หมู่บ้านกังหันลม Zaanse Schans เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่ในย่านเมืองซานดัม (Zaandam) ใกล้กับซานไดค์ (Zaandijk) จังหวัดนอร์ทฮอลแลนด์ ห่างจากกรุงอัมเตอร์ดัมประมาณ 50 นาที ที่แห่งนี้เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของกังหันลม บ้านเรือนไม้เก่าแก่ โรงงานทำรองเท้าไม้ รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์ซานส์ (Zaans Museum) บอกเล่าประวัติความเป็นมาของซานส์สคันส์และการปกป้องมรดกของพื้นที่ซานส์ และ Verkade Experience โรงงานผลิตบิสกิตและช็อคโกแลตต้นศตวรรษที่ 20 เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่กำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวแบบครึ่งวันหรือเดย์ทริปจากกรุงอัมสเตอร์ดัม แถมการเดินทางไปยัง หมู่บ้านกังหันลม Zaanse Schans ด้วยระบบขนส่งสาธารณะนั้นยังสะดวกอีกด้วย
ทำอะไรได้บ้างที่ หมู่บ้านกังหันลม Zaanse Schans?
- เข้าชมพิพิธภัณฑ์ซานส์ (Zaans Museum)
- สัมผัสประสบการณ์โรงงานช็อกโกแลตและบิสกิตของต้นศตวรรษที่ 20
- เยี่ยมชม Weaver’s House (บ้านช่างทอผ้างานฝีมือของชาวดัตช์ในศตวรรษที่ 18)
- เรียนรู้วิธีการผลิตถังเบียร์ (Cooperage)
- ถ่ายภาพกับ Weaver’s House (บ้านของชาวประมงดั้งเดิมและเครื่องแต่งงานแบบชาวซานส์)
- ชมโรงสีการผลิตแป้ง เครื่องเทศ ฯลฯ และทัศนียภาพที่งดงามของกังหันลม (Windmills)
- ล่องเรือทัวร์ชมกังหันลมจากแม่น้ำซาน
- ชมบ้านทำรองเท้าไม้ ร้านขายชีส พิพิธภัณฑ์เบเกอรี่ ฯลฯ
- และแวะซื้อของฝากจากหมู่บ้านกังหันลม Zaanse Schans


พิพิธภัณฑ์ซานส์ (Zaans Museum)
Zaans Museum เป็นพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าประวัติความเป็นมาของซานส์สคันส์ สร้างขึ้นเพื่ออนุรักษ์และปกป้องมรดกของพื้นที่ซานส์ เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 1998 เหมาะสำหรับการเข้าชมก่อนที่จะเดินไปยังหมู่บ้านกังหันลม Zaanse Schans ที่อยู่ทางซ้ายมือ เพราะจะทำให้เราเข้าใจประวัติความเป็นมาของที่นี่มากขึ้น

ภายในพิพิธภัณฑ์ซานส์มีการจัดนิทรรศการหลายส่วน เช่น “The Zaan region really makes it” (การพัฒนาเป็นเขตอุตสาหกรรมแห่งแรกของยุโรปตะวันตก) “Claude Monet in Zaandam” (ภาพวาดของจิตรกรชาวฝรั่งเศสผู้โด่งดังเกี่ยวกับภูมิทัศน์ของซานส์) “Typically Zaans” (คอลเล็กชันรวมของสะสม หนังสือ เครื่องใช้ เสื้อผ้า ฯลฯ) รวมไปถึง “Verkade Experience” โรงงานช็อกโกแลตและบิสกิตของต้นศตวรรษที่ 20 ซึ่งเป็นเครื่องจักรดั้งเดิมในการผลิตขนม (ปัจจุบันไม่ได้ใช้งานแล้ว) และการจัดแสดงขนมและช็อกโกแลตหลากหลายชนิด
ในปี 2016 พิพิธภัณฑ์ซานส์ ยังได้เปิดสถานที่อีกสามแห่ง ได้แก่ Weaver’s House (บ้านช่างทอผ้างานฝีมือของชาวดัตช์ในศตวรรษที่ 18) Cooperage (บ้านผลิตถังเบียร์) และ Jisper House (บ้านของชาวประมงดั้งเดิมและเครื่องแต่งงานแบบชาวซานส์)
หากเข้าชมพิพิธภัณฑ์ซานส์แล้วอย่าลืมแวะไปเข้าชมสถานที่อีกสามแห่งข้างต้นด้วยนะคะ เผื่อจะได้สัมผัสประสบการณ์และเรียนรู้การใช้ชีวิตของชาวซานส์แบบดั้งเดิมอย่างเต็มที่
ข้อมูลเข้าชมพิพิธภัณฑ์ซานส์ (Zaans Museum)
- เวลาเปิดทำการ: ทุกวันเวลา 10:00-17:00 น. (หยุดวันที่ 25 ธันวาคม และ 1 มกราคม)
- ราคาตั๋วเข้าชม 14.50 ยูโร หรือใช้บัตร I Amsterdam Card เข้าชมฟรี
- ราคาตั๋วรวมเครื่องฟังออดิโอนาดเล็ก
- จองตั๋วออนไลน์ได้ที่: Zaans Museum Ticket
หลังจากชมพิพิธภัณฑ์เสร็จแล้วเราสามารถเดินต่อไปยังทางเข้าหมู่บ้าน Zaanse Schans ซึ่งอยู่ทางซ้ายมือ ที่แห่งนี้เคยเป็นย่านที่อยู่อาศัยซึ่งมีชีวิตในช่วงศตวรรษที่ 18 และ 19 ซึ่งกลางศตวรรษที่ 19 เป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติอุตสาหกรรมในเขตซานส์ ทำให้มีโรงงานอุตสาหกรรม โรงเลื่อยไม้ โรงผลิตสี คูน้ำ บ้านไม้ โกดัง รวมไปถึงกังหันลมซึ่งเป็นจุดเด่นของที่นี่ โดยมีทุ่งหญ้ากว้างเป็นพื้นหลัง
สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้มีการเปลี่ยนแปลงไปตามเวลา เช่น บ้านไม้มีการปรับปรุงให้คล้ายกับต้นฉบับมากที่สุด บางส่วนก็ดัดแปลงมาเป็นร้านค้าเปิดบริการให้นักท่องเที่ยวเข้าชม กังหันลมโดยส่วนใหญ่ยังคงถูกใช้งานมาจนถึงปัจจุบัน เช่น De Kat โรงสีผลิตเม็ดสีคุณภาพสูงจากศตวรรษที่ 16 นอกจากนี้ยังมีผู้คนอาศัยอยู่ที่นี่ และใช้ชีวิตตามแบบฉบับชาวดัตช์ผสมผสานกับวัฒนธรรมพื้นบ้านของชาวซานส์ นับว่าเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งที่น่าสนใจและดูแตกต่างไปจากตัวเมืองใหญ่ในเนเธอร์แลนด์
โรงสีที่มีความน่าสนใจใน หมู่บ้านกังหันลม Zaanse Schans
- De Huisman กังหันลมและโกดังเก็บเครื่องเทศ
- De Kat โรงสีผลิตเม็ดสีคุณภาพสูงจากศตวรรษที่ 16
- De Gekroonde Poelenburg โรงเลื่อยไม้อายุหลายศตวรรษ
- De Zoeker โรงสีน้ำมันจากศตวรรษที่ 16
- Het Jonge Schaap โรงเลื่อยไม้หกด้านมีล้อเลื่อน
- De Os โรงสีน้ำมัน (ใช้เครื่องยนต์ดีเซล)
- Het Klaverblad โรงเลื่อยไม้ขนาดเล็กด้วยมือ
- De Bonte Hen โรงสีน้ำมันล้อแปดเหลี่ยม
- Mini-mills on the Schans โรงสีขนาดเล็กบดหินทรายละเอียด
De Kat โรงสีผลิตเม็ดสีคุณภาพสูงจากศตวรรษที่ 16
De Kat เป็นโรงสีที่มีความแข็งแกร่งสร้างขึ้นในปี 1664 เพื่อผลิตสีและเม็ดสีที่มีคุณภาพสูง ถูกใช้งานมายาวนานจนถึงปัจจุบัน เจ้าของ Miller Piet Kempenaar และเพื่อนร่วมงานของเขาได้รักษาใบเรือสำหรับการกลึงสีที่ไม่เหมือนใครไว้ พวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญและรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเทคนิคการทาสีแบบเก่า นอกจากการผลิตสีแล้ว De Kat ยังผลิตชอล์กและน้ำมันอีกด้วย หากเดินผ่านโรงสีแห่งนี้อย่าลืมแวะเข้าไปเยี่ยมชมวิธีการสาธิตเกี่ยวกับการทาสีและผลิตสีต่าง ๆ สักครั้งนะคะ มีค่าเข้าชม 5 ยูโร

De Gekroonde Poelenburg โรงเลื่อยไม้อายุหลายศตวรรษ
ในอดีตนั้นบ้านทุกหลังทำจากไม้ เครื่องเลื่อยไม้จึงเป็นสิ่งจำสำหรับการสร้างบ้านที่นี่ นั้นทำให้ De Gekroonde Poelenburg ถือกำเนิดขึ้นในปี 1869 ในเมือง Koog aan de Zaan แต่ก็ตั้งอยู่ได้ไม่นานเพราะในปี 1904 โรงเลื่อยไม้ต้องหลีกทางให้การสร้างทางรถไฟสายอัมสเตอร์ดัม – อัลค์มาร์ จากนั้นก็ย้ายไปตั้งที่ De Gouw ซึ่งเป็นแหล่งน้ำในซานดัมตะวันออก (Zaandam-Oost) ในที่สุดปี พ.ศ. 2506 โรงเลื่อยไม้ก็ถูกรื้อออกจากกันและสร้างใหม่ที่หมู่บ้านกังหันลม Zaanse Schans โดยมีพื้นที่ทำงานเปิดได้สามด้าน มีลำตัวสีเข้ม เมื่อหมุนเกลียวไปตามลม กังหันลมทั้งหมดจะหมุนบนวงแหวน นั้นทำให้โรงเลื่อยไม้บางครั้งถูกเรียกว่า “under-wheeler”
De Zoeker โรงสีน้ำมันจากศตวรรษที่ 16 หมู่บ้านกังหันลม Zaanse Schans
โรงสีน้ำมัน De Zoeker ตั้งอยู่บนตำแหน่งที่เราเห็นในหมู่บ้านกังหันลม Zaanse Schans ตั้งแต่ปี 1968 คาดว่าถูกสร้างขึ้นในปี 1610 เพื่อเป็นโรงโม่ ก่อนที่จะถูกดัดแปลงเป็นโรงสีในปี พ.ศ. 2434 และดัดแปลงเป็นโรงสีน้ำมันในอีก 10 ปีต่อมา ประมาณปี พ. ศ. 2483 โรงสีน้ำมันเกิดความทรุดโซมจนเกือบจะใช้งานไม่ได้ โชคดีที่เทศบาลซานไดค์ได้ซื้อโรงสีน้ำมันแห่งนี้ในปี 1950 มีการบำรุงซ่อมแซ่มจนทำให้ในปี 1958 De Zoeker กลับมาเป็นโรงสีน้ำมันที่งดงามอีกครั้ง De Zoeker เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม มีค่าเข้าชม 5 ยูโร

Het Jonge Schaap โรงเลื่อยไม้หกด้านมีล้อเลื่อน
มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากโรงเลื่อยมากกว่า 350 โรงที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ซาน ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1680 ใน Westzijderveld ในเมืองซานดัม และเปิดใช้งานที่นั่นจนกระทั่งถูกรื้อถอนในปี 2485 ในปี 2550 มีการสร้างที่ตำแหน่งใหม่ในหมู่บ้านกังหันลม Zaanse Schans ใช้รูปแบบอาคารจากศตวรรษที่ 17 ตั้งแต่นั้นมา Het Jonge Schaap ก็กลับมาใช้งานเป็นโรงเลื่อยที่สง่างามอีกครั้ง การขายไม้เป็นแหล่งรายได้หลักของโรงสี ดังไหนถ้าวันไหนมีลมมากวันนั้นคนที่โรงสีจะยุ่งเป็นพิเศษ Het Jonge Schaap เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม สามารถเข้ามาดูการทำงานระหว่างวันในโรงสีแห่งนี้และสัมผัสประสบการณ์การทำงานของโรงเลื่อยไม้ได้ มีค่าเข้าชม 5 ยูโร

De Os โรงสีน้ำมัน (ใช้เครื่องยนต์ดีเซล) หมู่บ้านกังหันลม Zaanse Schans
ใครจะไปเชื่อละคะว่าโรงสีสามารถใช้พลังงานจากเครื่องยนต์ดีเซลได้ด้วย แต่ที่นี่เขาทำได้จริง ๆ De Os มีขึ้นก่อนปี 1663 นับว่าหนึ่งในโรงงานอุตสาหกรรมที่เก่าแก่ที่สุดที่เคยสร้างขึ้นในพื้นที่ซาน จนกระทั่งในปี 1916 โรงสีได้เปิดใช้พลังงานลม ทำให้หมวก ใบเรือ และขาตั้งถูกถอดออก แต่การทำงานภายในของโรงสียังคงประสิทธิภาพเหมือนเดิม จากนั้นมีการรื้อถอนโรงสีในปี 2459 ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญในประวัติศาสตร์การเปลี่ยนผ่านจากพลังงานลมไปสู่แหล่งพลังงานอื่น ตั้งแต่ พ.ศ. 2459-2474 โรงสี De Os เปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ดีเซล และนั่นคือก้าวสำคัญในประวัติศาสตร์ของโรงงานซานอีกด้วย


Het Klaverblad โรงเลื่อยไม้ขนาดเล็กด้วยมือ
โรงเลื่อยไม้ขนาดเล็กด้วยมือ Het Klaverblad ถือกำเนิดขึ้นจากชายที่ชื่อว่า Ru Pos เขาได้ซื้อที่ดินผืนเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในปี 1973 นอกเขื่อนบน Kalverringdijk ที่หมู่บ้านกังหันลม Zaanse Schans จากนั้นในระหว่างปี 2543-2548 เขาลงมือสร้างโรงเลื่อยไม้ขนาดเล็กด้วยมือของเขาเอง ทำให้มีรายได้เสริมจากการเลื่อยไม้ให้กับครอบครัว ชื่อของ Het Klaverblad และโลโก้กังหันลม หมายถึง ใบโคลเวอร์สี่ใบ อ้างถึงลูกสาวสี่คนของเขา หนึ่งในนั้นคือช่างไม้ Saskia, Het Klaverblad จึงเป็นสถานที่เวิร์คช็อปงานไม้ในอุดมคติ

De Bonte Hen โรงสีน้ำมันล้อแปดเหลี่ยม
โรงสีน้ำมันแห่งความโชคดี คำเรียกเหล่านี้ได้มาเพราะความโชคดีจริง ๆ เพราะ De Bonte Hen รอดพ้นจากการถูกฟ้าผ่าหลายครั้งตั้งแต่ปี 1693 ต่างจากโรงสีอื่น ๆ หลายแห่งที่หลังคาถูกไฟไหม้และจากฟ้าผ่าพัดลงในทุ่งโล่ง De Bonte Hen เป็นโรงสีล้อแปดเหลี่ยมที่มีแกลเลอรีอยู่รอบโรงสี ระหว่างปี พ.ศ. 2516-2521 โรงสีได้รับการบูรณะอย่างสมบูรณ์และติดตั้งชิ้นส่วนที่สำคัญอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งก้อนหินหนึ่งคู่ เครื่องตีจังหวะ หมัดและค้อน สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องมือที่ทำให้สามารถผลิตน้ำมันได้มาจนถึงปัจจุบัน De Bonte Hen เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม มีค่าเข้าชม 5 ยูโร
Mini-mills on the Schans โรงสีขนาดเล็กบดหินทรายละเอียด
นอกจากกังหันลมอุตสาหกรรมอันงดงามแล้วหมู่บ้านกังหันลม Zaanse Schans ยังมีกังหันลมขนาดเล็กสองแห่งอีกด้วย คือ โรงสี Meadow ‘De Hadel’ ถูกย้ายไปที่ Zeilemakerspad ในปี 1968 โรงสีขนาดเล็กแห่งที่สอง คือ De Windhond ซึ่งเป็นโรงโม่หินบดสุดท้ายจากพื้นที่ซานและมีขนาดเล็ก ในสมัยก่อนคนหนุ่มสาวสร้างโรงสีเล็ก ๆ เหล่านี้บนลานของเกษตรกรหรือบนยุ้งฉางขนาดเล็ก พวกเขาทำเงินพิเศษโดยการบดหินทรายที่แตกออกจากโรงสีอื่นให้เป็นหินบดทรายละเอียดเหมาะสำหรับนำการขัดและใช้เป็นวัสดุขัดถู


ร้านขายรองเท้าไม้ (Wooden Shoe Workshop of Zaanse Schans)
หลังเดินชมกังหันลมจนทั่วแล้วยังมีอีกสถานที่หนึ่งที่น่าสนใจคือร้านขายรองเท้าไม้ ที่แห่งนี้ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2517 โดย Jaap และ Ineke Kooijman ทั้งสองหลงใหลในการทำรองเท้าไม้และตัดสินใจที่จะอนุรักษ์งานฝีมือของชาวดัตช์ไว้สำหรับคนรุ่นหลัง ในช่วงสี่ทศวรรษที่ผ่านมาร้านขายรองเท้าไม้ได้เติบโตจากธุรกิจครอบครัวขนาดเล็ก (ปัจจุบันอยู่ในรุ่นที่สาม) ไปสู่ชื่อระดับโลก ต้อนรับผู้เยี่ยมชมมากกว่าหนึ่งล้านคนในแต่ละปีจากทั่วทุกมุมโลก
ภายในยังมีการจัดเวิร์คช็อปเพื่อสาธิตและอธิบายวิธีการทำงานของที่นี่เกี่ยวกับงานฝีมือรองเท้าไม้ในภาษาต่างๆ มากถึง 11 ภาษาโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ใครที่สนใจเกี่ยวกับการทำรองเท้าไม้สามารถไปเยี่ยมชมกิจกรรมเวิร์คช็อปหรือแวะซื้อเป็นของฝากได้ รองเท้าที่ไม้ที่นี่มีเอกลักษณ์ปลอดภัยและใช้งานได้จริง ทั้งยังยังคงเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติของเนเธอร์แลนด์อีกด้วย
ร้านขายชีส (Cheese Farm Catharina Hoeve)
อีกหนึ่งร้านค้าที่น่าสนใจนั้นก็คือร้านขายชีส (Catharina Hoeve) ที่แห่งนี้จะพาทุกคนไปเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการทำชีส ซึ่งเป็นอาหารที่ขึ้นชื่อของชาวดัตช์ Catharina Hoeve ได้จำลองฟาร์มแบบดั้งเดิมจากเทศบาล Oostzaan มีผู้ผลิตชีสสวมชุดแบบดั้งเดิมอธิบายประเภทของชีสในภาษาที่แตกต่างกันถึง 10 ภาษา และแน่นอนว่าท้ายที่สุดเราจะได้ลิ้มรสชีสแสนอร่อยเหล่านั้นด้วย Catharina Hoeve เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 10:00-17:00 น. ใครที่สนใจเกี่ยวกับชีสไม่ควรพลาดที่จะแวะไปที่นี่
โรงงานสบู่ (Zeepziederij) หมู่บ้านกังหันลม Zaanse Schans
ในอดีตพื้นที่ Zaanstreek เคยมีโรงงานสบู่ที่ยอดเยี่ยม “De Adelaar” ในเมือง Wormerveer นั้นจึงเกิดเป็นร้านแนะนำงานฝีมือโบราณที่หมู่บ้านกังหันลม Zaanse Schans ที่นี่เราจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของโรงงาน ผลิตสบู่ เครื่องสำอาง น้ำหอม และทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับสุขอนามัยและการทำความสะอาด มีการเวิร์คช็อปให้เราได้ลองทำสบู่เอง รวมไปถึงพื้นที่จำหน่ายสบู่กลิ่นต่าง ๆ อีกด้วย

พิพิธภัณฑ์เบอร์เกอร์รี่ (Bakery Museum The Gecroonde Duyvekater)
เป็นร้านเบเกอรี่ดั้งเดิมที่มีเตาอบขนมปังแท้ ๆ และพื้นหินอ่อนที่สวยงาม สร้างขึ้นในปี 1658 ชื่อพิพิธภัณฑ์มาจาก Duivekater ซึ่งเป็นขนมปังหวานที่มีชื่อเสียงของพื้นที่ซานส์ ใครที่แวะไปพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ลองชิมขนมปังหวานนี้ได้ ปัจจุบันร้านเบเกอรี่เจ้าของได้รับการบริจาคให้กับหมู่บ้านกังหันลม Zaanse Schans ในปี 1970

บรรยากาศโดยรอบ หมู่บ้านกังหันลม Zaanse Schans
รอบ ๆ หมู่บ้านกังหันลมนอกจากจะโดดเด่นไปด้วยกังหันลมจำนวนมากแล้ว ยังมีท้องทุ่งธรรมชาติและสัตว์เลี้ยง เช่น แกะ ที่กินอยู่ตามบริเวณต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้มองแล้วเห็นถึงความไม่เร่งรีบ เงียบสงบ อีกมุมหนึ่งที่ต่างจากเมืองใหญ่ ให้ความรู้สึกผ่อนคลายไปอีกตลอดระยะเวลา 1-2 ชั่วโมงที่เดินเที่ยวในหมู่บ้านกังหันลม Zaanse Schans
การเดินทางไปยัง หมู่บ้านกังหันลม Zaanse Schans
- รถยนต์: ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข A8 จากสถานีรถไฟ Amsterdam Central Station ไปยังหมู่บ้านกังหันลมซานส์สคันส์ ระยะทาง 19 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 30 นาที มีที่จอดรถด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ซานส์ ราคา 11 ยูโรต่อวัน
- รถโดยสารประจำทาง: นั่งรถบัส R-net (สีแดงเทา) หมายเลข 391 จากสถานีรถไฟ Amsterdam Central Station (ฝั่ง CS Ijzijde) ไปยังหมู่บ้านกังหันลมซานส์สคันส์ ใช้เวลาเดินทาง 40 นาที ค่าโดยสาร 4.63 ยูโร (สำหรับการเดินทางเที่ยวเดียว) เพื่อความประหยัดสามารถใช้ตั๋ว Bus Day Ticket to Zaanse Schans & Zaanstreek ราคา 11.50 ยูโร รถบัสวิ่งทุก 15 นาที (หลังหกโมงเย็นวิ่งทุก 30 นาที)
- รถไฟ: นั่งรถไฟ Sprinter สาย Uitgeest จากสถานีรถไฟ Amsterdam Central Station ไปลงที่สถานีรถไฟ Zaandijk Zaanse Schans ใช้เวลาเดินทาง 17 นาที ค่าโดยสาร 3.40 ยูโร (สำหรับการเดินทางเที่ยวเดียว) จากนั้นข้ามสะพานและเดินต่อไปตามทางเท้าอีกประมาณ 15 นาที (1.7 กิโลเมตร) จนกว่าจะเห็นพิพิธภัณฑ์ซานส์ทางซ้ายมือ อ่านต่อ: คู่มือการเดินทางในเนเธอร์แลนด์

คำแนะนำการเที่ยว หมู่บ้านกังหันลม Zaanse Schans
- ใช้บัตร Zaanse Schans card ช่วยประหยัดค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์และที่เที่ยวในในหมู่บ้านกังหันลมซานส์สคันส์ฟรี เช่น Zaans Museum, Verkade Experience, World of Windmills, De Kat, ‘t Jonge Schaap, Weavers House, Coopery และ Museum Zaanse พร้อมส่วนลดค่าที่จอดรถ 30% (จาก 11 ยูโร เหลือ 7 ยูโร) บัตร ราคา 29.50 ยูโร สามารถใช้งานได้ 1 วัน

- ใช้บัตร Zaanse Schans Card + Bus ticket ช่วยประหยัดค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์และที่เที่ยวในในหมู่บ้านกังหันลมซานส์สคันส์ฟรีรวมการเดินทางด้วยรถบัสของ Connexxion (และ R-net) บัตรราคา 38.50 ยูโร
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Zaanse Schans (iPhone และ Android) สำหรับการเดินทัวร์ด้วยตัวเองโดยใช้ GPS ใช้เวลาประมาณ1 ชั่วโมง ทัวร์ประกอบด้วย 16 สถานที่ตามลำดับ
- ควรจองตั๋วเข้าชมพิพิธภัณฑ์ล่วงหน้า
- เวลาเปิดปิดหมู่บ้านกังหันลม Zaanse Schans ประมาณ 09:00-18:00 น.
- ในช่วงฤดูร้อนพระอาทิตย์ตกช้ากว่าปกติประมาณเวลา 22:00 น. พิพิธภัณฑ์และร้านค้าต่าง ๆ ปิดบริการประมาณเวลา 18:00 น. แต่ยังสามารถเดินชมทัศนียภาพความสวยงามของท้องทุ่งกังหันลมได้ บรรยากาศโดยรอบอบอุ่น เหมาะสำหรับการเดินเที่ยวหมู่บ้านกังหันลม
- ในช่วงฤดูหนาวพระอาทิตย์ตกเร็วประมาณเวลา 18:00 น. พิพิธภัณฑ์และร้านค้าต่าง ๆ ปิดบริการประมาณเวลา 17:00 น.บรรยากาศโดยรอบหนาวถึงหนาวมาก บ้างมีลมพัดแรง ควรเตรียมเสื้อกันหนาวแบบหนา ผ้าพันคอ หรือถุงมือมาด้วย
- การเดินทางด้วยรถบัส R-net สาย 391 มายังหมู่บ้านกังหันลมเป็นการเดินทางที่สะดวกที่สุด (แบบไม่ต้องต่อรถ) รถบัสวิ่งจากสถานี Amsterdam Central Station มาจอดที่หน้าป้าย Zaanse Schans เลย จากนั้นก็เดินอีก 2-3 นาทีไปยังทางเข้าหมู่บ้าน
- หากอยากชมความสวยงามของหมู่บ้านกังหันลมทางน้ำ สามารถซื้อตั๋วเรือทัวร์สำหรับล่องในแม่น้ำซาน มีบริการหลายเจ้า เช่น Windmill Cruises, The Zaanferry, The Cow Boat, Windmill hopper, Zaandijk pedestrian ferry หรือ Public jetties ราคาเริ่มต้น 8 ยูโร เรือจะพาไปยังจุดต่าง ๆ และกลับมาสิ้นสุดที่ท่าเรือ ใช้เวลานั่งเรือทัวร์ประมาณ 1 ชั่วโมง