เฟิ่นฉี่หูเป็นจุดแวะสำคัญของเส้นทางรถไฟสายป่าอาลีซาน ซ่อนตัวอยู่บนภูเขาสูงประมาณ 1,400 เมตร เชื่อมต่อระหว่างเจียอี้และพื้นที่นันทนาการป่าสงวนแห่งชาติอาลีซาน หมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์ที่แปลกตา ถูกโอบล้อมด้วยธรรมชาติและวัฒนธรรมดั้งเดิมของไต้หวัน
โดยมีที่เที่ยวน่าสนใจ เช่น ถนนโบราณที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ และเส้นทางเดินป่าอันเขียวชอุ่ม เฟิ่นฉี่หูยังเป็นที่รู้จักในเรื่องของกล่องข้าวสถานีรถไฟที่มีลักษณะพิเศษ ซึ่งเป็นมรดกตกทอดจากสมัยที่รถไฟเป็นยานพาหนะหลักสำหรับคนงานและผู้โดยสาร ที่สำคัญสถานที่นี้ยังคงรักษาเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์ของรถไฟโบราณไว้ได้อย่างลงตัว ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าไปเยือน
วิธีเดินทางจากอาลีซานไปเฟิ่นฉี่หู (Alishan → Fenqihu)
เฟิ่นฉี่หูเป็นหมู่บ้านขนาดเล็กที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว เนื่องจากตั้งอยู่ไม่ไกลจากอาลีซาน ประมาณ 30 กม. ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับการแวะเที่ยวแบบครึ่งวัน วิธีเดินทางไปเฟิ่นฉี่หูที่สะดวกและเร็วที่สุด คือ นั่งรถบัสสาย 7329A หรือ 7322D จากสถานีอาลีซาน ใช้เวลาประมาณ 50 นาที ค่าโดยสาร 86 TWD ไม่สามารถจองล่วงหน้าได้ ต้องซื้อกับคนขับบนรถ (EasyCard หรือ iPass)
ถ้าขึ้นรถบัสรอบแรกก็ไปถึงเฟิ่นฉี่หูช่วง 10 โมงเช้าพอดี รถบัสจะจอดที่ป้าย Taichung City Chung-Ho Elementary School ใกล้กับสถานีดับเพลิง (ปกติจะไปจอดที่ Fenqihu Terminal Station แต่ถ้าเป็นฤดูท่องเที่ยว หรือวันเสาร์อาทิตย์ รถบัสอาจจะจอดแตกต่างกัน แนะนำให้ถามคนขับเพื่อความแน่ใจ) จากตรงนี้ก็เดินอีก 5-10 นาทีไปยังถนนสายโบราณเฟิ่นฉี่หู (มีป้ายบอกทางไม่ต้องกลัวหลง) และใช้เวลาเดินเที่ยวรอบหมู่บ้านประมาณ 2-3 ชั่วโมง
นักท่องเที่ยวที่ชอบการเดินป่าหรืออยากสัมผัสประสบการณ์นั่งรถไฟโบราณไปชมพระอาทิตย์ขึ้นบนภูเขา อย่าลืมแวะไปอ่าน → คู่มือเที่ยวอาลีซาน 2 วัน
เที่ยวเฟิ่นฉี่หู: รับตั๋วรถไฟสายป่าอาลีซานที่จองไว้
จากจุดที่รถบัสจอดนักท่องเที่ยวสามารถเดินตามเส้นทางในหมู่บ้านไปจนถึงสถานีรถไฟเฟิ่นฉี่หู ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขา ด้านในมีเคาน์เตอร์ขายตั๋วรถไฟสายป่าอาลีซานที่จะวิ่งกลับไปยังเจียอี้ สำหรับใครที่จองตั๋วมาแล้วสามารถมารับตั๋วกระดาษได้ที่นี่ (ไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม) รถไฟมีให้เลือกหลายรอบ รอบที่เราเลือก คือ 14:30-16:51 น. ราคาตั๋ว 384 TWD จะได้มีเวลาเดินเที่ยวแบบไม่รีบ
ส่วนใครที่ไม่ได้จองตั๋วมาก่อน สามารถซื้อได้โดยตรงที่เคาน์เตอร์ (วิธีนี้ไม่แนะนำ) เพราะตั๋วอาจจะขายหมดแล้ว โดยเฉพาะช่วงฤดูเที่ยวดอกซากุระบาน ตั๋วจะขายหมดเร็วมาก ดังนั้นแนะนำให้ซื้อมาก่อนจะดีที่สุด ที่เว็บไซต์ทางการ Alishan Forest Railway (ซื้อล่วงหน้าได้ 15 วันก่อนวันออกเดินทาง) แล้วก็ฝากกระเป๋าไว้ที่ตู้ล็อคเกอร์ในสถานี (60 TWD/ 3 ชม.) จะได้เดินเที่ยวแบบสบายตัว
เที่ยวเฟิ่นฉี่หู: เดินเที่ยวถนนโบราณ
กิจกรรมหลักเมื่อมาเที่ยวเฟิ่นฉี่หูมีอยู่ 3 อย่าง คือ เดินเที่ยวถนนโบราณ ทานข้าวกล่องเบนโตะขึ้นชื่อ แล้วก็เดินเที่ยวชมเส้นทางธรรมชาติ เราจะมาเริ่มกันที่ถนนโบราณเฟิ่นฉี่หู แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ถนนด้านบนและถนนด้านล่างที่เชื่อมต่อกันด้วยเส้นทางเดินป่า ซึ่งถนนด้านบนจะเริ่มจากเนินเขาใกล้สถานีรถไฟลัดเลาะไปตามเส้นทางในหมู่บ้าน ระหว่างทางจะมีร้านค้าแบบดั้งเดิมและแผงขายอาหารท้องถิ่นตั้งอยู่มากมาย ส่วนถนนด้านล่างจะเป็นพื้นที่ชุมชนที่อยู่ถัดจากย่านท่องเที่ยว บรรยากาศจะเงียบสงบกว่า แล้วก็มีเส้นทางเดินชมศาลเจ้าและป่าอันเขียวชอุ่ม
ถนนโบราณเฟิ่นฉี่หูมีความยาวประมาณ 500 เมตร นับว่าเป็นย่านที่คึกคักมากที่สุดในหมู่บ้าน เพราะเวลารถไฟมาจอดนักท่องเที่ยวก็จะเจอกับถนนนี้เลย แต่ก่อนถนนนี้ไม่มีชื่อทางการ แต่ชาวบ้านมักจะเรียกว่า “เจียไจ๋” ซึ่งเป็นสถานที่ของพ่อค้ามารวมตัวกัน ปัจจุบันการท่องเที่ยวเฟื่องฟู เพราะเป็นจุดแวะพักสำคัญของรถไฟสายป่าอาลีซาน อีกทั้งยังเป็นถนนโบราณที่ตั้งอยู่สูงสุดในไต้หวัน ทำให้ถนนสายนี้กลายมาเป็นแหล่งเที่ยวสำคัญที่รองจากอาลีซาน
ลองเดินเล่นไปบนถนนโบราณนจะพบว่าบรรยากาศดีทีเดียว มีร้านค้าตั้งอยู่เต็มสองฝั่ง ส่วนใหญ่จะขายสินค้าที่ระลึกและของฝาก ไม่ว่าจะเป็นชา กาแฟ รวมไปถึงขนมท้องถิ่นน่าลอง ในส่วนของฝากที่เห็นนักท่องเที่ยวถือติดไม้ติดมือกัน คือ ขนมข้าวอบกรอบ นิยมซื้อไปทานกับน้ำชา หรือกินเล่น บางร้านก่อนซื้อจะมีตัวอย่างให้ชิมด้วย ถ้าร้านใหญ่ ๆ หน่อยจะมีสาธิตวิธีการทำให้ดูอีกต่างหาก
ในส่วนของขนมท้องถิ่นน่าลองจะมีหลายอย่าง เช่น เค้กข้าวเหนียว เป็นขนมโฮมเมคสูตรคุณยาย ผสมไส้มันเทศ งาดำ และถั่วแดง พอลองแล้วเคี้ยวหนึบหนับและไม่หวานจนเกินไป ขนมอีกอย่างที่น่าทาน คือ โดนัทอบร้อน ๆ เคลือบด้วยน้ำตาลบาง ๆ ทำให้ด้านนอกกรอบ ส่วนด้านในนุ่มและเคี้ยวหนึบ ขอแอบกระซิบว่าอร่อยจนต้องซื้อชิ้นที่สอง (ชิ้นละ 15 TWD)
นอกจากขนมแล้วก็ยังมีน้ำเยลลี่อ้ายหยู่ปิง (Aiyu Jelly) หรือที่เรียกอีกอย่างว่า “เยลลี่น้ำแข็ง” ที่ต้องไปลองกันอีกด้วย เป็นเครื่องดื่มแบบดั้งเดิมของไต้หวันที่ได้รับความนิยมเป็นพิเศษในแถบภูเขา ทำมาจากเมล็ดของผลไม้สกุลมะเดื่อชนิดหนึ่ง ซึ่งจะเก็บและนำมาแช่น้ำ ก่อนจะถูเพื่อให้เกิดเจลที่ก่อตัวเป็นเยลลี่ตามธรรมชาติ เวลาทานจะได้กลิ่นหอม ๆ และความหนึบหนับของเยลลี่ นิยมเสิร์ฟพร้อมมะนาวฝาน น้ำผึ้ง หรือน้ำเชื่อมเพื่อเพิ่มความหวาน (สามารถเลือกได้) บางร้านก็เพิ่มเม็ดแมงลักลงไปด้วย แก้วละ 20 TWD ดื่มแล้วช่วยผ่อนคลายระหว่างเดินเที่ยวได้ดี
เที่ยวเฟิ่นฉี่หู: ทานข้าวกล่องเบนโตะขึ้นชื่อ
อย่างที่เกริ่นไปว่ามาเที่ยวเฟิ่นฉี่หูก็ต้องมาลองทานกล่องเบนโตะ ซึ่งเป็นอาหารที่มีชื่อเสียงที่สุดของที่นี่ กล่องเบนโตะมีต้นกำเนิดในยุคแรก ๆ ของเส้นทางรถไฟป่าอาลีซาน โดยเป็นอาหารมื้อใหญ่สำหรับพนักงานรถไฟและผู้โดยสาร ประกอบไปด้วยข้าว หมูตุ๋น และผักดอง เมื่อบรรจุลงในกล่องทำให้ทานง่ายและสะดวก แม้เวลาจะผ่านไปข้าวกล่องเบนโตะก็ยังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น และกลายมาเป็นเป็นสัญลักษณ์ของเฟิ่นฉี่หูนั้นเอง
นักท่องเที่ยวสามารถหาซื้อข้าวกล่องเบนโตะได้ตามร้านอาหารทั่วไป ร้านที่มีชื่อเสียงจะตั้งอยู่ในโรงแรมเฟิ่นฉี่หูใกล้กับ 7-11 กล่องละ 190 TWD นอกจากแถวนี้จะมีอีกสองสามร้านที่อยู่ทางเดินลงไปยังถนนฝั่งด้านล่าง เช่น ร้าน 101 鐵路便當 เก่าแก่จากปี 1960 มีข้าวกล่องให้เลือกทานหลายแบบ (ไก่ หมู หรือซี่โครงหมู) มาพร้อมเครื่องเคียงและผักดอง ชุดละ 100 TWD ราคาไม่แรง อิ่มท้องกำลังดี
เที่ยวเฟิ่นฉี่หู: เดินชมธรรมเส้นทางธรรมชาติ
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติ เฟิ่นฉี่หูมีเส้นทางเดินป่า (Fenqihu Cedar Boardwalk Trail) ยอดนิยมที่จะพาผู้มาเยือนผ่านป่าทึบ เพื่อไปสัมผัสบรรยากาศอันเงียบสงบของพื้นที่สีเขียว ชมต้นไม้ยักษ์และต้นไผ่ และความหลากหลายทางชีวภาพ เส้นทางเหล่านี้ไม่เพียงแค่ให้ความโรแมนติกชวนฝัน แต่ยังเดินง่าย เพราะเป็นบันไดไม้ เหมาะสำหรับนักเดินป่าทุกระดับ นับว่าเป็นวิธีที่สะดวกในการสำรวจธรรมชาติของเฟิ่นฉี่หูในเวลา 1-2 ชม.
จากเส้นทางเดินป่าในเฟิ่นฉี่หู นักท่องเที่ยวจะพบสถานที่สำคัญหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นศาลเจ้าที่อยู่ติดกับเส้นทางรถไฟ ถ้าเดินไปเรื่อย ๆ จะเป็นเส้นทางต้นไผ่ญี่ปุ่น และจะไปจรดกับพื้นที่ถนนโบราณสายเก่า โดยเชื่อกันว่าเป็นแหล่งชอปปิงหลักของชาวเมืองเฟิ่นฉี่หูในยุคแรก ก่อนที่พื้นที่เชิงพาณิชย์จะถูกย้ายไปอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟอย่างที่เราเห็นก่อนหน้านี้
บรรยากาศบนถนนโบราณสายเก่าต้องบอกว่าเงียบมาก ๆ อาจจะเป็นเพราะมากันในช่วงวันหยุดด้วย ทำให้ร้านค้าและร้านกาแฟต่าง ๆ ปิดให้บริการ แต่ถ้าเป็นวันธรรมดา บริเวณนี้จะคึกคักและเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวไม่แพ้ถนนโบราณที่อยู่ติดกับรางรถไฟ แต่ถึงกระนั้นก็ยังทำให้ได้เห็นเสน่ห์ของบ้านไม้ ประดับด้วยผลิตภัณฑ์ที่ทำจากไม้ไผ่และหวายพลาสติกอันประณีต เข้ากับบรรยากาศที่ไม่พลุ่กพล่าน ถ้าไม่เดินมาชมด้วยตัวเองอาจจะพลาดมุมเล็ก ๆ ที่น่าสนใจแบบนี้ไป
เที่ยวเฟิ่นฉี่หู: นั่งรถไฟสายป่าอาลีซานกลับเจียอี้
เดินเที่ยวเฟิ่นฉี่หูและทานข้าวกล่องจนอิ่มท้องแล้ว ต่อไปก็ถึงเวลาเดินทางกลับเจียอี้ด้วยรถไฟสายป่าอาลีซานกันบ้าง รถไฟนี้เป็นหนึ่งในเส้นทางรถไฟที่สวยงามและเก่าแก่ที่สุดในไต้หวัน ถูกสร้างขึ้นในสมัยอาณานิคมญี่ปุ่นเพื่อวัตถุประสงค์ในการลำเลียงต้นไม้ลงจากภูเขา
ปัจจุบันกลายมาเป็นเส้นทางท่องเที่ยวยอดนิยม ที่จะพาผู้โดยสารนั่งรถชมทิวทัศน์อันงดงามผ่านป่าเขียวชอุ่มและภูมิประเทศที่เป็นภูเขา โดยวิ่งผ่านเส้นทางซิกแซก ข้ามอุโมงค์มากถึง 48 แห่ง และสะพานไม้ 74 แห่ง รวมระยะทางกว่า 71.4 กม. ทำให้การเดินทางจากเฟิ่นฉี่หูไปยังเจียอี้เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำและไม่เหมือนใคร
รถไฟสายป่าอาลีซานจากเฟิ่นฉี่หูไปยังเจียอี้จะมีอยู่ 3 ขบวน ที่เรานั่งไป คือ Alishan Express No. 1 (วิ่งทุกวัน) แล้วก็อีก 2 ขบวน จะเป็น Jungshing Express No. 311 (วิ่งเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์) และ Alishan Express No. 3 (วิ่งวันเสาร์อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์) แต่ละขบวนจะวิ่งเพียง 1 รอบต่อวันเท่านั้น (ไปและกลับ)
รถไฟจะมาเทียบชาญชลาก่อนเวลาออกเดินทางประมาณ 10 นาที เมื่อรถไฟมาถึงแล้วก็เตรียมตัวขึ้นรถตามตู้โดยสารและที่นั่งที่จองไว้ ด้านในจะแบ่งที่นั่งออกเป็น 1-2 แถว คั่นกลางด้วยทางเดิน เบาะกว้างพอสมควร พื้นที่เหยียดขาสำหรับคนสูง 180 ซม. ขึ้นไปนั่งได้สบาย ส่วนด้านบนจะมีที่เก็บสัมภาระ อย่าลืมเก็บตั๋วรถไฟไว้กับตัว เพราะจะมีเจ้าหน้าที่มาเช็คและหนีบตั๋วและคืนให้เรา
เส้นทางหลักของรถไฟสายป่าอาลีซานจากเฟิ่นฉี่หูไปยังเจียอี้จะวิ่งลงเขา รวมทั้งหมด 13 สถานี ช่วงแรกจะอยู่ที่ความสูงประมาณ 800-1800 เมตร เป็นป่ากึ่งเขตร้อน ระหว่างทางก็จะจอดรับผู้โดยสารตามสถานีต่าง ๆ ซึ่งแต่ละสถานีก็จะมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ และยังเป็นพื้นที่อยู่อาศัยของคนในท้องถิ่นอีกด้วย บรรยากาศที่เราเห็นจากรถไฟก็น่ารักมาก เพราะมีครอบครัวมาส่งขึ้นรถไฟ พอรถไฟจะออกนายสถานีก็โบกมือลา เป็นภาพที่มองแล้วประทับใจอย่างบอกไม่ถูก
จากสถานีเฟิ่นฉี่หูไปจนถึงสถานี Liyuanliao รถไฟจะวิ่งลงเขาด้วยความเร็วพอประมาณ ผ่านอุโมงค์และสะพานไม้หลายแห่ง ตอนวิ่งผ่านทางโค้งรถไฟจะโยกนิดหน่อย พอวิ่งผ่านอุโมงค์จะมืดสนิทและรู้สึกได้ว่าอุโมงค์เล็กมาก ออกแบบมาให้มีขนาดเพียงพอสำหรับรถไฟวิ่งผ่านเท่านั้น อีกอย่างรางรถไฟก็แคบด้วยเช่นกัน กว้างเพียง 762 มม. แต่มีข้อดีคือช่วยให้หัวรถจักรมีน้ำหนักเบาลงและสามารถรองรับทางลาดชันได้ดี
ความพิเศษอีกหนึ่งอย่างของรถไฟสายป่าอาลีซานก็คือ ตอนที่วิ่งไปถึงสถานีตู๋หลี่ซาน (Dulishan) ที่ความสูง 743 เมตร จะเป็นเส้นทางวงกลมวน 3 รอบลงเขาตู๋หลี่ซาน หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ภูเขาแห่งอิสรภาพ” (คนท้องถิ่นจะเรียกว่าเส้นทางหอยทากเพราะวนคล้ายก้นหอย) ทำให้ผู้โดยสารที่อยู่ในรถไฟสามารถมองเห็นวิวภูเขาแบบเดิมถึง 3 รอบ สถานีนี้ยังเป็นจุดแวะพักที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว เพราะมีเส้นทางเดินป่า และจุดที่สามารถมองเห็นรถไฟวนลงเขาหรือเขาได้อย่างสวยงาม
พอรถไฟวิ่งลงเขาแล้วจะเข้าสู่ระดับความสูง 127-543 เมตร เป็นพื้นที่ธรรมชาติของป่าเขตร้อน ผ่านสถานี Zhangnaoliao และ Mululiao ก่อนจะวิ่งเข้าสู่ทางเรียบในพื้นที่เมืองเจียอี้ ผ่านสถานี Zhuqi → Lumachan → Lumachan→ Beimen และไปสิ้นสุดที่สถานีเจียอี้นั้นเอง
โดยรวมแล้วประสบการณ์นั่งรถไฟสายป่าอาลีซานจากเฟิ่นฉี่หู่มาเจียอี้ต้องบอกว่าคุ้มค่าตั๋ว ใช้เวลาไป 2 ชม. 21 นาที แล้วก็เป็นสองชั่วโมงที่สนุกมาก เพราะมีธรรมชาติสวย ๆ ให้เห็นตลอดทาง ที่สำคัญเส้นทางนี้เหมาะสำหรับการเที่ยวจากลีซาน เพราะสามารถทำเวลาได้ใน 3-4 ชม. ใครที่วางแผนไปเที่ยวไต้หวันและอยากสัมผัสประสบการณ์รถไฟสายเก่าแก่แบบนี้ อย่าลืมแวะไปลองด้วยตัวเองค่า
นั่งรถไฟ THSR เจียอี้ กลับไทเป
เมื่อเดินทางมาถึงสถานีเจียอี้สามารถต่อ BRT Express ฟรี ไปลงที่ THSR Chiayi เพื่อนั่งรถไฟความเร็วสูงกลับไทเปได้ในเวลา 1 ชม. 25 นาที รถไฟให้บริการจนถึงเวลา 22:32 น. ขบวนสุดท้าย คือ รอบเวลา 22:32-23:59 น. แนะนำให้จองตั๋วออนไลน์มาก่อน โดยใช้ THSR Pass แบบเที่ยวเดียว เพื่อรับส่วนลด 20% เหลือ 860 TWD จากราคาปกติ 1,080 TWD หรือใช้ THSR Pass แบบยืดหยุ่น 2, 3 หรือ 5 วัน เพื่อโดยสารรถไฟ THSR ไม่จำกัดตามวันที่กำหนด
ถ้าไม่ได้จองตั๋วมาก่อนจะมีตั๋วแบบ Non-reserved Cars Only ตู้ที่ 10-12 ไปซื้อที่เคาน์เตอร์ได้เลย ราคา 1,045 TWD ซึ่งถูกกว่าตั๋วราคาปกตินิดหนึ่ง ตั๋วนี้คล้ายกับตู้ที่นั่งมาตรฐานเพียงแต่เราจะไม่ได้จองที่นั่งมาก่อน แบบไปลุ้นที่หน้างานเอา แต่ส่วนใหญ่ตู้เหล่านี้จะไม่ค่อยเต็ม รอบที่เราไปก็ยังมีที่นั่งว่างเหลือเต็ม เลยโชคดีได้นั่งจนถึงไทเป
เที่ยวเฟิ่นฉี่หู ใช้งบเท่าไร
ค่าใช้จ่ายสำหรับเที่ยวเฟิ่นฉี่หู แบบครึ่งวัน สำหรับ 2 คน อยู่ที่ประมาณ 4,368 TWD คิดเป็นเงินไทยประมาณ 4,947 บาท ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายอาจเพิ่มขึ้นหรือลดลงตามปัจจัยต่าง ๆ เช่น ค่าที่พัก การเดินทาง อาหาร กิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงค่าเช่ารถ ซึ่งตัวเลขนี้ยังไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน เช็คราคาและจองตั๋วเครื่องบินราคาประหยัดได้ที่นี่
budget
โรงแรม: 1,000-2,500 TWD
โฮสเทล: 500-2,000 TWD
การเดินทาง: 860-2,500 TWD
ซื้อตั๋วเดินทาง
กิจกรรมและตั๋ว: 100-450 TWD
รถเช่า: 1,000-1,500 TWD
อาหาร: 50-300 TWD/มื้อ
เครื่องดื่ม: 60-250 TWD/วัน
เที่ยวอย่างอุ่นใจไปกับบัตรเดบิต Wise สำหรับใช้จ่ายทั่วโลก สามารถใช้ถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มต่างประเทศตามอัตราแลกเปลี่ยนจริงโดยไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง ใช้ชำระค่าอาหาร จองที่พักหรือตั๋วเครื่องบิน รวมถึงในร้านค้าออนไลน์ทั่วโลกกว่า 50+ สกุลเงิน ทั้งยังรองรับการชำระผ่าน MasterCard, Apple Pay และ Google Pay โดยไม่ต้องกังวลในการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน ใช้มานานกว่า 4 ปีไม่ผิดหวัง → สมัครรับบัตรเดบิต Wise ไว้ใช้ประโยชน์ด้วยตัวเองตอนนี้เลย
แหล่งข้อมูลวางแผนเที่ยว
Thank you
การเปิดเผย: บทความนี้มีลิงก์แอฟฟิลิเอทบางส่วน การกดที่ลิงก์ไม่มีค่าใช้จ่าย หากซื้อสินค้าหรือบริการจากลิงก์ดังกล่าว เราอาจได้รับค่ากำลังใจเล็กน้อยสำหรับนำไปพัฒนาบล็อก 🧡