีกสถานที่ที่มีคู่รักหนุ่มสาวนิยมมาออกเดตกัน ถ้าวางแผนจะไปที่นี่อย่าลืมจองโต๊ะก่อนล่วงหน้า เพราะโต๊ะจะเต็มเร็วมาก
48. แวะซื้อของฝากที่ร้านขายของสุดน่ารัก (Dille & Kamille)

Dille & Kamille เป็นร้านค้าปลีกขายของสุดน่ารัก จำหน่ายสินค้าและอุปกรณ์ประเภทบ้านสวน อุปกรณ์สำหรับห้องครัว อุปกรณ์การทำอาหาร ถ้วยชาม ช้อนส้อม ถาดอบขนมปัง กระทะและตำราอาหารสำหรับปรุงอาหาร งานฝีมือผลิตภัณฑ์แบบดั้งเดิมและวัสดุจากธรรมชาติ เครื่องเขียน ชาและเครื่องเทศ สบู่และน้ำมันธรรมชาติ รวมถึงเทียนน้ำมันหอมและตะกร้าหวาย เรียกได้ว่าจำหน่ายสินค้าเกือบทุกอย่างภายในบ้านและครัวเรือน
เราได้มีโอกาสแวะไปที่นี่และค้นพบว่าเป็นอีกร้านค้าแห่งหนึ่งที่สามารถซื้อของฝากกลับไทยได้ สบู่ของที่นี่กลิ่นหอมมาก ๆ เราซื้อมาลองใช้หนึ่งก้อน สบู่ชาเขียวผสมน้ำมันมะกอก ก้อนละ 1.50 ยูโร สามารถใช้ล้างหน้าได้ด้วย เรานำมาวางในห้องน้ำ ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงหลังกลับเข้ามาในห้องน้ำกลิ่นหอมฟุ้งสบายจมูกมาก ๆ ร้านค้า Dille & Kamille มีสาขาตั้งอยู่เกือบทุกเมืองในประเทศเนเธอร์แลนด์
49. เที่ยวหมู่บ้านกังหันลม (Day trip to Zaanse Schans)

ไหน ๆ ก็มาเที่ยวที่กรุงอัมสเตอร์ดัมแล้ว ยังมีเมืองใกล้ ๆ ที่เราสามารถเดินทางไปเที่ยวได้แบบ Day trip หรือใช้เวลาที่นั้นประมาณ 2-3 ชั่วโมงได้ นั้นก็คือ หมู่บ้านกังหันลม Zaanse Schans และเมืองฮาร์เลม (Haarlem) การเดินทางไปหมู่บ้านกังหันลม Zaanse Schans ไม่ยากเลย สามารถขึ้นรถโดยสารประจำทางสาย 391 จากสถานี Amsterdam Centraal ใช้เวลาประมาณ 45 นาที รถบัสก็มาจอดที่สถานี Zaanse Schans จากนั้นเดินต่อประมาณสามนาทีก็ถึงหน้าทางเข้าหมู่บ้านกังหันลม ค่ารถเมล์ไปกลับรวม 7.8 ยูโร
ด้านหน้าทางเข้าขวามือเป็นพิพิธภัณฑ์ Zaanse สามารถซื้อตั๋วล่วงหน้าเช้าชมได้ที่เว็บไซต์ของพิพิธภัณฑ์ หรือที่เคาน์เตอร์บริการของพิพิธภัณฑ์ ภายพิพิธภัณฑ์ Zaanse จัดแสดงประวัติความเป็นมาของที่นี่ รวมถึงผลงานศิลปะ และมีโรงงานเครื่องจักรทำช็อกโกแลตให้เข้าชม (ซึ่งปัจจุบันไม่ได้ใช้งานแล้ว) ภายในยังจัดแสดงขนมและช็อกโกแลตหลากหลายชนิด มองแล้วอดทำให้อยากกินขนมขึ้นมาทันทีไม่ได้ ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงก็เดินชมพิพิธภัณฑ์จนทั่ว
สำหรับหมู่บ้านกังหันลมจะอยู่ฝั่งทางซ้ายมือ สถานที่แห่งนี้มีชื่อเสียงสำหรับนักท่องเที่ยวชาวเอเชียเป็นอย่างมาก เนื่องจากแปลกตา และไม่มีให้เห็นบ่อยนักในบ้านเรา และได้เห็นการใช้ชีวิตองผู้คนที่ไม่ได้อยู่ในตัวเมือง รวมถึงบรรยากาศของประเทศเนเธอร์แลนด์ในช่วงหน้าหนาว โดยรวมแล้วจึงไม่ผิดหวังที่เดินทางไปเที่ยวที่นี่ ภายในหมู่บ้านกังหันลมนอกจากจะมีกังหันที่ตั้งเรียงรายอยู่มากมายแล้ว ยังมีมีร้านขายของชำร่วย และของฝากต่าง ๆ ร้านร้านขายกาแฟ และช็อกโกแลตร้อน ๆ สำหรับใครที่วางแผนจะเดินทางมาเที่ยวสถานที่แห่งนี้ในช่วงฤดูหนาว ควรเตรียมหมวกและเสื้อแจ็ตเกตไปให้พร้อม ที่นี่เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ใช้เวลาเดินชมประมาณ 1-2 ชั่วโมงก็เดินจนทั่ว สำหรับใครที่ไม่สะดวกมาช่วงเช้า สามารถเดินทางมาช่วงบ่าย หรือเดินทางกลับเข้าเมืองในช่วงเย็นได้ พอตกค่ำบรรยากาศที่นี่ก็เริ่มมีแสงไฟดูสวยงามไปอีกแบบ
50. เที่ยวเมืองฮาร์เลม (Day trip to Haarlem)

ฮาร์เลมเป็นเมืองเพื่อนบ้านที่ห่างจากกรุงอัมสเตอร์ดัมประมาณครึ่งชั่วโมง เดินทางสะดวกทั้งรถไฟและรถโดยสารประจำทาง เป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีเสน่ห์ทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ มีสถานที่ท่องเที่ยวให้เข้าชมอย่างหลากหลาย ทั้งมหาวิหารกลางเมือง พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และศิลปะ พิพิธภัณฑ์กังหันลม สามารถขึ้นหอคอยมหาวิหารโดมไปชมความสวยงามเมืองฮาร์เลม หากมีเวลาเหลือก็สามารถเดินเล่นรอบเมืองชมบ้านเรือนที่มีรูปทรงสวยงามสะดุดตา หรือนั่งชมวิวภาพบรรยากาศการใช้ชีวิตของผู้คนที่นี่ริมแม่น้ำสปาร์เนอร์ หากมาเที่ยวในวันเสาร์ก็ยังได้แวะไปเดินเล่นที่ตลาดนัดประจำสัปดาห์ได้อีกด้วย สามารถอ่านรายละเอียดของการเดินทางท่องเที่ยวเมืองฮาร์เลมและรูปภาพเพิ่มเติมได้ที่ เดินเที่ยวเมืองฮาร์เลมเนเธอร์แลนด์ด้วยตัวเอง
สรุปสถานที่ท่องเที่ยวในอัมสเตอร์ดัม
สถานที่ท่องเที่ยวในอัมสเตอร์ดัม ที่กล่าวมาเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการท่องเที่ยวในกรุงอัมสเตอร์ดัม ยังมีอีกหลายสถานที่ที่น่าสนใจและเราอาจจะนำมาเพิ่มลงในบทความฉบับนี้ให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น หากคุณมีเวลาประมาณ 1-2 วันในอัมสเตอร์ดัม แนะนำให้เข้าชมพิพิธภัณฑ์สำคัญและสถานที่ทางประวัติศาสตร์ของที่นี่ก่อน พอตกตอนบ่ายค่อยเดินไปตามย่านต่าง ๆ นอกจากนี้การออกเดินเที่ยวชมเมืองตั้งแต่ตอนเช้าตรูเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดความแออัดของนักท่องเที่ยวที่ส่วนมากเริ่มออกเที่ยวช่วงสาย ๆ ในช่วงหน้าร้อนที่เนเธอร์แลนด์พระอาทิตย์จะตกช้าเป็นพิเศษ (ราว ๆ เวลาสี่ทุ่ม) นั้นทำให้มีเวลาเดินเที่ยวในเมืองเพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน
คำแนะนำในการท่องเที่ยวในกรุงอัมสเตอร์ดัม
- ควรจองตั๋วพิพิธภัณฑ์ก่อนเข้าชมล่วงหน้า เพื่อความมั่นใจว่าไปถึงแล้วจะได้เข้าชมอย่างแน่นอน
- เตรียมขวดน้ำสำหรับพกไปดื่มแก้กระหาย หรือกรอกน้ำดื่มฟรีจากสถานีบรรจุน้ำตามจุดต่าง ๆ
- ห้องน้ำสาธารณะตามสถานีรถไฟหรือจุดบริการต่าง ๆ มีค่าบริการเริ่มต้น 50 เซ็น
- ระมัดระวังไม่ยืนกีดขวางหรือเดินบนเส้นทางจักรยาน เพราะอาจถูกถึงเฉี่ยวชนได้
- ถึงแม้การเดินทางด้วยระบบสาธารณะในประเทศเนเธอร์แลนด์จะมีความตรงเวลาและสะดวกสบาย อย่างไรก็ตามควรเผื่อเวลาในการเดินทางประมาณ 1-2 ชั่วโมง เผื่อสำรองในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือเปลี่ยนแผนการท่องเที่ยว