คินเดอร์ไดค์ (Kinderdijk) เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ยอดนิยมของเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่ในหมู่บ้านชนบทที่งดงามราวกับภาพวาด ห่างจากตัวเมืองรอตเตอร์ดัมประมาณ 25 กม. ความน่าสนใจของคินเดอร์ไดค์ไม่เพียงแต่เป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก แต่ยังรวมกังหันลมจำนวน 19 หลัง ซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 กังหันลมเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการปกป้องพื้นที่โดยรอบจากน้ำท่วมมานานกว่า 300 ปี และยังให้ทัศนียภาพที่งดงาม นับว่าเป็นจุดหมายปลายทางน่าสนใจที่ต้องไปเยือนสำหรับใครก็ตามที่เดินทางมายังเนเธอร์แลนด์ และที่สำคัญมีกิจกรรมให้เลือกทำหลากหลายเพื่อใช้เวลาอย่างคุ้มค่าที่สุดสำหรับการเที่ยวคินเดอร์ไดค์ด้วยตัวเอง
ประวัติศาสตร์ของคินเดอร์ไดค์มีการเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับการต่อสู้กับน้ำและการพัฒนาระบบการจัดการน้ำในเนเธอร์แลนด์ ซึ่งในอดีตนั้นพื้นที่รอบ ๆ คินเดอร์ไดค์เดิมเป็นที่ลุ่มและมีแนวโน้มจะเกิดน้ำท่วม ชาวดัตช์จึงเริ่มพัฒนาพื้นที่ลุ่มต่ำด้วยเขื่อนกั้นน้ำแบบ Polders และใช้กังหันลมเพื่อสูบน้ำส่วนเกินออก ทำให้ที่ดินเหมาะสำหรับใช้เป็นที่อยู่อาศัยและการเกษตร
ในศตวรรษที่ 18 มีการสร้างกังหันลมทั้งหมด 19 แห่งในคินเดอร์ไดค์เพื่อระบายน้ำออกจากที่ลุ่มโดยรอบ กังหันลมเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการกอบกู้ผืนดินจากผืนน้ำ และได้รับการออกแบบมาอย่างชาญฉลาดเพื่อควบคุมพลังงานลมและใช้งานปั๊มที่ยกน้ำจากระดับต่ำขึ้นสู่ระดับที่สูงขึ้น
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาขณะที่เทคโนโลยีก้าวหน้า กังหันลมแบบดั้งเดิมในคินเดอร์ไดค์ก็กลายเป็นสิ่งจำเป็นน้อยลงสำหรับการจัดการน้ำ อย่างไรก็ตามด้วยความตระหนักถึงความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม จึงพยายามอนุรักษ์กังหันลมเหล่านี้ไว้ ในปี 1997 กังหันลมในคินเดอร์ไดค์และพื้นที่โดยรอบได้รับการกำหนดให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก เพื่อตระหนักถึงความสำคัญในประวัติศาสตร์ของชาวดัตช์และการมีส่วนร่วมในด้านวิศวกรรมชลศาสตร์
หลังจากนั้นคินเดอร์ไดค์ก็กลายเป็นที่เที่ยวยอดนิยมของเนเธอร์แลนด์ที่ไม่เพียงสะท้อนถึงความงดงามทางวัฒนธรรม แต่ยังกลายเป็นสัญลักษณ์ที่ยั่งยืนถึงความเชี่ยวชาญด้านการจัดการน้ำและวิศวกรรมของชาวดัตช์ ทำหน้าที่เป็นเครื่องเตือนใจถึงการต่อสู้กับน้ำอย่างต่อเนื่องและยังเป็นนวัตกรรมวิธีการแก้ปัญหาที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องยาวนานเช่นกัน
ชื่อของคินเดอร์ไดค์มีความหมายตามภาษาดัตช์ “Kinder” แปลว่า “เด็ก” และ “Dyke” แปลว่า “เขื่อนกั้นน้ำ” ดังนั้น Kinderdijk จึงแปลว่า “เขื่อนกั้นน้ำเด็ก” ที่มาของชื่อยังมีรากฐานมาจากตำนานท้องถิ่นและเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ ตามตำนานเล่าว่าในช่วงที่เกิดน้ำท่วมใหญ่ในศตวรรษที่ 15 มีการพบเปลที่มีทารกลอยอยู่ในน้ำในบริเวณนั้น ซึ่งเปลวางอยู่บนเขื่อนและเด็กได้รับการช่วยเหลือ จนนำไปสู่ชื่อคินเดอร์ไดค์เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์นี้ ก่อนที่เวลาผ่านไปชื่อนี้กลายมาเป็นตัวแทนของพื้นที่ทั้งหมดที่ครอบคลุมกลุ่มกังหันลมและที่ลุ่มโดยรอบ
เที่ยวคินเดอร์ไดค์ (Kinderdijk) ทำอะไรได้บ้าง
ชมกังหันลมมรดกโลก
แน่นอนว่ากิจกรรมหลักเมื่อมาเยือนคินเดอร์ไดค์คือการเดินชมกังหันลม ซึ่งมีทั้งหมด 19 แห่งกระจายไปทั่วหมู่บ้านและบริเวณโดยรอบ ก่อให้เกิดภูมิทัศน์ที่สวยงามและโดดเด่น กังหันลมแต่ละหลังมีการออกแบบด้วยลักษณะเฉพาะตัว ซึ่งมีส่วนสำคัญทางประวัติศาสตร์ของคินเดอร์ไดค์ นักท่องเที่ยวสามารถสำรวจกังหันลมเหล่านี้ผ่านถนนสาธารณะที่ตั้งอยู่บนลุ่มแม่น้ำสองฝั่งได้ด้วยตัวเอง
กังหันลมในคินเดอร์ไดค์ตั้งอยู่ในจุดที่แม่น้ำเล็กและแม่น้ำนอร์ดไหลลงสู่แม่น้ำนิวเว่อะมาส (Nieuwe Maas) ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักที่ไหลผ่านเมืองรอตเตอร์ดัม โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ได้แก่ฝั่งลุ่มแม่น้ำ Overwaard และ Nederwaard
- Nederwaard: มีกังหันลมตั้งอยู่ทั้งหมด 8 หลัง ทั้งหมดยังคงอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ โดยมีโรงสีสองแห่งที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม คือ Nederwaard Museum Mill และ Blokweer Museum Mill ทั้งสองแห่งสามารถใช้ตั๋วเข้าชมแยกหรือตั๋วรวมใบเดียวสำหรับเข้าชมหมู่บ้านคินเดอร์ไดค์
- Overwaard: มีกังหันลมทั้งหมด 8 แห่ง หลังที่โดดเด่นคือกังหันลม De Overwaard สร้างเมื่อปี 1740 ได้รับการออกแบบตามฉบับดัตช์ดั้งเดิมโดยมีหลังคามุงจากและใบพัดทำด้วยไม้ เป็นกังหันลมที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้และใช้งานได้จริง
ในขณะเดียวกันฝั่งลุ่มแม่น้ำนิวเว่อะเล็กเคอร์แลนด์ (Nieuw-Lekkerland) ทางด้านหลังลุ่มแม่น้ำ Overwaard มีกังหันลมทั้งหมด 3 ตัว รวมถึง Hoge Molen ซึ่งเป็นโรงสีสูงที่สุดในคินเดอร์ไดค์ สร้างในปี 1740 และ Lage Molen จากปี 1761 ถูกใช้เป็นทั้งโรงระบายน้ำและยังคงเปิดดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน ส่วนโรงสีหลังสี 3 คือ Oude Molen จากปี 1722 ไม่หลงเหลือในพื้นที่ปัจจุบัน
เพื่อความสะดวกรวดเร็วอย่าลืม → จองตั๋วเข้าชมคินเดอร์ไดค์ล่วงหน้า ราคา 16 ยูโร สามารถนำไปเข้าชมพิพิธภัณฑ์กังหันลมในคินเดอร์ไดค์ สถานีสูบน้ำทางประวัติศาสตร์ รวมการล่องเรือชมหมู่บ้าน และรับเครื่องเสียงออดิโอไกด์ฟรี
พิพิธภัณฑ์กังหันลม (Nederwaard Museum Mill)
Nederwaard Museum Mill หรือที่รู้จักกันในชื่อ Museummolen Nederwaard เป็นหนึ่งในกังหันลม 19 แห่งที่ตั้งอยู่ในคินเดอร์ไดค์ กังหันลมนี้ไม่เพียงแต่ทำหน้าที่ให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติและการทำงานของกังหันลมแบบดั้งเดิมของชาวดัตช์ แต่ยังถูกใช้งานได้จริงในปัจจุบัน โดยสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1738 สำหรับระบายน้ำจากที่ลุ่ม Nederwaard และยังใช้เป็นที่อยู่อาศัยของครอบครัว Hoek มาหลายชั่วอายุคน
ด้านนอกพิพิธภัณฑ์นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นกังหันลมหลังใหญ่ วันไหนที่มีลมแรงใบพัดจะหมุนทำงานได้ดี และถ้าได้ลองไปยืนชมใกล้ ๆ จะพบว่าใบพัดมีขนาดใหญ่มาก ยิ่งตอนที่หมุนทำให้ผมปลิวแทบไม่เป็นทรงเลย อีกอย่างใบพัดหมุนต่ำมาก ดังนั้นควรระวังศีรษะเวลาเดินผ่าน
ถ้าเดินต่อไปยังพื้นที่ด้านในจะพบกับบ้านที่ถูกแบ่งออกเป็นหลายชั้น แต่ละชั้นแสดงสภาพความเป็นอยู่ในบ้าน ของใช้ในครัวเรือน รูปถ่ายของครอบครัว และกลไกการทำงานของใบพัดกังหันลม โดยชั้นแรกจะเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่นซึ่งเป็นศูนย์กลางของบ้าน และยังเป็นห้องเดียวที่ให้ความอบอุ่นจากเตาผิง ในห้องนี้ยังมีเตียงนอนของพ่อและแม่ ในขณะที่ทารกนอนในเตียงเด็กอ่อน ถ้าเดินผ่านห้องนี้จะพบกับอุปกรณ์ทำครัว และมีบันไดสำหรับเดินขึ้นไปที่ชั้นสอง
ในส่วนของชั้นสองจัดแสดงรูปภาพของครอบครัว ชั้นนี้ยังมีเตียงนอนของเด็กชายที่มักใช้สำหรับนั่งเล่นหรือนอน แต่ละเตียงมีหมอนสำหรับเด็กสองคน และผ้าห่มแบบหนาเพราะไม่มีเตาผิงให้ความอบอุ่นเหมือนชั้นแรก เวลานอนก็จะได้ยินเสียงใบพัดกังหันลมทำงานไปด้วย และทำงานเกือบทั้งวันทั้งคืนโดยเฉพาะช่วงที่ระดับน้ำสูง
จากพื้นที่จัดแสดงรูปภาพเดินเข้าไปด้านในจะเป็นส่วนของการทำงานของกังหันลม มีวงล้อไม้ที่ช่วยขับเคลื่อนใบพัด เมื่อบวกกับแรงลมกังหันลมจะทำงาน และเมื่อกังหันลมทำงานทุกคนในบ้านจะได้ยินเสียงและรับรู้ถึงการสั่นสะเทือนเล็กน้อย ในขณะที่ชั้นใต้หลังคาเป็นห้องนอนของเด็กหญิง และมีหน้าต่างมองเห็นพื้นที่ด้านนอก
การเข้าชมพิพิธภัณฑ์ด้านในนับว่าได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของครอบครัวที่อาศัยอยู่ในโรงสีได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญยังได้เรียนรู้เกี่ยวกับการจัดการน้ำและความสำคัญของกังหันลมที่ช่วยให้พื้นที่ในคินเดอร์ไดค์รอดพ้นจากน้ำท่วม เช่นเดียวกับการทำงานเป็นมิลเลอร์ไม่ได้มีหน้าที่แค่ระบายน้ำออกจากแอ่งน้ำอย่างเดียว เพราะเป็นอาชีพที่ไม่ได้ร่ำรวย แต่ยังต้องหารายได้พิเศษเพื่อเลี้ยงดูครอบครัว เช่น การตกปลา เลี้ยงสัตว์ ปลูกผัก รวมไปถึงตัดต้นกกเพื่อจำหน่ายและรับจ้างดูแลพื้นที่ในคินเดอร์ไดค์ โดยรวมแล้วเป็นพิพิธภัณฑ์ที่คุ้มค่าการเข้าชม และสามารถใช้เวลาเดินชมประมาณ 30-45 นาที
ถ้าอยากเห็นกังหันลมทำงานแนะนำให้มาในวันที่มีลมแรง ซึ่งกังหันลมจะทำงานได้ดีที่สุดเมื่อมีลมพัดด้วยความเร็วอย่างน้อย 8-10 เมตรต่อวินาที อย่าลืมเตรียมเสื้อแจ็คเก็ตกันลมและแว่นตากันแดดมาเผื่อด้วย ส่วนใครที่อยากประหยัดค่าอาหารลองเตรียมขนมและน้ำดื่มมาทานเอง ที่นี่มีม้านั่งปิกนิกเยอะมาก
พิพิธภัณฑ์โรงสี (Blokweer Museum Mill)
จากพิพิธภัณฑ์กังหันลมนักท่องเที่ยวสามารถเดินตามถนน Molenkade Nederwaard เพื่อข้ามสะพานไปยังถนน Blokweerschekade ซึ่งจะเป็นที่ตั้งของ Blokweer Museum Mill พิพิธภัณฑ์โรงสีที่สร้างขึ้นในปี 1630 ด้านในพิพิธภัณฑ์ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของช่างสีในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 รวมถึงสิ่งประดิษฐ์และเครื่องมือต่าง ๆ ที่ใช้ในกระบวนการกัดสี ภายในโรงสียังถูกใช้เป็นบ้านของครอบครัวช่างสีในเวลาเดียวที่แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตประจำวันผ่านห้องครัว ห้องนั่งเล่น และห้องนอน ส่วนด้านนอกเป็นสวนผักขนาดเล็ก มีพื้นที่เลี้ยงแพะ รวมไปถึงพื้นที่นั่งเล่น ในขณะที่พื้นที่ใกล้ลุ่มน้ำมีการจัดแสดงเรือ Alles Heeft een Tijd ให้ได้ชมด้วย
พิพิธภัณฑ์สถานีสูบน้ำในคินเดอร์ไดค์
นอกจากการเดินชมกังหันลมและเข้าชมพิพิธภัณฑ์กังหันลมด้านในแล้ว ยังมีสถานีสูบน้ำที่ตั้งอยู่ในคินเดอร์ไดค์ให้ได้เข้าชมกันอีกด้วย โดยสถานีสูบน้ำมีทั้งหมด 2 แห่ง ด้านในเป็นพิพิธภัณฑ์ให้ความรู้เกี่ยวกับการทำงานของเครื่องยนต์ รวมไปถึงการระบายน้ำออกจากที่ลุ่มได้ครอบคลุมทีเดียว นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมพิพิธภัณฑ์เหล่านี้ได้ด้วยตั๋วใบเดียวกัน หรือสามารถซื้อตั๋วแยกเพื่อเข้าชมพิพิธภัณฑ์แต่ละแห่งได้ตามสะดวก
หมู่บ้านกังหันลมชมคินเดอร์ไดค์เปิดตลอดทั้งปี เวลาที่เหมาะสำหรับการเยี่ยมชมคือระหว่างเดือนเมษายนถึงตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศดีและดอกไม้บานสะพรั่ง วันเสาร์อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์อาจมีจำนวนนักท่องเที่ยวหนาแน่น ถ้าเป็นไปได้แนะนำให้เที่ยววันธรรมดาแทน ใครที่มาเที่ยวช่วงเดือนเมษายนและพฤษภาคมยังตรงกับ → เทศกาลดอกทิวลิปเคอเคนฮอฟด้วย
ล่องเรือในคินเดอร์ไดค์
สำหรับใครที่มีเวลาประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมงแนะนำให้ในล่องเรือในคินเดอร์ไดค์ด้วย เรือเหล่านี้จะพาผู้เข้าร่วมชมทิวทัศน์ที่สวยงามของกังหันลมและบรรยากาศโดยรอบไปตามผืนน้ำอย่างใกล้ชิด ถ้ามีตั๋วเข้าชมหมู่บ้านกังหันลมคินเดอร์ไดค์แล้วสามารถใช้ล่องเรือได้เลย แต่ถ้ายังไม่มีสามารถซื้อแยกได้ที่สำนักงานข้อมูลท่องเที่ยว เรือให้บริการตลอดทั้งวันตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมถึงกลางเดือนตุลาคม และออกตามรอบเวลาที่กำหนดไว้ตามป้ายที่ท่าเรือ และไม่สามารถจองล่วงหน้าได้ โดยมีอยู่ 2 แบบ คือ Hop on Hop off และ Canal Cruise
ปั่นจักรยานเที่ยวคินเดอร์ไดค์
ใครที่อยากสัมผัสความสวยงามของคินเดอร์ไดค์และชนบทโดยรอบในมุมที่หลากหลายต้องไม่พลาดที่จะปั่นจักรยานเที่ยว การปั่นจักรยานใช้เวลาประมาณ 40 นาที ถึง 3 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับเส้นทางที่เลือก ตลอดเส้นทางไม่ต้องกลัวว่าจะหลงเพราะว่ามีเส้นทางสำหรับจักรยานโดยเฉพาะ นักท่องเที่ยวที่นำจักรยานมาเองสามารถนำขึ้นเรือโดยสาร Waterbus ได้ และแนะนำให้ลงที่สถานี Alblasserdam (Waterbus สาย 20) จากเส้นทางดังกล่าวสามารถปั่นจักรยานมาที่คินเดอร์ไดค์ได้ใน 15-30 นาที
เส้นทางปั่นจักรยานเที่ยวคินเดอร์ไดค์ที่ง่ายที่สุด คือ Alblasserdam-Kinderdijk มีความยาวประมาณ 10 กิโลเมตร และใช้เวลาประมาณ 45 นาที ถึง 1 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความเร็วในการปั่นและจำนวนจุดจอดระหว่างทาง โดยเริ่มต้นที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวคินเดอร์ไดค์ และมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกสู่กังหันลม จากนั้นปั่นเลียบคลองและทางน้ำในกังหันลมคินเดอร์ไดค์ จากนั้นเลี้ยวผ่าน Kortlandse Molen (1890) ไปตามเส้นทางริมแม่น้ำ De Albles จนกระทั่งสิ้นสุดที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว Alblasserdam
ร้านเช่าจักรยานในคินเดอร์ไดค์
นักท่องเที่ยวสามารถเช่าจักรยานในพื้นใกล้เคียงคินเดอร์ไดค์ได้จากหลายร้าน เช่น
- Fietsverhuur Alblasserdam: ร้านเช่าจักรยานตั้งอยู่ที่สำนักงานบริการข้อมูล ห่างจากท่าเรือ Alblasserdam Kade ประมาณ 7 นาที มีทั้งจักรยานธรรมดา จักรยานไฟฟ้า และจักรยานสำหรับเด็กให้เลือกเช่า ราคาระหว่าง 10-15 ยูโรต่อวัน ถ้าแสดงตั๋ว Waterbus e-ticket สามารถเช่าจักรยานได้ทั้งวันในราคาเพียง 5 ยูโร
- Partycentrum De Klok: ร้านเช่าจักรยานห่างจากคินเดอร์ไดค์เพียง 7 นาที นักท่องเที่ยวสามารถเช่าจักรยานได้เช่าตั้งแต่ 11:00 น. ราคา 8 ยูโรต่อคัน ไม่จำกัดเวลา
เที่ยวคินเดอร์ไดค์ควรเผื่อเวลาไว้เท่าไร
นอกจากคินเดอร์ไดค์แล้ว ในเนเธอร์แลนด์ยังมี → หมู่บ้านกังหันลมซานส์สคันส์ (Zaanse Schans) ที่ตั้งอยู่ห่างจากอัมสเตอร์ดัมเพียง 40 นาที เหมาะสำหรับการเที่ยวแบบครึ่งวันหรือแบบเดย์ทริป ที่สำคัญเดินทางสะดวกด้วยรถบัสสาย 391 จากสถานีรถไฟอัมสเตอร์ดัมแบบเที่ยวเดียวถึงหน้าทางเข้าหมู่บ้านเลย
การเดินทางไปคินเดอร์ไดค์จากรอตเตอร์ดัม
คินเดอร์ไดค์ตั้งอยู่ห่างจากจากรอตเตอร์ดัมประมาณ 16 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังคินเดอร์ไดค์ด้วยตัวเลือกที่หลากหลาย ครอบคลุมถึงเรือโดยสาร รถโดยสารประจำทาง รถจักรยาน และรถยนต์ ดังรายละเอียด
นอกจากเรือโดยสาร สาย 202 และ 21 ที่ให้บริการตรงไปยังคินเดอร์ไดค์แล้ว ยังมีเรือสาย 20 ปลายทางเมือง Dordrecht ไปยังคินเดอร์ไดค์เช่นกัน โดยต้องเปลี่ยนขบวนที่ท่าเรือ Ridderkerk De Schans เพื่อขึ้นเรือข้ามฟาก (Driehoeksveer) ไปยังท่าเรือ Kinderdijk Molenkade การเดินทางใช้เวลารวม 40 นาที ซื้อตั๋วได้ที่ท่าเรือ ผ่านเว็บไซต์ทางการ หรือใช้บัตรโดยสาร OV-chipkaart (เรือข้ามฟาก Driehoeksveer รับจ่ายด้วยเงินสดและบัตรแบบไร้สัมผัส ไม่สามารถใช้บัตร OV-chipkaart ค่าโดยสารเที่ยวละ 2 ยูโร)
เพื่อช่วยประหยัดค่าเดินทางสามารถใช้บัตรท่องเที่ยว Tourist Day Ticket เพื่อโดยสารเรือ Waterbus ไปยังคินเดอร์ไดค์ บัตรนี้ยังใช้เดินทางแบบไม่จำกัดเที่ยวใน 1 วัน ด้วยรถโดยสารประจำทาง รถราง และรถไฟใต้ดินของผู้ให้บริการ Arriva, Connexxion, HTM, HTMbuzz, RET, QBuzz, EBS และ Blue Amigo ในภูมิภาค Zuid-Holland, Rotterdam และ The Hague ได้อีกด้วย
การเดินทางไปคินเดอร์ไดค์จากเมืองใกล้เคียง
แผนที่เที่ยวคินเดอร์ไดค์ด้วยตัวเอง
กดดูและบันทึกแผนที่เที่ยวเที่ยวคินเดอร์ไดค์เพื่อช่วยวางแผนการเดินทาง
เที่ยวอย่างอุ่นใจไปกับบัตรเดบิต Wise สำหรับใช้จ่ายทั่วโลก สามารถใช้ถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มต่างประเทศตามอัตราแลกเปลี่ยนจริงโดยไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง ใช้ชำระค่าอาหาร จองที่พักหรือตั๋วเครื่องบิน รวมถึงในร้านค้าออนไลน์ทั่วโลกกว่า 50+ สกุลเงิน ทั้งยังรองรับการชำระผ่าน MasterCard, Apple Pay และ Google Pay โดยไม่ต้องกังวลในการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน ใช้มานานกว่า 4 ปีไม่ผิดหวัง → สมัครรับบัตรเดบิต Wise ไว้ใช้ประโยชน์ด้วยตัวเองตอนนี้เลย
แหล่งข้อมูลวางแผนเที่ยว
Thank you
การเปิดเผย: บทความนี้มีลิงก์แอฟฟิลิเอทบางส่วน การกดที่ลิงก์ไม่มีค่าใช้จ่าย หากซื้อสินค้าหรือบริการจากลิงก์ดังกล่าว เราอาจได้รับค่ากำลังใจเล็กน้อยสำหรับนำไปพัฒนาบล็อก 🧡