เที่ยวเวียนนา (Vienna) เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของออสเตรีย ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศริมฝั่งแม่น้ำดานูบ ความน่าสนใจของเมืองนี้ไม่เพียงแต่มีมรดกทางวัฒนธรรมที่หลากหลายและเป็นที่รู้จักในด้านสถาปัตยกรรม พิพิธภัณฑ์ และดนตรีที่มีทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์เท่านั้น แต่ยังเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง เช่น พระราชวังเชินบรุนน์ โรงละครแห่งรัฐเวียนนา และมหาวิหารเซนต์สตีเฟน
เวียนนายังเป็นที่รู้จักจากร้านกาแฟชื่อดัง รวมไปถึงเป็นศูนย์กลางที่สำคัญสำหรับการเมืองระหว่างประเทศและเป็นที่ตั้งขององค์กรระหว่างประเทศหลายแห่ง เช่น องค์การสหประชาชาติและองค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) และในบทความนี้จะแนะนำเกี่ยวกับสถานที่เที่ยวที่เราสามารถทำได้ภายในหนึ่งวันในเวียนนา
บัตร Vienna City Card ดีอย่างไร
เพื่อช่วยประหยัดค่าเดินทางในเวียนนาลองพิจารณาซื้อบัตร Vienna City Card ที่ให้สิทธิประโยชน์และส่วนลดมากมายสำหรับนักนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นใช้เดินทางได้ไม่จำกัดด้วยระบบขนส่งสาธารณะในเวียนนา ตามระยะเวลาบัตร 24, 48 หรือ 72 ชั่วโมง รวมถึงส่วนรับลดสูงถึง 25% สำหรับเข้าชมพิพิธภัณฑ์และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เช่น พระราชวังเบลเวอเดียร์ (อาคารส่วนบน 9%) พระราชวังเบลเวอเดียร์ (อาคารส่วนล่าง 14%) พิพิธภัณฑ์อัลแบร์ทินา (10%) หอสมุดแห่งชาติออสเตรีย (20%) พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา (25%) พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ศิลปะเวียนนา (5%) พระราชวังเชินบรุนน์ (6%) พิพิธภัณฑ์ซีซี (6%) โบสถ์แห่งเซนต์ชาร์ลส์ (21%) ตั๋วรวมเข้าชมพิพิธภัณฑ์ในย่าน MuseumsQuartier (21%) และยังรวมส่วนลดทัวร์ไกด์ ล่องเรือ ร้านอาหาร และบริการอื่น ๆ อีกมากมาย
ทริปเที่ยวเวียนนาเป็นส่วนหนึ่งการขับรถเที่ยวทางไกลในยุโรปช่วงฤดูร้อนทั้งหมด 5 ประเทศด้วยกัน คือ ฝรั่งเศส โมนาโก อิตาลี ออสเตรีย และลิกเตนสไตน์ เราได้เขียนเล่าประสบการณ์รวมถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับการเที่ยวในประเทศเหล่านี้ไว้อย่างละเอียด ใครที่สนใจอย่าลืมแวะไปอ่านเพิ่มเติมได้ตามลิงก์แนบ
เที่ยวเวียนนา: หอสมุดแห่งชาติออสเตรีย (Austrian National Library)
การมาเที่ยวเวียนนาครั้งแรกเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้เข้าชมหอสมุดแห่งชาติออสเตรีย ความน่าสนใจของที่นี่คือเป็นหอสมุดที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรีย และยังเป็นหนึ่งในหอสมุดสไตล์บาโรกที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอีกด้วย ตามประวัติกล่าวว่าห้องสมุดก่อตั้งเมื่อต้นศตวรรษที่ 18 โดยจักรพรรดินีมาเรียเทเรซา และเปิดให้สาธารณชนเข้าชมตั้งแต่ปี ค.ศ. 1793
ด้านในรวบรวมคอลเล็กชันหลากหลายกว่า 7.4 ล้านรายการ รวมถึงต้นฉบับและหนังสือหายาก แผนที่โรมัน หนังสือพิมพ์ โน้ตเพลง ตลอดจนคัมภีร์ไบเบิลตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 ซึ่งมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ห้องสมุดเปิดให้บริการแก่บุคคลทั่วไป วันอังคารถึงวันอาทิตย์ ระหว่างเวลา 10:00-18:00 น. ราคาตั๋วเข้าชม 10 ยูโร
เมื่อเดินเข้ามาในพิพิธภัณฑ์แล้วเราสามารถซื้อตั๋วได้ที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วกับเจ้าหน้าที่ จากนั้นก็เดินขึ้นบันไดวนไปยังหอสมุดแห่งชาติออสเตรีย ส่วนของหอสมุดหลักเรียกว่า Prunksaal หรือ State Hall ซึ่งเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ เป็นส่วนหนึ่งของพระราชวังฮอฟบวร์ก (Hofburg Palace) สร้างขึ้นในในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 18 มีความยาวเกือบ 80 เมตร และสูง 20 เมตร
เมื่อเดินผ่านประตูทางเข้ามายังด้านในของห้องโถง สิ่งแรกที่ทำให้หลายคนอดอุทานกับตัวเองไม่ได้เลยก็คือชั้นหนังสือขนาดใหญ่จำนวนมากที่จัดเก็บหนังสือมากกว่า 200,000 เล่มไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ด้วยความที่ชั้นหนังสือสูงทำให้ต้องสร้างบันไดขึ้นมาเพื่อใช้สำหรับปีนขึ้นไปค้นหาหนังสือได้อย่างสะดวก
หนังสือที่จัดเก็บรวบรวมไว้ในหอสมุดแห่งชาติออสเตรียมาจากระหว่างปี 1500 และ 1850 ซึ่งในบรรดาหนังสือเหล่านี้มีคอลเล็กชันหนังสือจำนวนกว่า 15,000 เล่ม ของเจ้าชายเออแฌนแห่งซาวอย (Prince Eugene of Savoy) รวมทั้งหนังสือจำนวนมากจากห้องสมุดสงฆ์ที่ปิดตัวลงในช่วงการปฏิรูปศาสนาของจักรพรรดิโจเซฟที่ 2 รวมอยู่ด้วย
ด้านบนของห้องโถงจะเป็นโดมประดับด้วยจิตกรรมฝาผนังที่มีความงดงามตระการตา ซึ่งวาดด้วยสีและเทคนิคพิเศษบอกเล่าเรื่องราวทางศาสนา สงคราม สันติภาพ และสะท้อนถึงถึงความยิ่งใหญ่ของจักรวรรดิได้อย่างลงตัว นอกจากวัตถุที่มีมากกว่าเจ็ดล้านชิ้นในห้องสมุดแห่งนี้แล้ว ยังมีการจัดแสดงลูกโลกสไตล์บาโรกจำนวนสี่ลูก ซึ่งแต่ละลูกมีเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่าหนึ่งเมตรไว้บริเวณจุดกึ่งกลางของห้องโถงอีกด้วย หากเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ สามารถมองเห็นประเทศไทย
หอสมุดแห่งชาติออสเตรียมีขนาดไม่ใหญ่มาก สามารถเดินชมอย่างทั่วถึงภายในเวลา 1 ชั่วโมง ถ้าหยุดพักอ่านรายละเอียดในส่วนของการจัดแสดงวัตถุต่าง ๆ เช่น โน้ตเพลง ประวัตินักเขียนหลายท่าน แผนที่โรมัน และอื่น ๆ อาจใช้เวลานานกว่านี้ ในตอนท้ายหลังจากที่ได้เข้าชมแล้วหลายคนอาจจะรู้สึกเหมือนกันว่าไม่อยากเดินออกไปข้างนอกเลย เพราะสวยงามจนอยากใช้เวลาที่นี่นาน ๆ โดยรวมแล้วที่นี่เป็นที่เที่ยวที่เข้าชมแล้วคุ้มค่า ได้ทั้งความรู้และความสวยงามในราคาตั๋วไม่เกิน 10 ยูโร
การเดินทางมายังหอสมุดแห่งชาติออสเตรีย
- รถไฟใต้ดิน: สายสีส้ม U3 มาลงที่สถานี Herrengasse หรือสายสีแดง U1 และสายสีส้ม U3 มาลงที่สถานี Stephansplatz จากนั้นเดินอีกประมาณ 10 นาทีมายังหอสมุดแห่งชาติออสเตรีย
- รถบัส: สาย 3A มาลงที่สถานี Albertinaplatz จากนั้นเดินต่ออีก 3 นาทีมายังหอสมุดแห่งชาติออสเตรีย
- ค่าตั๋วเดินทาง: ใช้ตั๋วเที่ยวเดียวราคา 2.40 ยูโร บัตรเดินทางแบบไม่จำกัดเที่ยว 24 ชั่วโมง ราคา 8 ยูโร หรือใช้บัตร Vienna City Card ราคา 17 ยูโร นำไปเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนในเวียนนาแบบไม่จำกัดเที่ยวตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมรับส่วนลดร้านอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย
เที่ยวเวียนนา: พระราชวังฮอฟบวร์ก (Hofburg Palace)
จากหอสมุดแห่งชาติออสเตรียนักท่องเที่ยวสามารถเดินต่อไปยังพระราชวังฮอฟบวร์กได้ภายใน 6 นาที ที่นี่เป็นสถานที่เที่ยวยอดนิยมของเวียนนาที่ห้ามพลาดอย่างเด็ดขาด ความน่าสนใจของพระราชวังฮอฟบวร์กแน่นอนว่าเป็นพระราชวังเก่าแก่ของกรุงเวียนนา และยังเป็นที่อยู่อาศัยหลักของผู้ปกครองราชวงศ์ฮับส์บูร์กกจนถึงปี พ. ศ. 2461
ปัจจุบันบางส่วนของพระราชวังกลายมาเป็นที่พำนักทางการของประธานาธิบดีแห่งออสเตรีย รวมถึงเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของราชวงศ์ฮอฟบวร์ก ตลอดจนการจัดแสดงเครื่องประดับ ชุดเครื่องเงิน พระคลังสมบัติหลวง รวมไปถึงห้องในพระราชวังที่มีมากกว่า 2,000 ห้อง พระราชวังฮอฟบวร์กเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมทุกวัน ระหว่างเวลา 10:00-17:00 น. ราคาตั๋วเข้าชม 16 ยูโร
พระราชวังฮอฟบวร์กมีขนาดใหญ่มากและมีสิ่งที่น่าสนใจหลายส่วน รายการด้านล่างพิพิธภัณฑ์และส่วนที่น่าสนใจซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้โดยใช้ตั๋วใบเดียวกัน ได้แก่
- พิพิธภัณฑ์ซีซี (The Sisi Museum) ของสมเด็จพระจักพรรดินีเอลิซาเบธในสมเด็จพระจักรพรรดิฟรานซ์โจเซฟที่ 1 มีห้องจัดแสดงนิทรรศการที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นของจักรพรรดินี ตลอดจนเครื่องประดับราคาแพง ชุดราชาภิเษก แบบจำลองชุดของพระองค์ที่มีความสวยงามตระการ และสิ่งของใช้ส่วนพระองค์มากกว่า 240 ชิ้นที่รวบรวมมาจากกระเป๋าเดินทาง พร้อมทั้งบอกเล่าเรื่องของพระองค์ตั้งแต่วัยเยาว์จนถึงเหตุการณ์ที่ทำให้พระองค์สิ้นพระชนม์ก่อนวัยอันควร
- ห้องพักทั้งสิบเก้าห้อง (Imperial Apartments) ประกอบด้วยห้องชุดทางการและที่อยู่อาศัยซึ่งครอบครองโดยสมเด็จพระจักรพรรดิฟรานซ์โจเซฟที่ 1 และสมเด็จพระจักพรรดินีเอลิซาเบธซีซี ที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงามตระการตา พร้อมถ่ายทอดเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และความประทับใจของประเพณีในราชสำนักของราชวงศ์ฮอฟบวร์กมายาวนานกว่า 600 ปี
- คอลเลกชันสีเงิน (Silver Collection) จัดแสดงเครื่องเงินในพระราชวังที่จะพาทุกคนไปเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมการรับประทานอาหารในราชสำนักในอดีตที่มีหรูหราอลังการ คอลเลกชันนี้ยังรวมถึงเครื่องลายครามแก้วและเงินอันล้ำค่าที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นของตระกูลฮอฟบวร์ก
ทั้งสามส่วนนี้ใช้เวลาเข้าชมรวมประมาณ 3 ชั่วโมง หากต้องการลงรายละเอียดในแต่ละส่วนอาจใช้เวลามากกว่านี้ ซึ่งพระราชวังฮอฟบวร์กเป็นสถานที่ที่ควรเข้าชมอย่างยิ่ง เพราะได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของราชวงศ์ฮอฟบวร์กอย่างใกล้ชิด เช่นเดียวกับถ้ามองจากภายนอกพระราชวังอาจจะไม่รู้เลยว่ามีสิ่งของล้ำค่ามากมาย รวมถึงเรื่องราวน่าสนใจในหลายแง่มุมที่ซ่อนอยู่ในสถานที่แห่งนี้
การเดินทางมายังพระราชวังฮอฟบวร์ก
- รถไฟใต้ดิน (Metro): สายสีส้ม U3 มาลงที่สถานี Herrengasse
- รถราง (Trams): สาย 1, 2, D และ 71 มาลงที่สถานี Burgring
- รถบัส (Bus): สาย 1A และ 2A มาลงที่สถานี Hofburg
- ค่าตั๋วเดินทาง: ใช้ตั๋วเที่ยวเดียวราคา 2.40 ยูโร บัตรเดินทางแบบไม่จำกัดเที่ยว 24 ชั่วโมง ราคา 8 ยูโร หรือใช้บัตร Vienna City Card ราคา 17 ยูโร นำไปเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนในเวียนนาแบบไม่จำกัดเที่ยวตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมรับส่วนลดร้านอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย
เที่ยวเวียนนา: คาเฟ่สไตล์เวียนนาดั้งเดิม (Café Central)
ใกล้กับพระราชวังฮอฟบวร์กมีร้านกาแฟชื่อดัง “Café Central” ตั้งอยู่ห่างออกไปเพียง 5 นาที ความโดดเด่นของคาเฟ่แห่งนี้คือการออกแบบภายในที่หรูหรา มีภาพเฟรสโก เสาหินอ่อน และโคมไฟระย้าประดับอย่างดงาม เป็นสถานที่ยอดนิยมที่ห้ามพลาดอย่างเด็ดขาด
ด้านในคาเฟ่มีการจัดตกแต่งอย่างสวยงาม เคาน์เตอร์ด้านหน้าจะเป็นส่วนของการจัดวางสินค้า เช่น ขนมหวาน เค้กช็อกโกแลต เครื่องดื่มชากาแฟ รวมไปถึงเคาน์เตอร์จ่ายเงิน เราสามารถสั่งเครื่องดื่มที่ต้องการกับพนักงานและเดินไปหาโต๊ะนั่งซึ่งจัดไว้หลายมุมทั่วร้าน นอกจากเครื่องดื่ม เช่น กาแฟและวิปครีมนุ่ม ๆ แล้ว ที่นี่ยังมีเค้กหลายรสชาติให้ได้ลองทานกันอีกด้วย เช่นเดียวกับชุดดื่มน้ำชาตอนบ่ายเอาใจผู้ที่ชื่นชอบการดื่มชาโดยเฉพาะ หรือถ้าต้องการทานอาหารแบบเต็มอิ่มที่นี่ก็มีอาหารสไตล์เวียนนาพร้อมเสิร์ฟ
เที่ยวเวียนนา: พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา (Museum of Natural History Vienna)
แวะไปเข้าชมพระราชวังและคาเฟ่กันมาแล้ว ต่อไปที่พลาดไม่ได้เลยก็คือพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติขนาดใหญ่ ซึ่งด้านในเก็บตัวอย่างและสิ่งประดิษฐ์ที่เกี่ยวข้องกับโลกธรรมชาติไว้มากมาย เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบหรืออยากเรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติในมุมที่ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ใน Museumsquartier เป็นฝาแฝดที่เหมือนกันของพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ศิลปะ (Kunsthistorisches Museum Wien) ซึ่งหันหน้าเข้าหาจัตุรัสมาเรียเทเรซ่า (Maria Theresia Platz) นักท่องเที่ยวสามารถเดินมาที่นี่ได้ภายในเวลา 6 นาที หรือสามารถนั่งรถไฟใต้ดินสายสีม่วง U2 และสายสีส้ม U3 มาลงที่สถานี Volkstheater
พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2400 และเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยเป็นเป็นที่รู้จักจากคอลเล็กชันแร่ธาตุ ฟอสซิล และสัตว์ที่กินสัตว์ รวมถึงการจัดแสดงที่ครอบคลุมเกี่ยวกับธรณีวิทยา บรรพชีวินวิทยา และชีววิทยาของออสเตรียและภูมิภาคโดยรอบ ผ่านนิทรรศการที่แบ่งออกเป็นสองชั้นด้วยกัน
ชั้นล่างจัดแสดงหินมีค่า แร่ธาตุ และอุกกาบาตที่มีอยู่มากมายที่สุดในยุโรป ตลอดจนวัฒนธรรมก่อนประวัติศาสตร์เกี่ยวกับวิวัฒนาการของมนุษยชาติ และการค้นพบซากดึกดำบรรพ์วีนัสแห่งวิลเลนดอร์ฟที่มีชื่อเสียง (Venus of Willendorf) ซึ่งเป็นรูปแกะสลักอายุประมาณ 30,000 ปี
ส่วนชั้นบนผู้เข้าชมสามารถสำรวจเรื่องราวของกลุ่มสัตว์ชนิดต่าง ๆ เช่น แมลง นก และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม นิทรรศการเหล่านี้ไม่เพียงแต่ให้ข้อมูลเชิงลึกที่น่าสนใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของการสตัฟฟ์สัตว์ (Taxidermy) ในช่วงหลายศตวรรษที่ผ่านมาเท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสให้เราได้เห็นสิ่งมีชีวิตที่สูญพันธุ์ไปแล้ว เช่น วัวทะเลชเต็ลเลอร์ (Steller) ผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมพิพิธภัณฑ์พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาได้ทุกวัน วันพฤหัสถึงวันจันทร์ เวลา 09:00-18:30 น. วันพุธ เวลา 09:00-21:00 น. ราคาค่าตั๋วเข้าชม 14 ยูโร
เที่ยวเวียนนา: ตลาดแนชมาร์ก (Naschmarkt)
ตลาดแนชมาร์กเป็นตลาดสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดของเวียนนา ตั้งอยู่ระหว่าง Karlsplatz และ Kettenbrückengasse ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีจากผักและผลไม้สด เนื้อสัตว์ และอาหารพิเศษที่หลากหลาย ตลาดนี้เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 และปัจจุบันถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งของเมือง
ภายในตลาดแบ่งออกเป็นส่วนต่าง ๆ โดยแต่ละส่วนมีสินค้าให้เลือกไม่ซ้ำกัน เช่น ผักและผลไม้ เนื้อและปลา ชีส และเครื่องเทศ นอกจากนี้ยังมีแผงขายอาหารและร้านอาหารมากมายในตลาดที่นักท่องเที่ยวสามารถลิ้มลองอาหารเวียนนาแบบดั้งเดิมและอาหารนานาชาติได้ ตลาดเปิดตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันเสาร์ เวลา 06:30-21:00 น. ส่วนตลาดนัดวันเสาร์ เปิดระหว่างเวลา 06:30-14:00 น. เดินทางสะดวกด้วยรถไฟใต้ดินสายสีม่วง U2 มาลงที่สถานี Karlsplatz หรือสายสีเขียว U4 มาลงที่สถานี Kettenbruckengasse
เที่ยวเวียนนา: มหาวิหารเซนต์สตีเฟน (St. Stephen’s Cathedral)
อาสนวิหารเซนต์สตีเฟนหรือที่เรียกกันว่าสเตฟานดอมเป็นอาสนวิหารสไตล์กอทิกที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 และยังเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญทางศาสนาและวัฒนธรรมที่โดดเด่นที่สุดของเมือง ด้านนอกมหาวิหารโดดเด่นด้วยยอดแหลมที่หรูหรา มีหลังคาปูด้วยกระเบื้องหลากสีสัน และการแกะสลักหินที่ประณีต
ส่วนด้านในแบ่งออกเป็นสี่ส่วนด้วยกัน ได้แก่ มหาวิหารส่วนกลาง สุสานที่ฝั่งศพของบุคคลสำคัญหลายคน หอคอยทางทิศใต้ และหอคอยระฆังทางทิศเหนือ ทั้งสี่ส่วนนี้ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม มหาวิหารเปิดให้ประชาชนเข้าชมฟรีสำหรับส่วนกลาง หากต้องการเข้าชมในส่วนของสุสานมีค่าเข้าชม 6 ยูโร หอคอยทางทิศใต้ 5.5 ยูโร และหอคอยระฆังทางทิศเหนือ 6 ยูโร
อาสนวิหารเซนต์สตีเฟนเปิดวันจันทร์ถึงวันเสาร์ เวลา 09:30-11:30 น. และ 13:00-16:00 น. วันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 13:00-16:00 น. เดินทางสะดวกด้วยรถไฟใต้ดินสายสีแดง U1 และ สายสีส้ม U3 มาลงที่สถานี Stephansplatz หรือรถบัสสาย 1A, 2A และ 3A มาลงที่สถานี Stephansplatz
เที่ยวเวียนนา: ร้านซี่โครงหมูบาร์บีคิว (Ribs of Vienna)
มาถึงสถานที่สุดท้ายที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนไปลองกันม๊ากมากนั้นก็คือ ร้านซี่โครงหมูบาร์บีคิว (Ribs of Vienna) ทำไมต้องเป็นร้านนี้? เอาจริง ๆ เราไม่ได้คาดหวังเลยตอนที่ค้นหาร้านอาหารใกล้ ๆ มหาวิหารเซนต์สตีเฟน รู้เพียงแค่ว่าอยากกินซี่โครงหมูบาร์บีคิว แล้วกูเกิ้ลแนะนำร้านนี้ให้ ที่สำคัญเลยคะแนนรีวิวสูงถึง 4.4 เลยทีเดียว เราเลยไม่รอช้าตั้งใจที่ไปฝากท้องมื้อเย็นไว้กับร้านนี้แหละ พอได้ไปลองแล้วมันอร่อยจริง ๆ ค่า
ร้านซี่โครงหมูบาร์บีคิวตั้งอยู่ห่างจากมหาวิหารเซนต์สตีเฟนเพียง 6 นาที (500 เมตร) สามารถเดินไปเรื่อย ๆ ตามถนน Liliengasse จากนั้นเลี้ยวซ้ายไปยังถนน Weihburggasse เดินต่ออีกประมาณ 3 นาทีจะเจอกับทางเข้าประตูสีเขียว ตอนแรกคิดว่ามาผิดที่เพราะดูเหมือนไม่ใช่ร้านอาหารเลย แต่ด้วยความว่ามีป้ายชื่อติดอยู่ที่หน้าประตูก็เดินตามลงบันไดไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเจอกับร้านซึ่งตั้งอยู่ชั้นใต้ดิน พอเดินเข้าไปในร้านคือดูดีมาก มีพนักงานกำลังทำอาหารและลูกค้าหลายคนนั่งอยู่ในร้าน บรรยากาศดูสบาย ๆ แบบว่าต่างจากทางเข้าที่ดูน่ากลัวนิด ๆ
เมนูซี่โครงหมูของที่นี่มีให้เลือกให้หลายแบบ เราเลือกสั่งซี่โครงหมูบาร์บีคิวซิกเนเจอร์ของทางร้านที่มีความยาวถึง 1 เมตร (ราคา 17 ยูโร) และมีซอสให้เลือกถึง 20 ชนิดด้วยกัน นั่งรอประมาณ 15 นาทีเมนูที่เราเฝ้ารอมาก็มาเสิร์ฟถึงโต๊ะ พร้อมซอสมาโยกระเทียม ซอสมะเขือเทศ สลัดกะหล่ำปลีโคลสลอว์ ขนมปัง 2 แผ่น และถั่วย่างเนื้อนุ่มห่อด้วยเบคอน หน้าตาดูสวยงามเหมือนที่เห็นในภาพเลย จากนั้นเราก็ลงมือรับประทานกันเลยค่ะ
ความพิเศษของซี่โครงหมูบาร์บีคิวหลังจากกินเข้าไปคำแรกคือเนื้อฉ่ำมาก รสชาติอร่อยลงตัวเข้ากับซอส พอกินกับเครื่องเคียงแล้วคือมันอร่อยจนต้องขอบคุณตัวเองที่เลือกมาร้านนี้ ที่สำคัญอีกหนึ่งอย่างเลยก็คือ สลัดกะหล่ำปลีโคลสลอว์ อร่อยจนอยากห่อกลับบ้านด้วยมาก ๆ แบบอยากจะถามพนักงานว่าทำยังไงให้ได้รสชาติแบบนี้ กินไปยิ้มไปมีความสุขกับอาหารมื้อเย็น
ในส่วนของการบริการก็ดีไม่แพ้รสชาติอาหาร พนักงานใจดีคอยเดินมาถามตลอดว่าอาหารโอเคไหม ขาดเหลืออะไรไหม เอาเป็นว่าไม่สามารถบรรยายความอร่อยให้หมดในบทความนี้ได้จริง ๆ อยากให้ทุกคนไปลิ้มลองรสชาติด้วยตัวเอง ร้านเปิดวันจันทร์ถึงวันศุกร์ เวลา 12:00-15:00 น. และ 17:00-24:00 น. วันเสาร์อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 12:00 – 24:00 น.
ป.ล. ขนาดกลับมาจากเวียนนาแล้วก็ยังอดคิดถึงร้านนี้ไม่ได้ แบบไปกินที่ไหนก็ยังไม่อร่อยเท่าร้านนี้มาก่อน จนอยากให้มาเปิดสาขาที่กรุงเทพฯ บ้านเราบ้าง ใครไปลองแล้วลองกระซิบพนักงานให้มาเปิดที่นี่บ้างนะคะ เผื่อเขาจะมาเปิดจริง ๆ แล้วเราจะได้ไม่ต้องไปไกลถึงเวียนนา
ย่านที่พักน่าสนใจในเวียนนา (Vienna)
การเดินทางจากสนามบินเข้าเมืองเวียนนา (Vienna)
สนามบินนานาชาติเวียนนา (Flughafen Wien-Schwechat) หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าสนามบินเวียนนา เป็นสนามบินหลักของออสเตรีย ตั้งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองเวียนนาไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 18 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยเที่ยวบินสามารถใช้ตัวเลือกที่หลากหลายสำหรับเดินทางเข้าเมืองภายในเวลา 16-30 นาที
สำหรับใครที่อยากประหยัดค่าเดินทางจากสนามบินเข้าเมืองเวียนนา และใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะในเมืองได้ไม่จำกัด แนะนำให้ซื้อบัตร Vienna City Card + Airport Transfer ซึ่งสามารถรับสิทธิประโยชน์และส่วนลดมากมายได้เหมือนกับบัตร Vienna City Card เลย ที่เพิ่มเติมคือสามารถใช้เดินทางเข้าเมืองจากสนามบินได้ด้วยรถไฟสนามบิน (CAT) รถบัสสนามบิน (Postbus) รถไฟชานเมือง (S-Bahn-S7) และรถไฟภูมิภาคชั้น 1 (ÖBB Railjet) สะดวกแบบนี้ต้องมีไว้ใช้ประโยชน์เองแล้วแหละ ซื้อบัตร Vienna City Card + Airport Transfer ล่วงหน้าตอนนี้เลย
การเดินทางในเวียนนา (Vienna)
ระบบขนส่งสาธารณะในเวียนนาขึ้นชื่อในเรื่องของความตรงต่อเวลาและความน่าเชื่อถือ ประกอบด้วยรูปแบบการขนส่งต่าง ๆ ได้แก่ รถไฟใต้ดิน รถราง รถโดยสารประจำทาง และรถไฟชานเมือง ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยและนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปทั่วเมืองและบริเวณโดยรอบได้ง่าย
รถรางจะวิ่งตามถนนวงแหวนรอบเมืองเก่า (ไม่มีรถรางเข้าสู่เมืองเก่า) มีทั้งหมด 4 สาย คือ 1, 2, D และ 71 สาย 1 และ 2 ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว มีป้ายจอดรถรางที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในย่านเมืองเก่า สามารถเข้าถึงด้วยการเดินภายใน 15-20 นาที ถ้าไม่สะดวกเดินมีรถโดยสารประจำทางสาย 1A, 2A และ 3A ให้บริการเช่นกัน
ตั๋วเดินทางในเวียนนา (Vienna)
ระบบขนส่งมวลชนของเวียนนาดำเนินการตามระบบค่าโดยสารตามโซน ซึ่งโซนหลัก (Kernzone, Zone 100) ครอบคลุมสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมรวมถึงระบบขนส่งสาธารณะมวลชน U-Bahn, รถราง, รถบัส และ S-Bahn นักท่องเที่ยวสามารถใช้ตั๋วเดินทางได้ตามวัตถุประสงค์ใช้งาน ครอบคลุมถึง
- ตั๋วเที่ยวเดียว (2.40)
- ตั๋วเดินทางรายวัน (5.80 ยูโร)
- ตั๋วเดินทาง 24 ชม. (8 ยูโร)
- ตั๋วเดินทาง 48 ชม. (14.10 ยูโร)
- ตั๋วเดินทาง 72 ชม. (17.10 ยูโร)
- ตั๋วรถไฟ CAT จากสนามบินเข้าเมือง (14.90 ยูโร)
- ตั๋วรถไฟ CAT จาก Wien Mitte ไปสนามบิน (14.90 ยูโร)
- บัตร Vienna City Card (17 ยูโร)
- บัตร Vienna City Card + Airport transfer (39 ยูโร)
- และยังมีตั๋วรายสัปดาห์และรายเดือนสำหรับผู้ที่พักอาศัยอยู่ในเวียนนาระยะยาว
สามารถซื้อตั๋วเดินทางได้ที่เครื่องขายตั๋วในสถานีรถไฟใต้ดิน ตามจุดขายต่าง ๆ ในร้านขายยาสูบส่วนใหญ่ ในร้านค้าออนไลน์ Shop.wienmobil.at, Wienerlinien.at หรือซื้อผ่านแอป WienMobil ซึ่งปกติแล้วตั๋วเดินทางแบบกระดาษใช้แล้วทิ้งที่ขายบนรถบัสและรถรางมักมีราคาสูงกว่าตั๋วออนไลน์
ก่อนเริ่มต้นการเดินทางทุกครั้งอย่าลืมตรวจตั๋ว โดยประทับตราตั๋วที่เครื่องสีน้ำเงินที่อยู่ตรงทางเข้าสถานีรถไฟใต้ดิน เช่นเดียวกับบนรถบัสและรถราง ตั๋วที่ซื้อโดยตรงจากคนขับรถรางหรือรถบัสจะได้รับการตรวจสอบโดยอัตโนมัติและไม่ต้องประทับตราอีก
การเดินทางไปเวียนนาจากอัมสเตอร์ดัม
อัมสเตอร์ดัมตั้งอยู่ห่างจากเวียนนาประมาณ 1,193 กม. นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเดินทางไปเวียนนาด้วยตัวเลือก เช่น เที่ยวบิน รถไฟ และรถยนต์ ดังรายละเอียด
สรุปเที่ยวเวียนนา (Vienna) ออสเตรีย 1 วัน
เที่ยวเวียนนา (Vienna) ออสเตรีย ใน 1 วัน เราสามารถเข้าชมพิพิธภัณฑ์ได้ถึง 1-2 แห่ง รวมถึงราชวงศ์ฮอฟบวร์กที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์อย่างน่าสนใจ และห้องสมุดที่มีจำนวนหนังสือหายากมากถึง 200,000 เล่ม หลังจากการเข้าพิพิธภัณฑ์แล้วเราสามารถเดินไปหาเครื่องดื่มและขนมทานที่คาเฟ่สไตล์เวียนนาดั้งเดิม รวมถึงเดินตลาดแนชมาร์กขนาดใหญ่ที่มีสินค้าและอาหารให้เลือกซื้อหลากหลาย และท้ายสุดตบท้ายด้วยซี่โครงหมูบาร์บีคิวที่อร่อยเกินคุ้ม เป็นแผนการเที่ยวที่กำลังพอดี จะมาเที่ยวกับคู่รักหรือเที่ยวแบบคนเดียวก็ได้เช่นกัน
เที่ยวอย่างอุ่นใจไปกับบัตรเดบิต Wise สำหรับใช้จ่ายทั่วโลก สามารถใช้ถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มต่างประเทศตามอัตราแลกเปลี่ยนจริงโดยไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง ใช้ชำระค่าอาหาร จองที่พักหรือตั๋วเครื่องบิน รวมถึงในร้านค้าออนไลน์ทั่วโลกกว่า 50+ สกุลเงิน ทั้งยังรองรับการชำระผ่าน MasterCard, Apple Pay และ Google Pay โดยไม่ต้องกังวลในการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน ใช้มานานกว่า 4 ปีไม่ผิดหวัง → สมัครรับบัตรเดบิต Wise ไว้ใช้ประโยชน์ด้วยตัวเองตอนนี้เลย
แหล่งข้อมูลวางแผนเที่ยว
Thank you
การเปิดเผย: บทความนี้มีลิงก์แอฟฟิลิเอทบางส่วน การกดที่ลิงก์ไม่มีค่าใช้จ่าย หากซื้อสินค้าหรือบริการจากลิงก์ดังกล่าว เราอาจได้รับค่ากำลังใจเล็กน้อยสำหรับนำไปพัฒนาบล็อก 🧡