กำลังวางแผนเที่ยวไต้หวันอยู่ไหม? ในบทความนี้จะแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องน่ารู้ก่อนไปเที่ยวไต้หวันด้วยตัวเอง ครอบคลุมแผนเที่ยวไต้หวัน 7 วัน โดยแบ่งออกเป็นเที่ยวในไทเป 4 วัน และเที่ยวเมืองอื่นๆ อีก 3 วัน รวมไปถึงที่พักน่าสนใจ ตลอดจนวิธีการเดินไปยังที่เที่ยวยอดนิยมในไต้หวัน ในตอนท้ายสุดจะแชร์งบเที่ยวทั้งหมด เพื่อเป็นแนวทางสำหรับใครที่กำลังวางแผนเที่ยวไต้หวันด้วยตัวเอง
เรื่องน่ารู้ก่อนไปเที่ยวไต้หวัน
บัตร EasyCard ต้องมีติดตัวไว้สำหรับเที่ยวไต้หวัน
ชื่อก็บอกอยู่แล้วเนาะว่าง่าย การใช้งานก็ง่ายตาม แถมวิธีซื้อก็ยังง่ายอีกด้วย โดยบัตรนี้มีวัตถุประสงค์หลักก็คือใช้เดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะทั่วไต้หวัน ครอบคลุมถึงรถไฟท้องถิ่นไต้หวัน รถไฟใต้ดินไทเป รถไฟใต้ดินเถาหยวน รถไฟใต้ดินไถจง รถไฟใต้ดินเกาสง รถโดยสารประจำทาง เรือข้ามฟาก รถแท็กซี่ รถจักรยาน และยังสามารถใช้ชำระเมื่อซื้อสินค้าตามร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า และซูเปอร์มาร์เก็ต กว่า 10,000 แห่งทั่วไต้หวัน ทั้งหมดนี้ช่วยประหยัดเวลาทำให้ไม่ต้องซื้อตั๋วเดินทางเที่ยวเดียวบ่อยๆ ราคาบัตร 150 TWD
วิธีซื้อบัตร EasyCard
- → ซื้อออนไลน์ที่ลิงก์นี้ แล้วนำเวาเชอร์ไปรับบัตรจริงที่เคาน์เตอร์ Klook ในสนามบิน
- ซื้อที่เคาน์เตอร์ Klook ในสนามบินเถาหยวน
- ซื้อที่ตู้อัตโนมัติหน้าสถานีรถไฟใต้ดินเถาหยวน
- ซื้อที่ 7-11, FamilyMart, Hi-Life หรือ OK Mart
สำหรับใครที่ซื้อบัตรออนไลน์ล่วงหน้าจะมาพร้อมตัวเลือกการเติมเงินเข้าไปในบัตร 200 TWD และ 400 TWD ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาไปเติมเงินในบัตร แต่ถ้าซื้อที่เคาน์เตอร์ Klook ในสนามบินเถาหยวน ต้องนำบัตรไปเติมเงินก่อนที่ตู้อัตโนมัติสีฟ้าก่อน แล้วนำไปใช้เดินทางได้เลยโดยไม่ต้องเปิดใช้งานให้ยุ่งยาก ส่วนการซื้อที่ตู้อัตโนมัติหน้าสถานีรถไฟใต้ดินเถาหยวนสามารถเลือกเติมเงินเข้าไปในบัตรได้เลยเช่นกัน
วิธีเติมเงินเพียงวางบัตร EasyCard ลงบนจุดอ่านการ์ด จากนั้นเลือกเติมเงินและชำระเงิน (เครื่องรับเฉพาะธนบัตรเท่านั้น และไม่มีทอน) และรอจนกว่าระบบจะอ่านข้อมูลเสร็จก็รับบัตรไปสแกนที่ประตูทางเข้าได้เลย
เรื่องน่ารู้ก่อนไปเที่ยวไต้หวัน: สิ่งที่ต้องทำก่อนเดินทางไปไต้หวัน
เรื่องน่ารู้ก่อนไปเที่ยวไต้หวัน: ตั๋วที่สามารถซื้อล่วงหน้าไว้ก่อนได้
เรื่องน่ารู้ก่อนไปเที่ยวไต้หวัน: เมื่อเดินทางไปถึงไต้หวันต้องทำอะไรบ้าง
การเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังสนามบินเถาหยวนในไทเป ใช้เวลาประมาณ 3.55 ชม. เมื่อมาถึงแล้วก่อนที่จะเดินทางเข้าเมืองมีสิ่งที่ต้องทำ 5 อย่างด้วยกัน คือ
- รับกระเป๋าเดินทาง: ตามสายพานที่กำหนดไว้บนป้ายบอกเที่ยวบิน
- ตรวจกระเป๋าและสำแดงของต้องห้าม: ที่จุดตรวจศุลกากร
- ด่านตรวจคนเข้าเมือง: ยื่นพาสปอร์ตและบอร์ดดิ้งพาสเพื่อตรวจสอบและประทับตราเข้าเมือง
- ซื้อซิมการ์ดไต้หวัน: แนะนำซิมการ์ดของชองวา เพราะสัญญาณแรงดี ร้านขายซิมการ์ดจะตั้งอยู่ในโถงผู้โดยสารขาเข้าหลังออกจากด่านตรวจคนเข้าเมืองมาแล้ว ถ้าซื้อออนไลน์ล่วงหน้ามาก่อนให้ไปรับบัตรได้ที่เคาน์เตอร์ Klook
- ซื้อบัตร EasyCard และเติมเงินในบัตร: ใช้สำหรับเดินทางด้วย MRT เข้าเมือง สามารถซื้อได้ที่เคาน์เตอร์ Klook หรือที่ตู้อัตโนมัติหน้าสถานีรถไฟใต้ดิน แล้วนำไปเติมเงินที่ตู้อัตโนมัติสีฟ้า
สิ่งที่ต้องทำข้างต้นใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ถ้ามาถึงตอนเที่ยวบินลงเยอะ ๆ อาจจะใช้เวลานานกว่านี้ ยังไงแนะนำให้เผื่อเวลาไว้ประมาณ 2 ชม. อย่าลืมปรับเวลาด้วยน๊า เพราะที่ไต้หวันเร็วกว่าไทย 1 ชม. สำหรับรายละเอียดทั้งหมดสามารถแวะไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่ → แผนเที่ยวไทเปด้วยตัวเอง 4 วัน
เรื่องน่ารู้ก่อนไปเที่ยวไต้หวัน: วิธีเดินทางจากสนามบินเถาหยวนเข้าเมืองไทเป
วิธีเดินทางเข้าเมืองไทเปจากสนามบินเถาหยวนสามารถทำได้ 3 แบบ คือ
- นั่งรถไฟใต้ดิน (MRT Taoyuan Airport)
- ใช้บริการรถบัสสาย 1819 (Kuo-Kuang Bus)
- หรือนั่งแท็กซี่เข้าเมือง (Taxi)
ซึ่งวิธีที่สะดวกที่สุดคือนั่งรถไฟใต้ดินสายสีม่วง (Express) ที่ใช้เวลาเพียง 46 นาที ค่าโดยสาร 150 TWD รถไฟให้บริการระหว่างเวลา 05:58-00:39 น. วิ่งจากอาคารผู้โดยสาร 1 และ 2
ค่าโดยสารรถไฟใต้ดินสามารถจ่ายได้ 3 วิธี คือ ใช้บัตร EasyCard ซื้อเหรียญเดินทางเที่ยวเดียว หรือจ่ายด้วยบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต สะดวกทั้ง 3 วิธี → ซื้อเหรียญเดินทางล่วงหน้า
เมื่อสแกนบัตรหรือเหรียญเดินทางที่ประตูทางเข้าแล้ว ให้เดินเลี้ยวขวาลงบันไดเลื่อน เพื่อไปรอขึ้นรถที่ชาญชลาหมายเลข 2 (ฝั่งซ้ายมือ) ซึ่งเป็นเส้นทางไปยัง Taipei Main Station รถไฟใต้ดินออกตรงเวลา ในรถไฟมีที่นั่งและจุดวางกระเป๋าเดินทาง โดยรวมแล้วสะดวกสบายและรวดเร็ว
อีกตัวเลือกที่สะดวกแต่อาจจะใช้เวลานานกว่าคือนั่งรถบัสสาย 1819 จากสนามบินเถาหยวนตรงไปยังใจกลางเมืองไทเป การเดินทางใช้เวลาประมาณ 1 ชม. รถบัสจะให้บริการจากเทอร์มินอล 1 และ 2 และไปสิ้นสุดที่สถานี Taipei Station (East 3) รวมทั้งหมด 7 ป้าย ค่าโดยสาร 140 TWD รถวิ่งระหว่างเวลา 00:10-23:30 น. → ซื้อบัตรเดินทางล่วงหน้า
นอกจากรถไฟใต้ดินและรถบัส ยังมีรถแท็กซี่ให้บริการจากสนามบินเถาหยวนไปไทเปเช่นกัน ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. (ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร) ค่าแท็กซี่ประมาณ 1,000-1,200 TWD จุดจอดแท็กซี่จะอยู่ด้านนอกเทอร์มินอล 1 และ 2 ตัวเลือกนี้มีความเป็นส่วนตัวและสามารถไปถึงโรงแรมที่พักโดยไม่ต้องต่อรถ
เรื่องน่ารู้ก่อนไปเที่ยวไต้หวัน: ที่พักน่าสนใจในไทเป
ถ้ากำลังมองหาที่พักราคาประหยัดและเดินทางสะดวกแนะนำให้พักในย่านจงซาน ซีเหมินเติง หรือสถานีไทเป เพราะอยู่ใกล้สถานีรถไฟใต้ดิน จะได้ไม่ต้องเดินลากกระเป๋าไกล อีกอย่างก็หาของกินง่าย ถ้าจะไปที่เที่ยวยอดนิยมในไทเปก็ต่อรถสะดวก
ที่พักน่าสนใจในเขตจงซาน → Stay Inn Taipei ใช้เวลาเดินจากสถานีรถไฟ Shuanglian เพียง 5 นาที ห้องพักใหญ่มาก ยังแอบตกใจตอนไปถึง เพราะหรูกว่าที่คิดไว้ แล้วก็สะอาดด้วย มาพร้อมหน้าต่างและวิวเมือง ในห้องมีเครื่องอำนวยความสะดวกครบ ทั้งโทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ตู้เย็น กาต้มน้ำ ตู้เสื้อผ้า และโซฟา
ที่ชอบมากก็คือห้องน้ำกว้าง น้ำในฝักบัวไหลแรงดี ที่สำคัญคือมีชักโครกไฟฟ้าอัตโนมัติ ปรับอุณหภูมิได้ ถือว่าคุ้มเงินแล้ว ส่วนด้านล่างโรงแรมจะมี 7-11 แล้วก็คาเฟ่ที่กาแฟและแซนวิชมื้อเช้าอร่อยมาก ค่าที่พักจ่ายไป 2,372 TWD ตกคืนละประมาณ 790 บาท หารกัน 2 คนยิ่งถูกไปอีก นับว่าเป็นที่พักราคาประหยัดและเดินทางสะดวกที่น่าเก็บไว้พิจารณา
เรื่องน่ารู้ก่อนไปเที่ยวไต้หวัน: การเดินทางด้วยรถไฟในไต้หวัน
ไต้หวันเป็นที่รู้จักเรื่องระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบรถไฟที่สามารถเชื่อมต่อเมืองต่าง ๆ ได้ภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง สามารถแบ่งได้ 2 ประเภท คือ
- รถไฟความเร็วสูง (THSR)
- รถไฟธรรมดา (TRA)
รถไฟความเร็วสูง (THSR) มีเส้นทางเชื่อมโยงเมืองใหญ่ตามชายฝั่งตะวันตกของไต้หวัน รวมระยะทางประมาณ 345 กิโลเมตร และวิ่งความเร็วสูงสุดถึง 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จึงเป็นทางเลือกที่รวดเร็วสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปยังอาลีซาน ทะเลสาบสุริยันจันทรา เมืองเจียอี้ ไถจง ไถหนาน และเกาสง โดยรถไฟขบวนเร็วที่สุด (หมายเลข 2XX, 12XX) มักจะให้บริการตอนเช้าตรู่ และจะจอดเพียง 5-6 สถานี ทำให้สามารถต่อรถบัสไปถึงที่เที่ยวได้ก่อนเที่ยงและมีเวลาเที่ยวเยอะ
ค่าโดยสารรถไฟความเร็วสูงจะคิดตามระยะทาง และขึ้นอยู่กับปัจจัย 2 อย่าง คือ ประเภทที่นั่งและการจองล่วงหน้า ซึ่งที่นั่งชั้นมาตรฐานจะถูกกว่าที่นั่งชั้นธุรกิจ ราคาอยู่ระหว่าง 40-1,530 TWD สามารถจองได้ที่เว็บไซต์ทางการ ในขณะที่ไม่จองที่นั่งล่วงหน้าราคาจะถูกที่สุด และต้องไปซื้อที่เคาน์เตอร์ในสถานีรถไฟเท่านั้น
การจองล่วงหน้าเป็นวิธีที่ทำให้ได้ค่าโดยสารราคาประหยัด โดยต้องจองล่วงหน้า 5 วันก่อนวันที่รถไฟออกเดินทาง (รวมวันที่จอง) เพื่อรับส่วนลดสูงสุด 35% 20% และ 10% สามารถจองได้ที่เว็บไซต์ทางการ โดยเลือกสถานีต้นทางและสถานีปลายทาง รวมถึงวันเดินทางและช่วงเวลาเพื่อดูส่วนลดสูงสุด
อีกวิธีที่จะทำให้ได้ตั๋วโดยสารรถไฟความเร็วสูงราคาประหยัดก็คือ ใช้บัตรโดยสารสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ (THSR Pass) เพื่อรับส่วนลด 15% ยกตัวอย่างเช่น ถ้าจะเดินทางไปเจียอี้ ค่าโดยสารที่นั่งมาตรฐาน 1,080 TWD ถ้าใช้บัตรนี้จะช่วยประหยัดถึง 162 TWD จ่ายเพียง 918 TWD
รถไฟธรรมดา (TRA) เป็นระบบรถไฟปกติที่ดำเนินการโดย “การรถไฟไต้หวัน” ให้บริการเส้นทางรอบไต้หวันเต็มรูปแบบ ทั้งชายฝั่งตะวันออก เช่น อี๋หลาน ฮัวเหลียน และไถตง และฝั่งตะวันตกของไต้หวัน ครอบคลุมทั้งเมืองเล็กและพื้นที่ห่างไกล รวมถึงพื้นที่ภูเขาและแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามของประเทศ เช่น อุทยานแห่งชาติทาโรโกะ
รถไฟธรรมดาแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ รถไฟท้องถิ่นและรถไฟด่วน โดยรถไฟท้องถิ่นจะใช้เวลาเดินทางที่นานกว่าเพราะจอดทุกสถานี ในขณะที่รถไฟด่วนใช้เวลาเร็วกว่า เพราะจอดแค่เมืองใหญ่เท่านั้น (แต่อาจจะยังช้ากว่ารถไฟความเร็วสูง) มีรถไฟให้บริการ 4 ประเภท คือ Tze-Chiang Limited Express, Taroko Express, Puyuma Express และ Chu-Kuang Express
ประเภทรถไฟด่วน
- Taroko Express → เร็วที่สุดและสะดวกสบาย เป็นหนึ่งในเส้นทางรถไฟที่สวยที่สุดของไต้หวัน
- Puyuma Express → เร็วและสะดวกสบาย วิ่งทั่วไต้หวันและจอดตามสถานีทั่วไป
- Tze-Chiang Limited Express → เร็วและสะดวกสบาย วิ่งทั่วไต้หวันและหยุดทุกสถานี
- Chu-Kuang Express → ปานกลางและสบายขั้นพื้นฐาน วิ่งทั่วไต้หวันและหยุดทุกสถานี
ตั๋วรถไฟทาโรโกะจะมีราคาแพงที่สุดในบรรดารถไฟด่วน (รองจากรถไฟความเร็วสูง) แต่ยังอยู่ในเรตเดียวกับรถไฟ Tze-Chiang ส่วนรถไฟ Puyuma ราคาอยู่ในระดับปานกลาง (ถูกกว่าประมาณสามเท่าของรถไฟความเร็วสูง) เช่นเดียวกับรถไฟ Chu-Kuang จะถูกที่สุด
ก่อนเดินทางแนะนำให้จองตั๋วออนไลน์ล่วงหน้า โดยเฉพาะรถไฟทาโรโกะที่ต้องซื้อแบบจองที่นั่งเท่านั้น ราคา 440 TWD ส่วนรถไฟ Tze-Chiang, Puyuma, Chu-Kuang มีตัวเลือกแบบไม่ต้องจองที่นั่งล่วงหน้า แต่ที่นั่งอาจมีจำนวนจำกัด
ทั้งนี้สถานีรถไฟธรรมดามักจะตั้งอยู่ใจกลางเมือง ในขณะที่รถไฟความเร็วสูงจะมีสถานีเป็นของตัวเอง และตั้งอยู่นอกใจกลางเมือง นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการรถชัตเตอร์บัสรับส่งฟรีระหว่างสองสถานี เช่น ในเมืองเจียอี้จะมี 2 สาย คือ 7211 และ 7212 ในขณะที่เมืองอื่นๆ จะมีรถบัสสาธารณะ หรือรถไฟใต้ดินที่เชื่อมต่อถึงกันสะดวก
เรื่องน่ารู้ก่อนไปเที่ยวไต้หวัน: ซื้อตั๋วรถไฟไต้หวันได้ที่ไหน
รถไฟความเร็วสูง (THSR)
- จองตั๋วออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ทางการ (THSRC) (เป็นวิธีสะดวกที่สุด)
- จองผ่านแอพพลิเคชั่น “T Express” ที่ให้บริการการจองตั๋วผ่านมือถือ
- ซื้อที่ร้านสะดวกซื้อ เช่น 7-11, FamilyMart, Hi-Life หรือ OK Mart
- ซื้อที่เครื่องจำหน่ายตั๋วและช่องจำหน่ายตั๋วที่สถานีรถไฟความเร็วสูงทุกสถานี
- ใช้บัตรเครดิตร่วม EasyCard หรือ iPass เพื่อชำระค่าโดยสารในสถานี
รถไฟธรรมดา (TRA)
- จองตั๋วออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ทางการ (TRA) (เป็นวิธีสะดวกที่สุด)
- จองผ่านแอพพลิเคชั่น “Taiwan Railway e-booking” (ภาษาจีน)
- ซื้อที่ร้านสะดวกซื้อ เช่น 7-11, FamilyMart, Hi-Life หรือ OK Mart
- ซื้อที่เครื่องจำหน่ายตั๋วและช่องจำหน่ายตั๋วที่สถานีรถไฟธรรมดาทุกสถานี
- ใช้บัตรเครดิตร่วม EasyCard หรือ iPass เพื่อชำระค่าโดยสารในสถานี
วิธีรับตั๋วรถไฟไต้หวัน
เมื่อจองตั๋วออนไลน์แล้วสามารถไปรับตั๋วกระดาษฉบับจริงได้ที่ตู้อัตโนมัติหรือเคาน์เตอร์ในสถานีรถไฟทั้งสองประเภท วิธีรับตั๋วฉบับจริงทั้งที่เคาน์เตอร์หรือเครื่องรับตั๋วอัตโนมัติคล้ายกัน เพียงใช้หมายเลขการจองและหนังสือเดินทางเพื่อยืนยันข้อมูล ตั๋วกระดาษแบบเที่ยวเดียวที่ปริ้นออกมาจะระบุวันและเวลาที่เดินทาง สถานีต้นทางและสถานีปลายทาง รวมถึงหมายเลขที่นั่ง
การออกตั๋วที่เคาน์เตอร์และเครื่องรับตั๋วอัตโนมัติจะไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม และสามารถสำรองที่นั่งได้ฟรี แต่ถ้าหากรับตั๋วตามร้านสะดวกซื้อ เช่น 7-11, FamilyMart, Hi-Life หรือ OK Mart จะมีค่าธรรมเนียมการออกตั๋วแต่ละใบ 20 TWD (รถไฟความเร็วสูง) และ 8 TWD (รถไฟธรรมดา)
เรื่องน่ารู้ก่อนไปเที่ยวไต้หวัน: เรื่องน่ารู้ทั่วไป
เที่ยวไต้หวันเดือนไหนดี
สกุลเงินไต้หวัน
ระบบปลั๊กไฟในไต้หวัน
ภาษาพูดในไต้หวัน
เที่ยวไต้หวันกี่วันดี
ไต้หวันเป็นเกาะขนาดเล็กที่เหมาะสำหรับการเที่ยวตั้งแต่ 3-10 วัน โดยแบ่งออกเป็นเที่ยวในไทเป 3-4 วัน จากนั้นเดินทางออกไปนอกเมืองเพื่อสำรวจที่เที่ยวยอดนิยมในไต้หวัน เช่น พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติอาลีซาน (2 วัน) รวมเที่ยวเฟิ่นฉี่หู และนั่งรถไฟสายป่าอาลีซาน ครอบคลุมการเที่ยวอุทยานแห่งชาติทาโรโกะแบบเดย์ทริปอีกด้วย ทั้งหมดนี้ใช้เวลารวม 7 วันพอดี ใครที่สนใจอย่าลืมแวะไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่ → แผนเที่ยวไต้หวันด้วยตัวเอง 7 วัน
สำหรับนักท่องเที่ยวที่มีเวลามากกว่านี้แนะนำให้เพิ่มทะเลสาบสุริยันจันทราแบบ 2 วัน 1 คืนเข้าไปด้วย จะเที่ยวหลังจากเที่ยวในไทเปแล้ว หรือเที่ยวจากสนามบินเลยเถาหยวนเลยก็ได้ โดยเดินทางไปที่เมืองไถจงก่อนด้วยรถไฟ THSR หรือรถบัส จากนั้นค่อยต่อรถบัสไปซันมูนเลคใน 2-3 ชม.
นอกจากทะเลสาบสุริยันจันทรา ยังมีเมืองน่าเที่ยวของไต้หวันอีกหลายแห่ง เช่น ไถหนาน ไถจง และเกาสง สามารถนั่งรถไฟความเร็วสูงไปได้ในเวลา 1-2 ชม. แล้วเที่ยวแบบเดย์ทริปหรือพักค้างคืนสัก 1 คืน จากนั้นค่อยเดินทางกลับไทเป ทั้งนี้แน่นอนว่าสามารถปรับแผนได้ตามความสะดวก ส่วนใครที่เคยมาเยือนไต้หวันแล้วก็อาจจะเก็บสถานที่เที่ยวตามเมืองอื่น ๆ หรือเดินทางไปเที่ยวตามเกาะขนาดเล็กของไต้หวัน ที่รวมกิจกรรมการพักผ่อนช่วงหน้าร้อนไว้เยอะทีเดียว
ที่เที่ยวในไทที่ไปแล้วคุ้มค่าตั๋วและการเดินทาง
ที่เที่ยวในไทเปมีให้เลือกเข้าชมหลากหลาย แต่ที่เที่ยวส่วนตัวที่ไปแล้วคิดว่าสวยคุ้มค่าตั๋วและการเดินทาง คือ วัดหลงซาน สวยทั้งตอนกลางวันและกลางคืน ที่สำคัญเป็นที่นิยมเรื่องการขอพรในหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะเรื่องความรัก อันดับต่อมา คือ อนุสาวรีย์เจียงไคเช็ค ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเลยเดินทางสะดวก ที่สำคัญเข้าชมได้ฟรี ถือเป็นแลนด์มาร์คทางประวัติศาสตร์ของไต้หวันที่ห้ามพลาด
ตึกไทเป 101 ก็เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่ยิ่งใหญ่ของไทเป มีจุดชมวิวชั้น 89 และ 91 ที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพ 360 องศาที่สวยงามของเมืองไทเปและบริเวณโดยรอบได้ ถ้าไปที่นี่อย่าลืมแวะทานเสี่ยวหลงเปาเจ้าดังที่ร้าน Din Tai Fung จากตึกไทเปถ้าอยากเห็นวิวสวยๆ ยามค่ำคืน ต้องไปที่จุดชมวิวเขาเซี่ยงซาน ห่างจากตึกไทเปสถานีเดียว ไปถึงแล้วจะมีเส้นทางเดินขึ้นเขาไปยังจุดชมวิว ใช้เวลาเดิน 30 นาที วิวด้านบนสวยคุ้มการเดิน
ที่เที่ยวต่อมาที่ไปแบบไม่คาดหวังแล้วดีคือวัดหงหลูตี้หนานซานฝูเต๋อ ตั้งอยู่บนภูเขาหนานซื่อเจียว มีชื่อเสียงเรื่องการขอพรด้านความมั่งคั่ง โดยเปิดตลอด 24 ชั่วโมงสำหรับการเยี่ยมชมและสักการะ แล้วก็ยังมีจุดชมวิวที่มองเห็นทิวทัศน์ที่งดงามของเมืองไทเป รวมถึงภูเขาและธรรมชาติที่รอบล้อมเมือง วิวอลังการล้านแปดมากๆ ถ้าจะไปที่นี่แนะนำให้ไปวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ส่วนการเดินทางแนะนำให้นั่งรถแท็กซี่ต่อจากสถานีรถไฟใต้ดิน Nanshijiao (ทางออกที่ 4) รถจะไปจอดที่หน้าวัดเลย
จากที่เที่ยวในเมืองลองแวะออกไปเที่ยวนอกเมืองกันบ้าง มีที่เที่ยวน่าไปเยือนอยู่ 3-4 แห่ง คือ บ่อน้ำพุร้อนเป่ยโถว ซึ่งเกิดจากการสะสมความร้อนใต้พิภพและคลายความร้อนออกมาเป็นไอหมอกสู่ผิวน้ำอยู่ตลอดเวลา สร้างความงดงามตระการตาจนน่าไปเยือนด้วยตัวอง ถ้าไปที่นี่อย่าลืมแวะเข้าชมพิพิธภัณฑ์บ่อน้ำพุร้อนเป่ยโถวด้วย มีนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติศาสตร์บ่อน้ำพุร้อนและอ่างอาบน้ำเก่าที่เคยรุ่งเรืองในอดีตให้ได้ชมกันอีกด้วย
ใกล้กับบ่อน้ำพุร้อนเป่ยโถวจะเป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติอาลีซาน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง มีชื่อเสียงเกี่ยวกับทิวทัศน์ที่สวยงาม ไม่ว่าจะเป็นภูเขากำมะถัน บ่อน้ำพุร้อน สวนดอกไฮเดรนเยีย ทุ่งหญ้าอันเขียวขจี และเส้นทางเดินป่าที่เดินได้ไม่ยาก ทั้งหมดนี้นับว่าเหมาะสำหรับสายธรรมชาติเลยทีเดียว
เรื่องน่ารู้: ถ้ามีเวลาไม่เยอะแล้วอยากมาเที่ยวอาลีซานแนะนำให้แวะ 2-3 จุด คือ → ป้ายโหยวหยวน ชมสวนดอกไฮเดรนเยีย → ป้ายเสี่ยวโหยวเฉิง ชมภูเขากำมะถัน → และป้ายชิงเทียนกัง เดินชมทุ่งหญ้าเขียวขจีขนาดใหญ่ ทั้งสาม 3 แห่งสวย มีจุดถ่ายภาพเยอะ แล้วก็ได้เดินเล่นท่ามกลางธรรมชาติที่เงียบสงบ
อีกหนึ่งที่เที่ยวที่เหมาะสำหรับสายธรรมชาติก็คือการนั่งกระเช้าเมาคง ไปชมวิวภูเขาและไร่ชาเมาคง เมื่อไปถึงสถานีบนสุดาจะมีเส้นทางเดินป่าชมธรรมชาติและไร่ชา ระหว่างทางจะมีร้านน้ำชาสำหรับลิ้มลองชาและชมวิวไปในตัวอีกด้วย ถ้าชอบไอศกรีมชาเขียวอย่าลืมลองไอศกรีม Tie Guan Yin Ice-cream ที่ร้าน “Maokong Tea House” อร่อยเข้มข้นและไม่หวานลงตัว
นอกจากที่เที่ยวในไทเปยังมีที่เที่ยวแบบเดย์ทริปน่าสนใจ คือ อุทยานธรณีเย่หลิ่วและถนนโบราณจิ่วเฟิ่น ทั้งสองแห่งมีรถบัสสายตรงไปถึงเลย ถ้าถามว่าควรไปทั้งสองที่เลยไหม ถ้ามาเที่ยวไต้หวันครั้งแรกแนะนำให้ไปเที่ยวกัน อย่างที่เย่หลิ่วจะมีหินรูปร่างแปลกตาหลายแบบที่อยู่บนแหลมที่ยื่นออกไปในทะเล แล้วก็มีเส้นทางเดินชมธรรมชาติไปจนถึงประภาคารเดินเรือ
ส่วนจิ่วเฟิ่นเป็นถนนโบราณสายแคบๆ ที่ตั้งอยู่บนเนินเขา สองทางเดินจะเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ร้านน้ำชา แล้วก็จุดชมวิวสวยๆ เหมาะสำหรับเดินสำรวจตรอกซอกซอยอันมีเสน่ห์ ลิ้มลองอาหารริมทางชื่อดังของจิ่วเฟิ่น เช่น บัวลอยเผือก ลูกชิ้นสูตรโบราณ เต้าหู้เหม็น ไอศกรีมถั่วตัด และไส้กรอกย่าง รวมไปถึงจิบชายามบ่ายอย่างผ่อนคลายที่ร้านน้ำชาแบบดั้งเดิม ร้านที่มีชื่อเสียง คือ ร้านน้ำชา A-Mei Teahouse และ Jiufen Teahouse ทั้งสองร้านตั้งอยู่ใกล้ๆ กัน
อาหารน่าลองและตลาดกลางคืนน่าเดินในไทเป
มาไทเปก็ต้องมาทานเสี่ยวหลงเปาเจ้าดังที่ร้าน Din Tai Fung ร้านนี้ก่อตั้งขึ้นที่ไทเปในปี 1958 และได้ขยายสาขาไปทั่วโลก เมนูที่ต้องลองคือแบบออริจินัล (เกี๊ยวหมูนึ่ง) ราคา 250 TWD 10 ชิ้น แล้วก็ซาลาเปาไส้คัสตาร์ดไข่เค็ม ราคา 100 TWD 2 ชิ้น อย่าลืมลองยำสาหร่ายแบบกรุบ ๆ (100 TWD) พร้อมซุปเสฉวนรสชาติเผ็ดและเปรี้ยว (110 TWD) เป็นอาหารเรียกน้ำย่อยที่สมบูรณ์แบบเพื่อปรับสมดุลความเข้มข้นของเกี๊ยว
ทานเสี่ยวหลงเปาไปแล้ว แน่นอนว่าต้องไม่พลาดชานมไข่มุกไต้หวันแบรนด์ดัง Chun Shui Tang ที่ขึ้นชื่อเรื่องความหวานน้อยจากน้ำตาลอ้อย ทางร้านยังใส่น้ำแข็งมาให้น้อย ทำให้คงรสชาติดั้งเดิมที่เข้มข้น อีกแบรนด์ที่น่าลอง คือ Xing Fu Tang Flagship ขึ้นชื่อเรื่องไข่มุกที่ทำแบบสดใหม่ตลอดเวลา ทำให้มีรสชาติหวานหอมและเหนียวนุ่ม ถ้าเป็นสาขาที่ตลาดกลางคืนซีเหมินเติงคนต่อคิวยาวมาก แล้วก็ยังมีชานมไข่มุกน่าลองแบรนด์อื่นๆ เช่น
- Chen San Ding: ขึ้นชื่อเรื่องชานมสดไข่มุกน้ำตาลทรายแดง
- 50 Lan: ชาไข่มุกรสชาติคลาสสิกและแปลกใหม่
- CoCo Fresh Tea & Juice: มีชาและเครื่องดื่มผลไม้หลากหลายชนิด
- Tiger Sugar: ชานมไข่มุกลายเสืออันโดดเด่นหอมกลิ่นน้ำตาลทรายแดง
- Koi Thé: เมนูซิกเนเจอร์คือไข่มุกคาราเมลสีทอง
- Yi Fang Taiwan Fruit Tea: ชาผลไม้สดรสชาติแบบไต้หวันดั้งเดิม
- Milk Shop: ชานมสดพร้อมท็อปปิ้งหลากหลาย เมนูขายดีคือชานมเผือก
ราคาชานมไข่มุกตามร้านทั่วไปแก้วละประมาณ 45-80 TWD ถ้าขายตามตลาดนัดกลางคืนราคาอาจจะถูกกว่านี้แล้วก็มีแบรนด์เล็กๆ ให้เลือกหลากหลาย ส่วนของแบรนด์ Chun Shui Tang ถ้าสั่งที่ร้านแบบนั่งทาน ราคาแก้วละ 190 TWD อาจจะแพงกว่าเจ้าอื่น แต่ก็ต้องยอมรับว่าเขายังคงความอร่อยและชูความเป็นต้นตำรับเก่าแก่ได้ดี
นอกจากชานมไข่มุกแล้วไต้หวันก็ยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารท้องถิ่นน่าลองด้วย โดยตัวเลือกการทานอาหารท้องถิ่นในราคาประหยัดก็คือแวะไปเดินตลาดกลางคืน มีหลายแห่งในไทเป ไม่ว่าจะเป็นตลาดกลางคืนซีเหมินเติง ที่มีขนาดใหญ่มากและมีตรอกซอยหลายแห่ง ทุกซอกซอยเต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารน่าแวะ
อาหารน่าทานเมื่อมาเยือนตลาดซีเหมินเติงก็คือ “บะหมี่อาจง” (Ay-Chung Flour-Rice Noodle) เป็นร้านเก่าแก่ตั้งแต่ปี 1975 ขึ้นชื่อเรื่องบะหมี่แป้งข้าวเจ้าที่เหนียวนุ่มและน้ำซุปที่เข้มข้น ร้านตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟใต้ดินซีเหมินเติง ถ้าเดินจากประตูทางออกที่ 6 ตรงไปจนสุดถนนก็จะเจอร้านตั้งอยู่ซ้ายมือเลย
ร้านนี้ต้องบอกว่าคนต่อคิวเยอะมาก มีบะหมี่ให้เลือก 2 แบบ คือ ขนาดเล็ก 60 TWD และขนาดใหญ่ 75 TWD พนักงานทำเร็วมาก แบบตักเส้น ใส่น้ำซุป พร้อมเสิร์ฟในถ้วยกระดาษ เรารอไม่ถึง 10 นาทีก็ได้ทาน รสชาติคล้ายกระเพาะปลา อร่อยแบบไม่ต้องปรุงเพิ่ม แต่ถ้าอยากปรุงเพิ่มจะมีน้ำส้มสายชู กระเทียม แล้วก็พริก อีกอย่างร้านไม่มีที่นั่งนะคะ ต้องยืนทาน ถ้าทานช่วงอากาศเย็นอุ่นท้องกำลังดี
นอกจากนี้ยังมีอาหารน่าทานหลายอย่างในตลาดซีเหมินเติง เราลิสต์มาให้เผื่อไปตามกันต่อ:
ในไทเปไม่ใช่แค่ตลาดกลางคืนซีเหมินเติงที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว แต่ยังมีตลาดกลางคืนอีกหลายแห่งที่ตั้งอยู่ทั่วเมือง เช่น ตลาดกลางคืนซื่อหลินที่ใหญ่ที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดของไทเป ด้านในตลาดมีร้านค้าและแผงขายอาหารมากถึง 500 ร้าน
อาหารน่าลองในตลาดมีหลายอย่าง เช่น ไก่ชุปแป้งทอดชิ้นใหญ่ ไข่เจียวหอยนางรม เต้าหู้เหม็น ชาไข่มุก น้ำเยลลี่อ้ายหยู่ปิง เนื้อสัตว์และผักเสียบไม้ย่าง ขนมไข่นกกระทาไต้หวัน ไส้กรอกย่างชิ้นใหญ่ เห็ดย่างเจ้าดังที่มีคิวต่อแถวยาวมาก รวมไปถึงขนมปังคล้ายซาลาเปาไส้หมูสับอบในโอ่งร้อนๆ และอีกมากมาย ที่สามารถเลือกได้ตามความชอบเลย
อีกหนึ่งตลาดกลางคืนน่าเดินก็คือตลาดหนิงเซี่ย ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานีจงซาน แม้ตลาดจะไม่ได้มีขนาดใหญ่ถ้าเทียบกับตลาดกลางคืนที่มีชื่อเสียงอื่นๆ ในไทเป แต่ในเรื่องอาหารนั้นต้องบอกว่าสามารถหาทานได้เกือบทุกรูปแบบเลย ทั้งเครื่องดื่ม ซุปร้อนๆ ผลไม้สด เมนูปิ้งย่างก็มี ขนมไต้หวันที่ว่าดัง ๆ ก็สามารถหาทานได้จากที่นี่ จะซื้อแล้วเดินทานหรือนั่งทานตามร้านที่ขายก็ได้ ในส่วนของราคาก็ไม่แพงเลย เอาเป็นว่าถ้ามาเดินตลาดนี้แล้วจะไม่ท้องว่างกลับไปอย่างแน่นอน
เรื่องน่ารู้ก่อนไปเที่ยวไต้หวัน: ชาอาลีซานอร่อย
ถ้าไปเที่ยวอาลีซานต้องลองดื่มชาของที่นี่ เพราะเป็นของขึ้นชื่อ ที่สำคัญปลูกโดยเกษตรกรท้องถิ่น ถือเป็นการสนับสนุนพ่อค้าแม่ค้าในท้องถิ่นไปในตัว ชาที่แนะนำให้ลองคือชาดำอาลีซานผสมน้ำส้มโอทับทิมและน้ำผึ้ง แก้วละ 80 TWD (ซื้อที่จุดแวะพักนักท่องเที่ยวเซียงหลินหน้าวัดโซวเจิ้น) พอลองแล้วต้องบอกว่าอร่อยสมคำล่ำลือ รสชาติไม่ขมแต่หอมละมุนนุ่มลิ้นจนต้องซื้อกลับบ้าน จำง่ายๆ ด้วยซองสีแดงมีรูปรถไฟสายป่าอาลีซาน (ดูรูปภาพประกอบ)
เมนูเครื่องดื่มอีกหนึ่งอย่างที่ควรลองคือน้ำเยลลี่อ้ายหยู่ปิง (Aiyu Jelly) เป็นเครื่องดื่มแบบดั้งเดิมของไต้หวันที่ได้รับความนิยมเป็นพิเศษในแถบภูเขา เช่น อาลีซานและเฟิ่นฉี่หู นอกจากเครื่องดื่มก็ยังมีอาหารท้องถิ่นน่าลองอีกด้วย เช่น ข้าวเหนียวห่อไส้กรอกและซุปหน่อไม้ อร่อนจนต้องเพิ่มชิ้นที่สอง
เรื่องน่ารู้ก่อนไปเที่ยวไต้หวัน: ห้ามพลาดนั่งรถไฟสายป่าอาลีซาน
กิจกรรมห้ามพลาดเมื่อไปเยือนเมืองเจียอี้หรือพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติอาลีซานก็คือการนั่งรถไฟสายป่าอาลีซาน (Alishan Forest Railway) ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางรถไฟที่สวยงามและเก่าแก่ที่สุดในไต้หวัน ที่จะพาผู้โดยสารนั่งรถชมทิวทัศน์อันงดงามผ่านป่าเขียวชอุ่มและภูมิประเทศที่เป็นภูเขา โดยวิ่งผ่านเส้นทางซิกแซก ข้ามอุโมงค์มากถึง 48 แห่ง และสะพานไม้ 74 แห่ง รวมระยะทางกว่า 71.4 กม. ทำให้การเดินทางจากเจียอี้ไปยังอาลีซานเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำและไม่เหมือนใคร
รถไฟโบราณอาลีซานมี 2 แบบ คือ รถไฟสายหลักและรถไฟสายย่อย โดยรถไฟสายหลักจะวิ่งจากเจียอี้ไปยังอาลีซานเลย ส่วนรถไฟสายย่อยจะวิ่งในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ (เมื่อไปถึงอาลีซานแล้ว) ทั้งสองสายสวยคุ้มค่าตั๋ว
รถไฟสายหลัก
รถไฟสายย่อย
วิธีนั่งรถไฟอาลีซานสะดวกมาก เพียงจองตั๋วผ่านเว็บไซต์ทางการ (แนะนำให้จองล่วงหน้า 1-2 อาทิตย์ โดยเฉพาะเส้นทางไปยังอาลีซานช่วงเทศกาลดอกซากุระตั๋วจะขายหมดเร็วมาก) จากนั้นไปรับตั๋วกระดาษฉบับจริงได้ที่สถานี Alishan Forest Railway Chiayi Station หรือสาขาใดก็ได้ แล้วนำไปแกนที่ประตูทางเข้า และเดินเลี้ยวขวาตามป้าย “Alishan Line” ไปยังชาญชลาขึ้นรถไฟ หลังขึ้นรถไฟอย่าลืมเก็บตั๋วไว้กับตัว จะมีพนักงานมาเดินเช็คและหนีบตั๋วก่อนจะคืนให้เรา
เรื่องน่ารู้ก่อนไปเที่ยวไต้หวัน: เช่ารถขับเที่ยวในไต้หวันสะดวก
ไต้หวันไม่ได้มีแค่ระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพเพียงอย่างเดียว แต่การเช่ารถขับรถเที่ยวด้วยตัวเองยังสามารถทำได้สะดวก โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอย่างอุทยานแห่งชาติทาโรโกะที่มีขนาดใหญ่และมีหลายจุดแวะชม การขับรถยนต์เที่ยวทาโรโกะด้วยตัวเอง จึงเป็นวิธีที่สามารถใช้เวลาได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องเร่งกลับมาขึ้นรถบัสให้ทันเวลา อีกอย่างถนนในอุทยานแห่งชาติทาโรโกะนั้นต้องบอกว่าค่อนข้างขับง่ายและปลอดภัย ที่สำคัญราคาเช่ารถรายวันไม่แพงเลย
- ค่าเช่ารถ: 1,200 TWD (รวมค่ามัดจำ 500 TWD)
- ระยะเวลาเช่ารถ: 10 ชั่วโมง (09:00-19:00 น.)
- วิธีจ่ายเงิน: บัตรเครดิตหรือเงินสด
- เอกสารที่เองเตรียม: พาสปอร์ตและใบขับขี่สากล
- ร้านเช่ารถ → Hualien Car – Easy Car Line
เรื่องน่ารู้ก่อนไปเที่ยวไต้หวัน: ที่เที่ยวไต้หวันตามภูมิภาค
เที่ยวไต้หวันฝั่งตะวันออก
- หุบเขาทาโรโกะ (Taroko): หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่น่าทึ่งที่สุดของไต้หวัน สำรวจเส้นทางเดินป่าผ่านหน้าผาหินอ่อนและแม่น้ำซากาดังสีใสดุจคริสตัล เช่น เส้นทางถ้ำนกนางแอ่นและหุบเขาลึกลับซากาดัง ชมอุโมงค์เก้าโค้ง สะพานแขวนบูลัววาน และศาลเจ้าฉางชุน → แผนที่เที่ยวทาโรโกะด้วยตัวเอง
- ฮัวเหลียน (Hualien): เที่ยวแบบเต็มอิ่ม 1-2 วัน โดยหาที่พักราคาประหยัด ใกล้สถานีรถไฟฮัวเหลียน เพื่อไปสำรวจหุบเขาทาโรโกะ เยือนพื้นที่ชายฝั่งทะเลที่สวยงามอย่างชายหาดชีซิงถัน และเดินตลาดท้องถิ่นกลางคืนฮัวเหลียน → ค่ารถไฟ TRA จากไทเป 440 TWD (2 ชม.)
- พื้นที่สันทนาการซานเซียนไถ (Sanxiantai): มีทิวทัศน์ที่สวยงามริมชายฝั่งทะเล มาพร้อมเส้นทางเดินเล่นบนสะพานโค้งซานเซียนไถเชื่อมต่อไปจนถึงประภาคารบนเกาะเล็กๆ
- วนอุทยานไถตง (Taitung Forest Park): เป็นที่เที่ยวที่มีชื่อเสียงของไถตง ด้านในมีทะเลสาบสวยงามหลายแห่ง รวมถึงเส้นทางปั่นจักรยานและเดินเท้า พื้นที่ดูนกพืชและสัตว์นานาชนิด
เที่ยวไต้หวันตอนกลาง
- ทะเลสาบสุริยันจันทรา (Sun Moon Lake): เที่ยวทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดของไต้หวัน ขึ้นชื่อเรื่องความเงียบสงบและล้อมรอบด้วยภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยป่าไม้ และมีกิจกรรมให้เลือกทำหลายอย่าง เช่น เยี่ยมชมวัดเหวินหวู่ นั่งกระเช้าลอยฟ้า เช่าจักรยานปั่น และล่องเรือในทะเลสาบ
- พื้นที่ศึกษาธรรมชาติซีโถว (Xitou Nature Education Area): เขตป่าสงวนที่มีสวนไผ่และเส้นทางเดินป่าที่สวยงาม มีรถบัสวิ่งจากซันมูนเลค ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.50 ชม.
- ไถจง (Taichung): เที่ยวเมืองใหญ่เป็นอันดับสองของไต้หวัน ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและตลาดกลางคืน เช่น โรงละครแห่งชาติไถจง ตลาดกลางคืนเฝิงเจีย หมู่บ้านสายรุ้ง และพื้นที่ชุ่มน้ำเกาเหมย → ค่ารถไฟ THSR จากไทเป 700 TWD (1 ชม.)
เที่ยวไต้หวันฝั่งตะวันตก
- เจียอี้ (Chiayi): ประตูสู่เขตจุดชมวิวแห่งชาติอาลีซานและสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ทางตอนใต้ของไต้หวัน เช่น ทางรถไฟสายป่าอาลีซาน ถนนโบราณเฟิ่นฉี่หู หมู่บ้านฮิโนกิ อุทยานเจียอี้ พิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติสาขาภาคใต้ และตลาดนัดกลางคืนเหวินฮั่ว → ค่ารถไฟ THSR จากไทเป 1,080 TWD (1 ชม. 13 นาที)
- เหมียวลี่ (Miaoli): มีชื่อเสียงด้านทัศนียภาพที่งดงาม เหมาะสำหรับการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์รถไฟเหมียวลี่ ถนนเก่าหนานจวง สถานีเซิงซิง และฟาร์มวัวบิน → ค่ารถไฟ THSR จากไทเป 430 TWD (46 นาที)
- จางฮั่ว (Changhua): เมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ โดยมีวัดที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีและถนนสายเก่าที่เหมาะสำหรับการสัมผัสกับวัฒนธรรมไต้หวัน เช่น ถนนสายโบราณลู่กั่ง วัดหลงซานเมืองลู่กั่ง โรงจอดรถไฟเก่าจางฮั่ว สวนเทียนเหว่ย จุดชมวิววัดพระดำใหญ่ และจุดชมธรรมชาติเขาชานซาน → ค่ารถไฟ THSR จากไทเป 820 TWD (1 ชม. 16 นาที)
- หยุนหลิน (Yunlin): เป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงด้านการเกษตร โดยรวมที่เที่ยวน่าสนใจ เช่น วัดเป๋ยกั่งเฉาเทียน หอเรื่องราวหยุนหลิน สวนอุโมงค์สีเขียว สวนสนุกเจี้ยนหูซานแฟนซีเวิลด์ และเส้นทางโบราณเฉาหลิง → ค่ารถไฟ THSR จากไทเป 930 TWD (1 ชม. 28 นาที)
เที่ยวไต้หวันตอนใต้
- ไถหนาน (Tainan): หนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของไต้หวัน มีชื่อเสียงในด้านประวัติศาสตร์อันยาวนาน วัดวาอาราม และอาหารท้องถิ่น โดยรวมที่เที่ยวน่าสนใจ เช่น ป้อมเก่าอันผิง หอคอยจื่อคั่น วัดขงจื๊อไถหนาน พิพิธภัณฑ์ฉีเหม่ย ห้างสรรพสินค้าฮายาชิ ตลาดกลางคืนไถหนาน และถนนโบราณเซินหนง → ค่ารถไฟ THSR จากไทเป 1,350 TWD (1 ชม. 45 นาที)
- เกาสง (Zuoying): เมืองใหญ่อันดับสองของไต้หวัน มีที่เที่ยวน่าไปเยือน เช่น สระดอกบัวเกาสง ตลาดกลางคืนลิ่วเหอ อนุสรณ์พุทธสถานโฝกวงซาน เจดีย์คู่มังกรเสือ และศูนย์ศิลปะ Pier-2 Art Center → ค่ารถไฟ THSR จากไทเป 1,490 TWD (1 ชม. 34 นาที)
- อุทยานแห่งชาติเขิ่นติง (Kenting National Park): เป็นอุทยานแห่งชาติเขตร้อนเพียงแห่งเดียวของไต้หวัน เหมาะสำหรับการใช้เวลาพักผ่อนริมทะเล เดินเล่นริมชายหาด สำรวจเส้นทางเดินป่า และเดินเที่ยวตลาดกลางคืนเขิ่นเติง
- ตงกัง (Donggang): เมืองชายฝั่งทะเลที่มีชื่อเสียงด้านอาหารทะเลสดและวัดตงหลง เหมาะสำหรับพักผ่อนช่วงหน้าร้อน
- เกาะหลิวกิว (Liuqiu Island): เกาะปะการังเล็กๆ นอกชายฝั่งผิงตง ขึ้นชื่อเรื่องน้ำทะเลใสและสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล เหมาะสำหรับกิจกรรมดำน้ำตื้น ดำน้ำลึก และสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติของเกาะ
เที่ยวไต้หวันด้วยตัวเอง ใช้งบเท่าไร
ค่าใช้จ่ายสำหรับเที่ยวไต้หวัน 7 วัน สำหรับ 2 คน อยู่ที่ประมาณ 54,124 TWD คิดเป็นเงินไทยประมาณ 61,637 บาท ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายอาจเพิ่มขึ้นหรือลดลงตามปัจจัยต่าง ๆ เช่น ค่าที่พัก การเดินทาง อาหาร กิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงค่าเช่ารถ ซึ่งตัวเลขนี้ยังไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน เช็คราคาและจองตั๋วเครื่องบินราคาประหยัดได้ที่นี่
budget
โรงแรม: 500-2,500 TWD
โฮสเทล: 500-2,000 TWD
การเดินทาง: 860-2,500 TWD
ซื้อตั๋วเดินทาง
กิจกรรมและตั๋ว: 100-450 TWD
รถเช่า: 1,000-1,500 TWD
อาหาร: 50-300 TWD/มื้อ
เครื่องดื่ม: 60-250 TWD/วัน
เที่ยวอย่างอุ่นใจไปกับบัตรเดบิต Wise สำหรับใช้จ่ายทั่วโลก สามารถใช้ถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มต่างประเทศตามอัตราแลกเปลี่ยนจริงโดยไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง ใช้ชำระค่าอาหาร จองที่พักหรือตั๋วเครื่องบิน รวมถึงในร้านค้าออนไลน์ทั่วโลกกว่า 50+ สกุลเงิน ทั้งยังรองรับการชำระผ่าน MasterCard, Apple Pay และ Google Pay โดยไม่ต้องกังวลในการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน ใช้มานานกว่า 4 ปีไม่ผิดหวัง → สมัครรับบัตรเดบิต Wise ไว้ใช้ประโยชน์ด้วยตัวเองตอนนี้เลย
แหล่งข้อมูลวางแผนเที่ยว
Thank you
การเปิดเผย: บทความนี้มีลิงก์แอฟฟิลิเอทบางส่วน การกดที่ลิงก์ไม่มีค่าใช้จ่าย หากซื้อสินค้าหรือบริการจากลิงก์ดังกล่าว เราอาจได้รับค่ากำลังใจเล็กน้อยสำหรับนำไปพัฒนาบล็อก 🧡