แคมป์ปิ้งในฝรั่งเศส: คู่มือการท่องเที่ยวธรรมชาติแบบประหยัด

ฝรั่งเศสเป็นจุดหมายปลายทางที่ยอดเยี่ยมสำหรับการตั้งแคมป์ในช่วงฤดูร้อน ประกอบกับมีภูมิทัศน์ที่เป็นภูเขาทำให้นักท่องเที่ยวสามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้หลากหลาย เช่น การปั่นจักรยานเสือภูเขา เดินป่าและล่องแก่ง รวมไปถึงใช้เวลาพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติอย่างเต็มที่

เช่นเดียวกับในครั้งนี้เราเลือกมาแคมป์ปิ้งที่ Saint-Gervais-les-Bains ซึ่งเป็นชุมชนขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ใกล้หมู่บ้านชาโมนิกซ์มองบลังค์ มีที่เที่ยวยอดนิยมที่อยากไปให้ได้สักครั้ง คือ ยอดเขามองบลังค์และธารน้ำแข็ง Mer de Glace ในบทความนี้จะมาแชร์ประสบการณ์การแคมป์ปิ้งในฝรั่งเศส รวมไปถึงวิธีการเตรียมตัวก่อนไปออกแคมป์ปิ้งกัน ในตอนท้ายยังรวมที่เที่ยวและกิจกรรมน่าสนใจใกล้แคมป์ปิ้งไว้อีกด้วย

การเตรียมตัวมาแคมป์ปิ้งในฝรั่งเศส

สถานที่ตั้งแคมป์ปิ้ง

ประเภทแคมป์ปิ้ง

สิ่งอำนวยความสะดวกในแคมป์ปิ้ง

การเดินทาง

งบประมาณที่มี

เผื่อเวลาในการจองแคมป์ปิ้งไว้ล่วงหน้า

อุปกรณ์แคมปิ้งที่ควรเตรียมมา

ก่อนที่จะลงมือจัดเตรียมอุปกรณ์ควรทำลิสต์รายการสิ่งที่ต้องเตรียมก่อน เพื่อที่จะได้ทราบจำนวนสิ่งของทั้งหมด รวมถึงขนาดพื้นที่ของรถสำหรับการขนสิ่งของเหล่านั้นไปด้วย และสิ่งของที่ขาดเหลือ สิ่งเหล่านี้ช่วยช่วยประหยัดเวลาและง่ายต่อการตรวจเช็ค ลิสต์ด้านล่างคืออุปกรณ์แคมป์ปิ้งที่ควรเตรียม สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์แคมป์ปิ้ง เช่น Decathlon มีสาขาในยุโรป (รวมถึงประเทศไทย) รวมไปถึงร้านอื่น ๆ ตามสะดวก

การเตรียมอาหารมาแคมป์ปิ้งในฝรั่งเศส

อาหารเป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันในการออกแคมป์ปิ้ง ควรวางแผนอาหารและจำนวนวัตถุดิบที่ต้องการเตรียมไป เช่น ทำอาหารไว้เป็นมื้อ ๆ แช่แข็งไว้สำหรับใส่ในกล่องเก็บความเย็นเพื่อนำติดรถไว้ไปอุ่นทานที่แคมป์ปิ้ง หรือเตรียมวัตดุดิบไปให้ครบตามจำนวนวันที่เราไปออกแคมป์ปิ้ง เพื่อที่จะได้มีอาหารเพียงพอโดยไม่ต้องไปหาซื้อเพิ่มเติม วิธีการนี้ช่วยให้มองเห็นภาพรวมของเงินที่ต้องแบ่งไว้สำหรับค่าอาหารโดยเฉพาะ หรืออีกตัวเลือกหนึ่งก็คือเตรียมวัตถุดิบไปบางส่วนแล้วไปหาซื้อจากซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้เคียง

• อาหารแห้ง: มาม่า (ข้าวสาร) เส้นพาสต้า ชากาแฟ น้ำตาล ขนมไว้ทานเล่นระหว่างเดินทาง และสินค้าที่เราหาซื้อและเก็บไว้ได้นาน เพราะมาวันแรก ๆ อาจจะหาซูเปอร์มาร์เก็ตยาก
• อาหารกระป๋อง: ปลากระป๋อง
• ซอสปรุงรส: น้ำปลา น้ำมันสำหรับทอด
• อาหารสด: นำใส่กระเป๋าเก็บความเย็น พอมาถึงที่แคมป์ปิ้งก็ชาร์จไฟ ถ้าหมดสามารถหาซื้ออาหารสดได้ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้แคมป์ปิ้ง

การเตรียมเสื้อผ้ามาแคมป์ปิ้งในฝรั่งเศส

• เตรียมถุงสำหรับแยกผ้าแห้งและผ้าเปียก
• รองเท้าเดินป่า รองเท้าผ้าใบ รองเท้าแตะ
• ชุดสำหรับเที่ยวหน้าร้อน ชุดเดินป่า ชุดว่ายน้ำ เผื่อไปล่องแก่งหรือเล่นน้ำตก
• ครีมกันแดด (แดดที่ฝรั่งเศสแรงมากช่วงหน้าร้อน)
• อุปกรณ์อาบน้ำและแต่งหน้า แบ่งใส่ขวดเล็ก ๆ ในกระเป๋าสำหรับพกพา
• เสื้อกันฝนและร่มกันแดด ไว้ใช้ในกรณีที่มีฝนตก
• ถ้าแพลนที่จะไปมองบลังค์ด้วย ควรเตรียมเสื้อแจ็คเก็ต หมวกไหมพรมและถุงมือมาด้วย
• เหนือสิ่งอื่นใดคือฟิตร่างกายมาให้พร้อม ถ้าเราจะไปเดินป่าด้วยต้องใช้ร่างกายที่แข็งแรง

การเดินทางมาแคมป์ปิ้งในฝรั่งเศส

การขับรถในประเทศฝรั่งเศสใช้เลนขวา โดยจำกัดความเร็วไม่เกิน130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และความเร็วไม่เกิน 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (วันที่มีฝนตก) ผู้ที่ขับรถยนต์ต้องมีใบอนุญาตขับขี่สากล หรือใบอนุญาตขับขี่ในยุโรป (สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในยุโรป) รวมไปถึงประกันภัยสำหรับรถยนต์และประกันการเดินทาง อย่าลืมนำพาสสปอร์ตและใบอนุญาตผู้พำนักอาศัยในประเทศเนเธอร์แลนด์มาด้วย (หากมี)

บนทางด่วนฝรั่งเศสมีสถานีเติมน้ำมันบริการ มีป้ายบอกระยะทางที่จะถึงสถานีเติมน้ำมัน การเติมน้ำมันต้องทำด้วยตัวเอง เมื่อเติมเสร็จแล้วเดินไปจ่ายเงิน (แบบเงินสด บัตรเดบิต หรือบัตรเครดิต) ที่จุดรับชำระเงินกับเจ้าหน้าที่ ภายในสถานีน้ำมันยังมีร้านค้าขนาดเล็ก จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม และห้องน้ำไว้บริการ

เช่นเดียวกับการโดยสารบนทางด่วนมีค่าบริการ ซึ่งจะมีช่องให้เลือกจ่ายด้วยด้วยเงินสด บัตรเดบิต และบัตรเครดิต ค่าทางด่วนขึ้นอยู่กับเส้นทาง เช่น เดินทางจากกรุงปารีสไปยังเมืองชาโมนิกซ์-มองบลังค์ ค่าทางด่วนประมาณ 50 ยูโร ค่าน้ำมันประมาณ 60 ยูโร สามารถตรวจสอบค่าทางด่วนและสภาพการจราจรได้ที่ Autoroutes และวางแผนการเดินทางในฝรั่งเศสได้ที่ Mappy

ที่ฝรั่งเศสราคาเช่ารถยนต์อยู่ที่ประมาณ 250-500 ยูโร (1 อาทิตย์) ราคาอาจเพิ่มขึ้นตามประเภทรถยนต์และจำนวนวันที่เช่า การเช่ารถยนต์ขับในฝรั่งเศสเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่มาจากนอกยุโรป โดยสามารถเลือกที่รับรถได้ตามความสะดวก หรือจะเลือกรับตั้งแต่ที่สนามบินเลยก็ได้ บริการนี้ยังรวมไปถึงมีรถให้เลือกหลายแบบมาพร้อมราคาเปรียบเทียบที่สมเหตุสมผลอีกด้วย

ออกเดินทางสู่แคมป์ปิ้งในฝรั่งเศส

เมื่อวางแผนทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาออกเดินทางไปยังแคมป์ปิ้งในฝรั่งเศสพร้อมๆ กัน โดยใช้เส้นทางจากอัมสเตอร์ดัมไปยังปารีส และพักเที่ยวที่ปารีส 1 คืน จากนั้นเดินทางต่อไปยังเมืองชาโมนิกซ์-มองบลังค์ จนกระทั่งมาถึงหมู่บ้าน Saint-Gervais-les-Bains ใช้เวลารวมประมาณ 6 ชั่วโมงพอดี มีแวะพักตามสถานีเติมน้ำมัน 2 ครั้ง

พอถึงที่หมายแล้วก็ไปเช็คอินที่เคาน์เตอร์ แล้วก็ได้กระดาษแผนผังจุดที่กางเต็นท์ จากนั้นก็เดินไปที่จุดกางเต็นท์ เป็นลานสนามหญ้าเปล่ากว้างขวางมาก สามารถจอดรถยนต์ได้สองคันเลยทีเดียว และมีแผงเสียบปลั๊กไฟใกล้กับจุดกางเต็นท์ ก่อนจะใช้เวลากางเต้นท์และจัดของประมาณครึ่งชั่วโมงก็เสร็จ มีเวลานั่งพักผ่อนต่อตอนใกล้ค่ำ

วิวที่แคมป์ปิ้ง Nature & Lodge ดีมากเลยค่ะ ล้อมรอบด้วยป่าไม้ ด้านหน้ามองเห็นภูเขาปกคลุมด้วยหิมะ ทางซ้ายมือเป็นพื้นที่ห้องน้ำรวมและห้องสุขาแยก เราเดินไปสำรวจมาแล้ว ห้องน้ำสะอาด มีฝักบัว น้ำอุ่น มีที่ล้างจานด้านนอกด้วย รวมถึงห้องซักผ้าที่มาพร้อมเครื่องซักผ้าหยดเหรียญ ตลอดจนสนามเด็กเล่น ที่มีเครื่องเล่นสำหรับเด็ก ๆ เหมาะสำหรับผู้ปกครองที่พาลูก ๆ มาด้วย ส่วนเรื่องสัญญาณไวไฟที่จุดกางเต็นท์จะช้านิดหนึ่ง ถ้าอยากได้แบบเร็ว ๆ ต้องเดินไปที่ห้องนั่งเล่นบริเวณเคาน์เตอร์แทน

การทำอาหารในแคมป์ปิ้ง

เรานำอาหารที่แช่แข็งเตรียมไว้แล้วมาอุ่นทานในมื้อแรกที่เดินทางมาถึง ส่วนมื้อต่อไปใช้วัตถุดิบที่เตรียมมาด้วยเพื่อทำอาหารทางเอง โดยใช้เชื้อเพลิงจากกระป๋องแก๊สซาลาเปาต่ออะแดปเตอร์สำหรับเติมกระป๋อง วางขาตั้งหม้อครอบบนอะแดปเตอร์ เปิดวาล์วแก๊สและจุดไฟ จากนั้นก็สามารถทำอาหารทานได้เลย

อาหารที่ทำเป็นเมนูง่าย ๆ เช่น ข้าวไข่เจียว ข้าวผัด ผัดมาม่า สปาเก็ตตี้ ผัดผักรวมมิตร บางมื้อก็กินขนมปังแบบชาวยุโรป ตอนกลางวันมีไปซื้ออาหารทานที่ข้างนอกบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นกาแฟและน้ำดื่ม ส่วนตอนเย็นและตอนเช้าก็ทำอาหารกินเองประหยัดเงิน ที่แคมป์ปิ้งยังมีขนมปังสดขายทุกเช้า บางวันสามารถเดินไปซื้อได้เลย แต่บางวันก็ต้องจองก่อน เพื่อที่ทางแคมป์ปิ้งจะได้ไปซื้อมาตามจำนวนคนที่ต้องการ โดยรวมแล้วเรื่องอาหารการกินที่แคมป์ปิ้งไม่เป็นปัญหาเลย

กิจกรรมน่าสนใจใกล้แคมป์ปิ้ง

เดินป่าที่หมู่บ้านสกีรีสอร์ท Saint-Gervais-Le-Bettex

Saint-Gervais-Le-Bettex เป็นหมู่บ้านสกีรีสอร์ทในภูมิภาค Auvergne-Rhône-Alpes ทางตะวันออกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส ตั้งอยู่ที่ฐานของเทือกเขามองบลังค์ และยังเป็นที่รู้จักเนื่องจากอยู่ใกล้กับธารน้ำแข็ง Mer de Glace ความน่าสนใจของที่นี่นอกจากจะเป็นลานสกีขนาดใหญ่ในช่วงฤดูหนาวแล้ว ในช่วงฤดูร้อนยังเหมาะสำหรับ การเดินป่าขึ้นไปชมทิวทัศน์ที่สวยงามของบ้านเรือนและภูเขาโดยรอบ

โดยมีเส้นทางเดินป่าที่เหมาะสำหรับนักเดินป่ามือใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์มาก่อน ไปจนถึงเส้นทางเดินป่าที่ต้องใช้ความชำนาญในการเดิน ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2-5 ชั่วโมง เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาครึ่งวัน หรือจะมาเที่ยวมองบลังค์ก่อน จากนั้นนั่งรถไฟไปชมธารน้ำแข็ง Mer de Glace และปิดท้ายด้วยการเดินป่าที่หมู่บ้านสกีรีสอร์ทแห่งนี้ก็น่าสนใจเช่นกัน

เที่ยวหมู่บ้านชาโมนิกซ์ (Chamonix Village)

แน่นอนว่าเมื่อมาเที่ยวที่ชาโมนิกซ์แล้ว ต้องไม่พลาดที่จะไปเดินเล่นที่ “Chamonix Village” ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่น่าอยู่และมีความน่ารักในตัวเอง หมู่บ้านแห่งนี้ถูกโอบล้อมด้วยภูเขาขนาดใหญ่เป็นฉากหลัง โดยมีแม่น้ำ Arve ที่มีต้นกำหนดจากเทือกเขามองบลังค์ตัดผ่านหมู่บ้าน แม่น้ำแห่งนี้ยังขึ้นชื่อเรื่องกระแสน้ำเชี่ยวกรากและเป็นที่นิยมในหมู่นักล่องแก่งและนักพายเรือคายัคอีกด้วย

ใจกลางของหมู่บ้านชาโมนิกซ์ยังมีการผสมผสานที่อยู่อาศัยของผู้คนในพื้นที่เข้ากับร้านค้า ร้านอาหาร และที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวได้อย่างลงตัว มีแหล่งชอปปิงสำหรับซื้อของฝากรวมไปถึงอุปกรณ์สำหรับการเล่นกีฬาตามฤดูกาลในราคาที่สมเหตุสมผล และยังเป็นที่ตั้งของสถานีขึ้นกระเช้าไฟฟ้า Aiguille du Midi ไปชมยอดเขามองบลังค์ รวมถึงสถานีรถไฟ Montenvers ไปชมธารน้ำแข็ง Mer de Glace ที่มีชื่อเสียงของฝรั่งเศส

เที่ยวยอดเขามองบลังค์ (Mont Blanc)

ยอดเขามองบลังค์ (Mont Blanc) มีความหมายว่า “ภูเขาสีขาว” เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในเทือกเขาแอลป์และยุโรปตะวันตก โดยมีหิมะปกคลุมตลอดปี กิจกรรมกลางแจ้งในเทือกเขามองบลังค์ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมีหลายอย่าง เช่น การปีนเขา การเดินป่า รวมไปถึงกีฬาในฤดูหนาว เช่น การเล่นสกีและสโนว์บอร์ด รวมไปถึงมีเส้นทางปีนเขายอดนิยมที่ชื่อว่า ”Goûter Route” ซึ่งเป็นเส้นทางที่ง่ายที่สุดในการขึ้นมองบลังค์ และอีกตัวเลือกหนึ่งที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันคือการขึ้นกระเช้าไปยังยอดเขามองบลังค์ ที่ความสูง 3,842 เมตร

วิธีนั่งกระเช้าขึ้นไปยอดเขามองบลังค์ (Mont Blanc)

นั่งรถไฟสาย Montenvers ไปชมธารน้ำแข็ง Mer de Glace

Mer de Glace เป็นธารน้ำแข็งที่ตั้งอยู่ในเทือกเขามองบลังค์ และยังเป็นหนึ่งในธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในฝรั่งเศส มีความยาวประมาณ 7 กิโลเมตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสวยงามตระการตาและน่าสนใจที่สุดในเมืองชาโมนิกซ์ไม่แพ้การนั่งกระเช้าขึ้นไปชมยอดเขามองบลังค์

นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปสัมผัสความงดงามของที่นี่ได้ด้วยการนั่งรถไฟ Montenvers จากสถานี Gare de Chamonix-Mont-Blanc โดยใช้ตั๋วใบเดียวกับที่นั่งกระเช้าไปมองบลังค์ เมื่อถึงสถานีรถไฟด้านบนแล้วสามารถขึ้นกระเช้าไฟฟ้าและเดินตามขั้นบันไดอีกประมาณ 550 ขั้น เพื่อไปชมความความงดงามของถ้ำน้ำแข็ง Mer de Glace แบบใกล้ชิด

วิธีนั่งรถไฟไปเที่ยวธารน้ำแข็ง Mer de Glace

เที่ยวเมืองเจนีวา (Geneva) สวิตเซอร์แลนด์ (ตัวเลือก)

เจนีวาเป็นหนึ่งในเมืองสวยงามน่าเที่ยวของสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่ทางทางตะวันตกเฉียงใต้ของทะเลสาบเจนีวาใกล้กับเมืองโลซานน์ (Lausanne) เพียง 67 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากเมืองชาโมนิกซ์เพียง 80 กิโลเมตร เป็นจุดหมายปลายยอดนิยมที่สามารถเที่ยวได้แบบเดย์ทริปจากชาโมนิกซ์

แน่นอนว่าเมื่อไปเที่ยวเจนีวาแล้วต้องไม่พลาดที่จะไปเดินเล่นริมทะเลสาบ ชมน้ำพุเจ็ตเดออัว ตามด้วยนาฬิกาดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก อย่าลืมแวะไปเดินเล่นที่ย่านเมืองเก่าอันงดงาม หรือจะเข้าชมพิพิธภัณฑ์และโบสถ์ ตลอดจนเข้าร่วมทัวร์สำนักงานสหประชาชาติ ไปจนถึงชิมช็อกโกแลตและพักผ่อนที่สวนพฤกษศาสตร์เก่าแก่แห่งความขจีก็เป็นไอเดียที่ดีไม่แพ้กัน

การเดินทางไปยังเมืองเจนีวาสามารถทำได้สะดวกด้วยรถบัสหรือรถไฟ สำหรับรถบัสใช้เวลาน้อยกว่ารถไฟอยู่ที่ 1 ชั่วโมง 21 นาที มีรถบัสของ Swiss Tours, BlaBlaCar Bus และ FlixBus ให้บริการจากรถไฟชาโมนิกซ์-มองบลังค์ไปยังสถานีรถไฟเจนีวา → ค้นหาตั๋วรถบัสราคาดีที่สุดจากชาโมนิกซ์มองบลังค์ไปเจนีวา

ในขณะที่รถไฟใช้เวลา 3 ชั่วโมง 21 นาที มีรถไฟของ Swiss Railways (SBB/CFF/FFS) และ SNCF วิ่งจากสถานีรถไฟชาโมนิกซ์-มองบลังค์ไปยังสถานีรถไฟเจนีวา ส่วนรถยนต์สามารถเข้าถึงเมืองเจนีวาได้ภายในเวลา 55 นาที → ค้นหาตั๋วรถไฟราคาดีที่สุดจากชาโมนิกซ์มองบลังค์ไปเจนีวา