ก่อนหน้านี้ได้มีโอกาสไปเยือนเมืองมาลากา (Malaga) ของประเทศสเปนเป็นครั้งแรก และก็ตกหลุมรักเสน่ห์ของเมืองนี้จนถอนตัวไม่ขึ้น จนครั้งนี้ได้มีโอกาสมาเยือนกรานาดา (Granada) เมืองทางตะวันออกของแคว้นอันดาลูเซียที่ตั้งอยู่ห่างจากมาลากาเพียง 1 ชั่วโมง 45 นาที และก็เป็นอีกครั้งที่ทำให้ตกหลุมรักเมืองกรานาดาตั้งแต่ครั้งแรกที่ไปเยือน เพราะด้วยประประวัติศาสตร์อันยาวนาน รวมถึงการผสมผสานของอารยธรรมต่างๆ ตลอดหลายศตวรรษของชาวมัวร์ ชาวโรมัน และชาววิซิกอธ ก่อเกิดเป็นเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมโบราณและสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว
การเดินทางไปเยือนกรานาดาจึงไม่เพียงแค่ได้เข้าชมอาลัมบรา (Alhambra) พระราชวังและป้อมปราการอันโดดที่เป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโกเท่านั้น แต่กรานาดายังรวมเสน่ห์และที่เที่ยวไว้อีกมากมาย และเชื่อได้เลยว่ากรานาดายังคงเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของสเปนที่นักท่องเที่ยวต่างใฝ่ฝันที่จะเดินทางไปสัมผัสความงดงามด้วยตัวเอง
เที่ยวกรานาดาทำอะไรได้บ้าง
เที่ยวกรานาดา: ชมอาลัมบรา (Alhambra)
อาลัมบราเป็นที่เที่ยวยอดนิยมของกรานาดาที่ห้ามพลาดอย่างเด็ดขาด ที่นี่ไม่เพียงแค่เป็นพระราชวังและป้อมปราการอันงดงามที่ดึงดูดใจผู้เข้าชมหลายล้านคนต่อปี แต่ยังมีชื่อเสียงในด้านสถาปัตยกรรมแบบมัวร์ที่สวยงาม รวมไปถึงการตกแต่งที่ประณีต การได้เข้าชมที่นี่ด้วยตัวเองจึงเป็นการไปเยือนหนึ่งในแหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโก และตามรอยซีรีย์ “Memories of the Alhambra” รวมถึงเป็นการเปิดประสบการณ์เพื่อเรียนรู้ประวัติศาสตร์และชมสถาปัตยกรรมอิสลามที่สำคัญที่สุดในโลกแบบใกล้ชิดอีกด้วย
ตามประวัติอาลัมบราสร้างขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 14 โดยกษัตริย์มุสลิมชาวมัวร์ พระเจ้าโมฮัมเหม็ดที่ 1 อิบน์ นัสร์แห่งราชวงศ์นาสริด ซึ่งเป็นราชวงศ์ของชาวมุสลิมราชวงศ์สุดท้ายในสเปน ชื่อของอาลัมบรามาจากคำในภาษาอาหรับซึ่งแปลว่าปราสาทสีแดง เช่นเดียวกับโครงสร้างของป้อมปราการที่สร้างด้วยหิน ดิน และอิฐสีแดง แม้ว่าส่วนอื่น ๆ ของอาคารจะใช้ปูนขาวเป็นส่วนผสม แต่ก็ยังเห็นเป็นสีแดง ๆ เช่นกัน และนั้นก็ทำให้สถานที่แห่งนี้มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
อาลัมบราตั้งอยู่บนยอดเขาอัลซาบิกาบนฝั่งซ้ายของแม่น้ำดาร์โรไปทางทิศตะวันตกของเมืองกรานาดา และด้านหน้าของย่านประวัติศาสตร์ Albaicin และป้อมปราการอัลคาซาบา Alcazaba ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่มาพร้อมพร้อมทิวทัศน์อันงดงามของเมืองกรานาดา
ด้านในอาลัมบราประกอบด้วยอาคารและลานภายในหลายแห่ง รวมถึงพระราชวังนาสริด (Nasrid Palace) ป้อมปราการอัลคาซาบา (Alcazaba) สวนและน้ำพุ (Generalife) และพระราชวังของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 5 (Palace of Charles V) ทั้งหมดนี้นักท่องเที่ยวสามารถใช้ตั๋วใบเดียวในการเข้าชม และแนะนำให้จองตั๋วออนไลน์ล่วงหน้า เนื่องจากมีจำนวนผู้เข้าชมที่หนาแน่นตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงฤดูร้อนแถวต่อคิวซื้อตั๋วยาวมาก (ประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง)
ตั๋วเข้าชมอาลัมบรา: Alhambra & Nasrid Palaces Fast-Track Ticket รวมการเข้าชม Alcazaba, Nasrid Palaces, Generalife, Palace of Charles V, the Mosque Baths, Space of the Month และนิทรรศการชั่วคราว (ไม่รวมเครื่องเสียงออดิออไกด์) → จองตั๋วออนไลน์ล่วงหน้าสำหรับเข้าชมอาลัมบรา เมื่อได้ตั๋วออนไลน์มาแล้วสามารถใช้คิวอาร์โค้ดสแกนได้ที่ประตูทางเข้า Gate of Justice (Puerta de la Justicia) ใกล้กับพระราชวัง Nasrid Palaces
ควรเผื่อเวลาการเข้าชมไว้ประมาณ 3 ชั่วโมง ช่วงเวลาที่แนะนำคือ 08:30-10:00 น. และ 15:00-18:00 น. วันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดนักขัตฤกษ์จำนวนนักท่องเที่ยวจะเยอะกว่าวันธรรมดา อย่าลืมบัตรนำบัตรประจำตัวประชาชนหรือหนังสือเดินทางฉบับจริงมาเพื่อแสดงตัวก่อนเข้าชมอาลัมบรา และตรงต่อเวลาในการเข้าชมพระราชวัง Nasrid Palaces ส่วนสถานที่อื่น ๆ สามารถเข้าชมได้ตามเวลาเปิดปกติ
การเดินทางมายังอาลัมบรา
เที่ยวกรานาดา: ป้อมปราการอัลคาซาบา (Alcazaba)
อัลคาซาบาเป็นป้อมปราการเก่าแก่ตั้งอยู่ที่จุดสูงสุดภายในอาลัมบรา สร้างขึ้นโดยผู้ปกครองชาวมัวร์แห่งกรานาดาในศตวรรษที่ 13 และทำหน้าที่เป็นป้อมปราการทางทหารและวังที่อยู่อาศัยของราชวงศ์นาสริด จุดเด่นของอัลคาซาบาคือมีหอสังเกตการณ์ (Torre de la Vela) ที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพมุมกว้างอันงดงามของเมืองกรานาดาและภูเขาโดยรอบ ส่วนด้านในของอัลคาซาบานั้นถูกล้อมรอบด้วยกำแพงสูงและหอคอย รวมไปถึงมีสนามหญ้าและจุดสำหรับนั่งพักผ่อนหลายแห่ง นักท่องเที่ยวสามารถใช้เวลาประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมงเพื่อสำรวจสถานที่แห่งนี้ด้วยตัวเอง
เที่ยวกรานาดา: พระราชวังนาสริด (Nasrid Palace)
พระราชวังนาสริดเป็นส่วนที่มีความโดดเด่นมากที่สุดของอาลัมบรา สร้างขึ้นโดยราชวงศ์นาสริดซึ่งเป็นราชวงศ์มุสลิมสุดท้ายที่ปกครองสเปนในช่วงศตวรรษที่ 14 พระราชวังแห่งนี้ยังถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างสถาปัตยกรรมอิสลามที่สวยงามที่สุดในโลก รวมทั้งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของกรานาดาอีกด้วย
จุดเริ่มต้นของทัวร์พระราชวังจะอยู่ที่ห้อง Mexuar room ซึ่งเป็นส่วนที่เก่าแก่ที่สุดของพระราชวัง ได้รับการตกตกแต่งที่หรูหรา เช่นเดียวกับงานแกะสลักปูนปั้นอันประณีต ผสมผสานกับงานกระเบื้องหลากสีสันและผนังไม้ได้อย่างลงตัว เมื่อเดินผ่านห้องนี้ไปนักท่องเที่ยวจะพบกับความสวยงามของห้องอื่น ๆ ที่เชื่อมต่อถึงกันด้วยลานภายในและสวนหลายแห่ง รวมถึงห้องไฮไลท์ Court of the Myrtles ซึ่งเป็นลานสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ที่มีสระน้ำยาวอยู่ตรงกลาง ขนาบข้างด้วยพุ่มต้นไมร์เทิลสูงซึ่งเป็นที่มาของชื่อลาน
ส่วนด้านนอกชานล้อมรอบด้วยซุ้มประตูที่มีเสาปูนปั้นและซุ้มโค้งแกะสลัก และยังมีทางเข้าโค้งสองชั้นที่ตกแต่งอย่างสวยงามซึ่งรู้จักกันในชื่อ “Puerta del Yeso” ทั้งหมดนี้นับว่าเป็นจุดถ่ายภาพที่พบมากสุดในอินเทอร์เนตเมื่อค้นคำว่าพระราชวังนาสริดเลยก็ว่าได้
ความพิเศษอีกหนึ่งอย่างของห้อง “Court of the Myrtles” ก็คือได้รับการออกแบบที่สมมาตรตามหลักการทางเรขาคณิตที่ใช้ในงานศิลปะและสถาปัตยกรรมอิสลาม การสะท้อนของลานภายในสระช่วยเพิ่มความงดงามให้กับพื้นที่และสร้างภาพลวงตาของความสมมาตรที่มากยิ่งขึ้นนั้นเอง
อีกหนึ่งไฮไลท์ในพระราชวังนาสริดก็คือลานกว้างที่รู้จักกันในชื่อ “Palace of the Lions” ซึ่งมีรูปปั้นสิงโตหินอ่อนสีขาวจำนวน 12 ตัวเรียงกันรอบแอ่งน้ำตรงกลาง พื้นที่ทั้งหมดถูกล้อมรอบด้วยแกลเลอรีที่มีเสาเรียงเป็นแนวยาวพร้อมซุ้มประตูโค้ง ผสมผสานกับงานปูนปั้นที่ประณีตและกระเบื้องหลากสีสันได้อย่างงดงามตระการตา
ตามประวัติ Palace of the Lions เคยเป็นที่ประทับหลักของสุลต่านนาสริด และยังเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งและอำนาจทางการเมือง พระราชวังวังแห่งนี้จึงเต็มไปด้วยการประดับตกแต่งที่หรูหราและมีรายละเอียดตามแบบสถาปัตยกรรมอิสลามที่วิจิตรงดงาม และนั้นก็นับคุ้มค่ามาก ๆ ที่จะเข้ามาชมสัมผัสกับความโอ้อ่าอลังการภายในสถานที่เหล่านี้ด้วยตัวเอง
เที่ยวกรานาดา: พระราชวังของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 5 (Palace of Charles V)
พระราชวังของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 5 เป็นพระราชวังยุคเรอเนซองส์ ตั้งอยู่ในอาลัมบราใกล้กับพระราชวังนาสริด สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 โดยจักรพรรดิแห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ (Charles V) โดยวังนี้ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาลี และยังเป็นตัวอย่างสถาปัตยกรรมยุคเรอเนซองส์อันน่าทึ่งเลยก็ว่าได้
ความโดดเด่นของพระราชวังของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 5 คือมีมีลานทรงกลมล้อมรอบด้วยเสา 2 ชั้น และมีหอคอยทรงกระบอกตรงกลางและหอคอยรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มุมสี่ ภายในพระราชวังยังโดดเด่นด้วยบันไดเวียนซึ่งนำไปสู่ชั้นบน และเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์วิจิตรศิลป์แห่งกรานาดา ด้านในมีจัดแสดงสิ่งประดิษฐ์จากอาลัมบรา รวมถึงงานศิลปะตั้งแต่ยุคกลางจนถึงศตวรรษที่ 20
ตามประวัติพระราชวังของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 5 สร้างไม่เสร็จในช่วงที่จักรพรรดิยังมีชีวิตอยู่ และทรุดโทรมลงในหลายศตวรรษต่อมา ต่อมาได้รับการบูรณะในศตวรรษที่ 20 และปัจจุบันถือเป็นผลงานชิ้นเอกของสถาปัตยกรรมยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาในสเปน
พระราชวังยังมีความแตกต่างที่ไม่เหมือนใครกับสถาปัตยกรรมแบบแขกมัวร์ของอาคารอื่น ๆ การได้แวะมาเยือนที่แห่งนี้ด้วยตัวเองจึงเปรียบเสมือนได้มองย้อนกลับไปในยุคเรอเนซองส์ของสเปนอีกครั้ง ทั้งยังมีจุดที่ถ่ายภาพที่สวยงามหลายแห่งทั้งด้านในและระเบียงชั้นบนของพระราชวัง
เที่ยวกรานาดา: สวนฤดูร้อนแห่งอาลัมบรา (Generalife)
นอกจากพระราชวังภายในอาลัมบราที่มีความสวยงามตระการตาแล้ว สถานที่อีกหนึ่งแห่งที่ไม่ควรพลาดไปเยี่ยมชมก็คือ “Generalife” ซึ่งเป็นสวนและน้ำพุที่ได้รับการออกแบบให้เป็นพระราชวังฤดูร้อนสำหรับผู้ปกครองนาสริด ด้านในมีการออกแบบและตกแต่งสวนแบบสมมาตร และประดับด้วยต้นไม้ต่าง ๆ มาพร้อมจุดนั่งพักผ่อน นักท่องเที่ยวสามารถใช้เวลาเดินชมสวนเหล่านี้เพื่อสัมผัสกับความงดงามและบรรยากาศที่เงียบสงบ และยังมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ตระการตาของเมืองกรานาดาได้อีกด้วย
เที่ยวกรานาดา: อาสนวิหารแห่งกรานาดา (Cathedral of Granada)
จากอาลัมบรานักท่องเที่ยวสามารถเดินทางต่อไปยังย่านใจกลางเมื่อเพื่อชมสถานที่ท่องเที่ยวทางศาสนายอดนิยมของเมืองนั้นก็คืออาสนวิหารแห่งกรานาดา หรือมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “Cathedral of the Incarnation” สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 16 ในสไตล์เรอเนซองส์และเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่สำคัญที่สุดของสถาปัตยกรรมเรอเนสซองส์ของสเปน
ความน่าสนใจของอาสนวิหารแห่งกรานาดาแน่นอนว่ามีส่วนหน้าอาคารที่ใหญ่โตโอ่อ่าพร้อมหอคอยสูง 2 หลังที่ตั้งตระหง่านเหนือเส้นขอบฟ้าของเมือง การตกแต่งภายในของอาสนวิหารก็น่าประทับใจไม่แพ้กัน ด้วยทางเดินตรงกลางและโบสถ์ด้านข้างที่มีประดับด้วยงานศิลปะ ประติมากรรม และการแกะสลักที่สลับซับซ้อน อาสนวิหารยังรวมภาพวาดอันทรงคุณค่าจำนวนมากที่สรรค์สร้างโดยศิลปินชาวสเปน
อาสนวิหารแห่งกรานาดาเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมทุกวัน ระหว่างเวลา 10:00-18:00 น. ค่าตั๋วเข้าชม 5 ยูโร (รวมเครื่องเสียงออดิโอไกด์)
เที่ยวกรานาดา: โบสถ์สไตล์กอทิก (The Royal Chapel)
ใกล้กับอาสนวิหารแห่งกรานาดานักท่องเที่ยวจะพบกับ Royal Chapel ซึ่งเป็นโบสถ์สไตล์กอทิกที่สวยงาม สร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 16 โดยกษัตริย์เฟอร์ดินานด์และพระราชินีอิซาเบลล่าเพื่อเป็นที่เก็บอัฐิของพวกเขาหลังจากการสิ้นพระชนม์ โบสถ์หลวงแห่งนี้นับถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่สำคัญที่สุดของสถาปัตยกรรมกอทิกในสเปน และยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงงานศิลปะทางศาสนาและศิลปวัตถุที่ทรงคุณค่าไว้มากมาย และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของกรานาอีกด้วย
เที่ยวกรานาดา: สำรวจบ้านสีขาวในย่านประวัติศาสตร์ (Albaicín)
นอกจากอาลัมบราและอาสนวิหารแห่งกรานาที่เป็นสถานที่เที่ยวหลักของเมืองแล้ว กรานาดายังมีย่านท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่หลายแห่ง หนึ่งในนั้นก็คือ “Albaicín” ซึ่งเป็นย่านประวัติศาสตร์ของชาวมุสลิม ตั้งอยู่บนไหล่เขาตรงข้ามอาลัมบรา และเป็นที่รู้จักจากถนนแคบ ๆ บ้านแบบดั้งเดิมที่มีผนังสีขาวและหลังคากระเบื้องสีแดง รวมถึงทิวทัศน์ที่สวยงามของเมืองและภูเขาเซียร์ราเนวาดา (Sierra Nevada) สถานที่แห่งนี้นับเป็นหนึ่งในย่านยุคกลางที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีในสเปน และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก
เมื่อมาเยือนย่านอัลไบย์ซินหนึ่งในไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด คือ “Mirador de San Nicolás” ซึ่งเป็นจุดชมวิวยอดนิยมที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์อันงดงามของอาลัมบราและพื้นที่มุมกว้างของเมือง ลานด้านหน้าของจุดชมวิวยังเป็นจุดรวมตัวยอดนิยมที่จะพานักท่องเที่ยวเพลิดเพลินไปกับการแสดงดนตรีข้างถนน รวมถึงมีจุดจำหน่ายงานฝีมือจากช่างฝีมือในท้องถิ่นอีกด้วย
นอกจากจุดชมวิวยอดนิยมแล้วยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลายแห่งที่ตั้งอยู่ในย่านนี้ รวมถึงโบสถ์ซานซัลวาดอร์ ห้องอาบน้ำสไตล์อาหรับ (El Bañuelo) และพิพิธภัณฑ์ Casa-Museo de Zafra ซึ่งจัดแสดงเครื่องเรือนและศิลปะการตกแต่งสไตล์อันดาลูเซียแบบดั้งเดิม
สำหรับใครที่อยากเดินสำรวจย่านประวัติศาสตร์ Albaicín และย่าน Sacromonte พร้อมเรียนรู้ประวัติศาสตร์ในเชิงลึกของสถานที่เหล่านี้ไปพร้อม ๆ กัน สามารถเข้าร่วมทัวร์เดินเที่ยวพร้อมไกด์ท้องถิ่นภายในเวลา 2.5 ชั่วโมง → จองตั๋วเข้าร่วมทัวร์เดินเที่ยวย่าน Albaicín และ Sacromonte ล่วงหน้าตอนนี้เลย
เที่ยวกรานาดา: เดินเล่นตลาดเก่าแก่ในกรานาดา (Alcaiceria market)
อัลไคเซอเรียเป็นตลาดเก่าแก่ในกรานาดา เดิมสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 15 เพื่อเป็นตลาดผ้าไหมและถือเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมือง แต่ตลาดถูกไฟไหม้ในศตวรรษที่ 19 ทำให้มีการสร้างขึ้นใหม่ในศตวรรษที่ 20 และกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกหนึ่งแห่งของเมือง
ความน่าสนใจของตลาดอัลไคเซอเรียไม่เพียงแต่มีบรรยากาศที่คึกคัก แต่ยังรวมร้านค้าและแผงลอยขนาดเล็กจากพ่อค้าแม่ค้าในท้องถิ่น นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นในตลาดแห่งนี้ผ่านถนนและตรอกซอกซอยแคบ ๆ ที่คดเคี้ยว และยังมีโอกาสได้ลองชิมอาหารและขนมสเปนแบบดั้งเดิม รวมถึงขนมอบและลูกกวาดอันดาลูเซียอันโด่งดังที่ขายในตลาดแห่งนี้อีกด้วย
กิจกรรมและที่เที่ยวน่าสนใจเพิ่มเติมในกรานาดา
นอกจากที่เที่ยวยอดนิยมที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว ถ้ามีเวลาเหลือสามารถแวะไปทำกิจกรรมหรือเข้าชมที่เที่ยวเพิ่มเติมได้ตามลิสต์ด้านล่าง
โรงอาบน้ำเก่าแก่ (El Bañuelo)
ดูการแสดงฟลาเมงโก (Flamenco)
ชมพิพิธภัณฑ์ถ้ำ (Museo Cuevas del Sacromonte)
เดินป่าในเซียร์ราเนวาดา (Sierra Nevada)
เที่ยวมาลากา (Málaga)
มาลากาเป็นเมืองน่าเที่ยวที่มีความน่าสนใจอีกหนึ่งแห่งของสเปน ตั้งอยู่ในแคว้นอันดาลูเซีย บนชายฝั่งคอสตาเดลโซลของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ห่างจากกรานาดาเพียง 1 ชั่วโมง 45 นาที แน่นอนว่ามาลากาขึ้นชื่อในเรื่องชายหาดที่สวยงามและสภาพอากาศที่อบอุ่น มาลากายังรวมสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมทางประวัติศาสตร์ไว้หลายแห่ง เช่น ป้อมปราการอัลคาซาบา โรงละครโรมัน มหาวิหารมาลากา และพิพิธภัณฑ์ปิกัสโซ ซึ่งอุทิศให้กับชีวิตและผลงานของศิลปินชื่อดัง “ปิกัสโซ” ผู้มีบ้านเกิดในมาลากา
นักท่องเที่ยวที่ตัดสินใจเดินทางไปเที่ยวที่นี่ด้วยตัวเองไม่เพียงแต่จะได้สัมผัสความงดงามของสถานที่เหล่านี้ แต่ยังได้มีโอกาสลิ้มลองอาหารขึ้นชื่อ “กัซปาโช” (Gazpacho) ซุปเย็นที่ทำจากมะเขือเทศและพริก รวมถึงอาหารทะเลสดรสชาติอร่อย และไวน์หวานของมาลากาอีกด้วย
อย่าลืมแวะไปอ่าน: เที่ยวมาลากาด้วยตัวเอง ที่ไม่ได้ครอบคลุมแค่สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองมาลากาเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงกิจกรรมน่าสนใจ ตลอดจนที่พัก การเดินทาง อาหารน่าทาน และสิ่งที่ควรรู้ก่อนเดินทางมาเที่ยวมาลากาด้วยตัวเอง
อาหารน่าทานในกรานาดา
กรานาดามีชื่อเสียงในด้านอาหารเลิศรส ซึ่งผสมผสานระหว่างรสชาติแบบดั้งเดิมของสเปนและแอฟริกาเหนือ และยังได้รับอิทธิพลการทำอาหารจากมรดกของชาวมัวร์ โดยใช้วัตถุดิบที่หลากหลายในท้องถิ่น รายการด้านล่างคืออาหารน่าลองในกรานาดา
- Tapas: เป็นประเพณีการเสิร์ฟอาหารจานเล็ก ๆ ที่เรียกว่า “ทาปาส” พร้อมเครื่องดื่มฟรีในบาร์และร้านอาหารทั่วเมือง ทาปาสที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในกรานาดา ได้แก่ มันฝรั่งรสเผ็ด (Patatas bravas) ไข่เจียวสเปน (Tortilla Española) และปลากะตักหมัก (Boquerones en vinagre) รวมถึงอาหารพื้นเมือง เช่น ปลาทอด แฮมที่มีรสชาติเค็มและเผ็ด (Jamón serrano) และ Migas ซึ่งเป็นอาหารที่ทำจากเกล็ดขนมปัง กระเทียม และน้ำมันมะกอก นิยมทานเป็นอาหารเช้าหรืออาหารกลางวัน
- Gazpacho: ซุปเย็นยอดนิยมในกรานาดาและแคว้นอันดาลูเซีย ทำจากผักสด เกล็ดขนมปัง และน้ำมันมะกอก และมักเสิร์ฟในช่วงฤดูร้อน
- Tortilla del Sacromonte: อาหารดั้งเดิมจากเมืองกรานาดา ทำจากเครื่องในและเนื้อสัตว์ เช่น แพะ แกะ และวัว มักเสิร์ฟในกระทะขนาดใหญ่และหั่นเป็นชิ้นทานง่าย
- Piononos: ขนมอบพื้นเมืองมีต้นกำเนิดในเทศบาลซานตาเฟของกรานา ทำจากแป้งพัฟและสอดไส้ด้วยครีมหวานและโรยด้วยอบเชย
- Salmorejo: คล้ายกับซุปเย็นกัซปาโช แต่ต่างกันที่ส่วนผสมและเนื้อสัมผัสที่มีความเหนียวข้น มักเสิร์ฟพร้อมไข่ต้มหั่นเต๋า แฮมเซอร์ราโนและขนมปังกรอบ
- Albóndigas: ลูกชิ้นวัวและหมูดั้งเดิมจากกรานาดา มักเสิร์ฟร้อน ๆ กับข้าวหรือมันฝรั่ง
- Habas con Jamón: ทำจากถั่วปากอ้าสดและแฮมเซอร์ราโน นิยมทานเป็นของว่าง
- Tortas de aceite: บิสกิตบางกรอบทำจากแป้ง น้ำมันมะกอก น้ำตาล โป๊ยกั๊ก และเมล็ดงา และมักเสิร์ฟเป็นว่างยอดนิยมพร้อมกับกาแฟหรือชา
- Churros con Chocolate: แท่งแป้งทอดเสิร์ฟพร้อมซอสช็อกโกแลตเข้มข้น เป็นตัวเลือกอาหารเช้าหรือของหวานยอดนิยมในกรานาดา
ย่านที่พักในกรานาดา
กรานาดามีย่านที่พักให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่โฮลเทลราคาประหยัดไปจนถึงโรงแรมหรู รายการด้านล่างคือย่านที่พักน่าสนใจในกรานาดา
ค้นหาและเปรียบเทียบที่พักในกรานาดา
การเดินทางในกรานาดา
กรานาดามีระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมือง โดยแบ่งออกเป็นโดยสารประจำทางกลางวัน รถโดยสารประจำทางกลางคืน และรถราง รวมไปถึงรถไฟ ซึ่งมีสถานีหลัก คือ “Granada Railway Station”
การเดินทางไปกรานาดาจากเมืองใกล้เคียง
กรานาดาตั้งอยู่ทางตอนใต้ของสเปน และเชื่อมต่อกับเมืองอื่น ๆ ในภูมิภาคใกล้เคียงได้เป็นอย่างดี นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะหรือรถยนต์ที่ช่วยให้เข้าถึงเมืองต่าง ๆ ในสเปนได้สะดวกและรวดเร็ว
เที่ยวกรานาดาช่วงไหนดี
เวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมกรานาดาคือระหว่างเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม หรือฤดูใบไม้เปลี่ยนสีระหว่างเดือนกันยายนและตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศดีและอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 20 องศาเซลเซียส ตั๋วเครื่องบินและที่พักส่วนใหญ่มักมีราคาถูกกว่าในช่วงฤดูท่องเที่ยว อีกทั้งมีจำนวนนักท่องเที่ยวที่ไม่หนาแน่นมากนัก
ส่วนในช่วงฤดูร้อนระหว่างมิถุนายนถึงสิงหาคม มักมีสภาพอากาศที่ร้อนจัดและแห้ง ในขณะที่ฤดูหนาวระหว่างธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ เป็นช่วงนอกฤดูท่องเที่ยวในกรานาดา มีอุณหภูมิที่เย็นกว่าและมีหิมะตกเป็นครั้งคราว เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสอากาศหนาวหรือบรรยากาศของเทศกาลคริสต์มาส รวมถึงเยี่ยมชมเทือกเขา Sierra Nevada เพื่อเล่นสกีหรือสโนว์บอร์ด
เรื่องน่ารู้ก่อนไปเที่ยวกรานาดา
- ปลั๊กไฟ: ประเทศสเปนใช้แรงดันไฟฟ้ามาตรฐาน 230 โวลต์ ความถี่มาตรฐาน 50 เฮิรตซ์ ใช้เต้าเสียบปลั๊กไฟประเภท C และ F นักเดินทางที่มาจากประเทศนอกยุโรป ควรเตรียมหัวปลั๊กแปลงไฟรอบโลก สำรองมาด้วย 1-2 ชิ้น
- ภูมิอากาศ: กรานาดามีภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียนโดยมีฤดูร้อนและฤดูหนาวที่อบอุ่น ในช่วงฤดูร้อน อุณหภูมิอาจสูงถึง 30 องศาเซลเซียส ใครที่ไปเที่ยวกรานาดาช่วงนี้ควรเตรียมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี
- ภาษา: กรานาดาใช้ภาษาสเปนเป็นภาษาราชการ ในขณะที่ผู้คนจำนวนมากในเมืองนี้สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ และก็เป็นเรื่องดีเช่นกันที่จะเรียนรู้ประโยคพื้นฐานในภาษาสเปนไว้เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกเวลาไปไหนมาไหนและมีปฏิสัมพันธ์กับคนในท้องถิ่น
- สกุลเงิน: ใช้สกุลเงินยูโร (€) นักท่องเที่ยวสามารถแลกเงินที่ธนาคาร ตู้เอทีเอ็ม หรือสำนักงานแลกเปลี่ยนเงินตราได้สะดวก
- การแต่งกาย: กรานาดาเป็นเมืองที่ค่อนข้างอนุรักษ์นิยม ดังนั้นควรแต่งกายให้เหมาะสม โดยเฉพาะสถานที่สำคัญทางศาสนา ควรสวมเสื้อผ้าที่ปิดไหล่และขา
- พักกลางวัน: เป็นเรื่องที่ค่อนข้างแปลกใจสำหรับผู้มาเยือนจากฝั่งเอเชียพอสมควร เนื่องจากร้านค้าและธุรกิจหลายแห่งในกรานาดาจะปิดทำการเพื่อพักกลางวันในช่วงเวลาบ่ายเป็นเวลาสองถึงสามชั่วโมง ถ้าต้องการซื้อของหรือจำเป็นในช่วงเวลาดังกล่าวควรวางแผนล่วงหน้าเพื่อไม่ให้ตรงกับช่วงเวลาเหล่านี้
- อาลัมบรา: เป็นสถานที่เที่ยวยอดนิยมของกรานาดาที่ตั๋วมักจะขายหมดอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน ไม่แนะนำให้ไปยืนต่อแถวเพื่อซื้อตั๋วที่หน้าเคาน์เตอร์ เพราะอาจจะต้องรอนานถึงหนึ่งชั่วโมง ควรจองตั๋วล่วงหน้าออนไลน์เพื่อความรวดเร็วและหลีกเลี่ยงตั๋วหมดในวันที่ต้องการเข้าชม → จองตั๋วออนไลน์ล่วงหน้าสำหรับเข้าชมอาลัมบรา
เที่ยวอย่างอุ่นใจไปกับบัตรเดบิต Wise สำหรับใช้จ่ายทั่วโลก สามารถใช้ถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มต่างประเทศตามอัตราแลกเปลี่ยนจริงโดยไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง ใช้ชำระค่าอาหาร จองที่พักหรือตั๋วเครื่องบิน รวมถึงในร้านค้าออนไลน์ทั่วโลกกว่า 50+ สกุลเงิน ทั้งยังรองรับการชำระผ่าน MasterCard, Apple Pay และ Google Pay โดยไม่ต้องกังวลในการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน ใช้มานานกว่า 4 ปีไม่ผิดหวัง → สมัครรับบัตรเดบิต Wise ไว้ใช้ประโยชน์ด้วยตัวเองตอนนี้เลย
แผนที่เดินเที่ยวกรานาดาด้วยตัวเอง
กดดูและบันทึกแผนที่เดินเที่ยวกรานาดาเพื่อช่วยวางแผนการเดินทาง
วางแผนเที่ยวยุโรปด้วยตัวเอง
ยังคงมองหาประเทศน่าเที่ยวในยุโรปอีกหรือไม่? ถ้าใช่แน่นอนเลยว่าในยุโรปมีเมืองน่าเที่ยวอีกมากมายที่รอให้นักท่องเที่ยวไปสัมผัสความสวยงามด้วยตัวเอง รวมถึงเมืองเหล่านี้ด้วย
แหล่งข้อมูลวางแผนเที่ยว
Thank you
การเปิดเผย: บทความนี้มีลิงก์แอฟฟิลิเอทบางส่วน การกดที่ลิงก์ไม่มีค่าใช้จ่าย หากซื้อสินค้าหรือบริการจากลิงก์ดังกล่าว เราอาจได้รับค่ากำลังใจเล็กน้อยสำหรับนำไปพัฒนาบล็อก 🧡