เที่ยวอันดอร์รา (Andorra) รัฐขนาดเล็กที่ได้ชื่อว่าเป็น “ไมโครสเตตของยุโรป” เช่นเดียวกันกับลิกเตนสไตน์ โมนาโก มอลตา ซานมารีโน และนครวาติกัน รัฐนี้ไม่มีทางออกสู่ทะเลในยุโรปตะวันตกเฉียงใต้ (คล้ายกับลักเซมเบิร์ก) มีพื้นที่ตั้งอยู่ระหว่างฝรั่งเศสและสเปนในเทือกเขาพิเรนีส ขึ้นชื่อในเรื่องสกีรีสอร์ทและการชอปปิงปลอดภาษี โดยมีเมืองหลวงชื่อว่า “Andorra la Vella”
จุดเด่นของอันดอร์ราแน่นอนว่าด้วยสภาพแวดล้อมเป็นภูเขาสูงจึงเหมาะสำหรับสำหรับการทำกิจกรรมกลางแจ้งต่าง ๆ รวมถึงการเล่นสกีและกีฬาฤดูหนาว อันดอร์รายังสามารถเที่ยวได้แบบเดย์ทริปจากบาร์เซโลนาที่ห่างออกไปเพียง 2 ชม. หรือแม้แต่ผู้ที่มีเวลาครึ่งวันก็สามารถเที่ยวอันดอร์ราได้เช่นกัน เหมือนกับแผนเที่ยวในบทความนี้ที่เราจะพาไปเปิดหูเปิดตาในอันดอร์ราแบบครึ่งวันที่สนุกอยู่ไม่น้อย
การเดินทางไปอันดอร์รา
อย่างที่กล่าวไปว่าอันดอร์มีพรมแดนติดกับประเทศสเปนและฝรั่งเศส ดังนั้นนักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวจากเมืองใกล้เคียงได้สะดวก ไม่ว่าจะเป็นบาร์เซโลนา (2.5 ชั่วโมง) ตูลูส (2.5 ชั่วโมง) ซาราโกซา (4 ชั่วโมง) และบอร์โด (5 ชั่วโมง) ซึ่งตัวเลือกยอดนิยมก็คือเที่ยวแบบเดย์ทริปจากบาร์เซโลนาเพราะใช้เวลาเดินทางไม่นาน
ตอนแรกเราวางแผนที่จะไปเที่ยวอันดอร์ราจากบอร์โดโดยขับผ่านเมืองตูลูส แต่พอไปถึงเกือบครึ่งทางแล้วพบว่าไม่มีเวลาพอที่จะแวะเที่ยวที่นั้น ถ้าไปแบบรีบ ๆ ก็ไม่อยากไป เลยตัดสินใจขับต่อไปยังบาร์เซโลนาแทน และด้วยความที่พลาดตอนขามาแล้ว ขากลับหลังจากเที่ยวสเปนและโปรตุเกสเสร็จก็ตัดสินใจที่จะไปเที่ยวอันดอร์ราต่อก่อนกลับเนเธอร์แลนด์ ซึ่งก็ต้องขับรถกันยาว 10 ชั่วโมงเลย (รวมแวะพักทานอาหารและชาร์จรถยนต์) แต่ก็คุ้มเอาการอยู่เหมือนกันเพราะได้เห็นประเทศอิสระเล็ก ๆ และได้เพิ่มเข้าไปในลิสต์ประเทศที่ไปเยือนมาแล้วของตัวเองอีกหนึ่งประเทศ
เราขับรถยิงยาวจากปอร์โตแต่เช้าก่อนจะไปแวะพักค้างคืนที่เมืองบาร์บาสโตร (Barbastro) ตอนเกือบดึก จากนั้นตอนเช้าก็แวะไปชาร์จรถยนต์ที่เมืองลาเซวดูร์เกย (La Seu d’Urgell) ที่ตั้งอยู่ใกล้กับอันดอร์รา เพราะระบบของเทสล่าไม่โชว์จุดชาร์จในอันดอร์รา ก็เลยกลัวว่าจะไปหาที่ชาร์จลำบากเลยชาร์จไว้ก่อนเลย ซึ่งก็เป็นความคิดที่ดีเพราะได้แวะพักทานอาหารเช้าไปในตัวที่ร้าน Xocolateria Jolonch กาแฟเขาอร่อยมาก ร้านยังเป็นร้านขายช็อกโกแลตอีกด้วย เสียดายที่ไม่ได้ซื้อมาเพราะรีบไปอันดอร์ราต่อ
จากเมืองลาเซวดูร์เกยก็ขับรถต่ออีกประมาณ 30 นาทีไปยังอันดอร์รา เส้นทางขับไม่ยากแต่จะเป็นการขับผ่านพื้นที่หุบเขาเป็นส่วนใหญ่ ได้ชมวิวระหว่างทางไปในตัว พอมาถึงแล้วก็จอดรถไว้ที่ในห้าง Centre Comercial Illa Carlemany ตรงใจกลางเมือง เรื่องตลกที่โกรธไม่ลงอีกหนึ่งอย่างก็คือตอนวนหาที่จอดรถพบว่าที่นี่มีจุดชาร์จของเทสล่าด้วย (แต่ตอนแรกในระบบบอกว่าไม่มี) เราก็เลยได้ชาร์จรถต่อระหว่างที่เดินเล่นในเมือง
ต้องใช้วีซ่าสำหรับเที่ยวอันดอร์ราไหม
อันดอร์ราไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรปหรือเขตเชงเก้น อย่างไรก็ตามรัฐนี้มีข้อตกลงการข้ามพรมแดนอย่างเสรีกับประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้นการเดินทางไปเที่ยวอันดอร์ราจึงไม่ต้องใช้วีซ่าให้ยุ่งยาก โดยนักท่องเที่ยวจากสหภาพยุโรปสามารถใช้หนังสือเดินทางที่ยังไม่หมดอายุเพื่อเดินทางเข้าประเทศอันดอร์ราได้เลย ส่วนนักท่องเที่ยวนอกสหภาพยุโรปที่เดินทางจากฝรั่งเศสหรือสเปนสามารถขอวีซ่าเชงเก้นสำหรับเดินทางเข้าประเทศเหล่านี้ก่อน จากนั้นก็ใช้หนังสือเดินทางที่ยังไม่หมดอายุเพื่อเที่ยวอันดอร์ราได้สะดวก
ที่เที่ยวและกิจกรรมน่าสนใจในอันดอร์ราแบบครึ่งวัน
เดินเที่ยวเมืองหลวงอันดอร์ราลาเวลลา (Andorra la Vella)
อันดอร์ราเป็นรัฐขนาดเล็กมีเมืองหลวงชื่อว่า “Andorra la Vella” เป็นเมืองหลวงที่เล็กที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 12 ตารางกิโลเมตร และยังเป็นหนึ่งในเมืองหลวงที่สูงที่สุดในยุโรป ด้วยระดับความสูงประมาณ 1,023 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล เมื่อมาถึงที่นี่แล้วก็ต้องมาเดินเล่นเพื่อชมบรรยากาศบ้านเมืองกัน
ย่านเมืองเก่าของอันดอร์รามีพื้นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยถนนหินเก่าแก่และบ้านเรือน รวมถึงมีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ตั้งอยู่หลายแห่ง นักท่องเที่ยวสามารถใช้เดินเล่นได้ในเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง โดยสถานที่แรก คือ Pont de París ตั้งอยู่ไม่ไกลจากที่จอดรถ สะพานนี้ตั้งอยู่เหนือแม่น้ำ La Valira ที่ไหลผ่านใจกลางเมือง บนสะพานมีชื่อเมืองหลวงประดับอยู่ทำให้กลายเป็นแลนด์มาร์คหลักที่ดึงดูดใจและเป็นเหมาะสำหรับเก็บภาพเมื่อมาเยือนอันดอร์ราได้เป็นอย่างดี
ไม่ไกลจากสะพานปารีสเดินตามถนนที่ติดกับแม่น้ำมาจะเจอกับ Noblesa del temps – de Salvador Dalí ตั้งอยู่ด้านหน้าสะพาน Plaça de la Rotonda ซึ่งเป็นอนุเสาวรีย์ที่อุทิศให้กับ Salvador Dalí ศิลปินเซอร์เรียลิสต์ชื่อดังชาวสเปน เมื่อมองไปที่อนุเสาวรีย์จะเห็นภาพวาดนาฬิกาที่หลอมละลายพาดอยู่บนใบหน้าที่บิดเบี้ยว ซึ่งเป็นแนวคิดที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ ในผลงานของดาลี ความนุ่มนวลและสภาพคล่องของนาฬิกาบ่งบอกถึงความรู้สึกของกาลเวลาที่ลื่นไหลราวกับความฝัน ท้าทายแนวคิดดั้งเดิมเรื่องเวลาว่าคงที่และแน่วแน่ ดาลีสร้างงานศิลปะชิ้นนี้เสร็จในปี 1931 และถือว่าเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นเอกที่สำคัญของเขา
จากอนุสาวรีย์ดาลีเดินตามถนนสายหลักไปจะเจอกับพื้นที่ใจกลางเมือง บริเวณนี้เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งเป็นแหล่งชอปปิงหลักของเมือง พอผ่านใจกลางเมืองไปจะเจอกับย่านประวัติศาสตร์มองเห็นโบสถ์เซนต์สตีเฟน (St. Esteve of Andorra Church) จากศตวรรษที่ 11 ข้างในเป็นโบสถ์ขนาดเล็กมีบรรยากาศเงียบสงบ สามารถแวะเข้าไปชมได้ ส่วนทางด้านหลังโบสถ์เดินไปอีกนิดหนึ่งจะเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ Casa de la Vall ด้านหน้ามีระเบียงชมวิวมองเห็นพื้นที่เมืองที่เราเดินผ่านมาโดยมีฉากหลังเป็นภูเขาสูง ส่วนด้านในเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมพร้อมตัวเลือกไกด์ทัวร์ที่จะพาไปเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์รัฐสภาของอันดอร์รา
ทางด้านหลังของพิพิธภัณฑ์มีสวนขนาดเล็ก ถัดจากสวนนี้มีเส้นทางเดินขึ้นบันไดระเบียงไม้ไปยังจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเมืองหลวงได้เกือบรอบด้าน พอไปยืนอยู่ตรงนั้นแล้วแทบไม่เชื่อเลยว่ารัฐนี้มีขนาดเล็กมาก เช่นเดียวกับตัวเมืองหลวงที่เดินเที่ยวได้ในไม่ถึง 1 ชั่วโมง ถือว่าทำเวลาได้ดี หลังจากนี้ก็แวะพักทานอาหารเที่ยงแล้วก็ขับรถต่อไปยังเมืองกานิลโลซึ่งเป็นอีกหนึ่งตำบลที่ตั้งอยู่ในเขตการปกครองของอันดอร์รา และยังเป็นจุดนั่งรถบัสไปเที่ยวเทือกเขาพิเรนีสนั้นเอง
นั่งรถบัสไปเที่ยวเทือกเขาพิเรนีส
ใช้เวลาเดินเล่นที่เมืองหลวงของอันดอร์ราพอประมาณก็ขับรถต่อไปยังเมืองกานิลโลที่อยู่ห่างออกไป 20 นาที พอไปถึงแล้วจอดรถไว้ที่ Urb. Els Refugis Parking จากนั้นก็เดินไปซื้อตั๋วรถบัสที่สำนักงานบริการข้อมูลนักท่องเที่ยวกานิลโล (กดเพื่อดูแผนที่) แล้วไปรอขึ้นรถบัสตรง Pont tibetain – arrêt de bus de canillo (กดเพื่อดูแผนที่) ที่ตั้งอยู่ใกล้กับปั๊มน้ำมัน
รถบัสให้บริการตามรอบเวลา โดยจะผู้โดยสารไปยังสถานที่น่าสนใจในเทือกเขาพิเรนีส 2 แห่ง คือ สะพานทิเบตและจุดชมวิวรอคเดลเกร์ ระหว่างทางก่อนถึงที่เที่ยวเหล่านี้นักท่องเที่ยวจะได้เห็นทัศนียภาพเบื้องล่างของเมืองที่งดงามโดยมีภูเขาเป็นฉากหลัง ซึ่งรถบัสจะไต่ขึ้นเขาสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ เหมือนงูเลื้อย ยิ่งสูงเท่าไรวิวก็ยิ่งสวยมากขึ้นเท่านั้น แถมตื่นเต้นไม่เบาพอมองออกไปนอกหน้าต่างวิวสูงมาก แต่คนขับรถชำนาญทางจึงเดินทางปลอดภัย
รถบัสไต่ขึ้นเขาใช้เวลาประมาณ 15 นาที จะมาจอดที่ป้ายแรก คือ Tibetà Bridge Bus Stop ตรงด้านหน้าทางเข้าสะพาน จากตรงนี้ยังไม่ถึงสะพานเลยแต่ต้องเดินตามเส้นทางเดินเทรลไปอีกประมาณ 10-15 นาที (900 เมตร) จึงจะเจอกับสะพานทิเบต ระหว่างทางมีจุดแวะพักชมวิวเมืองกานิลโลไปในตัว วิวตรงนี้ต้องกระซิบว่าสวยไม่แพ้จุดชมวิวรอคเดลเกร์เลย
ใกล้กับจุดชมวิวก่อนที่จะถึงจุดสแกนตั๋วไปเดินบนสะพานจะมีขายร้านของชำขนาดเล็กตั้งอยู่ แล้วก็มีห้องน้ำไว้บริการฟรีด้วย ถ้าเป็นไปได้ก่อนไปที่นี่แนะนำให้เตรียมน้ำดื่มและขนมไปทานด้วย
เดินเล่นบนสะพานแขวนทิเบตในกานิลโล (Tibetan Bridge)
อย่างที่รู้กันว่ารัฐอันดอร์รามีพื้นที่เป็นภูเขา ดังนั้นการท่องเที่ยวในรัฐนี้ก็จะเน้นไปที่ธรรมชาติเป็นส่วนใหญ่ เช่นเดียวกับสะพานแขวนทิเบตที่นับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดให้เข้าชมเมื่อเดือนมิถุนายน 2022 นับว่ายังใหม่มากทีเดียว เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวมากขึ้น โดยตั้งอยู่ในหุบเขา Vall del Riu ที่ระดับความสูงมากกว่า 1,875 เมตร และเป็นหนึ่งในสะพานแขวนที่ยาวที่สุดในโลก โดยมีความยาว 603 เมตร กว้าง 1 เมตร และสูงจากพื้นดินถึง 158 เมตร (น้อยกว่าสะพานแขวน Sky Bridge 721 ของสาธารณรัฐเช็กเพียงไม่กี่เมตร ที่มีความยาว 712 เมตร)
จุดเด่นของสะพานแขวนก็คือโครงสร้างโลหะสไตล์มินิมอลที่เชื่อมต่อหุบเขาทั้งสองด้าน ล้อมด้วยภูเขาและมีลำธารขนาดขนาดเล็กไหลผ่านพื้นที่ตรงกลาง ในรูปภาพก่อนมาเดินเหมือนสะพานจะไม่สูงมาก พอมาเห็นของจริงคือสูงมาก อาจจะไม่เหมาะกับคนที่กลัวความสูง แต่ถ้าอยากเดินจริง ๆ แนะนำอย่ามองลงไปข้างล่างเพราะแทบเข่าทรุดเลย พอเดินไปสักพักจะถอยหลังกลับก็ไม่ได้ต้องเดินต่อไปเรื่อย ๆ ผ่านจุดกึ่งกลางสะพานที่เราสามารถมองเห็นวิวข้างล่างได้อย่างชัดเจนพอดี พอมองลงไปทั้งสูงและตื่นเต้นสุด ๆ ในเวลาเดียวกัน (จนในใจคิดว่ากลัวความสูงแต่ก็ยังมาเดินเนาะ)
เดินไปแบบกล้า ๆ กลัว ๆ ในที่สุดก็ไปถึงจุดหมายปลายทางอีกด้านของสะพาน ตรงนี้มีศาลาเล็ก ๆ เหมือนจะเป็นที่พักของเจ้าหน้าที่ แต่ตอนที่ไปไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่ ตรงนี้เขาทำจุดตั้งกล้องสำหรับถ่ายภาพไว้ด้วย ดีมากเลย เหมาะสำหรับคนที่มาคนเดียว หรือหลายคนที่ไม่มีใครถ่ายรูปให้และอยากให้ทุกคนอยู่ในเฟรมเดียวกัน
จากศาลาขนาดเล็กเหมือนจะมีเส้นทางเดินป่า เราลองเดินไปไม่ไกลเห็นสะพานอีกมุมหนึ่ง แต่ไม่ได้เดินไปไกลกว่านี้เพราะกลัวหลง และที่สำคัญไม่มีเวลามากกลัวกลับไปขึ้นรถบัสไม่ทัน เลยตัดสินใจเดินกลับโดยใช้เส้นทางเดิมเหมือนตอนขามา แล้วก็นั่งรถบัสไปยังจุดวิวรอคเดลเกร์ต่อ
จุดชมวิวรอคเดลเกร์ (Roc del Quer Viewpoint)
ตอนนั่งรถบัสมาจากกานิลโลว่าสูงแล้วพอนั่งรถบัสต่อไปยังจุดชมวิวรอคเดลเกร์วิวยิ่งสูงเพิ่มขึ้น ทำให้เห็นวิวแบบรอบด้านที่อลังการไม่แพ้กัน รถบัสใช้เวลาขับไต่เขาอีกประมาณ 10 นาทีจะไปจอดที่ Aparcament Mirador del Roc del Quer (กดเพื่อดูแผนที่) จากตรงนี้เดินตามถนนผ่านทางเข้าลงเนินเขาไปอีกประมาณ 15 นาทีก็จะถึงจุดชมวิว
พอมาถึงจะเห็นระเบียงชมวิวซึ่งเป็นแลนด์มาร์คอีกหนึ่งแห่งของอันดอร์รา ที่มีพื้นบางส่วนเป็นกระจกพร้อมทางเดินยาวประมาณ 20 เมตรที่ยื่นออกไปนอกหน้าผา มองออกไปข้างหน้าเห็นวิวสวยเวอร์วังอลังการมาก โดยเฉพาะพื้นที่เมืองกานิลโลและเส้นทางเดินรถบัสที่เลี้ยวเหมือนงูลอยน้ำเลย มีหุบเขา Montaup และ Valira d’Orient แผ่ออกไปเบื้องล่างพร้อมสภาพแวดล้อมที่เขียวขจีในช่วงฤดูร้อน ส่วนในฤดูหนาวพื้นที่เกือบทั้งหมดจะเป็นสีขาวด้วยหิมะ
นอกจากวิวที่สวยงามตรงระเบียงชมวิวยังมีงานประติมากรรมที่สร้างขึ้นในปี 1991 เป็นผู้ชายทาด้วยสีน้ำตาลนั่งอยู่บนคานระเบียงมองออกไปเบื้องหน้า ว่ากันว่าประติมากรรมนี้เป็นสัญลักษณ์แห่งความตั้งใจของมนุษย์ที่จะเผชิญหน้ากับความใหญ่โตของภูเขาโดยไม่มีความกลัวแต่อย่างใด
จุดชมวิวรอคเดลเกร์มีค่าเข้าชม 5 ยูโร ถ้าไม่ได้ซื้อมาพร้อมตั๋วรวมสะพานแขวนทิเบตสามารถซื้อแยกได้ที่สำนักงานขายตั๋วด้านหน้า (รับจ่ายทั้งเงินสดและบัตรเครดิต) พอชมวิวเสร็จแล้วก็เดินกลับมาขึ้นรถบัสที่จุดเดิม รถบัสจะนำเรากลับไปยังเมืองกานิลโลใกล้ปั๊มน้ำมันเหมือนกับตอนขามานั้นเอง
สามารถขับรถยนต์ไปยังสะพานแขวนทิเบตและจุดชมวิวรอคเดลเกร์ได้ไหม
ถ้าจะไปเที่ยวสะพานแขวนทิเบตอย่างเดียวแนะนำให้นั่งรถบัสไป เพราะว่าที่ด้านหน้าทางเข้าไม่มีที่จอดรถยนต์ไว้บริการ (มีไม้กั้นปิดทางเข้าไว้ทำให้รถยนต์ผ่านไม่ได้) เช่นเดียวกันถ้าจะไปจุดชมวิวรอคเดลเกร์อย่างเดียวสามารถขับรถยนต์ไปจอดที่ด้านหน้าทางเข้าหรือนั่งรถบัสจากกานิลโลได้ ส่วนใครที่จะไปทั้งสะพานแขวนทิเบตและจุดชมวิวรอคเดลเกร์แนะนำให้นั่งรถบัสไปจะสะดวกกว่า อีกอย่างเส้นทางเดินรถค่อนข้างชันด้วย ถ้าไม่ชินทางอาจจะขับลำบาก
สกีรีสอร์ทในอันดอร์รา
นอกจากกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงฤดูร้อนที่เป็นจุดสนใจของการเที่ยวในอันดอร์ราแล้ว รัฐนี้ยังมีชื่อเสียงเกี่ยวกับสกีรีสอร์ทที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบกีฬาฤดูหนาวอีกด้วย สกีรีสอร์ทที่มีชื่อเสียงในอันดอร์รา คือ Grandvalira และ Vallnord ซึ่งแห่งแรกเป็นสกีรีสอร์ทที่ใหญ่ที่สุดในเทือกเขาพิเรนีสและเป็นหนึ่งในรีสอร์ทที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ครอบคลุมพื้นที่หลายแห่ง รวมถึง Pas de la Casa, Soldeu และ El Tarter มีทางลาดที่สำหรับนักเล่นสกีและนักสโนว์บอร์ดทุกระดับ พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย ส่วนแห่งที่สองเป็นสกีรีสอร์ทที่สำคัญในอันดอร์ราไม่แพ้แห่งแรก ครอบคลุมพื้นที่ Pal, Arinsal และ Ordino-Arcalís มีภูมิประเทศที่หลากหลายเหมาะสำหรับนักเล่นสกีและนักสโนว์บอร์ดทั้งมือใหม่และมีประสบการณ์ และยังเหมาะสำหรับทำกิจกรรมฤดูหนาวอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน
ทัวร์เที่ยวอันดอร์ราจากบาร์เซโลนา
อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ว่าการเที่ยวอันดอร์ราจากบาร์เซโลนาใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมง วิธีที่สะดวกที่สุดคือขับรถ หรือใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะไปลงที่สถานีขนส่งหลักใกล้ใจกลางเมือง อย่างไรก็ตามสำหรับใครที่ไม่สะดวกขับรถหรือใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ สามารถเลือกเข้าร่วมทัวร์เที่ยวอันดอร์ราจากบาร์เซโลนาได้เช่นกัน
วิธีนี้นอกจากจะรวมรถรับส่งมาให้เรียบร้อยแล้ว ยังมาพร้อมไกด์ส่วนตัวที่จะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับอันดอร์รา พร้อมพาทัวร์ที่เที่ยวใน 3 ประเทศ คือ Ax-les-Thermes เมืองแห่งสกีรีสอร์ทและน้ำพุร้อนในเทือกเขาพิเรนีสของฝรั่งเศส ตามด้วย Pas de la Casa สถานีกีฬาฤดูหนาวที่สูงที่สุดในเทือกเขาพิเรนีส และปิดท้ายด้วย Andorra la Vella เมืองหลวงของอันดอร์รา มีพักทานอาหารหรือชอปปิงก่อนเดินทางกลับบาร์เซโลนา สะดวกและครบรสแบบนี้ต้องไปสัมผัสประสบการณ์ดี ๆ ด้วยตัวเองแล้วน๊า
เรื่องน่ารู้ก่อนไปเที่ยวอันดอร์รา
เที่ยวอันดอร์ราใช้งบเท่าไร
ค่าใช้จ่ายสำหรับเที่ยวอันดอร์ราแบบครึ่งวันสำหรับ 2 คน อยู่ที่ประมาณ 76 ยูโร คิดเป็นเงินไทยประมาณ 2,890 บาท ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายอาจเพิ่มขึ้นหรือลดลงตามปัจจัยต่าง ๆ เช่น ค่าที่พัก การเดินทาง อาหาร และกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงค่าที่จอดรถและค่าทางด่วน ซึ่งตัวเลขนี้ยังไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน เช็คราคาและจองตั๋วเครื่องบินราคาประหยัดได้ที่นี่
budget
โรงแรม: 80-150 ยูโร
ตรวจสอบห้องว่าง
โฮสเทล: 40-80 ยูโร
ตรวจสอบห้องว่าง
การเดินทาง: 4-15 ยูโร
ซื้อตั๋วเดินทาง
กิจกรรมและตั๋ว: 12-30 ยูโร
ดูตั๋วและทัวร์น่าสนใจ
รถเช่า: 20-80 ยูโร
จองรถเช่า
อาหาร: 15-30 ยูโร/มื้อ
ที่จอดรถ: 5-15 ยูโร
เที่ยวอย่างอุ่นใจไปกับบัตรเดบิต Wise สำหรับใช้จ่ายทั่วโลก สามารถใช้ถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มต่างประเทศตามอัตราแลกเปลี่ยนจริงโดยไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง ใช้ชำระค่าอาหาร จองที่พักหรือตั๋วเครื่องบิน รวมถึงในร้านค้าออนไลน์ทั่วโลกกว่า 50+ สกุลเงิน ทั้งยังรองรับการชำระผ่าน MasterCard, Apple Pay และ Google Pay โดยไม่ต้องกังวลในการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน ใช้มานานกว่า 4 ปีไม่ผิดหวัง → สมัครรับบัตรเดบิต Wise ไว้ใช้ประโยชน์ด้วยตัวเองตอนนี้เลย
แผนที่เที่ยวอันดอร์ราด้วยตัวเอง
แหล่งข้อมูลวางแผนเที่ยว
Thank you
การเปิดเผย: บทความนี้มีลิงก์แอฟฟิลิเอทบางส่วน การกดที่ลิงก์ไม่มีค่าใช้จ่าย หากซื้อสินค้าหรือบริการจากลิงก์ดังกล่าว เราอาจได้รับค่ากำลังใจเล็กน้อยสำหรับนำไปพัฒนาบล็อก 🧡