บาร์เซโลนา (Barcelona) เป็นเมืองหลวงอันน่าหลงใหลของแคว้นคาตาโลเนีย ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสเปน และยังเป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ของโลกที่มีนักท่องเที่ยวต่างหลั่งไหลเข้ามาชื่นชมความสวยงามและพักผ่อนริมทะเลปีละหลายล้านคน บาร์เซโลนายังมีการผสมผสานระหว่างมรดกของชาวคาตาลันอันน่าภาคภูมิใจ และขึ้นชื่อในเรื่องของสถาปัตยกรรมกอทิกอายุหลายศตวรรษยืนหยัดกลมกลืนกับการออกแบบที่ล้ำสมัย ซึ่งปรากฏชัดในสถานที่สำคัญต่างๆ เช่น มหาวิหารซากราดาฟามีเลียและสวนปาร์กเกวย์ ที่ออกแบบโดยสถาปนิกผู้โด่งดัง “อันตอนี เกาดี”
แน่นอนว่าก่อนที่จะเดินทางไปสัมผัสความงดงามของเมืองด้วยตัวเอง เรามาทำความรู้จักเกี่ยวกับบาร์เซโลนากันให้มากขึ้นผ่านบทความฉบับนี้ ซึ่งรวมทุกอย่างที่ต้องรู้ก่อนไปเที่ยว ครอบคลุมถึงที่เที่ยวยอดนิยม กิจกรรมน่าทำ ย่านที่พักน่าสนใจ การเดินทางเข้าเมืองจากสนามบิน วิธีการใช้บริการขนส่งสาธารณะของเมือง แหล่งลิ้มรสอาหารสเปนแท้ ๆ ตลอดจนงบเที่ยวที่ต้องเตรียมไว้ และที่สำคัญยังรวมวิธีการซื้อตั๋วแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่ต้องจองล่วงหน้าแบบไม่ควรพพลาด
อ่านบทความนี้แล้วจะช่วยให้ได้ข้อมูลที่กระจ่างสำหรับวางแผนเที่ยวบาร์เซโลนาด้วยตัวเอง เพราะว่ามีเนื้อหาอัดแน่นจากประสบการณ์ตรงที่ตั้งใจเขียนเพื่อผู้อ่านทุกคนเหมือนเช่นเคย ไม่ว่าจะมาเที่ยวที่บาร์เซโลนาครั้งแรกหรือเคยมาเที่ยวแล้ว ก็สามารถนำเคล็ดลับจากบทความของเราไปใช้นำทางเที่ยวบาร์เซโลนาได้เช่นกัน
ใช้บัตรโดยสารโอล่าบาร์เซโลนาทราเวลการ์ด
เพื่อช่วยประหยัดค่าเดินทางในบาร์เซโลนานักท่องเที่ยวสามารถใช้บัตรโดยสาร Hola Barcelona Travel Card สำหรับเดินทางจากสนามบินเข้าเมือง บัตรนี้ยังสามารถใช้เดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะในบาร์เซโลนาได้ไม่จำกัดเที่ยว ตามระยะเวลา 2-5 วัน ครอบคลุมถึงรถโดยสารประจำทาง (TMB) รถไฟใต้ดิน รถราง รถไฟกระเช้าไฟฟ้ามองต์คูอิก และรถไฟโดยสารที่ดำเนินการโดย Renfe และ FGC ภายในโซน 1 สะดวกและคุ้มค่าแบบนี้ต้องมีไว้ติดตัวแล้วแหละ
ที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในบาร์เซโลนา
เที่ยวบาร์เซโลนาด้วยตัวเอง: มหาวิหารซากราดาฟามีเลีย (Sagrada Familia)
มาเยือนบาร์เซโลนาแล้วถ้าไม่ไปเข้าชมซากราดาฟามีเลียก็เหมือนมาไม่ถึงที่ เพราะว่ามหาวิหารแห่งนี้เป็นผลงานชิ้นเอกของสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ที่ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังชาวคาตาลัน “อันตอนี เกาดี” (Antoni Gaudí) และใช้เวลาการก่อสร้างนานเกินกว่า 100 ปี ตั้งแต่การเริ่มโครงการ ปี 1882 ปัจจุบันก็ยังอยู่ในช่วงการก่อสร้างหอคอยบางส่วน และด้วยความสวยงามสมคำล่ำลือต่างก็ดึงดูดนักท่องเที่ยวปีละหลายล้านคน
สิ่งที่น่าสนใจของซากราดาฟามีเลียคือส่วนหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ทั้งหมด 3 ส่วน คือ ด้านหน้าอาคารการประสูติ ด้านหน้าของความรัก และส่วนหน้าแห่งความรุ่งโรจน์ ด้านหน้าอาคารแต่ละหลังได้รับการตกแต่งอย่างวิจิตรงดงามด้วยประติมากรรมและรายละเอียดที่แสดงถึงแง่มุมต่าง ๆ ของชีวิตของพระคริสต์
นอกจากส่วนหน้าอาคารที่สวยงามแล้วถ้าเดินเข้าไปด้านในจะพบกับทางเดินที่ได้รับการตกแต่งอย่างอลังการไม่แพ้กันด้วยสถาปัตยกรรมเสา ซึ่งเลียนแบบต้นไม้และเพดานสูงที่สร้างบรรยากาศอันงดงาม มหาวิหารยังประดับด้วยหน้าต่างกระจกสีที่มอบความนุ่มนวลและงดงามสู่พื้นที่ ในขณะที่หอคอยทั้งสองด้านนำผู้ชมไปสู่วิวที่สวยงามของบาร์เซโนา นักท่องเที่ยวสามารถซื้อตั๋วเข้าชมรวมการขึ้นหอคอยได้ 1 ด้าน คือ ด้านการประสูติหรือด้านของความรัก ถ้ามีเวลาเยอะสามารถเลือกขึ้นหอคอยทั้งสองด้านเลยก็ได้ เพราะแต่ละด้านมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน
ความสำคัญอีกหนึ่งอย่างของซากราดาฟามีเลียคือได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกเมื่อปี 2548 โดยตระหนักถึงความสำคัญทางวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรม โดยรวมแล้วนับว่าซากราดาฟามีเลียเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่งของบาร์เซโลนาที่ไม่ควรพลาดอย่างเด็ดขาด อย่าลืมเผื่อเวลาเข้าชมไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง เวลาที่แนะนำในการเข้าชมระหว่าง 09:00-11:00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่คนกำลังน้อยและสะดวกในการเดินชมหอคอย
เที่ยวบาร์เซโลนาด้วยตัวเอง: สวนสถาปัตยกรรมปาร์กเกวย์ (Park Güell)
ปาร์กเกวย์เป็นที่เที่ยวยอดนิยมของบาร์เซโลนาไม่แพ้มหาวิหารซากราดาฟามีเลีย ตั้งอยู่บนเนินเขา Carmel Hill ในเขตกราเซีย ด้านในเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงและยังเป็นมรดกโลกของยูเนสโกอีกด้วย โดยขึ้นชื่อในด้านสถาปัตยกรรมและศิลปะที่มีเอกลักษณ์แปลกตา สวนแห่งนี้ได้รับการออกแบบโดยเกาดี ซึ่งได้รับการมอบหมายจาก Eusebi Güell นักอุตสาหกรรมผู้มั่งคั่ง และยังเป็นผู้สนับสนุนการก่อสร้าง นั้นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมสวนจึงได้รับการตั้งชื่อว่า “เกวย์”
เอกลักษณ์ที่โดดเด่นปาร์กเกวย์คือการใช้โมเสกสีสันสดใสและกระเบื้องเซรามิกประดับไปทั่วสวน ไม่ว่าจะเป็นม้านั่ง บันได ทางเดิน และผนัง สวนยังโดดเด่นด้วยบ้านคล้ายขนมปังผิง 2 หลัง คือ บ้านทางเข้า Porter’s Lodge (Pavilion) และบ้านผู้ดูแลสวนสาธารณะ (Porter’s House) ทั้งสองหลังประดับหลังคาด้วยโดมทรงเห็ดขนาดใหญ่ มองแล้วให้ความแปลกตาและชวนให้นึกถึงการจัดฉากในเทพนิยาย ปาร์กเกวย์ยังมีเสาระเบียงที่สวยงาม บันไดสองชั้นที่มีรูปมังกรซาลาแมนเดอร์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ “El Drac” รวมไปถึงห้องใต้ระเบียงหลัก ทางเดินที่เรียงรายไปด้วยเสาแบบดอริก จัตุรัสธรรมชาติ สวนออสเตรีย และพิพิธภัณฑ์บ้านเกาดี ให้ได้แวะไปชมกันอีกด้วย
นอกจากความสวยงามของสถาปัตยกรรมแล้วปาร์กเกวย์ยังมีแผนผังที่เดินเที่ยวง่ายไม่ต้องกลัวว่าจะหลง โดยแบ่งออกเป็น 2 โซน คือ โซนอนุสรณ์สถาน ซึ่งเป็นโซนหัวใจของปาร์กเกวย์เลยก็ว่าได้ รวมจุดสำคัญที่กล่าวไปข้างต้น ผู้ที่ต้องการเข้าชมโซนอนุสรณ์สถานต้องซื้อตั๋วเข้าชมอย่างเป็นทางการ (ตามลิงก์ด้านล่าง) และมีการจำกัดผู้เข้าชมไว้ที่ 1,400 คนต่อชั่วโมง และโซนป่าไม้ เป็นพื้นที่อุทยานซึ่งเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมได้ฟรีโดยไม่ต้องใช้ตั๋ว โซนนี้โดดเด่นด้วยทางเดินสะพานลอย สวนดอกไม้ และพื้นที่สีเขียว รวมไปถึงงานประติมากรรมที่ออกแบบโดยเกาดี
เนื่องจากปาร์กเกวย์มีขนาดใหญ่มาก ควรเผื่อเวลาการเข้าชมไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง เวลาที่ดีที่สุดในการเข้าชม คือ ระหว่าง 09:30-10:30 น. ในวันธรรมดา (โดยเฉพาะในวันจันทร์หรือวันพฤหัสบดี) ถ้าเป็นไปควรหลีกเลี่ยงการเข้าชมตอนเที่ยงวันเพราะแดดแรงมาก อย่าลืมเตรียมรองเท้าที่ใส่เดินสบายมาด้วย เพราะต้องเดินเยอะมาก รวมไปถึงครีมกันแดดทาเพิ่มระหว่างวัน และน้ำดื่มแก้กระหาย 1-2 ขวด และเผื่อเวลาเดินทางจากซากราดาฟามีเลียประมาณ 35-40 นาที
ปาร์กเกวย์เปิดทุกวัน 09:30-19:30 น. ฤดูท่องเที่ยวเปิด 09:00-19:30 น. ส่วนฤดูอื่น ๆ สามารถตรวจสอบเวลาที่แน่นอนได้ที่เว็บไซต์ทางการ
เที่ยวบาร์เซโลนาด้วยตัวเอง: คฤหาสน์คาซ่าบัตโล่ (Casa Batlló)
คาซ่าบัตโล่เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของบาร์เซโลนาที่ไม่ควรพลาดเข้าชมเช่นกัน และยังเป็นหนึ่งในอาคารสมัยใหม่ชื่อดังที่เกาดีได้ออกแบบไว้ แน่นอนว่าความเลื่องชื่อของอาคารแห่งนี้ที่ดึงดูดผู้ชมกว่าปีละหลายล้านคน คือ ส่วนหน้าที่ได้รับการออกแบบที่มีจินตนาการเหนือจริงผสมผสานกับด้วยเส้นลูกคลื่น หินแกะสลัก และกระเบื้องโมเสกสีสันสดใส ทำให้ดูเหมือนถูกสร้างขึ้นโดยพลังแห่งธรรมชาติ และยังมีระเบียงที่มีลักษณะคล้ายหน้ากาก และเสาที่มีลักษณะคล้ายกระดูก นั้นจึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้อาคารแห่งนี้รู้จักกันในชื่อ “House of Bones”
อีกหนึ่งรายละเอียดที่น่าสนใจและพบอยู่ทั่วอินเทอร์เน็ตเวลาค้นคำว่าคาซ่าบัตโล่ก็คือช่องไฟซึ่งช่วยให้แสงธรรมชาติส่องลึกเข้าไปในภายในได้ ช่องไฟนี้ประดับด้วยกระเบื้องสีน้ำเงินและสีขาว และมักเรียกกันว่า “บ่อแห่งจิตวิญญาณ” โดยเป็นส่วนพื้นฐานของบ้านตั้งอยู่ใจกลางอาคาร และได้รับการออกแบบอย่างชาญภายใต้พื้นที่ขนาดเล็ก
ถ้าส่วนหน้าของคาซ่าบัตโล่เปรียบเสมือนคลื่นทะเลอันทรงพลังแล้ว ด่านฟ้าของคาซ่าบัตโล่ก็คงเปรียบเสมือนมงกุฎเพชรเลยก็ว่าได้ โดยมีลักษณะเด่นของหลังคาทรงมังกรที่ปกคลุมด้วยกระเบื้องสีรุ้ง ดูแล้วคล้ายกับเกล็ดขนาดใหญ่บนหลังของสัตว์ ใกล้ ๆ กันสามารถมองเห็นปล่องไฟมีลักษณะคล้ายหมวกนักรบและเป็นส่วนสำคัญของการออกแบบอาคาร ในขณะที่หอคอยส่วนหน้าเด่นด้วยไม้กางเขนแบบ 4 แขน หันหน้าไปทางทิศเหนือ ใต้ ตะวันออก และตะวันตก
โดยรวมแล้วคฤหาสน์คาซ่าบัตโล่คุ้มค่าการเข้าชมและมีขนาดไม่ใหญ่สามารถใช้เวลาประมาณ 1.15 ชั่วโมง เวลาที่แนะนำคือ 09:00-10:00 น. ถ้าใครที่ต้องการเข้าชมรอบแรก ๆ เลย มีตั๋ว Casa Batlló Be The First Entry Ticket สำหรับการเข้าชม 2 รอบเท่านั้น คือ เวลา 08:30 น. และ 08:45 น. วิธีนี้ได้เดินชมแบบไม่แออัดและมีมุมถ่ายภาพแบบไม่ต้องหลบคนเยอะด้วย
เที่ยวบาร์เซโลนาด้วยตัวเอง: คาซ่ามิลา (Casa Milà)
คาซ่ามิลาเป็นที่เที่ยวยอดนิยมอีกหนึ่งแห่งของบาร์เซโลนา ตั้งอยู่ไม่ไกลจากคฤหาสน์คาซ่าบัตโล่เพียง 5 นาที สร้างขึ้นระหว่างปี 1906-1912 และมีชื่อเสียงในด้านการออกแบบที่สร้างสรรค์และล้ำหน้า ซึ่งโดดเด่นด้วยส่วนหน้าของอาคารที่เป็นหินลูกคลื่น ดูราวกับแกะสลักจากหินก้อนเดียวและไร้เส้นตรงแบบดั้งเดิม เช่นเดียวกับระเบียงมีลักษณะคล้ายคลื่นหรือสาหร่าย ซึ่งสะท้อนถึงความหลงใหลในรูปทรงตามธรรมชาติของเกาดี
ด้านในอาคารเดิมของคาซ่ามิลาได้รับการออกแบบให้เป็นอาคารอพาร์ตเมนต์ และเป็นที่พักของผู้อยู่อาศัยหลายคน ปัจจุบันกลายมาศูนย์วัฒนธรรมสำหรับเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของอาคาร สถาปัตยกรรม และปรัชญาการออกแบบของเกาดี ผ่านการจัดแสดงมัลติมีเดีย เครื่องบรรยายออดิโอไกด์ และทัวร์นำเที่ยว ในตอนท้ายการเข้าชมจะนำเราไปที่ชั้นด่านฟ้าเพื่อชมประติมากรรมมีลักษณะเป็นป่ามาพร้อมปล่องไฟแกะสลัก หอระบายอากาศ และบันไดที่ทั้งมีประโยชน์ใช้สอยและตกแต่งโครงสร้าง
ความพิเศษอีกหนึ่งอย่างของคาซ่ามิลาก็คือมีมุมถ่ายภาพที่สวยงามและยังสามารถมองเห็นมหาวิหารซากราดาฟามีเลียได้อีกด้วย โดยรวมแล้วคฤหาสน์คาซ่ามิลามีขนาดใหญ่กว่าคาซ่าบัตโล่ ควรเผื่อเวลาเข้าชมประมาณ 1-2 ชั่วโมง เวลาที่แนะนำในการเข้าชม คือ ระหว่าง 09:00-10:00 น. และช่วงบ่ายหลังเวลา 16:00 น. สำหรับใครที่ชอบตื่นเช้ามีตั๋วเข้าชมคาซ่ามิลารอบเช้าก่อนใครพร้อมไกด์ทัวร์ (La Pedrera Sunrise Ticket) ตั้งแต่เวลา 08:00 น.
เที่ยวบาร์เซโลนาด้วยตัวเอง: คอนเสิร์ตฮอลล์คาตาลานา (Palau de la Música Catalana)
นอกจากที่เที่ยวสำคัญของบาร์เซโลนาอย่างซากราดาฟามีเลีย ปาร์กเกวย์ คาซ่าบัตโล่และคาซ่ามิลาแล้ว ที่เที่ยวอีกหนึ่งแห่งที่ไปแล้วคุ้มค่ากับค่าตั๋วเข้าชมก็คือคอนเสิร์ตฮอลล์คาตาลานา ตั้งอยู่ย่านใจกลางเมืองห่างจากซากราดาฟามีเลียประมาณ 15 นาที
ข้างในแบ่งออกเป็นหลายชั้น ชั้นที่เป็นไฮไลท์คือ 2-3 มองเห็นพื้นที่การแสดงคอนเสิร์ตแบบ 360 องศาเลย แล้วสวยจริง ๆ โดยเฉพาะที่สันที่ใช้ตกแต่งมาพร้อมลวดลายอันวิจิตรบรรจงบนเพดาน ประดับส่วนต่าง ๆ ด้วยกระเบื้องโมเสค กระจกสี และช่องรับแสงตรงกลางอันงดงาม ที่สำคัญคอนเสิร์ตฮอลล์คาตาลานายังได้รับการยกย่องเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก ใครที่ตัดสินใจไปที่นี่แล้วเรียกได้ว่าได้ชมทั้งความสวยงามของสถาปัตยกรรมสไตล์คาตาลันสมัยใหม่และยังได้มุมถ่ายรูปสวย ๆ เยอะอีกด้วย
เที่ยวบาร์เซโลนาด้วยตัวเอง: ขึ้นกระเช้าลอยฟ้ามองต์คูอิก (Telefèric de Montjuïc)
จากสถานที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองกันไปแล้ว ถ้ามีเวลาเหลือประมาณ 1-2 ชั่วโมงลองแวะไปเที่ยวต่อที่ยอดเขามองต์คูอิกซึ่งเป็นที่ตั้งของปราสาทและสวนดอกไม้ และยังเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่สามารถมองเห็นวิวเมืองแบบพาโนรามาได้อย่างสวยงาม วิธีการที่จะขึ้นไปยอดเขามองต์คูอิกมีหลายวิธี วิธีที่สะดวกที่สุด คือ นั่งรถไฟกระเช้าไฟฟ้ามงต์คูอิกเชื่อมต่อไปยังสถานีขึ้นกระเช้าลอยฟ้ามองต์คูอิก จากนั้นกระเช้าจะพาไปยอดเขามองต์คูอิกภายใน 5-15 นาที
รถไฟกระเช้าไฟฟ้า (FM) เชื่อมต่อระหว่างสถานีรถไฟใต้ดิน Paral lel สาย L2 และ L3 ไปยังเขามองต์คูอิกที่สถานี Parc de Montjuïc ถ้ามาถึงสถานี Paral lel ให้เดินตามป้ายที่เขียนว่า “Montjuïc Funicular” ไปประมาณ 5 นาทีจะเจอกับจุดจอดรถไฟกระเช้าไฟฟ้า ซึ่งให้บริการตามรอบเวลา จากนั้นรถไฟจะเคลื่อนตัวขึ้นเขาใช้เวลาประมาณ 13 นาที เมื่อถึงเนินเขาแล้วสามารถแวะพักชมวิว ชมสวนดอกไม้หรือพิพิธภัณฑ์ หรือเดินทางต่อด้วยกระเช้าลอยฟ้าไปยังยอดเขามองต์คูอิก ระยะทางรวม 750 เมตร การเดินทางใช้เวลาประมาณ 5 นาที เมื่อถึงยอดเขาแล้วสามารถมองเห็นวิวแบบสุดลูกหูลูกตา และยังสามารถเข้าชมปราสาทมองต์คูอิกได้อีกด้วย
เที่ยวบาร์เซโลนาด้วยตัวเอง: ห้ามพลาดลองทาน “ทาปาส”
ในบาร์เซโลนาร์มีวัฒนธรรมการพักทานอาหารกลางวันด้วยเมนูหลักระหว่างเวลา 13:30-15:30 น. และนอนพักกลางวัน 2-3 ชม. ในช่วงบ่ายเพื่อหลีกเลี่ยงช่วงเวลาที่แสงแดดร้อนจัดที่สุดของวัน ดังนั้นในตอนเย็นจึงเป็นช่วงเวลาของการทาน “ทาปาส” หรือเมนูของกินเล่นพร้อมเครื่องดื่ม ส่วนใหญ่จะเริ่มเวลา 18:00 น. ร้านทาปาสส่วนใหญ่ก็เปิดบริการในช่วงเวลานี้เช่นกัน (แต่ก็ยังมีร้านทาปาสหลายแห่งเปิดเร็วกว่านี้) ดังนั้นถ้ามาเที่ยวบาร์เซโลนาแล้วก็ต้องลองทานทาปาสให้รู้ว่ารสชาติเป็นยังไง
ทาปาสยอดนิยมที่พบในบาร์เซโลนามีหลายแบบ เช่น มันฝรั่งก้อนทอดเสิร์ฟพร้อมซอสมะเขือเทศรสเผ็ดและซอสอัลยอลี (Patatas Bravas) กุ้งปรุงกับกระเทียมพริกและน้ำมันมะกอก (Gambas al Ajillo) ปลาหมึกทอดเสิร์ฟพร้อมมะนาว (Calamares a la Romana) ไข่เจียวสเปนคลาสสิก (Tortilla Española) แฮมไอบีเรียคุณภาพสูงหั่นบาง ๆ (Jamon Iberico) ปลากะตักสดหมักในน้ำส้มสายชู (Boquerones en Vinagre) และปลาทูน่าผสมกับมายองเนสและเสิร์ฟบนขนมปังหรือแครกเกอร์ (Tuna Salad)
มีเนื้อไปแล้วก็ต้องมีเมนูผักและชีสบ้าง เช่น ขนมปังปิ้งทาด้วยมะเขือเทศสุกและกระเทียม (Pan con Tomate) พริกเขียวพองโรยด้วยเกลือทะเล (Pimientos de Padrón) มันฝรั่งครอแก็ตสอดไส้ (Croquetas) ชีสสเปนหั่นเสิร์ฟพร้อมมะกอกและเนื้อหมัก (Queso Manchego) มะกอกยัดไส้ (Aceitunas) ผักย่าง เช่น พริกหยวก มะเขือยาว และหัวหอม หมักในน้ำมันมะกอกและกระเทียม (Escalivada) และซุปเย็นมะเขือเทศแบบดั้งเดิมของสเปนมักปรุงด้วยไข่ต้มสุกและแฮม (Salmorejo)
เมนูทาปาสเหล่านี้มีขายตามร้านทาปาสทั่วไป ถ้าไปครั้งแรกไม่รู้จะสั่งเมนูไหนดี ลองเลือกมาทานสัก 3-4 เมนูก่อน ถ้าสั่งเยอะอาจจะทานไม่หมด พอลองครบแล้วชอบอันไหนครั้งต่อไปก็ค่อยสั่งอันนั้นมาเยอะ ๆ อีกอย่างเวลาทานทาปาสให้อร่อยว่ากันว่าต้องทานคู่กับแซงเกรีย (Sangria) เป็นเครื่องดื่มที่ทำจากไวน์แดงและผลไม้สด บ้างก็มีน้ำส้มหรือโซดาเพื่อเพิ่มความหวานและความซ่า ถ้าเป็นในคาตาโลเนียและบาร์เซโลนาจะมีแซงเกรียหลายแบบ รวมถึง “Sangria de Cava” ที่ใช้สปาร์กลิ้งไวน์แทนไวน์แดง เวลาเสิร์ฟจะมาในแก้วหรือเหยือก
ร้านที่เราไปลอง คือ ภัตตาคารอาหารทาปาสยอดนิยม Vinitus ห่างจากมหาวิหารซากราดาฟามีเลียเพียง 29 นาที ถ้านั่งรถไฟใต้ดินใช้เวลาเพียง 12 นาที ภายในตกแต่งบรรยากาศหรูหรา เมนูทาปาสมีให้เลือกหลากหลายและยังมีแบบดั้งเดิมด้วย เราก็สั่งมาลองกัน 3-5 เมนู พอกินกันสองคนก็อิ่มลงตัวไม่เยอะหรือน้อยเกินไป ส่วนรสชาติอาหารอร่อย ราคาอาหารอยู่ในระดับปานกลางขึ้นไป ถ้าไปช่วงอาหารกลางวันและเย็นแนะนำให้จองโต๊ะล่วงหน้าก่อน ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 11:00-01:00 น.
เที่ยวบาร์เซโลนาด้วยตัวเอง: แวะไปเดินตลาดสดบุคเคอเรีย (Mercado de La Boqueria)
ลิ้มลองทาปาสกันไปแล้วอีกหนึ่งวิธีที่จะได้ทานอาหารท้องถิ่นหรือเลือกซื้อสินค้าในราคาประหยัดก็คงหนีไม่พ้นการไปเดินเล่นที่ตลาดกันบ้าง ในบาร์เซโลนามีตลาดท้องถิ่นหลายแห่งตั้งอยู่ทั่วเมือง ตลาดที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ Mercado de La Boqueria ตั้งอยู่ที่ลารัมบลา ถ้าเดินมาจากจัตุรัส Plaça de Catalunya ตลาดตั้งอยู่ทางขวามือ ด้านในแบ่งโซนขายสินค้าอย่างเป็นระเบียบ ครอบคลุมถึงแผงขายผลไม้สด อาหารทะเล เนื้อสัตว์ เครื่องเทศ อาหารแห้ง ร้านอาหารทะเลและทาปาส และอื่น ๆ อีกมากมาย ตลาดเปิดวันจันทร์ถึงวันเสาร์ 08:00-20:30 น.
นอกจากตลาดสดบุคเคอเรียแล้ว ยังมีตลาดสดอื่น ๆ ตั้งอยู่ตามย่านต่าง ๆ ทั่วเมือง เช่น Mercat de Sant Antoni ตั้งอยู่ในย่าน Sant Antoni ชื่อในเรื่องของผักและผลไม้สดใหม่ที่คัดสรรมาอย่างดี ย่านต่อมาคือกอทิก มีตลาด Mercat de Santa Caterina ขึ้นชื่อในเรื่องแผงขายอาหารที่มีคุณภาพ ในขณะที่ย่าน Eixample มีตลาดทันสมัย Mercat del Ninot แบ่งออกเป็น 2 ชั้น คือ ชั้นแรกเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตและชั้นสองเป็นตลาดแบบติดแอร์ ตลาดเหล่านี้แม้จะไม่ได้มีชื่อเสียงสำหรับนักท่องเที่ยวเหมือนกับตลาดสดบุคเคอเรียแต่ก็เป็นแหล่งจับจ่ายซื้อของสำหรับคนในท้องถิ่น ที่สำคัญบรรยากาศไม่พลุ่กพล่านและมีสินค้าที่ให้เลือกหลาย ถ้ามีเวลาลองแวะไปเดินเล่นก็ไม่เสียหายอะไร
เที่ยวบาร์เซโลนาด้วยตัวเอง: “Ciutat Vella” ย่านเมืองเก่าน่าเดินเที่ยว
หลายคนไปเที่ยวบาร์เซโลนาแล้วไปเดินถนนลารัมบลาอาจจะรู้ว่าคนเยอะ เอาจริง ๆ นอกจากถนนนี้แล้วย่านเมืองเก่าที่เรียกว่า “Ciutat Vella” ยังเต็มไปด้วยย่านเล็ก ๆ น่าเดินอีกหลายแห่ง ครอบคลุมถึง Gothic Quarter, El Raval และ El Born ซึ่งรวมบรรยากาศความมีชีวิตชีวาและเสน่ห์ที่แตกต่างจากถนนลารัมบลามากทีเดียว ที่สำคัญเต็มไปด้วยที่เที่ยวทางวัฒนธรรมหลายแห่ง พิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียง รวมถึงร้านทาปาสและท่าเทียบเรือใกล้ชายทะเลของเมือง
เที่ยวบาร์เซโลนาด้วยตัวเอง: มหาวิหารบาร์เซโลนา (Cathedral of Barcelona)
อย่างที่กล่าวไปว่าย่านกอทิกมีที่เที่ยวน่าสนใจหลายแห่งรวมถึงอาสนวิหารบาร์เซโลนา หรือที่รู้จักกันในชื่ออาสนวิหารโฮลีครอสและเซนต์เออูลาเลีย ซึ่งเป็นผลงานชิ้นเอกของสถาปัตยกรรมกอทิกแบบคาตาลัน ถ้าเดินมาจากสะพานเก่าแก่ El Pont del Bisbe ใช้เวลาเพียง 3 นาที มหาวิหารแห่งนี้แม้จะไม่ได้มีชื่อเสียงเท่ากับซากราดาฟามีเลียแต่ก็เป็นสถานที่สำคัญทางศาสนาของเมืองจากศตวรรษที่ 13 ที่สำคัญมีความสวยงามทั้งภายนอกและภายใน และยังมีชั้นด่านฟ้าสำหรับขึ้นไปชมทิวทัศน์มุมกว้างของบาร์เซโลนาอีกด้วย ใครที่สนใจเข้าชมอย่าลืมเผื่อเวลาไว้ประมาณ 30-50 นาที เพราะมีขนาดใหญ่พอสมควร มหาวิหารเปิดทุกวันเวลา 08:30-19:30 น.
เที่ยวบาร์เซโลนาด้วยตัวเอง: อนุสาวรีย์โคลัมบัส (Columbus Monument)
จากมหาวิหารบาร์เซโลนาถ้าใครที่อยากเห็นวิวเมืองในราคาประหยัดต้องแวะไปที่อนุสาวรีย์โคลัมบัส ตั้งอยู่ที่ปลายถนนลารัมบลา ห่างจากมหาวิหารเพียง 16 นาที อนุเสาวรีย์แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส และการเดินทางครั้งประวัติศาสตร์ของเขาไปยังทวีปอเมริกาในปี 1492 รวมถึงการเฉลิมฉลองบทบาทสำคัญของสเปนในยุคแห่งการสำรวจ โดยมีความสูงโดดเด่นถึง 60 เมตร ประกอบด้วยเสาที่มีรูปปั้นโคลัมบัสยืนอยู่บนยอดและหันหน้าไปทางทะเล ด้านในอนุสาวรีย์ยังเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชม โดยสามารถขึ้นลิฟต์ไปยังจุดชมวิวด้านบนเพื่อชมทัศนียภาพอันงดงามของแนวชายฝั่งบาร์เซโลนาและเมืองโดยรอบ อย่าลืมเตรียมค่าเข้าชมไว้ด้วย 8 ยูโร อนุสาวรีย์เปิดทุกวัน เวลา 08:30-14:30 น. การเข้าชมจุดชมวิวรอบสุดท้าย เวลา 13:30 น.
เที่ยวบาร์เซโลนาด้วยตัวเอง: เดินเล่นริมท่าเรือ (Barcelona Port)
ไม่ไกลจากอนุสาวรีย์โคลัมบัสถ้าเดินข้ามถนนมาจะเจอกับท่าเรือบาร์เซโลนา ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางทะเลอันเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ตามแนวชายฝั่งของเมือง ท่าเรือนี้ทำหน้าที่เป็นท่าเรือพาณิชย์และท่าเรือสำราญที่พลุกพล่านและสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และยังเป็นที่ตั้งของเรือยอทช์จำนวนนับไม่ถ้วน
นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นไปตามสะพานไม้ Rambla de Mar เพื่อสำรวจบรรยากาศที่ผ่อนคลายริมท่าเรือ ย่านนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำบาร์เซโลนาให้เข้าชม รวมถึงห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ (Maremagnum) ตลอดจนร้านอาหารริมน้ำ และจุดขึ้นกระเช้าลอยฟ้าเพื่อสำรวจวิวมุมสูง (Telefèric del Port) ถ้าเดินเล่นตามริมท่าเรือไปเรื่อย ๆ ฝั่งซ้ายมือจะเป็นถนนที่เรียงรายไปด้วยต้นปาล์ม Passeig de Colom จากถนนนี้เลี้ยวขวาและเดินไปอีกประมาณ 16 นาทีจะเจอกับชายหาดบาร์เซโลเนต้าที่มีชื่อเสียงของบาร์เซโลนานั้นเอง
เที่ยวบาร์เซโลนาด้วยตัวเอง: กิจกรรมนอกสายตาที่ลองทำได้
นอกเหนือจากการเข้าชมที่เที่ยวสำคัญกันไปแล้วหลายคนอาจจะมองหากิจกรรมอื่น ๆ ทำเพื่อความหลากหลาย ซึ่งเอาจริง ๆ ในบาร์เซโลนามีกิจกรรมให้ทำเยอะมาก รายการด้านล่างเราคัดสรรมาให้แล้ว ลองพิจารณาเอาไปปรับเข้ากับแพลนเที่ยวของตัวเองได้ตามสะดวก
ย่านที่พักน่าสนใจในบาร์เซโลนา
บาร์เซโลนาเป็นเมืองที่มีความหลากหลายและรวมย่านที่พักอาศัยพร้อมบรรยากาศแห่งความมีชีวิตชีวาไว้หลายแห่ง ซึ่งแต่ละแห่งก็มอบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ย่านที่พักที่ดีที่สุดในบาร์เซโลนาขึ้นอยู่กับความชอบและแผนการเดินทางของแต่ละคน รายการด้านล่างคือย่านที่พักยอดนิยมในบาร์เซโลนาที่ควรพิจารณา
ค้นหาและเปรียบเทียบที่พักในบาร์เซโลนา
การเดินทางจากสนามบินเข้าเมืองบาร์เซโลนา
บาร์เซโลนามีสนามบินหลัก คือ Barcelona–El Prat Airport (BCN) หรือที่รู้จักกันในชื่อท่าอากาศยานนานาชาติบาร์เซโลนา-เอล แปรต ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 13 กม. มีอาคารผู้โดยสารหลัก 2 แห่ง คือ เทอร์มินอล 1 (T1) และเทอร์มินอล 2 (T2) ซึ่งเทอร์มินอล 1 เป็นอาคารที่ใหม่และใหญ่กว่า ในขณะที่เทอร์มินอล 2 แบ่งออกเป็นสามส่วน ได้แก่ T2A, T2B และ T2C อาคารผู้โดยสารหลักทั้ง 2 แห่งสามารถเชื่อมต่อถึงกันสะดวกด้วยรถชัทเทิลบัสรับส่งฟรี
นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาถึงสนามบินสามารถเดินทางต่อเข้าเมืองด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ครอบคลุมถึงรถชัทเทิลบัส รถไฟ รถไฟใต้ดิน รถบัสกลางคืน รถรับส่งส่วนตัว และรถแท็กซี่ อย่าลืมจำทอร์มินอลที่เดินทางมาถึงเนื่องจากระบบขนส่งสาธารณะเข้าเมืองตั้งอยู่ในทอร์มินอลที่แตกต่างกัน
รถบัสรับส่งทางการจากสนามบิน (Aerobus)
แอโรบัสเป็นรถชัทเทิลบัสทางการจากสนามบินเชื่อมต่อไปยังใจกลางเมืองบาร์เซโล ให้บริการทั้งอาคารผู้โดยสาร 1 และ 2 โดยแบ่งออกเป็น 2 เส้นทาง คือ A1 และ A2 ทั้งสองเส้นทางมีจุดจอด 3 ป้าย คือ Pl Espanya, Gran Via-Urgell, Pl Universitat และไปสิ้นสุดที่สถานีปลายทาง Place de Catalunya รถบัสให้บริการตลอดทั้งปี ออกทุก 5-10 นาที เส้นทาง A1 จุดขึ้นรถตั้งอยู่ที่ชั้นล่างของอาคารผู้โดยสารขาเข้า 1 ส่วนเส้นทาง A2 รถจอดอยู่ฝั่งทางออกขวามือจากอาคารผู้โดยสารขาเข้าในบริเวณที่ใกล้กับ T2A และ T2B
รถแอโรบัสใช้เวลาเดินทางจากสนามบินเข้าเมืองบาร์เซโลนา 35 นาที จากอาคารผู้โดยสาร 1 รถวิ่งตั้งแต่เวลา 05:35-01:05 น. ขากลับวิ่งเวลา 05:00-00:30 น. ส่วนอาคารผู้โดยสาร 2 รถวิ่งตั้งแต่เวลา 05:35-01:00 น. ขากลับวิ่งเวลา 05:00-00:30 น ความถี่ 5-10 นาที ตั๋วเที่ยวเดียว 6.75 ยูโร ไปกลับ 11.65 ยูโร จองตั๋วรถแอโรบัสจากสนามบินเข้าเมืองบาร์เซโลนาล่วงหน้าตอนนี้เลย
รถไฟเรนเฟ (Renfe)
เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สะดวกในการเดินทางจากสนามบินไปยังใจกลางเมืองบาร์เซโลนาเพียง 30 นาที มีรถไฟสาย R2 Nord ให้บริการจากอาคารผู้โดยสาร 2 ไปจอดที่สถานีใจกลางเมืองสองแห่ง คือ Estació Sants และ Passeig de Gràcia (ถ้าเที่ยวบินมาลงที่อาคารผู้โดยสาร 2 สามารถนั่งรถชัทเทิลบัสรับส่งฟรีไปยังอาคาร 1) รถไฟจอดอยู่ห่างจากอาคาร 2 สามารถเดินไปได้เพียง 3 นาที และให้บริการตั้งแต่เวลา 05:42-23:28 น. ความถี่ทุก 30 นาที ราคาตั๋วเที่ยวเดียว 2.60 ยูโร (สำหรับการเดินทาง 4 โซน) สามารถซื้อตั๋วได้ที่สำนักงานขายตั๋วในสถานีรถไฟหรือเครื่องขายตั๋วอัตโนมัติ (Cercanías)
เพื่อความประหยัดสามารถใช้บัตรโดยสาร Hola Barcelona Travel Card สำหรับเดินทางจากสนามบินไปยังใจกลางเมือง บัตรนี้ยังใช้เดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะในบาร์เซโลนาได้ไม่จำกัดเที่ยวตามระยะเวลา 2-5 วัน ครอบคลุมถึงรถโดยสารประจำทาง (TMB) รถไฟใต้ดิน รถราง รถไฟกระเช้าไฟฟ้ามองต์คูอิก และรถไฟโดยสารที่ดำเนินการโดย Renfe และ FGC ภายในโซน 1 ซื้อบัตร Hola Barcelona Travel Card ไว้ใช้ประโยชน์ด้วยตัวเองล่วงหน้าตอนนี้เลย
รถไฟใต้ดิน (Metro)
บาร์เซโลนามีรถไฟใต้ดินสาย 9 South ให้บริการจากอาคารผู้โดยสาร 1 และ 2 เชื่อมต่อไปยังใจกลางเมืองโดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที โดยรถวิ่งผ่านสถานี 15 แห่ง และต้องเปลี่ยนรถเพื่อไปยังสถานที่ต้องการในตัวเมือง เช่น เปลี่ยนรถที่สถานี Torrassa เพื่อขึ้นสายสีแดงเชื่อมไปยัง Universitat หรือ Catalonia Square หรือเปลี่ยนที่สถานี Collblanc เพื่อขึ้นสายสีน้ำเงินไปยัง Diagonal หรือ Sagrada Familia รถวิ่งตั้งแต่เวลา 05-00-24:00 น. ความถี่ทุก 7 นาที ค่าโดยสารเที่ยวเดียว 5.15 ยูโร สามารถซื้อตั๋วได้ที่ตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติในสถานีรถไฟใต้ดิน เว็บไซต์และแอป TMB และยังสามารถใช้บัตรโดยสาร Hola Barcelona Travel Card สำหรับเดินทางจากสนามบินเข้าเมืองด้วยรถไฟใต้ดิน
รถโดยสารประจำทาง (TMB)
ให้บริการรถบัสสาย 46 จากอาคารผู้โดยสาร 1 และ 2 จากสนามบินไปยังใจกลางเมืองที่ป้าย Plaça Espanya การเดินทางใช้เวลาประมาณ 30-35 นาที รถวิ่งตั้งแต่เวลา 05:00-00:30 น. ความถี่ทุก 20 นาที ราคาตั๋วเที่ยวเดียว 4.60 ยูโร สามารถซื้อตั๋วได้บนรถสกับคนขับ และยังสามารถใช้บัตรโดยสาร Hola Barcelona Travel Card สำหรับเดินทางจากสนามบินเข้าเมืองด้วยรถโดยสารประจำทาง
รถบัสกลางคืน (Night Bus)
สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาถึงสนามบินเวลากลางคืนสามารถใช้บริการรถบัสสาย N16 และ N17 เข้าเมืองในเวลาเพียง 30-40 นาที (รถบัสสาย N8 วิ่งสำรองในกรณีที่มีการจราจรติดขัด) โดยรถบัสสาย N17 ให้บริการจากอาคารผู้โดยสาร 1 ส่วนรถบัสสาย 16 ให้บริการจากอาคารผู้โดยสาร 2 รถวิ่งตั้งแต่เวลา 21:55-04:45 น. ความถี่ทุก 20 นาที ราคาตั๋วเที่ยวเดียว 5.15 ยูโร
การเดินทางในบาร์เซโลนาด้วยระบบขนส่งสาธารณะ
บาร์เซโลนามีระบบขนส่งมวลชนที่มีประสิทธิภาพซึ่งทำให้การเดินทางรอบเมืองสะดวกสบาย โดยแบ่งพื้นที่เดินทางออกเป็น 6 โซนด้วยกัน คือ โซนที่ 1 เป็นพื้นที่ในเมืองบาร์เซโลนาและระบบรถไฟใต้ดินทั้งหมด ส่วนโซนที่ 2-6 ครอบคลุมเมืองและเขตเมืองโดยรอบ และขยายไปถึง Blanes, Vic, Manresa และ Calafell ผู้เดินทางสามารถเลือกเดินทางด้วยตัวเลือก เช่น รถโดยสารประจำทาง รถไฟใต้ดิน รถราง รถไฟกระเช้าไฟฟ้ามองต์คูอิก และรถไฟโดยสารที่ดำเนินการโดย Renfe และ FGC ตามความสะดวก
รถไฟใต้ดิน (Metro)
เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับคนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวเนื่องจากเข้าถึงง่ายและใช้เวลารวดเร็วในการเดินทาง และยังครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมือง มีรถไฟใต้ดินให้บริการทั้งหมด 11 สาย (L1-L11) และรถไฟกระเช้าไฟฟ้ามองต์คูอิก (FM) รถไฟใต้ดินวิ่งทุกวัน ความถี่ในช่วงเวลาปกติทุก 2-3 นาที ซึ่งเวลาทำการจะแตกต่างกันออกไปตามวันและช่วงเวลา แต่โดยทั่วไปจะวิ่งตั้งแต่เวลาประมาณ 05:00-24:00 น. และขยายเวลาให้บริการในวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดนักขัตฤกษ์
รถราง (Tram)
แม้จะไม่ได้รับความนิยมเท่ากับรถไฟใต้ดินแต่ก็ช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางเช่นกัน เรียกว่า“El Tram” จำง่ายด้วยสีเขียวขาว ประกอบด้วย 2 เครือข่าย รวมทั้งหมด 6 สาย (T1-T6) ให้บริการในระยะทาง 29.2 กม. และมีจุดจอด 56 แห่ง แบ่งเป็นสายใต้ไปยังใจกลางเมืองเรียกว่า “Trambiax” (T1-T3) และสายเหนือไปยังใจกลางเมืองเรียกว่า “Trambesòs” (T4-T6) รถวิ่งทุกวันในช่วงเวลาที่ต่างการตามวัน วันจันทร์ถึงพฤหัสบดี ตั้งแต่เวลา 05:00-24:00 น. วันวันศุกร์ เสาร์ และช่วงเย็นก่อนวันหยุดนักขัตฤกษ์ วิ่งเวลา 05:00-02:00 น ส่วนวันอาทิตย์วิ่งตั้งแต่เวลา 05:00-24:00 น.
รถโดยสารประจำทาง (TMB)
เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกการเดินทางที่ได้รับความนิยมเนื่องจากมีเครือข่ายที่กว้างขวาง และครอบคลุมพื้นที่ที่รถไฟใต้ดินเข้าไม่ถึง โดยแบ่งเป็นรถโดยสารประจำทางทั่วไป รถบัสรับส่งจากสนามบิน รวมถึงรถบัสกลางคืนที่เรียกว่า “Nitbus” ให้บริการในช่วงเวลาดึก เวลาให้บริการขึ้นอยู่กับสายและวัน แต่โดยทั่วไปรถวิ่งระหว่างวันตั้งแต่ 05:00-00:30 น. ส่วนรถบัสกลางคืนวิ่งตั้งแต่เวลา 23:30-05:30 น.
ตั๋วเดินทางในบาร์เซโลนาด้วยระบบขนส่งสาธารณะ
ค่าโดยสารระบบขนส่งมวลชนในบาร์เซโลนา เช่น รถไฟใต้ดิน รถราง รถโดยสารประจำทาง แบบเที่ยวเดียวราคา 2.40 ยูโร สามารถหาซื้อได้ที่ตู้จำหน่ายตั๋วในสถานีรถไฟใต้ดินทุกแห่ง รวมถึงเครื่องขายตั๋วที่สถานีรถราง และบนรถบัส เมื่อได้ตั๋วมาแล้วอย่าลืมตรวจตั๋ว โดยสอดบัตรตามทิศทางที่ลูกศรระบุลงในเครื่องบนรถบัส ส่วนการเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินสามารถตรวจตั๋วได้ที่เครื่องอ่านการ์ดหน้าประตูทางเข้าสถานี ส่วนรถรางมีเครื่องอ่านการ์ดบนรถเช่นกัน เพื่อความประหยัดนักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้ตั๋ว T-dia, T-casual, T-familiar หรือบัตร Hola Barcelona Travel Card
ตั๋วเที่ยวเดียว, T-casual และ T-familiar ไม่รวมการเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินและรถ Aerobus เส้นทางสนามบินและใจกลางเมือง ถ้าต้องการเดินทางเข้าเมืองจากสนามบินแนะนำให้ใช้ตั๋วเที่ยวเดียวสนามบินราคา 5.15 ยูโร หรือใช้ตั๋ว T-dia (10.50 ยูโร) และ บัตร Hola Barcelona ( 2 วัน 16.40 ยูโร) เดินทางได้เช่นกัน
รถไฟ (Train)
นอกจากการเดินทางด้วยรถไฟใต้ดิน รถราง และรถบัสแล้ว บาร์เซโลนาและแคว้นกาตาลุญญาของสเปนยังมีรถไฟหลักให้บริการอยู่ 3 แบบ ดำเนินการโดยการรถไฟแห่งชาติของสเปน (Renfe) ได้แก่ รถไฟชานเมือง (Cercanías) เชื่อมต่อบาร์เซโลนาและภูมิภาคใกล้เคียง เหมาะสำหรับการเดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับหรือสำรวจที่เที่ยวนอกเมือง เช่น ซิตเกส มอนต์เซอร์รัต และคอสตาบราวา ในขณะที่รถไฟภูมิภาค (FGC) เชื่อมต่อกับบาร์เซโนากับภูมิภาคคาตาโลเนีย
รวมถึงรถไฟความเร็วสูง AVE เชื่อมต่อสเปนและฝรั่งเศส เช่น มาร์กเซย์และลียง บาร์เซโลนาและลียง และยังครอบคลุมเส้นทางในประเทศ เช่น บาร์เซโลนา มาดริด เซวิญ่า มาลากา วาเลนเซีย ซาราโกซ่า และอาลีกันเต้ ตั๋วเดินทางมีจำหน่ายที่เคาน์เตอร์และเครื่องบริการตนเองตามสถานีรถไฟ Barcelona Sants, Barcelona Passeig de Gràcia และ Barcelona Estació de França หรือจองผ่านเว็บไซต์และแอป Renfe
รถไฟความเร็วสูงจากบาร์เซโลนาไปมาดริด
เส้นทางรถไฟความเร็วสูง AVE ของสเปนที่ได้รับความนิยม คือ บาร์เซโลนา–มาดริด วิ่งด้วยความสูงสุด 310 กม./ชม. ช่วยย่นระยะเวลาการเดินทางได้ถึง 2.30 ชม. โดยไม่แวะพักหรือเปลี่ยนขบวน รถไฟมาพร้อมเครื่องอำนวยความสะดวก เช่น เครื่องปรับอากาศ ปลั๊กไฟ และอินเทอร์เน็ตไร้สายฟรี พิเศษ! เมื่อซื้อตั๋วรถไฟความเร็วสูง AVE หรือรถไฟทางไกลที่ดำเนินการโดย Renfe สามารถรับตั๋ว “Combinado Cercanías ticket” สำหรับเดินทางฟรีด้วยรถไฟภูมิภาค Cercanías, Rodalies และการขนส่ง FEVE รวมถึงรถราง Alicante
การเดินทางไปบาร์เซโลนาจากอัมสเตอร์ดัม
อัมสเตอร์ดัมตั้งอยู่ห่างจากบาร์เซโลประมาณ 1,538 กม. นักท่องเที่ยวที่ต้องการไปเที่ยวบาร์เซโลสามารถเชื่อมต่อการเดินทางจากเมืองใกล้เคียงได้สะดวก เช่น อัมสเตอร์ดัม บรัสเซลส์ ปารีส บอร์โด หรือมาดริด ครอบคลุมตัวเลือกด้วยเที่ยวบิน รถไฟ รถโคช และรถยนต์ ดังรายละเอียด
เที่ยวบาร์เซโลนาช่วงไหนดี
บาร์เซโลนานับเป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ของโลก จึงไม่แปลกใจที่จะเห็นสถานที่สำคัญต่าง ๆ หนาแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวหลายชาติ เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงความแออัดควรวางแผนมาเที่ยวบาร์เซโลนานอกฤดูกาลท่องเที่ยว ในช่วงเดือนมีนาคมถึงมิถุนายน อากาศอยู่ระหว่าง 15-25 องศา ไม่หนาวหรือร้อนจนเกินไป และยังเป็นเวลาที่ดีในการเดินเที่ยวกลางแจ้งและเพลิดเพลินกับดอกไม้ที่บานสะพรั่ง เช่นเดียวกับเดือนกันยายนถึงตุลาคม เป็นช่วงที่น่ามาเที่ยวบาร์เซโลนาเช่นกันเพราะสภาพอากาศยังคงอุ่น
ส่วนใครที่ต้องการเที่ยวแบบมีผู้คนพลุกพล่านน้อยกว่า แนะนำให้มาในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม ซึ่งเข้าสู่ปลายฤดูใบไม้ร่วง นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับสถานที่ท่องเที่ยวในบาร์เซโลนาได้แบบไม่แออัด แม้ว่าสภาพอากาศจะเย็นกว่าและอาจเปียกชื้นก็ตาม ในขณะที่ฤดูกาลท่องเที่ยวของบาร์เซโลนาคือช่วงเดือนพฤษภาคมถึงสิงหาคม ถ้าใครชอบเที่ยวแบบบรรยากาศคึกคักสุด ๆ ก็มาในช่วงเวลาเหล่านี้ได้
เที่ยวบาร์เซโลนาใช้งบเท่าไร
ค่าใช้จ่ายสำหรับเที่ยวบาร์เซโลนา 2 วัน 3 คืน สำหรับ 2 คน อยู่ที่ประมาณ 1,000-1,200 ยูโร คิดเป็นเงินไทยประมาณ 38,500-46,000 บาท ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายอาจเพิ่มขึ้นหรือลดลงตามปัจจัยต่าง ๆ เช่น ค่าที่พัก การเดินทาง อาหาร กิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงค่าที่จอดรถและค่าทางด่วน ซึ่งตัวเลขนี้ยังไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน เช็คราคาและจองตั๋วเครื่องบินราคาประหยัดได้ที่นี่
budget
โรงแรม: 90-140 ยูโร
โฮสเทล: 40-80 ยูโร
การเดินทาง: 16.40 ยูโร
ซื้อตั๋วเดินทาง
กิจกรรมและตั๋ว: 100-155 ยูโร
รถเช่า: 30-100 ยูโร
อาหาร: 15-30 ยูโร/มื้อ
เครื่องดื่ม: 10-15 ยูโร
เที่ยวอย่างอุ่นใจไปกับบัตรเดบิต Wise สำหรับใช้จ่ายทั่วโลก สามารถใช้ถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มต่างประเทศตามอัตราแลกเปลี่ยนจริงโดยไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง ใช้ชำระค่าอาหาร จองที่พักหรือตั๋วเครื่องบิน รวมถึงในร้านค้าออนไลน์ทั่วโลกกว่า 50+ สกุลเงิน ทั้งยังรองรับการชำระผ่าน MasterCard, Apple Pay และ Google Pay โดยไม่ต้องกังวลในการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน ใช้มานานกว่า 4 ปีไม่ผิดหวัง → สมัครรับบัตรเดบิต Wise ไว้ใช้ประโยชน์ด้วยตัวเองตอนนี้เลย
แผนที่เที่ยวบาร์เซโลนาด้วยตัวเอง
แหล่งข้อมูลวางแผนเที่ยว
Thank you
การเปิดเผย: บทความนี้มีลิงก์แอฟฟิลิเอทบางส่วน การกดที่ลิงก์ไม่มีค่าใช้จ่าย หากซื้อสินค้าหรือบริการจากลิงก์ดังกล่าว เราอาจได้รับค่ากำลังใจเล็กน้อยสำหรับนำไปพัฒนาบล็อก 🧡