ก่อนหน้านี้เคยแชร์ประสบการณ์เรียนสกีครั้งแรกในชีวิต ที่ SnowWorld เนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นลานฝึกซ้อมสกีในร่มขนาดใหญ่กันไปแล้ว แน่นอนว่าบทความนี้จะมาแชร์ประสบการณ์การเรียนสกีกลางแจ้งในพื้นที่จริงที่หมู่บ้านสกีรีสอร์ทเลส์เมนูแยร์ (Les Ménuires) ของฝรั่งเศสกันบ้าง ที่นี่ตั้งอยู่ในเทือกเขาแอลป์ฝรั่งเศส และยังเป็นส่วนหนึ่งของลานสกีขนาดใหญ่ที่สุดของโลก “Les 3 Vallées” มีระยะทางรวมกว่า 600 กิโลเมตรเลยทีเดียว การตัดสินใจมาเรียนสกีในครั้งนี้จึงเป็นการเปิดประสบการณ์กีฬาฤดูหนาวในฝรั่งเศสครั้งแรกของเราที่ท้าทายและสนุกที่สุดเลยก็ว่าได้
ก่อนจะไปเริ่มต้นเรียนสกีก็ต้องมาหาโรงเรียนสอนกันก่อน ในเลส์เมนูแยร์มีโรงเรียนสอนสกีที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง เช่น ESF, Prosneige, Oxygène, Mountain Guides Bureau, Ski Cool และ Evolution 2 เป็นต้น โรงเรียนเหล่านี้เปิดสอนสกีทุกระดับ รวมถึงชั้นเรียนแบบกลุ่มและแบบส่วนตัว ผู้เรียนสามารถเลือกได้ตามความต้องการ และแน่นอนว่าเราเลือกก็เรียนสกีกับ Prosneige ด้วยเหตุผลง่าย ๆ เลยก็คือครอบครัวของแฟนเคยเรียนที่นี่มาแล้วหลายครั้ง และประทับใจในการสอน โดยเฉพาะครูสอนที่มีประสบการณ์แบบตั้งใจถ่ายทอดความรู้อย่างเต็มที่ และที่สำคัญบรรยากาศการเรียนการสอนสนุกและผ่อนคลาย พอได้ไปลองเรียนมาแล้วก็ไม่ผิดหวังจริง ๆ

ค่าเรียนสกีแพงไหม?
คลาสสกีที่เราเลือกเรียนคือแบบกลุ่มสำหรับผู้ใหญ่ที่เพิ่งเริ่มต้นหรือยังไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน ราคาอยู่ที่ประมาณ 470 ยูโร มีนักเรียนไม่เกิน 8 คน เรียนทั้งรอบเช้าและรอบบ่ายรวม 6 วัน (วันอาทิตย์ถึงวันศุกร์) ซึ่งรอบเช้าเริ่มเวลา 09:00-12:00 น. ส่วนรอบบ่ายเริ่มเวลา 14:30-17:00 น. ทั้งสองรอบครูผู้สอนแตกต่างกันแต่ยังเป็นคนเดิมตามรอบเวลาที่เลือกเรียน
ทางโรงเรียนยังเปิดสอบรอบเวลาพิเศษ คือ ช่วงพักเที่ยงระหว่าง 12:30-14:30 น. จำกัดคนเรียนสูงสุดไม่เกิน 5 คน เหมาะสำหรับคนที่อยากได้บรรยากาศแบบไม่พลุ่กพล่าน ถ้าใครอยากสัมผัสหิมะใหม่แนะนำให้เรียนช่วงเช้า แต่ถ้าอยากตื่นสายหน่อยหรือคนไม่ค่อยแออัดแนะนำให้เรียนช่วงบ่ายแทน แต่ช่วงบ่ายปกติเวลาเรียนจะสั้นกว่ารอบเช้าแต่มีเวลาเพิ่มตรงที่ไม่ต้องรอลิฟต์สกีนาน และแน่นอนว่าเราก็เลือกเรียนทั้งรอบเช้าและบ่ายไปเลยเพราะถูกกว่าและตั้งใจมาเรียนอย่างเต็มที่
เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนไปออกสกีทริปในฝรั่งเศสแนะนำให้อ่าน → การเตรียมตัวก่อนไปเล่นสกีในฝรั่งเศส ครอบคลุมถึงเสื้อผ้าและอุปกรณ์สกี ข้อมูลสกีรีสอร์ท การเดินทางในฝรั่งเศส บัตรผ่านสกี รวมถึงเรื่องน่ารู้ก่อนไปท้าทายความลาดชันในเทือกเขาแอลป์ฝรั่งเศสด้วยตัวเอง
รู้จักกับอุปกรณ์สกีและการสวมสกีที่ถูกต้อง
จากประเภทคลาสเรียนสกีและราคากันไปแล้วต่อไปก็มาถึงการเรียนสกีกันบ้าง เราเริ่มต้นเรียนในวันอาทิตย์เวลา 10:00 น. (อาจจะช้ากว่าวันอื่นเพราะต้องรอให้ลิฟต์สกีเปิดตอนสิบโมงเช้า) สถานที่เรียนอยู่ด้านหน้าลานสกีใกล้กับสำนักงานที่ตั้งอยู่ใจกลางหมู่บ้านเลย พอมาถึงแล้วก็ทักทายกับครูสอนเป็นชาวฝรั่งเศส มีนักเรียนในคลาสรวม 7 คน พอแนะนำตัวเองครบทุกคนแล้วก็เข้าสู่บทเรียนแรกคือการทำความรู้จักกับอุปกรณ์สกีและการสวมสกีที่ถูกต้อง

อุปกรณ์เรียนสกีที่สำคัญ ได้แก่ สกี (Skis) รองเท้าสกี (Ski boots) ตัวจับยึดสกี (Ski bindings) ไม้ค้ำสกี (Ski poles) แว่นตา (Goggles) และหมวกกันน็อค (Helmet) เพื่อความปลอดภัย ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้สามารถซื้อหรือเช่าได้จากร้านเช่าสกี ทางโรงเรียนจะไม่ได้รวมมาให้ในคลาสเรียน อย่างไม้ค้ำสกีช่วงแรก ๆ ไม่จำเป็นต้องใช้เพราะส่วนใหญ่ต้องทำความความคุ้นเคยกับการเคลื่อนไหวของขา เข่า และสะโพกแทน แต่เช่ามาเผื่อได้เพราะต้องได้ใช้งานแน่นอน

รู้จักกันอุปกรณ์เล่นสกีกันไปแล้วต่อมาคือการสวมสกีกันบ้าง ครูสอนจะแนะนำวิธีการสวมสกีที่ถูกต้อง โดยต้องทำบนพื้นที่ราบ ถ้าเป็นพื้นที่ลาดเอียงอาจทำให้สกีลื่นไถลไม่ปลอดภัย จากนั้นวางสกีสองข้างลงบนพื้นในระดับขนานกัน ใช้เท้าข้างหนึ่งยืนตรงกลางระหว่างสกีทั้งสองเพื่อความมั่นคง แล้วใช้เท้าอีกข้างวางลงบนสกีโดยให้ส่วนหน้าของรองเท้าติดกับตัวจับยึดสกีด้านหน้า และกดส้นเท้าลงเพื่อให้คันโยกล็อครองเท้ากับตัวจับยึดสกีด้านหลัง ถ้าทำถูกตัวล็อคด้านหลังจะดีดขึ้นพร้อมกับเสียงคลิ๊กของตัวจับยึดสกี ก่อนสวมสกีถ้ามีหิมะติดกับรองเท้าอย่าลืมเอาหิมะออกก่อนโดยแตะฐานรองเท้าไปมากับบริเวณตัวจับยึดสกีด้านหน้าจนกว่าหิมะจะออกหมด
พอสวมสกีอย่างถูกต้องแล้วต่อมาก็เป็นในส่วนของการถอดสกีกันบ้าง ซึ่งสามารถทำได้สองแบบ คือ ใช้ไม่ค้ำสกีดันตัวจับยึดสกีด้านหลังให้คันโยกปรับลงและยกส้นเท้าขึ้นเพื่อถอดสกี และอีกแบบคือใช้เท้าข้างใดข้างหนึ่งที่สวมสกีอยู่กดลงไปยังตัวจับยึดสกีด้านหลังเพื่อถอดสกี ทั้งสองแบบสามารถเลือกได้ตามความถนัด
Le Hameau de la Sapinière: สกีรีสอร์ทยอดนิยมในเลส์เมนูแยร์ ตั้งอยู่ใกล้เส้นทางสกีเพียง 3 นาที สามารถเข้าถึงใจกลางหมู่บ้านได้สะดวก บ้านพักมีขนาดกว้างขวางรองรับผู้เข้าพักได้ 4-11 คน มาพร้อมห้องนอนเตียงคู่และเตียงเดี่ยว รวมถึงห้องน้ำ ห้องนั่งเล่น เตาผิง ห้องครัว พื้นที่ทานอาหาร และระเบียงชมวิวมองเห็นลิฟต์สกีและภูเขา → ตรวจสอบราคาและห้องว่างตอนนี้เลย


ทักษะพื้นฐานที่จำเป็นในการเล่นสกี
คลาสเรียนสกีพื้นฐานแน่นอนว่าเป้าหมายตลอดทั้ง 6 วันที่เราจะได้เรียนกันคือสามารถทรงตัวและเคลื่อนที่ไปมาบนสกีได้แบบไม่ล้ม และสามารถเลี้ยวและหยุดบนทางลาดสีเขียวได้อย่างปลอดภัย ทั้งหมดนี้ครูสอนจะช่วยแนะนำเราและแสดงตัวอย่างให้ได้ฝึกตามบนเส้นทางราบก่อน จากนั้นเมื่อคุ้นชินแล้วจะพาเราไปฝึกต่อบนเนินที่มีการใช้ลิฟต์สกีที่เรียกว่าพรมวิเศษ (Magic carpet) และเมื่อคล่องแคล่วแล้วก็พาออกสู่เส้นทางสีเขียวและสีน้ำเงินตามลำดับ ทั้งหมดนี้ครอบคลุมทักษะพื้นฐานที่จำเป็นในการเล่นสกี ดังนี้
ความสมดุล
คือการที่ผู้เล่นสกีสามารถทรงตัวและควบคุมการเคลื่อนที่ได้ดีบนพื้นหิมะ การฝึกความสมดุลครูสอนจะให้ยืนด้วยเท้าข้างเดียวและถ่ายน้ำหนักจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่งเพื่อปรับการทรงตัว ตอนแรกทำแบบข้างเดียวก่อนพอคล่องแล้วก็สลับไปทำอีกข้าง จากนั้นก็ทำสองข้างพร้อมก่อน
การเลี้ยว
เป็นหนึ่งในทักษะที่สำคัญที่สุดสำหรับการเล่นสกี ช่วยให้ผู้เล่นสามารถชะลอความเร็วบนเนินเขาที่มีความชันมาก ๆ และหยุดสกีได้อย่างปลอดภัย ทักษะนี้ฝึกโดยการหมุนสกีบนทางลาดชันพื้นเรียบ และเพิ่มมุมในการเลี้ยวมากขึ้นเพื่อความคล่องตัว โดยรักษาน้ำหนักของเราให้อยู่กึ่งกลางบนสกี และใช้ขอบของสกีเพื่อควบคุมความเร็วและทิศทางการเคลื่อนที่

เคล็ดลับอีกอย่างในการฝึกเลี้ยวก็คือเมื่อต้องการเลี้ยวทางไหนให้มองไปยังทิศทางนั้นและค่อย ๆ เลื่อนน้ำหนักไปยังสกีข้างหนึ่ง พอถึงช่วงเลี้ยวให้เปลี่ยนน้ำหนักไปที่สกีด้านนอกพร้อมทั้งงอเข่าและเอียงตัวไปด้วย ที่สำคัญอย่าลืมใช้ร่างกายท่อนบนเพื่อช่วยบังคับทิศทางสกีอย่างเป็นธรรมชาติ เมื่อเลี้ยวเสร็จให้กลับมาอยู่ในท่าที่สมดุลเพื่อตั้งสกีให้ตรงและทำซ้ำตามขั้นตอนการเลี้ยวจนกว่าจะคล่องตัว
ท่าทางและการทรงตัว
ทักษะนี้ส่งผลต่อความสามารถในการเล่นสกีอย่างมาก เพราะถ้ายืนบนสกีไม่ถูกต้องจะทำให้เสียความสมดุลในการควบคุมสกี การทรงตัวที่ถูกต้องขณะเล่นสกีคือการแยกเท้าออกจากกันประมาณความกว้างไหล่ งอข้อเท้าและเอียงหน้าแข้งไปข้างหน้าเพื่อท่าทางที่แข็งแรง โดยให้ไหล่ของเราอยู่ด้านหน้าสะโพกเล็กน้อยและให้น้ำหนักอยู่กึ่งกลางเท้าทั้งสองข้าง จากนั้นวางแขนไว้ด้านหน้าเล็กน้อยและจับไม้ค้ำสกีโดยให้ปลายแหลมไปอยู่ที่ด้านหลังเท้า สิ่งสำคัญที่สุดคือมองไปข้างหน้าเพื่อดูเส้นทางที่ปลอดภัยในการสกี และหลีกเลี่ยงการเอนหลังเพราะจะทำให้สกีพุ่งไปข้างเสียการทรงตัว

ฝึกทำเฟรนช์ฟรายส์และพิซซ่า
นอกความสมดุลในการทรงตัว การเลี้ยว และท่าทางที่ถูกต้องในการเล่นสกีแล้ว ยังมีทักษะอีกหนึ่งอย่างที่จะได้เรียนก็คือการสกีจากเนินเขาเป็นเส้นตรงและหยุด หรือที่เราอาจจะเคยได้บินบ่อย ๆ คือการทำเฟรนช์ฟรายส์และพิซซ่า
เฟรนช์ฟรายส์คือการสกีลงเนินเขาเป็นเส้นตรงโดยให้สกีของเราขนานกันมากที่สุด (คล้ายเฟรนช์ฟรายส์สองอัน) เพื่อความเร็วสูงสุดและควบคุมการลงเขาที่ดียิ่งขึ้น จากนั้นพอถึงจุดที่ต้องการหยุดแล้วให้เปลี่ยนสกีเป็นรูปตัววีคว่ำหัว (คล้ายพิซซ่าตัดหนึ่งชิ้น) โดยการกดน้ำหนักไปที่ส้นเท้าทั้งสองข้างและดันสกีให้แผ่ขอบออกเล็กน้อย และสกีลงเนินเขาอย่างช้า ๆ เพื่อลดความเร็ว และถ้าต้องการหยุดให้กางสกีออกเป็นรูปตัววีที่ใหญ่ขึ้น และที่สำคัญอย่าก้มลงดูเท้าแต่ให้มองไปข้างหน้าเพื่อดูสิ่งกีดขว้างแทน
การเดินขึ้นเนินเขาก็เป็นอีกหนึ่งทักษะที่จะได้เรียนกัน เพราะพื้นที่เล่นสกีบางแห่งอาจมีเนินเล็ก ๆ ที่สามารถเดินแทนการใช้ลิฟต์สกี การฝึกเดินขึ้นเนินสามารถทำได้โดยวางสกีให้ขนานกันแบบไม่ทำมุมไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง เพราะไม่อย่างนั้นตอนยกสกีขึ้นจะทำให้ลื่นไถลได้ จากนั้นให้น้ำหนักไปอยู่ที่สกีส่วนล่าง และยกสกีด้านบนให้ขยับสูงขึ้นไปตามเนินโดยใช้ขอบสกีเจาะไปที่หิมะเพื่อการยึดเกาะที่ดี จากนั้นถ่ายน้ำหนักไปที่สกีด้านบนและยกขาท่อนล่างขึ้นเพื่อขยับขึ้นเนิน และทำซ้ำจนกว่าจะคล่องตัว ตอนยกสกีอย่าลืมเอียงตัวเล็กน้อยไปตามทิศทางเป้าหมาย วิธีนี้จะทำให้ขอบสกีตั้งตรงและเกิดความทรงดุลมากขึ้นขณะทรงตัวนั้นเอง

การเดินขึ้นเนินเขาอีกหนึ่งแบบก็คือการไต่ขึ้นเนินเขาเป็นรูปตัววี (คล้ายกับเวลานกแพนกวินเดิน) หรือเทคนิคที่เรียกว่า “ก้างปลา” วิธีการคือหันหน้าไปทางยอดเขา จากนั้นกางปลายสกีออกเป็นรูปตัววีโดยที่ปลายสกีอยู่ที่ 10 นาฬิกาและ 2 นาฬิกา และใช้ไม้ค้ำสกีค่ำไว้ที่ด้านหลังสกีเพื่อพยุงตัว และก้าวไปข้างหน้าทีละก้าวโดยรักษารูปตัววีไว้ วิธีนี้ทำให้ไต่ขึ้นเนินเขาได้เร็วกว่าการเดินขึ้นเนินเขาแนวขนาน แต่ต้องอาศัยความคล่องตัวด้วยเช่นกัน
ล้มแล้วต้องลุก และต่อไปไม่ล้มแล้ว
ตอนฝึกเรียนสกีใหม่ ๆ เมื่อหลายปีก่อนจำไม่ได้ว่าล้มไปแล้วกี่รอบ แต่ที่รู้คือล้มถึงขนาดต้องคลานขึ้นเนินเขาเพราะกลัวที่จะสกีลงไปด้านล่าง แต่พอมาเรียนสกีกลางแจ้งในครั้งนี้จำได้ว่าล้มไปไม่ถึง 5 ครั้ง แล้วก็เป็น 5 ครั้งที่พอใจกับพัฒนาการของตัวเองมาก และยังได้เรียนรู้ด้วยว่าถ้าต้องล้มจริง ๆ อย่าพยายามฝืนแต่ควรปล่อยให้ล้มไปในท่าธรรมชาติ (เหมือนท่าพับเพียบ) เพราะถ้ายิ่งฝืนยิ่งอาจจะเกิดการบาดเจ็บมากขึ้นได้
ครูผึกยังให้คำแนะนำอีกว่าถ้าจะล้มจริง ๆ ควรพยายามไปทางด้านข้างของเส้นทางสกีแทนที่จะเป็นตรงกลาง เพราะเสี่ยงต่อการไถลยาวลงเนินเขา พอล้มแล้วให้ยกขาขึ้นฟ้าและหมุนตัวกับมาอยู่ในท่าพับเพียบ โดยให้สกีวางขนานกับความลาดชันและไม่ควรอยู่ห่างตัวจนเกินไป จากนั้นวางมือข้างหนึ่งลงบนหิมะแล้วเลื่อนน้ำหนักตัวไปที่สกี ก่อนจะดันขาอย่างแรงแล้วลุกขึ้นยืนโดยใช้ไม้ค้ำสกีเป็นตัวค้ำ พอลุกขึ้นยืนได้ให้กลับมาอยู่ในท่าที่สมดุลพร้อมสำหรับเล่นสกีอีกรอบ
ถึงเวลาออกสกีไปยังเส้นทางสีเขียว
สองสามวันแรกของการเรียนสกีในเลส์เมนูแยร์เราใช้เวลาส่วนใหญ่บนทางลาดและเนินที่มีการใช้ลิฟต์สกีที่เรียกว่าพรมวิเศษ (Magic carpet) พอคล่องตัวแล้ววันที่สี่ก็ถึงเวลาที่จะออกสู่เส้นทางสีเขียวกัน และแน่นอนว่าเป็นเส้นทางที่ง่ายที่สุดและเราจะได้ใช้ทักษะทั้งหมดที่ฝึกมา โดยเฉพาะการเลี้ยวและการทรงตัวได้ใช้บ่อยมาก เรียกได้ว่าแทบจะตลอดเส้นทางเลย ยกเว้นทางตรงที่เราสามารถไปแบบเร็ว ๆ ได้ และพอสกีไปจนสุดเส้นทางสีเขียวแล้วก็จะเป็นที่ตั้งของสถานีลิฟต์สกีที่เราต้องนั่งกลับไปยังจุดเริ่มต้นหรือเนินเขาอื่น ๆ


ลิฟต์สกีมีหลายแบบ เช่น ลิฟต์เก้าอี้ (Chairlift) ลิฟต์กอนโดลา (Gondola lift) กระเช้าไฟฟ้า (Funicular) ลิฟต์ตัวทีบาร์ (T-bar lift) เชือกลาก (Rope tow) พรมวิเศษ (Magic carpet) และลิฟต์ยกจานหรือลิฟต์ปุ่ม (Poma lift) ที่ได้ใช้งานบ่อย ๆ คือ ลิฟต์เก้าอี้ ลิฟต์กอนโดลา และพรมวิเศษ การนั่งลิฟต์สกีครั้งแรกจึงเป็นอะไรที่ตื่นเต้นมาก และก็อาจจะช่วยลดความตื่นเต้นได้เหมือนกันถ้าเราเรียนรู้วิธีนั่งลิฟต์สกีกันไว้ก่อน

ตัวอย่างเช่น ลิฟต์เก้าอี้หรือที่เรียกว่ากระเช้าลอยฟ้า เป็นชุดเก้าอี้ที่ติดกับสายเคเบิลซึ่งขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ รองรับจำนวนคนได้ประมาณ 4-5 คนต่อหนึ่งตัว คนที่จะใช้งานต้องยืนรอที่หน้าประตู (อย่าลืมรวมไม่ค้ำสกีและถือไว้ที่มือข้างเดียวเพื่อความสะดวก) พอประตูเปิดก็สกีไปตามรางเลื่อนและหยุดรอให้เก้าอี้ลิฟต์วนมาทางด้านหลัง พอลิฟต์มาถึงแล้วก็นั่งลงและดึงแผงกั้นข้างบนลงมาไว้ข้างหน้าเพื่อความปลอดภัย พอใกล้ถึงสถานีจุดหมายให้เตรียมตัวรอไว้ก่อนโดยยกแผงกั้นข้างหน้าขึ้น และรอให้เก้าอี้ลิฟต์เข้าสู่สถานีจนกระทั่งสกีของเราสัมผัสกับพื้นหิมะ จากนั้นค่อย ๆ ลุกขึ้นและสกีออกจากเก้าอี้ ถ้าเป็นมือใหม่อาจจะมีล้มบ้าง แต่ถ้าลองไปสองถึงสามรอบจะจับทางได้

อย่าลืมบัตรผ่านสกี (Ski Pass) เพื่อนำไปใช้ขึ้นลิฟต์สกี ราคาแบ่งตามอายุผู้ใช้งานและระยะเวลาของบัตร เช่น บัตรผ่าน 6 วัน ราคา 310-360 ยูโร (สำหรับผู้ใหญ่อายุ 13-64 ปี) ถ้าเรียนสกีแค่รอบเช้าหรือรอบบ่ายอาจจะซื้อแบบครึ่งวัน แต่ส่วนใหญ่บัตรผ่านหลายวันและบัตรตามฤดูกาลจะมีส่วนลดต่อวันเยอะกว่า และควรศึกษากฎระเบียบของลานสกีรวมไปถึงเวลาเปิดปิดลิฟต์สกี
ไปต่อกันที่เส้นทางน้ำเงิน
นอกจากเส้นทางสีเขียวสำหรับมือใหม่แล้วครูสอนยังพาไปยังเส้นทางสีน้ำเงินที่เพิ่มความท้าทายขึ้นมาอีก เส้นทางสีน้ำเงินจะคล้ายกับสีเขียวแต่มีความชันมากกว่า และต้องขึ้นลิฟต์กอนโดลาไปยังสถานีบนสุดเพื่อสกีลงมาตามเส้นทางที่กำหนดไว้ สิ่งที่ชอบบนเส้นทางสีน้ำเงินคือมีลานสกีที่กว้างกว่าและยังมาพร้อมวิวภูเขาสวย ๆ สามารถมองเห็นยอดเขามองบลังค์ชื่อดังได้อีกด้วย ความชันบางช่วงอาจน่ากลัวสำหรับมือใหม่ ถ้าไม่มั่นใจสามารถถอดสกีเดินลงเนินเขาแทนได้ เพราะครูฝึกแนะนำว่าไม่อยากให้ลองเสี่ยงเพราะชันเกินไปอาจทำให้ล้มหรือบาดเจ็บได้ เอาไว้ลองตอนที่ฝึกจนคล่องแล้วดีกว่า

สิ่งที่ชอบหลังจากได้เรียนสกีกลางแจ้ง
อันดับแรกเลยคงเป็นสภาพแวดล้อมที่กว้างกว่าและยังได้มีโอกาสสัมผัสกับหิมะใหม่แทนที่จะเป็นสกีในร่ม ซึ่งสกีในร่มรัศมีการมองของเราจะใกล้กว่าแต่พอมาเจอที่โล่งแจ้งมันทำให้มองได้ไกลสุดลูกหูลูกตาและทำให้มั่นใจมากกว่าด้วย
อันดับต่อมาคือครูผู้สอนใจดีมาก แบบคิดไม่ผิดเลยที่ตัดสินใจเรียนกับโรงเรียนนี้ ที่สำคัญครูสอนใจเย็น อธิบายละเอียด แสดงตัวอย่างให้ดู ตอนฝึกก็ให้ทำทีละคนและไปพร้อมกันทีละคนจนครบ พอมั่นใจแล้วก็ให้ลองด้วยตัวเอง ถ้าทำไม่ถูกก็แนะนำวิธีที่ถูกให้ และที่สำคัญคือให้กำลังใจนักเรียน คอยพูดย้ำตลอดเลยว่าทุกคนมีความสามารถในตัวเองและต้องเชื่อว่าตัวเองทำได้ โดยรวมแล้วเป็นครูสอนที่มีใจรักในสกีและตั้งใจมาถ่ายทอดความรู้ให้กับนักเรียนจริง ๆ
อันดับต่อมาก็คือพาไปฝึกบนเส้นทางที่ง่ายก่อนเพื่อเพิ่มความมั่นใจ เช่น ชั่วโมงแรกฝึกสกีลงเนินเขาที่ลิฟต์พรมวิเศษก่อน จากนั้นชั่วโมงสุดท้ายพาไปออกสกีบนเส้นทางสีเขียว วิธีนี้ทำให้มีความมั่นใจเพิ่มขึ้นในการเล่นสกีจริง ๆ เพราะถ้าพาไปเส้นทางยากตั้งแต่ครั้งแรกเลย นอกจากจะทำให้ไม่มั่นใจแล้วยังเสี่ยงต่อการเกิดอันตราย เช่น ชนกับคนอื่น หรือกีดขวางผู้เล่นสกีที่เชี่ยวชาญแล้วก็ได้

อันดับต่อมาคือเรียนสกีทั้งรอบเช้าและรอบบ่ายมีเวลาพักเที่ยงแทนที่จะสกียาวรวดเป็นเวลาหลายชั่วโมง เพราะว่าขนาดสกีติดต่อกัน 2-3 ชั่วโมงก็ใช้พลังเยอะแล้ว ถ้าต้องสกีทั้งวันแบบไม่หยุดพักเลยก็คงไม่ไหว อีกอย่างการเรียนทั้งสองรอบต้องใช้พลังเยอะเป็นสองเท่า แบบกลับที่พักมาคือต้องนั่งพักยาวเลย คนที่ยังไม่เคยเรียนสกีมาก่อนเลยแนะนำให้เลือกเรียนเป็นรอบ ๆ แทนที่จะเรียนหนึ่งวันเต็ม แต่ถ้าแบบฟิตร่างกายมาแล้วไหวแน่นอนก็ไปลุยเลยทั้งสองรอบเลย

อีกอย่างหนึ่งคือเรียนแบบเป็นกลุ่มทำให้เราได้เจอกับคนที่มีความสามารถใกล้เคียงกัน พอเรียนไปแล้วก็ได้แชร์ประสบการณ์และเห็นพัฒนาการของแต่ละคนไปในตัว นอกจากนี้บางคนเรียนไปแล้วอาจจะรู้สึกยาก แต่ไม่อยากให้ยอมแพ้หรือเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนที่เก่งแล้ว เพราะเป้าหมายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนเรียนเพื่อความสนุก บางคนเรียนเพื่อท้าทายความสามารถของตัวเอง หรือบางคนการได้ลงมือทำก็ถือว่าประสบความสำเร็จไปแล้วหนึ่งขั้น ดังนั้นค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป รู้ความสามารถของตัวเอง แล้วก็อย่าลืมฝึกทักษะพื้นฐานที่จำเป็นให้คล่องเพื่อนำไปใช้เล่นสกีได้อย่างสนุกและปลอดภัย
อันดับสุดท้ายคือหลังเรียนจบคลาสเริ่มต้น 6 วัน เราสามารถทรงตัวบนสกีได้แบบไม่ล้ม รวมถึงเลี้ยวและหยุดบนทางลาดสีเขียวได้อย่างปลอดภัยตามเป้าหมายจริง ๆ นับว่าเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่ากับความพยายาม และก็เป็นอีกหนึ่งทริปที่หิ้วความสนุกกลับบ้านไปด้วยเช่นกัน
อัมสเตอร์ดัมตั้งอยู่ห่างจากหมู่บ้านสกีรีสอร์ทเลส์เมนูแยร์ของฝรั่งเศสประมาณ 1,030 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังที่นั้นสะดวกด้วยระบบขนส่งมวลชนหรือรถยนต์ ดังรายละเอียด
เดินทางด้วยรถยนต์
เป็นตัวเลือกที่สะดวกสำหรับผู้ที่ต้องการขับรถด้วยตัวเอง การเดินทางใช้เวลาประมาณ 10-12 ชั่วโมง โดยใช้เส้นทางจากอัมสเตอร์ดัมผ่านเมืองอูเทร็คท์ ลงใต้เข้าสู่ประเทศเบลเยียม จากนั้นขับผ่านเมืองแอนต์เวิร์ปและบรัสเซลส์ ต่อด้วยประเทศลักเซมเบิร์ก ก่อนจะเข้าสู่เขตประเทศฝรั่งเศสผ่านเมืองน็องซี ดีฌง ลียง จนกระทั่งถึงเมืองมูติเยร์จะเป็นการขับรถตามไหล่เขาอีกประมาณ 27 กิโลเมตรและถึงจุดหมายที่หมู่บ้านสกีรีสอร์ทเลส์เมนูแยร์ เส้นทางทั้งหมดนี้มีอาจมีค่าทางด่วนมอเตอร์เวย์ประมาณ 1-2 ครั้ง ราคารวมระหว่าง 50-80 ยูโร ค้นหารถยนต์เช่าไปหมู่บ้านสกีรีสอร์ทเลส์เมนูแยร์ราคาดีที่สุดตอนนี้เลย
การเดินทางไปเลส์เมนูแยร์จากอัมสเตอร์ดัมด้วยรถยนต์ใช้เวลาค่อนข้างนาน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เลือกที่จะแวะพักค้างคืนในเมืองดีฌง Comfort Hotel Dijon Sud: เป็นตัวเลือกโรงแรมที่ดีสำหรับพักค้างคืนในราคาประหยัด ห้องพักสะอาดและกว้างขวาง มาพร้อมอาหารเช้าแบบคอนติเนนตัล และมีที่จอดรถฟรี → ตรวจสอบราคาและห้องว่างตอนนี้เลย
เดินทางด้วยรถไฟ
เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ทำได้สะดวก โดยจะแบ่งออกเป็น 4 ช่วง คือ เดินทางจากอัมสเตอร์ไปยังปารีส จากนั้นเปลี่ยนขบวนไปขึ้นรถไฟของ TGV ไปยัง Chambéry และต่อรถไฟ Regional ไปยังสถานีเมืองมูติเยร์ ก่อนจะต่อรถบัสหรือรถแท็กซี่ไปยังหมู่บ้านสกีรีสอร์ทเลส์เมนูแยร์ การเดินทางทั้งหมดใช้เวลารวม 12-15 ชั่วโมง ดังรายละเอียด
จากอัมสเตอร์ดัมไปปารีส: มีรถไฟ 2 ประเภทให้บริการ คือ Thalys และ Intercity Brussels จากสถานี Amsterdam Centraal ไปยังสถานี Paris Nord ซึ่งรถไฟ Intercity Brussels จะใช้เวลานานกว่าประมาณ 4 ชั่วโมง 50 นาที โดยเปลี่ยนขบวนที่สถานี Bruxelles Midi ในขณะที่รถไฟความเร็วสูง Thalys สามารถย่นระยะเวลาการเดินทางได้ประมาณ 3 ชั่วโมง 50 นาที โดยไม่เปลี่ยนขบวน จองตั๋วรถไฟราคาดีที่สุดไปเลส์เมนูแยร์จากอัมสเตอร์ดัมตอนนี้เลย
จากปารีสไปชอมเบรี: เปลี่ยนขบวนไปนั่งรถไฟของ GTV จากสถานี Paris Gare De Lyon ไปยังสถานี Chambery Challes Les Eaux การเดินทางใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 53 นาที
จากชอมเบรีไปมูติเยร์: เปลี่ยนขบวนไปนั่งรถไฟของ Regional จากสถานี Chambery Challes Les Eaux ไปยังสถานี Moutiers Salins Brides L Bains การเดินทางใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 16 นาที
จากมูติเยร์ไปหมู่บ้านสกีรีสอร์ทเลส์เมนูแยร์: นั่งรถบัสของ cars Région จากสถานี Moutiers Salins Brides L Bains ไปยังเลส์เมนูแยร์ การเดินทางใช้เวลา 45 นาที ค่าโดยสารเที่ยวเดียว 12 ยูโร รถบัสให้บริการตั้งแต่เวลา 07:30-18:25 น. เมื่อถึงเลส์เมนูแยร์แล้วมีรถชัทเทิลบัสให้บริการฟรีไปยังที่พัก จองตั๋วรถบัสจากมูติเยร์ไปหมู่บ้านสกีรีสอร์ทเลส์เมนูแยร์
เดินทางด้วยเครื่องบิน
มีเที่ยวบินของสายการบิน KLM, British Airways และ easyJet ให้บริการจากท่าอากาศยาน Amsterdam Airport Schiphol ไปยังสนามบิน Chambéry-Savoie ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านสกีรีสอร์ทเลส์เมนูแยร์ประมาณ 100 กิโลเมตร การเดินทางใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง 50 นาที เมื่อถึงสนามบินชอมเบรีแล้วสามารถเดินทางต่อไปยังเลส์เมนูแยร์ด้วยบัส รถแท็กซี่ หรือรถเช่าภายในเวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที
- จากปารีส (Paris): ตั้งอยู่ห่างจากหมู่บ้านสกีรีสอร์ทเลส์เมนูแยร์ประมาณ 673 กิโลเมตร เดินทางด้วยรถไฟเป็นวิธีที่ง่ายและสะดวก มีรถไฟ TGV ให้บริการจากสถานี Paris Gare de Lyon ไปยังสถานี Moutiers-Salins-Brides-les-Bains การเดินทางใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง 26 นาที โดยไม่เปลี่ยนขบวน เมื่อถึงสถานีมูติเยร์แล้วสามารถเดินทางต่อเข้าเมืองด้วยรถบัส รถแท็กซี่ หรือรถเช่าภายในเวลา 45 นาที จองตั๋วรถไฟราคาดีที่สุดไปเลส์เมนูแยร์จากปารีสตอนนี้เลย
- จากชาโมนิกซ์ (Chamonix): ตั้งอยู่ห่างจากหมู่บ้านสกีรีสอร์ทเลส์เมนูแยร์ประมาณ 120 กิโลเมตร เดินทางด้วยรถยนต์เป็นวิธีที่สะดวกที่สุด ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 12 นาที นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินทางไปเลส์เมนูแยร์ด้วยรถบัส เช่น Swiss Tours, Blablabus และ FlixBus จากชาโมนิกซ์ไปยังสนามบินเจนีวา การเดินทางใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 18 นาที จากนั้นต่อรถรับส่งของ BensBus Airport Ski จากสนามบินเจนีวาไปยังเลส์เมนูแยร์ การเดินทางใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 40 นาที
- จากเจนีวา (Geneva): ตั้งอยู่ห่างจากหมู่บ้านสกีรีสอร์ทเลส์เมนูแยร์ประมาณ 142 กิโลเมตร มีรถรับส่งของ BensBus Airport Ski จากสนามบินเจนีวาไปยังเลส์เมนูแยร์ การเดินทางใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 40 นาที
แหล่งข้อมูลวางแผนเที่ยว
Thank you
การเปิดเผย: บทความนี้มีลิงก์แอฟฟิลิเอทบางส่วน การกดที่ลิงก์ไม่มีค่าใช้จ่าย หากซื้อสินค้าหรือบริการจากลิงก์ดังกล่าว เราอาจได้รับค่ากำลังใจเล็กน้อยสำหรับนำไปพัฒนาบล็อก 🧡