ลิกเตนสไตน์ (Liechtenstein) เป็นประเทศเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ใจกลางยุโรประหว่างประเทศสวิตเซอร์แลนด์และออสเตรีย โดยมีพื้นที่ทั้งหมดเพียง 160 ตารางกิโลเมตร และยังเป็นประเทศเดียวในโลกที่ใช้ภาษาเยอรมันเป็นภาษาราชการ แต่ไม่มีพรมแดนติดกับประเทศเยอรมนีเลย ความน่าสนใจของลิกเตนสไตน์แน่นอนว่าเป็นหนึ่งในประเทศร่ำรวยที่สุดในโลก รวมไปถึงมีภูมิประเทศแบบเทือกเขาแอลป์ที่งดงาม ตลอดจนพิพิธภัณฑ์ศิลปะและอาณาจักรแห่งแสตมป์อันโด่งดัง การเดินทางไปยังลิกเตนสไตน์จึงไม่เพียงแต่เป็นวิธีที่ดีในการสัมผัสความงามของประเทศหรือเรียนรู้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดหมายที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการเที่ยวแบบรวมทริปจากประเทศใกล้เคียง
ทริปเที่ยวลิกเตนสไตน์เป็นส่วนหนึ่งการขับรถเที่ยวทางไกลในยุโรปช่วงฤดูร้อนทั้งหมด 5 ประเทศด้วยกัน คือ ฝรั่งเศส โมนาโก อิตาลี ออสเตรีย และลิกเตนสไตน์ เราได้เขียนเล่าประสบการณ์รวมถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับการเที่ยวในประเทศเหล่านี้ไว้อย่างละเอียด ใครที่สนใจอย่าลืมแวะไปอ่านได้ตามลิงก์แนบ
เที่ยวลิกเตนสไตน์ (Liechtenstein)
การตัดสินใจมาเที่ยวลิกเตนสไตน์เหตุผลหลักเลยก็คืออยากเห็นว่าบ้านเมืองว่าจะเป็นยังไง รวมถึงอยากไปเข้าชมพิพิธภัณฑ์แสตมป์ที่มีชื่อเสียง ส่งโปสการ์ดหาตัวเอง พร้อมเก็บสะสมเงินฟรังก์สวิสไว้เป็นที่ระลึก ซึ่งตอนนั้นบอกตัวเองไว้ว่าถ้ามีเงินฟรังก์สวิสแล้วก็ต้องไปสวิตเซอร์แลนด์ให้ได้ หนึ่งปีต่อมาก็ได้พาตัวเองไปจริง ๆ คือ เมืองโลซานน์ เจนีวา และอินเทอร์ลาเคิน-ฮาร์เดอร์คูล์ม นับว่าเป็นเป้าหมายเล็ก ๆ ที่เปิดโลกให้ได้รู้จักกับลิกเตนสไตน์อย่างคาดไม่ถึง และยังเป็นประเทศสุดท้ายของทริปการขับรถเที่ยวทางไกลในยุโรปช่วงหน้าร้อนก่อนที่เราจะเดินทางกลับเนเธอร์แลนด์กันอีกด้วย
ส่วนการเดินทางมาลิกเตนสไตน์นั้นเราขับรถกันมาจากเวียนนา แม้จะใช้เวลาเกือบ 7 ชั่วโมงแต่ก็ไม่ย่อท้อ พอมาถึงแล้วก็หาที่จอดรถในเมืองหลวงวาดุซที่ Parkhaus Marktplatz ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเลย พอเดินออกมาก็จะเจอกับบ้านเรือนรวมไปถึงที่เที่ยวที่ตั้งอยู่ใกล้กันแบบเดินไม่ถึง 2-3 นาก็ถึงเลย
พิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากร (Postmuseum Vaduz) เที่ยวลิกเตนสไตน์ (Liechtenstein)
พิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากร (Postmuseum Vaduz) ตั้งอยู่ชั้นสองของตัวอาคาร ด้านในจัดแสดงประวัติความเป็นมาของแสตมป์ ตัวอย่างแสตมป์ที่มีชื่อเสียงจากทั่วโลก แท่นพิมพ์ในการผลิตแตมป์ รวมไปถึงโปสการ์ดต่าง ๆ เราสามารถส่งโปสการ์ดได้โดยซื้อกับพนักงานที่เคาน์เตอร์ เลือกแบบแสตมป์ที่ต้องการ เขียนชื่อที่อยู่ผู้รับและข้อความให้เรียบร้อย จากนั้นก็นำไปหยอดใส่ตู้ไปรษณีย์ขนาดเล็ก ใช้เวลาประมาณ 2 อาทิตย์ (ยุโรป) โปสการ์ดก็นำส่งมาถึงบ้าน ถ้าจัดส่งในประเทศไทยใช้เวลาประมาณ 2-3 อาทิตย์
นอกจากนี้เรื่องแสตมป์ที่โดดเด่นในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้แล้ว เรายังสามารถขอตราประทับหนังสือเดินทางลิกเตนสไตน์ลงบนพาสปอร์ตได้อีกด้วย โดยมีค่าธรรมเนียมเพียง 3 ฟรังก์สวิส นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมที่นี่ได้ฟรี เปิดทุกวัน เวลา 09:00-17:00 น.
ปราสาทวาดุซ (Vaduz Castle) เที่ยวลิกเตนสไตน์ (Liechtenstein)
Vaduz Castle เป็นปราสาทที่พำนักของราชวงศ์แห่งลิกเตนสไตน์ ตั้งตระหง่านอยู่เหนือเมืองหลวงวาดุซประมาณ 120 เมตร เป็นสถานที่สำคัญอีกหนึ่งแห่งของของลิกเตนสไตน์และสามารถมองเห็นได้แต่ไกล ปราสาทมีต้นกำเนิดในศตวรรษที่ 12 ก่อนที่จะมีการสร้างหอคอยที่อยู่อาศัยขึ้นในปี ค.ศ. 1287 จากนั้นก็มีการกล่าวถึงเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1322 ที่นี่ยังเคยเป็นที่ประทับแบบถาวรของเจ้าชายฟรานซ์โจเซฟที่ 2 และครอบครัว ในปี พ. ศ. 2482 อีกด้วย
ปราสาทวาดุซไม่ได้เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชม แต่เป็นไปได้ที่จะชมความสวยงามของปราสาทจากด้านนอกแทน ถ้าหากเดินขึ้นไปบริเวณปราสาท เรายังสามารถมองเห็นวิวสวย ๆ ของเมืองวาดุซจากยอดเขาอีกด้วย
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติลิกเตนสไตน์ (Liechtenstein National Museum)
ห่างออกไปเพียง 1 นาทีจากพิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากร เราจะพบพิพิธภัณฑ์แห่งชาติลิกเตนส สถานที่แห่งนี้จะพาทุกคนไปเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของลิกเตนสไตน์จากสมัยโบราณของมนุษย์ผ่านยุคปัจจุบัน รวมไปถึงด้วยชิ้นส่วนวัตถุโบราณ เครื่องแต่งกายเสื้อผ้าแบบดั้งเดิม ที่แสดงให้เห็นการใช้ชีวิตของผู้คนในสมัยก่อน ผ่านแกลเลอรี่งานศิลปะและนิทรรศการแบบชั่วคราวและถาวรได้อย่างน่าสนใจ
การเข้าชมพิพิธภัณฑ์แห่งชาติลิกเตนสไตน์ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มองจากข้างนอกแล้วดูเหมือนเล็ก ๆ แต่พอได้มาเดินจริง ๆ กลับมีเรื่องราวที่น่าสนใจซ่อนอยู่เยอะเลย ที่นี่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมวันอังคารถึงวันอาทิตย์ ระหว่างเวลา 10:00-17:00 น. วันพุธ ระหว่างเวลา 10:00-17:00 น. ส่วนวันจันทร์ปิดทำการ ราคาตั๋วเข้าชม 10 ฟรังก์สวิส
วิหารเซนต์ฟลอริน (St. Florin Cathedral) เที่ยวลิกเตนสไตน์ (Liechtenstein)
St. Florin Cathedral หรือวิหารวาดุซเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในเมืองวาดุซ สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2417 ด้วยสถาปัตยกรรมนีโอทิก ตั้งอยู่ที่ปลายด้านหนึ่งของถนนสายหลักห่างจากพิพิธภัณฑ์แห่งชาติลิกเตนสไตน์เพียง 3 นาที ด้านนอกของวิหารมีหอคอยที่มีลักษณะเรียบง่ายและเป็นโบสถ์ที่ธรรมดามาก แต่เป็นสถานที่มีความสำคัญทางศาสนาที่สำคัญของเมืองวาดุซ
ศาลากลางเมืองวาดุซ (Vaduz City Hall) เที่ยวลิกเตนสไตน์ (Liechtenstein)
เดินเล่นมาเรื่อย ๆ จากวิหารเซนต์ฟลอรินเราจะพบกับสถานที่สำคัญอีกหนึ่งแห่งของเมืองวาดุซนั้นก็คือ ศาลากลางเมืองวาดุซ ตั้งอยู่บนถนนสาย Städtle ซึ่งเป็นย่านโรงแรมที่พัก ร้านอาหารและคาเฟ่จำนวนมาก ที่นี่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2475 ได้รับการปรับปรุงใหม่ในปี พ.ศ. 2525-2527 ด้านหน้าสามารถมองเห็นตราแผ่นดินซึ่งแกะสลักด้วยหินเหนือประตูทางเข้า
นอกเหนือจากที่เที่ยวที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว ลิกเตนสไตน์ (Liechtenstein) ยังมีสถานที่ขนาดเล็กอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น พิพิธภัณฑ์งานศิลปะสมัยใหม่และร่วมสมัยจากทั่วโลก (Kunstmuseum Liechtenstein) หอสมุดแห่งชาติลิกเตนสไตน์ (Liechtenstein National Library) ศาลเมืองวาดุซ (Courthouse) ที่ทำการไปรษณีย์เมืองวาดุซ (Postfiliale Vaduz – Liechtensteinische Post AG) รวมถึงกระทรวงสาธารณสุขเมืองวาดุซ (Amt für Gesundheit) ซึ่งสถานที่เหล่านี้มีขนาดเล็กมาก และยังตั้งอยู่ในอาคารที่เราเดินผ่านแล้วนึกไม่ถึงว่าจะเป็นสถานที่สำคัญทางราชการของลิกเตนสไตน์
ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเราก็เดินชมรอบ ๆ ใจกลางเมืองวาดุซจนทั่ว เอาจริง ๆ เราไม่คิดว่าเมืองจะเล็กมากขนาดนี้ เล็กจนแทบทำให้เราประหลาดใจว่าในวันว่าง ๆ ของผู้คนที่นี่นอกเหนือจากการทำงานแล้วพวกเขาทำอะไรกัน? คำตอบนี้อาจจะเดาได้จากภูมิทัศน์ของเมืองที่อยู่บนภูเขา โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติเขียวจี กิจกรรมการท่องเที่ยวหลักก็คงหนีไม่พ้นปล่อยใจไปกับธรรมชาติอย่างเต็มที่
ส่วนที่เป็นบ้านเรือนของผู้คนในพื้นที่ยังมีการทำสวนองุ่นเพื่อทำไวน์อีกด้วย นั้นยังไม่รวมไปถึงมีพื้นที่สำหรับเล่นสกีในช่วงฤดูหนาว รวมไปถึงระบบการขนส่งสาธารณะและการบริการจัดการบ้านเมืองที่ทำให้ทุกอย่างดูเป็นระเบียบเรียบร้อยไปทุกด้าน สิ่งเหล่านี่เป็นปัจจัยหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงว่าทำไมผู้คนที่นี่ถึงมีความสุขติดอันดับโลก แม้ว่าขนาดพื้นที่จะเล็กแต่ถ้าบ้านเมืองมีการบริการจัดการที่ดีก็สามารถทำให้ผู้คนมีความสุขได้โดยไม่เกี่ยวกับขนาดของประเทศ
ก่อนเดินทางกลับเนเธอร์แลนด์เราก็ไม่ลืมที่จะกดเงินธนบัตรฟรังก์สวิสเอาไว้สะสมเป็นที่ของระลึก จากนั้นก็เดินทางกลับเนเธอร์แลนด์ โดยแวะพักที่เมืองแฟรงก์เฟิร์ต เป็นอันจบทริปเที่ยวลิกเตนสไตน์และปิดทริปการขับรถเที่ยวทางไกลในยุโรปตอนกลางตลอดสองอาทิตย์ไปพร้อมความประทับใจ
สำหรับใครที่มาเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์หรือออสเตรีย ถ้ามีมีเวลาเหลือประมาณหนึ่งวัน ลองนั่งรถไฟมาเที่ยวที่ลิกเตนสไตน์ดูสักครั้งนะคะ ที่นี่เดินทางสะดวกและมีพิพิธภัณฑ์ให้เข้าชมหลายแห่ง พอเข้าชมพิพิธภัณฑ์เสร็จแล้วก็สามารถไปเดินชมธรรมชาติรอบใจกลางเมืองได้ หรือจะนั่งรถบัสไปชมพื้นที่ภูเขารอบเมืองก็ได้เช่นกัน นับว่าเป็นประเทศเล็ก ๆ ที่ไม่หวือหวาและมีความเรียบง่ายแบบไม่ต้องปรุงแต่งให้เห็นอยู่หลายมุมเลยทีเดียว
การเดินทางมายังลิกเตนสไตน์ (Liechtenstein)
เรื่องน่ารู้ก่อนมาเที่ยวลิกเตนสไตน์
- วีซ่า: ลิกเตนสไตน์เป็นส่วนหนึ่งของเขตเชงเก้น ดังนั้นพลเมืองของประเทศในยุโรปส่วนใหญ่และสหรัฐอเมริกาจึงไม่จำเป็นต้องมีวีซ่าเพื่อเข้าประเทศ ส่วนนักท่องเที่ยวที่มาจากไทยสามารถใช้วีซ่าเชงเก้นเพื่อท่องเที่ยวในประเทศลิกเตนสไตน์ได้
- สกุลเงิน: สกุลเงินอย่างเป็นทางการของลิกเตนสไตน์คือฟรังก์สวิส และควรมีเงินสดติดตัวไว้บ้าง เพราะไม่ใช่ทุกแห่งที่จะรับบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต
- ภาษา: ภาษาทางการของลิกเตนสไตน์คือภาษาเยอรมัน แต่หลายคนก็สามารถพูดภาษาอังกฤษและภาษาอื่น ๆ ได้เช่นกัน
- การคมนาคม: ลิกเตนสไตน์มีระบบขนส่งมวลชนที่มีประสิทธิภาพ ครอบคลุมถึงรถประจำทางและรถไฟ นอกจากนี้ยังมีบริการรถแท็กซี่ด้วย
- สภาพอากาศ: ลิกเตนสไตน์มีสภาพอากาศที่อบอุ่น โดยเฉพาะช่วงฤดูร้อนอากาศดี ส่วนฤดูหนาวอากาศเย็นจัด ควรตรวจสอบสภาพอากาศก่อนวางแผนการเดินทาง
- ที่พัก: ลิกเตนสไตน์มีที่พักให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่โฮสเทลราคาประหยัดไปจนถึงโรงแรมหรู แนะนำให้จองล่วงหน้าโดยเฉพาะในช่วงฤดูท่องเที่ยว
- ปลั๊กไฟ: ในลิกเตนสไตน์เป็นแบบ C และ F นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากนอกยุโรป ควรเตรียมหัวปลั๊กแปลงไฟรอบโลกสำรองมาด้วย
- ความปลอดภัย: ลิกเตนสไตน์ถือเป็นประเทศที่ปลอดภัยสำหรับการท่องเที่ยว
- ค่าผ่านทาง: ในลิกเตนสไตล์ไม่มีด่านเก็บค่าทางด่วน แต่ถ้าเดินทางมาจากออสเตรียหรือสวิตเซอร์แลนด์จำเป็นต้องมีสติ๊กเกอร์ค่าทางด่วนมอเตอร์เวย์
เที่ยวอย่างอุ่นใจไปกับบัตรเดบิต Wise สำหรับใช้จ่ายทั่วโลก สามารถใช้ถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มต่างประเทศตามอัตราแลกเปลี่ยนจริงโดยไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง ใช้ชำระค่าอาหาร จองที่พักหรือตั๋วเครื่องบิน รวมถึงในร้านค้าออนไลน์ทั่วโลกกว่า 50+ สกุลเงิน ทั้งยังรองรับการชำระผ่าน MasterCard, Apple Pay และ Google Pay โดยไม่ต้องกังวลในการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน ใช้มานานกว่า 4 ปีไม่ผิดหวัง → สมัครรับบัตรเดบิต Wise ไว้ใช้ประโยชน์ด้วยตัวเองตอนนี้เลย
แหล่งข้อมูลวางแผนเที่ยว
Thank you
การเปิดเผย: บทความนี้มีลิงก์แอฟฟิลิเอทบางส่วน การกดที่ลิงก์ไม่มีค่าใช้จ่าย หากซื้อสินค้าหรือบริการจากลิงก์ดังกล่าว เราอาจได้รับค่ากำลังใจเล็กน้อยสำหรับนำไปพัฒนาบล็อก 🧡