เจนีวา (Geneva) เป็นหนึ่งในเมืองสวยงามน่าเที่ยวของสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่ทางทางตะวันตกเฉียงใต้ของทะเลสาบเจนีวา ใกล้กับเมืองโลซานน์ (Lausanne) เพียง 67 กิโลเมตร และยังเป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 2 ในสวิตเซอร์แลนด์
เจนีวาไม่เพียงแต่ขึ้นชื่อเรื่องทะเลสาบและน้ำพุชื่อดังเท่านั้น แต่ยังเป็นที่ตั้งขององค์กรสำคัญระหว่างประเทศหลายแห่ง เช่น องค์การสหประชาชาติ องค์การอนามัยโลก และองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก รวมถึงที่เที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมและย่านเมืองเก่าที่งดงามจนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก บทความนี้จะพาไปเดินสำรวจเมืองเจนีวาด้วยกัน พร้อมที่เที่ยวและน่ากิจกรรมน่าสนใจ รวมถึงคำแนะนำสำหรับการขับรถเที่ยวในสวิตเซอร์แลนด์ด้วยตัวเอง
เดินเที่ยวเจนีวาครึ่งวันทำอะไรได้บ้าง?
ทริปเที่ยวเจนีวาเป็นส่วนหนึ่งของ → แผนขับรถเที่ยวในยุโรปตอนกลาง ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี สโลวีเนีย ฮังการี สโลวาเกีย และสาธารณรัฐเช็ก ซึ่งเราได้แชร์ประสบการณ์และข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับการเที่ยวในประเทศเหล่านี้ไว้อย่างละเอียด ใครที่สนใจสามารถแวะไปอ่านเพิ่มเติมได้ตามลิงก์แนบ
เที่ยวเจนีวา: สะพานคนเดินมองบลังค์เจนีวา (Pont du Mont-Blanc)
สะพานมองบลังค์ตั้งอยู่ในย่านท่องเที่ยวของเมืองเจนีวาทอดข้ามแม่น้ำโรน (Rhône) และเชื่อมต่อย่าน “Paquis” และใจกลางเมือง มีจุดเด่นในเรื่องทัศนียภาพที่งดงามของทะเลสาบและน้ำพุเจ็ตเดออัว รวมไปถึงบ้านเรือนและตึกรามราคาแพงของโรงแรมที่ตั้งอยู่โดยรอบ ทางซ้ายมือของสะพานยังเป็นที่ตั้งของท่าเรือเฟอร์รี่มองบลังค์ (Mont-Blanc) เช่นเดียวกับใต้สะพานมีเส้นทางเดินเพื่อไปชมน้องเป็ดว่ายน้ำและสัมผัสความเย็นของแม่น้ำสีเขียวดุจมรกต
ช่วงที่เราไปมีการจัดงานแข่งขันวิ่งมาราธอนพอดีทำให้บรรยากาศทั่วเมืองคึกคักไปด้วยเสียงเพลงและแน่นขนัดด้วยผู้ชมที่มายืนให้กำลังใจผู้เข้าแข่งขัน และนั้นก็เป็นความโชคดีอีกอย่างที่เราตัดสินใจจอดรถไว้นอกเมือง เพราะกว่าที่จะไปวนหาที่จอดรถได้อาจใช้เวลานานกกว่าปกติ
เที่ยวเจนีวา: สวนสาธารณะสไตล์อังกฤษ (Jardin Anglais)
เดินตามสะพานมองบลังค์ไปจนสุดถนนจะเข้าสู่พื้นที่สีเขียวยอดนิยมอีกหนึ่งแห่งของเมืองนั้นก็คือสวนสาธารณะสไตล์อังกฤษจากต้นศตวรรษที่ 19 ด้านในมีจุดถ่ายภาพยอดนิยมที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ “นาฬิกาดอกไม้” (L’Horloge Fleurie) ที่ใหญ่ที่สุดของโลก โดยมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 24 เมตรเลยทีเดียว นาฬิกานี้ทำจากดอกไม้และต้นไม้หลากสีราว 6,500 ต้น และจะเปลี่ยนปีละสองครั้งเพื่อบ่งบอกถึงฤดูกาลที่เปลี่ยนไป ส่วนหน้าปัดนาฬิกายังทำจากทองแดงและประดับด้วยมือเคลือบทอง ทั้งหมดนี้ใช้กลไกลขับเคลื่อนนาฬิกาที่ผลิตในสวิตและมีความแม่นยำสูง
เที่ยวเจนีวา: น้ำพุเจ็ตเดออัว (Jet d’Eau)
น้ำพุเจ็ตเดออัวเป็นน้ำพุขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงของเมืองเจนีวา ตั้งอยู่ในจุดที่แม่น้ำโรนไหลออกจากทะเลสาบเจนีวา สามารถเดินมาชมความสวยงามได้โดยใช้ถนน “Quai Gustave-Ador” ที่อยู่ติดกับสวนสาธารณะสไตล์อังกฤษ
ความน่าสนใจของน้ำพุเจ็ตเดออัวคงนี้ไม่พ้นสายน้ำที่พุงตัวขึ้นไปในอากาศถึง 40 เมตร เกิดเป็นภาพที่สวยงามมองเห็นได้ทั่วบริเวณ และถ้าอยากเห็นใกล้ ๆ ลองเดินตามเส้นทางพื้นปูนของท่าเทียบเรือขนาดเล็ก (Jetée des Eaux-Vives) ไปยังจุดที่น้ำพุก่อตัว ที่นี่ยังมีการจัดแสดงแสงสีที่น่าประทับใจในตอนกลางคืนอีกด้วย
เที่ยวเจนีวา: สำรวจย่านเมืองเก่าเจนีวา (Geneva Old Town)
จากน้ำพุเจ็ตเดออัวเราจะพาข้ามไปสำรวจย่านเมืองเก่าด้วยกัน ที่นั้นไม่เพียงแต่รวมสถานที่เที่ยวทางประวัติศาสตร์ไว้ได้อย่างน่าสนใจ แต่เรายังจะได้เห็นบ้านเรือนที่สะท้อนกลิ่นอายของการใช้ชีวิตของคนในพื้นที่ รวมไปถึงถนนสายเล็ก ๆ ที่ปูด้วยหินบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ผ่านจัตุรัสขนาดซึ่งรายล้อมด้วยอาคารประวัติศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ลึกลับ และทางเดินเก่าแก่ชื่อดังที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี
เที่ยวเจนีวา: มหาวิหารเซนต์ปิแอร์ (St Pierre Cathedral)
มหาวิหารเซนต์ปิแอร์เป็นที่เที่ยวทางวัฒนธรรมชื่อดังในย่านเมืองเก่าเจนีวา สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับนักบุญปีเตอร์และเป็นโบสถ์หลักของเมือง ความโดดเด่นของมหาวิหารแห่งนี้คือตัวโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดมีอายุย้อนไปถึงศตวรรษที่ 11 ในขณะที่หอคอยแบบแบบโรมาเนสก์มาจากศตวรรษที่ 12 เช่นเดียวกับทางเดินแบบกอทิกที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 ทั้งหมดนี้ยังไม่รวมถึงวิวจากยอดหอคอยที่ให้ทิวทัศน์ตระการตาของเมือง
เราสามารถเข้าถึงมหาวิหารเซนต์ปิแอร์โดยใช้ถนน “Quai Gustave-Ador” ทางด้านหลังสวนสาธารณะสไตล์อังกฤษยาวไปจนสุดถนน Rue du Cloître จะมองเห็นมหาวิหารตั้งอยู่ติดกับพิพิธภัณฑ์นานาชาติแห่งการปฏิรูป (International Museum of the Reformation) ใช้เวลาเดินรวม 16 นาทีพอดิบพอดี
ด้านในมหาวิหารเซนต์ปิแอร์มีไฮไลท์ที่ห้ามพลาดก็คือ “หน้าต่างกระจกสีดอกกุหลาบ” จากศตวรรษที่ 14 รวมไปถึงแผงนักร้องประสานเสียงที่มีอายุย้อนไปถึงศตวรรษที่ 15 และแท่นบูชาสูงซึ่งมีอายุย้อนไปถึงศตวรรษที่ 17 ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมความงามด้านในได้ฟรี ส่วนหอคอยมีค่าเข้าชม 7 ยูโร และนั้นก็คุ้มมากที่จะใช้เวลาเดินขึ้นไปข้างบนโดยมีวิวสวย ๆ เป็นรางวัลตอบแทน
เที่ยวเจนีวา: พิพิธภัณฑ์แหล่งโบราณคดีของมหาวิหารเซนต์ปิแอร์ (Archaeological Site of Saint-Pierre Cathedral)
แหล่งโบราณคดีของมหาวิหารเซนต์ปิแอร์เป็นส่วนหนึ่งของมหาวิหารเซนต์ปิแอร์ตั้งอยู่ทางหลังสามารถเดินอ้อมมาได้ ความน่าสนใจของที่นี่ไม่เพียงแต่เป็นที่ตั้งของบิชอปแห่งเจนีวาและโบสถ์แม่โปรเตสแตนต์ปฏิรูปเท่านั้น แต่ด้านในยังจัดแสดงโบราณวัตถุ และซากปรักหักพังของอาคารที่เคยไฟไหม้ในปี ค.ศ. 1184 ผ่านแผนผังนิทรรศการและทางเดินที่เข้าใจง่าย มีค่าเข้าชม 8 CHF เปิดทุกวัน เวลา 10:00-17:00 น.
เที่ยวเจนีวา: พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น (Tavel House)
ไม่ไกลจากมหาวิหารเซนต์ปิแอร์ถ้าเราเดินไปตามถนน Rue du Soleil-Levant จนสุดแล้วจะเห็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นตั้งอยู่เยื้องขวามือ พิพิธภัณฑ์นี้มีชื่อว่า “Maison Tavel” ซ่อนตัวอยู่ในทาวน์เฮาส์ยุคกลางย่านเมืองเก่า และยังหนึ่งในอาคารที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังหลงเหลืออยู่ในเมือง ด้านในเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมฟรีทุกวัน (ยกเว้นวันจันทร์) เวลา 11:00-18:00 น. โดยจัดแสดงเครื่องเรือนศิลปะและของตกแต่งย้อนยุคที่บอกเล่าถึงประวัติศาสตร์ของเมืองและชีวิตประจำวันของพ่อค้าและช่างฝีมือผู้มั่งคั่งที่อาศัยอยู่ในเจนีวาในช่วงยุคกลางและยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา
นอกจากมหาวิหารเซนต์ปิแอร์ แหล่งโบราณดี และพิพิธภัณฑ์สำคัญที่สามารถเลือกเข้าชมได้แล้ว ย่านเมืองเก่ายังมีจุดน่าสนใจอีกหลายแห่ง เช่น จัตุรัสสาธารณะ “Place du Bourg-de-Four” พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง “L’Ancien Arsenal Old Arsenal” ที่จัดแสดงปืนใหญ่ที่มีชื่อเสียง หอจดหมายเหตุแห่งรัฐ และจิตรกรรมฝาผนังที่แสดงถึงช่วงเวลาสำคัญในประวัติศาสตร์ของเจนีวา รวมไปถึงที่เที่ยวที่พลาดไม่ได้เลยก็คือทางเดินเก่าแก่ที่สุดในเจนีวา
เที่ยวเจนีวา: ทางเดินเก่าแก่ที่สุดในเจนีวา (Promenade de la Treille)
ทางเดินเก่าแก่ที่สุดในเจนีวามีอายุย้อนไปถึงปี ค.ศ. 1515 ไม่เพียงแต่เป็นจุดที่มีบรรยากาศร่มรื่นและเหมาะสำหรับการนั่งพักผ่อนเท่านั้น แต่ยังโดดเด่นด้วยม้านั่งสีเขียวที่ยาวที่สุดในโลกถึง 120 เมตรด้วยกัน ใจกลางของถนนมีรูปปั้นของ “Charles Pictet de Rochemont” รวมถึงต้นเกาลัดที่ให้ร่มเงาแก่ผู้ที่เดินผ่านไปมา และถ้าไปยืนยังจุดชมวิวสามารถมองเห็นทิวทัศน์อันน่าทึ่งของชานเมืองและชนบทโดยรอบ
จาก Promenade de la Treille เดินลงเนินเขาไปจะเจอกับจัตุรัสหลักของเจนีวาชื่อว่า “Place de Neuve Square” ที่แปลว่า “สถานที่ใหม่” ใจกลางจัตุรัสเราจะมองเห็นรูปปั้นนายพล Guillaume-Henri Dufour บนหลังม้า ขวามือคือโรงละครใหญ่แห่งเจนีวา (Grand Théâtre de Genève) ส่วนซ้ายมือคือสวนสาธารณะทางประวัติศาสตร์ (Bastions Park)
เที่ยวเจนีวา: สวนสาธารณะทางประวัติศาสตร์ (Bastions Park)
ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เคยเป็นป้อมปราการของเมือง ด้านในมีสวนสนามหญ้าเปิดโล่งขนาดใหญ่ สวนดอกกุหลาบ สนามเด็กเล่น และพื้นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยเจนีวา รวมถึงอนุเสาวรีย์กำแพงการปฏิรูปนิกายโปรเตสแตนต์ “Reformation Wall” ที่มีชื่อเสียงระดับโลกพร้อมด้วยรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ของนักปฏิรูปชั้นนำหลายคน เช่น John Calvin, Theodore Beza, John Knox และ William Farel เป็นต้น ที่กำแพงยังจารึกคำอธิษฐานของพระเจ้าไว้สี่ภาษาด้วยกัน
นอกจากสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ให้ได้เรียนรู้กันแล้ว ที่ด้านหน้าสวนสาธารณะมี “Public Chess Board” กระดานหมากรุกสาธารณะให้ผู้คนได้เล่นหมากรุกกลางแจ้งฟรีสำหรับทุกวัยอีกด้วย และกระดานหมากรุกแบบนี้ยังตั้งอยู่ที่จัตุรัสอื่น ๆ ของเมืองด้วย คือ Plainpalais, Jet d’Eau และ Bains des Pâquis
เดินเที่ยวรอบย่านเมืองเก่ามาหลายชั่วโมงต่อไปเราจะข้ามไปฝั่งย่านนอกเมืองกันบ้าง ซึ่งที่นั้นแน่นอนว่าจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากการแวะไปชมสำนักงานสหประชาชาติที่มีชื่อเสียงของเจนีวา โดยขึ้นรถรางจากสถานี “Cirque” สาย 15 ไปลงที่ป้าย “Nations” ใช้เวลาเดินทาง 20 นาที พอเดินออกจากป้ายก็จะเจอกับสำนักงานสหประชาชาติเลย ถ้าใครจะขึ้นรถสายบัส 5 หรือ 20 จากป้าย “Place de Neuve” ที่อยู่ด้านสวนสาธารณะไปลงที่ป้าย “Nations” ก็ได้เช่นกัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 22 นาที
เที่ยวเจนีวา: สำนักงานสหประชาชาติ ณ กรุงเจนีวา (United Nations Office at Geneva)
สำนักงานสหประชาชาติ ณ กรุงเจนีวา (UNOG) เป็นหนึ่งในสี่สำนักงานหลักของสหประชาชาติ และทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางขององค์กรและหน่วยงานต่าง ๆ ของสหประชาชาติ รวมถึงองค์การอนามัยโลก (WHO) องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO) และสำนักงานข้าหลวงใหญ่แห่งสหประชาชาติ สิทธิมนุษยชน (OHCHR)
ด้านหน้าสำนักงานสหประชาชาติเราสามารถมองเห็นธงชาติของแต่ละประเทศตั้งเรียงกันสี่แถวอย่างเป็นระเบียบ มองดูแล้วให้ความรู้สึกสันติอย่างบอกไม่ถูก ส่วนด้านในนั้นเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมพร้อมกับไกด์ทัวร์ ราคาตั๋ว 16 CHF (ควรจองตั๋วล่วงหน้าประมาณ 3 เดือนเพื่อให้ได้ตั๋วเข้าชม) ทัวร์ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง โดยมีไฮไลท์ที่น่าสนใจ เช่น
- ห้อง Human Rights and Alliance of Civilizations
- ห้องสมุดของ Palais des Nations และพิพิธภัณฑ์สหประชาชาติ
- ภาพยนตร์เกี่ยวกับประวัติของ Assembly Hall ซึ่งเป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดในอาคาร
- อนุสาวรีย์ที่ระลึกถึงการพิชิตอวกาศในสวนสาธารณะ Ariana Park
- ห้องประชุมสภาที่มีการเจรจาครั้งสำคัญทางประวัติศาสตร์เกิดขึ้นหลายครั้ง
- ส่วนที่เป็นห้องของขวัญจากประเทศต่าง ๆ ที่มอบให้แก่สำนักงานสหประชาชาติ
- รวมถึงพลาซ่าและทางเข้าอาคารแห่งความทันสมัยและยั่งยืน
เที่ยวเจนีวา: เก้าอี้สามขา (Broken Chair)
“The Broken Chair” ตั้งอยู่ตรงข้ามกับสำนักงานสหประชาชาติ เป็นประติมากรรมที่ทำจากไม้ สูง 12 เมตร และหนัก 4 ตัน สร้างโดยศิลปินชาวสวิส “Daniel Berset” ในปี ค.ศ. 1997 โดยมีจุดเด่นคือขาเก้าอี้หนึ่งข้างที่หัก เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจถึงความทุกข์ทรมานของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อและผลที่ตามมาของการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล และยังเป็นสัญลักษณ์สำคัญของการทำงานของสหประชาชาติและองค์กรระหว่างประเทศในการส่งเสริมสันติภาพ สิทธิมนุษยชน และการลดการค้าอาวุธ
เที่ยวเจนีวา: สวนพฤกษศาสตร์แห่งเจนีวา (Geneva Botanical garden)
สวนพฤกษศาสตร์แห่งเจนีวาตั้งอยู่ใกล้กับสำนักงานสหประชาชาติ เป็นสวนพฤกษศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1559 สามารถเข้าถึงที่นี่ได้ด้วยการเดินจากสำนักงานสหประชาติไปตามถนน Av. de la Paix ประมาณ 10 นาทีก็จะเจอกับทางเข้าสวนที่ตั้งอยู่ด้านหน้าป้ายรถบัส “Genève-Sécheron”
เอาจริง ๆ สวนนี้ดีเกินความคาดหมายเพราะตอนแรกตั้งใจจะไปนั่งพักผ่อนเฉย ๆ หลังจากเดินเที่ยวมาทั้งวัน แต่ที่ไหนได้นอกจากจะได้นั่งพักผ่อนกินลมชมวิวพร้อมบรรยากาศที่ดีแล้ว ยังได้มีโอกาสเห็นสวนดอกไม้และต้นไม้ที่เขาจัดไว้เป็นโซนอย่างน่าสนใจ และที่สำคัญมีถึง 16,000 สายพันธุ์จากทั่วทุกมุมโลกเลยทีเดียว
นอกจากสวนดอกไม้กลางแจ้งที่สวยงามแล้ว ยังมีเรือนกระจกหลายแห่งที่จัดแสดงพืชเขตร้อนหลายชนิด รวมไปถึงพืชที่ไม่สามารถอยู่รอดได้ในสภาพอากาศท้องถิ่น บางส่วนของพื้นที่กลางแจ้งยังเห็นน้องแกะกินหญ้าอย่างเอร็ดอร่อยในพื้นที่ฟาร์มที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการอนุรักษ์สัตว์หายากและใกล้สูญพันธุ์ในสวิตเซอร์แลนด์ ทั้งหมดนี้ยังไม่นับรวมจุดน่าสนใจอื่น ๆ ที่มีถึง 30 จุดด้วยกัน
สรุปแล้วที่นี่เหมาะมากสำหรับการเดินเล่นพักผ่อน ใช้เวลาไปกับคนที่เรารัก รวมไปถึงถ่ายรูปสวย ๆ ได้เป็นอย่างดี เราเดินกันไปประมาณสองชั่วโมงยังเดินไม่ครอบคลุม 30 จุดน่าสนใจเลย ระหว่างทางก็เห็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวจูงมือกันมาถ่ายรูปพรีเวดดิ้งด้วย โอ้ยน่ารักจริง ๆ ยังไงต้องขอบคุณแฟนด้วยที่พามาปิดท้ายทริปเที่ยวเมืองเจนีวาด้วยกันที่นี่ แฮปปี้ม๊ากมากเด้อ
เมืองน่าเที่ยวใกล้เจนีวา
เที่ยวเมืองโลซานน์ (Lausanne) สวิตเซอร์แลนด์
โลซานน์เป็นเมืองหลวงของแคว้นโวในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลสาบเจนีวาและเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของสวิตเซอร์แลนด์ ความโดดเด่นของเมืองโลซานน์คือมีท่าเรือริมทะเลสาบเหมาะสำหรับการเดินเล่นและสูดอากาศบริสุทธิ์ รวมไปถึงเยี่ยมชมทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์หลายแห่ง เช่น พิพิธภัณฑ์โอลิมปิก อาสนวิหารโลซานน์ พิพิธภัณฑ์การออกแบบร่วมสมัยและศิลปะประยุกต์ สวนสาธารณะสไตล์อังกฤษ ศูนย์การเรียนรู้โลเล็กซ์ ตลอดจนย่านใจกลางเมืองที่ผสมผสานระหว่างอาคารโบราณและแหล่งชอปปิงสมัยใหม่ สะท้อนความมีชีวิตชีวาของเมืองได้อย่างลงตัว เหมาะสำหรับการเที่ยวแบบครึ่งวัน แบบเดย์ทริป หรือแบบ 1-2 วันกำลังดี
เที่ยวเมืองชาโมนิกซ์-มองบลังค์ (Chamonix-Mont-Blanc) ฝรั่งเศส
เมืองชาโมนิกซ์ตั้งอยู่ในแคว้นโอแวร์ญ-โรนาลป์ (Auvergne-Rhône-Alpes) ทางตะวันออกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส และอยู่ทางตอนเหนือของยอดเขามองบลังค์ (Mont Blanc) ระหว่างยอดเขา “Aiguilles Rouges” และ “Aiguille du Midi” ที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่เที่ยวยอดนิยมจากเมืองเจนีวา มีชื่อเสียงเกี่ยวกับกีฬาฤดูหนาว และยังเป็นหนึ่งในที่ตั้งของสกีรีสอร์ทที่เก่าแก่ที่สุดในฝรั่งเศสอีกด้วย
แน่นอนว่าถ้าไปเที่ยวเมืองชาโมนิกซ์แล้วต้องไม่พาดที่จะขึ้นกระเช้าไปยอดเขา Aiguille du Midi ที่ความสูง 3,842 เมตร เพื่อชมความสวยงามของภูเขามองบลังค์ที่สูงที่สุดในเทือกเขาแอลป์และยุโรปตะวันตก ถ้ายังไม่จุใจสามารถนั่งรถไฟสาย “Montenvers” ไปชมธารน้ำแข็ง “Mer de Glace” ขนาดใหญ่ที่มีความยาวกว่า 7 กิโลเมตร หรือจะแวะไปเดินป่าที่ หมู่บ้านสกีรีสอร์ท Saint-Gervais-Le-Bettex ก็เป็นไอเดียที่ดีเช่นกัน
การเดินทางไปยังเมืองชาโมนิกซ์-มองบลังค์
นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังเมืองชาโมนิกซ์-มองบลังค์สะดวกด้วยรถบัสหรือรถไฟ สำหรับรถบัสใช้เวลาน้อยกว่ารถไฟอยู่ที่ 1 ชั่วโมง 21 นาที มีรถบัสของ Swiss Tours, BlaBlaCar Bus และ FlixBus ให้บริการจากสถานีรถไฟเจนีวาไปยังสถานีรถไฟชาโมนิกซ์-มองบลังค์ → ค้นหาตั๋วรถบัสราคาดีที่สุดจากเจนีวาไปเมืองชาโมนิกซ์มองบลังค์
ในขณะที่รถไฟใช้เวลา 3 ชั่วโมง 21 นาที มีรถไฟของ Swiss Railways (SBB/CFF/FFS) และ SNCF วิ่งจากสถานีรถไฟเจนีวาไปยังสถานีรถไฟชาโมนิกซ์-มองบลังค์ ส่วนรถยนต์สามารถเข้าถึงเมืองชาโมนิกซ์-มองบลังค์ได้ในเวลา 55 นาที → ค้นหาตั๋วรถไฟราคาดีที่สุดจากเจนีวาไปชาโมนิกซ์มองบลังค์
สำหรับใครที่มาแบบหลายคนหรือต้องการความสะดวกในการเดินทาง → มีทัวร์แบบเดย์ทริปจากเจนีวาไปเมืองชาโมนิกซ์-มองบลังค์ รวมรถรับส่งเรียบร้อย และยังมาพร้อมตัวเลือกขึ้นกระเช้าไปชมยอดเขามองบลังค์และธารน้ำแข็งด้วย
เที่ยวเมืองอินเทอร์ลาเคิน (Interlaken) สวิตเซอร์แลนด์
อินเทอร์ลาเคินเป็นเมืองตากอากาศในเขตเบิร์น (Bern) ของสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่ใจกลางเทือกเขา “Swiss Alps” ระหว่างทะเลสาบ “Thun” และทะเลสาบ “Brienz” จุดเด่นของเมืองอินเทอร์ลาเคินคือเรื่องทิวทัศน์ที่สวยงามและมีกิจกรรมกลางแจ้งให้เลือกทำหลากหลาย เช่น การเดินป่า เล่นสกี เล่นร่มร่อน รวมไปถึงขึ้นกระเช้าไปยังจุดชมวิวบนยอดเขา “Harder Kulm” ที่ความสูง 1,321 เมตร เช่นเดียวกับการนั่งรถไฟไปยังยุงเฟรายอค (Jungfraujoch) ที่ระดับความสูง 3,454 เมตร เป็นสถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรปและยังสามารถมองเห็นทิวทัศน์มุมกว้างของภูเขาโดยรอบรวมทั้ง Jungfrau, Monch และ Eiger อีกด้วย
การเดินทางในเจนีวา
ผู้ที่วางแผนเที่ยวเจนีวา 1-3 วันสามารถใช้บัตร Geneva City Pass เพื่อรับสิทธิประโยชน์เดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนในเจนีวาได้ฟรี บัตรนี้ยังสามารถนำไปเข้าชมที่เที่ยวและพิพิธภัณฑ์ยอดนิยมรวมกว่า 40 แห่ง รวมถึงเข้าร่วมทัวร์ต่าง ๆ และเพลิดเพลินไปกับกีฬาและกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น การพายเรือและล่องเรือในทะเลสาบได้อีกด้วย → ค้นพบสิทธิประโยชน์มากมายและเป็นเจ้าของบัตร Geneva City Pass
เรื่องน่ารู้ก่อนมาเที่ยวเจนีวา
- เจนีวาเป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับสองในสวิตเซอร์แลนด์ และยังเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในกลุ่มโรมาดี ซึ่งที่นั้นส่วนใหญ่พูดภาษาฝรั่งเศสของสวิตเซอร์แลนด์
- เจนีวาขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพชีวิตที่ดี และได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดเป็นอันดับสองในยุโรป (รองจากซูริก)
- ใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาทางการ แต่ผู้คนยังสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี ส่วนภาษาเยอรมันและอิตาลีก็พูดกันอย่างแพร่หลายเช่นกัน
- ในฤดูหนาวอากาศเย็นจัด มีเมฆมากและมีฝนตกชุก ส่วนฤดูร้อนอากาศจะเย็นสบายถึงอบอุ่น
- ใช้สกุลเงินฟรังก์สวิส (CHF) 1 ยูโร ≈ 1.05 CHF
- มีระบบขนส่งมวลชนที่ดีเยี่ยม ทั้งรถประจำทาง รถราง และรถไฟ
- ที่เที่ยวยอดนิยมส่วนใหญ่ตั้งอยู่ใกล้กัน เดินเที่ยวสะดวก หรือใช้บริการระบบขนส่งมวลชน
- พิพิธภัณฑ์ส่วนใหญ่มีค่าเข้าชมเฉลี่ย 10-20 CHF และมักปิดในวันจันทร์ ควรจองตั๋วเข้าชมล่วงหน้า เช่นเดียวกับทัวร์สำนักงานสหประชาชาติที่ต้องจองล่วงหน้า 3 เดือนเพื่อให้ได้ตั๋วเข้าชม
- ถ้าอยากเห็นทิวทัศน์ของเมืองจากมุมสูงแนะนำให้ขึ้นหอคอยมหาวิหารเซนต์ปิแอร์
- มีสวนสาธารณะและสวนพฤกษศาสตร์หลายแห่ง เหมาะสำหรับการพักได้เป็นอย่างดี
- ถ้ามาด้วยรถยนต์แนะนำให้จอดรถที่ P+R Sécheron จากที่นั้นสามารถเดินทางต่อเข้าเมืองด้วยรถไฟได้ภายในเวลา 10 นาที
- หากพักค้างคืนในเมืองเจนีวาและจ่ายภาษีนักท่องเที่ยวอย่าลืมสอบถามเจ้าหน้าที่ของโรงแรมเกี่ยวกับบัตรขนส่งเมืองเจนีวาสามารถนำไปใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะฟรีตลอดระยะการเข้าพักในเจนีวา
การขับรถในสวิตเซอร์แลนด์
แผนขับรถเที่ยวยุโรปใต้
ฝรั่งเศส (Day 0-2)
เนเธอร์แลนด์ (Day 21-22)
แหล่งข้อมูลวางแผนเที่ยว
Thank you
การเปิดเผย: บทความนี้มีลิงก์แอฟฟิลิเอทบางส่วน การกดที่ลิงก์ไม่มีค่าใช้จ่าย หากซื้อสินค้าหรือบริการจากลิงก์ดังกล่าว เราอาจได้รับค่ากำลังใจเล็กน้อยสำหรับนำไปพัฒนาบล็อก 🧡