5 เมืองน่าเที่ยวด้วยตัวเองในเบลเยียม เที่ยวแบบเดย์ทริปก็ได้หรือค้างคืนก็ดี

ใครหลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อของอะโตเมียม พระราชวังแห่งบรัสเซลส์ และมันเนอเกินปิสมาก่อน ปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งเหล่านี้เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ชื่อดังของประเทศเบลเยียมที่ดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเยี่ยมชมด้วยตัวเอง และแน่นอนว่าเบลเยียมยังมีแหล่งเที่ยวน่าสนใจอีกมากมายที่ซ่อนตัวอยู่ในหลายเมือง เหมาะสำหรับการไปเปิดประสบการณ์อันน่าจดด้วยตัวเอง เช่นเดียวกับในบทความนี้ที่จะมาแนะนำเกี่ยวกับเมืองน่าเที่ยวในเบลเยียมที่จะพาทุกคนไปสัมผัสความสวยงามที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างด้านประวัติศาสตร์ มรดกทางวัฒนธรรม และความงามตามธรรมชาติ

5 เมืองน่าเที่ยวด้วยตัวเองในเบลเยียม

1. เกนต์ (Ghent)

เกนต์ (Ghent) เป็นหนึ่งในเมืองน่าเที่ยวของเบลเยียมที่มีความสวยงามจนต้องยกไว้เป็นอันดับต้น ๆ โดยตั้งอยู่ห่างจากเมืองหลวงบรัสเซลส์เพียง 40 นาที ความน่าสนใจของเมืองเกนต์คือมีประวัติศาสตร์อันยาวนานย้อนกลับไปในยุคกลาง และเป็นที่รู้จักจากสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ตลอดจนสถานที่สำคัญอันเป็นเอกลักษณ์ เช่น มหาวิหารเซนต์บาโว หอระฆังแห่งเกนต์ อาคารหน้าจั่วทรงสูงที่งดงามราวกับภาพวาดบนถนนกราสไลและโคเรนไลริมแม่น้ำเลอิ รวมไปถึงปราสาทจากศตวรรษที่ 12 ซึ่งทำหน้าที่บอกเล่าเรื่องราวของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเมืองได้เป็นอย่างดี

การเดินทางไปเยือนเกนต์จึงไม่เพียงแค่เป็นการเปิดประสบการณ์สู่เมืองอนุสรณ์สถานยุคกลางเท่านั้น แต่ยังสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของวัฒนธรรมร่วมสมัยที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว และที่สำคัญถ้าไปเที่ยวที่นี่แล้วไม่ควรพลาดที่จะลิ้มลอง “Cuberdon” ซึ่งเป็นขนมขึ้นชื่อในเมืองเกนต์ รวมถึง “Gentse stoverij” สตูว์เนื้อวัวรสชาติกลมกล่อมแบบดั้งเดิม และขนมวาฟเฟิลแป้งแบบกรอบเสิร์ฟพร้อมน้ำตาลไอซิ่งและวิปครีมก็อร่อยไม่แพ้กัน

2. บรูจส์ (Bruges)

บรูจส์ (Bruges) เป็นเมืองมรดกโลกขององค์การยูเนสโก และยังได้รับฉายาว่า “เวนิสเหนือ” ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศเบลเยียม ห่างจากเมืองเกนต์เพียง 52 กิโลเมตร ความน่าสนใจของเมืองบรูจส์คือเป็นเมืองยุคกลางที่งดงามราวกับภาพวาดและได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ใจกลางเมืองเก่าโดดเด่นด้วยลำคลองที่สวยงาม รวมไปถึงอาคารเก่าแก่และถนนที่ปูด้วยหิน บรูจส์ยังเป็นที่รู้จักในด้านศิลปะและมรดกทางวัฒนธรรม โดยมีพิพิธภัณฑ์วิจิตรศิลป์บรูจส์ (Groeningemuseum) เป็นที่เก็บสะสมผลงานชิ้นเอกจากยุคดั้งเดิมของเฟลมิช

นักท่องเที่ยวสามารถใช้เวลาเดินสำรวจเมืองไปตามจัตุรัสใจกลางเมืองบรูจส์ อย่าลืมขึ้นหอระฆังแห่งบรูจส์เพื่อชมทิวทัศน์ที่สวยงามของเมืองและบริเวณโดยรอบ จากนั้นแวะไปเดินเล่นต่อเบิร์กสแควร์เพื่อชมศาลาว่าการจากศตวรรษที่ 13 ตามด้วยท่าเรือนักท่องเที่ยว “Rozenhoedkaai” ที่มีกิจกรรมล่องเรือให้เลือกทำ หรือจะเข้าชมโบสถ์หรือพิพิธภัณฑ์ก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่แพ้กัน ทั้งหมดนี้นับว่าเหมาะเลยทีเดียวสำหรับการเที่ยวแบบเดย์ทริป หรือจะพักค้างคืนเพื่อชมเมืองแบบเต็มอิ่มก็ได้เช่นกัน

3. บรัสเซลส์ (Brussels)

บรัสเซลส์ (Brussels) เป็นเมืองหลวงที่มีเสน่ห์ของเบลเยียม ตั้งอยู่ทางภาคกลางของประเทศและถือเป็นศูนย์กลางการบริหารของสหภาพยุโรป เนื่องจากเป็นที่ตั้งของสถาบันและองค์กรต่าง ๆ ของสหภาพยุโรป รวมทั้งคณะกรรมาธิการยุโรปและสภายุโรป บรัสเซลส์ยังเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวามาพร้อมประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยาวนาน โดยมีที่เที่ยวชื่อดังอย่างอะโตเมียม จัตุรัสกรองด์ปลาซ พระราชวังแห่งบรัสเซลส์ และมันเนอเกินปิสที่ดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเยี่ยมชมด้วยตัวเอง

นักท่องเที่ยวที่ไปเยือนบรัสเซลส์ไม่เพียงแต่จะได้สัมผัสถึงความงดงามของสถานที่เหล่านี้ แต่ยังเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ลิ้มลองช็อกโกแลตชื่อดังระดับโลก รวมถึงอาหารดั้งเดิมอย่างหอยแมลงภู่ ตลอดจนวาฟเฟิลและเฟรนช์ฟรายส์ที่มีชื่อเสียงในเรื่องกรอบนอกนุ่มในอีกด้วย

4. แอนต์เวิร์ป (Antwerp)

แอนต์เวิร์ป (Antwerp) เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของเบลเยียมและยังเป็นหนึ่งในเมืองที่มีท่าเรือใหญ่ที่สุดในยุโรป โดยมีประวัติศาสตร์อันยาวนานที่สะท้อนผ่านบ้านเรือนเก่าแก่ตลอดจนที่เที่ยวที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ไม่ว่าจะเป็นอาสนวิหารพระแม่มารีย์จากศตวรรษที่ 16 จัตุรัสกลางเมืองแอนต์เวิร์ปซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมืองอันงดงาม

แอนต์เวิร์ปยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์บ้านรูเบนส์ ศิลปินสไตล์บาโรกชาวเฟลมิชชื่อดัง รวมถึงพิพิธภัณฑ์วิจิตรศิลป์แอนต์เวิร์ปที่รวมภาพวาดควรค่าแก่การเข้าชมตั้งแต่ยุคเรอเนซองส์ไปจนถึงศิลปะร่วมสมัย เช่นเดียวกับพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์การพิมพ์และการผลิตหนังสือ ที่อุทิศให้กับประวัติศาสตร์ของโรงพิมพ์ที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในศตวรรษที่ 16

นักท่องเที่ยวที่มาเยือนแอนต์เวิร์ปด้วยตัวเองไม่เพียงแต่สามารถเข้าชมสถานที่เที่ยวเหล่านั้น แต่ยังสามารถใช้เวลาเดินเล่นไปตามย่านถนนชอปปิงยอดนิยมเพื่อสัมผัสบรรยากาศความมีชื่อเสียงของเมืองในด้านแฟชั่นและการค้าเพชรที่โด่งดังระดับโลก หรือถ้ามีเวลาเหลือยังสามารถแวะไปชมสวนสัตว์แอนต์เวิร์ปที่เก่าแก่และมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์มากที่สุดแห่งหนึ่งในโลกได้เช่นกัน

5. ดิแนนท์ (Dinant)

ดิแนนท์ (Dinant) เปรียบเสมือนอัญมนีที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาสูงชันระหว่างหน้าผาหินและแม่น้ำมิวส์ในจังหวัดนามูร์ของเบลเยียม โดยห่างจากบรัสเซลส์ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 90 กิโลเมตร และห่างจากชายแดนฝรั่งเศสไปทางเหนือประมาณ 20 กิโลเมตร แน่นอนว่าดิแนนท์ขึ้นชื่อเรื่องของธรรมชาติที่สวยงาม ตัวเมืองเก่าโดดเด่นสง่าด้วยหน้าผาอันสูงชันและโบสถ์เก่าจากศตวรรษที่ 13 ขั้นกลางด้วยริมแม่น้ำมิวส์ ซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญในยุโรปโดยไหลผ่านประเทศเบลเยี่ยมและเนเธอร์แลนด์ก่อนระบายลงสู่ทะเลเหนือ

ดิแนนท์ยังเป็นบ้านเกิดของ Adolphe Sax นักดนตรีชาวเบลเยี่ยมและนักประดิษฐ์ผู้สร้างแซกโซโฟนในช่วงต้นทศวรรษที่ 1840 นั้นทำให้ผู้มาเยือนที่นี่เห็นภาพของเครื่องดนตรีแซกโซโฟนตั้งเรียงรายอยู่มากมายในตัวเมือง และถ้าได้ลองไปเที่ยวที่นี่แล้วอย่าลืมแวะไปทาน “Couque” ซึ่งเป็นบิสกิตที่แข็งที่สุดในโลก

การเดินทางไปเบลเยียมจากอัมสเตอร์ดัม

ระบบขนส่งสาธารณะในเบลเยียมได้รับการพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญราคาไม่แพง ครอบคลุมถึงเครือข่ายรถไฟ รถประจำทาง และรถรางที่ให้บริการตามเมืองต่าง ๆ ทั่วประเทศ ทำให้เป็นนักท่องเที่ยวและคนในท้องถิ่นสามารถเข้าถึงเมืองต่าง ๆ ในเบลเยียมได้สะดวกและรวดเร็ว

เมืองน่าเที่ยวใกล้เบลเยียม

แน่นอนว่านอกจากเมืองน่าเที่ยวด้วยตัวเองในเบลเยียมที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว ยังมีอีกหลายเมืองน่าเที่ยวที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงประเทศเบลเยียมให้นักท่องเที่ยวได้เลือกไปเที่ยวทั้งแบบเดย์ทริปและพักค้างคืน และที่สำคัญเมืองเหล่านี้ยังเดินทางสะดวกด้วยระบบขนส่งมวลชนอีกด้วย

• อัมสเตอร์ดัม (Amsterdam): เมืองหลวงแห่งจักรยานโลกของประเทศเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่ห่างจากแอนต์เวิร์ปเพียง 180 กิโลเมตร เป็นที่รู้จักจากลำคลองที่สวยงาม สถาปัตยกรรมเก่าแก่ รวมถึงพิพิธภัณฑ์ระดับโลกที่รวบรวมผลงานของจิตกรชื่อดังไว้มากมาย ค้นหาข้อเสนอตั๋วรถไฟไปอัมสเตอร์ดัมราคาดีที่สุดตอนนี้เลย
• ปารีส (Paris): เมืองหลวงแห่งแฟชั่นชื่อดังของฝรั่งเศส ตั้งอยู่ห่างจากบรัสเซลส์เพียง 1 ชั่วโมง 30 นาที มีชื่อเสียงในด้านสถาปัตยกรรมที่สวยงาม มรดกทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย และสถานที่สำคัญอันเป็นสัญลักษณ์เฉพาะตัว ครอบคลุมถึงหอไอเฟล วิหารน็อทร์-ดาม และพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ที่จัดแสดงภาพวาดโมนาลิซาของเลโอนาร์โดดาวินชี นับว่าเป็นมหานครแห่งความโรแมนติกที่ต้องไปเยือนสักครั้งในชีวิต ค้นหาข้อเสนอตั๋วรถไฟไปปารีสราคาดีที่สุดตอนนี้เลย
• ลักเซมเบิร์ก (Luxemburg): ประเทศเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาและมีประวัติศาสตร์อันยาวนานและเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่ไม่เหมือนใคร ลักเซมเบิร์กยังเป็นเมืองมรดกโลกขององค์การยูเนสโก มีชื่อเสียงในด้านเมืองเก่า ป้อมปราการ และอาคารประวัติศาสตร์ที่งดงามราวภาพวาด ตลอดจนธรรมชาติอันเขียวขจีและการผลิตไวน์ที่มีชื่อเสียงอีกด้วย นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงลักเซมเบิร์กจากบรัสเซลส์ได้ภายในเวลา 3 ชั่วโมง 30 นาที ค้นหาข้อเสนอตั๋วรถไฟไปลักเซมเบิร์กราคาดีที่สุดตอนนี้เลย

วางแผนเที่ยวยุโรปด้วยตัวเอง

ยังคงมองหาประเทศน่าเที่ยวในยุโรปอีกหรือไม่? ถ้าใช่แน่นอนเลยว่าในยุโรปมีเมืองน่าเที่ยวอีกมากมายที่รอให้นักท่องเที่ยวไปสัมผัสความสวยงามด้วยตัวเอง รวมถึงเมืองเหล่านี้ด้วย

• เวนิส (Venice): ราชินีแห่งสายน้ำของอิตาลี เหมาะสำหรับการเดินชมความน่ารักของเมืองผ่านลำคลองที่คดและสถานที่สำคัญอันเป็นสัญลักษณ์ เช่น มหาวิหารซานมาร์โคและสะพานริอัลโต ไปจนถึงอัญมณีที่ซ่อนเร้นและการล่องเรือกอนโดลา
• ปราก (Prague): เมืองหลวงแห่งยอดแหลมนับพันของเช็กเกีย มีที่เที่ยวยอดนิยมที่รุ่งโรจน์ด้วยสถาปัตยกรรมสมัยกอทิก เรเนสซองส์ และบาโรก เมืองเก่าและเมืองใหม่ทั้งสองยังขั้นกลางด้วยทัศนียภาพที่สวยงามของแม่น้ำวัลตาวาเชื่อมต่อถึงกันโดยสะพานชาร์ลส์
• บูดาเปสต์ (Budapest): เมืองหลวงแห่งสปาและปราสาทของฮังการี สวยจนและโรแมนติกจนได้รับรับฉายาว่าเป็น “ไข่มุกแห่งแม่น้ำดานูบ” บ้านเรือนทั้งสองฝั่งนั้นยังเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมอันน่าสนใจ
• เวียนนา (Vienna): เมืองหลวงของออสเตรียที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป และยังมีประวัติศาสตร์อันยาวนานตั้งแต่สมัยจักรวรรดิโรมัน มีที่เที่ยวน่าสนใจหลายแห่งรวมถึงพระราชวังฮอฟบวร์ก พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา มหาวิหารเซนต์สตีเฟน และตลาดแนชมาร์ก เวียนนายังเป็นที่รู้จักในด้านอาหารชั้นเลิศและร้านกาแฟที่มีชื่อเสียงอีกด้วย