บ่อน้ำพุร้อนเป่ยโถว ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งธรรมชาติบำบัดยอดนิยมของของไทเป ตั้งอยู่ในย่านซินเป่ยโถวห่างจากตัวเมืองเพียง 45 นาที ความน่าสนใจของบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้คือซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาขนาดเล็กที่คนท้องถิ่นต่างขนานนามว่า “ทะเลสาบผี” ซึ่งเกิดจากการสะสมความร้อนใต้พิภพและคลายความร้อนออกมาเป็นไอหมอกสู่ผิวน้ำอยู่ตลอดเวลา สร้างความงดงามตระการตาจนน่าไปเยือนด้วยตัวเอง
บ่อน้ำพุร้อนเป่ยโถวยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ โดยเฉพาะแร่โฮคุทไลต์ ที่เป็นสมบัติล้ำค่าของไต้หวัน เนื่องจากใช้เวลาหลายร้อยปีในการตกผลึก เรื่องราวเหล่านี้นักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้ได้ในพิพิธภัณฑ์บ่อน้ำพุร้อนเป่ยโถว ที่จะพาผู้เข้าชมไปเยือนอ่างอาบน้ำเก่าที่เคยรุ่งเรืองในอดีตอีกด้วย
นอกจากแหล่งธรรมชาติบำบัดที่สวยงามแล้ว ในย่านซินเป่ยโถวยังรวมที่เที่ยวทางประวัติศาสตร์ไว้มากมาย ไปจนถึงโรงแรมแช่ออนเซ็นหลายแห่งที่ตั้งอยู่ใกล้สวนเป่ยโถว ช่วยมอบประสบการณ์การพักผ่อนอันน่ารื่นรมย์และเพลิดเพลินไปกับความเงียบสงบของย่านสีเขียวเหล่านี้ได้อย่างลงตัว
ดังเช่นในคู่มือเที่ยวบ่อน้ำพุร้อนเป่ยโถวของเรา ที่จะพานักท่องเที่ยวเดินทางไปเยือนแหล่งสปาบำบัดทางธรรมชาติของไต้หวันพร้อม ๆ กัน และถ้าชอบการท่องเที่ยวในไต้หวันอย่าลืมแวะไปอ่าน → แผนเที่ยวไต้หวันด้วยตัวเอง 7 วัน
วิธีเดินทางไปน้ำพุร้อนเป่ยโถว (Taipei → Beitou)
น้ำพุร้อนเป่ยโถว ตั้งอยู่ในย่านเป่ยโถว ห่างจากใจกลางเมืองไทเปประมาณ 10 กม. การเดินทางไปเป่ยโถวสามารถทำได้ 2 วิธี คือ ใช้รถไฟฟ้าใต้ดินหรือรถบัส ซึ่งวิธีที่สะดวกที่สุดคือนั่งรถไฟใต้ดิน
หลังเดินทางมาถึงสถานี Xinbeitou จะยังไม่ถึงน้ำพุร้อนเป่ยโถวเลย ต้องเดินต่ออีกประมาณ 10-15 นาทีจะเจอกับบ่อน้ำพุร้อนเป่ยโถว (Thermal Valley) ที่ซ่อนอยู่ในหุบเขาขนาดเล็ก แต่ก่อนที่จะไปถึงที่นั้นจะต้องเดินผ่านสวนเป่ยโถวและพิพิธภัณฑ์บ่อน้ำพุร้อนเป่ยโถวก่อน ดังนั้นนักท่องเที่ยวสามารถแพลนได้ว่าจะชมที่ไหนก่อนดี
สำหรับบ่อน้ำพุร้อนเป่ยโถว (Thermal Valley) เป็นพื้นที่เปิดโล่ง เปิดให้เข้าชมฟรี เวลา 09:00-17:00 น. ในวันอังคารวันอาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) การเดินชมใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที
ส่วนพิพิธภัณฑ์บ่อน้ำพุร้อนเป่ยโถว (Beitou Hot Spring Museum) ก็มีขนาดเล็กเช่นกัน แบ่งออกเป็น 2 ชั้น เปิดให้เข้าชมฟรี เวลา 10:00-18:00 น. วันอังคารวันอาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) ใช้เวลาเดินชมประมาณ 45 นาที ถึง 1 ชม.
เอาเป็นว่าถ้าอยากได้ภาพสวย ๆ ของบ่อน้ำพุร้อนเป่ยโถวก็ให้เดินตรงไปที่นี่ก่อนแล้วค่อยมาเข้าชมพิพิธภัณฑ์ทีหลัง แต่ถ้าไม่รีบก็แนะนำให้ชมพิพิธภัณฑ์ก่อนแล้วค่อยเดินไปชมบ่อน้ำพุร้อน วิธีนี้ดีตรงที่จะได้ข้อมูลประวัติศาสตร์ของโรงอาบน้ำร้อนเป่ยโถวเป็นน้ำจิ้มก่อน และไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ควรไปเยือนทั้งสองแห่ง เพราะสวยและบรรยากาศดีมาก
เที่ยวน้ำพุร้อนเป่ยโถว: ชมพิพิธภัณฑ์บ่อน้ำพุร้อนเป่ยโถว
พิพิธภัณฑ์บ่อน้ำพุร้อนเป่ยโถว หรือที่รู้จักกันในชื่อ “โรงอาบน้ำร้อนเป่ยโถว” เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจแห่งหนึ่งของไทเป ตั้งอยู่ในอาคารสไตล์ญี่ปุ่นที่สวยงาม พิพิธภัณฑ์แห่งนี้อุทิศให้กับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของอุตสาหกรรมน้ำพุร้อนเป่ยโถว ซึ่งมีต้นกำเนิดมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1896 ด้านในมีการจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับการพัฒนาพื้นที่บ่อน้ำพุร้อน ประเพณีการอาบน้ำแบบดั้งเดิม และธรณีวิทยาของบ่อน้ำพุร้อน นับว่าเป็นสถานที่น่าไปเยือนเมื่อมาเที่ยวน้ำพุร้อนเป่ยโถว
การเข้าชมพิพิธภัณฑ์น้ำพุร้อนเป่ยโถวอันดับแรกต้องเปลี่ยนเป็นรองเท้าที่ทางพิพิธภัณฑ์จัดไว้ให้ก่อน (สีแดงน่ารักเชียว) เพราะเป็นพื้นไม้ จากนั้นก็ฝากกระเป๋าไว้ที่ตู้ล็อกเกอร์ พิพิธภัณฑ์จะมีทั้งหมด 2 ชั้น ถ้าเดินมาจากทางเข้าจะเป็นชั้นที่ 2 สร้างด้วยไม้ ใช้สำหรับเป็นพื้นที่พักผ่อน สามารถจุผู้คนได้สูงสุด 200 คน ส่วนชั้นแรกสร้างด้วยอิฐ เคยเป็นโรงอาบน้ำสาธารณะซึ่งปิดตัวไปแล้ว และตอนนี้ใช้เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่การจัดแสดง
ในส่วนของชั้น 2 ที่นักท่องเที่ยวกำลังยืนอยู่นี้ จะมีด้วยกันทั้งหมด 4 โซน คือ พื้นที่จัดแสดงนิทรรศการประวัติศาสตร์บ่อน้ำพุร้อนและโรงอาบน้ำเป่ยโถว ถัดไปจะเป็นล็อบบี้ตรงกลางซึ่งปูด้วยเสื่อทาทามิตามแบบฉบับญี่ปุ่นดั้งเดิม ตามด้วยระเบียงชมวิวที่มองเห็นห้องสมุดสาธารณะเป่ยโถว อีกฝั่งของล็อบบี้จะเป็นส่วนของการจัดแสดงนิทรรศการพิเศษ และห้องมัลติมีเดียสำหรับชมภาพยนตร์แนะนำพิพิธภัณฑ์น้ำพุร้อนเป่ยโถว ความยาวประมาณ 14 นาที
เรามาเริ่มในส่วนแรกกันก่อนเนาะ นั้นก็คือประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของอุตสาหกรรมน้ำพุร้อนเป่ยโถว ที่น่าสนใจทีเดียว พิพิธภัณฑ์บ่อน้ำพุร้อนเป่ยโถว ตั้งอยู่ในอาคารที่เคยเป็นโรงอาบน้ำสาธารณะโฮกุโตะ ซึ่งสร้างขึ้นในยุคอาณานิคมของญี่ปุ่น ในปี 1896 ช่วงเวลานั้นมีโรงแรมน้ำพุร้อนหลายแห่งเปิดให้บริการ โดยนำวัฒนธรรมน้ำพุร้อนจากญี่ปุ่นมายังไต้หวัน เช่น ซ่งโตหยวน เบาหยางหยวน และทังโกหยวน โรงแรมเหล่านี้นับว่าเป็นโรงแรมน้ำพุร้อนสามแห่งแรก ๆ ในไต้หวันเลยก็ว่าได้
ตั้งแต่นั้นมาทำให้อุตสาหกรรมน้ำพุร้อนเติบโตอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวท้องถิ่นและชาวญี่ปุ่น ก่อนที่ในช่วงทศวรรษ 1960 และ 1970 เป่ยโถวได้รับชื่อเสียงในฐานะจุดหมายปลายทางด้านการพักผ่อนที่สำคัญในไต้หวัน
อย่างไรก็ตามโรงอาบน้ำแห่งนี้ผ่านการเปลี่ยนแปลงต่างๆ มากมาย ตั้งแต่โรงอาบน้ำสาธารณะในสมัยญี่ปุ่น ไปจนถึงการเลิกใช้หลังใช้งาน ในที่สุดอาคารแห่งนี้ก็ถูกปิดเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของอำนาจและการดำเนินการของโรงอาบน้ำที่ไม่ต่อเนื่อง
ในปี 1994 ครูและนักเรียนจากโรงเรียนประถมเป่ยโถวได้ค้นพบโรงอาบน้ำร้างแห่งนี้ หลังจากบูรณะเป็นเวลาหลายปี โรงอาบน้ำแห่งนี้ได้รับการจัดให้เป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ในปี 1997 ก่อนที่พิพิธภัณฑ์น้ำพุร้อนเป่ยโถวจะเปิดอย่างเป็นทางการในปี 1998 โดยเปลี่ยนโรงอาบน้ำเดิมให้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่อุทิศให้กับวัฒนธรรมน้ำพุร้อน พร้อมนำเสนอระบบนิเวศเป่ยโถวด้วยแผนที่แบบโต้ตอบและนิทรรศการเพื่อการศึกษาอย่างครบครัน
เรียนรู้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของอุตสาหกรรมน้ำพุร้อนเป่ยโถวกันแล้ว ต่อไปจะเป็นส่วนของพื้นที่ล็อบบี้ที่ปูเสื่อทาทามิกันบ้าง บริเวณนี้ต้องบอกว่ามีบรรยากาศที่ใกล้เคียงกับการพักผ่อนในโรงแรมออนเซ็นของญี่ปุ่นเลยทีเดียว โดยเป็นห้องโถงกว้างพอประมาณสร้างด้วยไม้ตามแบบฉบับญี่ปุ่นดั้งเดิม ด้านในเป็นพื้นที่เปิดโล่งให้นักท่องเที่ยวเข้าไปนั่งเล่นได้
จริงๆ พื้นที่นี้ย้อนกลับไปในสมัยก่อนเวลาที่มีคนมาแช่น้ำร้อนในอ่างตรงชั้นหนึ่งแล้ว จะอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะขึ้นมาตรงนี้เพื่อนั่งพักผ่อนและจิบชา หรือเล่นหมากรุก อีกอย่างถ้ามองออกไปนอกระเบียงแล้ววิวดีมาก มีสวนเป่ยโถวแล้วก็ห้องสมุดสาธารณะเป่ยโถวที่ตั้งอยู่ซ้ายมือ ตรงระเบียงก็ตกแต่งด้วยโคมไฟสวยทีเดียว พอถ่ายรูปออกมาแล้วเป็นมุมที่สวยอีกมุมหนึ่งของพิพิธภัณฑ์เลย
ถัดจากล็อบบี้อย่างที่เกริ่นไปว่าจะเป็นส่วนการจัดแสดงนิทรรศการพิเศษ และห้องมัลติมีเดียสำหรับชมภาพยนตร์แนะนำพิพิธภัณฑ์น้ำพุร้อนเป่ยโถว พอเดินเข้าไปแล้วต้องบอกว่าเป็นมุมที่น่ารักอีกมุม โดยเฉพาะตรงอ่างแช่น้ำร้อนที่เป็นกระจก เราสามารถเข้าไปนั่งถ่ายรูปได้ พอถ่ายรูปออกมาเหมือนเรากำลังแช่น้ำพุร้อนจริง ๆ
แล้วก็ยังมีส่วนของจัดแสดงอาหารเวลาคนที่มาแช่น้ำร้อนมักจะทานกัน จริงๆ เป็นเมนูอาหารปลอมนะคะ แต่มองแล้วรู้สึกหิวขึ้นมาทันทีเลย ทำเหมือนมาก ๆ เรียกได้ว่าเป็นโซนที่ได้ทั้งความรู้และความสนุกในเวลาเดียวกัน
ชมนิทรรศการที่ชั้น 2 เสร็จแล้วเราจะเดินลงไปที่ชั้นแรกกันบ้าง ในส่วนนี้ต้องบอกว่าน่าสนใจไม่แพ้ชั้นที่ผ่านมาเลย โดยเฉพาะพื้นที่โรงอาบน้ำเก่าที่เคยใช้งานในสมัยก่อน ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ห้องอาบน้ำขนาดเล็ก ที่สงวนไว้สำหรับแขกผู้หญิงโดยเฉพาะ เพราะว่าผู้หญิงในสมัยนั้นไม่ค่อยได้เข้าห้องอาบน้ำสาธารณะแบบสปาคนเดียว แต่มักจะไปพร้อมกับสมาชิกในครอบครัว ดังนั้นการจัดวางห้องอาบน้ำสาธารณะเป่ยโถวจึงเน้นย้ำถึงธรรมชาติของสังคมสมัยนั้นที่เป็นแบบอนุรักษ์นิยม
โรงอาบน้ำเก่าอีกหนึ่งแห่งก็คือห้องอาบน้ำขนาดใหญ่ที่เป็นไฮไลท์ของชั้นนี้เลยก็ว่าได้ ตั้งอยู่ด้านในสุด มีความยาว 9 เมตร และกว้าง 6 เมตร ถือเป็นห้องอาบน้ำที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเมื่อสร้างเสร็จ โดยแขกผู้ชายจะใช้อ่างนี้อาบน้ำ ด้านในประดับด้วยเสาโค้งและหน้าต่างกระจกสีด้วยอัตราส่วน 6:4 มองแล้วคล้ายกับห้องอาบน้ำโรมันที่ยิ่งใหญ่และงดงาม
นอกจากห้องอาบน้ำที่เป็นไฮไลท์หลักของชั้นนี้แล้ว ยังมีการจัดแสดงนิทรรศการที่กล่าวถึงบ้านเกิดของแร่โฮคุทไลต์อีกด้วย (Hokutolite) ซึ่งเป็นแร่ชนิดเดียวที่ได้รับการตั้งชื่อตามสถานที่ในไต้หวัน เกิดจากน้ำแร่กำมะถันสีเขียวจากหุบเขาไหลผ่านบริเวณลำธารเป่ยโถว และมีความพิเศษเฉพาะตัว คือ แร่ขนาด 1 เซนติเมตรต้องใช้เวลาประมาณ 125-130 ปีจึงจะตกผลึก ดังนั้นโฮคุทไลต์จึงเป็นของสะสมอันล้ำค่าของพิพิธภัณฑ์น้ำพุร้อนเลยก็ว่าได้ ในภาพที่เห็นจะเป็นแร่ที่มีน้ำหนักมากถึง 800 กก.
สิ่งที่น่าสนใจอีกหนึ่งอย่างของพิพิธภัณฑ์บ่อน้ำพุร้อนเป่ยโถวก็คือวงการภาพยนตร์ฮอลลีวูดของไต้หวัน เพราะว่าช่วงแรก ๆ เป่ยโถวเต็มไปด้วยโรงแรมที่มีบ่อน้ำพุร้อนมากมาย จึงเหมาะสำหรับการถ่ายทำภาพยนตร์ที่มีทัศนียภาพสวยงามและให้บรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยมีการถ่ายทำภาพยนตร์มากกว่า 100 เรื่องในพื้นที่เหล่านี้ จนทำให้เป่ยโถวถูกกล่าวขานว่าเป็น “ฮอลลีวูดของวงการภาพยนตร์ไต้หวัน” นั้นเอง
การเข้าชมพิพิธภัณฑ์บ่อน้ำพุร้อนต้องบอกว่าคุ้มทีเดียว แม้จะเป็นพิพิธภัณฑ์เล็ก ๆ แต่ก็นำเสนอเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของบ่อน้ำพุร้อนเป่ยโถวออกมาได้อย่างน่าสนใจ ที่สำคัญมีกิจกรรมให้ผู้เข้าชมได้มีส่วนร่วมอย่างหลากหลาย ทำให้ไม่รู้สึกเบื่อเลยตลอดการเข้าชม
ทั้งนี้เมื่อเข้าชมพิพิธภัณฑ์เสร็จแล้วอย่าลืมแวะไปเดินทางด้านหลังของพิพิธภัณฑ์ด้วยนะคะ มีมุมถ่ายรูปสวย ๆ ของน้ำในลำธารที่ไหลลงมาจากหุบเขาด้านบน และถ้าเดินไปจนสุดก็จะเจอกับเส้นทางไปยังบ่อน้ำพุร้อนที่เราจะพาไปชมเป็นจุดถัดไป
เที่ยวน้ำพุร้อนเป่ยโถว: ชมหุบเขาบ่อน้ำพุร้อนเป่ยโถว
บ่อน้ำพุร้อนเป่ยโถว ตั้งอยู่ในหุบเขาน้ำพุร้อนเป่ยโถว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่อุทยานน้ำพุร้อน หุบเขาแห่งนี้มีไอกำมะถันที่ลอยขึ้นมาจากบ่อน้ำตลอดทั้งปีทำให้บรรยากาศดูลึกลับจนคนในพื้นที่ให้ฉายาว่า “ทะเลสาบผี” แต่ถึงกระนั้นก็ไม่สามารถหยุดยั้งความสวยงามตระการตาของสถานที่แห่งนี้ จนได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งใน “สถานที่ท่องเที่ยว 12 แห่งที่ยิ่งใหญ่ของไต้หวัน” รวมถึงอุทยานแห่งชาติทาโรเกะ และพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติอาลีซาน
บ่อน้ำพุร้อนเป่ยโถวซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ด้านในสุดบนถนนจงซาน ถ้าเดินมาจากพิพิธภัณฑ์บ่อน้ำพุร้อนเป่ยโถว ทางเข้าจะอยู่ฝั่งซ้ายมือ มีป้ายบอกอย่างชัดเจน นักท่องเที่ยวสามารถเดินต่อไปอีก 2-3 นาทีจะถึงจุดชมวิวบ่อน้ำพุร้อน แต่ก่อนที่จะไปถึงตรงนั้นอย่าลืมสัมผัสความร้อนของบ่อน้ำได้ที่อ่างจุ่มมือที่ตั้งอยู่ด้านหน้า อุณภูมิของน้ำพุร้อนถึง 80-100 องศาเซลเซียลเลยทีเดียว แต่ในอ่างจุ่มมือจะร้อนอยู่ที่ประมาณ 60-70 องศาเซลเซียล อุ่นกำลังดี
เมื่อเดินไปถึงจุดชมวิวบ่อน้ำพุร้อนนักท่องเที่ยวจะเห็นหุบเขาที่มีพื้นที่ถึง 3,500 ตารางเมตร บรรยากาศต้องบอกว่าดูลึกลับและโรแมนติกชวนฝันเหมือนอย่างที่คนท้องถิ่นให้ฉายาว่าทะเลสาบผีจริง ๆ ซึ่งบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้เกิดจากความร้อนใต้พิภพของกลุ่มภูเขาไฟต้าตุนที่สะสมอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อมีอยู่มากก็เกิดการสะสมพลังงานจากแร่ธาตุที่มีอยู่ใต้น้ำและดันขึ้นสู่ผิวน้ำ จนในที่สุดก็คลายความร้อนเกิดเป็นควันไอน้ำอย่างที่เราเห็นกัน
ปกติแล้วบ่อน้ำพุร้อนทั่วไปมักจะมีแร่ธาตุต่างๆ เจือปนอยู่ด้วยทำให้มีสีหรือกลิ่นที่แตกต่างกันออกไป บ่อน้ำพุร้อนเป่ยโถวก็เช่นกัน มีแร่ธาตุของกำมะถันเจือปนอยู่เป็นจำนวนมากและถูกทำให้เจือจางด้วยน้ำผิวดิน ทำให้น้ำพุมีสีเขียวหยก คล้ายกับกำมะถันสีเขียว ว่ากันว่าแต่ก่อนผู้คนสามารถลวกไข่ในบ่อน้ำแห่งนี้ได้ด้วย แต่ปัจจุบันได้ยกเลิกไปแล้ว เพื่อเป็นการรักษาคุณภาพน้ำและป้องกันไม่ให้นักท่องเที่ยวตกลงไปในน้ำเดือด
ที่น่าสนใจอีกอย่างคือในน้ำพุร้อนเป่ยโถวจะมี “หินเป่ยโถว” หรือที่เรียกว่า “แร่โฮคุทไลต์” ซึ่งกลายเป็นของหายากเพียงชนิดเดียวในโลก เพราะใช้เวลาหลายร้อยปีในการตกผลึก แต่ก่อนแร่นี้ถูกจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์บ่อน้ำพุร้อนเป่ยโถวเป็นจำนวนมาก แต่เนื่องจากเป็นหินที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้จึงถูกนำออกไปเก็บไว้ในสถานที่ที่เหมาะสม และจัดแสดงให้นักท่องเที่ยวได้ชมกันเพียง 1 ชิ้นเท่านั้น นั้นก็คือก้อนที่มีขนาด 800 กก. ที่เราพาไปชมมาก่อนหน้านี้นี่เอง
นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมความสวยงามของบ่อน้ำพุร้อนเป่ยโถวได้ตามสะดวก ซึ่งจะมีเส้นทางการเดินชมเป็นรูปวงกลมผ่านระเบียงไม้ที่วนไปรอบบ่อน้ำ ระหว่างทางจะเจอกับน้ำตกขนาดเล็กหนึ่งแห่ง จากนั้นจะเป็นเส้นทางเดินขึ้นบันไดไปทางด้านหลังบ่อน้ำ มองเห็นตึกสูงหนึ่งแห่งเป็นฉากหลัง และเดินวนมาจนครบจะเจอกับมุมถ่ายภาพที่สวยงามของน้ำพุร้อน มีป้ายบอกข้อมูลติดอยู่ตรงระเบียง
ถ้าเดินชมเสร็จแล้วมีเวลาเหลืออย่าลืมแวะไปที่ร้านกาแฟใกล้กับบ่อน้ำพุด้วยนะคะ ด้านในตกแต่งน่ารักเชียว แถมยังขายของที่ระลึกน่าสนใจอีกจำนวนมากด้วย โดยแล้วบ่อน้ำพุร้อนเป่ยโถวที่ได้ชมกันสวยงามสมคำล่ำลือจริง ๆ โดยเฉพาะความตระการตาของไอหมอกที่พุ่งพวยออกมาจากบ่ออยู่ตลอดเวลา นับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสรรสร้างให้กับโลกอย่างแท้จริง
เที่ยวน้ำพุร้อนเป่ยโถว: ที่เที่ยวน่าสนใจอีกหลายแห่ง
นอกจากบ่อน้ำพุร้อนและพิพิธภัณฑ์น้ำพุร้อนเป่ยโถวแล้ว ยังมีที่เที่ยวน่าสนใจอีกหลายที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงกัน ซึ่งที่เที่ยวเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะพานักท่องเที่ยวไปเรียนรู้เกี่ยวกับย่านเป่ยโถวมากขึ้น แต่ยังเหมาะสำหรับการเดินเที่ยวเพื่อชมวิวและซึมซับบรรยากาศที่สดชื่นของย่านนี้อีกด้วย
เที่ยวน้ำพุร้อนเป่ยโถว: โรงแรมแช่ออนเซ็นในเป่ยโถว
เที่ยวไทเป ใช้งบเท่าไร
ค่าใช้จ่ายสำหรับเที่ยวไทเป 4 วัน สำหรับ 2 คน อยู่ที่ประมาณ 19,366 TWD คิดเป็นเงินไทยประมาณ 21,764 บาท ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายอาจเพิ่มขึ้นหรือลดลงตามปัจจัยต่าง ๆ เช่น ค่าที่พัก การเดินทาง อาหาร กิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงค่าเช่ารถ ซึ่งตัวเลขนี้ยังไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน เช็คราคาและจองตั๋วเครื่องบินราคาประหยัดได้ที่นี่
budget
โรงแรม: 500-2,500 TWD
โฮสเทล: 500-2,000 TWD
การเดินทาง: 20-150 TWD
ซื้อตั๋วเดินทาง
กิจกรรมและตั๋ว: 100-450 TWD
รถเช่า: 1,000-1,500 TWD
อาหาร: 50-300 TWD/มื้อ
เครื่องดื่ม: 60-250 TWD/วัน
เที่ยวอย่างอุ่นใจไปกับบัตรเดบิต Wise สำหรับใช้จ่ายทั่วโลก สามารถใช้ถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มต่างประเทศตามอัตราแลกเปลี่ยนจริงโดยไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง ใช้ชำระค่าอาหาร จองที่พักหรือตั๋วเครื่องบิน รวมถึงในร้านค้าออนไลน์ทั่วโลกกว่า 50+ สกุลเงิน ทั้งยังรองรับการชำระผ่าน MasterCard, Apple Pay และ Google Pay โดยไม่ต้องกังวลในการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน ใช้มานานกว่า 4 ปีไม่ผิดหวัง → สมัครรับบัตรเดบิต Wise ไว้ใช้ประโยชน์ด้วยตัวเองตอนนี้เลย
แหล่งข้อมูลวางแผนเที่ยว
Thank you
การเปิดเผย: บทความนี้มีลิงก์แอฟฟิลิเอทบางส่วน การกดที่ลิงก์ไม่มีค่าใช้จ่าย หากซื้อสินค้าหรือบริการจากลิงก์ดังกล่าว เราอาจได้รับค่ากำลังใจเล็กน้อยสำหรับนำไปพัฒนาบล็อก 🧡