ไลเด้น (Leiden) เป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่สวยงามของเนเธอร์แลนด์ ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ตั้งอยู่ในจังหวัดเซาท์ฮอลแลนด์ ห่างจากอัมสเตอร์ดัมประมาณ 33 นาที โดยได้รับการกล่าวขานว่าเป็นเมืองแห่งกุญแจ “City of Keys” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการปกป้องเมือง และยังมีชื่อเสียงในเรื่องของลำคลองที่สวยงาม รวมไปถึงที่เที่ยวทางวัฒนธรรมน่าสนใจหลายแห่ง ตั้งแต่ป้อมปราการอันเก่าแก่ “De Burcht” ไปจนถึงสวนพฤกษศาสตร์ “Hortus Botanicus” อันเขียวขจี ไลเด้นยังเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงอย่าง “Leiden University” และยังเป็นบ้านเกิดของจิตรกรชื่อดังอย่าง “แร็มบรันต์” อีกด้วย การเดินทางมาเที่ยวที่นี่จึงมีที่เที่ยวและกิจกรรมน่าสนใจให้นักท่องเที่ยวเลือกทำหลากหลาย
30 ที่เที่ยวน่าสนใจในไลเด้น (Leiden)
พิพิธภัณฑ์ความหลากหลายทางชีวภาพเมืองไลเด้น
Naturalis Biodiversity Center เป็นที่เที่ยวในไลเด้นที่ต้องยกไว้เป็นอันดับแรกเนื่องจากมีความน่าสนใจและคุ้มค่ากับตั๋วเข้าชมมาก ๆ ตั้งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟเมืองไลเด้นประมาณ 9 นาที ด้านในรวบรวมเรื่องราวของธรรมชาติและสิ่งมีชีวิตนานาพันธุ์ รวมไปถึงประวัติความเป็นมาของมนุษย์โลกย้อนไปตั้งแต่ยุคหินและยุคไดโนเสาร์ และที่สำคัญยังมีการจัดแสดงโครงกระดูกไดโนเสาร์สายพันธุ์ต่าง ๆ แบบของจริงไว้มากมาย เช่น โครงกระดูกของทีแร็กซ์ (Trix) อายุกว่า 67 ล้านปี เนื่องจากที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่แนะนำให้เผื่อเวลาไว้ประมาณ 2 ชั่วโมงจะได้เดินแบบทั่วถึง
เปิดทุกวัน เวลา 10:00-17:00 น. ราคาตั๋วเข้าชม 17 ยูโร หรือใช้บัตร Museumkaart เข้าชมฟรี จองตั๋วออนไลน์ก่อนเข้าชมได้ที่ Naturalis Biodiversity Center Ticket
การเดินทางไปยังพิพิธภัณฑ์ สามารถเดินจากสถานีรถไฟ Leiden Centraal ประมาณ 9 นาที หรือนั่งรถบัสสาย 30, 31 และ 38 จากสถานี Leiden Centraal ไปยังสถานี Naturalis แล้วเดินข้ามถนนไปยังทางเข้าพิพิธภัณฑ์
เมื่อเข้าชมพิพิธภัณฑ์ Naturalis Biodiversity Center แล้วสามารถเดินทางกลับมาตั้งต้นที่สถานีรถไฟเมืองไลเด้นเพื่อเดินไปยังที่เที่ยวถัดไปนั้นก็คือ Molen De Valk ตั้งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟประมาณ 5 นาที เพียงเดินตามถนน Stationsweg มาถึงสะพาน Rijnsburgerbrug จากนั้นเดินเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนน 2e Binnenvestgracht เราจะพบกับโรงสีและพิพิธภัณฑ์ Molen De Valk ส่วนใครที่อยากถ่ายภาพกังหันลมนี้สามารถหามุมสวย ๆ ได้จากสะพาน Rijnsburgerbrug ซึ่งเป็นมุมที่เรามักเห็นภาพบ่อย ๆ ในโลกออนไลน์
โรงสีและพิพิธภัณฑ์ Molen De Valk ที่เที่ยวในไลเด้น
หลายคนอาจจะเคยเห็นกังหันลมจำนวนมากในเนเธอร์แลนด์มาก่อน และอาจมีคำถามว่ากังหันลมเหล่านั้นมีไว้ทำอะไร? ภายในโรงสีมีลักษณะอย่างไร? และพวกเขาทำงานกันอย่างไรบ้าง? โรงสีและพิพิธภัณฑ์ Molen De Valk จะพาทุกคนไปค้นหาคำตอบเหล่านั้นกัน
Molen De Valk เป็นโรงสีแบบหอคอยสูง 29 เมตร สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1743 เป็นโรงสีดั้งเดิมแห่งสุดท้ายที่เคยตั้งอยู่บนกำแพงเมืองไลเด้น ในอดีตโรงสีแห่งนี้เคยเป็นโรงโม่แป้งจากเมล็ดธัญพืชโดยใช้พลังงามลมจากกังหัน โรงสียังถูกต่อเติมเป็นที่อยู่อาศัย ห้องครัว ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย รวมไปถึงห้องเก็บของและคอกม้า อย่างไรก็ตามหลังการเปลี่ยนเจ้าของหลายครั้งในที่สุด Molen De Valk ก็ได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ในปี พ. ศ. 2509 และเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชม
เวลาเปิด: วันอังคาร-เสาร์ 10:00-17:00 น. วันอาทิตย์ เวลา 13:00-17:00 น. ราคาตั๋วเข้าชม 5.50 ยูโร หรือใช้บัตร Museumkaart เข้าชมฟรี จองตั๋วก่อนเข้าชมได้ที่ Molen Museum De Valk Reservation
พิพิธภัณฑ์ชาติพันธุ์วิทยาแห่งชาติ (Museum Volkenkunde)
จากกังหันลม Molen De Valk สามารถเดินย้อนกลับมาที่ถนน Steenstraat จะเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ชาติพันธุ์วิทยาแห่งชาติ (National Museum of Ethnology) หรือเรียกในภาษาดัตช์ว่า “Museum Volkenkunde” ที่นี่เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์สามแห่งของพิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมโลกแห่งชาติ (NMVW; National Museum of World Cultures) ซึ่งประกอบไปด้วยพิพิธภัณฑ์ Tropenmuseum ในกรุงอัมสเตอร์ดัม พิพิธภัณฑ์ Afrika Museum ในเมืองไนเมเคิน และพิพิธภัณฑ์ Museum Volkenkunde ในเมืองไลเด้น ซึ่งเปิดมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2380 และมีการเปลี่ยนชื่อหลายครั้ง ก่อนที่จะดัดแปลงมาเป็นพิพิธภัณฑ์ชาติพันธุ์วิทยาแห่งชาติและเปลี่ยนชื่อพิพิธภัณฑ์เป็น Volkenkunde ในปี พ.ศ. 2548
ภายใน Museum Volkenkunde มีทั้งหมด 3 ชั้น นิทรรศการหลักตั้งอยู่ที่ชั้นใต้ดินไปจนถึงชั้นที่สอง ส่วนชั้นที่สามเป็นออฟฟิตการทำงาน ที่นี่รวบรวมวัตถุที่มีค่าและคอลเลกชันสำคัญทางประวัติศาสตร์ไว้มากกว่า 450,000 รายการ สะท้อนให้เห็นเรื่องราวของชาติพันธุ์จากชนชาติต่าง ๆ เช่น แอฟริกา กรีนแลนด์ จีน อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เกาหลี ละตินอเมริกา อเมริกาเหนือ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไว้ ตลอดจนรวมพระพุทธรูปอายุประมาณ 1,300 ปี เครื่องประดับทอง รูปปั้นบรรพบุรุษ และวัตถุในพิธีกรรมมีอายุย้อนไปถึงศตวรรษที่ 19 นับว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จะพาทุกคนไปเรียนรู้เรื่องราวของมนุษย์โลกและประเพณีต่าง ๆ ที่แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างแต่ทุกคนก็เป็นมนุษย์เหมือนกันไว้ได้อย่างน่าสนใจ
เวลาเปิด: วันจันทร์-ศุกร์ 10:00-17:00 น. ราคาตั๋วเข้าชม 15 ยูโร หรือใช้ Museumkaart เข้าชมฟรี
ประตูเมือง Morspoort ที่เที่ยวในไลเด้น
ทางด้านหลังของ Museum Volkenkunde ถ้าเดินมาเรื่อย ๆ จะเจอกับที่เที่ยวถัดไปนั้นก็คือประตูเมือง Morspoot ซึ่งเป็นหนึ่งในประตูเมืองสองแห่งจากทั้งหมดสิบแห่งที่ยังหลงเหลืออยู่ ส่วนประตูอื่น ๆ นั้นพังยับเยินในศตวรรษที่ 19 ระหว่างการขยายตัวของเมือง ประตูเมือง Morspoort ได้ถูกตั้งชื่อตามพื้นที่หนองน้ำด้านนอกของเมือง ด้านหน้าของประตูมีความสวยงามสามารถมองเห็นสะพาน Morspoortburg พื้นที่โดยรอบมีร้านอาหาร ถ้าเดินผ่านประตูไปตามถนน Morsstraat จะเจอกับเส้นทางหลักของเมือง ที่นั่นยังเป็นที่ตั้งของท่าเทียบเรือนักท่องเที่ยวอีกด้วย
โรงสี Molen De Put ที่เที่ยวในไลเด้น
เดินต่อไปทางขวามือของประตูเมือง Morspoort โดยที่ไม่ต้องข้ามสะพาน Morspoortburg เราจะพบกับโรงสี Molen De Put ซึ่งเป็นโรงสีดั้งเดิมอีกหนึ่งแห่งของเมืองไลเด้น ที่นี่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1619 ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงหลายครั้งจากการขยายจำนวนประชากรและพื้นที่เมืองไลเด้น ในที่สุดก็ถูกสร้างขึ้นใหม่ในปี ค.ศ.1987 ที่ริมแม่น้ำในเขตเมืองเก่าของไลเด้น ด้านหน้าโรงสี Molen De Put ยังมีสวนสาธารณะขนาดเล็กสำหรับนั่งพักผ่อน รวมไปถึงบาร์และโรงแรมขนาดเล็ก
สะพานแร็มบรันต์ (Rembrandt Bridge) ที่เที่ยวในไลเด้น
ถัดจากโรงสี Molen De Valk ทางขวามือเราจะพบกับสะพานแร็มบรันต์ตั้งอยู่บนลำคลอง Galg water อย่างเห็นเด่นชัด สะพานแห่งนี้สร้างขึ้นในปี พ. ศ. 2526 ในอดีตเคยเป็นสีน้ำตาลและสีดำด้านข้าง ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นสีขาวเพื่อให้มองเห็นชัดเจนทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน ที่นี่ยังเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมอีกหนึ่งแห่งของเมืองไลเด้นอีกด้วย
ใกล้กับสะพานแร็มบรันต์ถ้าเดินตรงไปตามถนน Kort Galg water ทางซ้ายมือจะเป็นที่ตั้งของบ้านช่างไม้ในอดีต (Stadstimmerwerf) สถานที่แห่งนี้สร้างขึ้นในปี ค. ศ. 1612 เพื่อใช้เป็นอาคารสำหรับเก็บวัสดุในเมืองและยังเป็นที่อยู่อาศัยและทำงานของช่างไม้ หลังการบูรณะอย่างละเอียดในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 ทำให้อาคารนี้กลายมาเป็นที่อยู่อาศัยของผู้สูงอายุ ภายในมีสนามหญ้าและบรรยากาศที่เงียบสงบ สามารถเดินเข้าไปชมได้
อนุสรณ์สถานและบ้านของแร็มบรันต์ในอดีต
เดินข้ามสะพานแร็มบรันต์ไปนิดหนึ่งเราจะเจอกับถนน Weddesteeg พอหันไปทางขวามือจะเป็นที่ตั้งของที่เที่ยวถัดไปนั้นก็คือ Rembrandtplaats ซึ่งเป็นลานกว้างสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแร็มบรันต์ มีแท่นปูนยกสูงพร้อมบันไดทางขึ้น ด้านบนมีขาตั้งภาพวาดพร้อมรูปภาพนูนแร็มบรันต์ รวมถึงรูปปั้นเด็กชายมองดูภาพวาด บนผนังด้านหน้ายังมีรูปภาพนูนแขวนภาพเหมือนของแร็มบรันต์ ส่วนทางซ้ายมือของถนนจะเป็นที่ตั้งของบ้านของแร็มบรันต์ที่เคยอาศัยอยู่ในอดีต ถ้าเราเดินผ่านอนุสรณ์สถานนี้ไปจะพบกับสวนสาธารณะแร็มบรันต์ มีบรรยากาศร่มรื่นเหมาะสำหรับการนั่งพักผ่อน
ผนังบทกวีในเมืองไลเด้น (Wall Poems in Leiden)
Wall Poems เป็นโครงการเขียนบทกวีบนผนังอาคารในเมืองไลเด้น เราจะพบเห็นบทกวีเหล่านี้ได้ตามที่เที่ยวต่าง ๆ ในเมืองไลเด้น อย่างในภาพเป็นบทกวีบนผนังของร้านอาหาร Tabú ซึ่งตั้งอยู่บนถนน Rembrandtstraat ใกล้กับที่เที่ยวถัดไปคือประตู Doelenpoort
ประตู Doelenpoort และลำคลอง Groenhazengracht
จากร้านอาหาร Tabú เดินตรงมาตามถนน Groenhazengracht จะพบกับประตู Doelenpoort ซึ่งเป็นประตูจากสมัยศตวรรษที่ 17 ในอดีตใช้เป็นทางเข้าที่ตั้งของค่ายทหาร Doelen ปัจจุบันกลายมาเป็นที่เที่ยวทางประวัติศาสตร์ รอบ ๆ สามารถมองเห็นลำคลอง Groenhazengracht และ Doelengracht รวมไปถึงบ้านเรือนและอาคารคณะมนุษยศาสตร์ของมหาวิทยาลัยไลเด้นอีกด้วย
ถ้าเดินผ่านประตู Doelenpoort ตรงไปตามลำคลอง Doelengracht เราจะเจอกับสะพาน Doelenbrug ทางขวามือคือที่ตั้งของอาคารคณะมนุษยศาสตร์ของมหาวิทยาลัยไลเด้น เดินตรงไปอีกจะเจอกับทางเข้าสวนพฤกษศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดในเนเธอร์แลนด์ (Hortus botanicus Leiden) แต่ถ้าใครที่เลี้ยวซ้ายข้ามสะพานไปตามถนน Doelensteeg จะเจอกับที่เที่ยวถัดไปนั้นก็คือพิพิธภัณฑ์โบราณคดีแห่งชาติเมืองไลเด้น
พิพิธภัณฑ์โบราณคดีแห่งชาติเมืองไลเด้น
Rijksmuseum voor oudheden หรือในภาษาอังกฤษ National Museum of Antiquities ตั้งอยู่ในย่านที่มีชื่อเสียง ‘Rapenburg’ ของเมืองไลเด้น ภายในบอกเล่าเรื่องราวที่เน้นเกี่ยวกับอารยธรรมอียิปต์โบราณ ประวัติศาสตร์ยุคโรมันและกรีก โลกคลาสสิก รวมไปถึงโบราณคดีของเนเธอร์แลนด์และเนเธอร์แลนด์ในสมัยโรมัน ที่นี่ยังจัดแสดงวัตถุโบราณมากกว่า 1,400 ชิ้น เช่น โลงศพมัมมี่ที่มีชื่อเสียงระดับโลก รูปปั้นจักรพรรดิอันสง่างามและเครื่องประดับโบราณ โดยแยกออกเป็นนิทรรศการถาวรในหัวข้อสำคัญ ได้แก่ ‘Egypt’, ‘Classical World’, ‘Archaeology of the Netherlands’, ‘The Netherlands in Roman Times’, ‘Archaeology from your back garden’ และ ‘The Dutch and the ancient Near East’
เวลาเปิด: ทุกวัน 10:00-17:00 น. ราคาตั๋วเข้าชม 14 ยูโร หรือใช้บัตร Museumkaart เข้าชมฟรี จองตั๋วออนไลน์ก่อนเข้าชมได้ที่ National Museum of Antiquities Reservation
ลำคลองที่มีชื่อเสียงในไลเด้น (Rapenburg)
อย่างที่บอกไปว่า Rapenburg เป็นย่านลำคลองที่มีชื่อเสียงของเมืองไลเด้น จากพิพิธภัณฑ์ Rijksmuseum voor oudheden สามารถเดินตามริมคลองนี้ไปเรื่อย ๆ จะเจอกับสะพาน Nonnenbrug ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าอาคารเก่าแก่ของมหาวิทยาลัยไลเด้น (Academy Building) บนสะพานมีบ้านเรือนและวิวที่สวยงาม ว่ากันว่าบ้านในย่านนี้มีราคาแพงที่สุดในเมืองไลเด้นเลยทีเดียว (บ้านตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ขนาดพื้นที่ใช้สอย 150 ตารางเมตร มีราคาสูงถึง 22 ล้านบาท)
อาคารเก่าแก่ของมหาวิทยาลัยไลเด้น (Academy Building)
Academy Building สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค. ศ. 1516 ภายในเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ส่วนมากใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีจบการศึกษา ด้านในยังมีห้องเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยลายเซ็นของนักศึกษาที่จบการศึกษาจากที่นี่ อาคารแห่งนี้ยังเป็นหนึ่งในอนุสรณ์สถานแห่งชาติของประเทศเนเธอร์แลนด์อีกด้วย
สวนพฤกษศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดในเนเธอร์แลนด์
เดินผ่าน Academy Building ไปทางด้านหลังเราจะเจอกับ Hortus botanicus Leiden ซึ่งเป็นสวนพฤกษศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดในเนเธอร์แลนด์มีอายุย้อนไปถึงปี ค. ศ. 1590 ด้านในประกอบไปด้วยพื้นที่สองส่วน คือ สวนสวนพฤกษศาสตร์ด้านนอก และเรือนกระจกด้านในสร้างขึ้นเพื่อการเติบโตของพืชสวนในฤดูหนาว ติดกับเรือนกระจกยังเป็นที่ตั้งของคาเฟ่ Hortus Grand Cafe อีกด้วย ถ้ามาที่นี่ในช่วงหน้าหนาวบรรยากาศจะเงียบเป็นพิเศษ สวนพฤกษศาสตร์ด้านนอกจะไม่ค่อยเขียวขจีเท่าไร แต่ถ้ามาในช่วงดอกไม้บานหรือหน้าร้อนดอกไม้และพืชที่ปลูกไว้ตรงสวนด้านนอกจะเขียวขจีเป็นพิเศษ จากภาพเป็นบรรยากาศในช่วงเดือนมิถุนายน
เวลาเปิด: ทุกวัน (เดือนเมษายน-ตุลาคม) 10:00-18:00 น. (เดือนพฤศจิกายน-มีนาคม) เวลา 10:00-16:00 น. ราคาตั๋วเข้าชม 9 ยูโร หรือใช้บัตร Museumkaart เข้าชมฟรี
โบสถ์เก่าแก่ประจำเมืองไลเด้น (Pieterskerk) ที่เที่ยวในไลเด้น
ไม่ไกลจากสวน Hortus botanicus ถ้าเดินกลับมาที่สะพาน Nonnenbrug ข้ามไปยังถนน Kloksteeg จะเจอกับโบสถ์เก่าแก่ประจำเมืองไลเด้น (Pieterskerk) มีอายุประมาณ 900 ปี ด้านในเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชม มีค่าเข้าชม 4 ยูโร สามารถซื้อตั๋วได้ที่คาเฟ่บริเวณทางเข้า ติดกับโบสถ์ Pieterskerk ยังเป็นที่ตั้งของอนุสรณ์สถานแห่งชาติ (Jan Pesijnshof) ด้านในเป็นบ้านบนลานสนามหญ้า (Speckhofje) ใช้เป็นที่พักของผู้สูงอายุ
ถนนสายวินเทจเมืองไลเด้น (Pieterskerk-Choorsteeg)
เดินมาทางด้านหลัง Pieterskerk จะเจอกับถนน Pieterskerk-Choorsteeg ทอดยาวผ่านถนน Langebrug ไปยังถนน Breestraat ที่นี่รวมร้านอาหาร ร้านขายเสื้อผ้ามือสอง ร้านกิฟต์ชอป และร้านขายเครื่องใช้ในบ้านไว้หลายแห่ง
ถนน Langebrug
เป็นถนนที่เชื่อมต่อกับถนน Pieterskerk-Choorsteeg และถนน Breestraat เป็นที่ตั้งของร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้ามือสอง และร้านขายของเก่า บนนถนนสายนี้ยังเป็นที่ตั้งของบ้านบอกเรื่องราวชีวิตของแร็มบรันต์ในวัยเยาว์อีกด้วย (Yong Rembrandt Studio)
บ้านบอกเรื่องราวชีวิตของแร็มบรันต์ในวัยเยาว์
เลี้ยวขวาไปตามถนน Langeburg ตรงไปอีกประมาณ 3 นาที เราจะพบกับ Yong Rembrandt Studio สถานที่บอกเล่าเรื่องราวเชิงลึกเกี่ยวกับชีวิตของแร็มบรันต์รุ่นเยาว์และบุคคลสำคัญที่สุดในชีวิตของเขาผ่านวิดีโอความยาวกว่า 7 นาที ที่นี่เปิดให้เข้าชมฟรี วันอังคาร-วันอาทิตย์ เวลา 12:00-17:00 น.
ศาลากลางเมืองไลเด้น (Stadhuis Leiden)
เราเดินเที่ยวในเมืองไลเด้นมาเกินกว่าครึ่งทางแล้ว ที่เที่ยวจากนี้ไปจะอยู่ในย่านการค้าและถนนคนเดินที่มีชื่อเสียงของเมืองไลเด้น โดยเริ่มจากศาลากลางเมืองไลเด้นที่ตั้งอยู่บนถนน Bresstraat ด้านหน้าของศาลากลางสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1595 ในสไตล์เรอเนสซองส์เพื่อแสดงความเจริญรุ่งเรืองของเมือง
ตามประวัติคร่าว ๆ ในปี ค. ศ. 1574 ไลเด้นถูกกองทัพสเปนปิดล้อมทำให้มีพลเมืองจำนวนมากเสียชีวิตจากความหิวโหยและโรคระบาด อย่างไรก็ตามในวันที่ 3 ตุลาคม ค.ศ. 1574 เมืองไลเด้นได้รับการปลดปล่อยให้เป็นอิสระอีกครั้ง หลายส่วนของศาลากลางจึงมีส่วนที่ระลึกถึงการปิดล้อมและการบรรเทาทุกข์ของไลเด้น ส่วนศาลาว่าการส่วนใหญ่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ไฟไหม้รุนแรงในปี พ.ศ. 2472 ด้านหน้าอาคารจึงถูกสร้างขึ้นใหม่ ส่วนทางด้านหลังเป็นอาคารใหม่ทั้งหมด
ถนน Vismarkt และลำคลอง Nieuwe Rijn
เดินผ่านศาลากลางเมืองไลเด้นเข้ามาตามถนน Maarsmansteeg จะเจอกับถนน Vismarkt ขนานไปกับลำคลอง Nieuwe Rijn บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของร้านอาหารและร้านขายของหลายประเภท ทุกวันพุธและวันเสาร์ที่นี่ยังมีตลาดนัดประจำสัปดาห์อีกด้วย
สะพานโค้งหิน Koornburg ที่เที่ยวในไลเด้น
เดินไปตามถนน Vismarkt จะเจอกับสะพานหินโค้ง Koornbrug มีหลังคาสองชั้น ตั้งอยู่เหนือน้ำ Nieuwe Rijn
ซากปราสาทเก่าแก่ในเมืองไลเด้น (Burcht van Leiden)
เดินข้ามสะพาน Koornbrug ไปยังอีกฝั่งจะเข้าสู่ถนน brugsteeg จากนั้นเดินตรงไปเรื่อย ๆ จนสุดหัวมุมจะเจอกับประตู Burgpoort ซึ่งเป็นทางเข้าไปยังปราสาท Leiden Castle ที่ตั้งอยู่บนเนินเขา ปราสาทนี้ในอดีตเป็นปราสาทเก่าแก่ ปัจจุบันเหลือเพียงโรงสร้างบางส่วนเท่านั้น เราสามารถเดินขึ้นบันไดไปชมปราสาทด้านในได้ ที่นี่ยังเป็นอนุสรณ์สถานแห่งชาติตั้งแต่ปี พ.ศ. 2511 ก่อนที่ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 เนินปราสาทได้รับการประกาศให้เป็นอนุสรณ์สถานแห่งชาติทางโบราณคดีเนื่องจากมีร่องรอยของประวัติศาสตร์ยุคกลางที่สามารถพบได้ในนั้น ส่วนด้านนอกปราสาทสามารถมองเห็นโบสถ์ Hooglandse Kek
โบสถ์ Hooglandse Kerk ที่เที่ยวในไลเด้น
ที่เที่ยวในเมืองไลเด้นถัดไปก็คือ Hooglandse Kerk ตั้งอยู่ถนน Nieuwstraat อยู่ห่างจากปราสาท Leiden Castle ประมาณสองนาที ที่นี่เป็นมหาวิหารไม้กางเขนแบบกอทิกตอนปลายที่มีความสง่างามอีกหนึ่งแห่งของเมืองไลเด้น
ข้าง ๆ โบสถ์ Hooglandse Kerk ยังเป็นที่ตั้งของร้านอาหารที่มีชื่อเสียงอีกหนึ่งแห่งในเมืองไลเด้นชื่อว่า Restaurant The Bishop ซึ่งตั้งอยู่ในอาคารเก่าแก่อายุกว่า 110 ปี เราได้มีโอกาสมาทานอาหารเย็นที่นี่ในงานวันเกิดของตัวเอง และค้นพบว่ารสชาติอาหารของที่นี่ดีทีเดียว ราคาอาหารอยู่ในระดับปานกลาง หากดื่มไวน์หรือสั่งเครื่องดื่มราคาอาจเพิ่มขึ้น เมนูอาหารโดยส่วนมากเป็นอาหารแบบท้องถิ่นและรวมไปถึงอาหารนานาชาติ เราสามารถบอกเชฟได้ว่าชอบอะไรไม่ชอบอะไร ถ้าไม่เลือกตามเมนูที่มีอยู่แล้ว ก็จะเป็นเมนูแบบเซอร์ไพร์ที่เชฟจะทำให้แบบพิเศษ ส่วนการจัดตกแต่งร้านภายในมีความสวยงาม ที่นั่งด้านบนชั้นสองสามารถมองเห็นห้องปรุงอาหารด้านล่าง
จากร้านอาหาร The Bishop เดินต่อไปตามถนน Middelweg เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนน Moriaansteeg จากนั้นเลี้ยวขวาไปยังถนน Hooglandse Kerkgracht ทางด้านซ้ายมือจะพบกับสถานที่สำคัญอีกหนึ่งแห่งนั้นก็คือ Weeshuis สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าใจกลางเมืองไลเด้น ที่นี่ยังเป็นหนึ่งในอนุสรณ์สถานแห่งชาติของเมืองไลเด้นอีกด้วย
จาก Weeshuis เดินตรงไปเรื่อย ๆ ตามถนน Hooglandse Kerkgracht จะพบกับร้านค้าในอาคารทางประวัติศาสตร์ชื่อว่า EDUARD ซึ่งย่อมาจาก: Fair, Sustainable, Unique, Traditional, Re-used and Design EDUARD อาคารแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ. ศ. 2433 และได้รับการปรับปรุงใหม่ ปัจจุบันเป็นร้านขายเครื่องประดับ รวมถึงกระเป๋าและของใช้ในครัวเรือนที่น่าสนใจหลายอย่าง
สะพาน Kerkbrug ที่เที่ยวในไลเด้น
ด้านซ้ายมือของร้านค้า EDUARD เราจะมองเห็นสะพาน Kerkbrug เป็นสะพานเหล็กคู่ใจกลางเมืองไลเด้น ตั้งอยู่ระหว่างถนน Hooglandse Kerkgracht และถนน Hooglandse Kerksteeg สะพานนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอนุสรณ์สถานแห่งชาติตั้งแต่ปี พ.ศ. 2511 และยังมีบรรยากาศที่สวยงามเหมาะสำหรับการถ่ายภาพได้เป็นอย่างดี
ลำคลอง Oude Rijn ที่เที่ยวในไลเด้น
ถ้าเดินเลี้ยวซ้ายมา (โดยที่ไม่ต้องข้ามสะพาน Kerkbrug) จะเป็นย่านลำคลอง Oude Rijn ซึ่งทอดยาวไปบรรจบกับลำคลอง Nieuwe Rijn (ย่านร้านค้าและถนนสายชอปปิงที่เราเดินผ่านมาก่อนหน้านี้) บ้านเรือนในย่าน Oude Rijn เป็นบ้านเรือนเก่าแก่ในอดีตต่อมาได้มีการปรับปรุงและกลายมาเป็นที่อยู่อาศัยของผู้คนในปัจจุบัน ย่านนี้จึงเรียกได้ว่าเป็นย่านที่มีบรรยากาศสบาย ๆ และเป็นลำคลองอีกหนึ่งแห่งที่เหมาะกับการเก็บภาพสวย ๆ ของเมืองไลเด้น
ลำคลอง Nieuwe Rijn ที่เที่ยวในไลเด้น
เดินมาจนสุดถนนริมคลอง Oude Rijn เราจะเจอกับย่านใจกลางเมืองไลเด้น บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของร้านอาหารและร้านขายของจำนวนมาก ถ้าเดินข้ามสะพานไปจะเจอกับร้านอาหารที่มีชื่อเสียงอีกหนึ่งแห่งนั้นก็คือ Waag รีวิวบนอินเทอร์เน็ตให้คะแนนดีทีเดียว ถ้าเดินต่อไปอีกนิดผ่านร้านอาหาร Waag เลี้ยวซ้ายเข้าไปในซอย Catharinasteeg จะพบกับร้านคาเฟ่ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักกันดีของผู้คนในพื้นที่ชื่อว่า Barista Cafe Leiden
ก่อนหน้านี้เราพูดถึงสะพาน Kerkbrug ถ้าเราไม่เดินมาตามลำคลอง Oude Rijn แต่ข้ามสะพานไปเข้าสู่ถนน Hooglandse Kerksteeg จากนั้นเดินไปจนสุดจะเจอกับถนนชอปปิงที่มีชื่อเสียงอีกหนึ่งแห่งนั้นก็คือ Haarlemmerstraat ที่นั้นรวมร้านขายเสื้อผ้า ร้านขายของใช้ในครัวเรือนและชีวิตประจำไว้เต็มสองฝั่ง
เดินเล่นไปเรื่อย ๆ ตามถนน Haarlemmerstraat เราจะเจอกับ โบสถ์ Hartebrugkerk เป็นโบสถ์คาทอลิกใจกลางเมืองไลเด้น ด้านในเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมในวันอาทิตย์และวันจันทร์ตั้งแต่เวลา 12.30 น. ส่วนในวันอื่น ๆ เวลา 08.30-16.30 น. ฝั่งขวามือของโบสถ์จะมีถนนที่ชื่อว่า Lange Mare และมีร้านเบเกอรี่ดั้งเดิมตั้งอยู่ชื่อว่า Better bagels
ด้วยความที่เราชอบทานขนมปังสอดไส้ปลาแซลมอนอยู่แล้วจึงตัดสินใจเดินเข้าร้านนี้และลองสั่งขนมปังมาทานหนึ่งชิ้นพร้อมกับกาแฟลาเต้หนึ่งแก้วโดยไม่ได้คาดหวังเรื่องรสชาติมากนัก แต่หลังจากดื่มกาแฟเข้าไปหนึ่งซิปเท่านั้นคือชอบมาก รสชาติกลมกล่อม เอาเป็นว่าไม่ชมมาก เพราะชมไปเยอะแล้ว ใครที่สนใจลองแวะไปกันได้ค่ะ
โบสถ์ Marekerk ที่เที่ยวในไลเด้น
จากร้าน Better bagels เดินตรงไปเรื่อย ๆ จนเกือบสุดถนน Lange Mare ทางขวามือจะเจอกับ Marekerk เป็นโบสถ์จากปี ค.ศ. 1639 มีรูปทรงพิเศษคืออาคารกลางแปดเหลี่ยมและมีทางเข้าด้านหน้าเล็ก ๆ ตรงถนน Lange Mare
ลำคลองและถนนในกลางเมืองทางตอนเหนือ (Oude Singel)
ติดกับถนน Lange Mare จะเป็นลำคลอง Oude Singel ทางตอนเหนือของเมืองไลเด้น ตั้งอยู่ระหว่างลำคลอง Galgewater ทางตะวันตกและลำคลอง Haven (ส่วนหนึ่งของลำคลอง Oude Rijn) ย่านนี้ยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และศิลปะเมืองไลเด้น (Museum De Lakenhal) ซึ่งเราจะเดินไปเข้าชมกันจากที่ได้จองตั๋วออนไลน์สำหรับเข้าชมไว้แล้ว
พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และศิลปะเมืองไลเด้น
ย้อนกลับไปในอดีตนั้นเมืองไลเด้นอยู่ภายใต้การยึดครองของสเปน กษัตริย์และชาวเมืองร่วมกันต่อสู้และนำพาบ้านเมืองกลับมาเป็นอิสระอีกครั้ง เรื่องราวและประวัติศาสตร์เหล่านี้สามารถเรียนรู้ได้ที่พิพิธภัณฑ์ Museum De Lakenhal ภายในพิพิธภัณฑ์ยังบอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ของเมืองไลเด้นผ่านศิลปะภาพวาดจากยุคทองของดัตช์ เครื่องแก้วโบราณ หน้าต่างกระจกสีหลายชุด และชุดเครื่องแต่งกายในอดีตที่สะท้อนถึงความรุ่งเรืองของอุตสาหกรรมผ้าและสิ่งทอของเมืองไลเด้นในสมัยศตวรรษที่ 15 ได้เป็นอย่างดี
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก่อนเข้าชมเราไม่ได้คาดหวังว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์ที่น่าประทับใจและเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของเมืองไลเด้นขนาดนี้ แต่หลังจากที่ได้เข้าชมพิพิธภัณฑ์แล้วค้นพบว่าสถานที่แห่งนี้ซ่อนความรู้ไว้มากมาย โดยเฉพาะเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของเมืองไลเด้น และภูมิทัศน์ของเมืองไลเด้นในภาพวาดสมัยก่อนที่แสดงให้เห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากจนถึงปัจจุบันนี้ สำหรับใครที่ชื่นชอบศิลปะภาพวาดและเรื่องราวทางประวัติศาสตร์บอกได้เลยว่าพิพิธภัณฑ์แห่งนี้คุ้มค่าแก่การเข้าชมมาก ๆ
เวลาเปิด: วันอังคาร-วันอาทิตย์ เวลา 10:00-17:00 น. ราคาตั๋วเข้าชม 16 ยูโร หรือใช้บัตร Museumkaart เข้าชมฟรี จองตั๋วออนไลน์ก่อนเข้าชมได้ที่ Museum De Lakenhal Reservation
ล่องเรือในลำคลองเมืองไลเด้น (Rondvaart Leiden)
ไม่ไกลจากพิพิธภัณฑ์ Museum De Lakenhal เดินมาตามริมคลอง Oude Singel จนสุดถนนเราจะเจอกับท่าเทียบเรือนักท่องเที่ยว ที่นี่ให้บริการล่องเรือในลำคลองเมืองไลเด้น เรือเปิดให้บริการทุกวันเวลา 10:00-17:00 น. (วันไหนที่สภาพอากาศไม่ดีตารางการเดินเรืออาจมีการเปลี่ยนแปลง) ค่าล่องเรือ 12 ยูโร พร้อมเครื่องบรรยายเสียงออดิโอขนาดเล็ก เรือจะพาผู้เข้าร่วมผ่านลำคลองในเมืองไลเด้นและที่เที่ยวยอดนิยมหลายแห่ง เช่น ศาลาว่าการ สวนพฤกษศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และศิลปะเมืองไลเด้น รวมถึงลอดผ่านสะพานที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง นับว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสนุกที่ทำได้ง่าย และยังได้เห็นความสวยงามของเมืองไลเด้นในมุมที่หลากหลายอีกด้วย
ทานแพนเค้กที่มีชื่อเสียงของเมืองไลเด้น
ด้านหน้าท่าเทียบเรือนักท่องเที่ยวบริเวณถนน Steenstraat ยังเป็นที่ตั้งของร้านแพนเค้กที่มีชื่อเสียงของเมืองไลเด้นชื่อว่า ‘t Pannenkoekenhuysje Oudt Leyden ความพิเศษของร้านนี้ก็คือแพนเค้กชิ้นใหญ่มาก มากแบบขนาดที่ว่าถ้าตั้งใจจะไปทานที่นี่ห้ามทานอะไรมาก่อนเลย เพราะไม่อย่างนั้นจะเป็นแบบเราที่ทานไม่หมดต้องห่อกลับบ้าน นอกจากความใหญ่แบบจุใจแล้วรสชาติของแพนเค้กยังไม่เป็นสองรองใคร ทางร้านมีแพนเค้กและท็อปปิงให้เลือกหลายรสชาติ จะสั่งแบบต้นตำรับที่คนดัตช์ชอบทาน หรือสั่งแบบตามใจเราก็ได้ ราคาต่อคนอยู่ที่ประมาณ 7-17 ยูโร
เที่ยวสวนดอกทิวลิปเคอเคนฮอฟ (Keukenhof) จากไลเด้น
สวนดอกทิวลิปเคอเคนฮอฟเป็นหนึ่งในที่เที่ยวยอดนิยมของเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่ที่ชานเมืองลิซเซ่ (Lisse) ในจังหวัดเซาท์ฮอลแลนด์ ห่างจากตัวเมืองไลเด้น (Leiden) ประมาณ 17 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวที่เลือกพักที่นี่สามารถเดินทางสะดวกไปยังสวนดอกทิวลิป และยังสามารถเที่ยวควบคู่กับในเมืองไลเด้นแบบเดย์ทริปได้อีกด้วย โดยมีตั๋วแบบ Combi ราคา 31 ยูโร สำหรับเข้าชมสวนดอกทิวลิปและรวมการเดินทางไปกลับด้วยรถบัส Keukenhof Express (Bus 854) จากสถานีรถไฟเมืองไลเด้น (รถจอดที่สถานีขนส่งฝั่งใจกลางเมืองถัดจากสถานีรถไฟ) ไปยังสวนดอกทิวลิปเคอเคนฮอฟ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที รถออก 4 เที่ยวต่อหนึ่งชั่วโมง ตั๋วเฉพาะการเดินทางอย่างเดียว 12 ยูโร
การเดินทางไปไลเด้นจากเมืองใกล้เคียง
แผนที่เดินเที่ยวเมืองไลเด้น
กดดูและบันทึกแผนที่เที่ยวเมืองไลเด้นเพื่อช่วยวางแผนการเดินทาง
แหล่งข้อมูลวางแผนเที่ยว
Thank you
การเปิดเผย: บทความนี้มีลิงก์แอฟฟิลิเอทบางส่วน การกดที่ลิงก์ไม่มีค่าใช้จ่าย หากซื้อสินค้าหรือบริการจากลิงก์ดังกล่าว เราอาจได้รับค่ากำลังใจเล็กน้อยสำหรับนำไปพัฒนาบล็อก 🧡