คุณเคยฝันที่จะได้ขับรถเที่ยวต่างประเทศกับคนรักบ้างไหม? ถ้าใช่! คุณมาถูกทางแล้ว สโลวีเนียเป็นหนึ่งจุดหมายปลายที่ดีที่สุดของโลก รายล้อมด้วยทัศนียภาพอันงดงามของเทือกเขาจูเลียนแอลป์และทะเลสาบขนาดใหญ่ที่มีน้ำใสดุจคริสตัล เหมาะสำหรับการขับรถเที่ยวและใช้เวลาแบบไม่รีบเร่งเพื่อเพลิดเพลินไปกับธรรมชาติอันเงียบสงบอย่างเต็มที่
ทำไมต้องเป็นขับรถเที่ยวในสโลวีเนีย?
จุดเริ่มต้นของการขับรถเที่ยวทางไกลในยุโรปคงมาจากไลฟ์สไตล์ของเราสองคนที่ชอบการท่องเที่ยวธรรมชาติ อยากไปเห็นในสิ่งที่อาจจะไม่ได้เป็นที่นิยมมากนักแต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงให้กลิ่นอายที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมของประเทศนั้น ๆ ตามแบบฉบับ “ท่องเที่ยวเพื่อเรียนรู้และเติบโต” เหมือนครั้งแรกที่เราพาตัวเองไปที่แคมป์ปิ้งในฝรั่งเศส นอนเต็นท์ เดินป่าขึ้นเขา เที่ยวไปยังสามประเทศ คือ อิตาลี ฝรั่งเศส และโมนาโก และใช้เวลากับคนที่เรารักแบบไม่มีอะไรมาขว้างกัน
จากตอนนั้นแสงเล็ก ๆ ยังคงจุดประกายให้ออกตามหาเส้นทางธรรมชาติที่จะได้ขับรถเที่ยวช่วงหน้าร้อนอีกครั้ง จนกระทั่งมาเจอกับประเทศสโลวีเนียด้วยการเห็นภาพทะเลสาบเบลดในอินเทอร์เน็ต ฉันจะไป! นั้นคือประโยคที่ดังขึ้นมาในหัวและตัดสินใจค้นหาข้อมูลมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จนในที่สุดก็เกิดเป็นทริปขับรถเที่ยวในสโลวีเนีย 5 วัน ที่คุ้มค่าจนต้องขอบคุณตัวเองที่ได้มาเยือนประเทศนี้
บทความ “วางแผนขับรถเที่ยวสโลวีเนีย 5 วัน” ที่จะได้อ่านกันต่อไปนี้เนื้อหาอาจจะยาว แต่เราได้รวบรวมข้อมูลจากประสบการณ์ตรงและลงรายละเอียดทุกอย่างที่ควรรู้ก่อนเดินทางมาเที่ยวสโลวีเนีย ซึ่งแบ่งแผนการเที่ยวทั้ง 5 วัน ครอบคลุมถึงที่เที่ยวในสโลวีเนีย ที่พัก และกิจกรรมน่าสนใจ สามารถนำไปปรับใช้กับแผนการเที่ยวสโลวีเนียของคุณเองได้
ที่สำคัญอย่าลืมแวะไปอ่านวางแผนขับรถเที่ยวทางไกลในยุโรป 2 อาทิตย์ จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี สโลวีเนีย ฮังการี สโลวาเกีย และสาธารณรัฐเช็ก ที่เราได้รวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับการเที่ยวประเทศเหล่านี้ไว้อย่างสมบูรณ์
แผนการขับรถเที่ยวสโลวีเนีย 5 วัน
- Day 1: Travelling from Venice + Visiting Postojna Cave + Arriving in Ljubljana
- Day 2: Ljubljana Day Trip
- Day 3: Driving The Vršič Pass + Lake Jasna + Great Soča Gorge
- Day 4: Lake Bled + Vintgar Gorge
- Day 5: Lake Bohinj + Savica Waterfall
- Day 6: Driving to Budapest + Bory Castle
วางแผนขับรถเที่ยวสโลวีเนีย กี่วันดี?
สโลวีเนียเป็นประเทศที่มีขนาดเล็ก แหล่งท่องเที่ยวส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในพื้นที่ทางธรรมชาติ เช่น ทะเลสาบเบลด ทะเลสาบโบฮินจ์ รวมไปถึงอุทยานแห่งชาติทริคลาฟ นักท่องเที่ยวมักใช้เวลาประมาณ 1-2 วันที่เมืองหลวงลูบลิยานาจากนั้นเดินทางต่อไปยังทะเลสาบและเก็บเมืองที่ค่อนข้างอยู่ไกลไว้ช่วงท้าย ๆ ตามลำดับ
เราสามารถใช้เวลาประมาณ 5 วันเพื่อเที่ยวสถานที่เหล่านี้อย่างครอบคลุม อย่างไรก็ตามถ้าต้องการสำรวจเส้นทางเดินป่าที่ใช้เวลามากขึ้น รวมไปถึงการเที่ยวเมืองพิราน (Piran) ควรเผื่อเวลาไว้ 1 อาทิตย์กำลังดี ทั้งนี้การใช้เวลา 5 วันนั้นกำลังพอดีตามแบบฉบับคนที่มีเวลาไม่มากและน้อยเกินจนไป
วางแผนขับรถเที่ยวสโลวีเนีย ช่วงไหนดี?
สโลวีเนียสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ช่วงที่นิยมคือฤดูใบไม้ผลิปลายเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม และฤดูใบไม้ร่วงตั้งแต่เดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน จำนวนนักท่องเที่ยวไม่หนาแน่น อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 19 องศาเซลเซียล เหมาะสำหรับกิจกรรมทางน้ำและกลางแจ้ง เช่น ล่องเรือในทะเลสาบ พายเรือคายัค เข้าชมโบสถ์และปราสาท ชมธารน้ำตก หรือเดินป่าสำรวจเส้นทางธรรมชาติแบบเต็มอิ่ม
ช่วงฤดูร้อนมักมีจำนวนนักท่องเที่ยวที่หนาแน่น อาจต้องวางแผนล่วงหน้า 3-6 เดือนเพื่อให้ตั๋วเครื่องบินและที่พักในราคาถูก ในขณะที่ฤดูหนาวเมืองจะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกีฬาฤดูหนาว เช่น เล่นสกีหรือสโนว์บอร์ด และสัมผัสอากาศเย็นที่มีสีสันไม่น้อยไปกว่าฤดูอื่น ๆ
การเช่ารถในสโลวีเนีย
ที่สโลวีเนียราคาเช่ารถยนต์ไม่แพงอยู่ที่ประมาณ 80 ยูโร (5 วัน) ราคาอาจเพิ่มขึ้นตามประเภทรถยนต์และจำนวนวันที่เช่า แนะนำให้เช่ารถยนต์ผ่านทาง Rentalcars มีรถให้เลือกหลายแบบมาพร้อมราคาเปรียบเทียบที่สมเหตุสมผล และที่สำคัญเลือกสถานที่รับรถได้ตามความสะดวก เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการขับรถเที่ยวในสโลวีเนีย
การขับรถในสโลวีเนีย
เมื่อเดินทางด้วยรถยนต์ในประเทศสโลวีเนียอย่าลืมซื้อค่าทางด่วนมอเตอร์เวย์ (Electronic Vignette) ราคาแบ่งตามประเภทของรถ รถยนต์ทั่วไป (2A) ราคา 15 ยูโร (1 สัปดาห์) 30 ยูโร (1 เดือน) และ 110 ยูโร (1 ปี)
สามารถซื้อสติ๊กเกอร์ค่าผ่านทางได้ที่ Slovenia E-Vignette หรือตามสถานีเติมน้ำมันขนาดใหญ่ ที่ทำการไปรษณีย์ แผงขายหนังสือพิมพ์ส่วนใหญ่ในสโลวีเนีย และที่สำนักงานสาขาของสมาคมยานยนต์แห่งสโลวีเนีย (AMZS)
เตรียมใบอนุญาตขับขี่สากล ใบรับรองการประกันภัยรถยนต์ ประกันการเดินทางและวีซ่าให้พร้อม นักท่องเที่ยวไทยที่พำนักอาศัยอยู่ในเนเธอร์แลนด์สามารถใช้ใบขับขี่ดัตช์เพื่อขับรถในสโลวีเนียได้ อย่าลืมอ่านรายละเอียดใบขับขี่ดัตช์และการขับรถจากเนเธอร์แลนด์
ควรมีอุปกรณ์เหล่านี้ไว้ในรถ คือ เสื้อแจ็คเก็ตสะท้อนแสงในกรณีที่รถเสียหรือเกิดเหตุฉุกเฉิน (ต้องมีอย่างละตัวสำหรับผู้โดยสารแต่ละคน) สามเหลี่ยมเตือนสีแดง 2 อัน (บังคับในประเทศส่วนใหญ่ในยุโรป) กล่องชุดปฐมพยาบาลและชุดหลอดไฟสำรอง (บังคับบางประเทศ) รวมไปถึงยางรถยนต์สำหรับวิ่งในฤดูหนาว (ระหว่างวันที่ 15 พฤศจิกายน ถึง 15 มีนาคม) ถ้าในกรณีเช่ารถขับมักจะมีให้พร้อม หากไม่มีควรสอบถามทางบริษัทเช่ารถยนต์ให้แน่ใจ
นอกจากนี้ยังรวมไปถึงข้อมูลติดต่อในกรณีฉุกเฉิน เช่น หมายเลขติดต่อโทรเรียกตำรวจหรือรถพยาบาล หมายเลขติดต่อรถลากจุงบนทางด่วนในกรณีที่รถเสียหรือน้ำมันหมด รวมไปถึงหมายเลขสถานทูตไทยในสโลวีเนีย
การขับรถในสโลวีเนียจำกัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด 0.0% และจำกัดความเร็วแตกต่างกันไป บนทางหลวงสายหลักจำกัดความเร็ว 130 กม./ชม. ถนนนอกเมือง 90 กม./ชม. ส่วนในตัวเมือง 50 กม./ชม. และขับรถในเลนขวามือตามช่องทางที่กำหนด ส่วนช่องทางสำรองสามารถใช้ได้เฉพาะกับบริการขนส่งสาธารณะทั่วไปเท่านั้น และช่องทางฉุกเฉินบนทางหลวงพิเศษสามารถใช้ได้เฉพาะในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น
สามารถตรวจเช็คสภาพการจราจรได้ที่ศูนย์ข้อมูลการจราจรทางถนนสโลวีเนีย
การเดินทางมายังสโลวีเนีย
สำหรับคนที่ไม่ได้ขับรถมาจากประเทศอื่นเพื่อข้ามพรมแดนเข้าประเทศสโลวีเนีย อาจจะใช้ตัวเลือกการเดินทางด้วยรถไฟ รถบัส หรือเครื่องบินมาลงที่ลูบลิยานาก่อน จากนั้นค่อยเช่ารถต่อเมื่อมาถึงที่นี่
มีเที่ยวบินตรงหลายสายให้บริการจากเนเธอร์แลนด์ เช่น Transavia ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 45 นาที ส่วนเที่ยวบินจากไทยมักต้องมาต่อเครื่องในสนามบินหลักของยุโรป เช่น อัมสเตอร์ดัมหรือแฟรงก์เฟิร์ต เป็นต้น ราคาตั๋วเครื่องบินช่วงเดือนพฤษภาคมค้นหาล่วงหน้า 6 เดือนอยู่ที่ประมาณ 750 ยูโร (28,000 บาท)
การเดินทางเข้าเมืองลูบลิยานาจากสนามบิน
ท่าอากาศยานลูบลิยานาโยเซพุกนิก (Ljubljana Jože Pučnik Airport) ตั้งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองประมาณ 26 กิโลเมตร วิธีการเดินทางเข้าเมืองที่สะดวกที่สุดคือใช้บริการรถโดยสารประจำทางหรือรถรับส่งระหว่างสนามบิน
- รถโดยสารประจำทาง (Arriva) รับส่งผู้โดยสารจากสนามบิน (หน้าอาคารผู้โดยสาร A) วิ่งตรงเข้าเมืองไปจอดที่สถานีขนส่งกลางลูบลิยานา (ป้ายหมายเลข 28) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที ค่าโดยสาร 4.10 ยูโร (เที่ยวเดียว) 7.38 ยูโร (ไปกลับ)
- รถรับส่งสนามบิน ใช้เวลาเร็วกว่ารถโดยสารประจำปกติ มีรถรับส่งระหว่างสนามบินของบริษัท GoOpti, Nomago, MNJ Shuttle, Markun Shuttle หรือ ZUP prevozi รับส่งผู้โดยสารจากสนามบิน (หน้าอาคารผู้โดยสาร B) วิ่งตรงเข้าเมืองไปจอดที่สถานีขนส่งกลางลูบลิยานา หรือตามจุดหมายปลายทางของผู้โดยสาร ราคารับรถส่งเริ่มต้น 12 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20-30 นาที
เดินทางด้วยรถ FlixBus จากประเทศใกล้เคียง
FlixBus เป็นตัวเลือกการเดินทางในราคาประหยัด เปิดให้บริการในหลายประเทศทั่วยุโรปรวมถึงประเทศสโลวีเนีย ครอบคลุมเส้นทางไปยังลูบลิยานาและทะเลสาบเบลด และเชื่อมต่อเมืองใกล้เคียงจากประเทศเพื่อนบ้านมายังลูบลิยานา เช่น ซาเกร็บ (Zagreb) เมืองหลวงของโครเอเชีย เดินทาง 2 ชั่วโมง 25 นาที ราคาตั๋วเฉลี่ย 14 ยูโร
จากบูดาเปสต์ (Budapest) เมืองหลวงของฮังการี เดินทาง 5 ชั่วโมง 50 นาที ราคาตั๋วเฉลี่ย 14 ยูโร จากกรุงเวียนนา (Vienna) ประเทศอิตาลี เดินทาง 4 ชั่วโมง 45 นาที ราคาตั๋วเฉลี่ย 18 ยูโร เมื่อมาถึงลูบลิยานาสามารถเช่ารถเพื่อขับเที่ยวต่อในประเทศสโลวีเนียได้เช่นกัน
เรื่องน่ารู้ก่อนไปเยือนสโลวีเนีย
- ประเทศสโลวีเนียใช้แรงดันไฟฟ้ามาตรฐาน 230 โวลต์ ความถี่มาตรฐาน 50 เฮิร์ทซ์ ใช้เต้าเสียบปลั๊กไฟประเภท C และ F นักเดินทางที่มาจากประเทศนอกยุโรป เช่น ประเทศไทย ควรเตรียมหัวปลั๊กแปลงไฟรอบโลกสำรองมาด้วย 1-2 ชิ้น
- ใช้สกุลเงินยูโร (€) เช่นเดียวกับหลายประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป ร้านค้าส่วนใหญ่รับจ่ายด้วยบัตรเดบิตและบัตรเครดิต
- “ภาษาสโลวีเนีย” เป็นภาษาราชการของประเทศสโลวีเนีย ใกล้เคียงภาษาเซอร์เบียและโครเอเชีย ชาวสโลวีเนียส่วนใหญ่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ดีร่วมกับภาษาเยอรมันและอิตาลีเป็นภาษาต่างประเทศ ตามแหล่งท่องเที่ยวกลางเมืองส่วนใหญ่ รวมไปถึงร้านขายของหรือร้านอาหาร ผู้คนมักสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ ฉลากสินค้ารวมถึงป้ายบอกทางส่วนใหญ่ก็ยังเป็นภาษาสโลวีเนียเช่นกัน ถ้าไม่เข้าใจก็สามารถใช้ Google Translation ช่วยได้
- สโลวีเนียมีความปลอดภัยต่อการท่องเที่ยว ผู้คนก็เป็นมิตร เราไม่เจอประสบการณ์ที่แย่เลยในทางตรงกันข้ามกลับรู้สึกปลอดภัยที่ได้มาเดินเที่ยวที่นี่ และที่สำคัญค่าครองชีพก็ไม่แพง จากประเทศนอกสายตากลายมาเป็นจุดหมายปลายทางโปรดที่น่ารักและอยากให้ลองมาเที่ยวกันสักครั้ง
เวลาขับรถเที่ยวในสโลวีเนีย
หลายคนอาจจะยังนึกภาพไม่ออกว่าเวลารวมทั้งหมดในการขับรถเที่ยวสโลวีเนียนานแค่ไหน เพื่อให้มองเห็นภาพชัดเจนข้อมูลด้านล่างคือเวลาโดยประมาณของการขับรถเที่ยวในสโลวีเนียตามที่เที่ยวยอดนิยมต่าง ๆ
- เวนิสไปลูบลิยานา 2 ชั่วโมง 36 นาที
- ถ้ำโพสทอยน่าไปลูบลิยานา 45 นาที
- ลูบลิยานาไปทะเลสาบเบลด 45 นาที
- เส้นทาง Vrsic Pass ไปหุบเขา Bovec 2 ชั่วโมง (ยังไม่รวมแวะพักระหว่างทาง)
- จากจุดสิ้นสุดเส้นทาง Vrsic Pass กลับไปที่ทะเลสาบเบลด 2 ชั่วโมง
- ทะเลสาบเบลดไป Vintgar Gorge 15 นาที
- ทะเลสาบเบลดไปทะเลสาบโบฮินจ์ 30 นาที
แผนการขับรถเที่ยวสโลวีเนีย 5 วัน
Day 1: Traveling from Venice + Visit Postojna Cave + Arrive in Ljubljana
ทริปการขับรถเที่ยวสโลวีเนียเราไม่ได้เริ่มต้นที่ประเทศสโลวีเนียโดยตรงแต่เป็นการขับรถมาจากกรุงเวนิสประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขับรถเที่ยวยุโรป 2 อาทิตย์ ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี สโลวีเนีย ฮังการี สโลวาเกีย และสาธารณรัฐเช็ก ใครที่สนใจการท่องเที่ยวในประเทศเหล่านี้สามารถดูรายละเอียดตามลิงก์ได้เลย (กำลังเขียน)

จากเวนิสใช้เวลาขับรถมายังสโลวีเนียประมาณ 2 ชั่วโมง 36 นาที จุดข้ามพรมแดนจะอยู่ใกล้วงแหวนถนนสาย A34 (หลังจากขับมาประมาณ 1 ชั่วโมง 23 นาที) มีจุด Infopoint SDAG สำหรับแวะพักและซื้อสติ๊กเกอร์ค่าทางด่วนมอเตอร์เพื่อข้ามพรมแดนอิตาลีและสโลวีเนีย ถ้าใครที่ซื้อจากออนไลน์มาแล้วก็ใช้เดินทางได้เลยสะดวกมาก
เมื่อข้ามพรมแดนอิตาลีแล้วใช้เส้นทาง H4 ขับต่อไปเรื่อย ๆ แต่ก่อนที่จะถึงลูบลิยานานั้นมีสถานที่เที่ยวยอดนิยมของสโลวีเนียก็คือถ้ำโพสทอยน่า ที่เราสามารถใช้เวลาเข้าชมได้ประมาณ 2-3 ชั่วโมงกำลังพอดี และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราจึงใช้โอกาสนี้แวะเที่ยวที่นี่ซะเลย

โพสทอยน่าเป็นหนึ่งในระบบถ้ำที่ยาวที่สุดในโลกถึง 24 กิโลเมตร แต่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเพียง 5 กิโลเมตร และต้องเข้าไปพร้อมกับไกด์ทัวร์เท่านั้น ราคา 27.90 ยูโร (รวมนั่งรถรางไปกลับ) ใช้เวลาประมาณ 90 นาที ซึ่งแบ่งการเข้าชมออกเป็นสองช่วง คือ ช่วงแรกนั่งรถรางไฟฟ้าระยะทาง 3.5 กม. เข้าไปยังสถานีปลายทาง จากนั้นลงเท้าเดินต่อไปกับไกด์เพื่อสำรวจความงดงามในถ้ำอีก 1.5 กม. ครอบคลุมถึงห้องโถง Great Mountain สะพานรัสเซีย ห้องโถงสปาเก็ตตี้ หินงอกหินย้อยสีขาวบริสุทธิ์ (Brilliant) และปลามนุษย์
ไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้ คือ หินงอกหินย้อยสีขาวบริสุทธิ์อายุกว่า 1.5 แสนปี และปลามนุษย์ไร้ดวงตาที่ใช้ชีวิตลึกลับในถ้ำมืดสนิท ทั้งหมดนี้นับเป็นประสบการณ์อันน่าจดจำที่คุณต้องไปสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้ง
เส้นทางเดินในถ้ำเป็นพื้นคอนกรีตกันลื่น เดินสะดวกและปลอดภัย บางช่วงอาจจะมีน้ำที่หยดลงมาจากเพดานถ้ำบ้าง ถ้าเป็นไปได้เลือกสวมรองเท้าที่เดินสบาย ที่สำคัญเลยอย่าลืมเตรียมเสื้อแจ็คแก็ตกันหนาวมาด้วย เพราะว่าอุณหภูมิในถ้ำประมาณ 8-10 องศาเซลเซียส เรียกได้ว่าค่อนข้างหนาวเลยทีเดียว แต่ถ้าไม่ได้เตรียมมาด้วยมีให้เช่าหน้าทางเข้าถ้ำ ราคา 5 ยูโร
อ่านต่อ | Postojna Cave: วางแผนเที่ยวถ้ำโพสทอยน่าสโลวีเนีย
Day 2: Ljubljana Day Trip
ลูบลิยานา (Ljubljana) ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงสีเขียวแห่งความเป็นมิตรที่มีเสน่ห์น่าหลงใหลของประเทศสโลวีเนีย รายล้อมด้วยบ้านเรือนและแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมจากยุคเรเนสซองส์และยุคคลาสสิกผสมผสานกับรูปแบบการออกแบบที่ทันสมัยของสถาปนิกชื่อดังระดับโลก “Jože Plečnik” และทรงคุณค่าทางวัฒนธรรรมจนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโกอีกด้วย

ที่เที่ยวส่วนใหญ่ในลูบลิยานาตั้งอยู่ใจกลางเมืองทำให้เดินเที่ยวง่าย แนะนำให้เริ่มจากตลาดกลาง (Central Market) รองท้องด้วยกาแฟหรืออาหารเช้าในราคาที่เป็นมิตร ต่อด้วยเดินขึ้นเขาหรือขึ้นกระเช้าไฟฟ้าไปชมปราสาทเบลด (Ljubljana Castle) ที่มองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามของเมือง
จากนั้นเดินกลับลงมาที่ตลาดกลางเพื่อไปตามล่าหาน้องมังกรทั้งสี่ (Dragon Bridge) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์อันทรงพลังของเมืองลูบลิยานามาอย่างยาวนาน ใกล้ ๆ กันเชื่อมต่อด้วยสะพานแห่งความรัก (Butchers’ Bridge) ที่เต็มไปด้วยแม่กุญแจแห่งความรักยืนยาว ต่อด้วยไฮไลท์สะพานจัตุรัสสามสะพาน (Triple Bridges Square) และจัตุรัสกลางเมืองเพรเซเรน (Prešeren Square) ที่มีโบสถ์สีชมพูโดดเด่นเป็นฉากหลัง
จากใจกลางเมืองอย่าลืมแวะไปทานอาหารสโลวีเนียดั้งเดิมและไส้กรอกเลื่องชื่อที่ร้านอาหาร Klobarsna ต่อด้วยชมมหาวิหารเซนต์นิโคลัสลูบลิยานา (Ljubljana Cathedral) จากศตวรรษที่ 13 โดดเด่นด้วยหอคอยสองแห่งที่มองเห็นได้จากระยะไกล แล้วไปเดินเล่นต่อที่ทาวน์สแควร์ และถ่ายรูปศาลากลางจังหวัดอันงดงาม ใกล้ ๆ กันสามารถเดินตามถนนที่มีชื่อเสียงของเมือง (Stari trg) หรือแวะไปที่สวนกลางเมือง (Congress Square) ก็เป็นไอเดียที่ดีเหมือนกัน
ถ้ายังไม่เหนื่อยไปต่อกันที่กำแพงโรมันเก่า ตามด้วยก้าวผ่านจัตุรัสประวัติศาสตร์ (Trg republike) ที่ใช้เป็นสถานที่ประกาศเอกราชของสโลวีเนียเมื่อ ปี ค.ศ. 1991 และปิดท้ายด้วยการพักผ่อนที่สวนสาธารณะ Tivoli Park ที่ใหญ่ที่สุดของลูบลิยานา
อ่านต่อ | Ljubljana: วางแผนเที่ยวเมืองหลวงลูบลิยานาฉบับคนที่มาเป็นครั้งแรก
ที่พักในลูบลิยานา
LINA ROOMS: เกสต์เฮาส์ตั้งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองประมาณ 20 นาที เดินไปที่เที่ยวสะดวก เจ้าของเป็นครอบครัวเอเชียใจดีมากและที่สำคัญมีที่จอดรถให้ฟรี ห้องพักสะอาด ใช้ห้องน้ำแชร์ มีตู้เย็นให้แช่อาหารได้ ส่วนชั้นใต้ดินมีห้องครัว เครื่องซักผ้า และที่รีดผ้าไว้บริการฟรี และยังมีซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใกล้เพียง 5 นาที ตรวจสอบราคาและห้องว่างตอนนี้เลย
City Hotel Ljubljana: โรงแรมตั้งอยู่ใจกลางเมืองเก่าใกล้จัตุรัสกลางเมืองเพรเซเรน มีห้องพักให้เลือกหลายแบบ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางคนเดียว มากับคู่รัก กับครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อน สามารถเดินไปยังทาวน์สแควร์ ตลาดกลาง และปราสาทลูบลิยานาสะดวก ตรวจสอบราคาและห้องว่างตอนนี้เลย
Zlata Ladjica Boutique Hotel: เป็นหนึ่งในโรงแรมที่เก่าแก่ที่สุดในลูบลิยานาตั้งอยู่ใจกลางเมือง เดินไปที่เที่ยวยอดนิยมสะดวก ห้องพักมาพร้อมระเบียงที่สวยงามพร้อมทิวทัศน์อันยอดเยี่ยมของแม่น้ำลูบลิยานา มีห้องอาหารกึ่งผับสไตล์สโลวีเนีย และจักรยานสำหรับใช้งานฟรี ตรวจสอบราคาและห้องว่างตอนนี้เลย
Day 3: Driving on Vršič Pass + Lake Jasna + Great Soča Gorge
วันที่สามออกเดินทางจากลูบลิยานาและมุ่งหน้าสู่ Vršič Pass ซึ่งเป็นเส้นทางขับรถที่สวยที่สุดในสโลวีเนียอยู่ที่ระดับความสูง 1,661 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล มีความยาวทั้งหมด 43.4 กม. ต้องขับผ่านถึง 50 โค้งด้วยกัน และใช้เวลาขับประมาณ 2-3 ชั่วโมง อาจจะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับเวลาที่แวะพักแต่ละจุด

Vršič Pass ตั้งอยู่ระหว่างหมู่บ้านสกีรีสอร์ท Kranjska Gora และหุบเขา Trenta ใกล้พรมแดนประเทศอิตาลีและออสเตรีย ใช้เวลาเดินทางจากลูบลิยานาประมาณ 1 ชั่วโมง เปิดให้ใช้งานประมาณ 7 เดือนต่อปีเท่านั้น ช่วงเวลาที่แนะนำคือเดือนพฤษภาคม จำนวนรถไม่เยอะ อากาศอุ่นกำลังดี ส่วนฤดูหนาวถนนปิดเนื่องจากหิมะปกคลุมถนน
จุดเริ่มต้นของเส้นทาง Vršič Pass อยู่ที่ถนนหมายเลข 206 บริเวณทางแยกระหว่างถนน Borovška cesta และ Kranjska Gora (กดดูแผนที่ประกอบ) พอเห็นทางแยกก็ขับตรงมาได้เลย
ไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้บนเส้นทางขับรถ Vršič Pass
ทะเลสาบจัสนา (Lake Jasna) ชมน้ำใสสีเขียวมรกตที่ระดับความสูง 830 เมตร เดินเล่นรอบทะเลสาบสูดอากาศบริสุทธิ์ ว่ายน้ำคลายความร้อน นั่งพักผ่อนปิกนิก หรือเดินป่าในเส้นทางใกล้เคียง ด้านหน้าทะเลสาบยังมีรูปปั้นชามัวร์เขาทองอันโด่งดัง (Zlatorog) สัญลักษณ์ของผู้พิทักษ์หุบเขาทริคลาฟและสันเขารอบทะเลสาบจัสนาที่มาจากตำนานกล่าวขานในอดีต
โบสถ์รัสเซีย (Russian Chapel) ตั้งอยู่ช่วงทางโค้งที่ 8 สร้างขึ้นโดยเชลยศึกชาวรัสเซียที่รอดชีวิตเพื่อเป็นเกียรติและรำลึกถึงผู้เสียชีวิตระหว่างการก่อสร้างถนน Vršič Pass เมื่อ พ.ศ. 2458 ด้านในโบสถ์เป็นแบบเรียบ ประกอบด้วยแท่นบูชาและกรอบรูปภาพผู้รอดชีวิต ด้านนอกโบสถ์มองเห็นสะพานข้ามธารน้ำขนาดเล็กให้บรรยากาศที่เงียบสงบ
จุดชมวิว Prisank ความสูง 2,547 เมตร ตั้งอยู่ช่วงทางโค้งที่ 16 เป็นลานกว้างสลับกับทุ่งหญ้าขนาดเล็กมีที่จอดรถฟรีและม้านั่งพักผ่อน สามารถเดินไปดูหน้าผาที่มีช่องลอดผ่านภูเขา “Prednje okno” และค้นหาใบหน้าคล้ายหญิงสาวที่เรียกกันว่า “Pagan Girl Ajda” ว่ากันว่าเธอคือนางไม้ที่กลายมาเป็นหิน!
ไฮไลท์ Vršič Pass ที่สูงที่สุด 1,611 เมตร ตั้งอยู่ช่วงทางโค้งที่ 26 มีจุดชมวิวพาโรนามาที่สวยงาม มองเห็นยอดเขาสลับกับเส้นทางเดินป่ายอดนิยม “Mala Mojstrovka” ความสูง 2,332 เมตร รวมถึงเส้นทางเดินไปชม Postman’s Lodge on the Vršič Pass กระท่อมบนยอดภูเขาความสูง 1,620 เมตร
ธารน้ำโซชา (Great Soča Gorge) ตั้งอยู่ช่วงทางโค้ง 49 แวะไปชมแอ่งน้ำสีเขียวมรกตความยาว 750 เมตร และลึกถึง 15 เมตร มีเส้นทางลัดเลาะตามริมน้ำมองเห็นธารน้ำโซชาแบบใกล้ชิด ช่วงไหนที่ไม่มีฝนตกหรือน้ำลดยังสามารถเดินลงไปตามโขดหินเพื่อสัมผัสกระแสน้ำที่เงียบสงบ หรือว่ายน้ำท้าทายความเย็นได้อีกด้วย
น้ำตกคอซจัก (Kozjak Waterfall) ซ่อนตัวอยู่ในหน้าผาสูง 15 เมตร แต่ก่อนจะได้ชมต้องเดินป่าเข้าไปประมาณ 20 นาทีผ่านเส้นทางธรรมชาติมองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามของแม่น้ำโซชา (Soča) มีค่าที่จอดรถ 2.50 ยูโร และค่าเข้าชมน้ำตก 5 ยูโร
สะพานนโปเลียน (Napoleon’s Bridge) ตั้งอยู่ห่างจากน้ำตกคอซจักประมาณ 10 นาที เป็นสะพานเหล็กทางประวัติศาสตร์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1750 รอบ ๆ สะพานสามารถมองทัศนียภาพอันงดงามของแม่น้ำโซชาซึ่งไหลยาวมาจากเส้นทางน้ำที่เราเดินไปชมน้ำตกก่อนหน้านี้
อ่านต่อ | Vršič Pass: เส้นทางขับรถในสโลวีเนียที่สวยมาก
Day 4: Lake Bled + Vintgar Gorge
เบลดเป็นทะเลสาบในเทือกเขาจูเลียนแอลป์ ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศสโลวีเนีย ห่างจากเมืองหลวงลูบลิยานาเพียง 55 กม. สิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้เดินทางมาชมเยียมเยือนที่นี่คงหนีไม่พ้นทัศนียภาพที่งดงามล้อมรอบด้วยภูเขาและป่า ใจกลางทะเลสาบยังโดดเด่นด้วยด้วยปราสาทเบลดและโบสถ์ศตวรรษที่ 11 เป็นแหล่งสะท้อนความงดงามทางวัฒนธรรม ที่นี่จึงเหมาะทีเดียวที่สำหรับการใช้เวลาพักผ่อนหย่อนใจอย่างเต็มที่

ด้วยความที่เบลดเป็นเมืองที่ไม่ใหญ่มากมีขนาดกะทัดรัดเหมาะสำหรับการเที่ยว 1-2 วัน หรือแม้กระทั่งการเที่ยวแบบเดย์ทริปจากลูบลิยานา เราสามารถใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมงเพื่อเดินสำรวจรอบทะเลสาบ ถ้าอยากเห็นทัศนียภาพอันแสนโรแมนติกของทะเลสาบเบลดแบบพาโรนามาแนะนำให้เดินเดินป่าขึ้นไปยังจุดชมวิว “Mala Osojnica” ที่ความสูงประมาณ 756 เมตร ใกล้ ๆ กันมีเส้นทางเดินสำรวจเนินเขาสตราจา “Straža” และเล่นรถรางโคสเตอร์ลงเขาได้อีกด้วย
ถ้าต้องการล่องเรือเพลตนาในทะเลสาบ เข้าชมโบสถ์และปราสาทบนยอดเขาควรเผื่อเวลาไว้ประมาณหนึ่งวัน ซึ่งสามารถเที่ยวได้แบบเดย์ทริปร่วมกับหุบเขาวินท์การ์จอร์จ (Vintgar Gorge) ที่ห่างออกไปเพียง 15 นาที สำหรับคนที่อยากดื่มด่ำธรรมชาติที่ทะเลสาบเบลดแบบเต็มอิ่มแพลนเที่ยว 2-3 วันกำลังดี
อ่านต่อ | Lake Bled: เที่ยวทะเลสาบเบลดสุดโรแมนติกของสโลวีเนีย
แวะไปเดินป่าชมธารน้ำสีเขียวมรกตที่หุบเขาวินท์การ์จอร์จ (Vintgar Gorge)
วินท์การ์จอร์จ หรือช่องเขาเบลดจอร์จ (Bled Gorge) เป็นหนึ่งในที่เที่ยวทางธรรมชาติยอดนิยมของสโลวีเนีย ตั้งอยู่ใกล้กับทะเลสาบเบลดไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 15 นาที สามารถแวะไปชมความงดงามกันภายในเวลา 2-3 ชั่วโมง

ความน่าสนใจของหุบเขาวินท์การ์จอร์จคือเส้นทางธรรมชาติที่ลัดเลาะไปตามสะพานไม้ความยาวประมาณ 1.6 กิโลเมตรที่เราจะได้สัมผัสถึงความอุดมสมบูรณ์ของแอ่งน้ำตามธรรมชาติและชมธารน้ำตกเสียงดังที่มีความสูงถึง 13 เมตร หากโชคดีระหว่างทางอาจจะได้เห็นรถไฟขับผ่านสะพานรถไฟโบฮินจ์อีกด้วย
อ่านต่อ | Vintgar Gorge: วางแผนเที่ยวเที่ยวหุบเขาวินท์การ์จอร์จครึ่งวัน
ที่พักในทะเลสาบเบลด
Pr’ Hribar: เกสต์เฮาส์ตั้งอยู่ห่างจากทะเลสาบเบลดประมาณ 10 นาที ห้องพักมีขนาดใหญ่ มีระเบียงมองเห็นวิวภูเขา มีห้องน้ำส่วนตัว มาพร้อมห้องครัวสามารถทำอาหารทานเองได้ เจ้าของใจดี และที่สำคัญมีที่จอดรถฟรี ตรวจสอบราคาและห้องว่างตอนนี้เลย
Design & Wine Vila Special Bled: อพาร์ตเมนต์สไตล์โมเดิร์นตั้งอยู่ห่างจากทะเลสาบเบลดเพียง 10 นาที การตกแต่งสวยงาม มีระเบียงสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพของภูเขาและสวน มีที่จอดรถฟรี รวมถึงมีร้านอาหารและป้ายรถประจำทางตั้งอยู่ใกล้เคียง ตรวจสอบราคาและห้องว่างตอนนี้เลย
Adora Luxury Hotel: วิลลาหรูตั้งอยู่ติดกับทะเลสาบเบลดให้ทัศนียภาพที่สวยงามตระการตาของทะเลสาบและภูเขาทริคราฟ ห้องพักกว้างขวางตกแต่งอย่างสวยงามด้วยเฟอร์นิเจอร์สไตล์คลาสสิกที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มาพร้อมเครื่องอำนวยความสะดวกที่ครบครัน มีพื้นที่จอดรถฟรีสำหรับผู้เข้าพัก ด้านในมีสวนของวิลล่าและศาลาขนาดเล็ก ตรวจสอบราคาและห้องว่างตอนนี้เลย
Day 5: Lake Bohinj + Savica Waterfall
โบฮินจ์เป็นทะเลสาบถาวรที่ใหญ่ที่สุดในสโลวีเนีย ตั้งอยู่ห่างจากทะเลสาบเบลดเพียง 35 นาที เปรียบเสมือนอัญมณีสีเขียวซ่อนเร้นความงดงามอยู่ภายในหุบเขาโบฮินจ์ของเทือกเขาจูเลียนแอลป์ และยังเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติทริคลาฟที่สวยงามอย่างน่าอัศจรรย์

ทะเลสาบโบฮินจ์เหมาะสำหรับผู้ที่ถวิลหาธรรมชาติ มีกิจกรรมให้เลือกทำหลากหลาย ตั้งแต่ชมเดินเล่นชมความงดงามของทะเลสาบไปจนถึงขึ้นกระเช้าลอยฟ้าไปยอดเขาโวเกล (Mount Vogel) ท้าทายความสูง 1,922 เมตรที่จะมอบประสบการณ์อันไม่รู้ลืม
ติดกับทะเลสาบคือที่ตั้งของโบสถ์เซนต์จอห์นเดอะแบปทิสต์อายุว่า 700 ปี ถัดจากโบสถ์เดินข้ามสะพานแวะไปถ่ายภาพรูปปั้นชามัวร์เขาทอง อย่าลืมนั่งเรือพาโนรามาในทะเลสาบโบฮินจ์ หรือจะว่ายน้ำในทะเลสาบคลายความร้อนก็เป็นไอเดียที่ดีเหมือนกัน
ไม่ไกลจากทะเลสาบประมาณ 10 นาที มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติยอดนิยมอีกหนึ่งแห่งที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาทริคลาฟ นั้นก็คือน้ำตกซาวิก้า (Savica Waterfall) เจ้าของความสูง 78 เมตร โดดเด่นด้วยสายน้ำขนาดเล็กและใหญ่ที่แยกตัวกันออกมาเป็นรูปทรงตัวอักษร A สามารถเที่ยวได้ภายในเวลา 1 ชั่วโมง
ที่เที่ยวและกิจกรรมที่กล่าวไปข้างต้นสามารถเที่ยวได้ครอบคลุมแบบเดย์ทริป ส่วนใครที่มีเวลา 1-2 วันแนะนำให้เพิ่มการเดินป่าชมธรรมชาติและธารน้ำตกที่สวยงาม เช่น เส้นทางเดินป่าไปยังทะเลสาบ Seven Lakes Valley เหมาะสำหรับสายชอบเดินและมีเวลาประมาณครึ่งวัน ใช้เวลาเดินประมาณ 2-4 ชั่วโมง เส้นทางเดินง่าย (ดูเส้นทางในแผนที่ประกอบ) มีจุดแวะพักชมวิวหลายแห่ง และท้ายที่สุดเราจะพบกับทะเลสาบที่สวยงามเป็นรางวัลตอบแทนความเหนื่อย
เช่นเดียวกับเส้นทางเดินป่าไปยังช่องเขา Mostnica Gorge และน้ำตก Voje Gorge มีความคล้ายคลึงกับหุบเขาวินท์การ์จอร์จ (Vintgar Gorge) ที่เที่ยวใกล้ทะเลสาบเบลดแต่ใช้เวลาเดินนานกว่าและมีคนพลุ่กพล่านน้อยกว่า การเดินผ่านหุบเขาในเวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง และเดินต่ออีกประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งไปยังน้ำตก Voje ทั้งหมดนี้จะคุ้มค่ากับการเดินมากหากเป็นสายรักธรรมชาติ และควรเผื่อเวลารวมการเดินไปกลับ 4-5 ชั่วโมง
อ่านต่อ | Lake Bohinj: เที่ยวทะเลสาบโบฮินจ์ที่ใหญ่ที่สุดของโลวีเนีย
ที่พักในทะเลสาบโบฮินจ์
Farmhouse Soklic: อพาร์ตเมนต์มาพร้อมสวนดอกไม้ที่มีบรรยากาศร่มรื่น ตั้งอยู่ใกล้ป้ายรถโดยสารประจำทาง สามารถเดินทางไปทะเลสาบโบฮินจ์สะดวก ห้องพักตกแต่งแบบเรียบง่ายแต่ลงตัว เจ้าของใจดี มีนมสดจากฟาร์มให้ทานทุกเช้า ตรวจสอบราคาและห้องว่างตอนนี้เลย
Hotel Majerca: โรงแรมตั้งอยู่ห่างจากทะเลสาบโบฮินจ์เพียง 10 นาที ห้องพักสวยงามตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์นอบอุ่น มีระเบียงมองเห็นวิวทะเลสาบและภูเขา มีพื้นที่นั่งเล่น มาพร้อมเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน รวมถึงอาหารเช้าแบบคอนติเนนตัลหรือตามสั่ง และมีที่จอดรถฟรี ตรวจสอบราคาและห้องว่างตอนนี้เลย
Sunrose 7 – Heritage Boutique Hotel: โรงแรมบูติกสไตล์สแกนดิเนเวียตั้งอยู่ห่างจากทะเลสาบโบฮินจ์เพียง 10 นาที และใกล้สถานีรถไฟ Bohinjska Bistrica การตกแต่งภายในสวยงามมาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน พร้อมวิวภูเขา เมือง หรือสถานที่สำคัญ มีพื้นที่สปาส่วนตัวและสระว่ายน้ำ และมีที่จอดรถฟรี ตรวจสอบราคาและห้องว่างตอนนี้เลย
Day 6: Driving to Budapest + Visit Bory Castle
เช้าวันที่ 6 เราต้องโบกมือลาทะเลสาบเบลดเพื่อเดินทางต่อไปยังบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ใช้เวลาขับรถประมาณ 6 ชั่วโมง และเป็นอีกเช่นกันที่เรามีเวลาเหลือประมาณ 2-3 ชั่วโมงก่อนจะถึงบูดาเปสต์ จึงตัดสินใจแวะไปเที่ยวที่ปราสาท Bory Castle ในเมืองเซแกชแฟ เฮร์วาร์ (Székesfehérvár) สามารถเที่ยวได้ภายใน 2 ชั่วโมง ก่อนจะเดินทางต่ออีก 1 ชั่วโมงไปถึงที่พักนอกเมืองบูดาเปสต์ มีเวลาเหลือเช็คอินเข้าที่พัก ขับรถออกไปหาซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ต และเตรียมตัวเที่ยวในวันรุ่งขึ้นแบบผ่อนคลาย

ใครที่วางแผนกำลังวางเที่ยวบูดาเปสต์ อย่าลืมแวะไปอ่านเที่ยวบูดาเปสต์ 2 วัน 3 คืน เรารวบรวมข้อมูลวางแผนการเที่ยวไว้อย่างละเอียด ครอบคลุมถึงที่พัก กิจกรรมน่าสนใจ และสิ่งที่ควรรู้ก่อนไปเที่ยวบูดาเปสต์
อ่านต่อ | Budapest: วางแผนเที่ยวบูดาเปสต์ เมืองสวยริมสองแม่น้ำดานูบของฮังการี
ขับรถเที่ยวในสโลวีเนียใช้งบประมาณเท่าไร?
ค่าครองชีพในสโลวีเนียใกล้เคียงกับปรากและบูดาเปสต์ ซึ่งถูกกว่าประเทศอื่น ๆ ในยุโรประดับหนึ่ง และมีราคาใกล้เคียงกับค่าครองชีพในไทย ค่าเข้าชมที่เที่ยวอยู่ระหว่าง 250-400 บาท ตั๋วเดินทางรายวัน 100-200 บาท ค่าอาหารเฉลี่ยมื้อละ 300-400 บาท ที่พักนอกเมืองคืนละ 1,000-1,500 บาท ค่าเช่ารถในสโลวีเนีย 5 วันประมาณ 80 ยูโร และค่าทางด่วนมอเตอร์เวย์หนึ่งอาทิตย์ 15 ยูโร
หมายเหตุ: ค่าใช้จ่ายตามลิสต์ด้านล่างตีเป็นตัวเลขกลม ๆ มาจากการเที่ยวตามงบประมาณที่ตั้งไว้ของเราเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่จะซื้อของจากซูเปอร์มาร์เก็ตมาทำอาหารทานเองในที่พัก และทำแซนด์วิชไปเผื่อทานระหว่างวัน มีซื้อกาแฟน้ำดื่มและทานอาหารข้างนอกบ้างตามโอกาส ส่วนที่พักเลือกแบบทำอาหารได้ มีที่จอดรถฟรี ห่างจากใจกลางเมืองนิดหนึ่งไม่เป็นไรเพราะขับรถไปได้ ทั้งหมดนี้แตกต่างกันออกไปตามไลฟ์สไตล์การเที่ยวของแต่ละคน
รายการค่าใช้จ่ายขับรถเที่ยวในสโลวีเนีย 5 วัน ช่วงปลายเดือนพฤษภาคม
- ค่าเติมน้ำมันจากอิตาลี 88 ยูโร
- ค่าเติมน้ำมันในสโลวีเนีย 33 ยูโร
- ค่าทางด่วนมอเตอร์เวย์จากอิตาลี 11.20 ยูโร
- ค่าทางด่วนมอเตอร์เวย์ในสโลวีเนีย 15 ยูโร
- ค่าที่พักในลูบลิยานา 2 วัน 2 คืน 88 ยูโร
- ค่าที่พักในทะเลสาบเบลด 3 วัน 3 คืน 105 ยูโร
- ค่าที่จอดรถไม่มี (มีที่จอดรถของโรงแรมฟรี)
- ค่าที่จอดรถใกล้ทะเลสาบและที่เที่ยว 28 ยูโร
- ค่าเข้าชมที่เที่ยว 5 วัน 58 ยูโร
- ค่าอาหาร 5 วัน 104 ยูโร
- ค่าซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ต 94 ยูโร
รวมค่าใช้จ่ายในการขับรถเที่ยวสโลวีเนีย 5 วัน 5 คืน บวกที่พักหารสองคนอยู่ที่ประมาณ 530 ยูโร (19,676 บาท) ตัวเลขนี้ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบินเนื่องจากใช้วิธีการขับรถเที่ยว
วางแผนเที่ยวยุโรปด้วยตัวเอง
- Amsterdam | วางแผนเที่ยวอัมสเตอร์ดัม
- Istanbul | วางแผนเที่ยวอิสตันบูล 5 วัน 4 คืน
- Prague | วางแผนเที่ยวปรากเมืองหลวงเช็กเกีย
- Budapest | วางแผนเที่ยวบูดาเปสต์ 2 วัน
- Venice | วางแผนเที่ยวเวนิสราชินีแห่งสายน้ำ
- Vienna | เดินเที่ยวเวียนนาออสเตรีย 1 วัน
- Paris | เที่ยวปารีสฝรั่งเศสหน้าร้อนแบบเดย์ทริป
แหล่งข้อมูลวางแผนการท่องเที่ยว
เว็บไซต์เหล่านี้เป็นแหล่งข้อมูลที่เราใช้งานอยู่เป็นประจำเพื่อวางแผนการเดินทางท่องเที่ยว และคุณอาจพบว่ามีประโยชน์ในการวางแผนวันหยุดครั้งต่อไป →









﹏