ก่อนหน้านี้ได้เขียนบทความรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวอัมสเตอร์ดัมไปในหลากหลายแง่มุมแล้ว บทความนี้จะมาพูดถึงเรื่องน่ารู้ก่อนไปเที่ยวอัมสเตอร์ดัมกันบ้าง ซึ่งเกิดจากความตั้งใจที่พยายามรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการเที่ยวอัมสเตอร์ดัมด้วยตัวเองมาแชร์ให้กับผู้อ่านทุกคน
ถ้าอ่านบทความนี้ แนะนำให้อ่านเพิ่มเติม → คู่มือวางแผนเที่ยวอัมสเตอร์ดัมด้วยตัวเอง, รวมสถานที่ท่องเที่ยวในอัมสเตอร์ดัม, การเดินทางในอัมสเตอร์ดัมด้วยระบบขนส่งสาธารณะ, คู่มือการล่องเรือเที่ยวในคลองอัมสเตอร์ดัม และ พิพิธภัณฑ์ในอัมสเตอร์ดัมที่ควรค่าแก่การเข้าชม จะได้ข้อมูลที่ครบถ้วนสำหรับการวางแผนเที่ยวอัมสเตอร์ดัม
เรื่องน่ารู้ก่อนไปเที่ยวอัมสเตอร์ดัม: ข้อมูลทั่วไป
1. สนามบินอยู่ใกล้ตัวเมือง 20 นาที
เนเธอร์แลนด์มีสนามบินหลัก คือ สนามบินอัมสเตอร์ดัมสคิปโฮล (Amsterdam Airport Schiphol) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า “สนามบินสคิปโฮล” ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองเพียง 18 กม. นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าเมืองสะดวกด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ครอบคลุมถึงรถไฟ NS ที่ใช้เวลาเพียง 20 นาที (4.90 ยูโร) และรถบัสรับส่งจากสนามบิน ใช้เวลาเพียง 30 นาที (6.50 ยูโร)
2. ตัวเมืองอัมสเตอร์ดัมห่างจากทางเหนือ 2 ชั่วโมง
ด้วยความที่เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศเล็ก ทำให้เมืองหลวงอย่างอัมสเตอร์ดัมตั้งอยู่ห่างจากทางเหนือเพียง 180 กม. นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวแบบเดย์ทริปจากอัมสเตอร์ดัมด้วยรถไฟ ไปยังเมืองโกรนิงเงินได้ภายในเวลา 2 ชม. หรือลงใต้ไปยังเมืองมาสทริชท์เพียง 2.30 ชม. นอกจากนี้ตัวเมืองใหญ่อย่างรอตเตอร์ดัมและเดนฮากก็ใช้เวลาเดินทางเพียง 1.15 ชม. และ 50 นาทีตามลำดับ
3. ใช้สกุลเงินยูโร
เนเธอร์แลนด์ใช้สกุลเงินยูโร (EURO) แทนด้วยสัญลักษณ์ € ค่าเงิน 1 ยูโร ประมาณ 37-38 บาท ธนบัตรที่ใช้ในเนเธอร์แลนด์คือ 5, 10, 20, 50, 100, 200 และ 500 ยูโร เหรียญที่ใช้ คือ 1, 2, 5, 10, 20, 50 เซน 1 ยูโร และ 2 ยูโร ทั้งนี้ร้านค้าขนาดเล็กอาจจะไม่รับธนบัตร 100, 200 และ 500 ยูโร อย่าลืมเตรียมเหรียญติดตัวไว้บ้างเพื่อจ่ายค่าเข้าห้องน้ำ 70 เซน (หรือจ่ายด้วยบัตร)
4. เวลาต่างจากไทย 6 ชั่วโมง
เนเธอร์แลนด์ใช้เขตเวลาของโซนยุโรปกลาง (CET) UTC+1 ชม. เร็วกว่า GMT 1 ชม. (เมืองไทยอยู่ในโซนเวลา GMT+7) ในช่วงซัมเมอร์มีการปรับเวลาใช้ (CEST) UTC+2 ชม. ซึ่งการปรับเวลามี 2 แบบ คือ Daylight Savings Time (ช้ากว่าที่ไทย 5 ชม.) และ Winter Savings Time (ช้ากว่าที่ไทย 6 ชม.) ใครที่มาเที่ยวอัมสเตอร์ดัมในช่วงซัมเมอร์จะเห็นพระอาทิตย์ตกช้า ทำให้มีเวลาเที่ยวนานขึ้น ส่วนในฤดูหนาวพระอาทิตย์จะตกเร็วขึ้น ที่เที่ยวและร้านค้าส่วนใหญ่จะปิดทำการเร็วขึ้นเช่นกัน
5. สังคมบัตรเดบิต
การจ่ายเงินซื้อสินค้าต่าง ๆ ในอัมสเตอร์ดัมนิยมใช้บัตรเดบิต ทั้งแบบบัตรที่แตะหน้าจอเพื่ออ่านจ่ายเงินหรือกดรหัส รวมไปถึงระบบชำระเงินอีคอมเมิร์ช (iDeal) หรือ Apple Wallet ส่วนบัตรเครดิตไม่นิยมมากนักเนื่องจากค่าธรรมเนียมสูง (แต่ก็ยังเป็นตัวเลือกที่นักท่องเที่ยวใช้กัน)
6. อย่าลืมเอาหัวปลั๊กแปรงไฟมาด้วย
อัมสเตอร์ดัมใช้แรงดันไฟฟ้ามาตรฐาน 230 โวลต์ ความถี่มาตรฐาน 50 เฮิรตซ์ ใช้เต้าเสียบปลั๊กไฟประเภท C และ F นักเดินทางที่มาจากประเทศนอกยุโรป → ควรเตรียมหัวปลั๊กแปลงไฟรอบโลก สำรองมาด้วย 1-2 ชิ้น
7. ทุกอย่างเปิดปิดเป็นเวลา
อัมสเตอร์ดัมไม่ใช่เมืองที่ทุกอย่างเปิดตลอด 24 ชม. สถานที่ท่องเที่ยว ร้านค้า ร้านอาหาร รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ เปิดปิดเป็นเวลา เวลาเปิดทำการร้านค้าส่วนใหญ่คือ 09:00-18:00 น. บางแห่งเปิดถึงเวลา 22:00 น. (อาจจะเป็นวันพฤหัสบดีหรือวันศุกร์เพื่อให้ผู้คนได้มีเวลาชอปปิงช่วงดึกหลังเลิกงาน) ซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่มักจะเปิดเวลา 08:00-22:00 น. ในวันธรรมดาและวันเสาร์ ส่วนวันอาทิตย์มีเวลาเปิดที่แตกต่างกันออกไป
ส่วนร้านอาหารเปิดตั้งแต่เวลา 17:00-23:00 น. (ครัวจะปิดให้บริการเวลาประมาณ 22:00 น.) ส่วนบาร์อาหารเช้าและคาเฟ่จำนวนมากเปิดให้บริการทั้งวัน (โดยเฉพาะย่านนักท่องเที่ยว) นอกจากนี้บาร์และคลับมักเปิดจนถึงเวลา 03:00-04:00 น.
8. ถ้าเป็นไปได้ควรจองตั๋วพิพิธภัณฑ์ล่วงหน้า
พิพิธภัณฑ์ในอัมสเตอร์ดัมช่วงหน้าร้อนระหว่างเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคมมีจำนวนผู้เข้าชมที่ค่อนข้างหนาแน่น โดยเฉพาะพิพิธภัณฑ์ยอดนิยม เช่น พิพิธภัณฑ์ไรจ์คส์ พิพิธภัณฑ์แวนโกะห์ และพิพิธภัณฑ์บ้านแอนน์แฟรงค์ ถ้าเป็นไปได้ควรจองตั๋วล่วงหน้าเพื่อความมั่นใจว่าจะได้เข้าชมอย่างแน่นอน เมื่อจองตั๋วแล้วสามารถดาวน์โหลดตั๋วลงบนมือ หรือโชว์อีเมล์เพื่อให้เจ้าหน้าที่สแกนคิวอาร์โค้ดที่หน้าประตูทางเข้า วิธีนี้จะสะดวกและรวดเร็วกว่าการไปยืนรอจองตั๋วที่หน้างาน
9. จองร้านอาหารและที่พักล่วงหน้าอีกเช่นกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหน้าร้อนที่พักมีราคาค่อนข้างแพง ถ้าวางแผนมาเที่ยวในช่วงนี้ ควรจองที่พักล่วงหน้า 3-6 เดือน ราคาที่พักในวันธรรมดาจะถูกกว่าวันหยุดสุดสัปดาห์ วันเสาร์จะแพงมาก ส่วนวันอาทิตย์ราคาค่อนข้างถูก ร้านอาหารก็เช่นกันควรจองล่วงหน้าอย่างน้อย 2 สัปดาห์
เรื่องน่ารู้ก่อนไปเที่ยวอัมสเตอร์ดัม: สังคมและวัฒนธรรมดัตช์
10. คนดัตช์พูดตรง
หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของชาวดัตช์มาก่อนว่าเป็นคนพูดตรง ความจริงก็คือเป็นแบบนั้นแหละค่ะ เวลาคิดอะไรก็พูดแบบนั้น ไม่มีอ้อมคอมหรือประดิษฐ์คำพูดให้สวยหรู บางทีเราอาจจะได้ยินประโยคที่ไม่คุ้นชินก็อย่าเพิ่งด่วนสรุปไปว่าเขาใจร้าย เพราะนั้นเป็นนิสัยของคนดัตช์ และในความตรงก็แฝงไปด้วยความเป็นมิตร ถ้ามีนักท่องเที่ยวมาถามทาง ถ้าพวกเขาไม่ยุ่งหรือรีบไปทำอะไรก็จะช่วยบอกทางให้ แต่ถ้ารีบก็จะบอกว่ารีบ
11. คนดัตช์ส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษได้ดี
ในอัมสเตอร์ดัมผู้คนส่วนใหญ่สื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี และมีชาวต่างชาติอาศัยอยู่เยอะ เราก็เลยจะได้ยินแต่ภาษาอังกฤษเป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็เวลาไปเข้าร้านอาหารหรือซื้อของในร้านค้าลองทักทายเป็นประโยคภาษาดัตช์เล็ก ๆ เพื่อสื่อสารกับคนท้องถิ่นก็ดี เช่น สวัสดีตอนเช้า (Goedemorgen) หรือขอบคุณ (Dank u/ Dank u wel) ขอให้มีวันที่ดี (Fijne dag) ทำงานให้สนุกนะ (Werkse)
12. อัมสเตอร์ดัมภูมิใจกับเมืองตัวเองมากมีธงเกือบทุกที่
ธงประจำกรุงอัมสเตอร์คือรูปกากบาทสามชิ้น (ไม้กางเขนของเซนต์แอนดรูว์) บนแถบสีดำมีพื้นหลังสีแดง ซึ่งกากบาทสามชิ้นยังเป็นตัวแทนของคำขวัญของเมือง คือ Valor (Heldhaftig), Resolution (Vastberaden) และ Mercy (Barmhartig) “องอาจ แน่วแน่ เห็นอกเห็นใจ”
ถ้าเดินเที่ยวรอบอัมสเตอร์ดัมเราจะสังเกตเห็นว่าประดับอยู่ทุกหนทุกแห่ง นั้นยังไม่รวมไปถึงแบบที่แกะสลักบนก้อนอิฐบนอาคาร ฝาท่อระบายน้ำ เสาเล็ก ๆ บนถนนถนนเพื่อไม่ให้คนจอดรถขวางทางเท้าที่รู้จักกันในชื่อ “Amsterdammertjes” ป้ายรถเมล์ ป้ายพิพิธภัณฑ์ และแม้กระทั่งบนจดหมายราชการ พวกเขาภูมิใจกับเมืองของตัวเอง การแสดงออกก็จะมาในหลายรูปแบบ ธงประจำเมืองก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน
13. เห็นอกเห็นใจคนในพื้นที่ด้วย
ตามที่เที่ยวส่วนใหญ่ยังเป็นบ้านเรือนของผู้คนในพื้นที่ และบางครั้งก็ถูกรบกวนโดยนักท่องเที่ยวที่ส่งเสียงดังตอนกลางคืน (โดยเฉพาะหลังเที่ยงคืนไปแล้ว) บ้านส่วนใหญ่ไม่ได้ติดเครื่องปรับอากาศ ทำให้ช่วงหน้าร้อนนอนหลับยากต้องเปิดหน้าต่างทิ้งไว้ ทำให้ได้ยินเสียงตะโกนจากข้างนอก หรือถูกปลุกให้ตื่นแต่เช้ามืด ดังนั้นถ้าเที่ยวกลับที่พักดึกไม่ควรตะโกนเสียงดังรบกวนผู้คนในยามวิกาล
เรื่องน่ารู้ก่อนไปเที่ยวอัมสเตอร์ดัม: สภาพอากาศ
14. ช่วงเวลาที่น่ามาเที่ยวอัมสเตอร์ดัม
ระหว่างเดือนเมษายนและพฤษภาคม อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 10-16 องศาเซลเซียล เป็นช่วงก่อนที่จะถึงฤดูร้อนของเนเธอร์แลนด์ จำนวนนักท่องเที่ยวยังไม่มากนัก ที่สำคัญบรรยากาศดี ไม่ร้อนและไม่หนาว ถ้ามาช่วงนี้จะตรงกับ → เทศกาลสวนดอกทิวลิปเคอเคนฮอฟพอดี แต่อาจจะต้องระวังเรื่องของฝน เพราะแน่นอนว่าที่อัมสเตอร์ดัมมีความชื้นสูง และมีฝนตกตลอดทั้งปี ดังนั้นอย่าลืมพกเสื้อกันฝนหรือร่มกันฝนมาเผื่อด้วยก็ดี
15. อากาศไม่แน่นอน
อย่างที่รู้กันว่าอากาศในอัมสเตอร์ดัมเอาแน่เอานอนไม่ได้ บางวันที่บอกว่าจะมีแดดออก 5 นาทีต่อมาก็อาจจะมีฝนตกได้เช่นกัน บางปีหิมะตกในช่วงเดือนเมษายนก็ยังมีมาแล้ว ดังนั้นเอาเป็นว่าเตรียมพร้อมทุกการเดินทาง และเช็คสภาพอากาศก่อนจองตั๋วจะดีที่สุด
เรื่องน่ารู้ก่อนไปเที่ยวอัมสเตอร์ดัม: การเดินทาง
16. ระบบขนส่งสาธารณะเป็นเลิศ
อัมสเตอร์ดัมมีเครือข่ายระบบขนส่งสาธารณะที่สะดวกและรวดเร็ว ดำเนินการโดยบริษัท GVB ทั้งรถไฟใต้ดิน รถราง รถบัส และเรือข้ามฟาก วิธีการเดินทางในอัมสเตอร์ดัม ที่สะดวกที่สุดคือใช้บริการรถรางและรถไฟใต้ดิน (แนะนำให้ลองทั้ง 2 อย่าง) หรือเดินเที่ยว (เพราะที่เที่ยวยอดนิยมส่วนใหญ่อยู่ใกล้กัน) ส่วนการเดินทางไปเมืองใกล้เคียงที่ใช้เวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมงแนะนำให้นั่งรถบัส เช่นเดียวกับการเดินทางไปยังเมืองใหญ่ที่ใช้เวลาเกิน 1 ชั่วโมงนั่งรถไฟจะสะดวกกว่า
17. ใช้บัตรเดินทาง OV-chipkaart
โดยส่วนตัวชอบบัตรนี้มาก OV-chipkaart เป็นบัตรสมาร์ดการ์ดที่ใช้เดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะในอัมสเตอร์ดัมและทั่วเนเธอร์แลนด์ ไม่ว่าจะขึ้นเหนือล่องใต้ในเนเธอร์แลนด์ถ้ามีบัตรนี้มาไว้ในครอบครองแล้วจะทำให้การเที่ยวเป็นเรื่องที่สะดวกมากขึ้น ที่สำคัญช่วยประหยัดเวลาไม่ต้องซื้อตั๋วเที่ยวเดียวบ่อย ๆ
18. บัตร OV-chipkaart ควรใช้แบบไหน?
บัตร OV-chipkaart มี 2 แบบคือ Personal OV-chipkaart บัตรโดยสารประเภทส่วนบุคคล (บัตรสีเหลือง) เหมาะสำหรับพลเมืองชาวดัตช์ หรือผู้ที่อาศัยอยู่ในเนเธอร์แลนด์ระยะยาว มีค่าธรรมเนียม 7.50 ยูโรในการออกบัตร มีอายุการใช้งาน 5 ปี และ Anonymous OV-chipkaart บัตรโดยสารแบบไม่ระบุข้อมูลส่วนบุคคล (บัตรสีฟ้า) เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยว มีค่าธรรมเนียม 7.50 ยูโรในการออกบัตร มีอายุการใช้งาน 4-5 ปี
19. หาซื้อบัตร OV-chipkaart ได้ที่ไหนบ้าง?
นักท่องเที่ยวสามารถหาซื้อบัตร Anonymous OV-chipkaart ได้ที่ตู้สีเหลืองหรือสีน้ำเงินในสถานีรถไฟ เคาน์เตอร์บริการ NS Service ในสถานีรถไฟ ร้านขายหนังสือพิมพ์ ซูเปอร์มาร์เก็ต หรือจุดบริการใกล้เคียง เมื่อได้บัตรมาแล้วก็เติมเงินเข้าไปก่อนถึงจะใช้เดินทางได้ การเดินทางด้วยรถไฟต้องมีเงินในบัตรไม่ต่ำกว่า 20 ยูโร ส่วนการเดินทางด้วยรถบัส รถราง หรือรถไฟใต้ดินต้องมีเงินในบัตรไม่ต่ำกว่า 4 ยูโร
20. เช็คอินและเช็คเอาท์บัตร OV-chipkaart สำคัญมาก
ก่อนเดินทางทุกครั้งอย่าลืมเช็คอินและเช็คเอาท์บัตร OV-chipkaart ไม่เช่นนั้นระบบจะหักเครดิตเต็มจำนวน (20 ยูโรสำหรับรถไฟ และ 4 ยูโรสำหรับการเดินทางรูปแบบอื่น ๆ) เครื่องอ่านการ์ดจะอยู่ที่หน้าประตูทางเข้าชานชลาสำหรับรถไฟและรถไฟใต้ดิน และประตูทางเข้ารถบัสและรถราง
21. ถ้าไม่มีบัตร OV-chipkaart ใช้บัตรโดยสารอะไรได้บ้าง?
นักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้ → ระบบโอวีเพย์ (Ovpay) เพื่อชำระค่าโดยสารผ่านบัตรเดบิตแบบไร้สัมผัส บัตรเครดิต หรือโทรศัพท์มือถือ (แตะที่เครื่องอ่านการ์ดได้เลย) ทำให้ไม่ต้องซื้อตั๋วเดินทางเที่ยวเดียว ไม่ต้องเติมเครดิตขั้นต่ำลงในบัตร หรือสมัครสมาชิกเพื่อใช้งานให้ยุ่งยาก หรือใช้ตั๋วเดินทาง GVB Ticket ตามจำนวนชั่วโมง รายวัน หรือหลายวัน มีข้อดีคือไม่ต้องซื้อตั๋วเที่ยวเดียวบ่อย ๆ และช่วยประหยัดค่าเดินทาง
22. ตั๋วเดินทางของ GVB มีกี่ประเภท?
ตั๋วเดินทางของ GVB มีหลายประเภทด้วยกัน ได้แก่ ตั๋วเดินทางรายชั่วโมง (GVB 1 hour Ticket) ราคา 3.40 ยูโร ตั๋วเดินทางรายวัน (GVB Day ticket) ราคา 9 ยูโร (24 ชั่วโมง) และตั๋วเดินทางหลายวัน (GVB Day Ticket /Multi-Day Tickets) ราคา 9-41 ยูโร (1-7 วัน)
23. ตั๋วเดินทางของ GVB มีแบบกลางคืนไหม?
มีตั๋ว GVB Night bus 1 ride ticket ราคา 5.40 ยูโร (1.5 ชั่วโมง) สำหรับขึ้นรถบัสกลางคืนที่ดำเนินการโดย GVB ได้ไม่จำกัดเที่ยวในอัมสเตอร์ดัม
24. ซื้อตั๋วเดินทางของ GVB ได้ที่ไหน?
เดินทางด้วยรถรางและรถโดยสารประจำทางของ GVB → ซื้อตั๋วได้ที่ตู้จำหน่ายตั๋วหรือเคาน์เตอร์บริการ GVB Service & Tickets ในสถานีรถไฟ หรือซื้อกับพนักงานคนขับรถ หรือเว็บไซต์ของ GVB โดยตรง ส่วนการเดินทางด้วยรถไฟใต้ดิน → สามารถซื้อผ่านตู้จำหน่ายตั๋วหรือเคาน์เตอร์บริการ GVB Service & Tickets ในสถานีรถไฟและสถานีรถไฟใต้ดิน หรือเว็บไซต์ของ GVB โดยตรง เช่นเดียวกับการเดินทางด้วยรถไฟ → สามารถซื้อผ่านตู้จำหน่ายตั๋ว หรือเคาน์เตอร์ NS Tickets & Service shop ในสถานีรถไฟ หรือในเว็บไซต์ของ NS โดยตรง
25. ยังมีบัตรโดยสารแบบพิเศษแบบเหมาจ่ายอะไรอีกบ้าง?
นอกจากบัตร OV-chipkaart ระบบโอวีเพย์ (Ovpay) และตั๋วเดินทางของ GVB ที่กล่าวไปก่อนหน้านี้แล้ว ยังมีบัตรโดยสารแบบพิเศษที่รวมการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะแบบไม่จำกัดเที่ยว และยังสามารถนำไปใช้เข้าชมที่เที่ยวและพิพิธภัณฑ์ฟรี รวมถึงใช้เป็นส่วนลดที่ร่วมการได้อีกด้วย บัตรโดยสารแบบพิเศษที่ได้รับความนิยมในเนเธอร์แลนด์ คือ I Amsterdam City Card, Amsterdam Travel Ticket, Amsterdam & Region Travel Ticket และ Holland Travel Ticket
26. I Amsterdam City Card
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดค่าเดินทางและวางแผนเที่ยวในอัมสเตอร์ดัม 1-3 วัน หรือต้องการเข้าชมพิพิธภัณฑ์มากกว่า 2-3 แห่ง สามารถนำไปขึ้นรถบัส รถราง และรถไฟใต้ดินของ GVB ในอัมสเตอร์ดัมได้ไม่จำกัด บัตรนี้ยังสามารถนำไปเข้าชมเข้าชมพิพิธภัณฑ์และสถานที่ท่องเที่ยวมากกว่า 70 แห่งในอัมสเตอร์ดัมฟรีอีกด้วย บัตรราคา 60 ยูโร (24 ชั่วโมง) 85 ยูโร (48 ชั่วโมง) 100 ยูโร (72 ชั่วโมง) 115 ยูโร (96 ชั่วโมง) และ 125 ยูโร (120 ชั่วโมง) → ซื้อบัตร I Amsterdam City ล่วงหน้าตอนนี้เลย
27. Amsterdam Travel Ticket
เหมาะสำหรับใช้เดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะในอัมสเตอร์ดัมได้แบบไม่จำกัด ทั้งรถราง รถประจำทาง รถบัสกลางคืน รถไฟใต้ดิน และเรือข้ามฟากที่ดำเนินการโดย GVB ที่สำคัญรวมการเดินทางด้วยรถไฟชั้น 2 ระหว่างสนามบินสคิปโฮล และทุกสถานีภายในอัมสเตอร์ดัม รวมถึงรถบัสรับส่งจากสนามบิน (หมายเลข 397 และ N97) บัตรราคา 18 ยูโร (1 วัน) 24 ยูโร (2 วัน) และ 30 ยูโร (3 วัน) → ซื้อบัตร Amsterdam Travel Ticket ล่วงหน้าตอนนี้เลย
28. Amsterdam & Region Travel Ticket
เหมาะสำหรับใช้เดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะในอัมสเตอร์ดัมและภูมิภาคอัมสเตอร์ดัมได้แบบไม่จำกัดเที่ยว ทั้งรถโดยสารประจำทางกลางวัน โดยรถประจำทางกลางคืน รถราง รถไฟใต้ดิน และเรือที่ดำเนินการโดย GVB, EBS และ Connexxion ที่สำคัญรวมการเดินทางด้วยรถไฟชั้น 2 ระหว่างสนามบินสคิปโฮล และทุกสถานีภายในอัมสเตอร์ดัม รวมถึงรถบัสรับส่งจากสนามบิน (หมายเลข 397 และ N97)
บัตร Amsterdam & Region Travel Ticket ยังรวมการเดินทางไปสวนดอกทิวลิปเคอเคนฮอฟ (ช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงกลางเดือนพฤษภาคม) ด้วยรถบัสที่ดำเนินการโดย Arriva และ Connexxion สาย 852, 858, 859 และ 50 และใช้เดินทางไปเที่ยวที่ Volendam, Zaanse Schans, Edam และเมืองฮาร์เลม (Haarlem) ได้อีกด้วย ราคาบัตร 21 ยูโร (1 วัน) 31.50 ยูโร (2 วัน) และ 40.50 ยูโร (3 วัน) → ซื้อบัตร Amsterdam & Region Travel Ticket ล่วงหน้าตอนนี้เลย
29. Holland Travel Ticket
ใช้สำหรับการเดินทางในประเทศเนเธอร์แลนด์แบบไม่จำกัดเที่ยว ด้วยรถไฟชั้น 2 รถไฟใต้ดิน รถโดยสารประจำทางและรถราง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปเที่ยวที่เมือง Groningen, Maastricht, The Hague, Utrecht และ Rotterdam บัตรมี 2 ราคา คือ 48 ยูโร ใช้เดินทางช่วงวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ก่อนเวลา 06:30 น. และจากเวลา 09:00 น. เป็นต้นไป ส่วนวันหยุดสุดสัปดาห์ใช้เดินทางได้ทั้งวัน และบัตรราคา 70 ยูโร ใช้เดินทางได้ทุกวัน → ซื้อบัตร Holland Travel Ticket ล่วงหน้าตอนนี้เลย
30. เดินทางด้วยรถไฟในเนเธอร์แลนด์
การเดินทางด้วยรถไฟสามารถนำนักท่องเที่ยวไปยังเมืองอื่น ๆ ทั่วเนเธอร์แลนด์ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งรถไฟในเนเธอร์แลนด์ดำเนินการโดย NS มีความทันสมัย ตรงต่อเวลา และอัตราค่าโดยสารค่อนข้างต่ำ ให้บริการระหว่างเวลา 05:00-00:30 น. และบริการช่วงกลางคืนซึ่งจะวิ่งหนึ่งครั้งต่อชั่วโมงตลอดทั้งคืน รถไฟกลางคืน (Night train) ขบวนแรกเริ่มวิ่งหลังจากขบวนสุดท้ายของวันออกไปจนถึงรถไฟขบวนแรกในตอนเช้า ในพื้นที่ Randstad รถไฟกลางคืนวิ่งทุกคืน ส่วนภูมิภาคอื่น ๆ จะวิ่งเฉพาะในช่วงวันเสาร์อาทิตย์เท่านั้น
31. รถไฟ NS มีกี่ประเภท?
รถไฟ NS ที่ให้บริการในเนเธอร์แลนด์ มี 2 ประเภท คือ รถไฟวิ่งในระยะสั้น (Sprinter) ให้บริการรับส่งผู้โดยสารบนเส้นทางท้องถิ่นและจอดทุกสถานีตามเส้นทางบริการ การเดินทางใช้เวลาเฉลี่ยประมาณ 15 นาทีบนรถไฟประเภทนี้ รถไฟ Sprinter จำได้ง่ายด้วยสีฟ้าและสีขาว และรถไฟวิ่งในระยะกลางและทางไกล (Intercity) ให้บริการรับส่งผู้โดยสารระหว่างเมืองใหญ่และจอดที่สถานีขนาดใหญ่หรือขนาดกลางเท่านั้น รถไฟ Intercity จำได้ง่ายด้วยสีฟ้าและสีเหลือง
32. หลีกเลี่ยงชั่วโมงเวลาเร่งด่วนของรถไฟ
ชั่วโมงเวลาเร่งด่วนของรถไฟในเนเธอร์แลนด์ คือ ระหว่างเวลา 06:30-09:00 น. และ 16:00-18.30 น. เป็นช่วงที่มีผู้โดยสารหนาแน่น เนื่องจากผู้คนส่วนใหญ่ต้องไปเรียนหรือทำงานและกลับบ้านในช่วงเวลาดังกล่าว ถ้าเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเวลาเหล่านี้
33. บางทีรถไฟก็มาช้า
ระบบขนส่งสาธารณะที่เนเธอร์แลนด์ตรงต่อเวลาก็จริง แต่ในบางครั้งก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้รถไฟมาถึงช้าหรือออกไม่ตรงเวลาไปบ้าง เช่น การซ่อมถนน การเปลี่ยนเส้นทาง การประท้วง ฯลฯ อย่าลืมตรวจสอบการเดินทางทุกครั้งก่อนจองตั๋วรถไฟผ่านเว็บไซต์ทางการของ NS, 9292 และ GVB เพราะถ้ามีสาเหตุที่ทำให้รถไฟต้องล่าช้าจะมีการประกาศล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์ทางการ แอปพลิเคชัน หรือเครื่องเสียงในสถานี
34. ค่ารถไฟ NS แพงไหม?
ราคาค่าโดยสารรถไฟ NS โดยปกติคำนวณจากจำนวนกิโลเมตรที่เดินทางและประเภทตั๋วโดยสาร การเดินทางที่ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง ราคาตั๋วรถไฟอยู่ที่ประมาณ 12-15 ยูโร ส่วนการเดินทางใช้เวลา 1 ชั่วโมงขึ้นไปราคาตั๋วรถไฟอยู่ระหว่าง 20-30 ยูโร
ยกตัวอย่าง เช่น การเดินทางด้วยรถไฟชั้น 2 จากสถานี Amsterdam Centraal ไปยังสถานี Den Haag Centraal ค่าโดยสาร 13.60 ยูโร (51 นาที) หรือการเดินทางจากอัมสเตอร์ดัมลงใต้ไปยังเมือง Maastricht ค่าโดยสาร 29.95 ยูโร มีระยะทางที่ไกลกว่า และใช้เวลาประมาณ 2.25 ชั่วโมง
35. ใช้ตั๋วรถไฟแบบเหมาจ่ายรายวันและตั๋วตามฤดูกาลช่วยประหยัดค่าเดินทาง
อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ว่าตั๋วรถไฟในเนเธอร์แลนด์ค่อนข้างแพง ถ้าวางแผนเที่ยวแบบเดย์ทริปด้วยรถไฟเป็นส่วนใหญ่ แนะนำให้ซื้อตั๋วแบบรายวัน (NS Dagkaart) หรือตั๋วตามฤดูกาลจะถูกกว่าตั๋วแบบเที่ยวเดียว ซึ่งตั๋วแบบนี้มักใช้นอกช่วงเวลาเร่งด่วน (ก่อนเวลา 06:30-09:00 น. และหลังเวลา 16:00-18.30 น.) หรือเดินทางฟรีในวันหยุดสุดสัปดาห์ตามประเภทของตั๋ว
วิธีดูว่าแบบไหนคุ้มกว่ากันระหว่างตั๋วแบบเที่ยวเดียวหรือตั๋วแบบรายวัน แนะนำให้ใช้แอปพลิเคชัน 9292 วางแผนการเดินทางด้วยการระบุเส้นทางเริ่มต้นและเส้นทางปลายทาง ระบบจะคำนวณค่าโดยสารมาให้เรียบร้อย หลังจากนั้นเราก็เข้าไปที่เว็บไซต์ NS หน้าตั๋วรายวัน จากนั้นทำแบบเดิมใส่จุดหมายเริ่มต้นและจุดหมายปลายทาง กดคำนวณค่าโดยสาร ถ้าตั๋วแบบเที่ยวเดียวถูกกว่าแบบเหมาจ่ายแนะนำให้ซื้อแบบเที่ยวเดียว แต่ถ้าแบบเหมาจ่ายถูกกว่าก็ซื้อแบบนี้ ซึ่งส่วนใหญ่ตั๋วแบบเหมาจ่ายจะถูกกว่า
36. เดินทางระหว่างประเทศด้วยรถไฟความเร็วสูง
นอกจากการเดินทางด้วยรถไฟในเนเธอร์แลนด์แล้ว ยังมีบริการรถไฟความเร็วสูงระหว่างประเทศ NS International เพื่ออำนวยความสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปเที่ยวประเทศใกล้เคียง เช่น เบลเยียม ฝรั่งเศส เยอรมัน สเปน และอังกฤษ ฯลฯ ด้วยรถไฟ Eurostar, Intercity Brussels, ICE International และ TGV ตั๋วโดยสารมีให้เลือกหลายแบบ และมักมีราคาถูกเมื่อจองล่วงหน้า 2-3 เดือน → ดูข้อเสนอตั๋วเดินทางด้วยรถไฟระหว่างประเทศราคาดีที่สุดตอนนี้เลย
37. จักรยานมีอยู่ทุกที่
นอกจากระบบขนส่งสาธารณะที่เป็นเลิศแล้ว อัมสเตอร์ดัมยังเป็นเมืองที่เป็นมิตรกับจักรยาน ผู้คนส่วนใหญ่นิยมใช้จักรยานในการเดินทาง ทำให้เราเห็นจักรยานจอดอยู่ทุกที่ทั่วเมือง ที่นี่ยังมีเส้นทางสำหรับจักรยานโดยเฉพาะ รวมไปถึงเส้นทางจักรยานที่ใช้ร่วมกันกับรถยนต์ ดังนั้นควรระมัดระวังเป็นพิเศษเมื่อต้องเดินข้ามถนน
38. ไม่เดินบนเส้นทางจักรยาน
ที่อัมสเตอร์ดัมนอกจากจะมีการใช้จักรยานเยอะมากแล้ว คนในพื้นที่ก็ยังปั่นจักรยานเร็วอีกด้วย นักท่องเที่ยวอาจจะยังไม่ชินกับความเร็วนั่น (แต่นั้นอาจจะเป็นปกติของเขา) ดังนั้นเวลาเดินไปไหนมาไหนอย่าเดินบนเส้นทางจักรยานเพราะอันตรายมาก หากถูกเฉี่ยวชนมาอาจจะไม่คุมกับค่ารักษาพยาบาล ก่อนข้ามถนนทุกครั้งอย่าลืมมองซ้ายมองขวา 2 รอบเพื่อความแน่ใจว่าปลอดภัย
39. เช่าจักรยานปั่นเที่ยวอัมสเตอร์ดัม
นักท่องเที่ยวสามารถเช่าจักรยานปั่นไปยังสถานที่ท่องเที่ยวในตัวเมืองได้อย่างสะดวก ราคาเริ่มต้นที่ 3-5 ยูโร (1 ชม.) รายวันราคา 10-15 ยูโร (สำหรับจักรยานธรรมดา) และ 17-27ยูโร (สำหรับจักรยานไฟฟ้า) ร้านเช่าจักรยานมีอยู่เกือบทุกที่ทั่วเมือง เช่น ใกล้กับสถานีรถไฟ Amsterdam Centraal มีร้านเช่าจักรยานชื่อว่า MacBike Amsterdam ทั้งแบบรายชั่วโมงและรายวัน และอาจต้องใช้พาสปอร์ตหรือบัตรประชาชนรวมไปถึงค่ามัดจำเพื่อเช่าจักรยาน (มีตัวเลือกซื้อประกันแยกต่างหากตอนจองจักรยาน) นอกจากนี้ยังสามารถเช่าจักรยานในย่านต่าง ๆ เช่น Dam Square, Waterlooplein, Leidseplein, De pijp รวมไปถึงสวนสาธารณะ Vondelpark
40. ห้ามลืมล็อคจักรยานอย่างเด็ดขาด
ว่ากันว่าสิ่งของที่ถูกขโมยบ่อยครั้งในอัมสเตอร์ดัมไม่ใช่เงินทองแต่เป็นรถจักรยาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่สถานีรถไฟเพราะมีจำนวนจักรยานที่หนาแน่น ดังนั้นเวลาที่ต้องการจอดรถจักรยานอย่าลืมล็อคอย่างเด็ดขาด โดยใช้โซ่เหล็กที่แข็งแรงคล้องกับตัวจักรยานกับชั้นวางจักรยาน ถ้าเป็นจักรยานรุ่นที่มีกุญแจล็อคในตัวให้ล็อคตัวนี้ก่อนแล้วคล้องโซ่อีกทีเพื่อความมั่นใจ อย่าลืมถ่ายรูปหรือจำว่าเราจอดจักรยานไว้ตรงไหนด้วยนะคะ เพราะเวลามาอยู่รวมกันเยอะ ๆ แล้วมันดูคล้ายกันไปหมด
41. ปั่นจักรยานแบบคนในท้องถิ่น
เมื่อเช่าจักรยานมาแล้วควรใช้อย่างระมัดระวัง เส้นทางจักรยานใช้เลนขวามือและปั่นชิดขวาให้มากที่สุด เมื่อต้องการเลี้ยวให้ส่งสัญญาณมือว่าต้องการเลี้ยวไปทางไหนก่อนถึงทางเลี้ยว และปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด เช่น หยุดหรือไปเมื่อเห็นสัญญาณไฟจราจร หากมีคนเดินกีดขวางทางจักรยานสามารถกดกริ่งเตือนเพื่อความปลอดภัย การปั่นจักรยานในตอนกลางคืนควรติดไฟหน้ารถ ท้ายรถ และบริเวณที่ปั่นเพื่อง่ายต่อการสังเกตเห็น นอกจากนี้ควรระมัดระวังรถสกู๊ตเตอร์ขนาดเล็กที่ใช้งานร่วมกันบนเส้นทางจักรยาน
เรื่องน่ารู้ก่อนไปเที่ยวอัมสเตอร์ดัม: ที่เที่ยวน่าสนใจ
42. อยากเห็นลำคลองสวย ๆ ต้องไปเดินย่านยอร์ดาน
ยอร์ดานเป็นย่านเพื่อนบ้านอยู่ห่างจากจัตุรัสดัมสแควร์เพียงแค่ 15 นาที มีชื่อเสียงในเรื่องบ้านที่มีรูปลักษณ์สวยงาม ร้านอาหารบรรยากาศดี และร้านค้าดั้งเดิม รวมถึงถนนและลำคลองสายเล็ก ๆ ยอดนิยม ได้แก่ ถนน Prinsengracht, Westerstraat, Haarlemmerstraat และถนนเก้าสาย ถ้าเดินผ่านถนน Prinsengracht สามารถมองเห็นโบสถ์ Westerkerk ซึ่งเป็นที่ฝั่งศพของแร็มบรันต์ รวมถึงพิพิธภัณฑ์บ้านแอนน์แฟรงค์อีกด้วย
43. เยือนคลองสี่สายในกรุงอัมสเตอร์ดัม
Amsterdam Canal Belt เป็นลำคลองสี่สายที่สวยงามอัมสเตอร์ดัม ได้แก่ Singel, Herengracht, Keizersgracht และ Prinsengracht รู้จักกันดีในภาษาดัตช์ว่า “Grachtengordel” และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเดินชมความงดงามของบ้านเรือน รวมถึงสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่มีสถาปัตยกรรมสะท้อนความเป็นอัมสเตอร์ดัมได้อย่างลงตัว
44. แวะไปถ่ายภาพกับสะพาน Skinny Bridge
Skinny Bridge หรือในภาษาดัตช์เรียกว่า Magere Brug เป็นสะพานที่มีรูปทรงแปลกตา ตั้งอยู่ระหว่างถนน Keizersgracht และ Prinsengracht ใช้สำหรับเป็นเส้นทางเดินเท้าและเส้นทางจักรยานข้ามแม่น้ำ Amstel ตัวสะพานทาด้วยสีขาว ส่วนใต้สะพานมีความกว้างเพียงพอที่เรือนำเที่ยวสามารถลอดผ่านไปได้ ตอนกลางคืนที่นี่จะสวยงามเป็นพิเศษด้วยไฟประดับมากถึง 1,200 ดวง สะพานนี้ยังปรากฎอยู่ในภาพยนตร์เจมส์บอนด์ “Diamonds Are Forever” ในปี 1971 อีกด้วย นักท่องเที่ยวสามารถเดินไปถ่ายภาพกับสะพานนี้ได้ภายใน 13 นาทีจากตลาดดอกไม้บลูเมนมาร์ค
45. อย่าพลาดล่องเรือในคลองอัมสเตอร์ดัม
การล่องเรือเที่ยวในคลองอัมสเตอร์ดัม เป็นกิจกรรมห้ามพลาด มีบริการเรือล่องอยู่หลายแบบ แบบที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวคือ City Canal Cruise เหมาะสำหรับคนที่มีเวลาประมาณ 1-2 ชม. เรือที่ใช้เป็นเรือขนาดใหญ่แบบดั้งเดิมมีหลังคากระจกพร้อมที่นั่งรองรับผู้โดยสารได้มากถึง 40-50 คน การล่องเรือแบบนี้ส่วนใหญ่ใช้เวลาประมาณ 1-1.5 ชม. ไกด์บรรยายเป็นภาษาอังกฤษเวลาผ่านสถานที่สำคัญต่าง ๆ ราคาอยู่ที่ระหว่าง 12-23 ยูโรมักรวมเครื่องออดิโอเสียงขนาดเล็กที่รองรับภาษาต่าง ๆ และภาษาไทย ถ้าถือบัตร I Amsterdam City Card สามารถใช้ล่องเรือได้ฟรี 1 ชม.
46. ชมพระราชวังหลวงอัมสเตอร์ดัม
พระราชวังหลวงอัมสเตอร์ดัม เป็นหนึ่งในสามพระราชวังในประเทศเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่ในย่านจัตุรัสดัมสแควร์ ในอดีตเคยเป็นศาลากลางในศตวรรษที่ 17 กว่า 150 ปี และต่อมากลายเป็นราชสำนักดัตช์ ปัจจุบันโดยส่วนมากใช้เป็นสถานที่ต้อนรับแขกของราชวังดัตช์และงานเลี้ยงรับรอง และยังเปิดให้ผู้คนทั่วไปเข้าชมเมื่อไม่ได้ใช้งานอย่างเป็นทางการ เนื่องจากพระราชวังมีพื้นที่ค่อนข้างใหญ่ แนะนำให้เผื่อเวลาเข้าชมไว้ประมาณ 1-2 ชั่วโมง เปิดวันอังคารถึงวันเสาร์ เวลา 10:00-17:00 น. ราคาตั๋วเข้าชม 12.50 ยูโร → จองตั๋วออนไลน์ล่วงหน้าตอนนี้เลย
47. ชมจัตุรัสเก่าแก่ (Begijnhof)
Begijnhof ซ่อนตัวอยู่ใจกลางเมืองอัมสเตอร์ดัมภายใต้บรรยากาศที่เงียบสงบ ด้านในเป็นจัตุรัสไม้สีเขียวล้อมรอบด้วยบ้านทรงหน้าจั่วที่สวยงาม ซึ่งก่อตั้งขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 14 โดยมีรากฐานมาจากโบสถ์คาทอลิกในสมัยนั้น ที่แห่งนี้จึงเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่น่ามาเยี่ยมชมสักครั้ง นักท่องเที่ยวสามารถเดินจากย่านจัตุรัสดัมสแควร์เพียง 5 นาที จากนั้นเลี้ยวเข้าสู่ถนน Begijnensteeg จะพบกับทางเข้า เนื่องจากสถานที่แห่งนี้เป็นพื้นที่อาศัยส่วนบุคคลของผู้คนในพื้นที่ ไม่ควรส่งเสียงดังขณะเข้าชม
48. ทัวร์โรงเบียร์ไฮเนเก้น
โรงเบียร์ไฮเนเก้น เป็นทัวร์แบบอินเทอร์แอคทีฟของเบียร์ยี่ห้อดังระดับโลก ตั้งอยู่ในโรงเบียร์เก่าแก่ที่สุดใจกลางกรุงอัมสเตอร์ดัม ทำหน้าที่บอกเล่าประวัติศาสตร์ของเบียร์ไฮเนเก้น กระบวนการผลิตเบียร์ ที่จะพาผู้เข้าชมไปสัมผัสประสบการณ์ของแบรนด์แบบเต็มอิ่ม พร้อมลิ้มสรสชาติเบียร์สดในตอนท้ายฟรี ปัจจุบันโรงเบียร์ไฮเนเก้นเป็นหนึ่งในสถานที่เที่ยวยอดนิยมของอัมสเตอร์ดัม และการมาเที่ยวอัมสเตอร์ดัมจะครบสมบูรณ์ไม่ได้ ถ้าขาดทัวร์โรงเบียร์ไฮเนเก้นนี้ไป เปิดทำการทุกวัน เวลา 10:30-19:30 น. วันศุกร์และวันเสาร์เปิดเวลา 10:30-21:00 น. ราคาตั๋วเข้าชม 23 ยูโร → อย่าลืมจองตั๋วล่วงหน้าก่อนเข้าชม
49. ทัวร์สนามฟุตบอลโยฮัน ไกรฟฟ์อาเรนา
สนามฟุตบอลโยฮัน ไกรฟฟ์อาเรนา ตั้งอยู่ที่ย่าน Zuidoost ห่างจากตัวเมืองอัมสเตอร์ดัมประมาณ 20 นาที ความน่าสนใจของที่นี่นอกจากจะเป็นสนามเหย้าของสโมสรทีมฟุตบอลชื่อดังอย่างอาเอฟเซ อาแจ็กซ์ (AFC Ajax) อัมสเตอร์ดัมแล้ว ยังเป็นสนามกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเนเธอร์แลนด์ ชื่อของสนามฟุตบอลโยฮัน ไกรฟฟ์อาเรนา ได้ถูกนำมาใช้อย่างเป็นทางการในปี 2018 เพื่อเป็นเกียรติแก่ให้กับโยฮัน ไกรฟฟ์ ตำนานนักเตะผู้ยิ่งใหญ่ของสโมสร ถ้าไปเที่ยวที่นี่ไม่เพียงแต่จะสัมผัสประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นของโลกแห่งฟุตบอล แต่ยังจะแต่ยังจะได้เรียนรู้เรื่องราวของนักเตะในตำนานคนนี้ด้วย เปิดทำการทุกวัน เวลา 09:30-16:30 น. ราคาตั๋วเข้าชม 20 ยูโร
50. เที่ยวอัมสเตอร์ดัมเข้าชมพิพิธภัณฑ์ไหนดี?
นอกจากบ้านเรือนและลำคลองที่สวยงามแล้ว อัมสเตอร์ดัมยังขึ้นชื่อในเรื่องของศิลปวัฒนธรรม มีพิพิธภัณฑ์มากกว่า 70 แห่งตั้งอยู่รอบ ๆ ตัวเมืองอัมสเตอร์ดัม สามารถเลือกเข้าชมได้ตามความสนใจ รายชื่อพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงในอัมสเตอร์ดัมเหล่านี้ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวเลือกเข้าชมเป็นหลัก คือ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติอัมสเตอร์ดัม (Rijksmuseum) พิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะห์ (Van Gogh Museum) พิพิธภัณฑ์แอนน์แฟรงค์ (Anne Frank Huis) พิพิธภัณฑ์บ้านแร็มบรันต์ (Rembrandt House Museum)
นักท่องเที่ยวอาจเลือกเข้าชมพิพิธภัณฑ์หลักก่อน หากมีเวลาเหลือค่อยเลือกเข้าชมพิพิธภัณฑ์เหล่านี้ภายหลัง เช่น พิพิธภัณฑ์อัมสเตอร์ดัม, Moco Museum, Stedelijk Museum, Fabrique des Lumières, Streetart Museum (STRAAT), Museum Van Loon, Het Scheepvaartmuseum, Tropenmuseum, Verzetsmuseum, Hermitage Amsterdam, NEMO Science Museum, Eye Film Museum หรือ Body Worlds Amsterdam
51. เข้าพิพิธภัณฑ์ไปแต่เช้า จองตั๋วล่วงหน้ามาพร้อม
พิพิธภัณฑ์ส่วนใหญ่เปิดทุกวันระหว่างเวลา 09:00-17:00 น. แนะนำให้ไปแต่เช้าเวลา 09:00-11:00 น. ช่วยหลีกเลี่ยงผู้เข้าชมที่แออัด ราคาตั๋วเข้าชมเฉลี่ย 15-25 ยูโร แนะนำให้จองตั๋วออนไลน์ล่วงหน้า (จะปริ้นอีเมล์ยืนยันหรือโชว์อีเมล์จากมือถือก็ได้) พิพิธภัณฑ์ส่วนใหญ่มีเครื่องเสียงออดิโอรองรับภาษาอังกฤษ สามารถขอได้ที่เคาน์เตอร์เพื่อฟังคำอธิบายตามจุดต่าง ๆ จะทำให้เข้าใจรายละเอียดมากขึ้น
52. ใช้บัตร I Amsterdam City Card เข้าชมพิพิธภัณฑ์
หากเลือกเข้าชมพิพิธภัณฑ์มากกว่าสองแห่งขึ้นไปแนะนำให้ใช้บัตร I Amsterdam City Card (ราคา 60 ยูโร) ใช้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ได้ฟรีในอัมสเตอร์ดัม หลายคนอาจจะคิดว่าค่าบัตรแพง แต่ค่าลองคำนวณค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ 2-3 แห่ง เช่น พิพิธภัณฑ์แห่งชาติอัมสเตอร์ดัม 22.50 ยูโร พิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะห์ 22 ยูโร พิพิธภัณฑ์แอนน์แฟรงค์ 16 ยูโร และพิพิธภัณฑ์บ้านแร็มบรันต์ 19.50 ยูโร ถ้าเข้าชมทั้งหมดนี้ราคา 80 ยูโรแล้ว บัตรนี้ถ้าซื้อแล้วยังใช้สำหรับการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะในอัมสเตอร์ดัมได้แบบไม่จำกัดเที่ยวอีกด้วย
ส่วนใครที่อาศัยอยู่ในประเทศเนเธอร์แลนด์แนะนำให้ใช้บัตร Museumkaart มีอายุการใช้งาน 1 ปี ราคาบัตรอยู่ที่ 75 ยูโร ใช้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ได้มากถึง 400 แห่งทั่วเนเธอร์แลนด์และกว่า 70 แห่งทั่วอัมสเตอร์ดัม
53. ปิคนิคที่สวนสาธารณะในอัมสเตอร์ดัม
เที่ยวอัมสเตอร์ดัมไม่ใช่ว่าจะมีแต่กิจกรรมที่ใช้เงินอย่างเดียว ยังมีกิจกรรมอีกหลายอย่างที่สามารถทำได้ฟรี เช่น ไปปิคนิคที่สวนสาธารณะ ในอัมสเตอร์ดัมมีสวนสาธารณะที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง เช่น ‘Vondelpark’ เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่รู้จักกันดีในอัมสเตอร์ดัม ภายในมีบรรยากาศร่มรื่นเหมาะสำหรับการพักผ่อนหรือใช้เวลาในวันหยุดสบาย ๆ ด้านหน้าทางเข้ามีที่สำหรับจอดรถจักรยาน ส่วนด้านในก็มีห้องน้ำให้บริการฟรี นอกจากนี้ยังมีสวนสาธารณะอื่น ๆ ที่เราสามารถแวะไปได้ เช่น Westerpark, Amstelpark, Sarphaartipark, Hortus Botanicus, Beatrixpark, Amsterdamse Bos, Rembrandtpark, Park Frankendael, Beatrixpark, Erasmuspark ฯลฯ
54. แวะไปเที่ยวย่านอัมสเตอร์ดัมตอนเหนือ
ถ้ามีเวลาสัก 1-2 ชม. และกำลังมองหากิจกรรมยามว่าง ลองแวะไปเที่ยวที่ย่านอัมสเตอร์ดัมตอนเหนือ ซึ่งรวมกิจกรรมน่าสนใจและร้านอาหารน่าทานไว้หลายแห่ง โดยสามารถนั่งเรือข้ามฟากฟรี 2 สายจากท่าเรือริมแม่น้ำ IJ (ใกล้กับสถานีรถไฟอัมสเตอร์ดัม) คือ สาย F2 ไปยัง → จุดชมวิวอดัมและนั่งชิงช้าที่สูงที่สุดในยุโรป (A’DAM Lookout) ใกล้ ๆ กันจะเป็นที่ตั้งของแหล่งท่องเที่ยวจำลอง 5 มิติพร้อมเอฟเฟกต์เต็มรูปแบบ (This is Holland) และพิพิธภัณฑ์ร่วมสมัยสำหรับชมคอลเลกชันภาพยนตร์เนเธอร์แลนด์และนานาชาติ (Eye Film Museum)
ถ้ายังไม่จุดใจจะมีเรือข้ามฟากสาย F4 ไปยัง → ศูนย์วัฒนธรรมขนาดใหญ่ (NDSM) ซึ่งเป็นแหล่งรวมสตรีทอาร์ตกลางแจ้ง และพิพิธภัณฑ์ STRAAT Museum สำหรับชมนิทรรศศิลปะและกราฟฟิตี้ขนาดใหญ่ในอู่ต่อเรือเก่า ใกล้ๆ พิพิธภัณฑ์มีร้านอาหารบรรยากาศดีชื่อว่า IJver Amsterdam และ Loetje Amsterdam aan ’t IJ ย่านนี้ยังเป็นที่ตั้งของตลาดขายสินค้ามือสองที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปอีกด้วย ส่วนใครที่มาพร้อมจักรยานก็สามารถนำขึ้นเรือข้ามฟากได้ฟรี หรือจะปั่นต่อไปยังเส้นทางธรรมชาติย่านตอนเหนือก็ได้เช่นกัน
เรื่องน่ารู้ก่อนไปเที่ยวอัมสเตอร์ดัม: อาหารการกิน
55. ราคาอาหารโดยเฉลี่ยต่อมื้อประมาณ 15-30 ยูโร
ถ้าวางแผนทานอาหารในอัมสเตอร์ดัมจะพบกับราคาโดยเฉลี่ยต่อมื้อประมาณ 15-30 ยูโร (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว) เมนูในร้านอาหารส่วนมากเป็นแบบสไตล์ยุโรป ยกเว้นร้านอาหารเอเชียอื่น ๆ พนักงานในร้านอาหารส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักเรียนนักศึกษาและสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี การจ่ายเงินค่าอาหารนิยมจ่ายด้วยบัตรเดบิต เงินสด หรือบัตรเครดิต
56. ควรให้ทิปประมาณ 5–10 เปอร์เซ็นต์
การให้ทิปไม่ได้เป็นเรื่องบังคับ ถ้าอาหารอร่อยการบริการดีและต้องการให้ทิปควรเพิ่มอีก 5-10 เปอร์เซ็นต์ (จ่ายทิปแบบเป็นเงินสดหรือเหรียญแทนที่จะชาร์จบนบัตรของเรา เพราะบางครั้งทิปนั้นอาจจะไม่ไปถึงพนักงาน แต่ถ้าร้านที่ดีหน่อยก็จะเฉลี่ยไปให้พนักงาน)
57. น้ำปะปาดื่มได้
น้ำประปาในอัมสเตอร์ดัมคุณภาพดีและดื่มได้ มีก๊อกน้ำดื่มฟรีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ คือ น้ำพุ ส่วนใหญ่ทาด้วยสีเขียว มีปุ่มกดสำหรับดื่มน้ำโดยตรงหรือเติมน้ำในขวด และสถานีเติมน้ำขวดหรือก๊อกน้ำ มักมีคำว่า Drinking Water และโลโก้ของบริษัทน้ำหรือองค์กรต่าง ๆ มีปุ่มกดสำหรับดื่มน้ำโดยตรงหรือเติมน้ำในขวด ก๊อกน้ำฟรีเหล่านั้นติดตั้งอยู่ตามสวนสาธารณะ พิพิธภัณฑ์ และสถานที่ใกล้เคียง เช่น บาร์ ร้านอาหาร โรงแรม ร้านค้า มากกว่า 500 ก๊อกและง่ายต่อการมองเห็น สามารถใช้ได้ตลอด 24 ชม. เรายังสามารถดาวน์โหลดแอปพลิชัน Refill เพื่อค้นหาสถานีเติมน้ำดื่มในอัมสเตอร์ดัมได้อีกด้วย
58. อาหารเช้าแบบประหยัด
เริ่มต้นด้วยเมนูอาหารเช้าแนะนำให้ไปลองชิมแพนเค้กดัตช์ (Pannenkoek) อาหารขึ้นชื่อของอัมสเตอร์ดัม (และเนเธอร์แลนด์) ราคาเริ่มต้น 8-15 ยูโร แพนเค้กที่ว่าไม่ได้มีรับประทานไว้เป็นของหวาน แต่ทานแบบเป็นอาหารมื้อเลย รูปร่างของแพนเค้กมีขนาดใหญ่คล้ายกับเครปญี่ปุ่นบ้านเรา นิยมเสิร์ฟร้อน ๆ พร้อมทอปปิ้ง ถ้าอยากทานแพนเค้กตามแบบฉบับดัตช์แนะนำเป็นเมนูเบคอนและแอปเปิ้ล เบคอนกับชีส หรือแฮมกับชีส ส่วนใครที่ชอบทานแบบหวาน ๆ ต้องลองเมนูที่มาพร้อมไอศกรีม ผลไม้และวิปครีม
ร้านแพนเค้กที่มีชื่อเสียงสำหรับนักท่องเที่ยว ได้แก่ The Pancake Bakery (ย่านยอร์ดาน) PANCAKES Amsterdam Westermarkt (ถัดจากพิพิธภัณฑ์แอนน์แฟรงค์) และร้าน Pancakes Amsterdam (ติดกับลำคลอง Damrak Waterfront)
59. ร้านค้าปลีก HEMA ก็มีอาหารเช้าแบบประหยัด
อาหารเช้าถ้าไม่อยากจ่ายแพงลองแวะไปที่ร้านค้าปลีก HEMA มีคาเฟ่ขนาดเล็กจำหน่ายแซนด์วิช ขนมและเครื่องดื่มในราคาประหยัด โดยส่วนตัวเคยซื้อแซนด์วิซและกาแฟทานระหว่างวันที่นี่ ราคารวมประมาณ 7 ยูโร ถือเป็นตัวเลือกอาหารเช้าที่ดีในราคาประหยัด
60. ซูเปอร์มาร์เก็ตดัตช์อาหารไม่แพง
ในซูเปอร์มาร์เก็ตดัตช์ทั่วไปก็มีอาหารกล่องสำเร็จรูปจำหน่าย ราคาเริ่มต้นประมาณ 5 ยูโร เป็นเมนูง่าย ๆ เช่น สลัดผัก Pokè Bowl พาสต้า ตามสาขาใหญ่ ๆ หน่อยจะมีบาร์ขนาดเล็กที่ขายพิซซ่าทำสดจากเตา ซูชิกล่อง รวมไปถึงเมนูอื่น ๆ เหมาะสำหรับคนที่อยากประหยัดเวลาและทานอาหารในราคาไม่แพง
61. ซูเปอร์มาร์เก็ตขายสินค้านำเข้าจากเอเชีย
นอกจากซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไปแล้ว ยังมีซูเปอร์มาร์เก็ตขายสินค้านำเข้าจากเอเชียตั้งอยู่ตามตัวเมืองใหญ่ ๆ และมีชื่อเรียกเฉพาะ เจ้าที่มีชื่อเสียงคือ The Amazing Oriental Supermarket มีสาขากระจายอยู่มากถึง 20 แห่งทั่วประเทศ (รวมถึงอัมสเตอร์ดัม) ตามภูมิภาคอาจจะพบซูเปอร์มาร์เก็ตอื่น ๆ เช่น Wah Nam Hong supermarkt รวมไปถึงร้านขายของชำเอเชียขนาดเล็กที่รู้จักกันดีในชื่อ Toko ที่นั่นยังมีอาหารร้อนแบบทำใหม่ ๆ ให้ได้เลือกซื้อทานหรือหิ้วกลับบ้านได้อีกด้วย ถ้าแวะไปร้าน Toko ย่าน China Town ในอัมสเตอร์ดัมอย่าลืมลองทานไอศกรีมโมจินะคะ ก้อนละ 1-2 ยูโร มีหลายรสชาติ ที่สำคัญอร่อยมาก!
62. ลองทานขนมดัตช์สุดอร่อย
ถ้าค้นหาอาหารดัตช์อาจจะพบว่ามีขนมเป็นส่วนใหญ่ นั้นเป็นเพราะว่ามันอร่อยและกลายมาเป็นของที่ต้องทานเมื่อมาเยือนที่นี่ แนะนำให้ลองขนมดัตช์ชื่อดัง เช่น Stroopwafel, Haring Fish, Poffertjes, Bitterballen, Kroket, Kibbeling, Drop, Patat ฯลฯ หาซื้อได้ง่ายตามซูเปอร์มาร์เก็ต แผงขายขนมขนาดเล็ก แผงขายอาหารทะเล รวมไปถึงตลาดนัดและบาร์ขายอาหารว่าง (Febo Snackbar) ที่มีตู้กระจกขนาดเล็กใช้เหรียญหยอด
63. อาหารซูรินามก็อร่อยไม่แพ้กัน
หลายคนอาจจะเคยได้ยินมาก่อนว่าประเทศซูรินามเคยเป็นอดีตอาณานิคมของเนเธอร์แลนด์ ชาวซูรินามบางส่วนอพยพมาอยู่ที่เนเธอร์แลนด์จนถึงปัจจุบัน อาหารซูรินามจึงเป็นหนึ่งในอาหารที่มีชื่อเสียงในเนเธอร์แลนด์ มีรสชาติจัดจ้านเผ็ดร้อน เกิดจากการผสมผสานระหว่างอาหารนานาชาติหลายประเทศ ที่สำคัญราคาไม่แพง
เมนูอาหารซูรินามที่อยากให้ลองคือ “Broodje hete kip” แซนวิชไส้ไก่รสชาติเผ็ด ราคาประมาณ 3-4 ยูโร ชิ้นใหญ่มาก ข้างในมีไก่ที่ผสมน้ำพริก Sambal oelek เสิร์ฟพร้อมแตงกวาดอง พอทานแล้วอร่อยเข้ากันดีมาก นอกจากนี้ยังมีเมนูอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น โรตี (Roti) ข้าวผัด (Nasi goreng) ผัดหมี่ (Mie goreng) สะเต๊ะ (Saté) ซุปไก่สมุนไพร (Saoto Soup) ผัดหมี่ชวา (Javaanse Bami) ฯลฯ
ร้านอาหารซูรินาม (อินโดนีเซีย) ที่ซื้อแซนวิชไก่ประจำแล้วอร่อยมาก คือ ร้าน Kamyin มีสาขาในอัมสเตอร์ดัมใกล้กับท่าเรือดัมรัค ใครที่สนใจลองไปตามกันต่อได้ หรือจะค้นหาร้านอาหารซูรินามเพิ่มเติมมีขายอยู่เกือบทุกหัวมุมในอัมสเตอร์ดัม
64. แวะไปย่านฮิป De Pijp
De Pijp เป็นย่านของผู้คนสมัยใหม่ (คล้ายกับสยามบ้านเรา) อยู่ห่างจาก Museumplein เพียง 13 นาที สามารถนั่งรถรางสาย 12 จากป้าย Concertgebouw มาลงที่ป้าย De Pijp ที่นี่รวมร้านอาหารสมัยใหม่ ผับและคาเฟ่แบบดั้งเดิม รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของอัมสเตอร์ดัม เช่น ตลาด Albert Cuyp Market, โรงเบียร์ไฮเนเก้น (Heineken Experience) และสวนสาธารณะ Sarphati Park และยังตั้งอยู่ใน Oud-Zuid ซึ่งเป็นหนึ่งในย่านที่มั่งคั่งที่สุดของอัมสเตอร์ดัม ถ้าตัดสินใจแวะมาเที่ยวที่นี่จะพบกับบรรยากาศการใช้ชีวิตที่แตกต่างจากในตัวเมืองมากทีเดียว
65. เดินตลาดดัตช์ Albert Cuyp Market
Albert Cuyp Market เป็นตลาดที่มีชื่อเสียงในอัมสเตอร์ดัม ตั้งอยู่ในย่าน De Pijp เหมาะสำหรับการเดินชมบรรยากาศตลาดดัตช์ (คล้ายกับตลาดนัดบ้านเรา) มีสินค้าให้เลือกซื้อหลายประเภท เช่น เสื้อผ้ามือสอง ของใช้ในครัวเรือน ดอกไม้ อาหารทะเลสด ขนมและช็อกโกแลต ฯลฯ และยังสามารถหาขนมดัตช์ชื่อดัง เช่น ขนมสโตรปวาเฟิล ปลาเฮร์ริง ฯลฯ ทานได้อีกด้วย ตลาดเปิดวันจันทร์ถึงเสาร์ เวลา 09:00-17:00 น.
นอกจากตลาด Albert Cuyp Market แล้ว ยังมีตลาดดัตช์อีกหลายแห่งที่น่าสนใจ เช่น Waterlooplein Market (ย่านกลางเมือง) Bloemenmarkt (ตลาดดอกไม้ย่านกลางเมือง) Ten Katemarkt (ย่าน Oud-West) ตลาดนัดที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป IJ-hallen (ย่าน Amsterdam Noord)
66. Blond Amsterdam นั่งคาเฟ่และร้านขายของขวัญสาวผมบลอนด์
บลอนด์อัมสเตอร์ดัมเป็นคาเฟ่ขนาดเล็กตกแต่งด้วยสีชมพูเกือบทั้งหมด ตั้งอยู่ห่างจากตลาด Albert Cuyp Market เพียง 4 นาที ด้านในยังถูกดัดแปลงเป็นร้านขายของขวัญภายใต้ชื่อ Blond Amsterdam โดยใช้ภาพวาดสาวผมบลอนด์ที่มีสีสันฉูดฉาด รวมไปถึงข้อความตลกน่ารักลงบนผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ด้วยความที่ผลงานเหล่านี้มีความน่ารักเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองทำให้ได้รับการตอบรับที่ดีจนมีชื่อเสียง และมันก็เหมาะมาก ๆ ที่จะซื้อเป็นของฝากแบบใช้งานได้จริง ใครที่สนใจสามารถแวะไปเยี่ยมสตูดิโอสีชมพูของพวกเธอในอัมสเตอร์ได้ที่ Ferdinand Bolstraat 44 ที่นั่นยังเปิดเป็นคาเฟ่สำหรับแวะพักทานขนมและเครื่องดื่มและร้านขายของขวัญในเวลาเดียวกัน
67. ชิมชีสที่พิพิธภัณฑ์ชีสอัมสเตอร์ดัม
Amsterdam Cheese Museum เป็นร้านขายชีสเล็ก ๆ ที่ถูกออกแบบผสมกับพิพิธภัณฑ์เพื่อบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับชีสให้กับผู้ที่สนใจ ตั้งอยู่ที่ Prinsengracht 112 ในย่านยอร์ดานถัดจากพิพิธภัณฑ์บ้านแอนน์แฟรงค์เพียง 2 นาที ภายในร้านตกแต่งอย่างสวยงามด้วยชีสหลายชนิดที่จัดเรียงไว้เป็นหมวดหมู่ รวมถึงขายของฝากแบบน่ารักอีกหลายประเภทรวมไปถึงขนมสโตรปวาเฟิลชื่อดัง ใครที่สนใจสามารถแวะไปเยี่ยมชมด้วยตัวเองได้ ร้านเปิดทุกวัน เวลา 10:00-19:00 น.
68. แวะชิมช็อกโกโลนี่ดัตช์ชื่อดัง
ใครที่เดินเข้าซูเปอร์มาร์เก็ตดัตช์อาจจะสะดุดตากับช็อกโกแลตยี่ห้อหนึ่งชื่อว่า “Tony’s Chocolonely” (โทนี่ช็อกโกโลนี่) ซึ่งเป็นช็อกโกแลตแบรนด์ดังสัญชาติเนเธอร์แลนด์แท้ ๆ ก่อตั้งขึ้นในปี 2548 ก่อนที่จะกลายมาเป็นผู้ผลิตช็อกโกแลตรายใหญ่ของเนเธอร์แลนด์ ความโด่งดังของโทนี่ช็อกโกโลนี่ไม่ได้มีแค่ผลิตภัณฑ์ที่สะดุดตาเท่านั้นแต่รสชาติยังมีความเข้มข้นโดนใจผู้ทานอีกด้วย
ย่านดัมสแควร์จะมีร้านโทนี่ช็อกโกโลนี่ตั้งอยู่ที่ตึก Beurs van Berlage ที่นั่นไม่เพียงแต่สามารถลิ้มลองช็อกโกแลตหลายรสชาติ แต่ยังสามารถออกแบบกระดาษห่อและเลือกรสชาติช็อกโกแลตที่ชื่นชอบได้ด้วย พวกเขายังเปิดคาเฟ่ขนาดใหญ่สำหรับทานอาหารและเครื่องดื่มตั้งอยู่ใกล้กันอีกนะคะ ไปที่นี่แล้วได้เที่ยวแบบสองต่อเลย เปิดทุกวันเวลา 11:00-19:00 น. คาเฟ่เปิดเวลา 10:00-19:00 น.
69. แวะทานอาหารที่ Food Hallen
ศูนย์อาหาร ‘Food Hallen’ ตั้งอยู่ที่ย่าน Oud-West ไม่ไกลจากตัวเมืองเพียง 15 นาที ภายในมีบูทร้านอาหารเล็ก ๆ จำนวนมากที่มาพร้อมอาหารหลากหลายสไตล์ให้เลือกทาน ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของร้านขายของฝากที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว รวมไปถึงห้องสมุดสำหรับอ่านหนังสือ และโรงภาพยนตร์ขนาดเล็กที่ฉายภาพยนตร์สวนกระแส (และในกระแส) ถ้าเดินต่อไปทางด้านหลังจะพบกับตลาดดัตช์ขนาดเล็ก “Ten Katemarkt” เหมาะสำหรับการเลือกซื้อผักสด ผลไม้ และอาหารในราคาไม่แพง เปิดวันจันทร์ถึงเสาร์ เวลา 09:00-18:00 น.
70. ดินเนอร์พร้อมชมวิวกรุงอัมสเตอร์ดัม
ถ้าอยากทานอาหารและได้บรรยากาศโรแมนติกไปด้วย ลองไปดินเนอร์ที่ Sky lounge Amsterdam อยู่ห่างจากสถานี Central Station ประมาณ 10 นาที ด้านในมี 2 โซนให้เลือกทานอาหารและเครื่องดื่ม พร้อมชมวิวสวย ๆ ของกรุงอัมสเตอร์ดัมยามค่ำคืน
หรือถ้าอยากเพิ่มความโรแมนติกแบบแปลกใหม่ไปอีกแบบ ลองไปดินเนอร์ที่ Moon Restaurant ตั้งอยู่ที่ฝั่ง Amsterdam-Noord นั่งเรือข้ามฟากสาย F3 (เส้นทาง Centraal Station – Buiksloterweg) ไปได้เพียง 5 นาที จุดเด่นของที่นั่นคือที่นั่งจะหันหน้าออกจากตึกและสามารถหมุนได้รอบด้านทำให้เห็นวิวของอัมสเตอร์ดัมยามค่ำคืนแบบเต็มอิ่มไปเลย ถ้าสนใจอย่าลืมจองโต๊ะก่อนนะคะ ที่นี่ยังอยู่ตึกเดียวกับ Amsterdam Lookout สำหรับนั่งชิงช้าที่สูงที่สุดในยุโรปอีกด้วย
71. คาเฟ่และร้านอาหารน่าสนใจในอัมสเตอร์ดัม
ในอัมสเตอร์ดัมมีคาเฟ่และร้านอาหารน่าสนใจตั้งอยู่ทั่วเมือง รายการด้านล่างเรารวมลิสต์มาให้ตามประเภทขนมและอาหาร หรือ → กดดูแผนที่ร้านอาหารเพิ่มเติม
- แพนเค้กดัตช์ → The Pancake Bakery
- เฟรนช์ฟรายดัตช์ → Manneken Pis Damrak
- ร้านอาหารดัตช์ → The Pantry
- ร้านอาหารไทย → Silom Thai Brasserie
- ร้านอาหารจีน → New King
- ไก่ทอดเกาหลี → SOJU Bar
- พายแอปเปิ้ล → Winkel 43
- บาร์อาหารมื้อสาย → Bakers & Roasters
- ร้านคุกกี้ → Van Stapele Koekmakerij
- ไอศกรีมโมจิ → Toko Dun Yong
- ร้านช็อกโกแลต → Puccini Bomboni
- ดื่มเบียร์สด → Brouwerij ‘t IJ
72. คอปฟี่ชอปและคาเฟ่แตกต่างกัน
ที่อัมสเตอร์ดัมร้านขายกัญชาเรียกว่า “Coffee Shop” ส่วนร้านขายชากาแฟสำหรับดื่มเรียกว่า “Café” ดังนั้นอย่าสับสนกัน นอกจากนี้ถ้าใครที่ซื้อกัญหาห้ามสูบนอกร้าน หรือถ้าจะสูบควรเป็นที่เป็นทาง เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะชอบได้กลิ่นเจ้าสิ่งนี้ และบางครั้งก็มักจะไปรบกวนนักท่องเที่ยวคนอื่น ๆ ที่เดินผ่าน
73. เดินกลางคืนต้องระมัดระวังตัวเอง
อัมสเตอร์ดัมเป็นเมืองที่ปลอดภัยสำหรับการท่องเที่ยว การชกชิงวิ่งราวไม่ค่อยมีนัก ถ้าเทียบกับการขโมยจักรยานมักจะมีมากกว่าเสียอีก อย่างไรก็ตามถ้าต้องเดินเที่ยวตอนกลางคืน โดยเฉพาะย่านโคมแดงต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะแถวนั้นผับบาร์เยอะ ร้านขายกัญชาก็เยอะ ทำให้มีคนเมาเยอะเช่นกัน ส่วนในที่สาธารณะหรือย่านที่มีคนพลุ่กพล่านควรระมัดระวังการโดนล่วงกระเป๋า
เรื่องน่ารู้ก่อนไปเที่ยวอัมสเตอร์ดัม: ที่พักในอัมสเตอร์ดัม
74. เที่ยวอัมสเตอร์ดัมพักที่ไหนดี?
ที่พักย่านใจกลางเมืองมีราคาค่อนข้างสูงแต่ก็เต็มไปด้วยโรงแรมคุณภาพดี เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีข้อจำกัดเรื่องค่าที่พักและต้องการความสะดวกในการเดินทาง มีข้อดีคือได้เดินเที่ยวสะดวกจนถึงตอนกลางคืนแบบไม่ต้องกังวลว่าจะต้องรีบกลับโรงแรมหรือรถรางหมด
DoubleTree by Hilton Amsterdam Centraal Station: โรงแรมทันสมัยระดับ 4 ดาวยอดนิยมในเครือฮิลตัน ตั้งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟเพียง 5 นาที ห้องพักกว้างขวางมาพร้อมหน้าต่างบานใหญ่ ที่ชอบมากเลยก็คือตั้งอยู่ริมแม่น้ำ IJ มองออกไปเห็นวิวเมืองโดยมีฉากหลังเป็นบ้านเรือนเก่าแก่อย่างสวยงาม ในห้องพักยังมาพร้อมเครื่องอำนวยความสะดวกฟรี รวมถึงเครื่องชงชาและกาแฟ ตู้เย็น และโต๊ะทำงาน ตอนเช็คอินก็มีคุกกี้อร่อย ๆ ให้ทานด้วย โดยรวมแล้วประทับใจและคุ้มกับงบที่จ่ายไป → ตรวจสอบราคาและห้องว่างตอนนี้เลย
75. ที่พักน่าสนใจใกล้สถานีรถไฟ
76. Oud Zuid และ Zuid ย่านที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เลือกพัก
ตั้งอยู่ใกล้กับย่านมิวเซียมเพลิยน์ รวมพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงของอัมสเตอร์ดัมไว้หลายแห่ง เช่น พิพิธภัณฑ์แห่งชาติอัมสเตอร์ดัม พิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะห์ และพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัย เข้าถึงได้ด้วยการเดินประมาณ 5 นาที และยังสามารถเดินทางไปยังย่านอื่น ๆ สะดวกด้วยรถรางและรถไฟใต้ดิน มีโรงแรมน่าสนใจและโฮสเทลราคาประหยัดหลายแห่งในย่านนี้ เช่น
- Ruby Emma Hotel Amsterdam
- Stayokay Hostel Amsterdam Vondelpark
- The Flying Pig Uptown
- Hotel Van Gogh
- Conscious Hotel Museum Square
- Apollo Hotel Amsterdam, a Tribute Portfolio Hotel
77. Oud-West ย่านที่พักมาแรง
ตั้งอยู่ห่างจากจัตุรัสดัมสแควร์เพียง 10 นาที สะดวกเรื่องการเดินทาง มีโรงแรมและโฮสเทลราคาประหยัดหลายแห่ง เช่น
- CityHub Amsterdam (แบบตู้นอนส่วนตัว)
- MEININGER Hotel Amsterdam City West
- Hotel De Hallen
- Grand Hotel Downtown
- Hotel Not Hotel Amsterdam
- Amadi Park Hotel
- The ED Amsterdam
- Hotel No. 377 House
- Hotel van de Vijsel
- Huygens Place Amsterdam
78. Noord ที่พักตอนเหนือสายประหยัด
สามารถนั่งเรือข้ามฟากจากสถานีอัมสเตอร์ดัมไปประมาณ 5 นาที มีที่พักน่าสนใจ คือ
- ClinkNOORD Hostel (ใกล้กับ Eye Film Museum)
79. Zuidoost ที่พักนอกเมืองสายประหยัด
เหมาะสำหรับคนที่ไม่ติดเรื่องการเดินทาง ตั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟใต้ดินเพียง 5-10 นาที สามารถนั่งรถไฟใต้ดินสาย 54 เข้าเมืองได้ภายในเวลา 20 นาที ย่านนี้ยังเป็นที่ตั้งของสนามฟุตบอล Johan Cruijff ArenA อีกด้วย มีที่พักน่าสนใจหลายแห่ง เช่น
- Hostelle (เหมาะสำหรับนักเดินทางหญิง)
- Via Amsterdam
- Joy Hotel
- Jaz in the City Amsterdam
- easyHotel Amsterdam Arena Boulevard
- OZO Hotels Arena Amsterdam
- Holiday Inn Express Amsterdam Arena Towers
เรื่องน่ารู้ก่อนไปเที่ยวอัมสเตอร์ดัม: แหล่งชอปปิง
80. อยากชอปปิงในอัมสเตอร์ดัมต้องไปย่านไหนดี?
การชอปปิงในอัมสเตอร์ดัมเป็นเรื่องที่สะดวก ย่านดัมสแควร์เป็นแหล่งรวมห้างสรรพสินค้าที่มีชื่อเสียง คือ De Bijenkorf และศูนย์การค้า Magna Plaza จำหน่ายสินค้าระดับไฮเอนด์และเครื่องสำอางมากมาย เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่อยากได้เครื่องสำอางแบบไม่ต้องรอพรีออเดอร์ ในย่านดัมสแควร์ยังมีถนนสายชอปปิงหลักสองสาย คือ Kalverstraat และ Leidsestraat
ย่านถนนเก้าสายเต็มไปด้วยร้านค้าแนววินเทจมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ขายสินค้าแฟชั่นประเภทเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋าวินเทจ ของเก่าและของใช้ในบ้าน นอกจากที่นี่จะเป็นแหล่งชอปปิงสุดฮิปอัมสเตอร์ดัมแล้วยังมีร้านอาหารบรรยากาศดีจำนวนมาก เดินเล่นเพลิน ๆ ไปตามลำคลองได้
ย่านยอร์ดานรวมร้านค้าในอาคารจากศตวรรษที่ 17 ตั้งอยู่ติดกับย่านถนนเก้าสาย ที่นั้นคุณจะเห็นร้านขายเครื่องประดับหลายแบบ ร้านขายเสื้อผ้า รวมไปถึงร้านขายเหล้าองุ่น และอื่น ๆ อีกมากมาย
81. ราคาสินค้าและบริการรวมภาษีเสมอ (VAT)
การจ่ายเงินผู้คนนิยมจ่ายด้วยบัตรเดบิต ระบบชำระเงินอีคอมเมิร์ช (iDeal) หรือ Apple Wallet ร้านค้าและซูเปอร์มาร์เก็ตส่วนใหญ่รับจ่ายด้วยตัวเลือกดังกล่าวรวมไปถึงเงินสดด้วยธนบัตรใบเล็กและเหรียญ ส่วนธนบัตรใบ €200 หรือ €500 ร้านค้าและซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดเล็กอาจจะไม่รับ ถ้าต้องการจ่ายบัตรเครดิตควรถามทางร้านให้แน่ใจก่อน นอกจากนี้เมื่อซื้อสินค้าราคาและบริการรวมภาษีเสมอ (VAT) ภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับสินค้าและการบริการอยู่ที่ 21% และ 9% สำหรับอาหารยาและอื่น ๆ
82. โปรโมชั่นและคำศัพท์น่ารู้
- Korting หมายถึง ส่วนลด เช่น 40% Korting (ลดราคา 40%)
- Gratis หมายถึง ฟรีหรือไม่คิดมูลค่า เช่น 1+1 Gratie (ซื้อ 1 แถม 1)
- Halve prijs หมายถึง ครึ่งราคา เช่น 2e Halve prijs ซื้อชิ้นที่สองลดครึ่งราคา
- Stuks หมายถึง ชิ้น เช่น 2 Stuks (2 ชิ้น)
- Artikel หมายถึง ชิ้นหรือสิ่งของในรายการ เช่น 2e Artikel
- Op = Op หมายถึง หมดแล้วหมดเลย
83. เที่ยวอัมสเตอร์ดัมซื้อของฝากได้ที่ไหนบ้าง?
ของฝากในอัมสเตอร์ดัมมีจำหน่ายในร้านขายของที่ระลึกทั่วไป ศูนย์บริการข้อมูลนักท่องเที่ยว (VVV) รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์และซูเปอร์มาร์เก็ต ย่านที่มีของฝากรวมอยู่เยอะ ๆ คือ ตลาดดอกไม้บลูเมนมาร์ค (Bloemenmarkt), ย่านดัมสแควร์บริเวณถนน Damstraat, ร้าน I Amsterdam Store ที่ Museumplein หรือในสถานีรถไฟ Amsterdam Centraal, ตลาดนัดขนาดใหญ่ Albert Cuypmarkt, Waterlooplein (จัดขึ้นทุกวันยกเว้นวันอาทิตย์), ตลาด Noordermarkt (วันอาทิตย์และวันจันทร์) และตลาด Lindengracht (วันเสาร์)
ราคาของฝากส่วนใหญ่เป็นราคานักท่องเที่ยว ถ้าซื้อหลายชิ้นอาจจะถูกลง หากอยากได้ราคาที่สมเหตุสมผลแนะนำให้ลองเดินออกจากใจกลางเมืองนิดหนึ่ง ถ้าวางแผนจะซื้อของฝากแนะนำให้เตรียมเงินไปสำรองไว้ประมาณ 30-50 ยูโร ร้านขายของฝากส่วนใหญ่รับจ่ายด้วยรับเงินสด บัตรเดบิต และบัตรเครดิต (ร้านเล็ก ๆ อาจไม่รับบัตรเครดิต)
เรื่องน่ารู้ก่อนไปเที่ยวอัมสเตอร์ดัม: วันหยุดและเทศกาล
84. การเฉลิมฉลองในอัมสเตอร์ดัมที่ห้ามพลาด
ในอัมสเตอร์ดัมมีการเฉลิมฉลองเทศกาลต่าง ๆ ตลอดทั้งปี ช่วงเวลาการจัดงานอาจมีเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ สามารถเช็คข้อมูลล่วงหน้าที่เว็บไซต์หลักของผู้จัดงาน กิจกรรมที่ห้ามพลาดเข้าร่วมเมื่อมาเที่ยวอัมสเตอร์ดัม คือ King’s Day จัดขึ้นวันที่ 27 เมษายน เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระมหากษัตริย์ดัตช์ ผู้คนแต่งกายสีส้ม มีการเฉลิมฉลองทั่วเมืองอย่างสนุกสนาน Pride Amsterdam จัดขึ้นประมาณวันที่ 1-6 สิงหาคม เป็นงานเฉลิมฉลองประจำปีที่ยิ่งใหญ่ของการอุทิศตนเพื่อความเท่าเทียมกันของความหลากหลายทางเพศทั่วเมือง มีการประดับธงตามบ้านเรือน การเดินขบวนพาเหรดอย่างยิ่งใหญ่
85. เล่นสเก็ตที่งาน ICE Amsterdam
ในช่วงฤดูหนาวมีอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจในกรุงอัมสเตอร์ดัมนั้นก็คือ ICE Amsterdam ตั้งอยู่ในย่าน Museumplein จัดขึ้นประมาณกลางเดือนพฤศจิกายนถึงสิ้นเดือนธันวาคมของทุกปี ซึ่งมีพื้นที่ลานสเก็ตขนาดใหญ่ที่เปิดให้ผู้คนสามารถเข้ามาเล่นสเก็ตได้อย่างสนุกสนาน มีร้านค้าจำหน่ายสินค้าและอาหาร ดื่มด่ำกับบรรยากาศในฤดูหนาวและเทศกาลคริสต์มาส
86. วันหยุดประจำปีในอัมสเตอร์ดัม
- วันขึ้นปีใหม่ (New Year’s Day): วันที่ 1 มกราคม
- วันศุกร์ประเสริฐ (Good Friday): วันที่ 29 มีนาคม
- วันอีสเตอร์ (Easter Sunday and Easter Monday): วันที่ 31 และวันที่ 1 เมษายน
- วันเกิดพระมหากษัตริย์ (King’s Day): วันที่ 27 เมษายน
- วันประกาศอิสรภาพ (Liberation Day): วันที่ 5 พฤษภาคม
- วันเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ (Ascension Day): วันที่ 9 พฤษภาคม
- วันเพ็นเทคอสต์ (White Sunday and White Monday): วันที่ 19 และวันที่ 20 พฤษภาคม
- วันคริสต์มาส (Christmas Day and Boxing Day): วันที่ 25 และวันที่ 26 ธันวาคม
เรื่องน่ารู้ก่อนไปเที่ยวอัมสเตอร์ดัม: เที่ยวนอกเมือง
87. เที่ยวหมู่บ้านกังหันลมซานส์สคันส์ (Zaanse Schans)
นอกเมืองอัมสเตอร์ดัมมีย่านใกล้เรือนเคียงที่สามารถแวะไปเที่ยวแบบครึ่งวันได้สะดวก เช่น หมู่บ้านกังหันลมซานส์สคันส์ (Zaanse Schans) อยู่ห่างจากอัมสเตอร์ดัมเพียงครึ่งชั่วโมง เดินทางสะดวกด้วยรถไฟและรถบัส เหมาะสำหรับการสัมผัสเสน่ห์ท้องทุ่งกังหันลมที่มีชีวิตริมแม่น้ำซานส์
88. หมู่บ้านชาวประมงโวเลนดัม (Volendam & Marken)
หมู่บ้านชาวประมงโวเลนดัม (Volendam & Marken) ก็มีเสน่ห์ไม่แพ้กัน เป็นหมู่บ้านประมงแบบชาวดัตช์แท้ ๆ ที่มีท่าเรือสวยงาม และยังเต็มไปด้วยบ้านเรือนที่ตั้งอยู่บนเขื่อนกันน้ำ ถ้ามาเที่ยวที่นี่แล้วสามารถนั่งเรือไปเที่ยวต่อที่เกาะมาร์เคินได้เช่นกัน
เมืองน่าเที่ยวในเนเธอร์แลนด์
แหล่งข้อมูลวางแผนเที่ยว
Thank you
การเปิดเผย: บทความนี้มีลิงก์แอฟฟิลิเอทบางส่วน การกดที่ลิงก์ไม่มีค่าใช้จ่าย หากซื้อสินค้าหรือบริการจากลิงก์ดังกล่าว เราอาจได้รับค่ากำลังใจเล็กน้อยสำหรับนำไปพัฒนาบล็อก 🧡