บรัสเซลส์ (Brussels) เป็นเมืองหลวงที่ใหญ่ที่สุดของเบลเยียม ตั้งอยู่ทางภาคกลางของประเทศและถือเป็นศูนย์กลางการบริหารของสหภาพยุโรป เนื่องจากเป็นที่ตั้งของสถาบันและองค์กรต่าง ๆ ของสหภาพยุโรป รวมทั้งคณะกรรมาธิการยุโรปและสภายุโรป บรัสเซลส์ยังเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวาและพร้อมด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยาวนาน การตัดสินใจไปเที่ยวบรัสเซลส์เป็นเวลา 1 วันจึงมีที่เที่ยวและกิจกรรมให้เลือกทำหลากหลาย และด้วยการวางแผนเที่ยวบรัสเซลส์ในบทความนี้ คุณก็สามารถใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุดในกรุงบรัสเซลส์ด้วยตัวเอง
ทำอะไรได้บ้างที่บรัสเซลส์
เที่ยวบรัสเซลส์: เดินเล่นที่จัตุรัสกลางกรุงบรัสเซลส์ (Grand Place)
มาถึงบรัสเซลส์แล้วที่แรกที่ไม่ควรพลาดไปเดินเล่นก็คือ “จัตุรัสกรองด์ปลาซ” หรือที่รู้จักกันในชื่อภาษาดัตช์ว่า “Grote Markt” เป็นจัตุรัสกลางกรุงบรัสเซลส์ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองห่างจากสถานีรถไฟบรัสเซลส์เพียง 3 นาที และยังถือเป็นจัตุรัสที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกขององค์จากยูเนสโกเมื่อปี ค.ศ. 1998
ลักษณะเด่นของจัตุรัสกรองด์ปลาซคือล้อมรอบด้วยศาลากลางในสไตล์กอทิกอันงดงาม นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นรอบจัตุรัสเพื่อชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และยังสามารถแวะไปที่ร้านช็อกโกแลตและร้านกาแฟที่มีอยู่มากมายรอบ ๆ จัตุรัสเพื่อลิ้มลองช็อกโกแลตเบลเยียมอันเลื่องชื่อได้อีกด้วย
เที่ยวบรัสเซลส์: ชมศาลาว่าการเมืองบรัสเซลส์ (Brussels Town Hall)
แน่นอนว่าศาลาว่าการเมืองบรัสเซลส์เป็นอาคารที่โดดเด่นที่สุดในจัตุรัสกรองด์ปลาซที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดอย่างเด็ดขาด ศาลาว่าการนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15 ด้านหน้าประดับด้วยงานแกะสลักอันประณีต โดยมีจุดสังเกตที่สำคัญคือลักษณะหอคอยสองข้างที่ไม่เท่ากัน รวมถึงรูปปั้นเซนต์ไมเคิลและมังกร และยังมีหอคอยสูง 96 เมตร สามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามของเมือง
นักท่องเที่ยวไม่เพียงแต่สามารถชมความสวยงามของศาลาว่าการได้จากภายนอกเท่านั้น แต่ภายในยังเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมกับไกด์ทัวร์ตลอดทั้งปี โดยทัวร์ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เป็นอังกฤษ ภาษาดัตช์ และภาษาฝรั่งเศส ที่จะพาผู้เข้าร่วมทัวร์ไปเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม เริ่มตั้งแต่ภายนอกอาคารผ่านเข้าไปด้านในห้องแกลเลอรี ห้องสภา ห้องจัดงานแต่งงาน ฯลฯ ตลอดจนชมงานศิลปะและคอลเลกชันพรมจากสมัยศตวรรษที่ 16 รวมถึงเพดานไม้ที่สวยงาม
ทัวร์ศาลากลางเปิดให้เข้าร่วมทุกวันพุธและวันอาทิตย์ตามรอบเวลาตั้งแต่ 10:00-17:00 น. (ยกเว้นวันที่มีการจัดงานสำคัญ) ตั๋วราคา 8 ยูโร และควรจองล่วงหน้า 5 วันก่อนเช้าชม
เที่ยวบรัสเซลส์: ชมพิพิธภัณฑ์เมืองบรัสเซลส์ (Brussels City Museum)
พิพิธภัณฑ์เมืองบรัสเซลส์ตั้งอยู่ในอาคารจากสมัยศตวรรษที่ 15 ชื่อว่า “Maison du Roi” ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับศาลาว่าการเมืองบรัสเซลส์ ความน่าสนใจของที่แห่งนี้คือเป็นพิพิธภัณฑ์ที่อุทิศให้กับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเมือง โดยบอกเล่าเรื่องราวของบรัสเซลส์ตั้งแต่กำเนิดจนถึงปัจจุบัน
ผู้เข้าชมยังสามารถชมคอลเล็กชันถาวรของพิพิธภัณฑ์ที่ประกอบด้วยศิลปวัตถุและการจัดแสดงที่หลากหลาย รวมถึงประติมากรรมและสิ่งทอในยุคกลางและยุคเรอเนซองส์ ตลอดจนคอลเล็กชันเซรามิก เครื่องแก้ว และเฟอร์นิเจอร์มากมายจากศตวรรษที่ 18 และ 19
พิพิธภัณฑ์เมืองบรัสเซลส์เปิดวันอังคารถึงวันอาทิตย์ เวลา 10:00-17:00 น. ตั๋วเข้าชมราคา 10 ยูโร สามารถนำไปใช้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ตู้เสื้อผ้ามันเนอเกินปิสได้ด้วย (GardeRobe MannekenPis)
เที่ยวบรัสเซลส์: แวะไปสัมผัสรูปปั้น “Everard ‘t Serclaes”
บริเวณจัตุรัสกลางกรุงบรัสเซลส์ติดกับถนน Rue Charles Buls นักท่องเที่ยวจะสังเกตเห็นรูปปั้นทองทองสัมฤทธิ์ที่มีชื่อว่า “Everard ‘t Serclaes” ซึ่งเป็นรูปปั้นชายที่กล่าวกันว่าปกป้องเมืองจากชาวเฟลมิชในช่วงศตวรรษที่ 14 ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมและถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญของประวัติศาสตร์และมรดกของบรัสเซลส์ ว่ากันว่าใครที่สัมผัสใบหน้าของทารกด้านบน ตามด้วยใบหน้าของ Everard มือและสุนัขที่อยู่รอบขาของเขา ความปรารถนาของผู้นั้นจะเป็นจริง
เที่ยวบรัสเซลส์: แวะทานวาฟเฟิลเบลเยียมชื่อดังที่ร้าน “Maison Dandoy”
จากรูปปั้นของ Everard ‘t Serclaes เดินตามถนน Rue Charles Buls ไปเพียง 1 นาที จะเจอกับร้านบิสกิตและขนมอบเบลเยียมดั้งเดิม ที่นี่เหมาะสำหรับคนที่อยากทานวาฟเฟิลเบลเยียมชื่อดังที่รู้จักกันในชื่อ “Gaufres de Liège” ซึ่งทำจากแป้งที่มีส่วนผสมของยีสต์และขึ้นชื่อเรื่องความกรอบนอกนุ่มใน และมักเสิร์ฟพร้อมน้ำตาลผงและท็อปปิ้งต่าง ๆ เช่น ช็อกโกแลต ผลไม้ และวิปปิ้งครีม นับว่าเป็นเมนูขนมยอดนิยมในเบลเยียมที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดลิ้มลองอย่างเด็ดขาด
นอกจากขนมวาฟเฟิลดั้งเดิมที่สามารถหาทานได้ที่ร้านนี้แล้ว ทางร้านยังจำหน่ายบิสกิตและขนมอบสไตล์เบลเยียมดั้งเดิมอีกหลายประเภท รวมถึงบิสกิตชอร์ตครัสต์ผสมเครื่องเทศ (Speculoos) ขนมปังขิง (Pain d’épices) และบิสกิตเคลือบช็อกโกแลต ที่จะนำไปทานเล่นหรือซื้อเป็นของฝากก็ดี
เที่ยวบรัสเซลส์: ชมรูปปั้นเด็กหนุ่มยืนฉี่ (Manneken Pis)
แวะทานวาฟเฟิลเบลเยียมชื่อดังกันไปแล้วต่อไปก็เป็นที่เที่ยวยอดนิยมอีกหนึ่งแห่งที่พลาดไม่ได้เลยก็คือรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ขนาดเล็กของเด็กหนุ่มยืนฉี่ที่ชื่อว่า “มันเนอเกินปิส” ตั้งอยู่บนหัวมุมถนน Rue du Chêne ห่างจากร้าน Maison Dandoy เพียง 3 นาที
แน่นอนว่าความโดดเด่นของที่แห่งนี้คือเด็กหนุ่มความสูง 61 เซนติเมตรที่ยืนฉี่ลงน้ำพุแบบไม่เขินอาย และก็ยืนเป็นจุดเด่นผูกพันกับคนในเมืองแบบนี้มาตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 17 เด็กหนุ่มยังมีธีมการแต่งกายเป็นของตัวเองตลอดทั้งปีอีกด้วย และจะเปลี่ยนชุดหลายครั้งต่อสัปดาห์ ซึ่งมีชุดทั้งหมดกว่า 800 ชุดด้วยกัน เครื่องแต่งกายบางส่วนจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์เมืองบรัสเซลส์ที่อยู่ใกล้เคียงกัน
นอกจากรูปปั้นเด็กหนุ่มเด็กหนุ่มยืนฉี่มันเนอเกินปิสแล้วยังมีรูปปั้นอีก 2 แบบที่คล้ายกัน คือ เด็กหญิงนั่งฉี่ (Jeanneke-Pis) ตั้งอยู่ที่ถนน Imp. de la Fidélité 10-12 และสุนัขยืนฉี่ (Het Zinneke) ตั้งอยู่ที่ถนน Rue des Chartreux 35 ใครที่อยากถ่ายภาพเพิ่มเติมสามารถแวะไปได้
เที่ยวบรัสเซลส์: แวะถ่ายภาพการ์ตูนตินติน (Tintin Comic Mural)
ใกล้กับรูปปั้นเด็กหนุ่มยืนฉี่ยังเป็นที่ตั้งของอาคารที่มีภาพจิตรกรรมฝาผนังการ์ตูนตินตินขนาดใหญ่ โดยมาจากซีรีส์การ์ตูนชื่อดังของเบลเยียมเรื่อง “The Adventures of Tintin” จิตรกรรมฝาผนังถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1991 เพื่อรำลึกถึงวันครบรอบ 50 ปีของการตีพิมพ์หนังสือการ์ตูนตินตินเล่มแรก และยังเป็นหนึ่งในภาพจิตรกรรมฝาผนังการ์ตูนที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีขนาดประมาณ 100 ตารางเมตร ไม่เพียงแต่เป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมของนักท่องเที่ยวเท่านั้นแต่ยังเป็นการเพิ่มสีสันและชีวิตชีวาให้กับเมืองบรัสเซลส์ และยังทำให้เข้าใจความสำคัญทางวัฒนธรรมของหนังสือการ์ตูนตินตินในเบลเยียมอีกด้วย
เที่ยวบรัสเซลส์: ชมพิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลต (Choco-Story Brussels)
ถัดจากถ่ายภาพจิตรกรรมฝาผนังการ์ตูนตินติน นักท่องเที่ยวจะพบกับพิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลตของเมืองบรัสเซลส์ ความน่าสนใจของที่นี่คือเป็นพิพิธภัณฑ์ที่อุทิศให้กับประวัติศาสตร์และศิลปะของการทำช็อกโกแลต และยังเปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติของช็อกโกแลต ตั้งแต่ต้นกำเนิดในอารยธรรมโบราณจนถึงปัจจุบันในฐานะขนมยอดนิยมทั่วโลก ด้านในพิพิธภัณฑ์ยังมีการจัดกิจกรรมแบบอินเทอร์แอคทีฟมากมาย รวมทั้งการจำลองโรงงานช็อกโกแลตแบบดั้งเดิม นิทรรศการแม่พิมพ์ช็อกโกแลตโบราณ และการสาธิตการทำช็อกโกแลต
ผู้เข้าชมสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับเมล็ดโกโก้ประเภทต่าง ๆ และกระบวนการผลิตช็อกโกแลต ตั้งแต่การคั่วไปจนถึงการอบร้อน และยังมีในไฮไลท์การชิมช็อกโกแลตและเรียนรู้เกี่ยวกับรสชาติและกลิ่นที่แตกต่างกัน ตลอดจนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ช็อกโกแลตเบลเยียมแบบดั้งเดิมอีกมากมาย นับว่าเป็นโอกาสที่ดีสำหรับคนที่สนใจในประวัติศาสตร์และศิลปะการทำช็อกโกแลตอยู่ไม่น้อย
พิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลตเปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 10:00-18:00 น. ตั๋วรอบสุดท้ายจำหน่ายถึงเวลา 17:00 น. ตั๋วราคา 13 ยูโร อย่าลืมจองตั๋วล่วงหน้าเพื่อเข้าชมพิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลตตอนนี้เลย
เที่ยวบรัสเซลส์: ชมพระราชวังแห่งบรัสเซลส์ (Royal Palace of Brussels)
พระราชวังแห่งบรัสเซลส์เป็นที่ประทับอย่างเป็นทางการของกษัตริย์และราชินีแห่งเบลเยียม ตั้งอยู่ห่างจากจัตุรัสกรองด์ปลาซเพียง 15 นาที และเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมในบางช่วงเวลาของปีเท่านั้น ซึ่งกำหนดการเปิดครั้งต่อไปคือประมาณฤดูร้อนปี 2024 ตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคมถึงต้นเดือนกันยายน หรือสามารถแวะไปชมทัวร์เสมือนจริงของพระราชวังแห่งนี้ไว้ก่อนได้เช่นกัน
พระราชวังแห่งบรัสเซลส์สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 19 และทำหน้าที่เป็นที่ประทับของราชวงศ์เบลเยียมตั้งแต่นั้นมา ด้านนอกล้อมรอบด้วยสวนขนาดใหญ่จำนวน 3 สวน และเป็นผลงานสถาปัตยกรรมชิ้นเอกที่ผสมผสานระหว่างสไตล์นีโอคลาสสิกและนีโอโกธิค
ผู้เข้าชมยังสามารถชื่นชมการตกแต่งภายในอันงดงามตระการตา รวมถึงงานศิลปะ ของเก่า และเครื่องเรือน ผ่านห้องโถงที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ห้องเอ็มไพร์ที่เป็นส่วนหนึ่งของส่วนที่เก่าแก่ที่สุดของพระราชวัง ห้องแสดงภาพของกษัตริย์เลโอโปลด์ที่ 1 และญาติของโคบวร์ก ห้องบัลลังก์ ตลอดจนห้องอื่น ๆ ที่มีมากถึง 15 ห้องด้วยกัน ทั้งหมดนี้นับว่าคุ้มค่าที่จะไปชมความงดงามด้วยตัวเองสักครั้ง
เที่ยวบรัสเซลส์: เดินเล่นที่ย่านวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ (Mont des Arts)
“Mont des Arts” ตั้งอยู่บนเนินเขาระหว่างพระราชวังแห่งกรุงบรัสเซลส์และรัฐสภาแห่งสหพันธรัฐเบลเยียม เป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยว ด้านในสวนสาธารณะแห่งนี้โดดเด่นด้วยสวนดอกไม้ที่เชื่อมต่อกัน 4 สวน ขนาบข้างด้วยต้นไม้เขียวขจีและน้ำพุขนาดเล็กอย่างลงตัว และยังมีม้านั่งสำหรับพักผ่อน
ใกล้กับสวนสาธารณะยังเป็นที่ตั้งของหลายแห่ง รวมถึงพิพิธภัณฑ์วิจิตรศิลป์หลวงแห่งเบลเยียม (Royal Museums of Fine Arts of Belgium) พิพิธภัณฑ์เบียร์เบลเยียม (Museum of the Belgian Brewers) และพิพิธภัณฑ์เครื่องดนตรี (Museum of Musical Instruments) อีกทั้งยังมีการจัดคอนเสิร์ตและกิจกรรมอื่นๆ ในสวนช่วงฤดูร้อน ทำให้ที่นี่มีบรรยากาศที่คึกคักและเหมาะสำหรับการใช้เวลากับเพื่อนและครอบครัวได้เป็นอย่างดี
เที่ยวบรัสเซลส์: ชมมหาวิหารเซนต์ไมเคิลและเซนต์กูดูลา
มหาวิหารเซนต์ไมเคิลและเซนต์กูดูลา (St Michael and St Gudula Cathedral) เป็นสถานที่สำคัญทางศาสนาและวัฒนธรรมในบรัสเซลส์ และยังเป็นหนึ่งในที่เที่ยวอันสวยงามของเมือง โดยอาสนวิหารสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 เพื่ออุทิศให้กับนักบุญไมเคิลและนักบุญกูดูลา
ด้านนอกมหาวิหารมีซุ้มสไตล์กอทิกที่สวยงามและหอคอยสองหลัง ส่วนด้านในประดับด้วยงานศิลปะมากมาย รวมถึงภาพวาดชื่อดัง “The Last Judgment” และยังโดดเด่นด้วยหน้าต่างกระจกสีและแท่นบูชาที่ทำจากไม้อันงดงาม ตลอดจนเพดานที่ตกแต่งอย่างสวยงาม มหาวิหารเซนต์ไมเคิลและเซนต์กูดูลาเปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08:00-18:00 น. ยกเว้นช่วงพิธีสำคัญทางศาสนา
เที่ยวบรัสเซลส์: ศูนย์การเรียนรู้ของรัฐสภายุโรป (Parlamentarium)
หนึ่งในที่เที่ยวของเมืองบรัสเซลส์ที่จะพานักท่องเที่ยวไปเรียนรู้ประวัติความเป็นมาของรัฐสภาได้ดีที่สุดคงหนีไม่พ้น “Parlamentarium” ซึ่งเป็นศูนย์การเรียนรู้ทางการที่นำเสนอประสบการณ์เชิงโต้ตอบและการศึกษาแก่ผู้เข้าชม โดยให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการทำงานของสหภาพยุโรปและบทบาทของรัฐสภายุโรป ที่แห่งนี้ตั้งอยู่ในย่าน “European Quarter” ห่างจากใจกลางเมืองประมาณ 27 นาที เข้าถึงง่ายด้วยระบบขนส่งสาธารณะ
ความน่าสนใจของศูนย์การเรียนรู้ของรัฐสภายุโรปนอกจากจะเปิดให้เข้าชมฟรีแล้ว ยังมีการจัดแสดงที่หลากหลาย ครอบคลุมถึงการจัดแสดงแบบอินเทอร์แอกทีฟ วิดีโอ และการจำลอง ซึ่งให้ภาพรวมของประวัติศาสตร์และการทำงานของสหภาพยุโรป ผู้เข้าชมยังสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับงานของรัฐสภายุโรป รวมถึงบทบาทในการกำหนดกฎหมายของสหภาพยุโรป และสิทธิและความรับผิดชอบของพลเมืองของสหภาพยุโรป
หนึ่งในไฮไลท์สำคัญของที่นี่คือ “Hemicycle” ซึ่งเป็นแบบจำลองของห้องโต้วาทีหลักของรัฐสภายุโรป ผู้เข้าชมสามารถชมการโต้วาทีสดและเซสชั่นเต็ม และแม้แต่เข้าการรับตำแหน่งสมาชิกรัฐสภายุโรปเพื่ออภิปรายประเด็นปัจจุบันที่อียูเผชิญอยู่ ทั้งหมดนี้นับว่าคุ้มค่ามากที่จะใช้เวลาเรียนรู้การทำงานของรัฐสภายุโรปและบทบาทของสหภาพยุโรปในการกำหนดอนาคตของยุโรปภายในเวลา 2-3 ชั่วโมง
ศูนย์การเรียนรู้ของรัฐสภายุโรปเปิดให้เข้าชมทุกวัน วันจันทร์เวลา 13:00-18:00 น. วันอังคารถึงศุกร์เวลา 09:00-18:00 น. วันเสาร์และอาทิตย์เวลา 10:00-18:00 น. อย่าลืมจองช่วงเวลาเข้าชมล่วงหน้าที่เว็บไซต์ทางการ ส่วนการเดินทางไปยังศูนย์การเรียนรู้ของรัฐสภายุโรป มีสถานีรถไฟใต้ดินใกล้เคียงคือ Trône สาย 2 และ 6 และป้ายรถบัส European Parliament เข้าถึงง่ายด้วยรถบัสสาย 22, 27, 34, 38, 64, 80 และ 95
เที่ยวบรัสเซลส์: เดินเล่นที่สวนสาธารณะ (Parc du Cinquantenaire)
“Parc du Cinquantenaire” หรือที่รู้จักกันในภาษาดัตช์ว่า “Jubelpark” เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในย่าน European Quarter ห่างจากศูนย์การเรียนรู้ของรัฐสภายุโรปประมาณ 15 นาที สวนแห่งนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1880 เพื่อรำลึกถึงวันครบรอบ 50 ปีแห่งการประกาศเอกราชของเบลเยียม และเป็นหนึ่งในสวนสาธารณะที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเมือง
ด้านในสวนสาธารณะไม่เพียงแต่มีบรรยากาศที่ร่มรื่นเหมาะสำหรับการเดินเล่นและพักผ่อนเท่านั้น แต่ยังเป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลายแห่ง เช่น พิพิธภัณฑ์กองทัพและประวัติศาสตร์การทหาร (Royal Museum of the Armed Forces and Military History) พิพิธภัณฑ์ศิลปะและประวัติศาสตร์ (Art & History Museum) และพิพิธภัณฑ์โลกแห่งรถยนต์ (Autoworld)
เที่ยวบรัสเซลส์: ถ่ายภาพประตูชัย (Triumphal Arch)
ประตูชัยเป็นหนึ่งอนุสาวรีย์ขนาดใหญ่ที่โดดเด่นที่สุดของสวนสาธารณะ Parc du Cinquantenaire ซุ้มประตูนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1880 เพื่อรำลึกถึงวันครบรอบ 50 ปีแห่งการประกาศเอกราชของเบลเยียม โดยสร้างขึ้นตามแบบประตูชัยในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซุ้มประตูทำด้วยหินสีขาวและประดับด้วยประติมากรรมและภาพนูนต่ำนูนสูงที่แสดงภาพบุคคลสำคัญและเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ของเบลเยียม
ผู้เข้าชมยังสามารถปีนขึ้นไปบนยอดซุ้มประตูได้ฟรีจากทางเข้าพิพิธภัณฑ์กองทัพและประวัติศาสตร์การทหารเพื่อชมทิวทัศน์ที่สวยงามมุมกว้างของกรุงบรัสเซลส์และย่าน European Quarter ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสยังสามารถมองเห็นอันทิวทัศน์กว้างไกลของบริเวณโดยรอบได้อีกด้วย
เที่ยวบรัสเซลส์: เดินเล่นที่แกลเลอรีชอปปิง (Royal Gallery of Saint Hubert)
จากย่านที่เที่ยวสำคัญไปแล้วต่อไปเราก็มาถึงแหล่งชอปปิงที่สวยงามและเก่าแก่ที่สุดในกรุงบรัสเซลส์กันบ้างนั้นก็คือ “Royal Galleries of Saint Hubert” ตั้งอยู่ไม่ไกลจากรูปปั้นเด็กหญิงนั่งฉี่ (Jeanneke-Pis) เพียง 180 เมตร แกลเลอรีประกอบด้วยทางเดินที่เชื่อมต่อกันหลายแห่ง ซึ่งเรียงรายไปด้วยร้านค้า ร้านกาแฟ และร้านอาหารมากมาย เหมาะสำหรับการเดินเล่นหรือเดินเลือกซื้อสินค้าและช็อกโกแลตยอดนิยมได้เป็นอย่างดี
ด้านหน้าของแกลเลอรีชอปปิงยังเป็นที่ตั้งของถนนคนเดินเก่าแก่ชื่อว่า “Rue des Bouchers” ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว มีความยาวประมาณ 270 เมตร ตั้งอยู่ระหว่างสี่แยก Rue Grétry & Rue de Fourche (ทางตะวันตก) และ Rue de la Montagne (ทางตะวันออก) และอยู่ห่างจากจัตุรัสกรองด์ปลาซไปทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 150 เมตร บนถนนสายนี้เป็นที่ตั้งร้านอาหารเบลเยียมแบบดั้งเดิมมากมาย เหมาะสำหรับคนที่อยากทานอาหารเบลเยียมดั้งเดิมหรือสัมผัสบรรยากาศความมีชีวิตชีวาของเมือง
เที่ยวบรัสเซลส์: สำรวจอะโตเมียม (Atomium)
อะโตเมียมเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของบรัสเซลส์ที่ห้ามพลาดอย่างเด็ดขาด อาคารตั้งอยู่ที่ย่านนอกเมือง ใช้เวลาเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนประมาณ 30 นาที ตามประวัติอะโตเมียมสร้างขึ้นสำหรับงาน World Expo 1958 และเป็นตัวแทนของผลึกเหล็กขนาดใหญ่ที่ขยายได้ถึง 165 พันล้านครั้งและสูง 102 เมตร ประกอบด้วยทรงกลมเหล็กเก้าลูกที่เชื่อมต่อกันด้วยท่อ และมีทั้งหมดหกชั้นที่เปิดให้สาธารณชนเข้าชม
ผู้เข้าชมสามารถขึ้นลิฟต์ไปยังทรงกลมด้านบนซึ่งมีหอสังเกตการณ์ที่มองเห็นทิวทัศน์มุมกว้างของเมืองและบริเวณโดยรอบ ทรงกลมยังเป็นที่จัดแสดงนิทรรศการที่หลากหลาย รวมถึงนิทรรศการที่อุทิศให้กับประวัติศาสตร์ของอะโตเมียม และงาน World Expo ปี 1958
นอกจากหอสังเกตการณ์และนิทรรศการแล้ว อะโตเมียมยังมีร้านอาหารที่ตั้งอยู่บนทรงกลมด้านบนซึ่งให้ทัศนียภาพ 360 องศาของเมือง ทั้งหมดนี้นับว่าเป็นอาคารที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและคุ้มค่าแก่การเข้าชมภายในเวลา 1-2 ชั่วโมง โดยเปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 10:00-18:00 น. ช่วงเวลาที่แนะนำ คือ 10:00 น. ส่วนเวลา 11:00-13:00 น. มักมีจำนวนผู้เข้าชมหนาแน่น ตั๋วราคา 16 ยูโร
อะโตเมียมตั้งอยู่ที่ย่านนอกเมือง ใช้เวลาเดินทางด้วยรถรางสาย 3 ประมาณ 20 นาที มาลงที่สถานี Esplanade จากนั้นเดินอีก 12 นาทีไปยังทางเข้าหลัก หรือนั่งรถไฟใต้ดินสาย 5 มาลงที่สถานี De Brouckère จากนั้นเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟใต้ดินสาย 6 มาลงที่สถานี Heizel จากนั้นเดินอีก 6 นาทีไปยังทางเข้าหลัก
เที่ยวบรัสเซลส์: เยี่ยมชมสวนยุโรปขนาดย่อ (Mini-Europe)
ใครหลายคนอาจจะเคยเห็นเมืองจิ๋วจำลองมาดูโรดัม (Madurodam) ที่ตั้งอยู่ในกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์กันมาบ้าง ที่นั้นมีการจัดแสดงที่คล้ายคลึงกับสวนยุโรปขนาดย่อที่ตั้งอยู่ติดกับอะโตเมียม ซึ่งเน้นอาคารจำลองและสถานที่สำคัญที่มีชื่อเสียงจากทั่วยุโรปไว้ได้อย่างน่าสนใจ เป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวที่เหมาะสำหรับคนที่มีเวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง
ด้านในมินิยุโรปครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 4 เอเคอร์ และมีอาคารมากกว่า 350 แห่งจากทั่วยุโรป รวมถึงหอไอเฟล โคลอสเซียม และหอเอนเมืองปิซา ตลอดจนที่เที่ยวสำคัญในเบลเยียม เช่น จัตุรัสกลางเมือง ศาลาว่าการเมืองบรัสเซลส์ ป้อมปราการและโบสถ์ในเมืองดิแนนท์ และถนนที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในเมืองเกนต์อย่าง “Graslei”
มินิยุโรปเปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 10:00-18:00 น. ตั๋วราคา 19.00 ยูโร มีตั๋วรวมเข้าชมอะโตเมียม ราคา 31.30 ยูโร และยังสามารถใช้บัตร Brussels Card เพื่อรับส่วนลดเข้าชมมินิยุโรปได้อีกด้วย
เที่ยวเมืองเกนต์ (Ghent)
เกนต์เป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่สวยงามของเบลเยียม และยังมีบรรยากาศที่คล้ายกับเมืองบรูจส์ โดยตั้งอยู่ห่างจากกรุงบรัสเซลส์เพียง 40 นาที ความน่าสนใจของเมืองเกนต์คือมีประวัติศาสตร์อันยาวนานย้อนกลับไปในยุคกลาง และเป็นที่รู้จักจากสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ตลอดจนสถานที่สำคัญอันเป็นเอกลักษณ์ เช่น มหาวิหารเซนต์บาโว หอระฆังแห่งเกนต์ อาคารหน้าจั่วทรงสูงที่งดงามราวกับภาพวาดบนถนนกราสไลและโคเรนไลริมแม่น้ำเลอิ รวมไปถึงปราสาทจากศตวรรษที่ 12 ซึ่งทำหน้าที่บอกเล่าเรื่องราวของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเมืองได้เป็นอย่างดี
การเดินทางไปเยือนเกนต์จึงไม่เพียงแค่เป็นการเปิดประสบการณ์สู่เมืองอนุสรณ์สถานยุคกลางเท่านั้น แต่ยังสัมผัสได้กลิ่นอายของวัฒนธรรมร่วมสมัยที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว อย่าลืมแวะไปอ่านวางแผนเที่ยวเกนต์ด้วยตัวเอง ที่ไม่ได้ครอบคลุมแค่สถานที่เที่ยวในเมืองเกนต์เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงกิจกรรมน่าสนใจ ตลอดจนที่พัก การเดินทาง อาหารน่าทาน และสิ่งที่ควรรู้ก่อนเดินทางมาเที่ยวเกนต์ด้วยตัวเอง
เที่ยวเมืองบรูจส์ (Bruges)
บรูจส์เป็นเมืองมรดกโลกขององค์การยูเนสโก และยังได้รับฉายาว่า “เวนิสเหนือ” ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศเบลเยียม ห่างจากเมืองเกนต์เพียง 52 กิโลเมตร ความน่าสนใจของเมืองบรูจส์คือมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เพราะเคยเป็นเมืองท่าและมีความสำคัญทางศิลปะในยุคจิตรกรรมเนเธอร์แลนด์ตอนต้น ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 15 ถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 16
นักท่องเที่ยวสามารถใช้เวลาเดินสำรวจเมืองไปตามที่เที่ยวสำคัญของเมืองบรูจส์ เช่น จัตุรัสใจกลางเมืองบรูจส์ อย่าลืมขึ้นหอระฆังแห่งบรูจส์เพื่อชมทิวทัศน์ที่สวยงามของเมืองและบริเวณโดยรอบ จากนั้นแวะไปเดินเล่นต่อเบิร์กสแควร์เพื่อชมศาลาว่าการจากศตวรรษที่ 13 ตามด้วยท่าเรือนักท่องเที่ยว “Rozenhoedkaai” ที่มีกิจกรรมล่องเรือให้เลือกทำ หรือจะเข้าชมโบสถ์หรือพิพิธภัณฑ์ก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่แพ้กัน
ทั้งหมดหมดนี้นับว่าเหมาะทีเดียวสำหรับการเที่ยวแบบเดย์ทริปจากกรุงบรัสเซลส์หรือเมืองเกนต์ที่มีบรรยากาศใกล้เคียงกัน รวมไปถึงจากกรุงอัมสเตอร์ดัมเดินทางสะดวกด้วยรถไฟ ถ้ามีเวลามากกว่าหนึ่งวันสามารถพักค้างคืนเพื่อชมสถานที่เที่ยวในเมืองบรูจส์แบบเต็มอิ่ม ที่นั้นตอนกลางคืนยังมีความสวยงามเป็นพิเศษด้วยไฟประดับ นั่นยิ่งเพิ่มความโรแมนติกไปอีกแบบ
อาหารน่าทานในบรัสเซลส์
แน่นอนว่าเมื่อมาถึงบรัสเซลส์นอกจากจะได้ชมสถานที่เที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่สวยงามหลายแห่งแล้ว ที่นี่ยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารแบบดั้งเดิมและขนมรสชาติอร่อยให้ได้ลิ้มลองกัน รายการด้านล่างคืออาหารน่าทานในบรัสเซลส์
วาฟเฟิลเบลเยียม (Belgian Waffles)
เป็นเมนูยอดนิยมในกรุงบรัสเซลส์ มี 2 ประเภท คือ วาฟเฟิลบรัสเซลส์และวาฟเฟิล Liege ความแตกต่างของวาฟเฟิลสองประเภทนี้ คือ วาฟเฟิลบรัสเซลส์จะมีขนาดใหญ่กว่าและมีรูปร่างรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า นิยมโรยด้วยน้ำตาลไอซิ่ง ส่วนวาฟเฟิล Liege จะมีเนื้อแน่นและหวานกว่า และมักราดด้วยน้ำตาลผง วิปปิ้งครีม และช็อคโกแลตหรือผลไม้
ช็อกโกแลตเบลเยียม (Belgian chocolate)
มีชื่อเสียงติดอันดับโลก มีร้านช็อกโกแลตและโรงงานช็อกโกแลตตั้งอยู่มากมายในบรัสเซลส์ โดยเฉพาะในย่านจัตุรัสกรองด์ปลาซ ที่เต็มไปด้วยร้านขายช็อกโกแลตรสชาติอร่อย รวมถึงเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลตให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้กระบวนการผลิตช็อกโกแลตอย่างใกล้ชิด ถ้าตัดสินใจเข้าชมที่นี่แล้วยังจะได้ชิมช็อกโกแลตรสชาติต่าง ๆ อีกด้วย
คุกกี้ดั้งเดิม (Speculoos)
ทำจากเครื่องเทศ เช่น อบเชย ลูกจันทน์เทศ และขิง สามารถพบได้ในร้านเบเกอรี่และร้านค้าหลายแห่งในกรุงบรัสเซลส์
- หอยแมลงภู่ (Moules-frites): เป็นอาหารเบลเยียมแบบดั้งเดิม นิยมปรุงในซอส เช่น ไวน์ขาว ครีม หรือซอสมะเขือเทศ และเสิร์ฟพร้อมกับมันฝรั่งทอด
- เบียร์เบลเยียม (Belgian Beer): มีโรงเบียร์กว่า 180 แห่งตั้งอยู่ทั่วเมืองให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มลองเบียร์หลายประเภท เบียร์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด คือ เบียร์ Trappist และ Abbey รวมไปถึงประเภทอื่น ๆ ที่สามารถหาได้ตามบาร์และผับ
- มันฝรั่งบดผสมกับผัก (Stoemp): เป็นอาหารเบลเยียมแบบดั้งเดิมทำจากมันฝรั่งบดผสมกับแครอท กระเทียม หรือผักโขม มักเสิร์ฟเป็นเครื่องเคียงกับไส้กรอก แฮม หรือเนื้อวัว
- เฟรนช์ฟรายส์เบลเยียม (Fries): มีชื่อเสียงในเรื่องกรอบนอกนุ่มในและมีขนาดใหญ่ นิยมเสิร์ฟกับซอสมายองเนส ซอสมะเขือเทศ หรือซอสอันดาลูส
- สตูว์ปลาแบบดั้งเดิม (Waterzooi): ทำจากปลาคาร์พหรือปลาไหล ปรุงด้วยครีม เนยและผัก
- ผักชิโครี่ (Belgian Endive): เป็นผักยอดนิยมในเบลเยียม มักทานแบบสดหรือตุ๋นแบบซุป มีรสขมเล็กน้อยทำให้เข้ากันดีกับซอสครีม และนิยมทานคู่กับชีส แฮม หรือเบคอนเพื่อขจัดความขม
ย่านที่พักในบรัสเซลส์
บรัสเซลส์มีที่พักให้นักท่องเที่ยวเลือกมากมาย ตั้งแต่โฮสเทลราคาย่อมเยาไปจนถึงโรงแรมหรู รายการด้านล่างคือย่านที่พักยอดนิยมในบรัสเซลส์
ที่พักน่าสนใจในบรัสเซลส์
Sleep Well Youth Hostel: ที่พักราคาประหยัดตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมืองห่างจากจัตุรัสกรองด์ปลาซเพียง 13 นาที และใกล้แหล่งชอปปิงยอดนิยมเพียง 150 เมตร ห้องพักมีหลายแบบให้เลือก รวมถึงห้องพักส่วนตัวพร้อมห้องน้ำรวม ทุกห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐาน เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางคนเดียว เดินทางกับคู่รัก หรือเดินทางเป็นกลุ่มกับครอบครัว ตรวจสอบราคาและห้องว่างตอนนี้เลย
Motel One Brussels: ที่พักโลเคชั่นดีเยี่ยมตั้งอยู่ใจกลางกรุงบรัสเซลส์ ห่างจากจัตุรัสกรองด์ปลาซ ย่านชอปปิงยอดนิยม และสถานีรถไฟบรัสเซลส์เพียง 10 นาที ห้องพักมาพร้อมบุฟเฟต์อาหารเช้า มีร้านอาหาร บาร์ ร้านค้า และซูเปอร์มาร์เก็ตมากมายตั้งอยู่ห่างจากที่พักในระยะที่สามารถเดินถึงสะดวก ตรวจสอบราคาและห้องว่างตอนนี้เลย
Pillows City Hotel Brussels Centre: ที่พักโลเคชั่นเริศหรูระดับ 4 ดาว ตั้งอยู่ในใจกลางกรุงบรัสเซลส์ ห่างจากสถานีรถไฟบรัสเซลส์และมหาวิหารเซนต์ไมเคิลและเซนต์กูดูลาเพียง 100 เมตร ห้องพักตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์นที่ทันสมัย มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น Wi-Fi ฟรี ทีวีจอแบน และห้องน้ำส่วนตัว รวมไปถึงเครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ น้ำดื่ม และช็อคโกแลตให้บริการฟรี ตลอดจนมีที่จอดรถส่วนตัว เหมาะสำหรับท่องเที่ยวที่ต้องการความสะดวกสบาย ทั้งแบบการเดินทางกับคู่รัก หรือเดินทางเป็นกลุ่มกับครอบครัว ตรวจสอบราคาและห้องว่างตอนนี้เลย
ค้นหาและเปรียบเทียบที่พักในบรัสเซลส์
การเดินทางในบรัสเซลส์
บรัสเซลส์มีระบบขนส่งมวลชนที่มีประสิทธิภาพทำให้ง่ายและสะดวกต่อการเดินทางรอบเมือง โดยเปิดให้บริการตั้งแต่เวลาประมาณ 05:00-00:30 น. ในวันธรรมดา ส่วนในวันหยุดสุดสัปดาห์เปิดตั้งแต่เวลาประมาณ 06:00-00:30 น. ตั๋วเดินทางเที่ยวเดียวเริ่มต้นราคา 2.60 ยูโร และยังมีตั๋วเดินทางรายวันราคา 8 ยูโร
นักท่องเที่ยวยังสามารถใช้ระบบแบบไร้สัมผัสด้วยบัตรเดบิต บัตรเครดิต หรือโทรศัพท์มือถือเพื่อจ่ายค่าเดินทาง ซึ่งจะมีราคาที่ถูกกว่าตั๋วเดินทางแบบกระดาษ หรือใช้บัตร Brussels City Card สำหรับเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะฟรี
ตัวเลือกการเดินทางในบรัสเซลส์
การเดินทางไปบรัสเซลส์จากอัมสเตอร์ดัม
อัมสเตอร์ดัมตั้งอยู่ห่างจากบรัสเซลส์ประมาณ 210 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังบรัสเซลส์ด้วยตัวเลือกที่หลากหลาย เช่น การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะและการเดินทางด้วยรถยนต์
การเดินทางไปบรัสเซลส์จากเมืองใกล้เคียง
- จากแอนต์เวิร์ป (Antwerp): ตั้งอยู่ห่างจากบรัสเซลส์ประมาณ 80 กิโลเมตร มีรถไฟของ SNCB/NMBS ให้บริการจากสถานี Antwerp Central ไปยังสถานี Brussel Central การเดินทางใช้เวลาประมาณ 30 นาที ส่วนการเดินทางด้วยรถบัสใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ครอบคลุมถึงรถโคช FlixBus และรถบัส De Lijn
- จากบรูจส์ (Bruges): ตั้งอยู่ห่างจากบรัสเซลส์ประมาณ 80 กิโลเมตร มีรถไฟให้บริการจากสถานี Bruges ไปยังสถานี Brussel Central การเดินทางใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนการเดินทางด้วยรถบัสใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที
- จากเกนต์ (Ghent): ตั้งอยู่ห่างจากบรัสเซลส์ประมาณ 40 กิโลเมตร มีรถไฟให้บริการจากสถานี Gent-Sint-Pieters ไปยังสถานี Brussel Central การเดินทางใช้เวลาประมาณ 30 นาที ส่วนการเดินทางด้วยรถบัสใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที
เที่ยวบรัสเซลส์ช่วงไหนดี
บรัสเซลส์สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปีและยังมีกิจกรรมและงานอีเว้นท์ให้เลือกทำหลากหลาย
เรื่องน่ารู้ก่อนไปเที่ยวบรัสเซลส์
- ภาษา: บรัสเซลส์ใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาราชการ แต่ผู้คนจำนวนมากสามารถพูดภาษาดัตช์และภาษาอังกฤษ
- สกุลเงิน: ใช้สกุลเงินยูโร (EUR) มีตู้เอทีเอ็มให้บริการทั่วเมือง ร้านค้าและร้านอาหารส่วนใหญ่รับจ่ายด้วยบัตรเครดิตและบัตรเดบิต ส่วนร้านเล็ก ๆ และแผงขายของริมถนนมักรับจ่ายด้วยเงินสด
- เวลาเปิดทำการ: ร้านค้าและพิพิธภัณฑ์ส่วนใหญ่ในบรัสเซลส์เปิดให้บริการจนถึงเวลา 18:00 น. อาจมีบางแห่งที่ปิดเร็วในวันเสาร์อาทิตย์ เช่นเดียวกับร้านอาหารส่วนใหญ่เปิดจนถึงเวลา 22:00 น. สามารถหาร้านอาหารยามค่ำคืนได้ง่ายในย่านท่องเที่ยว
- ความปลอดภัย: บรัสเซลส์เป็นเมืองที่ปลอดภัยต่อการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามควรระมัดระวังสิ่งของมีค่าอยู่เสมอ
- การเดินเที่ยว: บรัสเซลส์เป็นเมืองที่เป็นมิตรต่อการเดินเที่ยว สามารถตั้งต้นได้ที่จัตุรัสกรองด์ปลาซไปตามย่าน Sablon และยาวไปจนถึงพระราชวังแห่งบรัสเซลส์ ถ้ามีเวลาเที่ยว 1 วันแนะนำให้เที่ยวย่านใจกลางเมืองก่อน และใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมงสุดท้ายที่อะโตเมียม เพราะค่อนข้างอยู่นอกเมือง ส่วนคนที่พักค้างคืนในบรัสเซลส์ 1-3 วัน เพื่อความประหยัดสามารถเลือกใช้บัตร Brussels City Card เพื่อเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะฟรี หรือใช้บัตร Brussels Card สำหรับเข้าชมที่เที่ยวและพิพิธภัณฑ์กว่า 49 แห่งในราคาประหยัด
เที่ยวอย่างอุ่นใจไปกับบัตรเดบิต Wise สำหรับใช้จ่ายทั่วโลก สามารถใช้ถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มต่างประเทศตามอัตราแลกเปลี่ยนจริงโดยไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง ใช้ชำระค่าอาหาร จองที่พักหรือตั๋วเครื่องบิน รวมถึงในร้านค้าออนไลน์ทั่วโลกกว่า 50+ สกุลเงิน ทั้งยังรองรับการชำระผ่าน MasterCard, Apple Pay และ Google Pay โดยไม่ต้องกังวลในการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน ใช้มานานกว่า 4 ปีไม่ผิดหวัง → สมัครรับบัตรเดบิต Wise ไว้ใช้ประโยชน์ด้วยตัวเองตอนนี้เลย
แผนที่เดินเที่ยวบรัสเซลส์ด้วยตัวเอง
กดดูและบันทึกแผนที่เดินเที่ยวบรัสเซลส์เพื่อช่วยวางแผนการเดินทาง
แหล่งข้อมูลวางแผนเที่ยว
Thank you
การเปิดเผย: บทความนี้มีลิงก์แอฟฟิลิเอทบางส่วน การกดที่ลิงก์ไม่มีค่าใช้จ่าย หากซื้อสินค้าหรือบริการจากลิงก์ดังกล่าว เราอาจได้รับค่ากำลังใจเล็กน้อยสำหรับนำไปพัฒนาบล็อก 🧡