เที่ยวมงแซงต์มิเชล (Mont Saint Michel) มหาวิหารกลางทะเลมรดกโลกของฝรั่งเศส คู่มือรวมการเดินทางจากปารีสแบบไปเช้าเย็นกลับ

มงแซงต์มิเชล (Mont-Saint-Michel) เป็นชุมชนบนเกาะหินขนาดเล็กที่ตั้งอยู่นอกชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของฝรั่งเศสใกล้กับพรมแดนระหว่างแคว้นนอร์มังดี (Normandy) และบริททานี (Brittany) มีชื่อเสียงเกี่ยวกับอารามยุคกลางที่สวยงาม และยังเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญยอดนิยมของฝั่งเศสที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวหลายล้านคนต่อปี

เกาะมงแซงต์มิเชลมีประวัติศาสตร์อันยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 เริ่มเป็นป้อมปราการเชิงกลยุทธ์และกลายเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมและศาสนาที่สำคัญในช่วงยุคกลาง ชื่อของเกาะได้มาจากอารามที่อุทิศให้กับเทวทูตไมเคิล ซึ่งสร้างขึ้นในสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 11 บนจุดสูงสุดของเกาะ และเป็นสถานที่แสวงบุญมานานหลายศตวรรษ สำนักสงฆ์โดดเด่นด้วยยอดแหลมแบบกอทิกและได้รับอิทธิพลแบบโรมาเนสก์ รวมถึงเพดานโค้งที่หรูหราและหน้าต่างกระจกสีที่สวยงาม

ลักษณะโดดเด่นที่สุดประการหนึ่งของมงแซงต์มิเชลคือสภาพแวดล้อมที่มีกระแสน้ำขึ้นน้ำลง ซึ่งเกาะตั้งอยู่ในบริเวณที่มีการเปลี่ยนแปลงของกระแสน้ำอย่างมากทำให้เกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับผู้มาเยือน เมื่อน้ำขึ้นเกาะจะถูกล้อมรอบบางส่วนหรือทั้งหมดด้วยน้ำทำให้ดูเหมือนปราสาทลอยน้ำได้ ในทางกลับกันเมื่อระดับน้ำลดลงจะเผยให้เห็นพื้นทรายและโคลนที่แผ่ขยายออกไปรอบเกาะ ทำให้สามารถเดินข้ามทางหลวงที่เชื่อมต่อเกาะกับแผ่นดินใหญ่ได้สะดวก

มงแซงต์มิเชลยังเป็นแหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโก ที่ผสมผสานความลงตัวระหว่างความสำคัญประวัติศาสตร์และความวิจิตรงดงามทางสถาปัตยกรรมได้อย่างลงตัว การเดินทางมาเยือนมงแซงต์มิเชลด้วยตัวเองจึงไม่เพียงแต่ได้สัมผัสความสวยงามตามธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังสามารถเยี่ยมชมอารามอันเก่าแก่ เดินเล่นไปตามถนนในยุคกลางที่ปูด้วยหินคดเคี้ยว และเพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพแบบพาโนรามาของอ่าวโดยรอบ ตลอดจนเข้าชมพิพิธภัณฑ์ เลือกซื้อของฝากร้านค้า และเก็บภาพความประทับใจ กิจกรรมทั้งหมดนี้แน่นอนว่าสามารถทำได้แบบไปเช้าเย็นกลับจากปารีส

ค่าเข้าชมมงแซงต์มิเชล

เกาะมงแซงต์มิเชลเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าฟรีโดยไม่จำเป็นต้องใช้ตั๋วเฉพาะ อย่างไรก็ตามถ้าต้องการเข้าไปชมด้านในมหาวิหารแอบบีดูมงแซงต์มิเชลซึ่งเป็นที่เที่ยวหลักจะต้องเสียค่าเข้าชม 11 ยูโร (สำหรับผู้ใหญ่) ส่วนพลเมืองสหภาพยุโรปอายุ 18-25 ปีเข้าชมฟรี (อย่าลืมเตรียมพาสปอร์ตหรือบัตรประชาชนมาด้วย) เช่นเดียวกับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีเข้าชมฟรี รวมถึงในวันอาทิตย์แรกของเดือนมกราคม กุมภาพันธ์ มีนาคม พฤศจิกายน และธันวาคม และในวันมรดกยุโรป (European Heritage Days)

นักท่องเที่ยวที่ต้องใช้ตั๋วเข้าชมสามารถจองตั๋วออนไลน์ไว้ก่อนได้ เนื่องจากในช่วงฤดูท่องเที่ยวหรือช่วงที่มีผู้คนพลุกพล่านอาจต้องรอคิวซื้อตั๋วนานกว่าจะเข้าไปด้านใน และถ้าเป็นไปได้แนะนำให้มาถึงที่นี่ในช่วงเช้าเพื่อหลีกเลี่ยงความแออัดในช่วงเที่ยงถึงบ่าย

เวลาเปิดมหาวิหารแอบบีดูมงแซงต์มิเชล

มหาวิหารแอบบีดูมงแซงต์มิเชลมีเวลาเปิดปิดดังนี้

• 1 พฤษภาคม ถึง 31 สิงหาคม: เวลา 09:00-19:00 น. สามารถจองตั๋วรอบสุดท้ายได้ถึงเวลา 17:00 น. อนุญาตให้เข้าชมรอบสุดท้ายเวลา 18:00 น. คืนออดิโอไกด์รอบสุดท้าย 17:45 น.
• 1 กันยายน ถึง 30 เมษายน: เวลา 09:30-18:00 น. สามารถจองตั๋วรอบสุดท้ายได้ถึงเวลา 16:00 น. อนุญาตให้เข้าชมรอบสุดท้ายเวลา 17:00 น. คืนออดิโอไกด์รอบสุดท้าย 16:45 น.
• ปิดบริการ: วันที่ 1 มกราคม 1 พฤษภาคม และ 25 ธันวาคม
• หมู่บ้านมงแซงต์มิเชล: สามารถเข้าได้ฟรีโดยไม่ต้องจองตั๋ว และไม่จำกัดเวลาการเข้าชม

ทำอะไรได้บ้างที่มงแซงต์มิเชล

ชมมหาวิหารแอบบีดูมงแซงต์มิเชล

มหาวิหารแอบบีดูมงแซงต์มิเชลเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่โดดเด่นที่สุดของเกาะมงแซงต์มิเชล เรียกได้ว่าถ้ามาที่นี่แล้วไม่เข้าชมมหาวิหารอาจจะมาไม่ถึงมงแซงต์มิเชลเลยก็ว่าได้ อารามแห่งนี้มีชื่อเสียงในด้านสถาปัตยกรรมที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ ซึ่งผสมผสานทั้งสไตล์โรมันและกอทิก ตั้งอยู่บนยอดเขาหินบนเกาะและเป็นผลงานชิ้นเอกของการก่อสร้างในยุคกลาง

จากทางเข้าเกาะนักท่องเที่ยวสามารถใช้เวลาประมาณ 20 นาทีเพื่อเดินตามบันไดหินไปยังมหาวิหารบนยอดเขา เมื่อมาถึงประตูทางเข้าแล้วจะพบกับทางเดินขึ้นบันไดขนาดใหญ่ไปยังจุดจำหน่ายตั๋ว ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ช่อง คือ ช่องซ้ายมือสำหรับกลุ่มทัวร์ ช่องตรงกลางคือคนที่จองตั๋วออนไลน์มาแล้ว ส่วนช่องขวามือคือคนที่ยังไม่มีตั๋วรอมาซื้อที่นี่

สำหรับคนที่ซื้อตั๋วมาแล้วแถวจะไม่ยาวใช้สแกนคิวอาร์โค้ดเข้าชมได้เลย ซึ่งแนะนำมาก ๆ สะดวกไม่ต้องรอคิวนาน พอผ่านจุดสแกนตั๋วแล้วก็สามารถเดินชมมหาวิหารได้ตามสะดวกเลย มหาวิหารแบ่งเป็นหลายจุด และมีจุดบอกหมายเลขสำหรับรับฟังออดิโอไกด์เพิ่มเติม ถ้าใครไม่มีสามารถขอรับได้ที่จุดจำหน่ายตั๋ว (3 ยูโร)

เมื่อเดินเข้ามาด้านในมหาวิหารจะพบสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ส่วนใหญ่โครงสร้างทำจากหินแข็งแรง ส่วนด้านนอกมีจุดชมวิวมองเห็นทะเลขนาดใหญ่ ตอนที่เราไปน้ำขึ้นพอดี แต่พอเดินเที่ยวไปสักพักน้ำลดลง มองเห็นคนเดินลุยดินทรายโคลนในทะเลด้วย เรียกได้ว่าเป็นประสบการณ์การผจญภัยที่สนุกไปอีกหนึ่งแบบ จะว่าไปเราก็เคยเดินแบบนี้เหมือนกันแต่เป็นที่เนเธอร์แลนด์เดินลุยโคลนในทะเลวาดเดน (Wadden Sea) ที่เรียกว่า “Wadlopen” เป็นอีกหนึ่งมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก อย่างไรก็ตามอากาศในมหาวิหารค่อนข้างเย็นทีเดียว ส่วนนอกนอกก็มีลมพัดแรง อย่าลืมเตรียมเสื้อแขนยาวมาเผื่อด้วยนะคะ

การเดินชมมหาวิหารใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ตอนแรกเราคิดว่าเล็กแต่พอมาเดินจริง ๆ ใหญ่มาก ด้านในมีหลายโซนและมีทางเชื่อมถึงกัน และเป็นทางเดินแบบวันเวย์ไปสิ้นสุดที่ทางออกเลยทำให้คนไม่แออัดและสะดวกในการเข้าชม สำหรับคนมีออดิโอไกด์อาจจะใช้เวลานานกว่านี้เพราะต้องฟังข้อมูลแต่ละจุด แนะนำให้เผื่อเวลาไว้ประมาณ 1.30 ชั่วโมง

ชมพิพิธภัณฑ์ในเกาะมงแซงต์มิเชล

นอกจากมหาวิหารแอบบีดูมงแซงต์มิเชลแล้วด้านในเกาะยังมีพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กอีก 4 แห่ง คือ Maritime Museum, Logis Tiphaine, Archéoscope, Historical Museum ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม ใครที่สนใจสามารถซื้อตั๋วได้ที่หน้างานหรือจองล่วงหน้าออนไลน์ไว้ก่อน ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์แต่ละแห่งราคา 9 ยูโร เพื่อความประหยัดสามารถใช้บัตรผ่านราคา 18 ยูโรสำหรับเข้าชมพิพิธภัณฑ์ทั้ง 4 แห่ง

ลิ้มลองกาเล็ตต์ชาวเบรอตงแบบดั้งเดิม

แน่นอนว่าเดินชมสิ่งต่าง ๆ ในเกาะมงแซงต์มิเชลแล้วหลายคนอาจจะอยากหาอะไรทาน และจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากกาเล็ตต์ (เครป) ชาวเบรอตงแบบดั้งเดิม (Galettes bretonnes) ซึ่งเป็นอาหารยอดนิยมในแคว้นบริททานี

กาเล็ตต์นี้มีรูปร่างไม่เหมือนกับเครปทั่วไปเพราะขั้นตอนการทำจะใช้แป้งบัควีทเป็นหลักเพราะให้รสชาติที่โดดเด่น คนที่แพ้กลูเตนก็สามารถทานได้ จากนั้นเพิ่มส่วนผสม เช่น แฮม ชีส ไข่ เห็ด ผักโขม มะเขือเทศ และไส้กรอก เรียกได้ว่าเป็นการผสมผสานแบบไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อส่วนผสมได้ที่ก็พับด้านทั้งสี่จนเป็นรูปสี่เหลี่ยมพร้อมเสิร์ฟ

กาเล็ตต์ยอดนิยมคือแบบที่ใส่ไข่ดาว แฮม และชีส ทานแล้วให้รสชาติมันและเค็มนิด ๆ แต่กลมกล่อมกับแป้ง สำหรับใครที่ชอบหวานลองทานแบบมีท็อปปิ้งผลไม้และไอศรีม ร้านที่แนะนำคือ La Sirène Lochet ตั้งอยู่ใกล้กับทางเข้าเกาะ ถ้าไปแล้วอาจจะต้องรอคิวหน่อยเพราะคนเยอะ

เดินชมหมู่บ้านยุคกลางในเกาะมงแซงต์มิเชล

จากมหาวิหารแอบบีดูมงแซงต์มิเชลและกาเล็ตต์ยอดนิยมกันไปแล้ว อีกหนึ่งกิจกรรมที่พลาดไม่ได้เลยก็คือการเดินชมหมู่บ้านยุคกลางในเกาะมงแซงต์มิเชล ซึ่งตัวหมู่บ้านตั้งอยู่ตามพื้นที่ของเกาะไล่ระดับความสูงขึ้นไปตามยอดหิน ว่ากันว่าบ้านที่ตั้งอยู่สูงมักจะเป็นคฤหาสน์หรือปราสาทของเจ้าเมือง ซึ่งสะท้อนลำดับชั้นในสังคมยุคกลาง

ส่วนตัวบ้านมักทำจากหินหรือไม้ และถูกสร้างขึ้นใกล้กันเพื่อให้ทนต่อสภาพอากาศและการโจมตีที่อาจเกิดขึ้นได้ หมู่บ้านยุคกลางหลายแห่งยังมีกำแพง หอสังเกตการณ์ และประตูป้องกันด้วย เช่นเดียวกับหมู่บ้านมงแซงต์มิเชลที่มีกำแพงเมืองและหอคอยหลายแห่ง นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นหอคอยเหล่านั้นเพื่อไปชมความสวยงามของอ่าวรอบเกาะได้ เช่น Freedom Tower และ La Tour Gabriel อย่าลืมแวะไปชมถนนถนนที่เล็กที่สุดในมงแซงต์มิเชลด้วยนะคะ ซึ่งแคบมากแบบเดินได้ทีละคน พิกัดอยู่ที่ถนน Grande Rue แล้วเลี้ยวซ้ายหน้า Hotel La Croix Blanche จะเจอกับถนนนี้เลย

การเดินชมหมู่บ้านยุคกลางในเกาะมงแซงต์มิเชลนับว่าได้เห็นสถานที่น่าทึ่งมาก ทั้งยังเต็มไปด้วยคำถามว่าสร้างกันได้อย่างไรเพราะพื้นที่ค่อนข้างคับแคบและชันมาก อย่างไรก็ตามเราจะเห็นว่าสภาพบ้านเรือนของที่นี่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีและปรับปรุงให้มีความเหมาะสมตามกาลเวลา ซึ่งอาจจะแตกต่างจากหมู่บ้านยุคกลางหลายแห่งที่ต้องเผชิญกับความเสื่อมถอยเนื่องจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงเส้นทางการค้าหรือความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม ในที่สุดบางส่วนก็ถูกทิ้งร้างกลายเป็นเมืองร้างและซากปรักหักพังไว้เบื้องหลัง

ท้ายที่สุดของการเยี่ยมชมเกาะดูมงแซงต์มิเชลจะพบว่าความสวยงามอาจไม่ได้มีแค่ภายนอกเกาะ แต่ยังรวมไปถึงสถานที่ทางประวัติศาสตร์อย่างมหาวิหารแอบบีดูมงแซงต์มิเชล ตลอดจนพิพิธภัณฑ์ที่ให้ความรู้ รวมถึงหมู่บ้านยุคกลางที่ท้าทายความสามารถของมนุษย์ในการสร้างบ้านเรือนบนยอดหินท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่มีน้ำขึ้นลงอยู่เป็นประจำ พอทุกอย่างมารวมแล้วนับว่าเป็นสถานที่ที่ไม่แปลกใจว่าทำไมถึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก แล้วก็คุ้มค่ากับค่าตั๋วและการเดินทางมาชมในครั้งนี้เป็นอย่างมาก

การเดินทางไปเช้าเย็นกลับมงแซงต์มิเชลจากปารีส

ปารีสตั้งอยู่ห่างจากมงแซงต์มิเชลประมาณ 370 กม. นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงมงแซงต์มิเชลได้ด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ครอบคลุมถึงรถไฟ รถบัส รวมไปถึงรถยนต์ เราจะมาอธิบายรายละเอียดเริ่มที่การเดินทางไปมงแซงต์มิเชลจากปารีสด้วยรถไฟแบบเดย์ทริปก่อน

การเดินทางจากปารีสไปมงแซงต์มิเชลด้วยรถไฟ

การเดินทางจากปารีสไปมงแซงต์มิเชลไม่มีรถไฟขบวนตรงไปถึงเลย แต่สามารถใช้บริการรถไฟสองแบบเพื่อไปยัง Pontorson หรือ Rennes จากนั้นต่อรถบัสรับส่งไปยังมงแซงต์มิเชล ดังรายละเอียด

Paris – Pontorson

มีรถไฟภูมิภาคของ SNCF (Train Nomad) ให้บริการจากสถานี Paris Montparnasse ไปยังสถานี Pontorson – Mont-St-Michel การเดินทางใช้เวลา 3 ชม. 49 นาที เมื่อถึงสถานี Pontorson แล้วสามารถนั่งรถบัสรับส่งต่อไปยังแซงต์มิเชลใช้เวลาประมาณ 25 นาที (รถบัสจะไปจอดที่ทางเข้าด้านหน้าเกาะเลย)

รถไฟปารีสมงแซงต์มิเชล + รถรับส่ง เป็นรถไฟขบวนพิเศษให้บริการเพียง 1 เที่ยวต่อวัน วันจันทร์–ศุกร์: ออกเดินทางเวลา 07:32 น. จากสถานี Paris Montparnasse 1&2 ไปถึงสถานี Pontorson เวลา 11:21 น. จากนั้นต่อรถบัสรับส่งเวลา 11:36 น. ไปถึงมงแซงต์มิเชลเวลา 12:01 น. ตั๋วรถไฟชั้นสองราคา 29 ยูโร รวมรถรับส่งจากสถานี Pontorson ถ้าโชว์ตั๋วรถไฟ SNCF สามารถใช้เป็นส่วนลด 2 ยูโรสำหรับเข้าชมมหาวิหารแอบบีดูมงแซงต์มิเชลในราคา 9 ยูโร จากราคาปกติ 11 ยูโร

ในขณะที่วันเสาร์–อาทิตย์: รถไฟออกเดินทางเวลา 08:54 น. จากสถานี Paris Montparnasse 1&2 ไปถึงสถานี Pontorson เวลา 12:40 น. จากนั้นต่อรถบัสรับส่งเวลา 12:55 น. ไปถึงมงแซงต์มิเชลเวลา 13:20 น. ตั๋วรถไฟชั้นสองราคา 29 ยูโร รวมรถรับส่งจากสถานี Pontorson ถ้าโชว์ตั๋วรถไฟ SNCF สามารถใช้เป็นส่วนลด 2 ยูโรสำหรับเข้าชมมหาวิหารแอบบีดูมงแซงต์มิเชลในราคา 9 ยูโร จากราคาปกติ 11 ยูโร

ตอนจองตั๋วรถไฟปารีสมงแซงต์มิเชล + รถรับส่ง ราคา 29 ยูโร ให้ระบุปลายว่า “Mont-Saint-Michel” เพราะถ้าเลือก “Pontorson – Mont-Saint-Michel” ราคาจะอยู่ที่ 26 ยูโร ไม่รวมรถรับส่งไปมงแซงต์มิเชล และต้องซื้อตั๋วแยกต่างหากสำหรับรถรับส่งในราคา 3.10 ยูโร และที่สำคัญช่วงฤดูท่องเที่ยวคนรอรถบัสเยอะมาก ดังนั้นแนะนำให้จองตั๋วรถไฟ + รถรับส่งไปเลยจะสะดวกกว่า

Paris – Rennes

มีรถไฟความเร็วสูงของ TGV และ OUIGO ให้บริการจากสถานี Paris Montparnasse ไปยังสถานี Rennes การเดินทางใช้เวลา 1 ชม. 31 นาที เมื่อถึงสถานี Rennes แล้วสามารถนั่งรถบัสรับส่งของ Keolis-Armor ต่อไปยังแผ่นดินใหญ่แซงต์มิเชลใช้เวลาประมาณ 1 ชม 10 นาที จากนั้นสามารถต่อรถบัสรับส่งที่ชื่อว่า ‘Navette Le Passeur’ (ฟรี) อีกประมาณ 12 นาทีไปยังเกาะมงแซงต์มิเชล

รถไฟปารีสมงแซงต์มิเชลไป Rennes วิ่งทุกวัน ความถี่ 20 ขบวนต่อวัน ขบวนแรกออกเดินทางเวลา 06:45 นาที ขบวนสุดท้ายออกเดินทางเวลา 21:21 น. ราคาตั๋วเดินออกทางเริ่มต้น 39 ยูโร (ขึ้นอยู่กับฤดูกาลท่องเที่ยว) วันธรรมดาราคาตั๋วถูกกว่าวันเสาร์อาทิตย์ และควรจองตั๋วล่วงหน้า 1-2 เดือน

การเดินทางกลับไปปารีสจากมงแซงต์มิเชลด้วยรถไฟ

Pontorson – Paris: เดินทางวันจันทร์–ศุกร์ นั่งรถบัสรับส่งจากมงแซงต์มิเชล เวลา 17:34 น. ถึงสถานี Pontorson เวลา 17:59 น. จากนั้นเดินทางด้วยรถไฟ SNCF (Train Nomad) เวลา 18:14 น. ไปถึงสถานี Paris Montparnasse เวลา 22:06 น. ในขณะที่เดินทางวันเสาร์–อาทิตย์ นั่งรถบัสรับส่งจากมงแซงต์มิเชลเวลา เวลา 17:24 น. ถึงสถานี Pontorson เวลา 17:49 น. จากนั้นเดินทางด้วยรถไฟ SNCF (Train Nomad) เวลา 18:06 น. ไปถึงสถานี Paris Montparnasse เวลา 22:06 น. ตั๋วรถไฟราคา 29 ยูโร รวมรถรับส่งจากมงแซงต์มิเชล

Rennes – Paris: นั่งรถบัสรับส่งของ Keolis-Armor (15 ยูโร) จากแผ่นดินใหญ่มงแซงต์มิเชล เวลา 17:00 น. ถึงสถานีสถานี Rennes เวลา 18:10 น. จากนั้นเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูงของ OUIGO เวลา 19:08 น. ไปถึงสถานี Paris Montparnasse เวลา 22:26 น. ราคาตั๋วรถไฟเริ่มต้น 29 ยูโร (ขึ้นอยู่กับฤดูกาลท่องเที่ยว) วันธรรมดาราคาตั๋วถูกกว่าวันเสาร์อาทิตย์ และควรจองตั๋วล่วงหน้า 1-2 เดือน

การเดินทางจากปารีสไปมงแซงต์มิเชลด้วยรถบัส

แม้ว่าการเดินทางด้วยรถไฟจะเป็นวิธีที่สะดวก แต่การเดินทางด้วยรถบัสก็มีความสะดวกไม่แพ้กัน เนื่องจากสามารถเดินทางด้วยรถบัสสายตรงไปยังมงแซงต์มิเชลเลยโดยที่ไม่ต้องต่อรถบัสจากสถานีรถไฟ Pontorson หรือ Rennes ซึ่งมีรถบัสให้บริการของบริษัท FlixBus และ BraBracar Bus

FlixBus: มีรถโคชให้บริการจากสถานี Paris Pont de Levallois เวลา 08:15 น. ไปยังแผ่นดินใหญ่มงแซงต์มิเชล เวลา 12:50 น. การเดินทางใช้เวลาเพียง 4 ชม. 35 นาที เมื่อถึงสถานีจอดรถบัสแล้วสามารถนั่งรถรับส่งของ Le Passeur (ฟรี) อีก 12 นาทีไปยังเกาะมงแซงต์มิเชล ราคาตั๋วโดยสาร 29 ยูโร รถบัสให้บริการ 2 เที่ยวต่อวัน เที่ยวแรกออกเวลา 07:00 น. และเที่ยวสุดท้ายออกเวลา 08:15 น.

รถ FlixBus ขากลับจากมงแซงต์มิเชล ให้บริการ 2 เที่ยวต่อวัน เที่ยวแรกออกเวลา 14:55 น. ถึงปารีสเวลา 19:50 น. ในขณะที่เที่ยวสุดท้ายออกเวลา 17:00 น. ถึงปารีสเวลา 21:45 น. การเดินทางใช้เวลา 4 ชม. 45 นาที

BraBracar Bus: เป็นรถบัสที่ได้รับความนิยมในฝรั่งเศส ให้บริการจากปารีสไปในมงแซงต์มิเชลในเวลา 4 ชม. 20 นาที ราคาตั๋วโดยสารเฉลี่ยระหว่าง 26-33 ยูโร รถบัสให้บริการ 5 เที่ยวต่อวัน เที่ยวแรกออกเวลา 06:50 น. และเที่ยวสุดท้ายออกเวลา 15:00 น.

การเดินทางจากปารีสไปมงแซงต์มิเชลด้วยรถยนต์

นอกจากการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะจากปารีสไปมงแซงต์มิเชลแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินทางด้วยรถยนต์ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข A13 จากปารีสไปทางตอนเหนือของฝรั่งเศสจนถึงเมือง Caen จากนั้นใช้ถนนวงแหวนด้านใต้ Périphérique Sud ไปยังทางออกหมายเลข A84 ซึ่งมีป้ายบอกทาง “Mont-Saint-Michel” และขับต่อไปจนกว่าจะถึงมงแซงต์มิเชล การเดินทางใช้เวลา 3 ชม. 46 นาที เส้นทางเหล่านี้อาจต้องจ่ายทางด่วน ควรเตรียมเงินไว้ประมาณ 35-50 ยูโร

เมื่อถึงมงแซงต์มิเชลแล้วสามารถหาที่จอดรถได้ที่ Mont Saint-Michel Parking ในช่องหมายเลข P2-P13 ซึ่งอยู่ใกล้สถานีรถรับส่ง Le Passeur ไปเกาะมงแซงต์มิเชล ที่จอดรถให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่ต้องจองตั๋วล่วงหน้า ราคาที่จอดรถขึ้นอยู่กับฤดูกาลและจำนวนชั่วโมง โดยสามารถจอดฟรีได้ 30 นาที ในขณะที่จอด 30 นาที ถึง 3 ชั่วโมง ราคา 8-17 ยูโร เช่นเดียวกับจอด 3-6 ชั่วโมง ราคา 10-21 ยูโร ถ้าจอด 6-24 ชั่วโมง ราคา 12-25 ยูโร ค่าที่จอดรถรวมรถบัสรับส่งและค่าบริการฟรีอื่น ๆ เช่น ห้องน้ำ ศูนย์บริการข้อมูล ฯลฯ

การเดินทางจากปารีสไปมงแซงต์มิเชลด้วยทัวร์

เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับคนที่ชอบการท่องเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับจากปารีสไปมงแซงต์มิเชล ทัวร์มาพร้อมไกด์ท้องถิ่นที่ให้ความรู้เกี่ยวกับมงแซงต์มิเชลเป็นภาษาอังกฤษ พร้อมตัวเลือกเครื่องออดิโอไกค์สำหรับฟังคำอธิบายเพิ่มเติม และยังรวมตั๋วเข้าชมมหาวิหารแอบบีดูมงแซงต์มิเชล และรถโคชปรับอากาศไปกลับ ทัวร์ใช้เวลาประมาณ 14 ชั่วโมง ระหว่างเวลา 07:30-21:30 น. อย่าลืมเตรียมรองเท้าที่เหมาะสำหรับการเดินมาด้วย

รถบัสรับส่ง Le Passeur ไปเกาะมงแซงต์มิเชล

หลังจากเดินทางมาถึงแผ่นดินใหญ่มงแซงต์มิเชลแล้วด้วยรถรับส่งจากสถานีรถไฟ Rennes รถโคช FlixBus และ BraBracar Bus รวมถึงรถยนต์ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางต่อไปยังเกาะมงแซงต์มิเชลได้ 3 วิธี คือ นั่งรถรับส่ง Le Passeur นั่งรถม้า หรือเดิน วิธีที่ได้รับความนิยมคือนั่งรถรับส่งเพราะใช้เวลาไม่นาน

• Le Passeur: เป็นรถรับส่งบริการฟรีจากป้าย Navettes “le Passeur” ตั้งอยู่ใกล้กับสำนักงานบริการข้อมูลท่องเที่ยว ไปยังเกาะมงแซงต์มิเชล การเดินทางใช้เวลา 12 นาที รถรับส่งให้บริการทุกวัน ความถี่ 5-20 นาที ตั้งแต่เวลา 07:30-24:00 น. จากประสบการณ์ตรงใช้เวลารอรถรับส่งประมาณ 15 นาที (ต้นเดือนกันยายน) รถสามารถจุนักท่องเที่ยวได้ประมาณรอบละ 30-40 คน และจะขับจากจุดนี้จะไปจอดรับผู้โดยสารระหว่างทางอีก 2 ป้ายแล้วก็ไปสิ้นสุดที่สะพาน Pont Passerelle du Mont Saint-Michel ซึ่งอยู่ห่างจากทางเข้าเกาะมงแซงต์มิเชลประมาณ 5 นาที ในขณะที่ขากลับก็มารอรถบัสบนสะพานเหมือนเดิมแต่เป็นฝั่งตรงข้ามกับรถตอนขามา
• A horse-drawn carriage: มีรถม้าให้บริการผ่านสะพานไปยังทางเข้าเกาะมงแซงต์มิเชลในเวลา 25 นาที ความถี่แต่ละรอบขึ้นอยู่กับฤดูกาล
• On foot: การเดินไปยังเกาะมงแซงต์มิเชลใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที

พักค้างคืนในมงแซงต์มิเชล

สำหรับคนที่ไม่สะดวกเที่ยวมงแซงต์มิเชลแบบไปเช้าเย็นกลับสามารถหาที่พักใกล้กับมงแซงต์มิเชลเพื่อเที่ยวแบบค้างคืนได้เช่นกัน วิธีนี้ทำให้ไม่เหนื่อยกับการทางและยังมีเวลาเดินเที่ยวกับมงแซงต์มิเชลแบบเต็มอิ่มอีกด้วย ซึ่งที่พักใกล้กับมงแซงต์มิเชลมีอยู่หลายแห่ง เช่น พักในเกาะมงแซงต์มิเชลเลย หรือเลือกพักในแผ่นดินใหญ่มงแซงต์มิเชลแล้วนั่งรถบัสเข้าไปที่เกาะ หรือพักที่เมืองใกล้เคียง เช่น Pontorson และ Rennes แล้วค่อยนั่งรถบัสรับส่งหรือขับรถยนต์ไปที่แผ่นดินใหญ่มงแซงต์มิเชลภายในเวลา 1-2 ชั่วโมง

เที่ยวมงแซงต์มิเชลใช้เวลานานเท่าไร

มงแซงต์มิเชลมีขนาดใหญ่ไม่มากสามารถใช้เวลาเดินเที่ยวได้ใน 1-2 ชั่วโมง อย่างไรก็ตามเวลาที่ต้องเผื่อไว้สำหรับการเที่ยวที่นี่ขึ้นอยู่กับการเดินทางซะมากกว่า โดยเฉพาะผู้ที่ต้องเดินทางมาจากปารีสต้องใช้เวลาแบบเดย์ทริปเลย ในขณะที่คนที่เลือกพักเมืองใกล้เคียงอย่าง Pontorson และ Rennes สามารถเที่ยวได้แบบ 5-6 ชั่วโมงรวมการเดินทาง ที่สำคัญอย่าลืมวางแผนมาถึงแต่เช้าเพื่อใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุดและช่วยหลีกเลี่ยงจำนวนนักท่องเที่ยวที่แออัดในช่วงสาย รายการด้านล่างคือเวลาการเดินทางและการเดินเที่ยวมงแซงต์มิเชลโดยประมาณ

• เดินทางจากปารีสใช้เวลาประมาณ 3 ชม. 50 นาที
• นั่งรถบัสจากสถานีรถไฟ 25-30 นาที
• นั่งรถรับส่งไปยังเกาะใช้เวลา 12 นาที
• เดินจากทางเข้าไปยังมหาวิหาร 20 นาที
• เดินชมด้านในมหาวิหารใช้เวลา 1 ชั่วโมง
• เดินชมหมู่บ้านอีก 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง
• ใช้เวลารวมประมาณ 3-6 ชั่วโมง ถ้ามาแบบไปเช้าเดินกลับได้แน่นอน
• ถ้าใครไม่อยากเดินทางเหนื่อยแนะนำให้พักแบบค้างคืนจะสะดวกกว่า

เที่ยวมงแซงต์มิเชลช่วงไหนดี

มงแซงต์มิเชลสามารถเที่ยวได้ทั้งปีขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนรวมถึงสิ่งที่อยากเห็นในแต่ละฤดูกาล อย่างไรก็ตามช่วงที่แนะนำคือระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม เนื่องจากมีสภาพอากาศที่เหมาะสำหรับการเดินชมมงแซงต์มิเชล เวลาที่แนะนำคือระหว่าง 09:00-11:00 น. หรือจากเวลา 15:00-16:00 น. ถ้าเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงช่วงเวลาเที่ยงโดยเฉพาะฤดูท่องเที่ยวเพราะจำนวนนักท่องเที่ยวค่อนข้างหนาแน่น ทั้งนี้อย่าลืมเช็คช่วงเวลาน้ำขึ้นน้ำลงรวมถึงตารางเวลาเดินรถกลับไปยังปารีสหากไม่ได้พักค้างคืนที่มงแซงต์มิเชล

การเดินทางไปมงแซงต์มิเชลจากอัมสเตอร์ดัม

อัมสเตอร์ดัมตั้งอยู่ห่างจากปารีสประมาณ 539 กม. นักท่องเที่ยวที่ต้องการไปเที่ยวมงแซงต์มิเชล แนะนำให้พักค้างคืนที่ปารีส แล้วเที่ยวจากปารีสไปมงแซงต์มิเชลแบบเดย์ทริปจะสะดวกกว่า

เรื่องน่ารู้ก่อนไปเที่ยวมงแซงต์มิเชล

เที่ยวมงแซงต์มิเชลงบเท่าไร

ค่าใช้จ่ายสำหรับเที่ยวมงแซงต์มิเชลแบบเดย์ทริปอยู่ที่ประมาณ 110-135 ยูโร ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายอาจเพิ่มขึ้นหรือลดลงตามปัจจัยต่าง ๆ เช่น ค่าที่พัก การเดินทาง อาหาร และกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงค่าที่จอดรถและค่าทางด่วน ซึ่งตัวเลขนี้ยังไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน เช็คราคาและจองตั๋วเครื่องบินราคาประหยัดได้ที่นี่

แผนที่เที่ยวมงแซงต์มิเชลด้วยตัวเอง