การสัมภาษณ์ผ่านวิดีโอคอลนอกจากจะเป็นโอกาสสำคัญที่เราได้พูดคุยกับโฮสต์แบบตัวต่อตัวแล้ว ยังเป็นโอกาสสำคัญที่เราจะได้ถามคำถามต่าง ๆ เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับครอบครัวอุปถัมภ์ให้ได้มากที่สุดระหว่างการสนทนาเพื่อประกอบการตัดสินใจ เพื่อสร้างความประทับใจและพบและช่วยให้การสัมภาษณ์กับโฮสต์มีความราบรื่นมากที่สุด ในบทความนี้จะแนะนำเกี่ยวกับการสัมภาษณ์กับโฮสต์ ครอบคลุมถึงวิธีการเตรียมตัวก่อนสัมภาษณ์ และคำถามที่เป็นประโยชน์เพื่อนำไปฝึกฝนให้เกิดความพร้อมก่อนการสัมภาษณ์จริง
การเตรียมตัวสัมภาษณ์กับโฮสต์
หลายคนอาจจะเคยได้ยินมาว่าการฝึกฝนทำให้เกิดความพร้อม และเมื่อเรามีความพร้อมก็สามารถแสดงศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มที่ แต่ถ้าเราไม่ฝึกฝนศักยภาพที่เรามีก็อาจจะไม่ถูกนำมาใช้ก็ได้ การสัมภาษณ์กับโฮสต์ก็เช่นกัน ลองจินตนาการว่าโฮสต์ไม่เคยเห็นรู้จักเรามาก่อน มีเพียงข้อความหรือรูปภาพจากโปรไฟล์ของเรา วิธีการที่จะทำให้โฮสต์รู้จักตัวตนของเรามากที่สุดก็มาจากการฝึกฝนเพื่อตอบคำถามและโชว์ศักยภาพและความพร้อมของเราในการเป็นออแพร์ และการฝึกฝนเหล่านั้นก็สามารถทำได้หลายอย่าง คือ
ศึกษาเกี่ยวกับครอบครัวอุปถัมภ์และวัฒนธรรมดัตช์
เข้าใจรายละเอียดงานและข้อกำหนดการเป็นออแพร์
ฝึกฝนทักษะทางภาษา
เตรียมคำถามที่จะถามให้พร้อม
แต่งกายให้เหมาะสมและตรงต่อเวลา
คำถามสำคัญที่ต้องเตรียมเพื่อสัมภาษณ์กับโฮสต์
คำถามเกี่ยวกับโฮสต์
- What are your expectations for the Au Pair role? (คุณคาดหวังอย่างไรกับบทบาทของออแพร์?) ถามเกี่ยวกับความคาดหวังของครอบครัวอุปถัมภ์สำหรับบทบาทหน้าที่ของออแพร์ รวมถึงความรับผิดชอบ เวลาทำงาน และหน้าที่หรือข้อกำหนดเพิ่มเติม
- Could you tell me what my daily schedule would look like? (คุณบอกฉันได้ไหมว่าตารางงานประจำวันของออแพร์เป็นอย่างไร?) ถามเกี่ยวกับตารางเวลาการทำงานในชีวิตประจำวัน ช่วยให้เรามองเห็นภาพว่าวันหนึ่งต้องทำอะไรบ้าง
สำหรับตารางเวลาการทำงานควรขอให้โฮสต์ส่งตารางเวลามาให้ดู โดยระบุถึงข้อมูลสำคัญ เช่น หน้าที่ที่ออแพร์ต้องทำ ช่วงเวลาในการเริ่มทำงานและเลิกงาน เวลาในการดูแลสัตว์เลี้ยง (ถ้าโฮสต์มีสัตว์เลี้ยงที่บ้าน) วันและเวลาในการทำอาหาร (ถ้าต้องทำอาหาร) ต้องทำอาหารสำหรับเด็ก ๆ หรือทำอาหารให้ทั้งครอบครัวไหม เราสามารถทานอาหารด้วยได้ไหม หรือต้องทานอาหารแยก วันและเวลาที่น้องไปโรงเรียน กิจกรรมที่น้องทำหลังเลิกเรียน เราต้องไปรับไปส่งน้องที่โรงเรียนไหม หรือกิจกรรมที่น้องทำหลังเลิกเรียนเราต้องไปรับไปส่งไหม หรือใครเป็นคนไปรับไปส่ง จำนวนวันและชั่วโมงที่ออแพร์ต้องทำงาน วันหยุดที่ออแพร์ได้รับ และเวลาที่ออแพร์ต้องกลับถึงบ้านในวันหยุด
- Can you tell me more about your family and your children? (คุณช่วยบอกฉันเพิ่มเติมเกี่ยวกับครอบครัวและลูก ๆ ของคุณได้ไหม?) คำถามนี้ช่วยให้เรารู้จักครอบครัวอุปถัมภ์มากขึ้น และเข้าใจถึงบุคลิกลักษณะและความต้องการของเด็ก ๆ ในครอบครัว
- What is your daily routine like? (กิจวัตรประจำวันของคุณเป็นอย่างไร?) แนะนำให้ถามเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวันโดยทั่วไปของโฮสต์ รวมถึงเวลารับประทานอาหาร กิจกรรม และเวลาเข้านอน สิ่งนี้จะช่วยให้เราเข้าใจว่าตารางเวลาทำงานประจำวันของออแพร์เป็นยังไง
- What kind of support will I have as an au pair? (ฉันจะได้รับการสนับสนุนอะไรบ้างในฐานะออแพร์?) ถามเกี่ยวกับประเภทของการสนับสนุนที่เราจะได้รับในฐานะออแพร์ เช่น การเดินทาง การเรียนภาษาดัตช์ ประกันสุขภาพ ค่าโทรศัพท์ ค่าตั๋วเครื่องบิน เป็นต้น
- Can you tell me about your past experiences with Au Pairs? (ช่วยเล่าประสบการณ์กับออแพร์ที่ผ่านมาหน่อยได้มั้ย?) ถามโฮสต์เกี่ยวกับประสบการณ์ที่ผ่านมากับออแพร์ รวมถึงสิ่งที่ดีและสิ่งที่อยากให้ปรับปรุง คำถามนี้ช่วยให้เข้าใจถึงความคาดหวังของโฮสต์และช่วยให้เราเตรียมพร้อมสำหรับบทบาทนี้ได้อย่างเต็มที่
- How do you handle discipline and behavior management? (คุณจัดการกับวินัยและพฤติกรรมอย่างไร?) ถามโฮสต์เกี่ยวกับแนวทางการจัดการระเบียบวินัยและพฤติกรรมในครอบครัว รวมถึงคำแนะนำและการจัดการอย่างสมเหตุสมผลที่โฮสต์สามารถให้ได้เมื่อต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่เด็ก ๆ ไม่เชื่อฟัง
- What is your communication style and preference? (ลักษณะการสื่อสารของคุณเป็นอย่างไรและแบบไหนที่ใช้ในการสื่อสาร?) ถามเกี่ยวกับวิธีการสื่อสารครอบครัวโฮสต์ชอบใช้ เช่น ผ่านทางข้อความ โทรศัพท์ หรืออีเมล สิ่งนี้เหล่านี้ช่วยให้ออแพร์มีช่องทางการสื่อสารที่ชัดเจนตั้งแต่เริ่มต้น
ลิสต์คำถามแนะนำเพื่อฝึกเพิ่มเติม
- Why do you want to host an Au Pair? What’s your exact motivation?
- What would an average day of working in your family look like?
- What kind of work do you and your partner do?
- Do you think you are an active family? Do you like sports?
- What are the family’s habits and hobbies?
- What does your family do on their weekends?
- What and when do the family typically eat?
- Do you have any dietary restrictions?
- Do you expect me to prepare meals for the children or family?
- Do you expect me to babysit in the evenings? If so, how often?
- On which days and evenings will I have some time off?
- How many children do you have? What are the children’s names?
- Do your children get along well with new people? Can they adapt easily?
- Are there any particular hobbies, friends, and special characteristics of their children? What are their preferred meals and games?
- What languages are the children learning?
- Can I speak English with the children, or should I learn Dutch?
- Do I need to drive the children to school and extra activities?
- What does my room look like? Could you show me my room?
- Will you take me with your family on holidays? If so: what will be my tasks during that time?
- How far is the nearest city from your home?
- Can it easily be reached by public transport?
- Have you hosted an Au Pair ever before?
- Would it be possible if I get the contact information for one of them?
- Are there more au pairs close to your host family’s home?
- Anything else I need to know?
คำถามสำหรับออแพร์ (ที่โฮสต์อาจจะถาม)
จากคำถามที่เราควรถามโฮสต์กันไปแล้ว ต่อไปก็มาถึงคำถามที่คาดว่าโฮสต์จะถามเราบ้าง คำถามเหล่านี้จะช่วยให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจถึงบุคลิก ประสบการณ์ และความคาดหวังในบทบาทของออแพร์และครอบครัวอุปถัมภ์ สิ่งสำคัญในระหว่างการสัมภาษณ์ คือ ต้องมีความชัดเจนเกี่ยวกับความคาดหวังและความต้องการของตนเอง เช่นเดียวกับการสื่อสารอย่างเปิดเผยและตรงไปตรงมาเพื่อให้เกิดความรู้สึกที่ดีและเพิ่มโอกาสของความสำเร็จในการสัมภาษณ์ทั้งโฮสต์และออแพร์
Personal background and experience
- What made you decide to become an au pair?
- Can you tell us about your family background and upbringing?
- Have you ever lived away from home before? If so, where and for how long?
- Do you have any experience working or living with people from different cultures?
- Do you have any previous experience working with children? If so, could you share with us some of your experiences?
Childcare skills and experience
- How would you describe your approach to childcare?
- What age range of children are you comfortable working with?
- What kind of activities do you enjoy doing with children?
- Are you comfortable with assisting children with homework and schoolwork?
- Are you willing to help with light household tasks related to childcare, such as preparing meals or doing laundry?
- How would you handle a child who is upset or having a tantrum?
- Can you provide examples of successful discipline strategies you have used in the past?
Language and communication skills
- What languages do you speak, and how proficient are you in them?
- How would you communicate with the children if there is a language barrier?
- Are you comfortable with participating in cultural activities or events with the family?
Safety and responsibility
- What are some safety measures you would take to ensure the children’s safety?
- What would you do in case of an emergency, such as a fire or severe injury?
- Do you have any training in first aid or CPR?
- How do you ensure the safety of children under your care?
- What would you do in an emergency situation?
- How do you handle discipline and behavior issues with children?
Travel and vacations
- Are you willing to travel with the family if needed?
- How much advance notice would you need before going on a trip or vacation with the family?
- Are you comfortable staying with the children if the parents go out of town?
อย่าลืมความเป็นตัวเองและซื่อสัตย์ในระหว่างการสัมภาษณ์ และพยายามตอบคำถามในเชิงบวก โดยเน้นจุดแข็งของตัวเอง พร้อมยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดเจน รวมถึงแสดงความกระตือรือร้นและความสนใจเพื่อส่งพลังมุ่งมั่นที่จะเป็นออแพร์ สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงแค่ช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับโฮสต์แต่ยังช่วยเพิ่มโอกาสความสำเร็จของการสัมภาษณ์อีกด้วย
หลังจากสัมภาษณ์กับโฮสต์
เมื่อจบการสัมภาษณ์ควรกล่าวขอบคุณโฮสต์ที่สละเวลาในการสัมภาษณ์ และควรสอบถามว่าเมื่อไรเราจะทราบผล ซึ่งโฮสต์หนึ่งบ้านอาจจะสัมภาษณ์กับผู้สมัครหลายคน แล้วค่อยมาตัดสินใจอีกครั้งว่าจะเลือกใคร ถ้าโฮสต์เลือกสัมภาษณ์เราคนแรก อาจจะต้องรอจนกว่าจะสัมภาษณ์ครบทุกคน ซึ่งโฮสต์อาจจะแจ้งผลเร็วหรือรอประมาณ 1 อาทิตย์
เมื่อโฮสต์ตกลงที่จะแมทกับเรา (สัมภาษณ์ผ่าน) ก็เตรียมพร้อมเรื่องเอกสารต่อไป แต่ถ้าโฮสต์ไม่เลือกเรา (สัมภาษณ์ไม่ผ่าน) อย่าเพิ่งเสียใจไปก่อน ตั้งสติและคิดทบทวนว่ายังมีส่วนไหนที่ขาดตกบกพร่องไป อย่าลืมพัฒนาคำตอบในการตอบคำถามให้ดียิ่งขึ้น พร้อมเดินหน้าหาโฮสต์ใหม่ต่อจนกว่าจะเจอกับบ้านที่เหมาะกับเรา และแน่นอนว่าไม่ยากเกินความพยายามของผู้ที่ต้องการเป็นออแพรเนเธอร์แลนด์
การที่โฮสต์ไม่เลือกเราไม่ใช่ว่าเรามีคุณสมบัติไม่เพียงพอที่จะเป็นออแพร์บ้านนี้ แต่โฮสต์อาจจะเลือกพิจารณาจากผู้สมัครที่เข้ากับโฮสต์ได้มากที่สุด เช่น โฮสต์บ้างบ้านชอบเราและอยากให้เริ่มงานได้เร็วที่สุด แต่เราไม่สามารถไปได้แบบเร่งด่วนได้เพราะต้องใช้เวลาดำเนินเอกสารพอสมควร โฮสต์ก็เลือกคนที่สามารถเริ่มงานได้เร็วที่สุดแทน หรือบางบ้านเรามีคุณสมบัติครบถ้วน แต่โฮสต์มองหาออแพร์ที่อยู่ในเนเธอร์แลนด์แล้ว โฮสต์ก็เลือกผู้สมัครคนอื่นที่ตรงตามความต้องการมากที่สุด ทั้งหมดนี้ไม่อยากให้ออแพร์ถอดใจไปก่อน และคิดไว้เสมอว่าเราทำได้!
การสัมภาษณ์กับโฮสต์ไม่ควรตกลงเพราะความรีบเร่ง
ความรีบเร่งในที่นี่ คือ มีเงื่อนไขหน้าที่บางอย่างที่เราต้องทำ แต่เราไม่ถนัดที่จะทำ และอาจจะไม่สบายใจที่จะทำภายหลัง แต่ถ้าไม่แมทกับบ้านนี้ก็อาจจะต้องไปเสียเวลาหาโฮสต์บ้านใหม่ งั้นแมทเลยดีกว่า พอไปถึงที่นั้นแล้วค่อยว่ากันก็ได้ กรณีแบบนี้ถ้าไม่สบายใจทั้งสองฝ่ายแล้วต้องไปอยู่ด้วยกันจริง ๆ มันอยู่ด้วยกันลำบากมาก และที่สำคัญต้องไปอยู่กับบ้านโฮสต์เป็นปีเลย ความอึดอัดจะสะสมไปเรื่อย ๆ และเราจะมาถามตัวเองทีหลังว่าทำไมต้องรีบขนาดนี้ พอถึงเวลานั้นอาจจะต้องมาลำบากรีแมทหรืออดทนกับความไม่สบายใจไปจนกว่าจะจบโครงการ
ที่นี่เรามายกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น เช่น ต้องดูแลสุนัข (พาไปเดินข้างนอกสามเวลาต่อวัน ให้อาหาร อาจรวมถึงการดูแลความสะอาดเก็บอุจาระด้วย) แต่ออแพร์ไม่ชอบสัตว์เลี้ยงหรือแพ้ขนสัตว์ แต่ตอบตกลงไปเพราะคิดว่าคงไม่เป็นไร พอถึงเวลาไปถึงที่นั้นจริง ๆ ค่อยไปบอกโฮสต์ทีหลังก็ได้ ซึ่งโฮสต์อาจจะมองว่าเราไม่รักษาคำพูด หรือไม่บอกให้รู้ตั้งแต่ทีแรกจะได้มีเวลาแก้ไขหรือหาคนอื่นมาดูแลแทน
กรณีต่อไป เช่น โฮสต์มีแพลนที่จะคลอดลูกในช่วงเวลาที่เราต้องไปเป็นออแพร์พอดี และเราไม่ถนัดในการดูแลเด็กอ่อน แต่ตอบตกลงไปก่อนเพราะคิดว่าทำได้ พอไปถึงที่นั้นจริง ๆ พบว่าการดูแลเด็กอ่อนมีอะไรที่ต้องทำเยอะมาก รวมถึงความใส่ใจเป็นพิเศษที่อาจจะแตกต่างจากการดูแลเด็กในวัยอื่น ๆ ทั้งหมดนี้อาจทำให้ไม่สบายใจและนำมาซึ่งปัญหาในภายหลังได้
จากกรณีตัวอย่างที่กล่าวไปถ้าตกลงแมทกับโฮสต์แล้วไปทำจริง ๆ สามารถทำได้ก็เป็นเรื่องที่ดีไป แต่ถ้าไปถึงหน้างานแล้วพยายามปรับตัวให้เข้ากับหน้าที่และสถานการณ์ของแต่ละบ้านแล้วแต่ก็ยังรู้สึกว่าไม่สามารถไปต่อได้ก็อาจจะต้องพูดคุยกับโฮสต์เพื่อหาทางแก้ไข และถ้าท้ายที่สุดถ้าไปต่อไม่ได้จริง ๆ ก็อาจจะต้องโบกมือลาเพื่อหาบ้านใหม่แทน และในกรณีนี้แหละที่แนะนำว่าไม่ควรรีบเร่งตัดสินใจแมทกับโฮสต์ตั้งแต่ทีแรกถ้าไม่มั่นใจจริง ๆ ว่าเราจะเข้ากับบ้านนี้ได้
เพราะฉะนั้นอย่ารีบร้อนในการตัดสินใจ มองภาพรวมและใช้เหตุผลประกอบการตัดสินใจ สิ่งสำคัญเลยก็คือถามตัวเองว่าสบายใจไหมที่จะไปอยู่ ณ จุดจุดนั้น รับได้ไหมกับเหตุผลและข้อตกลงในการเป็นออแพร์ของแต่ละบ้าน และมองไปถึงขั้นว่าถ้าเราเป็นโฮสต์เองเราอยากได้ออแพร์แบบไหนเพื่อมาดูแลลูกของเรา ออแพร์มีความพร้อมมากน้อยแค่ไหนที่จะไปใช้ชีวิตอยู่ต่างแดน ทั้งหมดนี้สามารถช่วยให้เรามีเหตุผลรอบด้านเพื่อตัดสินใจก่อนตกลงแมทกับโฮสต์ได้มากยิ่งขึ้น
เมื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการสัมภาษณ์กับโฮสต์แล้ว อย่าลืมเตรียมความพร้อมเรื่องเอกสาร รวมถึงค่าใช้จ่ายโครงการออแพร์ การตรวจสุขภาพออแพร์เนเธอร์แลนด์ และการจัดกระเป๋าเดินทาง ข้อมูลเหล่านี้แน่นอนว่าช่วยให้มีออแพร์มีเวลาเตรียมตัวที่เพียงพอและพร้อมสำหรับการเดินทางตามเป้าหมายที่ตั้งไว้