มหาวิหารซากราดาฟามีเลีย (Sagrada Família) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน เป็นผลงานสถาปัตยกรรมชิ้นเอกอันน่าทึ่งที่ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวคาตาลันชื่อดัง “อันตอนี เกาดี” (Antoni Gaudi) มหาวิหารแห่งนี้ดึงดูดจินตนาการของผู้มาเยือนจากทั่วโลกมานานกว่าศตวรรษ โดยมีความสูงถึง 170 เมตร และใช้เวลาในการก่อสร้างมากกว่า 141 ปี คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2026 ซึ่งเป็นวันครบรอบ 100 ปีการเสียชีวิตของเกาดี และเมื่อยอดแหลมสร้างเสร็จซากราดาฟามีเลียจะกลายเป็นมหาวิหารที่สูงที่สุดในโลก
ในบทความนี้เราจะมาเจาะลึกถึงประวัติศาสตร์ การออกแบบ และความสำคัญของซากราดาฟามีเลีย ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงอัจฉริยภาพทางสถาปัตยกรรมเหนือกาลเวลาอย่างแท้จริง รวมไปถึงคู่มือฉบับสมบูรณ์ในการเข้าชมมหาวิหารซากราดาฟามีเลียด้วยตัวเอง
ทำไมต้องเข้าชมมหาวิหารซากราดาฟามีเลีย
ถ้าจะให้พูดตามภาษาคนทั่วไปก็ต้องบอกว่าจะมีมหาวิหารที่ไหนยังคงสร้างมานานเป็นระยะเวลาหลายร้อยปี ถึงแม้ว่าผู้ออกแบบจะได้ล่วงลับไปนานแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้มหาวิหารแห่งนี้ควรค่าแก่การเข้าชมคือสถาปัตยกรรมที่ไม่เหมือนกับโบสถ์ทั่วไป โดยได้รับแรงบันดาลใจจากความงดงามของธรรมชาติ และถูกสร้างขึ้นด้วยความพิถีพิถันในทุกรายละเอียดเกิดเป็นผลงานที่เป็นเอกลักษณ์ระดับมาสเตอร์ไม่เหมือนใคร และนี่คือ “มหาวิหารซากราดาฟามีเลีย” ที่ผู้คนต่างเรียกขานว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางสถาปัตยกรรมที่แท้จริงของเกาดี
การก่อสร้างมหาวิหารซากราดาฟามีเลียเริ่มต้นขึ้นในปี 1882 ภายใต้คำแนะนำของสถาปนิก Francisco de Paula del Villar อย่างไรก็ตามในปีถัดมาเกาดีก็เข้ามารับช่วงต่อโครงการนี้ และเริ่มทำงานในกรอบวิสัยทัศน์ของการผสมผสานองค์ประกอบระหว่างสไตล์กอทิกและอาร์ตนูโว เขานำความคิดสร้างสรรค์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองมาใช้ในโครงการนี้ ด้วยความมุ่งมั่นและพลังที่ยั่งยืนในการสร้าง ผลงานที่เต็มไปด้วยรายละเอียดอันสลับซับซ้อนก็เกิดเป็นรูปเป็นร่าง
ส่วนหน้าของมหาวิหารซากราดาฟามีเลียแสดงถึงฉากต่าง ๆ ในพระคัมภีร์ รวมถึงส่วนหน้าของการประสูติ ส่วนหน้าของความรัก และส่วนหน้าของพระสิริ เมื่อเดินเข้าไปในจะพบกับโครงสร้างเสาสูงใหญ่ที่ดูเหมือนป่า รวมถึงการตกแต่งหน้าต่างกระจกสีที่รู้สึกได้ถึงความหลากหลายทางสีสัน การออกแบบนี้ยังสร้างบรรยากาศอันบริสุทธิ์ที่เปลี่ยนแปลงไปตามตำแหน่งของดวงอาทิตย์ นับเป็นความงดงามอย่างน่าอัศจรรย์จนแทบไม่เชื่อว่ามีอยู่จริง
นอกเหนือจากความยิ่งใหญ่ทางสถาปัตยกรรมแล้ว มหาวิหารซากราดาฟามีเลียยังมีความสำคัญทางจิตวิญญาณอย่างลึกซึ้งอีกด้วย โดยอุทิศให้กับครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ซึ่งทำหน้าที่เป็นสถานที่สักการะและการไตร่ตรอง ดึงดูดทั้งผู้แสวงบุญทางศาสนาและนักเดินทางที่แสวงหาความเชื่อมโยงทางจิตวิญญาณ ในปี 2010 มหาวิหารแห่งนี้ได้รับการถวายโดยสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ มหาวิหารยังเป็นส่วนหนึ่งของอาคารเกาดีในบาร์เซโลนาร่วมกับอาคารอีก 6 หลังที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี 2005
การตัดสินใจเข้าชมมหาวิหารซากราดาฟามีเลียด้วยตัวเองจึงเปรียบเสมือนการได้สัมผัสและเข้าถึงจิตวิญญาณและเจตนารมณ์ของเกาดี ที่หวังให้สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ที่ทุกคนทั่วโลกสามารถเข้าชมได้ และยังได้ร่วมเป็นสักขีพยานของการก่อสร้างมหาวิหารที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ เนื่องจากใช้เวลาและทุนมหาศาลในการก่อสร้าง โดยที่ส่วนใหญ่มาจากการบริจาค เช่นเดียวกับค่าตั๋วที่เราเข้าชมยังนำไปสมทบทุนการสร้างอีกด้วย ทั้งหมดนี้นับว่าเป็นประสบการณ์ที่ท้าทายและมีความหมายต่อผู้ที่เข้าชมมหาวิหารนี้
ตั๋วเข้าชมมหาวิหารซากราดาฟามีเลียราคาเท่าไร
มหาวิหารซากราดาฟามีเลียเป็นสถานที่สำคัญที่มีชื่อเสียงที่สุดในบาร์เซโลนา จึงไม่แปลกใจเลยว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวที่หนาแน่นทุกวัน ไม่เว้นแม้กระทั่งช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว เพื่อช่วยหลีกเลี่ยงการต่อคิวยาวและมั่นใจว่าจะได้เข้าชมมหาวิหารแห่งนี้อย่างแน่นอน แนะนำให้จองตั๋วออนไลน์ล่วงหน้าไว้ก่อน โดยสามารถซื้อตั๋วออนไลน์ล่วงหน้าได้สูงสุด 2 เดือน
ราคาตั๋วเข้าชมแบ่งตามประเภทการเข้าชม คือ แบบบุคคลทั่วไป (ไม่เกิน 9 คน) แบบกลุ่ม (ไม่เกิน 30 คน) และแบบการทัศนศึกษาของโรงเรียน สำหรับแบบบุคคลทั่วไปสามารถเลือกได้ว่าจะเข้าชมมหาวิหารซากราดาฟามีเลียอย่างเดียว หรือรวมออดิโอไกด์ในแอป ขึ้นหอคอยหนึ่งแห่ง หรือไกด์ทัวร์ ดังรายละเอียดด้านล่าง ส่วนแบบกลุ่มมีเฉพาะตั๋วเข้าชมมหาวิหารรวมไกด์ทัวร์
ตอนจองตั๋วออนไลน์ต้องระบุวันที่และเวลาในการเข้าชม จากประสบการณ์ตรงซื้อตั๋วแบบเข้าชมมหาวิหารรวมขึ้นหอคอยหนึ่งแห่งและออดิโอไกด์ในแอป ใช้เวลาเข้าชมประมาณ 2 ชั่วโมง เป็นการฟังออดิโอไกด์ความยาว 45 นาที (ถ้าใครเลือกแบบฟังเร่งด่วนเหลือ 25 นาที) พอฟังข้อมูลครบแล้วก็เผื่อเวลาถ่ายภาพและขึ้นไปชมหอคอยข้างบนต่อ โดยรวมแล้วแนะนำให้เผื่อเวลาเข้าชมไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมงกำลังดี
สำหรับคนที่เลือกซื้อตั๋วแบบรวมออดิโอไกด์ในแอปด้วย หลังจากจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว จะได้รับอีเมล์ยืนยันและโค้ดสำหรับนำไปเปิดใช้งานแอปพลิเคชันและดาวน์โหลดตั๋วออนไลน์ แอปชื่อว่า “Sagrada Família” สามารถโหลดได้ทั้งระบบไอโอเอสและแอนดรอยด์ พอเปิดใช้งานในแอปแล้วก็สามารถฟังข้อมูลไว้ก่อนได้
ก่อนวันเข้าชม 1 วัน ทางระบบจะส่งอีเมล์มาแจ้งเตือน รวมถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการเข้าชม เช่น เวลาเปิดปิด การเดินทาง กฎระเบียบการเข้าชม และการแต่งกาย เป็นต้น พอถึงวันเข้าชมแล้วก็สามารถให้เจ้าหน้าที่สแกนตั๋วจากในแอปหรือในอีเมล์ได้เลย อย่าลืมนำหูฟังไปด้วย ออดิโอไกด์ให้บริการทั้งหมด 17 ภาษา ด้านในมหาวิหารยังมีหมายเลขจุดสแกนเพื่อรับฟังข้อมูลต่าง ๆ เช่นเดียวกับป้ายคำอธิบายเพิ่มเติมและป้ายนำทางในภาษาคาตาลัน ภาษาสเปน และภาษาอังกฤษ ทั้งหมดนี้นับว่าสะดวกในการเข้าชมมากเลย
เข้าชมหอคอยมหาวิหารซากราดาฟามีเลียด้านไหนดี
สำหรับคนที่เลือกซื้อตั๋วแบบขึ้นหอคอยด้วย อาจจะมีคำถามว่าควรเลือกขึ้นหอคอยด้านไหนดี เพราะเลือกได้เพียง 1 ด้าน ถ้าต้องการเข้าชมทั้งสองด้านต้องซื้อตั๋ว 2 ครั้งเลย ตอนที่เราจองตั๋วก็พยายามหาข้อมูลนี้เหมือนกัน พอไปเข้าชมจริง ๆ แล้วถึงได้รู้ว่าเป็นแบบนี้นี่เอง
หอคอยด้านการประสูติ (Nativity Facade)
เราจองตั๋วรวมขึ้นหอคอยด้านการประสูติ ซึ่งเป็นด้านเดียวกับประตูทางเข้าสำหรับผู้ที่จองตั๋วแบบบุคคลทั่วไป (ฝั่งถนน c/ de la Marina) ด้านนี้เป็นส่วนที่เป็นเอกลักษณ์ของมหาวิหารที่สร้างโดยเกาดีระหว่างปี 1894-1930 แสดงถึงช่วงที่มีความสุขและมองโลกในแง่ดีแห่งชีวิตของพระคริสต์ โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ทางด้านซ้ายอุทิศให้กับโจเซฟและเป็นที่รู้จักในนามพอร์ทัลแห่งความหวัง ทางด้านขวาเรียกว่าพอร์ทัลแห่งศรัทธาที่อุทิศให้กับพระแม่มารี และตรงกลางที่อุทิศให้กับพระเยซูเรียกว่าพอร์ทัลแห่งการกุศล ส่วนวิวที่มองเห็นบนหอคอยจะเป็นพื้นที่สวนสาธารณะ Plaça de Gaudí และวิวเมืองบาร์เซโลนา
หอคอยด้านความหลงใหล (Passion Facade)
หอคอยด้านความหลงใหล ตั้งอยู่บนถนน Sardenya ทางด้านตะวันตกของมหาวิหาร ด้านนี้เพิ่งสร้างขึ้นใหม่และมีลักษณะที่ใหม่กว่าด้านการประสูติ เริ่มขึ้นในปี 1954 และแล้วเสร็จในปี 1976 โดยอุทิศให้กับความรัก การสิ้นพระชนม์ และการฟื้นคืนพระชนม์ของพระคริสต์ เสน่ห์อีกหนึ่งอย่างของด้านนี้คือจะต้อง “แข็งและเปลือยเปล่า” ราวกับสร้างจากกระดูก มองแล้วให้ความรู้สึกเหมือนโครงกระดูก โดยมีเสาที่มีลักษณะคล้ายกระดูก ซึ่งเป็นการสร้างขึ้นมาในรูปแบบที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเปรียบเทียบกับส่วนหน้าของการประสูติ ใครที่เลือกขึ้นหอคอยด้านนี้จะได้เห็นวิวเมืองบาร์เซโลนาที่อยู่ฝั่งเดียวกับคาซ่ามิลา (Casa Milà)
ถ้าตั๋วมหาวิหารซากราดาฟามีเลียเต็มทำยังไง
ตั๋วเข้ามหาวิหารซากราดาฟามีเลียมักจะถูกจองเต็มเร็วมาก นั้นเป็นเหตุผลว่าทำไมแนะนำให้ซื้อตั๋วตั๋วออนไลน์ไว้ก่อน อย่างไรก็ตามถ้าไม่สามารถหาซื้อตั๋วเข้าชมได้จากเว็บไซต์ทางการ ยังมีอีกหลายวิธีที่เป็นตัวเลือกสำหรับการซื้อตั๋วเข้าชมมหาวิหารซากราดาฟามีเลีย คือ
สิ่งที่น่าสนใจในซากราดาฟามีเลีย
เที่ยวมหาวิหารซากราดาฟามีเลีย: ซุ้มการประสูติ (Nativity Facade)
เมื่อมาเยือนซากราดาฟามีเลียสิ่งที่พลาดไม่ได้เลยก็คือการชมซุ้มการประสูติซึ่งเป็นส่วนแรกที่ถูกสร้างขึ้นโดยเกาดี (และจะได้ชมอย่างแน่นอนเพราะอยู่ตรงประตูทางเข้าและยังมีคำอธิบายเนื้อหาเพิ่มเติมในออดิโอไกด์อีกด้วย) ซุ้มการประสูตินี้ถือเป็นสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์ เนื่องจากการออกแบบเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่คาตาโลเนียกำลังประสบกับการฟื้นฟูวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ของคาตาลัน และเกาดีก็มองว่าซากราดาฟามีเลียเป็นโอกาสที่ดีในการจัดแสดงศิลปะและจิตวิญญาณของชาวคาตาลัน
การก่อสร้างเริ่มขึ้นในปี พ.ศ. 2437 ภายใต้การดูแลของเกาดี ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นสถาปนิกหลักของมหาวิหารทั้งหมด รูปแบบสถาปัตยกรรมของเกาดีเป็นการผสมผสานระหว่างองค์ประกอบแบบกอทิกและอาร์ตนูโวอย่างมีเอกลักษณ์ และแนวทางของเขาในการตกแต่งด้านหน้าของการประสูติมีรากฐานมาจากความปรารถนาที่จะสร้างสิ่งที่อยู่เหนือบรรทัดฐานทางสถาปัตยกรรม ซึ่งซุ้มการประสูติส่วนใหญ่แล้วเสร็จก่อนที่เกาดีจะจากไปอย่างน่าสลดใจ อย่างไรก็ตามซุ้มการประสูติได้กลายมาเป็นตัวอย่างผลงานสำคัญสำหรับการสร้างซุ้มที่เหลือของมหาวิหารให้กับสถาปนิกผู้ที่มารับช่วงต่อ
ด้านหน้าอาคารการประสูติแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่ ประตูแห่งการกุศล ฉากการประสูติ และส่วนหน้าแห่งความรุ่งโรจน์ แต่ละส่วนแสดงถึงแง่มุมต่าง ๆ ในชีวิตของพระคริสต์ ตั้งแต่การประสูติจนถึงการฟื้นคืนพระชนม์ เมื่อมองไปที่ซุ้มการประสูติเราจะจะพบประตูกลาง หรือที่เรียกว่า “ประตูแห่งการกุศล” ซึ่งเป็นหัวใจของซุ้มการประสูติ ประตูนี้เป็นทางเข้าและจุดเริ่มต้นของการเดินทางจิตวิญญาณที่อยู่ภายในมหาวิหาร ประกอบไปด้วยประติมากรรมสามชิ้นตั้งตระหง่านเป็นยามทั้งสองด้านของพอร์ทัล (Portal) แสดงถึงคุณธรรมทางเทววิทยาแห่งความศรัทธา ความหวัง และความเมตตา คุณธรรมเหล่านี้เป็นสัญลักษณ์ของเส้นทางสู่ความรอด
หากมองลึกลงไปในรายละเอียดที่สลับซับซ้อนจะพบว่าเหนือประตูแห่งการกุศลเผยให้เห็นฉากการประสูติของพระคริสต์ในคอกม้าเบธเลเฮมอย่างถ่อมตนผ่านงานประติมากรรมและภาพนูนต่ำนูนสูง ที่ใจกลางของฉากนี้คือครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ ได้แก่ พระแม่มารี นักบุญโยเซฟ และพระกุมารเยซู ร่างของพวกเขาเปล่งรัศมีแห่งความสงบและความจงรักภักดี จับภาพช่วงเวลาที่ลึกซึ้งของการจุติเป็นมนุษย์
นอกจากรายละเอียดของฉากการประสูติของพระคริสต์แล้ว เกาดียังผสมผสานส่วนหน้าอาคารด้วยสัญลักษณ์ที่หลากหลาย เช่น การใช้ผลไม้ ดอกไม้ และสัตว์เพื่อเป็นตัวแทนของธีมต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น ต้นปาล์มที่ออกผลเป็นสัญลักษณ์ของชัยชนะของชีวิตเหนือความตาย ในขณะที่เต่าและปูเป็นตัวแทนของการผ่านของกาลเวลา เช่นเดียวกับต้นไม้แห่งเจสซีที่โผล่ออกมาจากฐานของส่วนหน้าอาคาร ซึ่งเป็นแนวคิดที่มีรากฐานมาจากพันธสัญญาเดิม
ในทุกรายละเอียดเหล่านี้นับว่าเกาดีได้เชื่อมโยงองค์ประกอบทางธรรมชาติอันลึกซึ้งเข้ากับโครงสร้างอาคารได้อย่างน่ามหัศจรรย์ และเมื่อมองทุกอย่างโดยภาพรวมแล้วเราจะรู้สึกว่าซุ้มการประสูติเป็นพิมพ์เขียวธรรมชาติที่สมบูรณ์ของงานสถาปัตยกรรม ให้ความเขียวชอุ่มและดูเหมือนถ้ำธรรมชาติที่มีอยู่จริง
เที่ยวมหาวิหารซากราดาฟามีเลีย: ทางเดินภายในมหาวิหารซากราดาฟามีเลีย
สัมผัสความงดงามของซุ้มการประสูติกันไปแล้ว ต่อไปประตูกลางจะนำเราเข้าไปยังด้านในมหาวิหารซากราดาฟามีเลีย ความรู้สึกแรกที่ได้สัมผัสหลังจากเดินผ่านประตูมาต้องบอกว่าเลยถึงกับอุทาน “ว้าว” กันถ้วนหน้า แล้วก็เป็นว้าวที่ตามมาอีกหลาย ๆ ครั้งหลังจากได้รับฟังข้อมูลเพิ่มเติมในแต่ละจุดจากออดิโอไกด์
แน่นอนว่าสิ่งแรกที่เป็นไฮไลท์ของด้านในมหาวิหารซากราดาฟามีเลียคือเสาสูงตระหง่านที่มีลักษณะคล้ายลำต้นของต้นไม้ รวมทั้งหมด 56 เสา และมีความสูงถึง 15, 30 และ 45 เมตรตามลำดับ เสาเหล่านี้แตกแขนงออกไปด้านบนเหมือนกิ่งก้านของต้นไม้ โดยมีระยะห่างเท่ากันทั่วทั้งทางเดินกลางโบสถ์ ทำให้โครงสร้างของมหาวิหารมีความมั่นคงแข็งแรง
เมื่อยืนมองใกล้ ๆ เราจะพบว่าเสาแต่ละต้นมีลักษณะและสีที่ต่างกัน บ้างต้นเพรียวบางและสง่างาม ในขณะที่บางต้นมีขนาดใหญ่และแข็งแรงกว่า ทั้งนี้ก็เพื่อเสริมความสวยงามและความแข็งแรงของโครงสร้าง ในขณะเดียวกันก็ยังแสดงถึงการปฏิสัมพันธ์กับแสงธรรมชาติ เมื่อแสงแดดส่องผ่านหน้าต่างกระจกสี มันจะทอดเงาและสีที่ซับซ้อนบนเสา ทำให้เกิดภาพที่มีชีวิตชีวาและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาภายในมหาวิหาร นับว่าเป็นวิสัยทัศน์ในการออกแบบที่ได้รับการคิดมาแล้วอย่างรอบคอบ
นอกจากเสาสูงตระหง่านแล้วหลายคนอาจจะสังเกตเห็นห้องนิรภัยของมหาวิหารแบบไฮเปอร์โบลอยด์ที่มีลักษณะเฉพาะด้วยรูปทรงโค้งพาราโบลา การออกแบบในลักษณะนี้ช่วยให้สามารถกระจายน้ำหนักได้อย่างสม่ำเสมอ ทำให้โครงสร้างมีความเสถียรและยืดหยุ่นได้ดี และที่สำคัญยังทำหน้าที่กรองและกระจายแสงธรรมชาติเมื่อเข้าสู่ภายในมหาวิหาร เสริมพื้นที่ว่างให้แสงสว่างแสงส่องลงมาตรงแท่นบูชา เพราะไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นพื้นที่ที่มืดที่สุดเพราะอยู่ห่างจากส่วนหน้าอาคารมากที่สุด
เที่ยวมหาวิหารซากราดาฟามีเลีย: หน้าต่างกระจกสีของมหาวิหารซากราดาฟามีเลีย
หน้าต่างกระจกสีถือเป็นหนึ่งในลักษณะที่น่าดึงดูดและช่วยเพิ่มเสน่ห์ของมหาวิหารซากราดาฟามีเลีย หน้าต่างเหล่านี้สร้างขึ้นโดยศิลปิน Joan Vila-Grau และมีบทบาทสำคัญในการสร้างบรรยากาศที่บริสุทธิ์ กรองและกระจายแสงธรรมชาติไปทั่วมหาวิหาร
หน้าต่างกระจกสีได้รับการตกแต่งด้วยสีที่หลากหลาย เช่น สีฟ้า แดง ส้ม เขียว และเหลือง ซึ่งเฉดสีอบอุ่น เช่น สีแดงและสีส้มแสดงถึงธีมของโลก ในขณะที่เฉดสีเย็น เช่น สีฟ้าและสีเขียว เป็นสัญลักษณ์ของแง่มุมแห่งสวรรค์ การแบ่งขั้วนี้ช่วยเพิ่มความลึกให้กับการเล่าเรื่องด้วยภาพภายในมหาวิหาร
ลักษณะเด่นอีกหนึ่งอย่างของหน้าต่างกระจกสีก็คือสีสันที่สดใสและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยเฉพาะช่วงที่มุมและความเข้มของแสงแดดเปลี่ยนไป จะทำให้เกิดการแสดงแสงและเงาที่ผสานกันได้อย่างสวยงาม และนั้นก็ทำให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสถึงแสงสีที่ต่างกันในแต่ละช่วงเวลาของวัน
การออกแบบหน้าต่างกระจกสียังมีการผสมผสานลวดลายเรขาคณิตและลวดลายที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรูปทรงธรรมชาติ รวมถึงเรื่องราวเฉพาะในหัวข้อต่าง ๆ ในพระคัมภีร์ไปจนถึงการนำเสนอเชิงสัญลักษณ์ของธรรมชาติและจักรวาล ตัวอย่างเช่น หน้าต่างบางบานบรรยายภาพเหตุการณ์ชีวิตของพระเยซู ในขณะที่หน้าต่างอื่น ๆ กล่าวถึงหัวข้อการทรงสร้าง การไถ่บาป และลำดับวงศ์ตระกูลของพระเยซู เป็นต้น
การได้มาชมความงดงามของหน้าต่างกระจกสีนับว่าเป็นอีกหนึ่งว้าวที่เราได้อุทานกับตัวเองและแทบไม่เชื่อสายตาว่าที่เคยใส่ไว้ในลิสต์สถานที่อยากไปเยือนในฝันจะกลายเป็นจริงในครั้งนี้
เที่ยวมหาวิหารซากราดาฟามีเลีย: ห้องใต้ดินของมหาวิหารซากราดาฟามีเลีย
การเข้าชมมหาวิหารซากราดาฟามีเลียไม่ได้มีเฉพาะในส่วนของโครงสร้างภายในเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงในส่วนของชั้นใต้ดินที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของมหาวิหารอีกด้วย ส่วนนี้คือห้องใต้ดินที่อยู่ฝั่งเดียวซุ้มประตูแห่งความหลงใหล และยังเป็นสถานที่ฝังศพของเกาดีที่ทำเครื่องหมายด้วยแผ่นหินเรียบง่าย และนั้นก็นับว่าเป็นสถานที่พำนักแห่งสุดท้ายของเขาที่ผู้มาเยือนต่างแสดงความเคารพและเป็นเกียรติแก่สถาปนิกผู้อุทิศชีวิตให้กับโครงการอันยิ่งใหญ่นี้
เที่ยวมหาวิหารซากราดาฟามีเลีย: ซุ้มแห่งความหลงใหล (Passion Facade)
ซุ้มแห่งความหลงใหลเป็นผลงานสถาปัตยกรรมจากสถาปนิกที่มารับช่วงต่อจากเกาดี โดยใช้ข้อมูลและภาพวาดของเกาดีที่เคยเขียนไว้เพื่อสานต่อวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของเขา น่าเศร้าใจที่เจ้าตัวไม่มีโอกาสได้เห็นผลงานอันโด่งดังระดับโลกนี้
ซุ้มแห่งความหลงใหลถือเป็นผลงานชิ้นเอกด้านศิลปะและจิตวิญญาณที่บอกเล่าเรื่องราวการตรึงกางเขนของพระคริสต์และเหตุการณ์ที่นำไปสู่การตรึงกางเขน โดยเป็นหนึ่งในสามส่วนหน้าของซากราดาฟามีเลีย ได้รับการออกแบบให้มีความแตกต่างจากส่วนหน้าการประสูติอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นประติมากรรมรูปปั้น การแกะสลักฉากที่ด้านหน้าอาคาร เสาบนส่วนหน้าที่มีรูปร่างคล้ายกระดูก รวมไปถึงการนำเสนอเรื่องราวอย่างลึกซึ้งถึงความทุกข์ทรมานที่พระเยซูทรงทนระหว่างความหลงใหลของพระองค์ การเปลี่ยนแปลงรูปแบบสถาปัตยกรรมอันน่าทึ่งนี้สะท้อนความเชื่อของเกาดีที่ว่าความทุกข์ทรมานของพระคริสต์ควรถ่ายทอดด้วยอารมณ์ที่ดิบและไร้การปรุงแต่ง
เที่ยวมหาวิหารซากราดาฟามีเลีย: โรงเรียนซากราดาฟามีเลีย
นอกจากซุ้มประตูของซากราดาฟามีเลียแล้วยังมีโรงเรียนซากราดาฟามีเลียที่ไม่ควรพลาดเข้าชม โรงเรียนที่ว่านี้เป็นสถานที่เชิงพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ฝั่งเดียวกับซุ้มแห่งความหลงใหลใกล้ประตูทางออก ด้านในถูกดัดแปลงให้พื้นที่การเรียนรู้เกี่ยวกับข้อมูลเชิงลึกของการก่อสร้างมหาวิหาร ผ่านนิทรรศการที่จัดแสดงประวัติศาสตร์ของซากราดาฟามีเลียตั้งแต่เริ่มแรกจนถึงการก่อสร้างที่กำลังดำเนินอยู่ นอกจากนี้ยังรวมถึงภาพถ่าย ภาพวาด และแบบจำลองที่แสดงให้เห็นวิวัฒนาการของการออกแบบของมหาวิหาร และการมีส่วนร่วมของสถาปนิกหลาย ๆ คนตลอดหลายปีที่ผ่านมา
เที่ยวมหาวิหารซากราดาฟามีเลีย: ขึ้นหอคอยมหาวิหารซากราดาฟามีเลีย
มหาวิหารซากราดาฟามีเลียมีหอคอยทั้งหมด 18 หลัง สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับบุคคลสำคัญในพระคัมภีร์ โดยหอคอย 12 หลังเป็นตัวแทนของอัครสาวก ในขณะอีก 4 หลังเป็นตัวแทนของผู้ประกาศข่าวอันประเสริฐ ตามด้วยหอคอยที่อุทิศให้กับพระแม่มารี 1 หลัง และหอคอยที่สูงที่สุดเป็นตัวแทนของพระเยซูคริสต์ ซึ่งจะถูกตรึงบนไม้กางเขนด้วยความสูง 172 เมตร เมื่อสร้างเสร็จซากราดาฟามีเลียจะเป็นอาคารที่สูงที่สุดในบาร์เซโลนาและเป็นโบสถ์ที่สูงที่สุดในโลก โดยที่ยังต่ำกว่ายอดเขามองต์คูอิก (Montjuic) ตามมุมมองของเกาดีที่ไม่ต้องการเทียบเคียงพระเจ้า
แน่นอนว่าเมื่อมาเยือนมหาวิหารซากราดาฟามีเลียอีกสิ่งหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดคือการขึ้นหอคอยไปชมสถาปัตยกรรมและวิวที่สวยงามของเมืองบาร์เซโลนา หอคอยที่เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชม คือ ด้านการประสูติ และด้านความหลงใหล สำหรับใครที่สงสัยว่าควรเลือกขึ้นด้านไหนดีสามารถย้อนกลับไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในส่วนของหัวข้อเข้าชมหอคอยมหาวิหารซากราดาฟามีเลียด้านไหนดี
เราเลือกขึ้นหอคอยด้านการประสูติเนื่องจากเป็นด้านต้นฉบับที่สร้างโดยเกาดี ด้านนี้อยู่ฝั่งเดียวกับซุ้มการประสูติ ก่อนขึ้นหอคอยต้องนำสัมภาระไปเก็บไว้ที่ตู้ก่อน จากนั้นรอต่อแถวเพื่อขึ้นลิฟต์ไปยังด้านบน ลิฟต์ที่ว่ามีขนาดเล็กจุผู้โดยสารได้ประมาณ 5-6 คนรวมเจ้าหน้าที่หนึ่งคนที่ให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับการเดินชมหอคอยระหว่างที่ลิฟต์พาเรามาด้านบน พอถึงด้านบนแล้วเราก็สามารถเดินชมหอคอยได้ตามสะดวก เส้นทางจะเป็นแบบวันเวย์ พอเดินไปถึงจุดตรงกลางแล้วจะมีสองเส้นทางให้เลือก ทั้งสองเส้นทางจะไปบรรจบกันที่บันไดทางเดินลงหอคอย
ในส่วนของการเดินชมหอคอยนั้นนับว่าสะดวกทีเดียว แม้จะมีการก่อสร้างหอคอยบางส่วนแต่ก็ถือว่าอำนวยความสะดวกในการเข้าชมได้ดี และยังมีแผงกั้นป้องกันความปลอดภัยทั้งเจ้าหน้าที่ทำงานและผู้ชม ระหว่างเดินเราจะได้เห็นสถาปัตยกรรมในส่วนยอดหอคอย เช่น ประติมากรรมผลไม้หลากสี ผลไม้เหล่านี้ไล่ไปตามฤดูกาลและแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ในแต่ละช่วงเวลา
นอกจากประติมากรรมแล้วเรายังจะเห็นวิวที่สวยงามของเมืองบาร์เซโลนาแบบสุดลูกหูลูกตาอีกด้วย พอมองลงไปด้านล่างเห็นคนยืนรอต่อแถวซื้อตั๋ว ความสูงจากตรงนี้เรียกว่าสูงทีเดียว บางส่วนของเส้นทางเดินชมจะเห็นว่ามีคนโปรยเหรียญไปที่ประติมากรรมบางชิ้นด้วย เมื่อชมหอคอยเสร็จแล้วสามารถเดินลงบันไดวนใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที โดยรวมแล้วเป็นกิจกรรมที่ควรเผื่อเวลาไว้ประมาณ 30-60 นาที
บทสรุปของการเข้าชมมหาวิหารซากราดาฟามีเลีย
การเข้าชมมหาวิหารซากราดาฟามีเลียในครั้งนี้ต้องบอกเลยว่าเป็นสถานที่ที่ให้ทั้งความรู้และความสวยงามไปในตัว ที่สำคัญยังแสดงถึงวิสัยทัศน์ของเกาดีและการอุทิศตนเพื่อสร้างสถานที่อันยิ่งใหญ่นี้ แม้ว่าเขาจะได้ล่วงลับไปแล้ว แต่สถาปนิกผู้มารับช่วงต่อยังคงสานต่อเจตนารมณ์เพื่อสร้างผลงานชิ้นนี้ให้เป็นผลสำเร็จ
แม้จะใช้เวลาในการก่อสร้างนานหลายร้อยปี รวมถึงการประสบกับความท้าทายต่าง ๆ มากมาย เช่น การขาดแคลนเงินทุน ความวุ่นวายทางการเมือง และการหยุดชะงักในช่วงสงครามกลางเมืองสเปน รวมถึงผลของสถานการณ์ไวรัสโคโรนาที่ทำให้การก่อสร้างล่าช้าออกไป และยังไม่มีกำหนดการก่อสร้างที่แล้วเสร็จออกมาอย่างแน่ชัด แต่เชื่อได้เลยว่าผู้คนทั่วโลกต่างเฝ้ารอคอยอย่างใจจดใจจ่อที่จะได้เห็นมหาวิหารแห่งนี้ในเวอร์ชั่นที่สมบูรณ์แบบ และนั้นก็อาจเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่เราจะได้กลับมาเยือนสถานที่แห่งนี้อีกครั้ง
เวลาเปิดมหาวิหารซากราดาฟามีเลีย
มหาวิหารซากราดาฟามีเลียเปิดให้เข้าชมตลอดทั้งปี โดยแตกต่างออกไปตามฤดูกาล ดังรายละเอียด
- พฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์: วันจันทร์ถึงวันเสาร์ 09:00-18:00 น. วันอาทิตย์ 10:30-18:00 น.
- มีนาคมและตุลาคม: วันจันทร์ถึงวันเสาร์ 09:00-19:00 น. วันอาทิตย์ 10:30-19:00 น.
- เมษายนถึงกันยายน: วันจันทร์ถึงวันเสาร์ 09:00-20:00 น. วันอาทิตย์ 10:30-20:00 น.
- เวลาเปิดพิเศษ: 09:00-14:00 น. ในวันที่ 25 และ 26 ธันวาคม รวมถึงวันที่ 1 และ 6 มกราคม
เที่ยวมหาวิหารซากราดาฟามีเลีย เวลาไหนดี
ด้วยความที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวต้องการเข้าชมมหาวิหารซากราดาฟามีเลียเยอะมาก เพื่อช่วยหลีกเลี่ยงความแออัดแนะนำให้เข้าชมมหาวิหารตอนเริ่มเปิดให้บริการระหว่างเวลา 09:00-11:00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่คนกำลังน้อยและสะดวกในการเดินชมหอคอย ในขณะที่เวลา 14:00-16:00 น. เป็นช่วงที่แสงแดดจ้าเหมาะสำหรับการสัมผัสความงดงามของแสงสีในมหาวิหาร เช่นเดียวกับเวลา 17:00-19:00 น. เหมาะสำหรับการชมพระอาทิตย์ตกเย็น (สำหรับคนที่เลือกขึ้นหอคอยด้วย) ถ้าเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงเวลา 12:00-14:00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่ค่อนข้างแออัดที่สุด และตัวเลือกสุดท้ายเข้าชมตามเวลาที่ตนเองสะดวก เพราะถึงอย่างไรแม้ว่าจะมีจำนวนผู้เข้าชมเยอะแต่เราก็สามารถใช้เวลาเดินชมความงดงามและถ่ายภาพได้ตามความสะดวกเช่นกัน
การเดินทางไปมหาวิหารซากราดาฟามีเลีย
มหาวิหารซากราดาฟามีเลียตั้งอยู่ใจกลางเมืองบาร์เซโลนาทำให้ง่ายต่อการเข้าถึงด้วยระบบขนส่งสาธารณะ เช่น รถไฟใต้ดิน รถโดยสารประจำทาง รวมถึงรถบัสนำเที่ยว (Hop-on Hop-off Bus Tour) และการเดิน
สามารถเข้าร่วมพิธีมิสซากราดาฟามีเลียได้หรือไม่
มหาวิหารซากราดาฟามีเลียนอกจากจะเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมแล้ว ยังมีการจัดพิธีมิสซากราดาฟามีเลียอยู่เป็นประจำอีกด้วย ซึ่งพิธีนี้เป็นพิพิธศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนาโดยเฉพาะมิสซาคาทอลิก ผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมพิธีได้ฟรี โดยจะจัดขึ้นที่มหาวิหารและโบสถ์แห่งการไถ่บาปของครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ ในวันอาทิตย์และโอกาสทางศาสนาพิเศษ เช่น วันฉลองและวันหยุดสำคัญ ๆ ภายในปฏิทินพิธีกรรมคาทอลิก
การเข้าร่วมพิธีมิสซากราดาฟามีเลียเป็นประสบการณ์ที่พิเศษและเปี่ยมคุณค่าทางจิตวิญญาณ และยังเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ผู้เข้าร่วมสามารถเยี่ยมชมมหาวิหารซากราดาฟามีเลียได้ฟรี ที่สำคัญอย่าลืมมาถึงก่อนเวลาล่วงหน้าประมาณ 30-45 นาที เนื่องจากพิธีนี้ค่อนข้างได้รับความนิยม และที่นั่งอาจมีจำนวนจำกัด การจัดพิธีมิสซากราดาฟามีเลียมีอยู่ 3 แบบ คือ
- พิธีมิสซานานาชาติ (International Masses): จัดขึ้นที่แท่นบูชาหลักทุกวันอาทิตย์ เวลา 09:00-10:00 น. สามารถเข้าถึงโดยใช้ทางเข้าด้านหน้าอาคารการประสูติ (Carrer de la Marina) และมีบริการในภาษาต่าง ๆ
- พิธีมิสซามวลชน (Crypt Masses): จัดขึ้นที่ห้องใต้ดินของซากราดาฟามีเลียทุกวัน วันจันทร์ถึงวันอาทิตย์ เวลา 09:00 น. (ภาษาคาตาลัน) และ 20:00 น. (ภาษาสเปน) วันอาทิตย์และวันเฉลิมฉลอง เวลา 09:00 น. 11:45 น. และ 20:00 น. (ภาษาสเปน) 10:30 น. 13:00 น. 18:30 น. (ภาษาคาตาลัน) ผู้เข้าร่วมสามารถเข้าถึงแท่นบูชานี้ได้ทางถนนฝั่ง 318 Sardenya Street
- พิธีมิสซาสามัญ (Extraordinary Masses): มหาวิหารซากราดาฟามีเลียเป็นเจ้าภาพจัดพิธีมิสซาสุดพิเศษในโอกาสพิเศษต่าง ๆ ตลอดทั้งปี พิธีเหล่านี้สามารถเข้าร่วมได้โดยการเชิญเท่านั้น ผู้ที่สนใจสามารถดูปฏิทินการจัดพิธีนี้ได้ที่เว็บไซต์ทางการ
การแต่งกายเพื่อเข้าชมมหาวิหารซากราดาฟามีเลีย
มหาวิหารซากราดาฟามีเลียมีข้อกำหนดในการแต่งกายเพื่อให้แน่ใจว่าผู้มาเยือนแสดงความเคารพต่อสถานที่ และควรปฏิบัติตามข้อกำหนดเมื่อวางแผนในการเยี่ยมชม
- แต่งกายสุภาพเรียบร้อย: ไม่ใส่เสื้อผ้าที่มองเห็นด้านใน ถ้าเป็นกางเกงและกระโปรงต้องยาวลงมาถึงกลางต้นขาเป็นอย่างน้อย ผู้เข้าชมไม่สามารถใส่ชุดว่ายน้ำได้ ไม่อนุญาตให้เปลือยไหล่เข้าไปในโบสถ์แห่งศีลศักดิ์สิทธิ์ รวมไปถึงไม่อนุญาตให้เข้าไปในสถานที่โดยสวมเสื้อผ้าพิเศษเพื่อเฉลิมฉลองหรือโปรโมตงานใด ๆ
- ไม่อนุญาตให้สวมหมวกภายในโบสถ์หรือพิพิธภัณฑ์: ยกเว้นด้วยเหตุผลทางศาสนา สุขภาพ หรือความเชื่อ
- สวมรองเท้าที่เหมาะสม: และหลีกเลี่ยงการเข้าไปในมหาวิหารด้วยเท้าเปล่า
- กระเป๋าและเป้สะพายหลัง: มีการสแกนตรวจกระเป๋าที่บริเวณประตูทางเข้า ถ้านำกระเป๋าเป้สะพายหลังไปด้วยอาจทำให้กระบวนการสแกนล่าช้า และอาจส่งผลให้ต้องต่อคิวเข้าชมนาน ถ้าเป็นไปได้ควรเตรียมกระเป๋าใบเล็กที่มีน้ำหนักเบามา เนื่องจากต้องนำติดต่อและใช้เวลานานในการเดินชมมหาวิหาร ส่วนคนที่ต้องการขึ้นหอคอยเพื่อความปลอดภัยในการเดินต้องจัดสัมภาระเก็บในพื้นที่ที่กำหนดก่อนขึ้นลิฟต์ อย่าลืมเตรียมเหรียญ 1-2 ยูโรเพื่อเป็นมัดจำใช้งานตู้เก็บสัมภาระ
กฎในการเข้าชมมหาวิหารซากราดาฟามีเลีย
- ต้องสแกนตรวจสอบกระเป๋าที่ประตูทางเข้า: รวมถึงเป้สะพายหลัง กระเป๋าเดินทาง อุปกรณ์ถ่ายภาพและวิดีโอระดับมืออาชีพ และของใช้ส่วนตัว หากพบสิ่งของที่เป็นอันตรายอาจถูกยึดและส่งคืนเมื่อผู้เยี่ยมชมออกจากสถานที่ หรือส่งมอบให้กับฝ่ายรักษาความปลอดภัยหรือหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ หรือผู้เยี่ยมชมอาจถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าไปในวิหารหรือพิพิธภัณฑ์บ้านเกาดี
- มีตั๋วเข้าชมอย่างถูกต้อง: ไม่ว่าจะเป็นตั๋วที่ซื้อจากเว็บไซต์ทางการและผู้จัดจำหน่ายที่ได้รับอนุญาต เพื่อแสดงตั๋วเหล่านี้ให้กับเจ้าหน้าที่บริเวณเคาน์เตอร์ทางเข้า เมื่อเข้าไปด้านในแล้วไม่มีการจำกัดเวลาการเข้าชม แต่ต้องออกจากมหาวิหารอย่างน้อย 15 นาทีก่อนเวลาปิด เช่นเดียวกันหากออกจากสถานที่แล้วจะไม่ได้รับอนุญาตให้กลับเข้าไปอีก ยกเว้นมีการซื้อตั๋วใหม่อย่างถูกต้อง
- อาหารและเครื่องดื่ม: ไม่อนุญาตให้นำอาหารและเครื่องจากนอกบริเวณเข้ามาในมหาวิหาร
- สัตว์เลี้ยง: ไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้ามาภายในมหาวิหาร
- การบันทึกภาพและวิดีโอ: สำหรับนักท่องเที่ยวที่พกกล้องธรรมดาจะได้รับอนุญาตให้ถ่ายรูปภายในมหาวิหารซากราดาฟามีเลียได้โดยไม่ใช้แฟลชหรือขาตั้งกล้อง เนื่องจากอาจทำให้เกิดสิ่งกีดขวางและรบกวนผู้เข้าชมคนอื่น ๆ สำหรับช่างภาพมืออาชีพไม่อนุญาตให้นำอุปกรณ์ระดับมืออาชีพเข้าไปภายใน และห้ามถ่ายภาพสื่อ ยกเว้นสื่อที่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้าจากฝ่ายข่าว นอกจากนี้ยังห้ามจัดทำหรือเผยแพร่ภาพถ่าย วิดีโอ หรือการบันทึกเสียงจากมหาวิหารเพื่อวัตถุประสงค์ทางการค้า การโฆษณา หรือการเผยแพร่ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้าจากมูลนิธิ
บัตรท่องเที่ยวที่รวมการเข้าชมมหาวิหารซากราดาฟามีเลีย
ที่เที่ยวใกล้มหาวิหารซากราดาฟามีเลีย
สวนสถาปัตยกรรมปาร์กเกวย์ (Park Güell)
ที่เที่ยวยอดนิยมของบาร์เซโลนาไม่แพ้มหาวิหารซากราดาฟามีเลีย ด้านในเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงและยังเป็นมรดกโลกของยูเนสโกอีกด้วย โดยขึ้นชื่อในด้านสถาปัตยกรรมและศิลปะที่มีเอกลักษณ์แปลกตา สวนแห่งนี้ได้รับการออกแบบโดยเกาดี ซึ่งได้รับการมอบหมายจาก Eusebi Güell นักอุตสาหกรรมผู้มั่งคั่ง และยังเป็นผู้สนับสนุนการก่อสร้าง นั้นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมสวนจึงได้รับการตั้งชื่อว่า “เกวย์”
เอกลักษณ์ที่โดดเด่นปาร์กเกวย์คือการใช้โมเสกสีสันสดใสและกระเบื้องเซรามิกประดับไปทั่วสวน ไม่ว่าจะเป็นม้านั่ง บันได ทางเดิน และผนัง สวนยังโดดเด่นด้วยบ้านคล้ายขนมปังผิง 2 หลัง คือ บ้านทางเข้า Porter’s Lodge (Pavilion) และบ้านผู้ดูแลสวนสาธารณะ (Porter’s House) ทั้งสองหลังประดับหลังคาด้วยโดมทรงเห็ดขนาดใหญ่ มองแล้วให้ความแปลกตาราวกับเทพนิยาย
ปาร์กเกวย์ยังมีเสาระเบียงที่สวยงาม บันไดสองชั้นที่มีรูปมังกรซาลาแมนเดอร์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ “El Drac” ใครที่ไปแล้วอย่าลืมแวะไปชมเจ้ามังกรนี้ด้วยน๊า นอกจากนี้สวนยังมีแผนผังที่เดินเที่ยวง่าย รวมถึงมีจุดที่สามารถรับชมทัศนียภาพอันงดงามของเมืองบาร์เซโลนาและมหาวิหารซากราดาฟามีเลียได้อีกด้วย เนื่องจากปาร์กเกวย์มีขนาดใหญ่มาก ควรเผื่อเวลาการเข้าชมไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง และใช้เวลาเดินทางจากมหาวิหารซากราดาฟามีเลียประมาณ 35-40 นาที
คฤหาสน์คาซ่าบัตโล่ (Casa Batlló)
เป็นหนึ่งในอาคารสมัยใหม่ชื่อดังที่เกาดีได้ออกแบบไว้ และยังเป็นผลงานชิ้นเอกที่แสดงถึงวิสัยทัศน์เชิงสร้างสรรค์ของเกาดีอีกด้วย แน่นอนว่าอาคารนี้โดดเด่นด้วยการออกแบบที่มีจินตนาการเหนือจริงผสมผสานกับด้วยเส้นลูกคลื่น หินแกะสลัก และกระเบื้องโมเสกสีสันสดใส ทำให้ดูเหมือนถูกสร้างขึ้นโดยพลังแห่งธรรมชาติ และยังมีระเบียงที่มีลักษณะคล้ายหน้ากาก และเสาที่มีลักษณะคล้ายกระดูก นั้นจึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้อาคารแห่งนี้รู้จักกันในชื่อ “House of Bones”
ถ้าไปเข้าชมคาซ่าบัตโล่แล้วอย่าลืมขึ้นไปชั้นดาดฟ้าเพื่อชม “หลังคามังกร” ที่ปูด้วยกระเบื้องหลากสีสันสร้างแสงแวววาวเมื่อโดนแสงแดด ใกล้ ๆ กันยังสามารถมองเห็นปล่องไฟและหอระบายอากาศมีลักษณะคล้ายกระดูกหลังมังกรอีกด้วย โดยรวมแล้วคฤหาสน์คาซ่าบัตโล่คุ้มค่าการเข้าชมและมีขนาดไม่ใหญ่สามารถใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง และอยู่ห่างจากมหาวิหารซากราดาฟามีเลียเพียง 15 นาที
คาซ่ามิลา (Casa Milà)
ที่เที่ยวยอดนิยมอีกหนึ่งแห่งของบาร์เซโลนา ตั้งอยู่ไม่ไกลจากคฤหาสน์คาซ่าบัตโล่เพียง 5 นาที สร้างขึ้นระหว่างปี 1906-1912 และมีชื่อเสียงในด้านการออกแบบที่สร้างสรรค์และล้ำหน้า ซึ่งโดดเด่นด้วยส่วนหน้าของอาคารที่เป็นหินลูกคลื่น ดูราวกับแกะสลักจากหินก้อนเดียวและไร้เส้นตรงแบบดั้งเดิม เช่นเดียวกับระเบียงมีลักษณะคล้ายคลื่นหรือสาหร่าย ซึ่งสะท้อนถึงความหลงใหลในรูปทรงตามธรรมชาติของเกาดี
ด้านในอาคารเดิมยังได้รับการออกแบบให้เป็นอาคารอพาร์ตเมนต์ และเป็นที่พักของผู้อยู่อาศัยหลายคน ปัจจุบันกลายมาศูนย์วัฒนธรรมสำหรับเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของอาคาร สถาปัตยกรรม และปรัชญาการออกแบบของเกาดี ผ่านการจัดแสดงมัลติมีเดีย เครื่องบรรยายออดิโอไกด์ และทัวร์นำเที่ยว ในตอนท้ายการเข้าชมจะนำเราไปที่ชั้นด่านฟ้าเพื่อชมประติมากรรมมีลักษณะเป็นป่ามาพร้อมปล่องไฟแกะสลัก หอระบายอากาศ และบันไดที่ทั้งมีประโยชน์ใช้สอยและตกแต่งโครงสร้าง
ความพิเศษอีกหนึ่งอย่างของคาซ่ามิลาก็คือมีมุมถ่ายภาพที่สวยงามและยังสามารถมองเห็นมหาวิหารซากราดาฟามีเลียได้อีกด้วย โดยรวมแล้วคฤหาสน์คาซ่ามิลามีขนาดใหญ่กว่าคาซ่าบัตโล่ ควรเผื่อเวลาเข้าชมประมาณ 1-2 ชั่วโมง และอยู่ห่างจากมหาวิหารซากราดาฟามีเลียประมาณ 7 นาที
ที่พักใกล้มหาวิหารซากราดาฟามีเลีย
ร้านอาหารและคาเฟ่ใกล้มหาวิหารซากราดาฟามีเลีย
การเดินทางไปบาร์เซโลนาจากอัมสเตอร์ดัม
อัมสเตอร์ดัมตั้งอยู่ห่างจากบาร์เซโลประมาณ 1,538 กม. นักท่องเที่ยวที่ต้องการไปเที่ยวบาร์เซโลสามารถเชื่อมต่อการเดินทางจากเมืองใกล้เคียงได้สะดวก เช่น อัมสเตอร์ดัม บรัสเซลส์ ปารีส บอร์โด หรือมาดริด ครอบคลุมตัวเลือกด้วยเที่ยวบิน รถไฟ รถโคช และรถยนต์ ดังรายละเอียด
เที่ยวมหาวิหารซากราดาฟามีเลีย ใช้งบเท่าไร
ค่าใช้จ่ายสำหรับเที่ยวซากราดาฟามีเลียอยู่ที่ประมาณ 70-80 ยูโร คิดเป็นเงินไทยประมาณ 2,500-3,000 บาท ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายอาจเพิ่มขึ้นหรือลดลงตามปัจจัยต่าง ๆ เช่น ค่าที่พัก การเดินทาง อาหาร กิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงค่าที่จอดรถและค่าทางด่วน ซึ่งตัวเลขนี้ยังไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน เช็คราคาและจองตั๋วเครื่องบินราคาประหยัดได้ที่นี่
budget
โรงแรม: 90-140 ยูโร
โฮสเทล: 40-80 ยูโร
การเดินทาง: 16.40 ยูโร
ซื้อตั๋วเดินทาง
กิจกรรมและตั๋ว: 38-45 ยูโร
รถเช่า: 30-100 ยูโร
อาหาร: 15-30 ยูโร/มื้อ
เครื่องดื่ม: 10-15 ยูโร
เที่ยวอย่างอุ่นใจไปกับบัตรเดบิต Wise สำหรับใช้จ่ายทั่วโลก สามารถใช้ถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มต่างประเทศตามอัตราแลกเปลี่ยนจริงโดยไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง ใช้ชำระค่าอาหาร จองที่พักหรือตั๋วเครื่องบิน รวมถึงในร้านค้าออนไลน์ทั่วโลกกว่า 50+ สกุลเงิน ทั้งยังรองรับการชำระผ่าน MasterCard, Apple Pay และ Google Pay โดยไม่ต้องกังวลในการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน ใช้มานานกว่า 4 ปีไม่ผิดหวัง → สมัครรับบัตรเดบิต Wise ไว้ใช้ประโยชน์ด้วยตัวเองตอนนี้เลย
แหล่งข้อมูลวางแผนเที่ยว
Thank you
การเปิดเผย: บทความนี้มีลิงก์แอฟฟิลิเอทบางส่วน การกดที่ลิงก์ไม่มีค่าใช้จ่าย หากซื้อสินค้าหรือบริการจากลิงก์ดังกล่าว เราอาจได้รับค่ากำลังใจเล็กน้อยสำหรับนำไปพัฒนาบล็อก 🧡