กรุงเฮก (The Hague) หรือเดนฮาก (Den Haag) ตั้งอยู่ทางตะวันตกของเนเธอร์แลนด์ และยังเป็นเมืองหลวงของจังหวัดเซาท์ฮอลแลนด์ ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของการผสมผสานระหว่างเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่มาบรรจบกับความมีชีวิตชีวาสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว กรุงเฮกยังเป็นที่ตั้งของรัฐบาลดัตช์ รวมไปถึงศาลยุติธรรมระหว่างประเทศแห่งสหประชาชาติ ตลอดจนพิพิธภัณฑ์ยุคทองดัตช์ซึ่งเป็นบ้านเกิดของผลงานภาพวาดหญิงสาวสวมผ้าโพกหัวและต่างหูชื่อดัง ในขณะที่อีกฝั่งของเมืองเป็นชายหาดริมทะเลเหนือ เมื่อทุกอย่างมารวมตัวกันในเมืองเดียวนับว่าเป็นจุดหมายปลายทางลงตัวที่ชวนให้มาสัมผัสความสวยงามด้วยตัวเอง
ที่เที่ยวน่าสนใจกรุงเฮก (The Hague)
ชมอาคารรัฐสภาของรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ (Binnenhof)
บินเนนฮอฟ (Binnenhof) เป็นอาคารรัฐสภาของรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเฮก ห่างจากสถานีรถไฟประมาณ 12 นาที เป็นสถานที่ตั้งของสำนักงานนายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ กระทรวงต่าง ๆ รวมถึงเป็นที่ประชุมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา ด้านนอกของบินเนนฮอฟมีบ่อน้ำ Hofvijver ถูกสร้างขึ้นเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าโดย Count Aalbrecht ในศตวรรษที่ 14 ทางด้านขวามือของบินเนนฮอฟยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมาริทส์เฮ้าส์อีกด้วย
ทางเข้าบินเนนฮอฟมีอยู่ 2 ฝั่ง คือ ฝั่งถนน Binnenhof ใกล้กับย่านถนนชอปปิง และฝั่งจัตุรัสเห็ทเพลิยน์ติดกับพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมาริทส์เฮ้าส์ เมื่อเดินเข้าไปด้านในจะพบลานกว้างรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า โดยมีอาคารหลักคือห้องโถงอัศวิน (Ridderzaal) ตั้งอยู่ใจกลางจัตุรัส สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ด้วยสถาปัตยกรรมแบบกอทิก ปัจจุบันเป็นสถานที่กล่าวสุนทรพจน์ประจำปีของกษัตริย์ดัตช์ในวัน Prinsjesdag และยังเป็นสถานที่รองรับราชวงศ์และการประชุมระหว่างรัฐสภาอีกด้วย
ทางด้านขวามือใกล้กับประตูฝั่ง Binnenhof ยังเป็นที่ตั้งของ De Tweede Kamer ซึ่งเป็นที่ประชุมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในวันอังคาร วันพุธ และวันพฤหัสบดี มีการประชุมคณะกรรมการทุกวันธรรมดาตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ ใครที่สนใจเข้าชมด้านในสามารถแวะไปชมได้ที่อาคาร Tweede Kamer der Staten-Generaal บนถนน Pr. Irenepad 1 ด้านในเปิดเป็นพื้นที่แกลเลอรี่สาธารณะ สถานที่ประชุมรวมไปถึงน้องนั่งพักระหว่างพักเบรกการประชุม ใครที่สนใจเข้าชมอย่าลืมจองช่วงเวลาล่วงหน้าได้ที่ Visit the House of Representatives
พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมาริทส์เฮ้าส์ (Mauritshuis Museum)
ใกล้กับประตูทางออกของบินเนนฮอฟฝั่งจัตุรัสเห็ทเพลิยน์ (Het Plein) เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมาริทส์เฮ้าส์ หรือที่รู้จักกันในชื่อพิพิธภัณฑ์ศิลปะยุคทองของเนเธอร์แลนด์ ถูกสร้างขึ้นในที่พักส่วนตัวของเคานต์โยฮัน เมาริทส์ แห่งนัสเซา-ซีเกน และกลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1822
ด้านในพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมาริทส์เฮ้าส์มีการจัดแสดงชิ้นเอกมากกว่า 200 ชิ้น โดยปรมาจารย์ชาวดัตช์และเฟลมิชชื่อดังในช่วงศตวรรษที่ 17 ที่โดดเด่นและมีชื่อเสียง คือ ภาพเขียนสีน้ำมันหญิงสาวสวมต่างหูไข่มุก “Girl with a Pearl Earring” ของโยฮันเนส เวอร์เมียร์ ภาพเขียนสีน้ำมันบทเรียนกายวิภาคของนายแพทย์นิโคลาส์ ทิวป์ “The Anatomy Lesson of Nicolaes Tulp” รังสรรค์โดยแรมบรันต์ ภาพวาดสีน้ำมันนกโกลด์ฟินช์ “The Goldfinch” ของคาเรล ฟาบริติอุส รวมถึงภาพวาดสีน้ำมันกระทิงขนาดใหญ่ “The Young Bull” ของพอลลัส พอตเตอร์
คอลเล็กชันภาพวาดยุคทองดัตช์ทั้งหมดของพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมาริทส์เฮ้าส์ถูกจัดแสดงไว้ตามห้องต่าง ๆ มากถึง 30 ห้อง โดยออกเป็น 3 ชั้นด้วยกัน ในแต่ละชั้นมีแผนผังที่เดินง่ายสามารถทะลุถึงกันจากห้องหนึ่งไปยังอีกห้องหนึ่ง ในแต่ละห้องมีบรรยากาศที่เงียบสงบและจัดแสงแบบธรรมชาติส่องสว่างให้กับภาพวาด ทำให้ผู้เข้าชมสามารถมีส่วนร่วมกับงานศิลปะแต่ละชิ้นในระดับส่วนตัว ผลงานภาพวาดแต่ละชิ้นในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังมาพร้อมคำอธิบายภาษาดัตช์และภาษาอังกฤษ รวมถึงมีคู่มือเสียงที่ช่วยเพิ่มความเข้าใจตลอดการเยี่ยมชมอีกด้วย
เวลาเปิด: ทุกวัน เวลา 10:00-18:00 น. วันจันทร์ เวลา 13:00-18:00 น. ราคาตั๋วเข้าชม 19 ยูโร หรือใช้บัตร Museumkaart เข้าชมฟรี เพื่อความรวดเร็วอย่าลืมจองตั๋วเข้าชมล่วงหน้า และควรเผื่อเวลาเข้าชมไว้ประมาณ 1-1.30 ชั่วโมง
การเดินทาง: เดินจากสถานีรถไฟ The Hague Centraal ประมาณ 10 นาที หรือนั่งรถรางสาย 17 มาลงที่ป้าย Korte Voorhout (3 นาที) และเดินต่ออีก 4 นาทีไปยังพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมาริทส์เฮ้าส์
พิพิธภัณฑ์เอสเชอร์ในพระราชวัง (Escher in Het Paleis)
Escher in Het Paleis เป็นพิพิธภัณฑ์ชื่อดังในกรุงเฮกที่จะไม่กล่าวถึงเลยไม่ได้ ชื่อของพิพิธภัณฑ์มาจากชื่อของศิลปินชาวดัตช์ M.C. Escher’s Mind Bending ซึ่งโด่งดังจากการผสมผสานองค์ประกอบของคณิตศาสตร์ มุมมอง และโครงสร้างที่เป็นไปไม่ได้ ส่งผลให้เกิดเป็นภาพลวงตาแบบสามมิติ
อาคารพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ในพระราชวังฤดูหนาวเดิมของสมเด็จพระราชินีเอ็มมาแห่งเนเธอร์แลนด์ ถ้าเดินเข้าไปด้านในจะพบกับนิทรรศการตามชั้นต่าง ๆ ที่จัดแสดงผลงานของเอสเชอร์ แต่ละภาพถ้าได้ลองสังเกตดี ๆ แล้วจะพบว่าเป็นภาพลวงตาที่ดึงดูดสายตาอย่างไม่น่าเชื่อ อย่างเช่นภาพวาดที่เป็นไอคอนิกของเอสเชอร์ ‘Drawing Hands’ (1948) เป็นภาพพิมพ์หินที่แสดงมือสองข้างแบบสองมิติ โดยมือทั้งสองในภาพวาดดูเหมือนจะจับปากกาวาดกันและกันให้เกิดขึ้นพร้อมกัน เกิดเป็นมุมมองและความขัดแย้งของภาพซึ่งเป็นเทคนิดที่โดดเด่นของเอสเชอร์
เวลาเปิด: วันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 11:00-17:00 น. ราคาตั๋วเข้าชม 11.50 ยูโร หรือใช้บัตร Museumkaart เข้าชมฟรี การเดินทางสามารถเดินจากพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมาริทส์เฮ้าส์ไปทางหลังประมาณ 5 นาที
พิพิธภัณฑ์ภาพวาดพาโรนามาเมสดาก (Panorama Mesdag)
นอกจากพิพิธภัณฑ์เอสเชอร์แล้วยังมีพิพิธภัณฑ์น่าสนใจอีกหนึ่งแห่ง คือ Panorama Mesdag ซึ่งจัดแสดงภาพวาดพาโนรามาที่มีชื่อเสียง วาดโดยศิลปินชาวดัตช์ Hendrik Willem Mesdag ในปี พ.ศ. 2424 ภาพวาดนี้จัดแสดงอยู่บนชั้นสองของพิพิธภัณฑ์สามารถมองเห็นภูมิทัศน์ชายฝั่งของชายหาดซเคฟเวอร์นิงเงินได้รอบด้าน มีความสูงประมาณ 14 เมตร และเส้นรอบวง 120 เมตร ผู้เข้าชมยังสามารถมองเห็นทะเลเหนือและหมู่บ้านซเคฟเวอร์นิงเงินในปลายศตวรรษที่ 19 รวมถึงรายละเอียดต่าง ๆ เช่น ชายหาด เนินทราย และเรือประมงได้เหมือนจริง
เวลาเปิด: ทุกวัน เวลา 10:00-17:00 น. ราคาตั๋วเข้าชม 15 ยูโร หรือใช้ Museumkaart เข้าชมฟรี
ชมพระราชวังกรุงเฮก (Noordeinde Palace)
ไม่ไกลจากศิลปะเมาริทส์เฮ้าส์ประมาณ 10 นาที จะเป็นที่ตั้งของ Noordeinde Palace ซึ่งเป็นหนึ่งในที่ประทับอย่างเป็นทางการของพระมหากษัตริย์ดัตช์ และยังเป็นสถานที่ทำงานอย่างเป็นทางการของพระองค์ด้วยตั้งแต่ปี 2013 พระราชวังแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 ด้วยสไตล์เรอเนซองส์และบาโรกที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว โดยมีรายละเอียดหรูหราและความสมมาตรที่สง่างาม
ด้านในพระราชวังไม่ได้เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตามในช่วงฤดูร้อนอาจเปิดให้เข้าชมเป็นครั้งคราวประมาณ 12 วันในช่วงต้นเดือนสิงหาคม ตั้งแต่ 10:00-17:00 น. ตั๋วเข้าชม Noordeinde Palace 10 ยูโร และ Royal Stables 7.50 ยูโร มีตั๋วเข้าชมสถานที่ทั้งสองแห่งราคา 15 ยูโร และควรจองตั๋วล่วงหน้าเพราะเต็มเร็วมาก
การเข้าชมพระราชวังใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ทัวร์มาพร้อมเครื่องเสียงออดิโอสำหรับรับฟังความบรรยายเพิ่มเติมตามห้องต่าง ๆ ครอบคลุมถึงห้องแกรนด์บอลรูม ห้องรับแขก และห้องริมระเบียง ฯลฯ ส่วนโรงขี่ม้าสำหรับราชวงศ์ดัตช์ตั้งอยู่ทางด้านหลังพระราชวังมีประตูทางเข้าที่ฝั่งถนน Hogewal ด้านในเป็นคอกม้าหลวง มีพิพิธภัณฑ์รถม้า สถานที่ดูแลม้าที่ใช้ในงานพิธีทางการ รวมถึงรถโค้ชสีทอง รถโค้ชกระจก และรถรอยัลบัสสำหรับรับส่งสมาชิกในราชวงศ์สำหรับงานสำคัญต่าง ๆ ทัวร์นี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ด้านนอกสามารถเดิมชมได้ภายในเวลา 1 ชั่วโมง
เดินเล่นย่านชอปปิงของกรุงเฮก (The Hague City Center)
ใจกลางกรุงเฮกเรียกได้ว่ารวมบรรยากาศของความมีชีวิตชีวาไว้ได้อย่างน่าสนใจทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า Bijenkorf ชื่อดัง ต้องข้ามกับห้างนี้คือถนนสายชอปปิงที่มีบรรยากาศสุดคึกคัก และถ้าได้ลองเดินเล่นไปตามซอยเล็ก ๆ จะพบกับร้านค้าบูติก คาเฟ่ ตลอดจนร้านอาหารหลายแห่ง ใกล้ ๆ กันยังเป็นที่ตั้งของไชน่าทาวน์ บินเนนฮอฟและพิพิธภัณฑ์ยุคทองดัตช์ที่เราไปชมมาก่อนหน้านี้เอง การได้มาเดินย่านนี้ก็เลยได้ทั้งของกินของฝากไปในตัว
เยือนแหล่งชอปปิงอันโดดเด่น (The Passage)
ในย่านใจกลางกรุงเฮกยังเป็นที่ตั้งของ The Passage ซึ่งเป็นแหล่งชอปปิงอันสวยงามที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 ด้านในเป็นอาคารผนังยกสูงประดับด้วยรายละเอียดที่หรูหราและเพดานกระจกที่อาบทางเดินด้วยแสงธรรมชาติ โดยรวมร้านค้าบูติกติกระดับไฮเอนด์และร้านกาแฟ่ไว้หลายร้าน ใครที่มีเวลาลองแวะเข้าไปเดินเล่นหรือจะเดินเลือกซื้อสินค้าแบรนด์ก็มีเยอะเหมือนกัน
แวะไปไชน่าทาวน์กรุงเฮก (China Town The Hague)
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าถ้ามาเดินเล่นย่านชอปปิงของกรุงเฮกแล้วอย่าลืมแวะไปที่ไชน่าทาวน์ด้วย สามารถเข้าถึงได้จากถนนด้านข้างห้างสรรพสินค้า Bijenkorf ในย่านนี้รวมร้านอาหารเอเชียไว้เยอะมาก ที่สำคัญราคาไม่แพง นอกจากร้านอาหารแล้วก็ยังมีร้านขายชานมไข่มุกอีกด้วย
ร้านอาหารในไชน่าทาวน์ที่ไปแล้วต้องกลับไปกินซ้ำนับครั้งไม่ถ้วนเพราะอร่อยมาก คือ Momiji Ramen เมนูที่ต้องลองเลยคือ Volcano Ramen (Pittig) 15 ยูโร เป็นราเม็งภูเขาไฟเผ็ด ทานแล้วฮิวใจเวลาคิดถึงไทยดีมาก เอาเป็นว่าถ้าใครเป็นสายราเม็งเดินเข้าไปร้านนี้แล้วรับรองไม่ผิดหวัง ส่วนใครถ้าอยากทานของกินเล่นขึ้นชื่อของที่นี่ เช่น ปลาทอดกรอบ ปลาเฮร์ริง มีร้านอาหารทะเลตั้งอยู่ใกล้กัน (Simonis in de Stad) เช่นเดียวกับอาหารจีนต้องไปลองที่ร้าน Woeng Kee ติ่มซำของที่นี่ขอบอกว่าเด็ด ติดกับร้านนี้มีร้านขายขนมปังต้นตำรับชื่อว่า Bakery Li&U ให้ได้ลองทานกันด้วย
พระราชวังสันติภาพ (The Peace Palace)
พระราชวังสันติภาพหรือที่รู้จักภาษาดัตช์ว่า Het Vredespaleis เป็นที่เที่ยวยอดนิยมอีกหนึ่งแห่งในกรุงเฮก ตั้งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟเพียง 15 นาที ความสำคัญของที่แห่งนี้จนใครหลายต่างเดินทางมาเยือนด้วยตัวเองคือเป็นที่ตั้งของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศแห่งสหประชาชาติ และสถาบันกฎหมายระหว่างประเทศ รวมไปถึงห้องสมุดที่มีชื่อเสียงอย่าง “Library of the Peace Palace”
การเข้าชมพระรางวังสันติภาพสามารถทำได้ 2 แบบ คือ เข้าชมกับทัวร์ไกด์ทางการ (ต้องจองล่วงหน้า) ราคา 16.50 ยูโร ใช้เวลาทัวร์ประมาณ 50 นาที แบ่งออกเป็น 3 แบบ คือ ทัวร์พระราชวังภายใน พระราชวังภายนอก และทัวร์สวนด้านนอก ปัจจุบันทัวร์ไกด์ทางการยังไม่เปิดให้เข้าชม สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บทางการ
นักท่องเที่ยวยังสามารถชมพระรางวังสันติภาพได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ด้านในจัดแสดงนิทรรศการแบบโต้ตอบขนาดเล็กและภาพยนตร์ร่วมสมัยเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับพระราชวังสันติภาพและการทำงานด้านความยุติธรรมระหว่างประเทศ ทัวร์นี้ไม่มีค่าเข้าชมและสามารถบริจาคได้ตามความสมัครใจ ใช้เวลาเข้าชมประมาณ 30-45 นาที
เวลาเปิด: วันพุธ-วันอาทิตย์ เวลา 10:00-17:00 น. การเดินทางสามารถนั่งรถรางสาย 1 (Scheveningen Noord) ไปลงที่ Vredespaleis ใช้เวลาประมาณ 15 นาที จากนั้นเดินข้ามถนนไปจะเจอกับทางเข้าพระราชวัง
เที่ยวเมืองจิ๋วจำลองมาดูโรดัม (Madurodam)
ไม่ไกลจากพระราชวังสันติภาพประมาณ 15 นาที เป็นที่ตั้งของที่เที่ยวยอดนิยมอีกหนึ่งแห่งในกรุงเฮกคือเมืองจิ๋วจำลองมาดูโรดัม จุดเด่นของที่นี่คือรวมสถานที่สำคัญของเนเธอร์แลนด์ไว้ครบครัน และที่สำคัญเหมือนกับของจริงมาก ๆ เปิดให้เข้าชมทุกวัน เหมาะสำหรับทั้งเด็กและผู้ใหญ่
ด้านมาดูโรดัมในเป็นสวนสาธารณะครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 62,630 ตารางเมตร ถูกออกแบบเป็นเมืองเนเธอร์แลนด์ขนาดเล็กด้วยสเกล 1:25 มีขนาดประมาณ 17,630 ตารางเมตร ซึ่งประกอบไปด้วยอาคารทางประวัติศาสตร์ สถานที่สำคัญจากเมืองต่าง ๆ ท่าเรือ สนามบิน สถานีระบบขนส่งสาธารณะ รวมไปถึงกังหันลมและพื้นที่ทางธรรมชาติ ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงสภาพบ้านเมืองของชาวดัตช์รวมไปถึงการดำรงชีวิตขนาดย่อที่ไม่ว่ามองไปมุมไหนก็ดูแปลกตาไปหมด
การเดินเที่ยวในมาดูโรดัมใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง ถ้าแวะถ่ายภาพแต่ละจุดอาจใช้เวลานานขึ้น ควรเผื่อเวลาไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมงสำหรับการเข้าชม ช่วงเวลาที่แนะนำคือก่อนเที่ยงและหลังบ่ายสามโมงเย็นเป็นต้นไป ช่วงเที่ยงจนถึงบ่ายสามโมงคนจะเยอะเป็นพิเศษ โดยเฉพาะช่วงหน้าร้อนที่โรงเรียนปิดเทอมผู้ปกครองมักจะพาเด็ก ๆ มาที่นี่
เวลาเปิด: ทุกวัน เวลา 09:00-18:00 น. ราคาตั๋วเข้าชม 18 ยูโร (แบบระบุวันที่เข้าชม) 23.50 ยูโร (แบบระบุวันที่เข้าชมภายหลัง) การเดินทางสามารถนั่งรถรางของ HTM สาย 9 เส้นทาง Scheveningen Noord ไปลงที่ป้าย Madurodam (Noord) จากนั้นเดินต่ออีก 2 นาทีไปยังทางเข้า
เที่ยวชายหาดซเคฟเวอร์นิงเงิน (Scheveningen Beach)
จากเมืองจิ๋วจำลองมาดูโรดัมท่องเที่ยวสามารถเดินทางต่อไปเที่ยวที่ชายหาดซเคฟเวอร์นิงเงินได้ภายใน 10 นาที ชายหาดนี้เป็นชายหาดยอดนิยมของชาวดัตช์และชาวต่างชาติ เนื่องจากตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเฮก และที่สำคัญยังมีกิจกรรมให้เลือกทำหลากหลาย เช่น พักผ่อนริมชายหาด เล่นน้ำทะเล เล่นกระดานโต้คลื่น หรือกิจกรรมท้าทายความตื่นเต้น เช่น ชิงช้าสวรรค์ บันจี้จัมพ์ และซิปไลน์ สำหรับใครที่ไม่ถนัดเครื่องเล่นเหล่านี้ก็สามารถเดินเล่นเดินชมบรรยากาศริมทะเลได้เหมือนกัน
นอกจากกิจกรรมท้าทายความตื่นแล้วก็ยังมีพิพิธภัณฑ์หลายแห่งให้เลือกเข้าชม เช่น สถานที่จัดแสดงสัตว์น้ำนานาชนิด (SEA LIFE Scheveningen) พิพิธภัณฑ์ Beelden aan Zee เน้นการจัดแสดงประติมากรรมร่วมสมัย และ LEGOLAND Discovery Centre สนามเด็กเล่นในฝันของเด็ก ๆ
การเดินทางไปชายหาดซเคฟเวอร์นิงเงินเพียงนั่งรถรางของ HTM สาย 9 เส้นทาง Scheveningen Noord ไปลงที่ป้าย Kurhaus การเดินทางใช้เวลา 10 นาที จากนั้นเดินต่ออีก 3 นาทีไปยังชายหาด
นั่งชิงช้าสวรรค์ชมทะเลเหนือ (SkyView de Pier)
หนึ่งในกิจกรรมยอดนิยมเมื่อมาเยือนชายหาดซเคฟเวอร์นิงเงินก็คือการนั่งชิงช้าสวรรค์บนท่าเรือ The Pier ที่ยื่นออกไปในทะเล ชิงช้าสวรรค์นี้มีความสูงถึง 50 เมตร สามารถมองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามของทะเลเหนือ รวมถึงชายหาดซเคฟเวอร์นิงแบบสุดลูกหูลูกตา วันไหนท้องฟ้าแจ่มใสจะได้เห็นเมืองรอตเตอร์ดัมอีกด้วย ความพิเศษอีกหนึ่งอย่างคือสามารถสั่งเครื่องดื่มไปจิบพร้อมชมวิวไปพร้อมๆ กันได้อีก สะดวกครบครันแบบนี้ต้องลองแวะไปแล้วแหละ
กระโดดบันจี้จัมพ์ท้าทายความตื่นเต้น (Bungy Jump Holland)
นอกจากการนั่งชิงช้าสวรรค์ชมวิวแล้ว บันจี้จัมพ์ยังเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะผู้ที่ชอบท้าทายความตื่นเต้น จุดขึ้นบันจี้จัมพ์ตั้งอยู่บนท่าเรือ The Pier ถัดจากชิงช้าสวรรค์ พอซื้อตั๋วแล้วสามารถเดินขึ้นบันไดวน 6 รอบไปยังชั้นบนสุดเพื่อกระโดดลงมาด้วยความสูง 60 เมตร ทั้งหมดนี้แม้จะใช้เวลาไม่นานแต่ก็นับว่าเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าสำหรับคนที่อยากท้าทายความกล้าตัวเอง ตั๋วกระโดดบันจี้จัมพ์ราคาอยู่ที่ 100 ยูโรต่อคน ถ้ากระโดดคู่กันราคาอยู่ที่ 180 ยูโร และยังมีตั๋วรวมกระโดดบันจี้จัมพ์และเล่นซิปไลน์ด้วย 130 ยูโร
เล่นซิปไลน์ (Zip Holland)
สำหรับใครที่อยากจ่ายราคาถูกกว่าการกระโดดบันจี้จัมพ์ยังมีซิปไลน์ให้เลือกเล่น จุดขึ้นซิปไลน์อยู่ที่เดียวกับการกระโดดบันจี้จัมพ์และไหลตามสลิงยาว ๆ ผ่านชิงช้าสวรรค์ไปจนถึงจุดสิ้นสุดที่อยู่บนท่าเรือ The Pier ราคาอยู่ที่รอบละ 40 ยูโร
ชมสวนญี่ปุ่นใหญ่ที่สุดในเนเธอร์แลนด์ (Japanese Garden)
เดินเล่นริมชายหาดกันไปแล้วลองเปลี่ยนบรรยากาศพาตัวเองไปสู่โอเอซิสอันเงียบสงบกันบ้าง ไม่ไกลจากกรุงเฮกประมาณ 15 นาทีมีสวนญี่ปุ่นตั้งอยู่ในสวนสาธารณะ Clingendael สวนที่ว่านี้นอกจากจะมีความสวยงามแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมแล้วยังเป็นสวนญี่ปุ่นที่ใหญ่ที่สุดในเนเธอร์แลนด์อีกด้วย
ตามประวัติย่อสวนนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 โดย Marguerite M. Baronesse van Brienen (หรือที่รู้จักกันในชื่อ Lady Daisy) โดยใช้วัสดุต่าง ๆ ระหว่างที่เธอเดินทางไปญี่ปุ่น และออกแบบสวนด้วยความช่วยเหลือจากชาวสวนญี่ปุ่น ทำให้สวนแห่งนี้ได้รับการดูแลและอนุรักษ์ไว้อย่างดีตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ด้านในสวนมีการจัดแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมและรวมเอาองค์ประกอบหลัก เช่น น้ำ หิน และพืชเข้าด้วยกัน ถ้าเดินเข้าไปอันดับแรกจะเจอกับสะพานและประตูทางเข้า พอเดินผ่านประตูทางเข้าไปจะพบกับบรรยากาศที่เงียบสงบ ใจกลางสวนสามารถมองเห็นสระน้ำซึ่งเป็นที่อยู่ของปลาคราฟ โดยมีต้นซากุระและศาลาญี่ปุ่นเป็นฉากหลัง สวนยังได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันด้วยโคมไฟหิน สะพานไม้ และบันไดหิน เรียกได้ว่าแต่ละมุมสวยไม่แพ้สวนต้นฉบับในญี่ปุ่นเลย ผู้เข้าชมสามารถเดินลัดเลาะไปตามทางเดินเพื่อชื่นชมความสวยงามและเก็บภาพความประทับใจ นับว่าเป็นสวนญี่ปุ่นที่ให้ทั้งความสวยงามและสัมผัสบรรยากาศอันเงียบสงบอย่างไม่น่าเชื่อ
เวลาเปิด: สวนญี่ปุ่นเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมฟรีในช่วงเวลาสั้นๆ ในแต่ละปีเท่านั้น โดยปกติจะเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง ตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนมิถุนายน เวลา 09:00-17:00 น. และกลางถึงปลายเดือนตุลาคม เวลา 10:00-16:00 น.
การเดินทาง: นั่งรถบัตร HTM จากสถานี The Hague Central ไปลงที่ป้าย Laan van Clingendael หรือ Wassenaarseweg การเดินทางใช้เวลา 15 นาที จากนั้นเดินผ่านสวนสาธารณะอีกประมาณ 12 นาทีไปยังสวนญี่ปุ่น
เดินเล่นชมธรรมชาติในพื้นที่เนินทรายริมชายฝั่ง (Meijendel)
Meijendel เป็นเขตอนุรักษ์ธรรมชาติขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใกล้กับชายหาดซเคฟเวอร์นิงเงินและสวนญี่ปุ่น โดยมีจุดเด่นคือภูมิประเทศที่หลากหลายประกอบด้วยเนินทราย ป่าไม้ ทุ่งหญ้า และพื้นที่ชายฝั่ง เป็นที่อยู่อาศัยของพืชและสัตว์หลายสายพันธุ์ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 2,000 เฮกตาร์ กิจกรรมน่าสนใจใน Meijendel คงหนีไม่พ้นการเดินป่าชมธรรมชาติผ่านเส้นทางที่ลัดเลาะไปตามพื้นที่เนินทราย และยังมีเส้นทางให้เลือกเดินตามระยะทางที่ต้องการ เส้นทางบางสายยังสามารถเดินไปจนถึงพื้นที่ชายหาดได้ด้วย
ใจกลาง Meijendel มีร้านอาหารสำหรับแวะพัก รวมถึงสำนักงานบริการข้อมูลนักท่องเที่ยวที่ด้านในมีการจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับสัตว์หลายชนิด ส่วนด้านนอกเป็นสนามเด็กเล่นและพื้นที่จอดรถจักรยาน ถ้าเดินจากจุดนี้ไปประมาณ 20 นาทีจะเจอกับเส้นทางแยกขวามือไปยังชายหาด แต่ถ้าเดินตรงไปจะเจอกับจุดชมวิว Uitkijkpunt Panneduin มีมุมถ่ายภาพกรุงเฮกที่สวยงาม และยังสามารถมองเห็นหอคอยเก็บน้ำจากศตวรรษที่ 19 และท่าเรือในชายหาดซเคฟเวอร์นิงเงินในเวลาเดียวกัน และถ้าเดินต่อไปเรื่อย ๆ จะเจอกับเส้นทางไปยังชายหาดซเคฟเวอร์นิงเงิน กิจกรรมนี้ใช้เวลาเดินประมาณ 1-2 ชั่วโมง ถ้ามาในช่วงพระอาทิตย์ตกเย็นจะสวยเป็นพิเศษ
นอกการเดินป่าชมธรรมชาติแล้วยังมีเส้นทางจักรยานหลายสายที่ให้นักปั่นได้สำรวจพื้นที่ด้านในแบบใช้เวลาเร็วกว่าการเดิน เส้นทางแนะนำ คือ Meijendel Route สามารถปั่นได้จากใจกลางกรุงเฮกไปตามเขตอนุรักษ์ธรรมชาติ ระยะทางรวม 30 กม. ใช้เวลาปั่นประมาณ 1.30 ชั่วโมง ตามเส้นทางปั่นมีจุดจอดรถจักรยานสำหรับแวะพักชมวิว ถ้าไม่ได้นำจักรยานมาเอง สามารถหาเช่าได้จากใจกลางเมืองราคาประมาณ 10-15 ยูโรต่อวัน
พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่และร่วมสมัย (Kunstmuseum Den Haag)
นอกจากภาพวาดจากศิลปินดัตช์ชื่อดังที่นักท่องเที่ยวมักจะพบในพิพิธภัณฑ์แล้ว ยังมีพิพิธภัณฑ์อีกหนึ่งแสดงที่เน้นการจัดแสดงคอลเลกชันงานศิลปะสมัยใหม่และร่วมสมัยนั้นก็คือ Kunstmuseum Den Haag พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับย่านสวนสาธารณะ Scheveningse Bosjes ห่างจากใจกลางเมืองประมาณ 20 นาที
ด้านในไม่เพียงแค่รวบรวมผลงานของศิลปินชาวดัตช์และศิลปินนานาชาติ แต่ยังรวมถึงไฮไลท์ผลงานของมอนเดรียน (Piet Mondrian) ที่โดดเด่นในเรื่องสีหลักและรูปทรงเรขาคณิต พิพิธภัณฑ์ยังรวมถึงผลงานของ Hendrik Willem Mesdag เจ้าของผลงานภาพวาดพาโรนามาชายหาดซเคฟเวอร์นิงเงินที่เรากล่าวไปก่อนหน้านี้ ตลอดจนประติมากรรม มัณฑนศิลป์ จากศิลปินหน้าใหม่ที่จะพาผู้เข้าชมไปประสบการณ์ทางศิลปะที่หลากหลายด้วยตัวเอง
เวลาเปิด: วันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 10:00-17:00 น. ราคาตั๋วเข้าชม 17.50 ยูโร หรือใช้บัตร Museumkaart เข้าชมฟรี การเดินทาง: นั่งรถบัสสาย 24, 28 หรือรถรางสาย 17 ไปลงที่ป้าย Kunstmuseum จากนั้นเดินอีก 3 นาทีไปยังพิพิธภัณฑ์
เดินตลาดกรุงเฮก (Haagse Markt)
ตลาดกรุงเฮกเป็นหนึ่งในตลาดที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ตั้งอยู่บน Herman Costerstraat ห่างจากสถานีรถไฟประมาณ 10 นาที ด้านในตลาดมีขนาดใหญ่รวมร้านค้าไว้ตลอดทางเดิน 3 ช่องยาวกว่า 450 เมตร สินค้าที่ขายในตลาดนี้เรียกได้ว่ามีเกือบทุกอย่างเท่าที่จะจินตนาการได้ ตั้งแต่ของกินของใช้ไปจนถึงสินค้าแปลกใหม่ให้เลือกมากมาย พอได้ไปเดินแล้วต้องบอกเลยว่ามีของขายเยอะจริง ๆ ที่สำคัญการจัดการเป็นระเบียบ เดินได้สะดวกแบบไม่ต้องกลัวหลงเลย ใครที่มีเวลาเหลือจากการเดินเที่ยวในกรุงเฮกลองแวะไปได้
เวลาเปิด: 4 วันต่อสัปดาห์ วันจันทร์ พุธ ศุกร์และเสาร์ เวลา 09:00-17:00 น. การเดินทาง: นั่งรถรางสาย 6 มาลงที่ป้าย Haagse Markt และเดินอีกอีก 2 นาทีจะเจอตลาดเลย
ขึ้นหอคอยชมวิวกรุงเฮก (De Haagse Toren)
De Haagse Toren เป็นอาคารที่โดดเด่นแห่งหนึ่งในกรุงเฮก ด้านบนสามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามของกรุงเฮก เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมกับไกด์ทัวร์ โดยทัวร์ต้องเดินผ่านบันได 288 ขั้น สูง 92.5 เมตร ระหว่างทางไกด์จะให้ความรู้เกี่ยวกับหอคอยเฮกไปพร้อม ด้านในหอคอยแบ่งออกเป็นหลายส่วนครอบคลุมถึงชั้นเก็บชิ้นส่วนที่เคยประดับตัวโบสต์ด้านนอก ชั้นระฆัง ชั้นนาฬิกาที่จะส่งเสียงแจ้งเตือนทุกชั่วโมง และส่วนของระเบียงด้านนอกสำหรับชมวิวพาโรนามา ทั้งหมดนี้นับว่าเป็นทัวร์ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของโบสถ์และหอคอยแห่งนี้ได้ดี และที่สำคัญยังได้เห็นวิวสวย ๆ ภายในเวลา 1-2 ชั่วโมง ใครที่สนใจแนะนำให้เลือกวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสจะได้ไม่มีเมฆมาบดบังทัศนียภาพ
เวลาเปิด: ทัวร์ขึ้นหอคอยเปิดให้เข้าร่วมวันพฤหัส ศุกร์ เสาร์และอาทิตย์ เวลา 13:00-15:00 น. (เดือนเมษายน-กันยายน) วันเสาร์และอาทิตย์ เวลา 13:00-15:00 น. (เดือนตุลาคม-มีนาคม) ตั๋วเข้าชมราคา 7 ยูโร การเดินทางสามารถเดินจากย่านชอปปิงใจกลางเมืองไปยังหอคอยได้ภายใน 10 นาที
ปั่นจักรยานไปชมกังหันลมในไลด์เซนดัม
เมืองใกล้เคียงกรุงเฮกอย่างซูเทอร์เมียร์ (Zoetermeer) ก็มีความน่าสนใจไม่น้อย เป็นที่ตั้งของ SnowWorld Zoetermeer ลานฝึกซ้อมสกีและสโนว์บอร์ดขนาดใหญ่ยาวถึง 300 เมตร เหมาะทีเดียวสำหรับคนที่ชื่นชอบกีฬาฤดูหนาว และที่สำคัญยังมีคอร์สเรียนทั้งแบบส่วนตัวและแบบกลุ่มทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ให้ได้ลองฝึกกันด้วย
ถ้าตัดสินใจปั่นไปที่เมืองซูเทอร์เมียร์จะพบกับเส้นทางพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ (ในภาษาดัตช์เรียกว่า Groene Hart) ขึ้นชื่อเรื่องธรรมชาติผสมผสานกับการเกษตรครอบคลุมเทศบาล Zoetermeer, Alphen aan den Rijn, Gouda และ Woerden ระหว่างทางยังจะพบกับกังหันเก่าแก่จำนวนสามหลังที่มีชื่อเสียง ได้แก่ Molendriegang Stompwijk, Midden molen Stompwijkseweg และ Ondermolen Nieuwe Driemanspolder ตั้งอยู่ท่ามกลางทัศนียภาพที่สวยงาม เส้นทางนี้ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ระยะทาง 8.5 กิโลเมตร
เดินตลาดคริสต์มาสที่ The Lange Voorhout
The Lange Voorhout เป็นถนนสายร่มรื่นในกรุงเฮกตั้งอยู่ใกล้กับบินเนนฮอฟ และยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์เอสเชอร์ ถนนสายนี้มีทางเดินทอดยาวเป็นรูปตัว L สลับกับต้นลินเดนสีสันสดใส ถ้ามาเดินที่นี่ในวันพุธจะมีตลาดเกษตรกรขายผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกจากผู้ประกอบดัตช์ เปิดระหว่างเดือนมีนาคมถึงธันวาคม ระหว่างเวลา 10:00-17:00 น. และยังมีตลาดขายของเก่าและหนังสือในวันพฤหัสหรือวันอาทิตย์ด้วย ในช่วงฤดูหนาวทางเดินนี้จะเปลี่ยนเป็นตลาดคริสต์มาสสุดคึกคัก ด้านในตลาดรวมแผงขายของ ร้านอาหาร และการแสดงดนตรีสดไว้ตลอดค่ำคืน ใครที่กำลังมองหาตลาดคริสต์มาสในกรุงเฮกต้องไม่พลาดที่จะลองไปเดินด้วยตัวเอง
นั่งรถรางท่องเที่ยวสายเก่าแก่ (The Hop-on Hop-off tram)
หลายคนอาจจะเคยเห็นรถรางสีแดงในกรุงเฮกมาก่อน แต่รู้หรือไม่ว่ายังมีรถรางดั้งเดิมสีเขียวครีมจากปี 1950 ที่จะพาผู้โดยสารทัวร์ไปตามที่เที่ยวต่าง ๆ ในกรุงเฮก ครอบคลุมถึง Escher in Het Paleis, Binnenhof, Mauritskade, Madurodam, Peace Palace, Kunstmuseum Den Haag, Scheveningen Beach และ Kurhaus บนรถรางแต่ละที่นั่งยังมาพร้อมเครื่องเสียงออดิโอไกด์สำหรับฟังข้อมูลในแต่ละสถานที่ ตลอดเส้นทางนักท่องเที่ยวไม่ต้องกังวลว่าจะใช้เวลาในแต่ละที่ไม่คุ้ม เพราะมีจุดแวะพักทั้งหมด 14 จุดที่สามารถขึ้นและลงได้ตามต้องการ รถรางวิ่งทุก 30 นาที ระหว่างเวลา 10:15-16:45 น. ให้บริการในวันเสาร์และอาทิตย์ ระหว่างเดือนเมษายน-พฤศจิกายน ตั๋วราคา 16 ยูโร
เที่ยวสวนดอกทิวลิปเคอเคนฮอฟจากกรุงเฮก (The Hague)
สวนดอกทิวลิปเคอเคนฮอฟเป็นหนึ่งในที่เที่ยวยอดนิยมของเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่ที่ชานเมืองลิซเซ่ (Lisse) ในจังหวัดเซาท์ฮอลแลนด์ ห่างจากกรุงเฮกประมาณ 30 กม. นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปสวนดอกทิวลิปสะดวกด้วยรถไฟและรถบัส โดยนั่งรถไฟจากสถานี The Hague Centraal (19 นาที/4-5 ยูโร) ไปยังสถานี Leiden Centraal จากนั้นนั่งรถบัส Keukenhof Express (Bus 854) จากสถานีรถไฟเมืองไลเด้น (รถจอดที่สถานีขนส่งฝั่งใจกลางเมืองถัดจากสถานีรถไฟ) ไปยังสวนดอกทิวลิปเคอเคนฮอฟ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที รถออก 4 เที่ยวต่อหนึ่งชั่วโมง ค่าตั๋วรถบัส 12 ยูโร
ตัวเลือกการเดินทางในกรุงเฮก
การเดินทางในกรุงเฮกด้วยระบบขนส่งสาธารณะมีความสะดวกรวดเร็ว ดำเนินการโดยผู้ให้บริการหลักคือ HTM (Haagsche Tramweg-Maatschappij) ทั้งรถราง (Tram) รถโดยสารประจำทาง (Bus) รถไฟใต้ดิน (RandstadRail) รถโดยสารประจำทางกลางคืน (HTM Buzz) รวมไปถึง Arriva และ Connexxion ที่ให้บริการขนส่งสาธารณะในภูมิภาคใกล้เคียง เช่น Delft, Rijswijk, Voorburg, Leidschendam, Nootdorp, Zoetermeer และ Wateringen ผู้โดยสารสามารถเดินทางโดยใช้บัตรโดยสารร่วมเพียงบัตรเดียวโดยไม่ต้องแบ่งประเภทการเดินทาง และยังสามารถใช้ Ovpay เพื่อสแกนบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิตเพื่อชำระค่าโดยสารโดยตรงบนรถ
นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางจากกรุงเฮกไปยังรอตเตอร์ดัมสามารถใช้บริการรถไฟใต้ดินสาย E จากสถานี Den Haag Centraal ไปยัง Rotterdam Centraal ได้ภายใน 30 นาที ราคาตั๋วเริ่มต้น 4.50 ยูโรใช้เดินทางได้ 2 ชั่วโมง บัตรโดยสารรายวัน ราคา 9.50 ยูโร ส่วนผู้ที่โดยสารรถราง RandstadRail สาย 3, 4 และ 34 จากสถานี Den Haag Centraal สามารถเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟใต้ดินสาย E ไปยังรอตเตอร์ดัมได้ที่สถานี Leidschenveen
การเดินทางจากสนามบินไปกรุงเฮก
จากท่าอากาศยานอัมสเตอร์ดัมสคิปโฮล
จากท่าอากาศยานรอตเตอร์ดัมกรุงเฮก
การเดินทางไปกรุงเฮกจากเมืองใกล้เคียง
ถ้าวางแผนเที่ยวกรุงเฮกและเมืองอื่นรวมกันแบบเดย์ทริป เช่น รอตเตอร์ดัม เดลฟท์ เกาดา และไลเด้น เพื่อช่วยประหยัดค่าเดินทางแนะนำให้ใช่ตั๋ว Tourist Day Ticket สำหรับเดินทางด้วยรถราง รถไฟใต้ดิน และรถบัสได้ไม่จำกัดเที่ยวใน 1 วัน
แผนที่เดินเที่ยวกรุงเฮกด้วยตัวเอง
กดดูและบันทึกแผนที่เที่ยวกรุงเฮกเพื่อช่วยวางแผนการเดินทาง
เที่ยวอย่างอุ่นใจไปกับบัตรเดบิต Wise สำหรับใช้จ่ายทั่วโลก สามารถใช้ถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มต่างประเทศตามอัตราแลกเปลี่ยนจริงโดยไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง ใช้ชำระค่าอาหาร จองที่พักหรือตั๋วเครื่องบิน รวมถึงในร้านค้าออนไลน์ทั่วโลกกว่า 50+ สกุลเงิน ทั้งยังรองรับการชำระผ่าน MasterCard, Apple Pay และ Google Pay โดยไม่ต้องกังวลในการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน ใช้มานานกว่า 4 ปีไม่ผิดหวัง → สมัครรับบัตรเดบิต Wise ไว้ใช้ประโยชน์ด้วยตัวเองตอนนี้เลย
แหล่งข้อมูลวางแผนเที่ยว
Thank you
การเปิดเผย: บทความนี้มีลิงก์แอฟฟิลิเอทบางส่วน การกดที่ลิงก์ไม่มีค่าใช้จ่าย หากซื้อสินค้าหรือบริการจากลิงก์ดังกล่าว เราอาจได้รับค่ากำลังใจเล็กน้อยสำหรับนำไปพัฒนาบล็อก 🧡