ไนเมเคิน (Nijmegen) เมืองเก่าแก่ที่สุดในประเทศเนเธอร์แลนด์ และมีศูนย์กลางที่เต็มไปด้วยสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่ไม่เหมือนใคร มีอายุมายาวนานถึง 2,000 ปี ตั้งแต่ศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสตกาลของจักรวรรดิโรมัน ไนเมเคิน ตั้งอยู่ในจังหวัดเกลเดอร์ลันด์ทางตะวันออกของประเทศเนเธอร์แลนด์ ใกล้กับชายแดนประเทศเยอรมนี ห่างจากกรุงอัมสเตอร์ดัมประมาณ 120 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง
ไนเมเคิน อาจจะไม่ได้เป็นเมืองที่หลายคนคุ้นชื่อมากนัก แต่เมืองนี้เรียกได้ว่าเป็นม้ามืดนอกสายตาของนักท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดมาเยือนยิ่งนัก นอกจากสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจแล้ว ไนเมเคินยังมีสวนสาธารณะภายในเมือง พิพิธภัณฑ์ที่นำเสนอมรดกทางวัฒนธรรมอันยาวนานมากถึง 2,000 ปี โบสถ์เก่าแก่สถานที่รวมความศรัทธาของชาวคริสต์ที่นี้ รวมถึงร้านอาหาร ร้านกาแฟริมทางที่ตั้งเรียงรายอย่างนับไม่ถ้วน
สถานีรถไฟไนเมเคิน (Nijmegen Station)

City guide and city map ไนเมเคิน
เราเดินทางมาเที่ยวที่เมืองไนเมเคินเป็นครั้งแรก และเป็นการเดินเที่ยวแบบเดย์ทริปด้วยตัวเอง โดยมีแผนที่และคำแนะนำในการเดินเที่ยวเมืองไนเมเคินเป็นภาษาอังกฤษ (Walking city map) เป็นผู้ช่วยในวันนี้ สามารถดาวน์โหลดได้ทางออนไลน์ หรือที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวในเมืองไนเมเคิน (VVV Tourist Information Office)
Last Day of summer ไนเมเคิน
วันนี้อากาศที่เมืองไนเมเคินมีแสงแดดจ้า ไม่ร้อนมากนัก และเป็นวันสุดท้ายของหน้าร้อนในปีนี้ ภายในตัวเมืองจึงมีพบเห็นผู้คนมากมายออกมาเดินเที่ยวและนั่งรับแสงแดดตามเคเฟ่ต่าง ๆ แผนของการเดินเที่ยวในวันนี้เราตั้งใจไว้ว่าจะเริ่มต้นจากสวนสาธารณะใจกลางเมืองก่อน ซึ่งเป็นสถานที่ทางด้านประวัติศาสตร์ จากนั้นเดินไปเรื่อย ๆ ตามแผนที่ เข้าชมโบสถ์เก่าแก่ เดินตลาดกลางเมือง เข้าชมพิพิธภัณฑ์ และไปจบลงที่ย่านชอปปิงใจกลางเมือง รวมระยะทางทั้งหมดประมาณ 5 กิโลเมตร โดยเริ่มออกเดินไปที่สวนสาธารณะประมาณเวลา 11:30 น.
สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจในเมืองไนเมเคิน
สวนสาธารณะใจกลางเมืองไนเมเคิน (Kronenburgerpark)
Kronenburgerpark เป็นสวนสาธารณะใจกลางเมืองไนเมเคิน ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟเมืองไนเมเคิน และถนนชอปปิงที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศเนเธอร์แลนด์ (Lange Hezelstraat) ภายในมีซากกำแพงเก่าของเมืองไนเมเคิน และหอคอย Kruittoren ซึ่งเป็นส่วนที่หลงเหลือจากกำแพงเก่าในยุคกลาง ปัจจุบันสวนสาธารณะ Kronenburgerpark เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ได้รับการลงทะเบียนเป็นอนุสรณ์สถานแห่งชาติในเมืองไนเมเคินจากทั้งหมด 241 แห่ง

หอคอยกำแพงเก่าเมืองไนเมเคิน (Kruittoren)
Kruittoren เป็นหอคอยที่หลงเหลือจากกำแพงเก่าของเมืองไนเมเคิน สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15 ตั้งแต่ปี ค. ศ. 1426 มีความสูงประมาณ 30 เมตร และมีทางเดินสองทาง การเข้ามาของปืนใหญ่ในช่วงศตวรรษที่ 15 ส่งผลให้คอหอยกำแพงสูงในช่วงนั้นถูกรื้อถอน อย่างไรก็ตามหลังพระราชบัญญัติป้อมปราการ หรือพระราชบัญญัติเพื่อการตั้งถิ่นฐานและความสมบูรณ์ของระบบป้อมปราการมีผลบังคับใช้ในปี พ. ศ. 2417 ทำให้หอคอยแห่งนี้ไม่ถูกทำลาย และกลายมาเป็นหอคอยที่หลงเหลืออยู่ในสวนสาธารณะใจกลางเมืองไนเมเคินจนถึงทุกวันนี้

ถนนชอปปิงที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศเนเธอร์แลนด์ (The Lange Hezelstraat)
เมื่อเดินออกมาจากสวนสาธารณะ Kronenburgerpark ข้ามถนนไปยังอีกฝั่งจะพบกับ The Lange Hezelstraat ซึ่งเป็นถนนชอปปิงที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศเนเธอร์แลนด์ รวมถึงเป็นที่ตั้งของร้านค้า ร้านคาเฟ่ และร้านอาหารมากมาย ภายในมีบ้านเรือน และอาคารเก่าที่ยังคงหลงเหลือและถูกดัดแปลงเป็นร้านขายของต่าง ๆ นับเป็นอีกย่านหนึ่งที่ทำให้เราได้เห็นภาพบ้านเรือนในสมัยก่อนที่มีรูปร่างแปลกตา และหลากหลายสีสัน




เมืองเก่าตอนล่าง (The Lower Town) ไนเมเคิน
หลังจากเดินผ่านถนนชอปปิง The Lange Hezelstraat ไปได้สักพัก เราจะพบกับซอย Benedenstad ซึ่งอยู่ทางด้านซ้ายมือ เมื่อเดินเลี้ยวเข้าไปในซอยจะเป็นย่านเมืองเก่าตอนล่าง ซึ่งเป็นเมืองในยุคกลาง เดินต่อไปนิดหนึ่งทางด้านซ้ายมือเราจะพบกับอดีตบ้านเด็กกำพร้าในปี ค.ศ. 1817 สถานที่แห่งนี้ได้เปลี่ยนชื่อเป็นสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าโปรเตสแตนต์

ท่าเรือเก่า (Oude Haven) ไนเมเคิน
เมื่อเดินไปจนสุดทางเดินเราจะพบกับท่าเรือเก่า สามารถมองเห็นแม่น้ำ waal ซึ่งเป็นแม่น้ำที่เชื่อมกับแม่น้ำไรน์ไหลผ่านประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยเป็นทางน้ำสำคัญที่เชื่อมระหว่างท่าเรือรอตเตอร์ดัมกับเยอรมนี บนแม่น้ำมีเรือขนส่งสินค้าและน้ำมัน และมีสะพานซึ่งเป็นเส้นทางรถไฟเข้าสู่สถานีเมืองไนเมเคิน

โบสถ์เก่าแก่ที่สุดในเมืองไนเมเคิน (Saint Stephen’s Church (Stevenskerk))
เมื่อเดินออกจากท่าเรือเก่าขึ้นมาสู่ถนนเล็ก ๆ นำไปยังตลาดกลาง Grote Markt เราจะพบกับทางขึ้นด้านซ้ายมือ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโบสถ์ที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในเมืองไนเมเคิน สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1254 บนเนินเขาเล็ก ๆ Hundisburg Stevenskerk เป็นโบสถ์สไตล์กอทิกตอนปลายตั้งอยู่ใจกลางศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของเมืองไนเมเคิน ติดกับตลาดกลาง Grote Markt ภายในมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามและแสงที่ลอดผ่านหน้าต่างกระจกสี


โรงเรียนเผยแพร่ศาสนาและภาษาละติน (Latin School Nijmegen) ไนเมเคิน
Latin School เป็นโรงเรียนเผยแพร่ศาสนาและภาษาละตินในเมืองไนเมเคิน ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าโบสถ์ Stevenskerk สามารถเดินเข้ามาได้จากตลาดกลาง Grote Markt สถานที่แห่งนี้สร้างขึ้นราวปี ค.ศ. 1544-1545 ด้วยสไตล์เรอเนสซองส์ตอนต้น ในปี พ. ศ. 2385 โรงเรียนภาษาละตินได้รับการดัดแปลงให้เป็นโรงยิม Stedelijk Gymnasium Nijmegen ต่อมามีการจัดตั้งสถาบันต่าง ๆ และอาคารได้รับการบูรณะในปี พ. ศ. 2508

ประตูเมืองไนเมเคิน (Kerkboog)
Kerkboog เป็นประตูเมืองในเมืองไนเมเคิน เชื่อมต่อระหว่างตลาดกลาง Grote Markt และโบสถ์ Stevenskerk ก่อสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1542 แล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1545 ต่อมาประตูได้รับความเสียหายระหว่างการทิ้งระเบิดที่เมืองไนเมเคิน สถานที่แห่งนี้จึงได้รับการบูรณะและซ่อมแซ่มอีกครั้ง ในปี ค.ศ. 1955 และ 1972 และกลายมาเป็นที่อยู่อาศัย ปัจจุบันประตูเมืองแห่งนี้เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ได้รับการลงทะเบียนเป็นอนุสรณ์สถานแห่งชาติในเมืองไนเมเคินจากทั้งหมด 241 แห่ง



โรงชั่งน้ำหนักในเมืองไนเมเคิน (Waaggebouw (Weigh-house)
Waaggebouw เป็นโรงชั่งน้ำหนักในเมืองไนเมเคิน ตั้งอยู่บนตลาด Grote Markt สร้างขึ้นราวปี ค.ศ. 1612-1613 ในสมัยก่อนนั้นการค้าขายในเมืองไนเมเคินเฟื่องฟูมาก แน่นอนว่าการขายสินค้าไม่ได้ขายทีละชิ้น แต่ขายตามจำนวนน้ำหนัก เหล่าพ่อค้ามีการโกงน้ำหนักเกิดขึ้น รัฐบาลจึงมีการสร้างโรงชั่งน้ำหนักขึ้น เพื่อกำหนดน้ำหนักที่แน่นอนและสร้างความยุติธรรมในการค้าขาย
นอกจากนี้โรงชั่งน้ำหนักยังมีความโดดเด่นในเรื่องการประดับตกแต่งด้านนอก ซึ่งมีองค์ประกอบของหินธรรมชาติที่หรูหรา หน้าต่างกระจกสี และบานประตูหน้าต่างสีดำและสีแดงแบบดั้งเดิมทำให้อาคารดูมีชีวิตชีวาและโดดเด่นมาแต่ไกล

คาเฟ่เก่าแก่ที่สุดในเมืองไนเมเคิน (Café In De Blaauwe Hand)
เมื่อเดินผ่านโรงชั่งน้ำหนักต่อไปเราจะพบกับคาเฟ่ที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองไนเมเคิน สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1542 ภายในคาเฟ่ได้รับการบูรณะอย่างสวยงาม เป็นอีกหนึ่งสถานที่สำหรับการดื่มเบียร์และไวน์ รวมถึงอาหารและนมช็อคโกแลต

ด้านหลังของเคาเฟ่ Café In De Blaauwe Hand ยังเป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อกับโบสถ์ Stevenskerk และมีคาเฟ่อีกแห่งตั้งอยู่ชื่อว่า Philipse Koffie & Brocante เป็นคาเฟ่น่ารัก ๆ สำหรับการดื่มชาและกาแฟ รวมถึงดินเนอร์มื้อค่ำ

อาคารเก่าแก่ในเมืองไนเมเคิน (Commanderie van Sint Jan)
เดินต่อไปจากคาเฟ่เก่าแก่ที่สุดในเมืองไนเมเคิน (Café In De Blaauwe Hand) เราจะพบกับ Commanderie van Sint Jan เป็นอาคารเก่าแก่ในเมืองไนเมเคินตอนล่าง และเป็นหนึ่งในอาคารหินแห่งแรกในเมืองไนเมเคิน สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1196 และใช้เป็นโรงพยาบาล จากนั้นถูกเปลี่ยนถ่ายมาเป็นสถานที่คุมขังทหารสเปนในปี ค.ศ.1576 ก่อนที่ปี 1672 อาคารแห่งนี้ได้รับการควบคุมโดยทหารอีกครั้งหลังจากการยึดครองของฝรั่งเศส
อย่างไรก็ในระหว่างการทิ้งระเบิดที่เมืองไนเมเคินในปี พ. ศ. 2487 อาคารได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง และกลายเป็นซากปรักหักพังและและทรุดโทรม จากนั้นในปี พ. ศ. 2495 พ่อค้าของเก่าในไนเมเคินได้ซื้อซากปรักหักพังนี้ และสร้างห้องใต้ดินสุดโรแมนติกไว้ข้างใต้ซึ่งกลายเป็นสถานบันเทิงยามค่ำคืนยอดนิยม อย่างไรก็ตามมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมายภายในอาคารแห่งนี้ ปัจจุบัน Commanderie van Sint Jan เป็นสถานที่สำหรับทานอาหารและดื่มด่ำกับรสชาติของเครื่องดื่ม และยังเป็นอนุสรณ์สถานแห่งชาติประเทศเนเธอร์แลนด์

สถานที่เก็บค่าผ่านเรือ (Besiendershuis) ไนเมเคิน
Besiendershuis ตั้งอยู่บนถนน Steenstraat ในเมืองไนเมเคิน ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1525 และได้รับการตั้งชื่อตามผู้ปิดล้อมที่มีหน้าที่รวบรวมค่าผ่านทางที่เรือผ่านต้องจ่ายให้กับแม่น้ำ Waal อาคารเป็นแบบกอธิคตอนปลาย ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้เป็นอนุสรณ์สถานแห่งชาติประเทศเนเธอร์แลนด์

หลังจากเดินผ่านสถานที่เก็บค่าผ่านเรือในอดีตแล้ว (Besiendershuis) เราจะพบกับทางขึ้นบันได ซึ่งเป็นเนินเขาและทางเดินไปสู่สวนธารณะ Valkhof ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาเล็ก ๆ สามารถมองเห็นแม่น้ำ Waal และสะพาน Waalbrug
อนุสาวรีย์เพื่อระลึกถึงการสร้างทางรถไฟ Nijmegen – Cleves (Spoorwegmonument)
ด้านหน้าทางเข้าสวนธารณะ Valkhof มีอนุเสาวรีย์ตั้งอยู่ Spoorwegmonument หรือ The Railway Monument ซึ่งเป็นอนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2427 ที่เชิงเขา Valkhof เพื่อระลึกถึงการสร้างทางรถไฟเส้นทาง Nijmegen – Cleves เป็นประติมากรรมสมัยศตวรรษที่ 19 ปัจจุบันอนุเสาวรีย์ Spoorwegmonument เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ได้รับการลงทะเบียนเป็นอนุสรณ์สถานแห่งชาติในเมืองไนเมเคินจากทั้งหมด 241 แห่ง

สวนสาธารณะในเมืองไนเมเคิน (Valkhof)
Valkhof เป็นสวนสาธารณะในเมืองไนเมเคิน ตั้งอยู่บนเนินเขาเล็ก ๆ พร้อมทิวทัศน์ของแม่น้ำ Waal และสะพาน Waalbrug สวนสาธารณะ Valkhof มีทางเชื่อมต่อไปไปยังพิพิธภัณฑ์โบราณคดีและศิลปะในเมืองไนเมเคิน (Valkhof Museum) ตั้งอยู่ทางด้านหลังสวนสาธารณะ Hunnerpark





โบสถ์ Sint-Nicolaaskapel ไนเมเคิน
ภายในสวนสาธารณะ Valkhof ด้านซ้ายมือของตลาดจะพบกับโบสถ์ Sint-Nicolaaskapel ซึ่งเป็นโบสถ์ที่สร้างขึ้นประมาณ 1,000 แห่งบนเขา Valkhof ซึ่งเป็นเนินเขาในใจกลางเมืองไนเมเคิน ทางด้านซ้ายมือของโบสถ์มีทางเดินและยังเป็นจุดที่สามารถมองเห็นเมืองริมฝั่งแม่น้ำ Waal

ซากปรักหักพัง (Barbarossa-ruïne) ไนเมเคิน
หากเดินผ่านตลาดภายในสวนสาธารณะ Valkhof ไปยังด้านขวามือจะพบกับ Barbarossa-ruïne ซึ่งเป็นซากปรักหักพังในเมืองไนเมเคิน ที่ยังหลงเหลือให้เห็น ปัจจุบันซากปรักหักพัง Barbarossa สวนสาธารณะ Valkhof และโบสถ์ Sint-Nicolaaskapel เป็นอนุสรณ์สถานแห่งชาติประเทศเนเธอร์แลนด์

หลังจากเดินเท้าชมเมืองมาเกือบสองชั่วโมง และผ่านสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองไนเมเคินมาพอสมควร เราก็เริ่มหิว จึงตัดสินใจนั่งพักเอาแรงที่สวนสาธารณะ Valkhof พร้อมทานขนมและน้ำดื่มที่เตรียมมาจากบ้าน และซื้อขนมแพนเค้กชิ้นเล็ก ๆ (poffertjes) ตามแบบฉบับชาวดัตช์มาทาน หากเดินทางมายังเมืองไนเมเคินอย่าลืมลิ้มลองขนม poffertjes นะคะ เป็นขนมนี้มีรสชาติหวานบวกกับความหอมจากน้ำตาลไอซิงและเนย ยิ่งทำให้การนั่งพักในสวนสาธารณะแห่งนี้ผ่อนคลายไปอีก
อ่านต่อรวม 18 “ขนมชาวดัตช์” สุดอร่อยติดอันดับที่ชวนลิ้มลอง
พิพิธภัณฑ์โบราณคดีและศิลปะในเมืองไนเมเคิน (Valkhof Museum)
เมื่อเดินออกจากสวนสาธารณะ Valkhof ผ่านสะพานซึ่งเป็นทางเชื่อมไปยังพิพิธภัณฑ์ Valkhof Museum เราจะเจอกับพิพิธภัณฑ์ Valkhof Museum ตั้งอยู่ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นพิพิธภัณฑ์โบราณคดีและศิลปะในเมืองไนเมเคิน มีมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1999 ภายในจัดแสดงเรื่องราวและประวัติความเป็นมาของเมืองไนเคิน ตั้งแต่สมัยการปกครองของจักรวรรดิโรมัน ชิ้นส่วนโบราณวัตถุที่ค้นพบ เครื่องปั้นดินเผา โครงกระดูก รวมถึงภาพวาด และนิทรรศการศิลปะสมัยใหม่ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ควรเข้าชมอย่างยิ่ง






ข้อมูลการเข้าชมพิพิธภัณฑ์ Valkhof Museum
- ที่อยู่: Museum Het Valkhof, Kelfkensbos 59, 6511 TB Nijmegen
- เวลาเปิดทำการ: วันอังคาร – วันอาทิตย์ เวลา 11:00-17:00 น. (ปิดวันจันทร์)
- จองตั๋วออนไลน์ก่อนเข้าชมได้ที่: Valkhof Museum Ticket
- ราคาตั๋วเข้าชม 12.50 ยูโร หรือใช้บัตร Museumkaart เข้าชมฟรี
ซากเสาโรมันโบราณ (Roman Remains) ไนเมเคิน
ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์โบราณคดีและศิลปะในเมืองไนเมเคิน (Valkhof Museum) มีซากเสาโรมันโบราณตั้งอยู่ ซึ่งเสาโรมันโบราณนี้ถูกค้นพบในปี ค.ศ. 1980

สวนสาธารณะ (Hunnerpark) ไนเมเคิน
เมื่อเดินออกจากพิพิธภัณฑ์ไปทางด้านขวามือจะพบกับสวนสาธารณะ Hunnerpark เป็นสวนสาธารณะในเขต Hunnerberg ที่อยู่ติดกับใจกลางเมืองของเมืองไนเมเคิน สวนสาธารณะถูกสร้างขึ้นระหว่างปี พ. ศ. 2419 ถึง พ.ศ. 2427

สะพานโค้งในสวนสาธารณะ Hunnerpark (Voetbrug) ไนเมเคิน
Voetbrug หรือ Foot bridge เป็นสะพานโค้งในสวนสาธารณะ Hunnerpark สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1883 เป็นสะพานเชื่อมต่อทางเดินเท้าเหนือซากกำแพงในอดีต สมัยศตวรรษที่ 15 กับหอสังเกตการณ์ในเมืองไนเมเคิน (Belvédère)

หอสังเกตการณ์ในเมืองไนเมเคิน (Belvédère)
Belvédère เคยเป็นหอสังเกตการณ์ในเมืองไนเมเคิน ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะ Hunnerpark หอคอยที่สร้างขึ้นในกลางศตวรรษที่ 15 และได้รับการบูรณะในปี พ.ศ. 2431 ปัจจุบัน Belvédère อนุสรณ์สถานแห่งชาติที่ประเทศเนเธอร์แลนด์

ใช้เวลาเกือบทั้งวันเราก็เดินชมสถานที่ทางประวัติศาสตร์ภายในเมืองไนเมเคินจนครบตามแผนที่ เวลา ณ ตอนนี้ คือเวลาประมาณบ่ายสามโมงครึ่ง อากาศกำลังดี ไม่ร้อนมาก เราเดินต่อไปยัง Grote Markt ซึ่งผ่านที่ว่าการอำเภอ City hall ภายใน Grote Markt มีผู้คนมากมาย เรียกได้ว่าอากาศดี ๆ ในวันนี้ รวมถึงเป็นวันสุดท้ายของหน้าร้อนปีนี้ ยิ่งทำให้ผู้คนออกมานอกบ้านและรับแสงแดดมากขึ้น ก่อนที่อากาศจะเริ่มเปลี่ยนเข้าสู่หน้าหนาวอีกครั้ง
เราได้มีโอกาสพบกับรุ่นน้องออแพร์ในเมืองไนเมเคินโดยบังเอิญ เราพบกับมาก่อนครั้งแรกที่งานพบปะออแพร์ที่เมือง Utrecht ครั้งนี้จึงเป็นโอกาสดีได้ใช้เวลาพูดคุยและถามสารทุกข์สุขดิบ ก่อนที่เราจะเดินต่อไปยัง Grote Markt เป็นแหล่งรวมการชอปปิง และร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ ตั้งอยู่มากมาย

การเริ่มเดินเที่ยวในเมืองไนเมเคินจากสวนธารณะใจกลางเมืองเป็นจุดแรกทำให้เราย้อนกลับไปสู่ช่วงเวลาในอดีตอีกครั้ง โดยมีซากกำแพงเก่า และหอคอยที่ตั้งสง่างามอยู่ เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ยังหลงเหลือและรอดจากการถูกทำลายมาได้ จากนั้นเมื่อเดินเข้าไปยังถนนที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศเนเธอร์แลนด์ สู่โบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองไนเมเคิน ตลาดกลาง Grote markt พบกับโรงชั่งน้ำหนัก ซึ่งแสดงถึงความเฟื่องฟูของการค้าขายในสมัยก่อน จนรัฐบาลต้องสร้างโรงชั่งน้ำหนักนี้ขึ้นมา เพื่อความยุติธรรมในการค้าขาย
ร้านคาเฟ่ที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองไนเมเคิน รวมถึงอาคารเก่าแก่ พิพิธภัณฑ์โบราณคดีและศิลปะในเมืองไนเมเคิน และถนนหนทางที่ทำให้เราแทบไม่เชื่อสายตาว่าเกิดขึ้นและถูกบูรณะมาแล้ว 2,000 ปี เรียกได้ว่าเกือบทุกสถานที่ที่เราเดินผ่านและพบเห็นล้วนต่างเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ เป็นอนุสรณ์สถานแห่งชาติที่มีการอนุรักษ์ไว้มากถึง 241 แห่งในเมืองไนเมเคิน และนั้นทำให้เมืองม้ามืดนอกสายตาแห่งนี้เป็นเมืองที่ทำให้เราตกหลุมรักและกลายเป็น hidden Jam อีกเมืองที่เราแนะนำให้มาชมอย่างยิ่ง
การเดินทางมายังเมืองไนเมเคิน
- การเดินทางด้วยรถไฟจากสถานีรถไฟ Amsterdam Centraal Station ถึงสถานี Nijmegen Station ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ราคาค่าตั๋วเดินทางประมาณ 20.40 ยูโร (สำหรับการเดินทางเที่ยวเดียว)
- สามารถซื้อตั๋วรถไฟด้วยบัตร OV-Chipkaart (มีค่าธรรมเนียมบัตร 7.50 ยูโร) หรือตั๋วแบบเที่ยวเดียวที่ตู้จำหน่ายตั๋วในสถานีรถไฟ หรือเคาน์เตอร์จุดบริการข้อมูล
- สามารถเดินทางไปยังเมืองไนเมเคินโดยใช้ตั๋ว Holland Travel Ticket
- วางแผนการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะในเนเธอร์แลนด์