กำลังค้นหาที่เที่ยวธรรมชาติในเนเธอร์แลนด์? เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศที่มีความสวยงามและเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติจำนวนมากที่นักท่องเที่ยวสามารถแวะไปเยี่ยมชมได้ง่าย บทความนี้จะมาแนะนำเกี่ยวกับ ที่เที่ยวทางธรรมชาติในเนเธอร์แลนด์ เหมาะสำหรับการเดินเที่ยวในทุกฤดูโดยเฉพาะช่วงหน้าร้อนและฤดูใบไม้ร่วง นอกจากการเดินเที่ยวแล้วยังสามารถปิกนิก ปั่นจักรยานเที่ยว หรือพักค้างคืนเพื่อความเต็มอิ่มได้อีกด้วย
ที่เที่ยวธรรมชาติในเนเธอร์แลนด์
สวนดอกทิวลิปเคอเคนฮอฟ (Keukenhof)
สวนดอกทิวลิปเคอเคนฮอฟ เป็นหนึ่งในที่เที่ยวยอดนิยมของเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่ที่ชานเมืองลิซเซ่ (Lisse) ในจังหวัดเซาท์ฮอลแลนด์ ห่างจากตัวเมืองไลเด้น (Leiden) ประมาณ 56 นาที ที่นี่จะพานักท่องเที่ยวไปชมเทศกาลดอกทิวลิปหลากสีของชาวดัตช์ ซึ่งจัดขึ้นเพียงหนึ่งครั้งต่อปีเท่านั้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ระหว่างปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนพฤษภาคม จุดเด่นของสวนดอกทิวลิปเคอเคนฮอฟ คือ การรวมดอกดอกไม้สายพันธ์ต่าง ๆ กว่า 7 ล้านต้นไว้ในสวนขนาดใหญ่ 32 เฮกตาร์ ดอกไม้เหล่านั้นมาจากผู้ปลูกในท้องถิ่นกว่า 500 รายที่ปลูกและนำมาจัดรวมกันไว้ที่นี่อย่างงดงาม มีค่าเข้าชม 19.50 ยูโร และตัวเลือกตั๋วเดินทางจากอัมสเตอร์ดัม 17 ยูโร
หมู่บ้านไร้ถนนกีโธร์น (Giethoorn)
หมู่บ้านไร้ถนนกีโธร์น เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเนเธอร์แลนด์ ได้รับการกล่าวขานว่าเป็น ‘เวนิสเนเธอร์แลนด์’ (Venice of the Netherlands) ตั้งอยู่ในจังหวัดโอเฟอร์ไรส์เซิล อยู่ในเขตเทศบาลสเตนไวค์เคอร์ลันด์ ห่างจากเมืองสเตนไวค์ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 5 กิโลเมตร ที่นี่เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ผู้คนใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ไม่มีเส้นทางการเดินรถ เน้นการสัญจรด้วยเรือเป็นส่วนใหญ่ เหมาะสำหรับการสัมผัสบรรยากาศการใช้ชีวิตของผู้คนในพื้นที่แบบไม่เร่งรีบท่ามกลางธรรมชาติที่เงียบสงบ เดินทางสะดวกด้วยระบบขนส่งสาธารณะ หากมีเวลาเหลือจากการเที่ยวที่หมู่บ้านไร้ถนนกีโธร์นยังสามารถไปเที่ยวต่อที่เมืองซโวลเลอ (Zwolle) ได้อีกด้วย
หมู่บ้านชาวประมงโวเลนดัม (Volendam)
หมู่บ้านชาวประมงโวเลนดัม เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่บนทะเลสาบมาร์เคอร์เมียร์ (Markermeer) มีชื่อเสียงเกี่ยวกับการค้าขายทางประมงแบบชาวดัตช์แท้ ๆ ที่นี่จะพาเราไปสัมผัสความสวยงามของท่าเรือ บ้านไม้ในเขาวงกตที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง รวมถึงบ้านเรือนที่สร้างขึ้นบนเขื่อนกั้นน้ำ เรายังสามารถเรียนรู้ประวัติความเป็นมาของเมืองโวเลนดัมแบบเจาะลึกได้ที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์โวเลนดัม (Volendam Museum) แวะไปถ่ายรูปสวมชุดการแต่งกายดั้งเดิมของชาวโวนเลนดัมที่ย่านท่าเรือ หรือชิมปลาปลาไหลรมควันชื่อดัง (Paling) ได้อีกด้วย
นั่งเรือไปเที่ยวต่อที่เกาะมาร์เคิน (Marken)
มาร์เคินเคยเป็นเกาะปิดไม่มีถนนในคาบสมุทรมาร์เคอร์เมียร์ ตั้งอยู่ห่างจากอัมสเตอร์ดัมเพียง 30 นาที จุดเด่นของที่นี่คือบ้านเรือนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สร้างแบบยกใต้ถุนสูงและมีบันไดเพื่อหลีกเลี่ยงระดับน้ำท่วมที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในอดีต ต่อมาได้มีการการสร้างเขื่อนกั้นน้ำอัพสเลาไดก์ เพื่อปิดกั้นเส้นทางน้ำเซาเดอร์เซจากทะเลเหนือ ช่วยป้องกันเกาะมาร์เคินจากน้ำท่วม ที่นี่ยังมีการสร้างทางหลวงสายสาย N518 ไปยังเกาะมาร์เคิน ทำให้กลายมาเป็นเกาะเปิดเข้าได้ถึงได้ง่ายด้วยรถยนต์และรถประจำทาง
ปัจจุบันมาร์เคินเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในเนเธอร์แลนด์ที่ยังคงความงดงามทางด้านวัฒนธรรม ผู้คนมีวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม และดำรงชีวิตอยู่ภายใต้เกาะเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ รอต้อนรับผู้เยือนและร่วมย้อนเวลากลับไปสู่ความรุ่งโรจน์ในอดีตพร้อม ๆ กัน นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือเฟอร์รี่ Volendam Marken Express จากหมู่บ้านโวเลนดัมไปที่เกาะมาร์เคิน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที ตั๋วเที่ยวเดียวราคา 10 ยูโร ไปกลับ 16.50 ยูโร เรือออกทุก ๆ 30-45 นาที
หมู่บ้านกังหันลมซานส์สคันส์ (Zaanse Schans)
หมู่บ้านกังหันลมซานส์สคันส์ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่ในย่านเมืองซานดัม ใกล้กับซานไดค์ของจังหวัดนอร์ทฮอลแลนด์ ห่างจากอัมเตอร์ดัมประมาณ 50 นาที ที่นี่จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสเสน่ห์ของกังหันลม บ้านเรือนไม้เก่าแก่ โรงงานทำรองเท้าไม้ รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์ซานส์ (Zaans Museum) ที่บอกเล่าประวัติความเป็นมาของซานส์สคันส์และการปกป้องมรดกของพื้นที่ซานส์ได้อย่างครบคลุม
นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังหมู่บ้านกังหันลมซานส์สคันส์ด้วยรถโดยสารประจำทาง R-net (สีแดงเทา) หมายเลข 391 จากสถานีรถไฟ Amsterdam Central Station ใช้เวลาเดินทาง 40 นาที ค่าโดยสารประมาณ 4-5 ยูโร (สำหรับการเดินทางเที่ยวเดียว) รถบัสออกทุก ๆ 15 นาที (หลังหกโมงเย็นรถบัสออกทุก ๆ 30 นาที) หรือใช้บัตร Zaanse Schans Card เพื่อประหยัดค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์และสถานที่เที่ยวในซานส์สคันส์
Delta Works โครงการป้องกันน้ำท่วมของชาวดัตช์
เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศที่มีพื้นที่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลส่งผลให้เกิดน้ำท่วมอยู่บ่อยครั้งในอดีต พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือจังหวัดเซาท์ฮอลแลนด์และจังหวัดเซลันด์เนื่องจากอยู่ติดกับทะเลเหนือ เมื่อเกิดน้ำท่วมบ่อย ๆ รัฐบาลจึงหาทางจัดการกับปัญหานี้ โครงการ “Delta Works” จึงเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี 1954 เพื่อช่วยแก้ปัญหานำท่วมในเนเธอร์แลนด์ระยะยาว โดยมีโครงการย่อย ๆ เพิ่มขึ้นอีกกว่า 16 โครงการ หนึ่งในนั้น คือ “Oosterscheldekering” ในจังหวัดเซลันด์ที่นักท่องเที่ยวสามารถสามารถไปชมความยิ่งใหญ่นี้ได้
Oosterscheldekering ประกอบไปด้วยเขื่อนกั้นน้ำ เครื่องกีดขวางคลื่นพายุ และประตูกั้นน้ำที่สามารถเปิดปิดได้ หากมีการคาดการณ์ว่าจะมีคลื่นพายุขนาดใหญ่ ประตูกั้นน้ำจะถูกปิดลง ในกรณีปกติประตูกั้นน้ำจะถูกเปิดออก เพื่อให้น้ำทะเลบางส่วนยังคงไหลเข้ามา ช่วยให้ปลาน้ำเค็มและสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำอีกฝั่งสามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้ ภายในบริเวณเขื่อนกั้นน้ำ Oosterscheldekering ยังมีสถานที่จอดรถ รวมไปถึงกังหันลมผลิตพลังงาน คุณสามารถจอดรถไว้ที่นี่และเดินชมทัศนียภาพรอบ ๆ เขื่อน บริเวณดังกล่าวยังมีสถานีดูแลและจัดการเขื่อนนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าเขื่อนกั้นน้ำจะยังคงแข็งแรงและช่วยปกป้องเนเธอร์แลนด์จากคลื่นพายุได้ในระยะยาว
The Afsluitdijk เขื่อนป้องกันเนเธอร์แลนด์จากคลื่นทะเลเหนือ
อัพสเลาไดก์เป็นเขื่อนป้องคลื่นทะเลที่ยิ่งใหญ่ของเนเธอร์แลนด์ภายใต้โครงการ Zuiderzee Works ในอดีตพื้นที่ฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศได้รับผลกระทบจากคลื่นพายุที่ซัดเข้าชายฝั่ง ทำให้หน้าดินชายฝั่งทะเลถูกทำลาย และเข้าท่วมบ้านเรือนในหลายพื้นที่จนพังเสียหายระดับประเทศ เขื่อนอัพสเลาไดก์จึงถือกำเนิดขึ้นในปี 1927 เพื่อปิดกั้นเส้นทางน้ำเซาเดอร์เซจากทะเลเหนือทำให้เกิดทะเลสาบน้ำจืดแห่งใหม่ที่เรียกว่า Ijsselmeer
ตัวเขื่อนมีความยาวกว่า 32 กิโล กว้าง 90 เมตร กลายมาเป็นเส้นทางหลวงหมายเลข A7 จากเมืองเดนโอเวอร์ (Den Oever) ในจังหวัดนอร์ทฮอลแลนด์ไปยังหมู่บ้านซูริกช์ (Zurich) ในจังหวัดฟรีสลันด์ (Friesland) นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาที่นี่ด้วยรถยนต์หรือระบบขนส่งสาธารณะประมาณ 1 ชั่วโมง 42 นาที ที่นั่นยังมีอนุสรณ์สถานบอกเล่าประวัติศาสตร์ของเขื่อนอัพสเลาไดก์อีกด้วย
เขตอนุรักษ์ธรรมชาติและแหล่งผลิตน้ำปะปาของอัมสเตอร์ดัม
Amsterdam water supply dunes (ภาษาดัตช์: Amsterdamse Waterleidingduinen) ตั้งอยู่ระหว่างซันต์โฟร์ต (Zandvoort) และนอร์ทไวค์ (Noordwijk) ห่างจากอัมสเตอร์ดัมประมาณ 1 ชั่วโมง 22 นาที จุดเด่นของที่นี่คือใช้เป็นพื้นที่สกัดน้ำตั้งแต่ปี 1853 ในทุก ๆ ปีมีน้ำไม่น้อยกว่า 70 ล้านลูกบาศก์เมตรได้รับการบำบัดที่นี่ก่อนจะถูกสูบเข้าไปในเนินทรายเพื่อเปลี่ยนเป็นน้ำประปาบริสุทธิ์และส่งต่อไปยังบ้านเรือนในอัมสเตอร์ดัม นอกจากเป็นแหล่งผลิตน้ำที่สำคัญแล้วยังเป็นพื้นที่เขตอนุรักษ์ที่เปิดให้บุคคลทั่วเข้าชม สามารถแวะไปเดินเล่นหรือพักผ่อนในช่วงวันหยุดสบายได้ที่นี่
ชายหาด Scheveningen Beach ที่เที่ยวธรรมชาติในเนเธอร์แลนด์
Scheveningen Beach เป็นชายหาดขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงของเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่ห่างจากมาดูโรดัมเพียง 8 นาที ที่นี่เหมาะสำหรับการพักผ่อนในช่วงหน้าร้อนหรือเดินเล่นริมชายหาด มีกิจกรรมให้ทำหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นทานอาหาร เล่นกระดานโต้คลื่น หรือกิจกรรมท้าทายความตื่นเต้น เช่น ชิงช้าสวรรค์ บันจี้จัมพ์ และซิปไลน์ นอกจากนี้ก็ยังมีพิพิธภัณฑ์หลายแห่ง เช่น สถานที่จัดแสดงสัตว์น้ำนานาชนิด (SEA LIFE Scheveningen) พิพิธภัณฑ์ Beelden aan Zee เน้นการจัดแสดงประติมากรรมร่วมสมัย และ LEGOLAND Discovery Centre สนามเด็กเล่นในฝันของเด็ก ๆ หลายคน ไปเที่ยวที่นี่แล้วจะได้สัมผัสความครึกครื้กของชายหาดเนเธอร์แลนด์ช่วงหน้าร้อนอย่างเต็มที่เลย
ชายหาดซันต์โฟร์ต (Zandvoort Beach) ที่เที่ยวธรรมชาติในเนเธอร์แลนด์
Zandvoort Beach เป็นอีกหนึ่งชายหาดที่มีชื่อเสียงของเนเธอร์แลนด์ และยังมีชื่อเสียงเกี่ยวกับสนามแข่งรถ Formula 1 (Circuit Zandvoort) ที่หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อมาก่อน ที่นี่อยู่ห่างจากอัมสเตอร์ดัมเพียง 30 นาที มีเนินทรายลายรอบด้วยธรรมชาติที่หลากหลาย เหมาะสำหรับการชมพระอาทิตย์ตกดินที่มีความสวยงามเป็นพิเศษ ในช่วงหน้าร้อนชายหาดซันต์โฟร์ตจะหนาแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติและชาวดัตช์พากันมาเดินเล่นและอาบแดด รวมไปถึงเล่นกีฬาทางน้ำ เช่น กระดานโต้คลื่น พายเรือแคนู หรือล่องแพ รอบ ๆ ชายหาดยังมีบีชคลับ บังกะโลและที่ตั้งแคมป์ เหมาะสำหรับการพักผ่อนในช่วงวันหยุดได้เป็นอย่างดี
เกาะเทกเซล (Texel) ที่เที่ยวธรรมชาติในเนเธอร์แลนด์
ที่เนเธอร์แลนด์ไม่ได้มีแค่บ้านเมืองรูปทรงแปลกตาแต่ยังมีเกาะทางธรรมชาติให้ไปเยี่ยมชม เกาะที่ใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดในเนเธอร์แลนด์คือเทกเซล ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดนอร์ทฮอลแลนด์ ห่างออกไปจากเมืองเดนเฮลเดอร์ (Den Helder) โดยเรือเฟอร์รี่ 20 นาที ภายในเกาะเทกเซลมีภูมิประเทศขนาดเล็กประกอบไปด้วย 7 หมู่บ้าน รายล้อมด้วยธรรมชาติ พื้นที่ทางการเกษตร และชายหาดที่สวยงาม เหมาะสำหรับนอนพักค้างคืน 1-2 วันทำกิจกรรมได้หลายรูปแบบ เช่น ปั่นจักรยาน ตั้งแคมป์ปิ้ง เข้าชมพิพิธภัณฑ์เรียนรู้ชีวิตสัตว์น้ำ รวมไปถึงเดินป่าและชมพระอาทิตย์ตก
ที่พักในเกาะเทกเซลถ้าอยากเดินทางสะดวกแนะนำให้เลือกพักในพักในหมู่บ้าน De Koog ที่สำคัญยังตั้งอยู่ใกล้ชายหาด เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติและชอบการเดินป่า ที่พักแนะนำชื่อว่า B&B De Koog Texel เจ้าของบ้านเป็นคุณป้าใจดีที่มาจากอีกหมู่บ้านหนึ่งในเกาะเทกเซล ส่วนห้องพักใหญ่มาก มีห้องน้ำ ห้องนอน และรวมอาหารเช้า ราคาคืนละประมาณ 95 ยูโร
เดินป่าที่อุทยานแห่งชาติเทกเซล (National Park Dunes of Texel)
อุทยานแห่งชาติเทกเซลมีพื้นที่ขนาดใหญ่ถึง 1 ใน 4 ของเกาะเทกเซล ประกอบไปด้วยพื้นที่ทางธรรมชาติแบบหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเนินทรายที่มีหญ้าปกคลุม พื้นที่หุบเขาเปียกชื้น พื้นที่ดินร่วน ทะเลสาบเนินทราย และหุบเขาเนินทรายขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของนกหลายสายพันธุ์ และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สำหรับท่านที่ชอบการเดินป่าชมธรรมชาติ ต้องไม่พลาดที่จะมาเดินป่าในอุทยานแห่งชาติเทกเซลสักครั้ง มีเส้นทางเดินป่าให้เลือกหลายสาย รวมไปถึงเส้นทางปั่นจักรยาน ระหว่างการเดินป่ายังมีโอกาสได้เห็นชายหาดเทกเซลที่มีความสวยงามไม่แพ้กัน เป็นกิจกรรมที่สนุกและได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติแบบเต็มที่
เขตอนุรักษ์ธรรมชาติ De Slufter ที่เที่ยวธรรมชาติในเนเธอร์แลนด์
เขตอนุรักษ์ธรรมชาติ (De Slufter) เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสวยงามที่สุดของเกาะเทกเซล ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่เงียบสงบระหว่างทะเลสาบ De Muy และเนินทราย Eierlandse Dunes ซึ่งเป็นพื้นที่เนินทรายที่มีลำห้วยแบบบึงเกลือ มีพืชที่ชอบเกลือและนกน้ำหลายสายพันธุ์อาศัยอยู่จำนวนมาก ที่นี่ยังมีเส้นทางเดินป่าชมธรรมชาติแบบทำได้ภายใน 1-2 ชั่วโมง ผ่านบึงเกลือไปยังชายทะเลเปิดที่มีความสวยงาม ถ้าแวะมาที่นี่แล้วจะได้สัมผัสกับธรรมชาติที่งดงามและใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติที่หาได้ยากจากแหล่งท่องเที่ยวแบบอื่น ๆ
ชายหาดรอตเตอร์ดัม (Hoek van Holland) ที่เที่ยวธรรมชาติในเนเธอร์แลนด์
สำหรับใครที่มีเวลาเหลือจากการท่องเที่ยวในเมืองรอตเตอร์ดัมประมาณ 2-3 ชั่วโมงแนะนำให้ลองเดินทางไปเที่ยวต่อที่ Hoek van Holland ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดเซาท์ฮอลแลนด์ ห่างจากตัวเมืองรอตเตอร์ดัมประมาณ 40 นาที ที่นี่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป (Europoort Rotterdam) ตั้งอยู่ใกล้กับแนวป้องกันคลื่นพายุ (Maeslantkering Storm Surge Barrier) ซึ่งส่วนหนึ่งของโครงการ Delta Works ติดกับท่าเรือเหนือ Noorderpier (North Pier) และปากแม่น้ำ Nieuwe Waterweg มีชายหาดความยาวกว่า 3 กิโลเมตร รวมไปถึงรีสอร์ทริมทะเล ศาลาริมชายหาด บาร์และร้านอาหารจำนวนมาก และพื้นที่เนินทรายธรรมชาติทางด้านหลัง เหมาะสำหรับการเดินเล่นพักผ่อนริมทะเลในช่วงหน้าร้อนได้เป็นอย่างดี
อุทยานแห่งชาติ De Hoge Veluwe ที่เที่ยวธรรมชาติในเนเธอร์แลนด์
De Hoge Veluwe เป็นอุทยานแห่งชาติของเนเธอร์แลนด์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ห่างจากอัมสเตอร์ดัมประมาณ 2 ชั่วโมง ที่นี่นอกจากจะเป็นพื้นที่ป่าหลายชนิด ป่าดงดิบ ต้นสนมอร์เทน ที่ราบหญ้าและผืนทรายมากกว่า 5,400 เฮกตาร์แล้ว ยังเป็นที่อยู่ของกวางแดง กวางโร มูฟล่อนและหมูป่า มีกิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยวให้เลือกทำหลายอย่าง เช่น เดินป่าชมธรรมชาติ ปั่นจักรยาน เข้าชมพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติใต้ดิน (Museonder) ที่บอกเล่าเกี่ยวกับระบบรากที่สมบูรณ์ของต้นไม้อายุกว่า 135 ปี รวมถึงการจัดแสดงกระดูกของสัตว์ที่สูญพันธุ์ไปหลายพันปี คุณยังสามารถแวะไปที่อาคาร Park Pavilion เหมาะสำหรับการนั่งพักทานอาหารและเครื่องดื่ม อุทยานแห่งชาติ De Hoge Veluwe ยังมีจักรยานสีขาวมากกว่า 1,800 คันให้ได้เลือกปั่นสำรวจอุทยานฟรีอีกด้วย ส่วนการเข้าชมอุทยานราคา 12.30 ยูโร จองตั๋วได้ที่ De Hoge Veluwe Ticket
อุทยานแห่งชาติ Veluwezoom ที่เที่ยวธรรมชาติในเนเธอร์แลนด์
Veluwezoom เป็นอุทยานแห่งชาติเก่าแก่ที่สุดของเนเธอร์แลนด์และยังเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ Veluwe ตั้งอยู่ในจังหวัดเกลเดอร์แลนด์ มีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าดงดิบและเนินทรายผสมผสานกับทุ่งหญ้าโล่งครอบคลุมเนื้อที่กว่า 5,000 เฮกตาร์ เหมาะสำหรับการเดินป่าชมธรรมชาติที่หลากหลาย นอกจากการเดินป่าแล้วยังมีเส้นทางจักรยาน รวมไปถึงจุดชมวิว Posbank ที่มักจะเต็มไปด้วยทุ่งดอกไฮเดอะสีม่วงในช่วงปลายฤดูร้อน
นักท่องเที่ยวยังสามารถพบสัตว์หลายชนิดที่ถูกนำมาปล่อยไว้เพื่อแทะเล็มหญ้าและต้นไม้ เช่น วัวขนปุยไฮแลนเดอร์ที่มีถิ่นกำเนิดในสกอตแลนด์ กวางแดง กวางแฟลโลว์ กวางโร หมูป่าและฝูงแกะ ที่นี่ยังมีพื้นที่สำหรับกางเต้นท์แคมป์ปิ้งเหมาะสำหรับคนที่อยากพักค้างคืนและสัมผัสกับธรรมชาติอย่างเต็มอิ่ม นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาที่อุทยานแห่งชาติ Veluwezoom ด้วยรถไฟมาลงที่สถานี Rheden จากนั้นเดินอีกประมาณ 13 นาทีจะเจอกับอุทยานตั้งอยู่ทางฝั่งขวามือ ใช้เวลาเดินทางรวมประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที
ทุ่งดอกไฮเดอะสีม่วง (Heide) ที่เที่ยวธรรมชาติในเนเธอร์แลนด์
ไฮเดอะเป็นพืชดอกในวงศ์กุหลาบป่า สามารถพบเห็นได้ในประเทศเนเธอร์แลนด์ตามอุทยานแห่งชาติต่าง ๆ หนึ่งในนั้น คือ เขตอนุรักษ์ธรรมชาติแอร์เมอโลเซอะไฮเดอะ (Ermelosche Heide) ครอบคลุมพื้นที่กว่า 380 เฮกตาร์ ตั้งอยู่ระหว่างเมืองเล็กที่สุดของเนเธอร์แลนด์ “สตาเวอร์เดน” (Staverden) และหมู่บ้านของเทศบาลเมืองแอร์เมอโล (Ermelo) จังหวัดเกลเดอร์แลนด์ (Gelderland) เหมาะสำหรับการชมทิวทัศน์ที่สวยงามของทุ่งดอกไฮเดอะซึ่งจะบานสะพรั่งในช่วงกลางเดือนสิงหาคมถึงต้นเดือนกันยายน ถ้ามาช้ากว่านี้ดอกไฮเดอะจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเพื่อปรับตัวสภาพเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง
ใครที่ไม่สะดวกมาที่นี่สามารถเลือกไปชมทุ่งดอกไม้ไฮเดอะได้ตามสถานที่ใกล้บ้าน เช่น Nationaal Park Veluwezoom (แนะนำที่นี่เพราะมีเนินเขาและทุ่งดอกไฮเดอะขนาดใหญ่) Wezepsche Heide, Loenermark, Elspeetsche heide, Het Nationale Park De Hoge Veluwe, Ermelosche heide, Ginkelse heide และ Renderklippen เป็นต้น
สโคกลันด์ (Schokland) ที่เที่ยวธรรมชาติในเนเธอร์แลนด์
สโคกลันด์เป็นหนึ่งในมรดกโลก 12 แห่งของเนเธอร์แลนด์ที่ได้รับการรับรองจากองค์การ UNESCO ในปี 1995 ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและยังเป็นสัญลักษณ์ความแข็งแกร่งของชาวดัตช์ที่ต่อสู้กับทางน้ำมาอย่างยาวนาน สโคกลันด์ตั้งอยู่ในคาบสมุทรที่กลายมาเป็นเกาะในคริสต์ศตวรรษที่ 15 มีผู้คนตั้งถิ่นฐานอยู่จำนวนหนึ่ง แต่ต่อมาเกิดน้ำท่วมบ่อยครั้งจนต้องอพยพผู้คนออกในปี ค.ศ. 1859 จากนั้นหลังการสร้างอัพสเลาไดก์เขื่อนป้องคลื่นทะเลเพื่อปิดกั้นเส้นทางน้ำเซาเดอร์เซจากทะเลเหนือทำให้เกิดทะเลสาบน้ำจืดแห่งใหม่ที่เรียกว่า Ijsselmeer พื้นที่ในสโคกลันด์จึงกลายมาเป็นดินโคลนก่อนจะมีการถมทะเลเกิดเป็นพื้นดินเหมาะสำหรับการสร้างบ้านเรือนอาศัยของผู้คน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดเฟลโฟลันด์ (Flevoland)
ถ้าตัดสินใจมาเที่ยวสโคกลันด์จะพบกับแหล่งโบราณคดีแห่งชาติที่ได้รับการคุ้มครอง 5 แห่ง รวมถึงอาคารห้าหลัง ได้แก่ บ้านของผู้ดูแลประภาคาร บ้านหลังเล็ก (Foghorn) ที่ Oud-Emmeloord โบสถ์ Dutch Reformed ทางเหนือสุด โรงเรือสำหรับเรือน้ำแข็งในมิดเดลเบิร์ท (Middelbuurt) และโบสถ์ที่พังยับเยินบริเวณใต้สุดของเกาะเดิม นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์สโคกลันด์บอกเล่าเรื่องราวการต่อสู้ของชาวดัตช์กับน้ำและประวัติศาสตร์ทั้งหมดสโคกลันด์ไว้อย่างละเอียดจนแทบไม่น่าเชื่อเลยว่าที่นี่เคยเกิดน้ำท่วมมาก่อน
สโคกลันด์เปิดให้เข้าชมตลอดทั้งปีในวันอังคาร-วันอาทิตย์ (ยกเว้นวันขึ้นปีใหม่และวันคริสต์มาส) เวลา 11:00-17:00 น. ส่วนพิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชมทุกวันในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม เวลา 11:00-17:00 น. มีค่าเข้าชม 8 ยูโร
Hunebed D27 (Borger) พีรามิดหินที่ใหญ่ที่สุดในเนเธอร์แลนด์
ในพื้นที่ Borger ถัดพิพิธภัณฑ์โบราณคดี (Hunebedcentrum) ของเมืองเดรนเทอ (Drenthe) เราจะพบกับ Hunebed D27 ซึ่งเป็นพีรามิดหินที่ใหญ่ที่สุดในเนเธอร์แลนด์ มีความยาวกว่า 22.6 เมตร ก้อนที่ใหญ่ที่สุดมีน้ำหนักมากกว่า 20 ตัน คาดว่าถูกผลักมาที่นี่โดยยุคน้ำแข็งเมื่อประมาณ 150,000 ปีก่อนจากทางใต้ของฟินแลนด์ ตามหลักฐานการขุดค้นทางโบราณคดีเก่าแก่ในเดือนมิถุนายน ปี 1685 สันนิษฐานว่าที่นี่เคยเป็นอนุสาวรีย์ฝังศพหินยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเดรนเทอ สร้างขึ้นเมื่อประมาณ 3,400 ปีก่อนคริสตกาล และมีอายุประมาณ 5,400 ปี
พวกเขาสร้างห้องสำหรับเป็นที่ฝั่งศพของผู้ล่วงลับโดยใช้หินก้อนใหญ่ทับกันและปิดช่องว่างด้วยหินก้อนเล็กก่อนจะปกคลุมด้วยดิน ด้วยความที่หินก้อนใหญ่ถูกปกคลุมด้วยดินและหญ้าทำให้มองเห็นแบบเนินเขา แต่ปัจจุบันเหลือแต่หินก้อนใหญ่เท่านั้น ซึ่งประกอบไปด้วยฐานหินด้านบน 9 ก้อน ฐานหินรอง 28 ก้อน หินด้านข้างประตู 5 ก้อน และหินที่ท้ายทั้งสองด้าน 2 ก้อน และนั่นก็ทำให้สถานที่แห่งนี้กลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงของชาวดัตช์
ปั่นจักรยานเที่ยวหมู่บ้าน Ransdorp อัมสเตอร์ดัมตอนเหนือ
Ransdorp เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ตั้งอยู่ห่างออกไปประมาณ 7 กิโลเมตรทางตะวันออกเฉียงเหนือของ Landelijk Noord ซึ่งเป็นพื้นที่ชนบทของอัมสเตอร์ดัมตอนเหนือ ที่นี่เหมาะสำหรับการปั่นจักรยานชมธรรมชาติและสภาพแวดล้อมที่มีความแตกต่างจากตัวเมือง ในอดีตหมู่บ้าน Ransdorp ถูกน้ำท่วมหลายครั้งมาหลายศตวรรษทำให้บ้านเรือนถูกทำลายมีเพียงหอคอยโบสถ์เท่านั้นที่ยังคงอยู่ ภายในหมู่บ้านยังมีอนุสรณ์สถานแห่งชาติมากถึง 35 แห่ง และมีประชากรอาศัยอยู่เพียง 310 คน ที่นี่เรายังจะเห็นทุ่งหญ้าเปิดโล่งขนาดใหญ่สำหรับทำการเกษตรและเลี้ยงสัตว์ เป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวทางธรรมชาติในเนเธอร์แลนด์ที่เที่ยวง่ายด้วยจักรยาน
วิธีการเดินทางสะดวกมากเพียงเช่าจักรยานจากตัวเมืองจากนั้นนั่งเรือนั่งเรือข้ามฟากจากสถานี Amsterdam Centraal มายังฝั่งอัมสเตอร์ตอนเหนือ จากนั้นก็ปั่นไปตามเส้นทางจักรยานหรือใช้กูเกิ้ลแมพช่วยแล้วจะพบกับหมู่บ้าน Ransdorp สังเกตง่ายด้วยโบสถ์ Kerk van Ransdorp ที่ตั้งเด่นสง่ามาแต่ไกล
ชมพระอาทิตย์ตกที่เขตอนุรักษ์ธรรมชาติ Waverhoek (Utrecht)
ฤดูร้อนที่เนเธอร์แลนด์พระอาทิตย์จะตกช้าเป็นพิเศษทำให้กลางวันนานขึ้น เหมาะสำหรับการออกไปเดินเล่นนอกบ้าน หนึ่งในสถานที่เที่ยวทางธรรมชาติในเนเธอร์แลนด์ที่คุณสามารถชมพระอาทิตย์ตกได้ง่าย คือ Waverhoek ซึ่งเป็นเขตอนุรักษ์ธรรมชาติที่ตั้งอยู่ในจังหวัดอูเทร็คท์
พื้นที่ส่วนใหญ่ของ Waverhoek เป็นป่าพรุขนาด 60 เฮกตาร์ และมีความหลากหลายทางระบบนิเวศ มีแหล่งน้ำที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติความสูงประมาณ 1 เมตรรวมกับแอ่งน้ำที่เกิดจากทุ่งหญ้าและพืชกกทำให้เป็นแหล่งอาหารที่สำคัญและการเพาะพันธุ์ของนกหลายชนิด นกเหล่านั้นยังได้อาหารจากเมล็ดกกที่มักจะงอกในฤดูร้อน นอกจากการดูนกที่นี่แล้วยังมีเส้นทางการเดินเท้ายาว 2.5 กิโลเมตรเหมาะสำหรับการเดินชมธรรมชาติโดยรอบ ระหว่างทางคุณจะพบกับพื้นที่การเกษตรและปศุสัตว์ของชาวบ้าน รวมถึงเนินทรายคูน้ำที่อนุรักษ์ไว้สำหรับการผสมพันธุ์ของนกนางนวลโดยเฉพาะ ที่นี่จะสวยเป็นพิเศษในตอนเย็นและเหมาะสำหรับการชมพระอาทิตย์ตกเย็นและเดินป่าในเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
เดินป่าฤดูใบไม้ร่วงที่อุทยานแห่งชาติ Utrechtse Heuvelrug National Park
ฤดูใบไม้ร่วงในเนเธอร์แลนด์มีความสวยงามไม่แพ้กับฤดูอื่น ๆ โดยเฉพาะสีสันของใบไม้ที่ร่วงมาอยู่รวมกันเยอะ ๆ แล้วดูแปลกตาเป็นพิเศษ อุทยานแห่งชาติ Utrechtse Heuvelrug National Park ใหญ่เป็นอันดับสองในเนเธอร์แลนด์รองจากอุทยานแห่งชาติ Hoge Veluwe ตั้งอยู่ในจังหวัดอูเทร็คท์ ระหว่างเขต Leusden และ Rhenen ห่างจากอัมสเตอร์ประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที ที่นี่เหมาะสำหรับการพักผ่อนกับครอบครัว พาเด็ก ๆ ไปเดินเล่น ชมนก ขี่ม้า ชมพีระมิด Pyramid of Austerlitz ตามล่าหาน้องเห็ดสายพันธุ์ต่าง ๆ และปั่นจักรยาน หากโชคดีอาจจะได้เจอกับฝูงแกะที่กินหญ้าอยู่ที่นั่นด้วย
การเดินป่าในอุทยานแห่งชาติ Utrechtse Heuvelrug National Park มีหลายเส้นทา ที่แนะนำคือ Bornia (สีฟ้า) ระยะทาง 5.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 4 ชั่วโมง ถ้าใครมีเวลามากกว่านี้สามารถเลือกเส้นทาง Heidestein (สีแดง) ระยะทาง 4.5 กิโลเมตร รวมกับสีฟ้าประมาณ 10 กิโลเมตรแบบเดินกันยาว ๆ ได้เต็มอิ่มเลย และไม่ต้องกลัวว่าจะหลงนะคะเพราะเขามีเครื่องหมายบนเสาไม้ช่วยไม่ให้หลงทาง บางแห่งเราก็จะเจอกับประตูกั้นไม่ให้ฝูงแกะข้ามออกไปนอกพื้นที่แต่ยังมีบันไดให้คนเดินข้ามไปได้ โดยรวมแล้วที่นี่เหมาะมากสำหรับการเดินป่าในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและเดินทางสะดวกด้วยระบบขนส่งสาธารณะและรถยนต์
อุทยานแห่งชาติ Hollandse Duinen National Park ที่เที่ยวธรรมชาติในเนเธอร์แลนด์
Hollandse Duinen National Park เป็นหนึ่งในอุทยานแห่งชาติที่มีความสวยงามในเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่ระหว่างชายหาด Scheveningen และ Wassenaar ด้านในมีภูมิทัศน์ขนาดเล็กและเนินทรายที่เรียกว่า Meijendel ซึ่งเกิดจากอิทธิพลของลมทะเล ไม่ไกลจากที่นี่เรายังจะพบกับชายหาด Wassenaar มีความยาวมากกว่า 8 กิโลเมตรเข้าถึงได้ง่ายจากถนน Wassenaarse Slag ใกล้หมู่บ้าน Rijksdorp ในเขตเทศบาลเมืองวัสเซนนาร์ หรือทางเนินทราย Meijendelse Slag ทางด้านทิศใต้ กิจกรรมที่น่าสนใจในอุทยานแห่งชาติ Hollandse Duinen National Park ก็คือการเดินป่าชมธรรมชาติ ปั่นจักรยาน ขี่ม้า เดินสุนัข ทัศนศึกษากลุ่มสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ หรือจะแวะไปเดินเล่นที่ชายหาด Wassenaar ก็ดี ที่นั่นยังมีร้านอาหารชายทะเลอีกด้วย
เที่ยวหมู่บ้านเซาท์เทอลันด์เดอะ (Zoutelande)
Zoutelande เป็นหมู่บ้านทางตะวันตกเฉียงใต้ของเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองเฟียร์เรอะ (Veere) ของจังหวัดเซนลันด์ ที่นี่มีชื่อเสียงในเรื่องการท่องเที่ยวและรีสอร์ทริมทะเลเนื่องจากตั้งอยู่บนคาบสมุทร Walcheren และมีแสงแดดที่ร้อนแรงมากกว่าภูมิมิภาคอื่น ๆ ของเนเธอร์แลนด์ เหมาะสำหรับการพักผ่อนในช่วงฤดูร้อนหรือวันหยุดสุดสัปดาห์พร้อมกิจกรรมให้เลือกทำหลากหลาย เช่น เดินเล่นที่ชายหาดความยาวกว่า 5 กิโลเมตร เดินเล่นบนเนินทรายชมชายทะเลมุมกว้าง ชมบังเกอร์ที่ใช้เป็นหลุมหลบภัยและสังเกตการณ์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ชมประภาคารเดินเรือที่มีความสูงกว่า 53 เมตร ทานอาหารที่ระเบียงริมทะเลพร้อมชมพระอาทิตย์ตกเย็น
ในตัวหมู่บ้านก็มีความน่าสนใจไม่แพ้ชายทะเล สามารถแวะไปชอปปิงที่ร้านค้าตั้งอยู่ในจัตุรัสยอดนิยม คือ Langstraat และ Willibrordusplein ที่นั่นยังมีตลาดจัดขึ้นทุกวันอังคารตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมถึงสิ้นเดือนกันยายน ใจกลางหมู่บ้านยังเป็นที่ตั้งของโบสถ์ Catherine Church ถ้าอยากผจญภัยมากกว่านี้ลองเช่าจักรยานปั่นเที่ยวรอบหมู่บ้าน หรือแวะไปเที่ยวที่เมืองใกล้เคียง เช่น เมืองเฟียร์เรอะ มีชื่อเสียงเกี่ยวท่าเรือเก่า เมืองมิลเดลเบิร์กที่เคยเจริญรุ่งเรืองอย่างมากก่อนจะสูญเสียตำแหน่งให้กับอัมสเตอร์ดัม และเมืองเซียริกเซที่เต็มไปด้วยอนุสรณ์สถานแห่งชาติ
ที่พักแนะนำในเซาท์เทอลันด์เดอะคือ Hotel de Tien torens ตั้งอยู่ในหมู่บ้าน Domburg มีรีสอร์ทริมทะเลที่สวยงามที่สุดในเซลันด์ ห่างจากชายหาดเพียง 5 นาที การเที่ยวที่นี่จะเต็มอิ่มมากถ้ามาแบบพักค้างคืน 2-3 วัน ส่วนอาหารขึ้นชื่อคือหอยนางรม อย่าลืมลองทานกันนะคะ
สรุปที่เที่ยวธรรมชาติในเนเธอร์แลนด์
ที่เที่ยวธรรมชาติในเนเธอร์แลนด์ ดังลิสต์ทั้งหมดข้างต้นตั้งอยู่ตามเมืองต่าง ๆ ทั่วเนเธอร์แลนด์ คุณสามารถเที่ยวได้ภายในเวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง แบบทริปครึ่งวันหรือแบบพักค้างคืนตามความสะดวก อย่าลืมเช็คสภาพอากาศในเนเธอร์แลนด์ก่อนจองตั๋วสถานที่ท่องเที่ยว ส่วนการเดินทางนั้นมีความสะดวก คุณสามารถวางแผนการเดินทางในเนเธอร์แลนด์ด้วยระบบขนส่งสาธารณะ การใช้บัตรเดินทาง OV-chipkaart รวมไปถึงการขับรถยนต์เที่ยวในเนเธอร์แลนด์ด้วยตัวเอง
เที่ยวอย่างอุ่นใจไปกับบัตรเดบิต Wise สำหรับใช้จ่ายทั่วโลก สามารถใช้ถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มต่างประเทศตามอัตราแลกเปลี่ยนจริงโดยไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง ใช้ชำระค่าอาหาร จองที่พักหรือตั๋วเครื่องบิน รวมถึงในร้านค้าออนไลน์ทั่วโลกกว่า 50+ สกุลเงิน ทั้งยังรองรับการชำระผ่าน MasterCard, Apple Pay และ Google Pay โดยไม่ต้องกังวลในการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน ใช้มานานกว่า 4 ปีไม่ผิดหวัง → สมัครรับบัตรเดบิต Wise ไว้ใช้ประโยชน์ด้วยตัวเองตอนนี้เลย
แหล่งข้อมูลวางแผนเที่ยว
Thank you
การเปิดเผย: บทความนี้มีลิงก์แอฟฟิลิเอทบางส่วน การกดที่ลิงก์ไม่มีค่าใช้จ่าย หากซื้อสินค้าหรือบริการจากลิงก์ดังกล่าว เราอาจได้รับค่ากำลังใจเล็กน้อยสำหรับนำไปพัฒนาบล็อก 🧡