มาลากา (Málaga) เป็นหนึ่งในเมืองท่าที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศสเปน ในแคว้นอันดาลูเซีย บนชายฝั่ง Costa del Sol (Coast of the Sun) ของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ที่นี่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจและยังเป็นบ้านเกิดของจิตรกรเอกของโลก “ปิกัสโซ” (Pablo Ruiz Picasso) อีกด้วย
มาเที่ยวมาลากา (Málaga) ช่วงไหนดี?
- สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในทวีปยุโรป ระหว่างเดือนธันวาคมถึงเดือนเมษายนเป็นช่วงที่กำลังเหมาะกับการมาเที่ยวที่นี่ อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 20 องศากำลังพอดี
- สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนกรกฎาคมเป็นช่วงที่เหมาะสำหรับการมาเที่ยวที่นี่ อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 28 องศา มีจำนวนนักท่องเที่ยวที่ยังไม่หนาแน่น
การเดินทางไปเมืองมาลากา (Málaga)
- เดินทางด้วยเครื่องบิน มีเที่ยวบินราคาถูกหลายสายการบินจากอัมสเตอร์ดัมมายังมาลากา เช่น สายการบิน Ryanair ที่เราได้ตั๋วมาในราคา 35 ยูโร และขากลับเดินทางด้วยสายการบิน Transavia Airlines ในราคา 58 ยูโร รวมตั๋วเครื่องบินไปกลับในราคา 93 ยูโร (ประมาณ 3,500 บาท) ถือว่าคุ้มค่าพอสมควรกับการเดินทางในครั้งนี้ สำหรับคนที่เดินทางจากไทยมีเที่ยวบินตรงถึงประเทศสเปน หรือหยุดพัก/เปลี่ยนเครื่องที่เมืองใหญ่ ๆ เช่น อัมสเตอร์ดัม เวียนนา และเดินทางต่อด้วยสายการบินราคาประหยัดไปยังเมืองมาลากา
- เดินทางด้วยรถไฟ มีรถไฟความเร็วสูงให้บริการจากอัมสเตอร์ถึงเมืองมาลากา รถไฟจะจอดพัก/เปลี่ยนขบวนที่กรุงปารีส เมืองบาร์เซโลน่า และถึงเมืองมาลากา รวมเวลาเดินทางประมาณ 18 ชั่วโมง ราคาตั๋วประมาณ 380 ยูโร (ประมาณ 14,000 บาท) การเดินทางด้วยวิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่รีบและชอบบรรยากาศของรถไฟ
ที่พักในเมืองมาลากา (Málaga)
ในเมืองมาลากามีที่พักให้เลือกหลายย่าน เราเลือกพัก Airbnb ในย่าน La Goleta รวมราคาที่พักสามคืนประมาณ 66.72 ยูโร เดินเที่ยวสะดวกจากที่พักไปยังย่านเมืองเก่าประมาณ 10 นาที
การเดินทางมาเยือนเมืองมาลากาในครั้งนี้ เป็นการเที่ยวประเทศสเปนครั้งแรกของเราแบบไม่ได้คาดหวังอะไรมาก ขอแค่ได้มาสัมผัสอากาศอุ่น ๆ ก็พอใจแล้ว เรามีเวลาทั้งหมด 4 วัน 3 คืน ตั้งใจไว้ว่าจะเที่ยวพักผ่อนแบบสบาย เดินชมสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ไปเข้าชมพิพิธภัณฑ์และเดินเล่นที่ชายหาด รวมถึงทานข้าวผัดสเปน Paella ที่เราชอบมาก ดังนั้นวันแรกเลยแพลนไปเดินเที่ยวกับทัวร์ก่อนจะได้เห็นสถานที่ท่องเที่ยวแบบภาพรวม จากนั้นค่อยไปเก็บสถานที่ท่องเที่ยวแบบละเอียดทั้งหมดในวันต่อ ๆ ไป
ไกด์ทัวร์ที่เราร่วมไปกับเขาก็คือ Explora Malaga เป็นทัวร์ฟรีภาษาอังกฤษ ไม่คิดค่าใช้จ่าย หลังจากจบทัวร์แล้วเราให้ค่าน้ำใจกับไกด์ตามความสมัครใจ ทัวร์มีสองรอบต่อวัน คือ เวลา 11:00 และ 13:00 น. ไกด์จะสวมเสื้อสีฟ้าและยืนถือร่มสีฟ้าอยู่ที่จัตุรัสหลักเก่าแก่ใจกลางเมือง เราเลือกรอบเวลา 11:00 น. จะได้มีเวลาเหลือไปเข้าชมพิพิธภัณฑ์ปิกัสโซ มหาวิหารนิกายโรมันคาทอลิกอันเลื่องชื่อ และเดินเล่นที่ชายหาดต่อ
วันแรกเริ่มออกเที่ยวในมาลากา (Málaga)
หลังทานข้าวเช้าเสร็จแล้วเราก็มายืนรอตามสถานที่นัดหมาย เมื่อทุกคนมาพร้อมก็เริ่มออกทัวร์กัน สถานที่แรกที่เราจะไปนั้นก็คือจัตุรัสหลักเก่าแก่ใจกลางเมืองมาลากาที่พวกเรายืนอยู่นั้นเอง
สถานที่เที่ยวในมาลากา (Málaga)
เที่ยวมาลากา: จัตุรัสหลักเก่าแก่ใจกลางเมืองมาลากา (Plaza de la Constitución)
Plaza de la Constitución เป็นจัตุรัสหลักเก่าแก่ตั้งอยู่ใจกลางศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของเมืองมาลากานับตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 ด้านหน้าเราจะมองเห็นน้ำพุเจนัว (Fuente de Génova) สร้างด้วยหินอ่อนที่ถูกนำมาจากประเทศอิตาลี รอบ ๆ จัตุรัสมีบรรยากาศที่คึกมาก ช่วงเทศกาลคริสต์มาสและวันส่งท้ายปีเก่าที่นี่จะคึกคักเป็นพิเศษ มีการประดับแตกแต่งไฟคริสต์มาสและต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่อีกด้วย
เที่ยวมาลากา: ถนนคนเดินและชอปปิงในมาลากา (Calle Marqués de Larios)
Calle Marqués de Larios หรือที่รู้จักกันในชื่อ Calle Larios เป็นถนนคนเดินและชอปปิงในมาลากา ถนนแห่งนี้เปิดตัวเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2434 เป็นถนนที่แพงที่สุดในเมืองมาลากาและยังเป็นถนนที่แพงที่สุดอันดับหนึ่งในประเทศสเปนอีกด้วย
เที่ยวมาลากา: มหาวิหารมาลากา (Málaga Cathedral)
Cathedral de Málaga เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางศาสนาในเมืองมาลากาที่ห้ามพลาดอย่างเด็ดขาด ตั้งอยู่ใกล้กับป้อมปราการ Alcazaba และปราสาท Gibralfaro สร้างขึ้นในแผนผังรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าเมื่อปี ค.ศ. 1528 ด้านในได้รับการตกแต่งอย่างหรูหราด้วยสไตล์เรอเนซองส์และบารอก
มหาวิหารยังมีหอคอยทางทิศเหนือความสูง 84 เมตร (276 ฟุต) ทำให้เป็นมหาวิหารที่สูงเป็นอันดับสองในแคว้นอันดาลูเซียรองจากวิหาร Giralda of Seville ส่วนหอคอยทางทิศใต้ยังสร้างไม่เสร็จเนื่องจากขาดเงินทุน และไม่มีแพลนที่จะสร้างต่อ ทำให้มหาวิหารแห่งนี้ถูกเรียกว่า “La Manquita” ซึ่งมีความหมายในภาษาอังกฤษว่า “The One-Armed Lady” นอกจากการเดินชมภายในมหาวิหารแล้วนักท่องเที่ยวยังสามารถขึ้นไปบนชั้นด่านฟ้าเพื่อชมความสวยงามของเมืองมาลากาจากมุมสูงได้อีกด้วย
ข้อมูลเข้าชมมหาวิหารมาลากา (Málaga Cathedral)
- ที่อยู่: Calle Molina Lario, 9 29015 Málaga
- เวลาเปิดทำการ: วันจันทร์ – วันเสาร์ เวลา 10:00-18:00 น. วันอาทิตย์ 14:00-18:00 น.
- ราคาตั๋วเข้าชมมหาวิหารมาลากา 8 ยูโร ขึ้นด่านฟ้าราคา 8 ยูโร มีตั๋วรวมทั้งสองอย่าง 12 ยูโร
- จองตั๋วออนไลน์ก่อนเข้าชมได้ที่ Holy Cathedral of the Incarnation
เที่ยวมาลากา: พิพิธภัณฑ์ปิกัสโซ (Museo Picasso Málaga)
Museo Picasso Málaga เป็นหนึ่งในสองหอศิลป์ที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับ “ปิกัสโซ” (Pablo Picasso) จิตกรเอกของโลกผู้มีบ้านเกิดในมาลากา ภายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงนิทรรศการผลงานของปิกัสโซมากกว่าสองร้อยแปดสิบชิ้น เรายังจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับเทคนิคและวัสดุต่าง ๆ ที่ปิกัสโซใช้ในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะอีกด้วย ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ไม่ใหญ่มาก ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็เดินชมนิทรรศการส่วนต่าง ๆ จนครบ
ข้อมูลเข้าชมพิพิธภัณฑ์ปิกัสโซ (Museo Picasso Málaga)
- ที่อยู่: Palacio de Buenavista C/ San Agustín, 8 29015 Málaga
- เวลาเปิดทำการ: ทุกวัน เวลา 10:00-18:00 น.
- ราคาตั๋วเข้าชม 9.50 ยูโร
- จองตั๋วออนไลน์ก่อนเข้าชมได้ที่ Museo Picasso Málaga
เราเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ มาเกือบครึ่งทางแล้วเนาะ ตอนนั้นก็เป็นเวลาเที่ยงพอดีทุกคนเลยแยกย้ายกันไปทานข้าวเที่ยง มีคาเฟ่เล็ก ๆ ใกล้กับพิพิธภัณฑ์ปิกัสโซ่ เป็นคาเฟ่ที่น่ารักมาก ขายขนมปังและชากาแฟ เราเลยได้ฝากท้องมื้อเที่ยงไว้กับที่นี่ก่อนจะกลับมาเริ่มต้นเดินทัวร์กันต่อ
เที่ยวมาลากา: โรงละครโรมัน (Roman Theatre)
Roman Theatre ตั้งอยู่ไกลจากพิพิธภัณฑ์ปิกัสโซ เป็นสถานที่ทางโบราณคดีที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ ซึ่งมีร่องรอยทางประวัติศาสตร์หลงเหลือให้เห็น ด้านในยังเป็นพิพิธภัณฑ์ร่วมสมัยเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมฟรี
บริเวณโรงละครโรมันยังมีสถานที่จำหน่ายตั๋วเพื่อเข้าชมป้อมปราการ Alcazaba ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองมาลากาอีกหนึ่งแห่ง เราจะมาเข้าชมสถานที่แห่งนี้หลังจากจบทัวร์แล้ว แต่ตอนนี้เราต้องไปสถานที่ต่อไปก่อนนั้นก็คือพิพิธภัณฑ์มาลากาซึ่งเป็นสถานที่สุดท้ายของทัวร์ในวันนี้
ข้อมูลเข้าชมโรงละครโรมัน (Roman Theatre)
- ที่อยู่: Calle Alcazabilla, 8. Málaga 29012.
- เวลาเปิดทำการ: วันอังคาร – วันเสาร์ เวลา 10:00-18:00 น. วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10:00-16:00 น.
เที่ยวมาลากา: พิพิธภัณฑ์มาลากา (Museo de Málaga)
พิพิธภัณฑ์มาลากาเป็นศูนย์จัดแสดงนิทรรศการในเมืองมาลากา ด้านในรวบรวมหลักฐานโบราณคดีและภาพผลงานมากกว่า 2,000 ชิ้นระหว่างศตวรรษที่ 19-20 ที่นี่ยังเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของสเปน และใหญ่ที่สุดในแคว้นอันดาลูเซียอีกด้วย
ใช้เวลาประมาณเกือบสองชั่วโมงไกด์ก็นำเรามาถึงสถานที่สุดท้ายนั้นก็คือพิพิธภัณฑ์มาลากา ทุกคนได้มีโอกาสนั่งพักหลังจากเดินทัวร์รอบเมืองมาอย่างเหน็ดเหนื่อย อากาศวันนี้ค่อนข้างร้อน มีแสงแดดจ้า ทั้งไกด์และลูกทัวร์ต่างก็เดินตากแดดเหงื่ออกไปตาม ๆ กัน ก่อนปิดทัวร์ไกด์ได้แนะนำประวัติวามเป็นมาของพิพิธภัณฑ์มาลากาอย่างคร่าว ๆ ก่อนจะจบลงด้วยการขอบคุณลูกทัวร์กว่า 25 คนที่มาเดินทัวร์ชมเมืองมาลากาด้วยกัน ก่อนกลับทุกคนยังได้ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกอีกด้วย ไกด์จะส่งรูปมาให้ทางอีเมล์ภายหลัง
เรากับแฟนให้ค่าน้ำใจกับไกด์ 20 ยูโร ถือว่าเป็นการเดินทัวร์ชมเมืองที่คุ้มค่าภายในระยะเวลา 2 ชั่วโมง ได้เรียนรู้ประวัติความเป็นมาของสถานที่ต่าง ๆ แบบละเอียด ถ้าไม่เข้าใจตรงไหนก็ตามไกด์เพิ่มได้ ที่สำคัญไกด์เป็นคนตลกสร้างเสียงหัวเราะตลอดทัวร์ ก็ถือว่าเป็นการโปรโมตการท่องเที่ยวของเมืองไปในตัวอีกทาง
ข้อมูลเข้าชมพิพิธภัณฑ์มาลากา (Museo de Málaga)
- ที่อยู่: Plaza Aduana s/n, 29015 Málaga
- ราคาตั๋วเข้าชม: สำหรับชาวยุโรปเข้าชมฟรี สำหรับสัญชาติอื่น ๆ ราคา 1.50 ยูโร
- จองตั๋วออนไลน์ก่อนเข้าชมได้ที่: Museo de Málaga
หลังจากจบทัวร์แล้วเราก็กลับไปเข้าชมพิพิธภัณฑ์ปิกัสโซต่อ ตามด้วยมหาวิหารมาลากา พอตกเย็นก็ไปเดินเล่นต่อที่ชายหาด ก่อนจะเดินกลับมาทานอาหารเย็นในเมือง มีร้านอาหารให้เลือกได้ตามความสะดวกเลย และนั้นก็ทำให้เราได้กินข้าวผัดสเปนสมใจอยาก พออิ่มท้องแล้วก็เดินกลับที่พัก เป็นอีกหนึ่งวันเดย์ทริปที่เราชอบมาก ก่อนจะเข้านอนพักเอาแรงไปใช้เดินเที่ยวพรุ่งนี้ต่อ
วันที่สองของการเดินเที่ยวเมืองมาลากา
เช้าวันที่สองเราเปลี่ยนบรรยากาศมาฝากท้องมื้อเช้าไว้กับร้านกาแฟชื่อดังหน้าจัตุรัสใจกลางเมือง “Central Cafe” ด้านในมีบรรยากาศดีมาก ถ้ามาแต่เช้าคนจะยังไม่ค่อยเยอะ พอช่วงสาย ๆ ไปคนเต็มร้านเลย ส่วนแพลนการเที่ยววันที่สองของเราคือเข้าชมป้อมปราการ (Alcazaba) ปราสาทบนยอดเขา (Castillo Gibralfaro) ชมวิวเมืองมาลากาและพระอาทิตย์ตกที่จุดชมวิว Mirador de Gibralfaro จากนั้นไปเดินเล่นที่อ่าวจอดเรือและท่าเทียบเรือยอช์ท (Port of Málaga) และทานอาหารเย็น
เที่ยวมาลากา: ป้อมปราการอัลคาซาบา (Alcazaba)
Alcazaba เป็นป้อมปราการอันโอ่อ่าในเมืองมาลากา สร้างโดยราชวงศ์ฮัมมูดิดในต้นศตวรรษที่ 11 ตั้งอยู่บนเชิงเขายิบรอลฟาโร (Gibralfaro) เชื่อมต่อกับกำแพงล้อมรอบที่เรียกว่า “Colcha” ติดกับทางเข้าอัลคาซาบามีพิพิธภัณฑ์ร่วมสมัยในโรงละครโรมัน ป้อมปราการแห่งนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของปราสาทยิบรอลฟาโร (Castillo Gibralfaro) ซึ่งเป็นพระราชวังและเป็นสถานที่ปลอดภัยสำหรับเจ้าชายในเวลานั้น อัลคาบาซาสร้างขึ้นเพื่อช่วยป้องกันปราสาท เนื่องตั้งอยู่ในสถานที่ที่สามารถมองเห็นเมืองมาลากาและอ่าวจอดเรือได้เป็นอย่างดี
ภายในป้อมปราการอัลคาบาซายังแสดงถึงอิทธิพลของชาวอาหรับที่ปกครองแคว้นอันดาลูเซียในสมัยนั้น โดยมีตัวอักษรอาหรับ ตัวเลข การออกแบบปราสาทที่มีส่วนโค้งและตกแต่งอย่างสวยงาม รวมถึงสวนดอกไม้และสระน้ำ ในสมัยก่อนป้อมปราการแห่งนี้ถูกล้อมรอบเป็นระยะเวลาสามเดือนโดยไม่ถูกตีแตก และต้องยอมแพ้เนื่องจากฝ่ายตรงข้ามใช้วิธีการตัดกำลังผ่านช่องทางการส่งอาหารและน้ำ
ข้อมูลเข้าชมป้อมปราการอัลคาซาบา (Alcazaba)
- ที่อยู่: Calle Alcazabilla, 2, 29012 Málaga
- เปิดทำการทุกวัน เวลา 09:00-20:00 น. (เมษายน-ตุลาคม) เวลา 09:00-18:00 น. (พฤศจิกายน-มีนาคม) ปิดทำการวันที่ 1 มกราคม และ 24, 25 และ 31 ธันวาคม
- ราคาตั๋วเข้าชมชมอัลคาบาซา 3.50 ยูโร สำหรับเข้าชมอัลคาบาซาและปราสาทยิบรอลฟาโรราคา 5.50 ยูโร ตั๋วรอบสุดท้ายจำหน่ายถึงสามสิบนาทีก่อนเวลาปิดทำการ ควรซื้อตั๋วและเผื่อเวลาเข้าชมอัลคาบาซาและปราสาทยิบรอลฟาโรสถานที่ละหนึ่งชั่วโมงครึ่ง เป็นเวลาที่กำลังเหมาะสำหรับการเดินชมสองสถานที่แบบไม่รีบเร่ง
เที่ยวมาลากา: ปราสาทยิบรอลฟาโร (Castillo Gibralfaro)
ปราสาทยิบรอลฟาโร ตั้งอยู่บนเนินเขายิบรอลฟาโรมีชื่อเสียงในด้านการปิดล้อมเป็นเวลา 3 เดือนในปี 1487 โดยสิ้นสุดลงเมื่อความหิวโหยบังคับให้ชาวอาหรับยอมจำนนต่อฝ่ายตรงข้าม บนปราสาทยังมีพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กที่แสดงประวัติความเป็นมาของปราสาท รวมถึงเครื่องปั้นดินเผาจำนวนมาก นอกจากการเดินเที่ยวในปราสาทแล้วบริเวณด้านนอกยังมีทิวทัศน์ที่สวยงาม เหมาะสำหรับการชมวิวเมืองมาลากาและท่าเรือขนาดใหญ่
เที่ยวมาลากา: จุดชมวิวยิบรอลฟาโร (Mirador de Gibralfaro)
เป็นอีกหนึ่งสถานที่แนะนำสำหรับเดินขึ้นไปชมวิวด้านบน ใช้เวลาเดินประมาณ 30-40 นาที วิวด้านบนสวยงามมากค่ะ มองเห็นเมืองมาลากาด้านล่างรวมถึงชายทะเล ท่าเรือและอ่าวจอดเรือ ที่นี่ยังเหมาะกับการชมพระอาทิตย์ตกเย็นอีกด้วย
เที่ยวมาลากา: อ่าวจอดเรือและท่าเทียบเรือยอช์ท (Port of Málaga)
หลังจากชมวิวเสร็จเรามีเวลาเหลืออีกประมาณสองชั่วโมง ตอนนั้นแสงพระอาทิตย์ก็ยังไม่ลับขอบฟ้าไปเพราะหน้าร้อนพระอาทิตย์จะตกช้า เราเลยแวะไปเดินเล่นต่อที่อ่าวจอดเรือ ที่นั้นมีความน่าสนใจมาก เพราะรวมร้านอาหาร คาเฟ่ รวมถึงวิวสวย ๆ ของท่าเรือเมืองมาลากาไว้อีกด้วย
เสน่ห์ของเมือง มาลากา
เรื่องราวทางประวัติศาสตร์
เสน่ห์ที่ทำให้เราตกหลุมรักมาลากาตั้งแต่ครั้งแรกที่มาเยือนก็คือ สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่ยังคงมีร่องรอยเหตุการณ์ในอดีตเหลืออยู่ นอกจากสถานที่ทางประวัติศาสตร์แล้วเรายังเห็นถึงความเคร่งครัดทางศาสนาของชาวสเปนที่แสดงออกผ่านการก่อสร้างโบสถ์และมหาวิหาจนกลายเป็นตัวแทนทางศาสนาที่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่ามีอิทธิพลมาถึงผู้คนในปัจจุบัน
ความเรียบง่ายและไม่เร่งรีบในการใช้ชีวิต
เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เราสังเกตเห็นตลอดทริปนี้ ผู้คนใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย เรียบง่ายในที่นี่ คือ เหมือนพวกเขาสนุกกับการใช้ชีวิตอยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่แค่รอยยิ้มหรือการพูดจา แต่ยังรวมถึงการแสดงออกที่เราสัมผัสได้ถึงความไม่รีบเร่งและมีความสุขไปกับการใช้ชีวิต ซึ่งแตกต่างจากคนดัตช์ที่เราเคยสัมผัสมา นั้นอาจจะมาจากสภาพอากาศด้วยมั้ง
ประเทศสเปนเรียกได้ว่าเป็นสวรรค์สำหรับชาวยุโรปเลยก็ว่าได้ เพราะไม่ว่าจะฤดูไหนที่นี่ดูเหมือนอากาศดีอยู่ตลอดเวลา มีแสงแดดให้เห็นทุกวัน มีชายหาดให้เดินเล่น อาหารก็อร่อย ที่สำคัญราคาไม่แพง คนที่นี่ก็เลยใช้ชีวิตแบบไม่รีบเร่งเหมือนกับประเทศในเมืองหนาวที่ต้องวางแผนอยู่ตลอดเวลา
อาหารราคาถูก อากาศดี
อาหารที่มาลากาถูกปากเรามาก ที่สำคัญราคาไม่แพง พอบวกกับอากาศดีแล้วยิ่งทำให้เราชอบไปกันใหญ่
สรุปการเที่ยวมาลากา (Málaga)
มาลากา (Málaga) เป็นเมืองที่มีความสวยงาม มีสถานที่เที่ยวเยอะ เดินเที่ยวได้สะดวก อาหารอร่อย อากาศดี ผู้คนเป็นมิตร โดยรวมแล้วเป็นทริปที่สนุกมาก และนั้นก็ทำให้เราอยากเดินทางไปสัมผัสความสวยงามของเมืองอื่น ๆ ในประเทศสเปนมากกว่านี้ ใครที่กำลังเลอยู่ว่าจะมาเที่ยวที่นี่ดีไหม ลองเก็บโพสต์นี้เข้าลิสต์และมาเที่ยวด้วยตัวเองสักครั้งแล้วจะไม่ผิดหวังกับความน่ารักของบ้านเมืองนี้
วางแผนเที่ยวยุโรปด้วยตัวเอง
- Amsterdam | วางแผนเที่ยวอัมสเตอร์ดัม
- Budapest | วางแผนเที่ยวบูดาเปสต์ 2 วัน
- Prague | วางแผนเที่ยวปรากเมืองหลวงเช็กเกีย
- Venice | วางแผนเที่ยวเวนิสราชินีแห่งสายน้ำ
- Istanbul | วางแผนเที่ยวอิสตันบูล 5 วัน 4 คืน
- Slovenia | วางแผนขับรถเที่ยวสโลวีเนีย 5 วัน
- Vienna | เดินเที่ยวเวียนนาออสเตรีย 1 วัน
เที่ยวอย่างอุ่นใจไปกับบัตรเดบิต Wise สำหรับใช้จ่ายทั่วโลก สามารถใช้ถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มต่างประเทศตามอัตราแลกเปลี่ยนจริงโดยไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง ใช้ชำระค่าอาหาร จองที่พักหรือตั๋วเครื่องบิน รวมถึงในร้านค้าออนไลน์ทั่วโลกกว่า 50+ สกุลเงิน ทั้งยังรองรับการชำระผ่าน MasterCard, Apple Pay และ Google Pay โดยไม่ต้องกังวลในการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน ใช้มานานกว่า 4 ปีไม่ผิดหวัง → สมัครรับบัตรเดบิต Wise ไว้ใช้ประโยชน์ด้วยตัวเองตอนนี้เลย
แหล่งข้อมูลวางแผนเที่ยว
Thank you
การเปิดเผย: บทความนี้มีลิงก์แอฟฟิลิเอทบางส่วน การกดที่ลิงก์ไม่มีค่าใช้จ่าย หากซื้อสินค้าหรือบริการจากลิงก์ดังกล่าว เราอาจได้รับค่ากำลังใจเล็กน้อยสำหรับนำไปพัฒนาบล็อก 🧡