ชายหาด Zandvoort Beach เป็นหนึ่งในชายหาดที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศเนเธอร์แลนด์ และยังมีชื่อเสียงเกี่ยวกับสนามแข่งรถ Formula 1 (Circuit Zandvoort) หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อของ ชายหาด Zandvoort Beach มาก่อน วันนี้เราจะพาไปเที่ยวที่ ชายหาด Zandvoort Beach ในช่วงฤดูหนาวกันว่าบรรยากาศที่นั้นจะเป็นอย่างไร พร้อมทั้งไปเดินป่าชมธรรมชาติที่เขตอนุรักษ์ธรรมชาติ Amsterdamse Waterleidingduinen ซึ่งเป็นพื้นที่สกัดน้ำ เปลี่ยนน้ำจากพื้นดินหรือจากทะเลสาบเป็นน้ำประปาที่สะอาดบริสุทธิ์สามารถดื่มได้ มีเส้นทางธรรมชาติชมที่สวยงาม หากโชคดีอาจจะได้เจอสัตว์ที่อาศัยอยู่ที่นั้น ตามไปดูกันค่ะว่าเราจะเจอกับสัตว์อะไรบ้าง
ชายหาด Zandvoort Beach
Zandvoort Beach เป็นชายหาดตั้งอยู่ในเมืองซันต์โฟร์ต (Zandvoort) ห่างจากกรุงอัมสเตอร์ดัมประมาณ 30 นาที มีเนินทรายลายรอบด้วยธรรมชาติที่หลากหลาย เหมาะสำหรับการชมพระอาทิตย์ตกดินที่มีความสวยงามเป็นพิเศษ ในช่วงหน้าร้อนชายหาด Zandvoort Beach เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวและผู้คนในท้องถิ่นที่พากันมาเดินเล่นและนอนอาบบริเวณริมชายหาด รวมไปถึงเล่นกีฬาทางน้ำ เช่น กระดานโต้คลื่น พายเรือแคนู หรือล่องแพ รอบ ๆ ชายหาดมีบีชคลับ บังกะโลและที่ตั้งแคมป์ เหมาะสำหรับการพักผ่อนได้เป็นอย่างดี

ในช่วงฤดูในฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวบรรยากาศแตกต่างไปจากฤดูร้อน ผู้คนพาสุนัขมาเดินตามชายหาด ขี่ม้า หรือเดินเล่นในเขตอนุรักษ์ธรรมชาติสองแห่งที่มีเส้นทางชมธรรมชาติอย่างสวยงาม และเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชม คือ อุทยานแห่งชาติ Zuid-Kennemerland ที่อยู่ทางทิศเหนือของชายหาด Zandvoort Beach และเขตอนุรักษ์ธรรมชาติ Amsterdamse Waterleidingduinen ที่ตั้งอยู่ทางทิศใต้ และนั้นก็เป็นสถานที่ที่เราจะไปเดินป่าชมธรรมชาติในวันนี้ด้วย
การเดินทางไปยังชายหาด Zandvoort Beach
- รถยนต์: จากกรุงอัมสเตอร์ดัม ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
- มีที่จอดรถหลายแห่ง เช่น De Zuid และ LDC (‘Louis Davids Carre’)
- ค่าที่จอดรถประมาณ 2.50 ยูโรต่อชั่วโมง (ขั้นต่ำ 0.50 ยูโร)
- รถไฟ: นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Zandvoort Station จากนั้นเดินต่อไปตามถนน Boulevard de Fauvage อีก 5 นาทีก็ถึงชายหาด Zandvoort Beach
- วางแผนการเดินทางได้ที่ ระบบขนส่งสาธารณะในเนเธอร์แลนด์ และ บัตร OV-chipkaart

เขตอนุรักษ์ธรรมชาติ Amsterdamse Waterleidingduinen
Amsterdamse Waterleidingduinen หรือในภาษาอังกฤษเรียกว่า Amsterdam water supply dunes ตั้งอยู่ระหว่าง Zandvoort และ Noordwijk มีพื้นที่กว้างประมาณ 5 กิโลเมตร ยาว 10 กิโลเมตร ใช้เป็นพื้นที่สกัดน้ำตั้งแต่ปี 1853 ในทุก ๆ ปีมีน้ำไม่น้อยกว่า 70 ล้านลูกบาศก์เมตรได้รับการบำบัดที่นี่ น้ำประปาที่ชาวดัตช์ใช้ดื่มกันก็มาจากที่นี่ด้วย กล่าวคือน้ำจากพื้นดินหรือจากทะเลสาบที่ได้รับการบำบัดล่วงหน้าแล้วจะถูกสูบเข้าไปในเนินทรายใน Amsterdamse Waterleidingduinen ทรายในเนินทรายทำหน้าที่เป็นตัวกรองน้ำตามธรรมชาติ ต่อมาเปลี่ยนเป็นน้ำประปา และทำให้น้ำบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น มีความปลอดภัยและสามารถดื่มได้ ขั้นดังกล่าวใช้เวลา 3 เดือน พื้นที่สกัดน้ำและแหล่งกักเก็บน้ำใกล้เคียงจึงมีการวางกฎที่เข้มงวด ห้ามไม่ให้มีการขุดเจาะหรือดำเนินการอื่น ๆ ที่อาจทำให้น้ำเน่าเสีย เพื่อให้แน่ใจได้ว่าพื้นที่ดังกล่าวมีความปลอดภัยและสะอาดต่อการบำบัดน้ำ

เดินเที่ยวชมป่าในเขตอนุรักษ์ธรรมชาติ Amsterdamse Waterleidingduinen
นอกจากพื้นที่การสกัดน้ำใน Amsterdamse Waterleidingduinen แล้ว ยังมีเส้นทางสำหรับเดินป่าชมธรรมชาติที่ออกแบบให้ง่ายต่อการเดิน มีเส้นทางที่ปูด้วยอิฐ รองรับเก้าอี้รถเข็น สกูตเตอร์ และรถเข็นเด็กสำหรับผู้ปกครองที่ต้องการพาลูก ๆ มาด้วย (ยกเว้นการปั่นจักรยานที่ไม่ได้รับอนุญาต) รวมไปถึงเส้นทางที่เป็นเนินทราย เป็นเขตอนุรักษ์ธรรมชาติและที่อยู่อาศัยของสัตว์ต่าง ๆ เช่น กระรอกแดง สุนัขจิ้งจอก กระต่าย นกมากกว่า 100 สายพันธุ์ รวมไปถึงกวางที่มีจำนวนมากที่สุดในเนเธอร์แลนด์ หากโชคดีระหว่างทางอาจจะได้เจอสัตว์เหล่านี้ด้วย

การเดินทางมายังเขตอนุรักษ์ธรรมชาติ Amsterdamse Waterleidingduinen
- รถยนต์มาจอดยังที่จอดรถทางเข้าหลัก ค่าที่จอดรถราคา 2 ยูโร
- รถโดยสารประจำทางสาย 9, 80 และ 157 จอดบริเวณป้ายทางเข้าหลัก
- ค่าเข้าชม 1.50 ยูโรต่อคน เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีไม่เสียค่าใช้จ่าย
- สามารถซื้อตั๋วได้ที่ทางเข้า Zandvoortselaan หรือซื้อตั๋วออนไลน์ได้ที่ Day Ticket
ทางเข้าเขตอนุรักษ์ธรรมชาติ Amsterdamse Waterleidingduinen มีสี่ทางเข้าหลัก
- ทางเข้า Panneland ใน Vogelenzang Vogelenzangseduinweg 2
- ทางเข้า Oasis ใน Vogelenzang Eerste Leijweg 2
- ทางเข้า Zandvoortselaan ใน Zandvoort Zandvoortselaan 130
- ทางเข้า De Zilk ใน De Zilk Joppeweg 1
เส้นทางเริ่มต้นการเดินชมป่า
การเดินป่าชมธรรมชาติในวันนี้เราใช้ทางเข้า Zandvoortselaan โดยจอดรถไว้ที่ Zandvoortselaan 130 จากนั้นก็เริ่มเดินไปตามเส้นทางที่ปูด้วยอิฐ บรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยธรรมชาติ มีแสงแดดอุ่น ๆ ตลอดเส้นทางเดินมีผู้คนมาเดินเล่นกับครอบครัว คุณพ่อคุณแม่ก็พาลูก ๆ มาเดินรับแสงแดดนอกบ้าน










ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงเราก็เดินมาจนถึงฝั่งชายหาด Zandvoort Beach ตอนแรกไม่คิดว่าจะเดินมาไกลขนาดนี้ แต่ไหน ๆ ก็ได้มาถึงที่นี่แล้วเลยเดินมาถึงชายหาดจนได้ พระอาทิตย์ตอนเย็นที่ชายหาด Zandvoort Beach สวยมาก สวยแบบทำให้เรารู้สึกซาบซึ้งกับโมเม้นท์ที่อยู่ตรงหน้าไปชั่วขณะ หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลย บรรยากาศในตอนนั้นมีลมแรงและหนาวมาก หนาวแบบเล่นน้ำทะเลไม่ได้เลย ได้แต่เดินเล่นไปตามชายหาดแทน เราเดินตามชายหาดยาวไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งไปถึงบริเวณหน้าหาดที่มีร้านค้าและผู้คนพลุ่กพล่าน ด้วยความที่หนาวมากเราเลยแวะพักทานช็อกโกแลตอุ่น ๆ สักพัก ก่อนที่พระอาทิตย์จะเริ่มตกดิน จากนั้นเราก็เดินกลับไปยังที่จอดรถและเดินทางกลับบ้าน เป็นอันจนทริปการเดินเที่ยวหน้าหนาวที่เขตอนุรักษ์ธรรมชาติ Amsterdamse Waterleidingduinen ในวันนี้
กำลังมองหาชายหาดเนเธอร์แลนด์?
อุทยานแห่งชาติในเนเธอร์แลนด์
ถ้ามาเดินเที่ยวที่ชายหาด Zandvoort Beach และเขตอนุรักษ์ธรรมชาติ Amsterdamse Waterleidingduinen แล้วมีเวลาเลือก ก็สามารถเดินทางไปเที่ยวต่อที่เมืองใกล้เคียงอื่น ๆ ได้เช่นกัน เช่น เมืองอัมสเตอร์ดัมและเมืองฮาร์เลม หมู่บ้านกังหันลม (Zaanse Schans) และเมืองอัลค์มาร์ (Alkmaar)
เที่ยวอัมสเตอร์ดัมและเมืองฮาร์เลม
เพียงนั่งรถไฟจากสถานีรถไฟ Zandvoort Station ตรงไปยังกรุงอัมสเตอร์ดัม ใช้เวลาเดินทางเพียง 30 นาที มีสถานที่ท่องเที่ยวรวมถึงพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจมากมาย รวมถึงการเช่าจักรยานปั่นในเมืองฮาร์เลม เข้าชมพิพิธภัณฑ์ เดินชอปปิง หรือแวะรับประทานอาหารที่นั้นก็ดี หากไม่รู้จะเริ่มท่องเที่ยวในเมืองอัมสเตอร์และเมืองฮาร์เลมจากตรงไหนก่อนดี ลองแวะไปอ่านข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในกรุงอัมสเตอร์ดัมและเมืองฮาร์เลมได้ที่

อ่านต่อสถานที่ท่องเที่ยวในอัมสเตอร์ดัมและฮาร์เลม
- 40 สถานที่ท่องเที่ยวในอัมสเตอร์ดัมและกิจกรรมห้ามพลาด
- ปั่นจักรยานเที่ยวอัมสเตอร์ดัมยามค่ำคืน
- 9 พิพิธภัณฑ์ในอัมสเตอร์ดัม (ที่ควรค่าแก่การเข้าชม)
- เที่ยวเมืองฮาร์เลมด้วยตัวเองพร้อมวิธีการเดินทาง
เที่ยวเมืองอัลค์มาร์ (Alkmaar)
เมืองอัลค์มาร์ (Alkmaar) เป็นอีกหนึ่งเมืองเล็ก ๆ ที่มีความน่าสนใจ ตั้งอยู่ในจังหวัดนอร์ทฮอลแลนด์ ใช้เวลาเดินทางเพียง 1 ชั่วโมงจากชายหาด Zandvoort Beach อัลค์มาร์ ถูกเรียกว่า “เมืองชีส” มีชื่อเสียงเกี่ยวกับตลาดชีส (Alkmaar Cheese Market) ซึ่งจัดแสดงและจำหน่ายชีสทุกเช้าวันศุกร์ ระหว่างเดือนเมษายนถึงกันยายน นอกจากตลาดชีสที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวให้เดินทางไปเยี่ยมชมแล้ว อัลค์มาร์ยังเป็นเมืองที่มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน มีอนุสรณ์สถานแห่งชาติที่ได้รับการจดทะเบียนมากถึง 399 แห่ง เรียกได้ว่าแทบทุกสถานที่ที่เราเดินผ่าน อาจเป็นหนึ่งในอาคารเก่าแก่เกือบหลายร้อยปีก่อน

ในด้านศิลปะและวัฒนธรรมก็มีความโดดเด่นไม่แพ้กัน มีพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจ Stedelijk Museum Alkmaar จัดแสดงผลงานศิลปะภาพเขียนและเรื่องราวประวัติศาสตร์ของเมืองอัลค์มาร์ นอกจากนี้ยังมีถนนเก่าแก่ที่สุดในเมืองอัลค์มาร์ (Langestraat) ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลากลางเมือง (Alkmaar City Hall) ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงาม ร้านค้าจำนวนมากที่ทอดยาวไปตามถนนความยาวเกือบครึ่งกิโลเมตร รวมถึงบ้านเรือนและอาคารเก่าแก่ที่สร้างขึ้นแบบหน้าจั่วลักษณะพิเศษ เหมาะแก่การเดินเล่น ชอบปิง และเก็บภาพสวย ๆ ได้เป็นอย่างดี


เที่ยวหมู่บ้านกังหันลม (Zaanse Schans)
หมู่บ้านกังหันลม Zaanse Schans อยู่ไม่ไกลจากชายหาดหาด Zandvoort Beach ใช้เวลาเดินทางโดยรถไฟเพียง 50 นาที ที่นั้นจะพาทุกคนไปสัมผัสชีวิตของผู้คนในอีกหนึ่งแง่มุมที่ผสมผสานระหว่างชีวิตชนบทและการท่องเที่ยวเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของกังหันลม บ้านเรือนไม้เก่าแก่ โรงงานทำรองเท้าไม้ รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์ซานส์ (Zaans Museum) บอกเล่าประวัติความเป็นมาของซานส์สคันส์และการปกป้องมรดกของพื้นที่ซานส์ และ Verkade Experience โรงงานผลิตบิสกิตและช็อคโกแลตต้นศตวรรษที่ 20 เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่กำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวแบบครึ่งวันหรือเดย์ทริปจากกรุงอัมสเตอร์ดัม แถมการเดินทางไปยัง หมู่บ้านกังหันลม Zaanse Schans ด้วยระบบขนส่งสาธารณะนั้นยังสะดวกอีกด้วย


Zaanse Schans เคยเป็นย่านที่อยู่อาศัยซึ่งมีชีวิตในช่วงศตวรรษที่ 18 และ 19 ซึ่งกลางศตวรรษที่ 19 เป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติอุตสาหกรรมในเขตซานส์ ทำให้มีโรงงานอุตสาหกรรม โรงเลื่อยไม้ โรงผลิตสี คูน้ำ บ้านไม้ โกดัง รวมไปถึงกังหันลมซึ่งเป็นจุดเด่นของที่นี่ โดยมีทุ่งหญ้ากว้างเป็นพื้นหลัง สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้มีการเปลี่ยนแปลงไปตามเวลา เช่น บ้านไม้มีการปรับปรุงให้คล้ายกับต้นฉบับมากที่สุด บางส่วนก็ดัดแปลงมาเป็นร้านค้าเปิดบริการให้นักท่องเที่ยวเข้าชม กังหันลมโดยส่วนใหญ่ยังคงถูกใช้งานมาจนถึงปัจจุบัน เช่น De Kat โรงสีผลิตเม็ดสีคุณภาพสูงจากศตวรรษที่ 16 นอกจากนี้ยังมีผู้คนอาศัยอยู่ที่นี่ และใช้ชีวิตตามแบบฉบับชาวดัตช์ผสมผสานกับวัฒนธรรมพื้นบ้านของชาวซานส์ นับว่าเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งที่น่าสนใจและดูแตกต่างไปจากตัวเมืองใหญ่ในเนเธอร์แลนด์