เที่ยวพระราชวังแห่งชาติเปนา + ปราสาทมัวร์ ที่เที่ยวยอดนิยมในเมืองซิงตรา ประเทศโปรตุเกส รวมวิธีเดินทางจากลิสบอนไปซิงตราแบบเดย์ทริป

พระราชวังแห่งชาติเปนา (National Palace of Pena) ตั้งอยู่บนยอดเขาในเมืองซิงตรา ประเทศโปรตุเกส ห่างจากเมืองลิสบอนประมาณ 33 กม. เป็นที่เที่ยวยอดนิยมที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก พระราชวังแห่งนี้มีจุดเด่นในเรื่องของสถาปัตยกรรมอันน่าทึ่งและมีสีสันสดใสต่างจากพระราชวังทั่วไป โดยผสมระหว่างสีเหลือง สีแดง และสีน้ำเงิน ทำให้เกิดรูปลักษณ์อันงดงามราวเทพนิยาย

พระราชวังแห่งชาติเปนายังเป็นแหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโก โดยได้รับการดัดแปลงมาจากอารามในศตวรรษที่ 19 เพื่อใช้เป็นที่ประทับของพระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 2 การตัดสินใจไปเยี่ยมชมพระราชวังแห่งนี้ด้วยตัวเองจึงไม่เพียงแต่จะได้สัมผัสประวัติศาสตร์อันยาวนานของโปรตุเกสเท่านั้น แต่ยังจะได้ชมการจัดแสดงมรดกทางสถาปัตยกรรมสุดโรแมนติกของประเทศอีกด้วย นับว่าเป็นเดย์ทริปจากลิสบอนที่คุ้มค่าการเดินทาง

นอกจากการเที่ยวพระราชวังแห่งชาติเปนาแล้วในบทความนี้ยังจะพาไปชมปราสาทมัวร์ด้วย ซึ่งเป็นที่ยอดนิยมอีกหนึ่งแห่งของเมืองซิงตรา ครอบคลุมข้อมูลการเดินทางจากลิสบอนด้วยรถไฟและรถยนต์ รวมถึงวิธีการซื้อตั๋วเข้าชม งบเที่ยวที่ควรเผื่อไว้ ที่เที่ยวน่าสนใจอื่น ๆ ในเมืองซิงตรา ตลอดจนเรื่องน่ารู้ที่ควรศึกษาทำความเข้าใจไว้ก่อนไปเยือนเมืองซิงตราด้วยตัวเอง

ตั๋วเข้าชมพระราชวังแห่งชาติเปนาราคาเท่าไร

พระราชวังแห่งชาติเปนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองซิงตรา และมีจำนวนนักท่องเที่ยวหนาแน่นทุกวัน เพื่อการเข้าชมที่รวดเร็วและตรงต่อเวลา แนะนำให้จองตั๋วออนไลน์ล่วงหน้าไว้ก่อน

ราคาตั๋วเข้าชมข้างต้น 14 ยูโร รวมการเข้าชมพระราชวังแห่งชาติเปนาและอุทยานของพระราชวัง ครอบคลุมถึงที่ประทับชาเลต์ของเคานท์เตสแห่งเอ็ดลา (Chalet of the Countess of Edla) ตอนจองตั๋วต้องระบุวันที่และรอบเวลาในการเข้าชม รอบแรกเริ่มเวลา 09:30 น. ในขณะที่รอบสุดท้ายคือเวลา 17:30 น. เมื่อซื้อตั๋วแล้วจะได้รับพาททางอีเมล์สามารถนำไปสแกนรหัส QR บนสมาร์ทโฟนที่จุดตรวจตั๋วได้เลย ที่สำคัญควรตรงต่อเวลา (เผื่อเวลายืนรอต่อแถวไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง) ถ้าเลยเวลาที่จองตั๋วไว้เจ้าหน้าที่จะไม่ให้เข้าชม เดี๋ยวเรามาอธิบายเพิ่มเติมในบทความนี้ว่าทำไมต้องเผื่อเวลายืนรอต่อแถวไว้นานขนาดนี้

สำหรับคนที่ต้องการเข้าชมเฉพาะอุทยานของพระราชวังเปนา มีตั๋ว Pena Park Entry Ticket ราคา 7.50 ยูโร ตั๋วนี้คล้ายกับตั๋วข้างบนแต่ไม่รวมการเข้าชมพระราชวัง ถ้าต้องการเข้าชมแบบครอบคลุมแนะนำให้ซื้อรวมใบเดียวไปเลยสะดวกกว่า

ถ้าตั๋วเข้าชมพระราชวังแห่งชาติเปนาเต็มทำยังไง

ตั๋วเข้าพระราชวังแห่งชาติเปนามักถูกจองเต็มเร็วมาก ถ้าวางแผนที่จะจองล่วงหน้า 1-2 วันอาจพบว่าตั๋วขายหมด หรือไม่มีรอบเวลาที่ต้องการเข้าชมให้เลือกแล้ว นั้นเป็นเหตุผลว่าทำไมแนะนำให้ซื้อตั๋วออนไลน์ไว้ก่อน 1-2 อาทิตย์ อย่างไรก็ตามถ้าไม่สามารถหาซื้อตั๋วเข้าชมได้จากเว็บไซต์ทางการ ยังมีอีกหลายวิธีที่เป็นตัวเลือกสำหรับการซื้อตั๋วเข้าชมพระราชวังแห่งชาติเปนา คือ

• ซื้อตั๋วจากตัวแทนจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ: ไม่ว่าจะเป็น GetYourGuide, Tiqets และ Klook ทั้ง 3 เว็บไซต์จองง่ายใช้สะดวก
• เข้าร่วมทัวร์ไกด์พระราชวังแห่งชาติเปนา: เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับคนที่ต้องการเที่ยวพร้อมบริการรับส่งจากลิสบอนไปซิงตราแบบเดย์ทริป วิธีนี้ได้ทั้งความรู้จากไกด์ผู้ชำนาญการและยังได้เข้าชมพระราชวังแห่งชาติเปนาแบบเจาะลึกอีกด้วย ทัวร์ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง จองตั๋วเข้าร่วมทัวร์ไกด์พระราชวังแห่งชาติเปนาล่วงหน้าตอนนี้เลย

พระราชวังเปนามีทั้งหมดกี่โซน

ก่อนจะไปชมพระราชวังเปนาด้วยตัวเอง เรามาทำความรู้จักพื้นที่คร่าว ๆ ของพระราชวังกันก่อน เพื่อที่จะได้วางแผนเข้าชมอย่างทั่วถึง โดยพระราชวังแห่งนี้มีขนาดค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับพระราชวังอันยิ่งใหญ่อื่น ๆ ของยุโรป ประกอบด้วยแกนกลางที่มีปีกเพิ่มเติมทำให้เกิดอาคารที่ซับซ้อน ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 5,800 ตารางเมตร รวมถึงห้องโถงและห้องต่าง ๆ ของพระราชวัง ตัวพระราชวังยังรวมไปถึงโบสถ์ขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ใกล้กับจุดชมวิวสามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามของเนินเขาซิงตราและชนบทโดยรอบ

นอกจากพระราชวังซึ่งเป็นที่เที่ยวหลักแล้ว พื้นที่เนินเขาโดยรอบยังถูกครอบคลุมด้วยอุทยานขนาดใหญ่รวมเนื้อที่มากกว่า 200 เฮกตาร์ ประกอบด้วยป่าเขียวขจี ต้นไม้พรรณพืชต่าง ๆ ทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพฤกษศาสตร์ อุทยานยังมีทางเดินคดเคี้ยวทอดผ่านสวนที่ประดับประดาด้วยดอกไม้สีสันสดใส รวมถึงจุดชมวิวหลายแห่งที่ผู้มาเยือนสามารถชื่นชมทิวทัศน์อันน่าทึ่งของเมืองซิงตรา

จุดสนใจในอุทยานของพระราชวังเปนามีหลายแห่ง รวมถึงที่ประทับชาเลต์ของเคานท์เตสแห่งเอ็ดลา (Chalet of the Countess of Edla) สวนคาเมลเลียที่นำเข้ามาจากประเทศจีนและญี่ปุ่น (Camellia Garden) หุบเขาเฟิร์นของราชินีที่มาจากออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ (Queen’s Fern Valley) ทะเลสาบที่เชื่อมต่อกันด้วยน้ำตกขนาดเล็ก (Valley of Lakes and Little Birds Fountain) ฟาร์มเปนา (Pena Farm) ตลอดจนวิหารแห่งเสา (Temple of Columns) รูปปั้นนักรบที่ตั้งอยู่บนก้อนหิน (The Warrior Statue) และจุดที่สูงที่สุดในเนินเขาซิงตรา (High Cross)

ทั้งหมดนี้นักท่องเที่ยวสามารถแวะไปชมได้ตามสะดวก และไม่ต้องกลัวหลงเพราะทางอุทยานมีป้ายบอกเส้นทางพร้อมระยะทางในการเดินมาให้แล้ว ที่เหลือก็แค่ปล่อยใจไปกับธรรมชาติและบรรยากาศที่ผ่อนคลายอย่างเต็มที่ อย่าลืมเตรียมรองเท้าที่เหมาะสำหรับเดินมาด้วย เส้นทางเดินไม่ยากแต่บางแห่งอาจจะต้องเดินขึ้นเขาผ่านก้อนหินขรุขระ

เที่ยวพระราชวังแห่งชาติเปนา

แน่นอนว่าเมื่อมาถึงพระราชวังแห่งชาติเปนาแล้วก็ต้องไปเข้าชมความงดงามของสถาปัตยกรรม ซึ่งเกิดจากการผสมผสานหลายรูปแบบ เช่น สไตล์กอทิก มัวร์ และเรอเนซองส์ รวมถึงการตกแต่งด้านหน้าอาคารที่เต็มไปด้วยสีสันสดใสและรายละเอียดอันประณีตแสดงถึงรูปแบบสถาปัตยกรรมแนวโรแมนติก ซึ่งได้รับความนิยมในระหว่างการก่อสร้างพระราชวังในศตวรรษที่ 19

เมื่อก้าวเข้าไปด้านในนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสถึงโลกแห่งความมั่งคั่งและความโรแมนติกที่มีชีวิตชีวา พระราชวังแห่งนี้สะท้อนถึงรสนิยมอันหลากหลายของกษัตริย์เฟอร์ดินานด์ที่ 2 และสมเด็จพระราชินีมาเรียที่ 2 สังเกตได้จากการตกแต่งห้องบรรทมของทั้งสองพระองค์ที่เป็นเอกลักษณ์ โดยห้องนอนของกษัตริย์มีการออกแบบที่หรูหราและเป็นชาย ส่วนห้องนอนของราชินีให้ความรู้สึกโรแมนติกและเป็นผู้หญิง ทั้งสองห้องประดับด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้เก่าแก่ และที่ขาดไม่ได้คือหน้าต่างที่สามารถจับจองวิวของปราสาทมัวร์ได้อย่างชัดเจน

นอกจากห้องบรรทมที่เป็นไฮไลท์ในการเข้าชมพระราชวังแล้ว อีกหนึ่งไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้ก็คือห้องอาหรับซึ่งมีการออกแบบอันประณีตได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมมัวร์ ห้องนี้โดดเด่นด้วยลวดลายงานปูนอันประณีตที่ประดับอยู่บนผนังและเพดานห้อง เช่นเดียวกับห้องโถงขนาดใหญ่ของพระราชวังก็เป็นส่วนสำคัญของการเข้าชม ใช้สำหรับงานเฉลิมฉลองของราชวงศ์ และแสดงถึงความหรูหราของพระราชวังแบบขีดสุด

นอกจากส่วนที่เป็นไฮไลท์แล้วนักท่องเที่ยวยังจะได้เห็นห้องต่าง ๆ ที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ย้อนยุค ชุดจานจากเครื่องเคลือบดินเผา สิ่งประดิษฐ์ทางประวัติศาสตร์ รวมถึงคอลเลกชันงานศิลปะและของสะสมของพระองค์เอง ซึ่งช่วยให้เข้าถึงบรรยากาศและการใช้ชีวิตของราชวงศ์โปรตุเกสในสมัยนั้น ครอบคลุมถึงห้องทานอาหาร ห้องจัดเลี้ยง ห้องทำงานของสมเด็จพระราชินี ห้องสีเขียว ห้องนั่งเล่น ห้องของกษัตริย์คาร์ลอส ห้องของกษัตริย์มานูเอลที่ 2 และห้องที่อุทิศให้กับพระราชาองค์สุดท้ายที่อาศัยอยู่ในพระราชวัง

ห้องทั้งหมดนี้ถูกจัดเรียงตามแผนผังการเข้าชมที่สะดวก มีป้ายพร้อมคำบรรยายเพิ่มเติมในภาษาโปรตุเกสและภาษาอังกฤษ สำหรับใครที่ต้องการรับฟังคำบรรยายเพิ่มเติมสามารถใช้แอปทางการของพระราชวัง มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม 1.09 ยูโร

สิ่งที่น่าสนใจในพระราชวังเปนา

เที่ยวพระราชวังแห่งชาติเปนา: ห้องทานอาหารและห้องเตรียมอาหาร

ห้องทานอาหารเป็นส่วนแรก ๆ ของการเข้าชมพระราชวังเปนาที่นักท่องเที่ยวต้องเจอ ห้องนี้ถูกดัดแปลงจากโรงอาหารเก่าของคอนแวนต์ผสมผสานเข้าสถาปัตยกรรมมานูเอลีนดั้งเดิมของโปรตุเกสด้วยเพดานโค้งจากศตวรรษที่ 16 ใช้สำหรับเป็นห้องรับประทานอาหารส่วนตัวของราชวงศ์

สิ่งที่โดดเด่นในห้องนี้คือโต๊ะที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบได้ตามวัตถุประสงค์การใช้งาน เพื่อรองรับผู้ที่มาทานอาหารได้มากสุดถึง 24 คน บนโต๊ะอาหารยังมีการจัดแสดงชุดจานจากเครื่องเคลือบดินเผาที่มีอยู่ในพระราชวังตั้งแต่สมัยนั้น ตลอดจนแก้วคริสตัลหลากสี และชามผลไม้ที่มีการจัดวางในลักษณะเดียวกับที่ใช้ในสมัยราชวงศ์

เที่ยวพระราชวังแห่งชาติเปนา: ห้องบรรทมของพระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 2

จากห้องทานอาหารเส้นทางการเข้าชมพระราชวังจะนำเราไปยังห้องบรรทมสำหรับพระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 2 และสมเด็จพระราชินีมาเรียที่ 2 ห้องนี้ตกแต่งผนังด้วยปูนปั้นทาสีประดับด้วยลวดลายนีโอมัวร์ ซึ่งสร้างขึ้นในปี 1882 นับว่าเป็นการออกแบบที่หรูหราและสะท้อนให้เห็นถึงความชื่นชอบของพระองค์ในเรื่องความแปลกใหม่ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากมรดกอิสลามที่ฝังลึกในวัฒนธรรมโปรตุเกส ห้องนี้ยังสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของปราสาทมัวร์ได้อีกด้วย

เที่ยวพระราชวังแห่งชาติเปนา: ห้องอาหรับ (Arab Room)

ห้องอาหรับเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่โดดเด่นที่สุดของพระราชวัง ซึ่งอบอวลไปด้วยเสน่ห์อันแปลกใหม่ของสถาปัตยกรรมมัวร์ โดดเด่นด้วยงานไม้ขัดแตะอันประณีต กระเบื้องเซรามิกสีสันสดใสพร้อมลวดลายเรขาคณิตที่สลับซับซ้อน และงานปูนปลาสเตอร์อันประณีต นับว่าเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของสถาปัตยกรรมแนวโรแมนติกและไม่ควรพลาดที่จะมาเดินชมด้วยตัวเอง

เที่ยวพระราชวังแห่งชาติเปนา: ห้องสูบบุหรี่ (Smoking Room)

จากห้องอาหรับเราจะไปต่อกันที่ห้องสูบบุหรี่ ซึ่งสร้างตามแบบฉบับของที่พักอาศัยที่ได้รับการฟื้นฟูในศตวรรษที่ 19 โดยผสมผสานสไตล์อิสลามและมีกลิ่นอายของความซับซ้อนและความหรูหรา สังเกตได้จากเฟอร์นิเจอร์ไม้โอ๊ค ผ้าทอดั้งเดิมตั้งแต่สมัยราชวงศ์ รวมไปถึงเพดานโบสถ์ของพระราชวังจากศตวรรษที่ 14 ที่เป็นต้นแบบของเพดานห้องนี้

เที่ยวพระราชวังแห่งชาติเปนา: ห้องโถง (Great Hall)

ห้องโถงเป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดในพระราชวังเปนา มีอีกชื่อหนึ่งว่าห้องบิลเลียด ซึ่งใช้เป็นพื้นที่พักผ่อนและสถานที่จัดงานเลี้ยงรับรองของพระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 2 การออกแบบห้องนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเพดานสูง ทำให้เกิดกลิ่นอายของความยิ่งใหญ่ ผนังห้องโถงได้รับการตกแต่งด้วยงานปูนปลาสเตอร์ที่ประณีต มาพร้อมโคมไฟระย้า 72 ดวง ตะเกียงปิโตรเลียม 4 ดวง รวมถึงเชิงเทียนที่วางคบเพลิงซึ่งล้วนทำด้วยทองเหลืองชุบทอง

ห้องโถงยังมีหน้าต่างบานใหญ่ช่วยให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาภายในโดยเน้นรายละเอียดทางสถาปัตยกรรม ในขณะเดียวกันพื้นที่ภายในห้องตกแต่งด้วยโต๊ะหน้าโซฟาและกระจกทำให้ห้องมีบรรยากาศที่ผ่อนคลาย บนชั้นวางเหนือโซฟายังมีการจัดแสดงเครื่องลายครามญี่ปุ่นและจีน และของสะสมของพระองค์เอง

เที่ยวพระราชวังแห่งชาติเปนา: โบสถ์พระราชวังเปนา (Chapel)

นอกจากการเข้าชมภายในพื้นที่หลักของพระราชวังแล้ว ยังมีอีกหนึ่งพื้นที่ที่รวมอยู่ในการเข้าชม คือ โบสถ์พระราชวังเปนา ตั้งอยู่ใกล้กับลานจุดชมวิวของพระราชวัง โบสถ์นี้ดัดแปลงมากจากโบสถ์อารามแม่พระแห่งเปนา ด้านในมีแท่นบูชาหลักที่สร้างจากโบสถ์เก่าระหว่างปี 1529-1532 รวมถึงไฮไลท์หน้าต่างกระจกสีที่ติดตั้งอยู่บนผนังตรงข้ามแท่นบูชาหลัก สร้างขึ้นในปี 1840 แสดงถึงฉากทางศาสนาต่าง ๆ และเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับพื้นที่

จุดชมวิวพระราชวังแห่งชาติเปนา

แน่นอนว่าเมื่อเข้าชมพระราชวังภายในครบแล้วก็ต้องเดินมาชมวิวกันต่อ จุดชมวิวที่โดดเด่นของพระราชวังตั้งอยู่ด้านหน้าโบสถ์ ถ้าเดินมาจากตัวพระราชวังจะผ่านซุ้มประตูเหนืออุโมงค์ไทรทัน พอมาถึงแล้วจะสังเกตเห็นภูมิทัศน์เขียวขจีของเนินเขาซิงตรา รวมถึงอุทยานของพระราชวังที่เปลี่ยนภูมิทัศน์อันขรุขระของเนินเขาให้กลายเป็นสวนสาธารณะสุดโรแมนติกตามสไตล์เยอรมันด้วยต้นไม้ที่นำเข้ามาจากทั่วทุกมุมโลก เอาเป็นว่าตรงนี้มีมุมถ่ายรูปสวย ๆ เยอะมากแบบเลือกได้เลย

พอชมวิวและถ่ายภาพเสร็จแล้วก็เป็นอันจบทริปการเข้าชมพระราชวังแห่งชาติเปนา ถ้าใครอยากแวะพักก่อนกลับที่พระราชวังมีคาเฟ่ขายอาหารและเครื่องดื่มราคาไม่แพงไว้บริการ แต่คิวอาจจะยาวนิดหนึ่ง ใครรอไวก็ไหว ใครรอไม่ไหวแนะนำให้เตรียมอาหารและเครื่องดื่มมาทานเองจะสะดวกกว่า

จากคาเฟ่นักท่องเที่ยวสามารถเดินออกจากพระราชวังโดยใช้ประตูเดียวกับประตูทางเข้า ซึ่งจะนำเราลงไปยังจุดเริ่มต้นของเส้นทางเดินชมอุทยาน และมีป้ายบอกระยะทางที่ต้องเดิน ส่วนใครที่ต้องการไปชมปราสาทมัวร์ต่อจากนี้ก็สามารถทำได้เช่นกัน เช่นเดียวกับในบทความนี้ที่ยังไม่จบน๊า เดี๋ยวเราจะพาไปเที่ยวปราสาทมัวร์ต่อ พร้อมวิธีเดินจากพระราชวังเปนาไปยังปราสาทมัวร์ เลื่อนลงไปอ่านได้เลยค่า

เวลาเปิดพระราชวังแห่งชาติเปนา

พระราชวังแห่งชาติเปนาเปิดให้เข้าชมทุกวันตลอดทั้งปี เวลา 09:30-18:30 น. ตั๋วรอบสุดท้ายจำหน่ายถึงเวลา 17:30 น. การเข้าชมรอบสุดท้ายเวลา 18:00 น. อุทยานพระราชวังแห่งชาติเปนาเปิดให้เข้าชมทุกวันตลอดทั้งปี เวลา 09:00-19:00 น. ตั๋วและการเข้าชมรอบสุดท้ายเวลา 18:00 น.

เที่ยวพระราชวังแห่งชาติเปนา เวลาไหนดี

พระราชวังแห่งชาติเปนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของซิงตรา ถ้าอยากหลีกเลี่ยงจำนวนนักท่องเที่ยวที่หนาแน่นแนะนำให้ไปเที่ยวช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม หรือกันยายนถึงตุลาคม เช่นเดียวกับเวลาที่ดีที่สุดในการเข้าชมพระราชวังแห่งชาติเปนา คือ ระหว่าง 09:30-10:30 น. ในวันธรรมดา หรือช่วงบ่ายที่มีแสงเหมาะสำหรับการถ่ายภาพสวย วิธีนี้ช่วยให้เราหลีกเลี่ยงฝูงชนจำนวนมากที่มักมาในช่วงสุดสัปดาห์และในช่วงฤดูท่องเที่ยว

การเข้าชมพระราชวังแห่งชาติเปนาควรเผื่อเวลาไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง จากประสบการณ์ที่ไปสัมผัสมาพระราชวังมีขนาดปานกลาง ถ้าไม่ติดว่ามีคนเยอะสามารถเดินเที่ยวได้ใน 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นก็ไปเดินชมอุทยานต่ออีกประมาณ 1-2 ชั่วโมง เพราะมีหลายเส้นทางให้เลือก แต่ละเส้นทางใช้เวลาเดินต่างกัน เส้นทางที่ใช้เวลาน้อยที่สุดประมาณ 50 นาที

ทำไมต้องเผื่อเวลายืนรอเข้าชมพระราชวังไว้เป็นชั่วโมง

ก่อนไปชมพระราชวังเราหาข้อมูลมาเยอะมาก แต่ไม่ค่อยมีข้อมูลในเรื่องของการยืนรอเพื่อแสดงตั๋วเข้าไปชมพระราชวัง มีแต่บอกว่าต้องตรงต่อเวลา เลยทำให้ใครหลายคนเผื่อเวลาไว้ไม่พอ หลังจากได้ไปมาจริง ๆ เราก็เลยอยากมาแชร์ในเรื่องนี้เพราะสำคัญไม่แพ้ข้อมูลส่วนอื่น ๆ เลย

ถ้าเดินทางด้วยรถบัสสาย 434 ไปยังพระราชวัง รถบัสจะจอดที่ด้านหน้าทางเข้าซึ่งเป็นจุดจำหน่ายตั๋ว และมีแถวสำหรับรอตรวจตั๋วกับเจ้าหน้าที่ (ถ้าใครมีตั๋วออนไลน์มาแล้วก็แสดงให้เจ้าหน้าดูได้เลย แต่ถ้าไม่มีก็ต้องรอต่อแถวซื้อตั๋วก่อน ส่วนเรามีตั๋วออนไลน์ทำให้ไม่เสียเวลาในส่วนนี้) ตอนแรกคิดว่าถ้าตรวจตั๋วตรงนี้แล้วก็คือตรงเวลาแล้ว แต่ที่ไหนได้เป็นเพียงการเช็คตั๋วครั้งแรกเท่านั้น เพราะจากจุดนี้ไปเราต้องเดินขึ้นเขาไปอีกประมาณ 15 นาที (ถ้าไม่อยากเดินมีรถบัสนำส่งไว้บริการ มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และต้องจองพร้อมกับตอนจองตั๋วเข้าชมพระราชวัง)

พอไปถึงยอดเขาแล้วเราจะเจอกับด้านหน้าทางเข้าพระราชวังซึ่งมีแถวสำหรับยืนรอตามรอบเวลาที่จองตั๋วไว้ ถ้าไปก่อนเวลาเจ้าหน้าที่จะให้ยืนรอแยกแถว เราก็ยืนรอไปเกือบ 30 นาที เพราะรอบก่อนหน้านี้ยังเข้าไปในพระราชวังไม่หมด พอถึงรอบเวลาของเราแล้วเจ้าหน้าที่ก็ให้เดินตามแถวเข้าไปยังประตูทางเข้าพระราชวัง ซึ่งจุดนี้แหละเป็นจุดสแกนตั๋วทางการที่จะเข้าไปชมพระราชวัง แต่ก่อนที่จะถึงจุดนี้เราก็ต้องยืนรอไปอีก 10-15 นาทีเพราะแถวยาวมาก ท้ายที่สุดใช้เวลาในการยืนรอกว่าจะได้ไปในพระราชวังจริง ๆ เกือบ 1 ชั่วโมง แต่โชคดีที่ตัดสินใจมาก่อนเวลา ทำให้ไม่พลาดการเข้าชม ดังนั้นใครที่กำลังวางแผนมาเที่ยวที่นี่แนะนำให้เผื่อเวลาไว้เลย 1 ชั่วโมง ทั้งนี้ทั้งนั้นพอได้เข้าไปด้านในพระราชวังแล้วก็ต้องเจอกับแถวยาวอีก การชมพระราชวังก็เลยเหมือนกับงูที่ค่อย ๆ เลื้อยไปตามจุดต่าง ๆ นั้นเอง

การเดินทางไปพระราชวังเปนา

พระราชวังแห่งชาติเปนาตั้งอยู่ในเมืองซิงตราห่างจากใจกลางเมืองลิสบอนประมาณ 33 กม. นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงเมืองนี้ได้ด้วยรถไฟ รถบัสนำเที่ยว รวมถึงรถยนต์ จากนั้นใช้บริการรถบัสหรือเดินไปยังพระราชวัง เราจะมาอธิบายวิธีการเดินทางอย่างละเอียดกัน

จากลิสบอนไปซิงตรา

เดินทางด้วยรถไฟ (CP Train) เป็นวิธีที่สะดวกและรวดเร็วที่สุด มีรถไฟขบวนตรงสาย Lisbon-Sintra ให้บริการจากสถานีรถไฟหลัก 2 แห่ง คือ Lisbon Rossio (ตั้งอยู่ใจกลางเมือง) และ Lisbon Oriente (ตั้งอยู่ทางตะวันออกของเมือง) จากสถานีเหล่านี้ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 ไปยังสถานีรถไฟเมืองซิงตรา

รถไฟจากลิสบอนไปซิงตราวิ่งทุกวัน ระหว่างเวลา 06:05-24:00 น. ความถี่ 15-30 นาที ขึ้นอยู่กับวันและชั่วโมงเร่งด่วน ค่าโดยสารเที่ยวเดียว 2.30 ยูโร ตั๋วเดินทางรายวันไม่จำกัดเที่ยว 6 ยูโร สามารถหาซื้อตั๋วเดินทางได้ที่สำนักงานขายตั๋วในสถานีรถไฟและเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ ซึ่งตั๋วเดินทางสามารถโหลดลงในบัตร Viva Viagem มีค่าธรรม 0.5 ยูโร บัตรแต่ละใบสามารถใช้ได้ 1 คนเท่านั้น

จากซิงตราไปพระราชวังแห่งชาติเปนา

เมื่อเดินทางมาถึงสถานีรถไฟซิงตราแล้วเดินออกมาจากสถานีฝั่งถนน Av. Dr. Miguel Bombarda แล้วมองไปทางซ้ายมือจะเจอกับจุดจอดรถบัส Scotturb หมายเลข 434 สาย Pena Palace Circuit (กดเพื่อดูแผนที่) ซึ่งเป็นรถบัสทางการที่จะนำนักท่องเที่ยวไปยังพระราชวังแห่งชาติเปนาในเวลาประมาณ 30 นาที รถให้บริการทุกวันระหว่างเวลา 08:50-19:00 น. วิ่งทุก 15 นาที ตั๋วเดินทางรายวันไม่จำกัดเที่ยว 12.50-15 ยูโร รวมค่าธรรมบัตร 0.5 ยูโรแล้ว

เส้นทางรถบัสหมายเลข 434 วิ่งจากสถานีรถไฟซิงตราไปยังพระราชวังเปนา และจอดตามที่เที่ยวเหล่านี้ Sintra Station > Sao Pedro de Sintra > Sintra Vila > Palácio Biester > Moorish Castle > Pena Palace > Sintra Vila > Sintra Station แต่ละจุดห่างกันประมาณ 5 นาที เส้นทางนี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเที่ยวพระราชวังเปนาและปราสาทมัวร์

นอกจากรถบัสหมายเลข 434 ยังมีรถบัสหมายเลข 435 สาย Monserrate Circuit สำหรับเดินทางจากสถานีรถไฟซิงตราไปยังที่เที่ยวสำคัญอื่น ๆ เช่นกัน รถบัสจอดอยู่ฝั่งขวามือจากประตูทางออกสถานีรถไฟ ให้บริการทุกวันระหว่างเวลา 09:30-18:10 น. วิ่งทุก 15-25 นาที ตั๋วเดินทางรายวันไม่จำกัดเที่ยว 12.50-15 ยูโร รวมค่าธรรมบัตร 0.5 ยูโรแล้ว

เส้นทางรถบัสหมายเลข 435 วิ่งจากสถานีรถไฟซิงตราไปยังที่เที่ยวสำคัญโดยจอดตามป้ายเหล่านี้ Sintra Station > S.Pedro de Sintra > Sintra Vila > Quinta de Regaleira > Seteais Palace > Monserrate Palace > Colares > Rib. Sintra > Montes Santos > Sintra Station แต่ละจุดห่างกัน 2-6 นาที เส้นทางนี้เหมาะสำหรับคนที่เที่ยวนอกเหนือจากพระราชวังเปนาและปราสาทมัวร์

การเดินทางด้วยรถยนต์จากลิสบอนไปซิงตรา

เหมาะสำหรับคนที่ขับรถเที่ยว จากลิสบอนสามารถใช้เส้นทาง A37 และ A16 ไปยังซิงตรา ใช้เวลาขับประมาณ 30 นาที โดยสามารถหาที่จอดรถฟรีใกล้กับสถานีรถไฟ Portela de Sintra หรือ Merces (จากประสบการณ์ตรงจอดที่ P1 N – Parque Portela 1 Norte เป็นที่จอดรถฟรีไม่มีปัญหาอะไร แต่จากหลายรีวิวรถโดนทุบกระจกและขโมยทรัพย์สิน ถ้าเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงหาที่จอดรถแบบเสียเงินแทน ราคาประมาณ 2-15 ยูโรต่อวัน) จากสถานีรถไฟสามารถนั่งรถไฟไปยังซิงตราในเวลา 2-5 นาที ค่าโดยสารเที่ยวเดียว 1.35 ยูโร เมื่อถึงที่นั้นแล้วก็นั่งรถบัสสาย 434 ต่อไปยังพระราชวังเปนา

เที่ยวปราสาทมัวร์ (Castle of the Moors)

เที่ยวพระราชวังแห่งชาติเปนากันไปแล้ว ต่อไปเราจะพาไปเที่ยวปราสาทมัวร์กันบ้าง ปราสาทแห่งนี้เป็นสถานที่ทางสำคัญประวัติศาสตร์มีอายุตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 และ 9 โดดเด่นด้วยป้อมปราการที่ตั้งอยู่บนยอดเขาอันเขียวชอุ่ม ซึ่งเดิมสร้างขึ้นในสมัยการปกครองของชาวมัวร์ ปราสาทยังทำหน้าที่เป็นฐานที่มั่นในการป้องกันภัยและให้ทิวทัศน์ทางยุทธศาสตร์ของภูมิทัศน์โดยรอบ ปัจจุบันปราสาทกลายมาเป็นที่เที่ยวยอดนิยมอีกหนึ่งแห่งของเมืองซิงตราไม่แพ้พระราชวังแห่งชาติเปนา และที่สำคัญด้วยราคาตั๋วเพียง 8 ยูโร นับว่าคุ้มค่าที่จะไปเยือนด้วยตัวเอง อย่าลืมจองตั๋วออนไลน์ไว้ก่อนล่วงหน้า เพราะคิวต่อแถวที่เครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติค่อนข้างยาว ปราสาทมัวร์เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 09:30-18:00 น. ตั๋วและการเข้าชมรอบสุดท้ายจำหน่ายถึงเวลา 17:30 น.

วิธีเดินจากพระราชวังเปนาไปปราสาทมัวร์

สำหรับใครที่ไปเข้าชมพระราชวังแห่งชาติเปนามาแล้วสามารถเดินต่อไปยังปราสาทมัวร์ได้เลย โดยเดินย้อนลงเขาจากจุดจอดรถบัสสาย 434 หน้าทางเข้าพระราชวังไปประมาณ 2 นาทีจะเจอกับหน้าทางเข้าปราสาทมัวร์ที่ชื่อว่า “Bilheteira do Castelo dos Mouros” (ถ้าไม่อยากเดินตามไหล่ถนนสามารถเดินตามเส้นทางลัดในป่าไปยังหน้าทางเข้าได้เช่นกัน) จากจุดนี้ยังไม่ถึงปราสาทมัวร์เลย แต่ต้องเดินตามเส้นทางธรรมชาติเข้าไปอีกประมาณ 12 นาที ถึงจะเจอกับจุดตรวจตั๋ว ใครที่มีตั๋วแล้วใช้สแกนคิวอาร์โค้ดได้เลย ถ้ายังไม่มีสามารถต่อแถวซื้อได้ที่เครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ แนะนำให้ซื้อมาพร้อมเลยจะสะดวกกว่า พอสสแกนตั๋วแล้วก็สามารถเดินชมปราสาทมัวร์ได้เลย โดยเส้นทางจะลัดเลาะตามป้อมปราการไปจนถึงจุดสูงสุดที่สามารถมองเห็นวิวได้รอบด้าน

สิ่งที่น่าสนใจในปราสาทมัวร์

กำแพงหินและเชิงเทินของปราสาท

ปราสาทมัวร์มีจุดสนใจในการเข้าชมถึง 18 แห่ง โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็นหลายส่วน ครอบคลุมถึงส่วนที่เป็นไฮไลท์คือกำแพงหินและเชิงเทินของปราสาท มีความยาวรวมประมาณ 450 เมตร กำแพงเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญของสถาปัตยกรรมของปราสาท และมีผนังที่เลื้อยไปตามยอดเขาเพื่อเป็นแนวป้องกันที่แข็งแกร่ง

วิธีเดินไปยังกำแพงหินและเชิงเทินของปราสาทเพียงใช้เส้นทางซ้ายมือจากจุดตรวจตั๋ว พอไปถึงแล้วจะเจอกับหอคอยหลักของปราสาท (Castle Keep) สังเกตง่าย ๆ ด้วยธงโปรตุเกสที่ปักอยู่บนยอด โดยมีป้อมปราการทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางทางยุทธศาสตร์ บริเวณนี้มีจุดชมวิวที่สวยงามของเมืองซิงตราและภูมิภาคโดยรอบ

เมื่อเดินจากหอคอยหลักของปราสาทตามกำแพงเมืองไปจะเจอกับป้อมปราการอีกสองแห่ง ซึ่งป้อมปราการแห่งแรกสามารถมองเห็นพระราชวังแห่งชาติซิงตรา ในขณะที่ป้อมการหลังที่สองเหมาะสำหรับการถ่ายภาพที่มีฉากหลังเป็นหอคอยรอยัล บริเวณนั้นนับว่าเป็นจุดที่สูงที่สุดของปราสาทมัวร์ มีไฮไลท์คือสามารถมองเห็นพระราชวังแห่งชาติเปนา และพอมองกลับมาจะเห็นหอคอยหลักของปราสาทที่เราเดินผ่านมาก่อนหน้านี้ได้ชัดเจนทีเดียว

จากป้อมปราการสองหลังเดินตามกำแพงเมืองไปอีกจะเจอกับลานเปิดโล่งที่กว้างที่สุดในปราสาท (Arms Square) ในอดีตใช้เป็นจุดรวมตัวของทหารรักษาการณ์ ต่อมาหลังการปรับปรุงพื้นที่ในศตวรรษที่ 19 ได้เปลี่ยนลานแห่งนี้เป็นพื้นที่พักผ่อน ในขณะที่ทางด้านหลังสามารถมองเห็นกำแพงทางเข้าประตูโค้งประวัติศาสตร์ของชาวมัวร์

การเดินชมปราสาทมัวร์ยังไม่สิ้นสุดแค่นี้ เพราะนักท่องเที่ยวสามารถเดินจากลานรักษาการณ์ตามกำแพงเมืองขึ้นไปยังหอคอยรอยัล ซึ่งเป็นจุดที่สูงที่สุดของปราสาท เส้นทางเดินไม่ยากแต่ช่วงท้าย ๆ จะชันเป็นพิเศษ ใครที่เหนื่อยสามารถหยุดแวะพักตามป้อมปราการระหว่างทางได้

พอมาถึงหอคอยรอยัลแล้วเราจะได้เห็นวิวสวย ๆ ของปราสาทมัวร์มุมกว้างเป็นรางวัลตอบแทนให้หายเหนื่อย ในขณะที่ฝั่งขวามือสามารถมองเห็นพระราชวังแห่งชาติเปนาและอุทยานโดยรอบ บริเวณนี้ยังมีจุดถ่ายภาพสวย ๆ ที่สามารถเลือกได้เลย นับว่าคุ้มค่าในการเดินมาชมด้วยตัวเอง

พื้นที่ประวัติศาสตร์ของปราสาทมัวร์

นอกจากกำแพงหินและเชิงเทินของปราสาทที่เป็นไฮไลท์การเขาชมแล้ว ยังมีพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ที่ตั้งอยู่ด้านในถัดจากกำแพงเมือง แสดงถึงร่องรอยของชุมชนชาวมัวร์และชาวคริสต์ที่เคยตั้งรกรากอยู่ในอดีต เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของสถานที่แห่งนี้เพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นโบสถ์ศตวรรษที่ 12 ที่มีการจัดแสดงวัตถุทางโบราณคดีที่ค้นพบระหว่างปี 2009-2013 รวมถึงถังเก็บน้ำนิรภัยของชาวมัวร์สำหรับการหลบภัยในกำแพงปราสาท ตลอดจนสุสานคริสเตียนยุคกลาง และสุสานแห่งใหม่ที่สร้างขึ้นในระหว่างการบูรณะช่วงศตวรรษที่ 19 เพื่อใช้เก็บกระดูกที่พบเนื่องจากไม่สามารถแยกแยะได้ว่าสิ่งเหล่านี้เป็นซากมนุษย์ของชาวคริสต์หรือชาวมัวร์ โดยมีคำจารึกด้านหน้าว่า “สิ่งที่มนุษย์นำมารวมกัน พระเจ้าเท่านั้นที่จะแยกจากกัน”

การเข้าชมปราสาทมัวร์แนะนำให้เผื่อเวลาเดินเที่ยวไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง เส้นทางที่แนะนำไปข้างต้นนักท่องเที่ยวสามารถเลือกเดินได้ตามสะดวก ถ้าอยากเห็นหอคอยรอยัลก่อนแนะนำให้ใช้เส้นทางขวามือจากจุดตรวจตั๋ว แล้วค่อยเดินตามกำแพงเมืองต่อไปยังหอคอยหลักของปราสาท จากนั้นค่อยแวะมาชมพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ภายหลัง ที่สำคัญอย่าลืมเตรียมน้ำหรือขนมมาทานด้วย เพราะมีพื้นที่นั่งพักผ่อนเยอะเลย รวมถึงใส่รองเท้าที่เหมาะสำหรับการเดินจะได้ไม่ปวดเท้า โดยรวมแล้วปราสาทมัวร์คุ้มค่าตั๋วเข้าชม เป็นทั้งสถานที่ทางประวัติศาสตร์และได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันสวยงามของพื้นที่โดยรอบไปในตัว

ควรไปชมพระราชวังเปนาหรือปราสาทมัวร์ก่อนดี

หลายคนอาจจะมีคำว่าควรไปชมพระราชวังเปนาหรือปราสาทมัวร์ก่อนดี จากที่เราได้ไปมาและค้นพบว่าควรไปชมพระราชวังก่อน เพราะด้วยเหตุผลหลายอย่าง เช่น หนึ่ง: เป็นที่เที่ยวสำคัญของเมืองซิงตรา สอง: นักท่องเที่ยวเยอะมาก สาม: ใช้เวลายืนรอเข้าไปชมพระราชวังนาน ถ้าไปชมปราสาทก่อนอาจจะเดินกลับมาไม่ทัน และสี่: ใช้เวลาเดินค่อนข้างนานที่ปราสาทมัวร์ ไม่แนะนำให้ไปแบบรีบ ๆ สรุปแล้วก็เป็นความคิดที่ดีที่ไปชมพระราชวังก่อน จากนั้นก็เดินมาชมปราสาทมัวร์ได้แบบไม่รีบ ถือเป็นการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติไปในตัว

การเดินทางจากปราสาทมัวร์กลับไปสถานีรถไฟซิงตรา

จากปราสาทมัวร์นักท่องเที่ยวสามารถเดินออกมารอรถบัสสาย 434 ได้ที่ถนนฝั่งตรงข้ามหน้าทางเข้าปราสาท จากจุดนี้รถบัสจะนำเรากลับไปที่สถานีรถไฟซิงตรา ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ถ้าคนในรถบัสไม่เต็มรถบัสอาจจะไปจอดที่ป้ายพระราชวังแห่งชาติเปนาก่อนเพื่อเปลี่ยนไปขึ้นรถบัสอีกคัน (แต่ยังเป็นสายเดิม) ซึ่งวิ่งไปยังสถานีรถไฟซิงตราเช่นกัน

ที่เที่ยวน่าสนใจในเมืองซิงตรา

เมืองซิงตราไม่ได้มีแค่ที่เที่ยวสำคัญอย่างพระราชวังแห่งชาติเปนาและปราสาทมัวร์เท่านั้น แต่ยังรวมที่เที่ยวน่าสนใจไว้อีกหลายแห่ง ว่ากันว่าถ้าจะเที่ยวให้ครบหมดต้องมาพักแบบค้างคืนกันเลย อย่างไรก็ตามเราได้รวบรวมที่เที่ยวอื่น ๆ เผื่อเป็นตัวเลือกสำหรับผู้ที่สนใจ ซึ่งที่เที่ยวเหล่านี้ตั้งอยู่ตามเส้นทางเดินรถบัสสาย 434 และ 435 สะดวกต่อการไปเยี่ยมชมด้วยตัวเอง

การเดินทางไปลิสบอนจากอัมสเตอร์ดัม

อัมสเตอร์ดัมตั้งอยู่ห่างจากลิสบอนประมาณ 2,265 กม. นักท่องเที่ยวที่ต้องการไปเที่ยวลิสบอนสามารถเชื่อมต่อการเดินทางจากเมืองใกล้เคียงได้สะดวก เช่น อัมสเตอร์ดัม บรัสเซลส์ ปารีส มาดริด ครอบคลุมตัวเลือกด้วยเที่ยวบิน รถไฟ และรถยนต์ ดังรายละเอียด

เที่ยวพระราชวังแห่งชาติเปนา ใช้งบเท่าไร

ค่าใช้จ่ายสำหรับเที่ยวพระราชวังแห่งชาติเปนาและปราสาทมัวร์อยู่ที่ประมาณ 75 ยูโร คิดเป็นเงินไทยประมาณ 2,800 บาท ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายอาจเพิ่มขึ้นหรือลดลงตามปัจจัยต่าง ๆ เช่น ค่าที่พัก การเดินทาง อาหาร กิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงค่าที่จอดรถและค่าทางด่วน ซึ่งตัวเลขนี้ยังไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน เช็คราคาและจองตั๋วเครื่องบินราคาประหยัดได้ที่นี่

แผนที่เที่ยวเมืองซิงตราด้วยตัวเอง