ต้องการสำรวจกรุงเฮกด้วยระบบขนส่งสาธารณะใช่หรือไหม? บทความนี้จะให้รายละเอียดเกี่ยวกับภาพรวมของระบบขนส่งมวลชนในกรุงเฮก ไม่ว่าจะเป็นรถราง รถโดยสารประจำทาง รถไฟใต้ดิน และรถไฟ ครอบคลุมพื้นที่ในตัวเมืองกรุงเฮกและขยายไปยัง Delft, Rijswijk, Voorburg, Leidschendam, Nootdorp, Zoetermeer และ Wateringen เราจะมาพูดถึงวิธีการเดินทางด้วยตัวเลือกเหล่านี้ รวมไปถึงประเภทตั๋วเดินทางแบบต่าง ๆ รวมถึงคำแนะนำเพื่อช่วยวางแผนการเดินทางในกรุงเฮกอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักท่องเที่ยวหรือคนในท้องถิ่น บทความนี้มีทุกสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับการเดินทางในกรุงเฮกด้วยระบบขนส่งสาธารณะ
ระบบขนส่งสาธารณะในกรุงเฮกมีกี่แบบ?
ระบบขนส่งสาธารณะในกรุงเฮกดำเนินการโดย HTM ซึ่งย่อมาจาก “Haagse Tramweg Maatschappij” ให้บริการเครือข่ายขนส่งมวลชนในพื้นที่ตัวเมืองและโดยรอบ ซึ่งประกอบไปด้วย 3 รูปแบบด้วยกัน ได้แก่
- รถราง (Tram)
- รถโดยสารประจำทาง (Bus)
- รถไฟ (Train)
การเดินทางในกรุงเฮก ด้วยรถราง (Tram)
รถรางในกรุงเฮกมีความคล่องตัวสูง ให้บริการทั้งหมด 13 สาย (1, 2, 3, 4, 6, 9, 11, 12, 15, 16, 17, 19, และ 34) รวม 70 ขบวน ออกวิ่งทุกวันตั้งแต่เวลา 06:00-00:30 น. ความถี่เฉลี่ย 10-15 นาทีในชั่วโมงเร่งด่วน และทุก ๆ 30 นาทีนอกชั่วโมงเร่งด่วน เวลาที่แน่นอนสามารถดูได้จากป้ายที่สถานี
ราคาตั๋วรถรางเริ่มต้น 4 ยูโรใช้เดินทางได้ 2 ชั่วโมง บัตรโดยสารรายวัน ราคา 7.10 ยูโร และบัตรท่องเที่ยว 3 วัน ราคา 18 ยูโร หากเริ่มต้นการเดินทางที่สถานีรถไฟ Station Den Haag Centraal จุดขึ้นรถรางชานชลา E ตั้งอยู่ห่างออกไปเพียง 1 นาทีใกล้กับประตูทางออกฝั่งเดียวกับร้าน OV Service
รถราง HTM มีกี่ประเภท?
รถราง HTM ทั้งหมด 13 สาย สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก คือ
- Avenio (รถรางสีแดง-เทาเข้ม)
- RandstadRail (รถรางสีขาว-ฟ้า)
- GTL (รถรางสีแดง-เบจ)
Avenio (รถรางสีแดง-เทาเข้ม)
รถราง Avenio ในกรุงเฮกเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายระบบขนส่งสาธารณะในพื้นที่รันด์สตัด (R-net) มีทั้งหมด 6 สาย คือ 2, 9, 11, 15, 16, และ 17 เชื่อมต่อการเดินทางระหว่าง The Hague, Delft, Rijswijk, Voorburg และ Leidschendam สามารถรองรับผู้โดยสารได้มากถึง 232 คนต่อขบวน

จุดเด่นของรถราง Avenio คือพื้นที่ทางเดินในรถอยู่ในระดับความสูงเดียวกับป้ายหยุดในสถานีทำให้สะดวกต่อการขึ้นลงของผู้โดยสาร รวมไปถึงผู้ที่ใช้รถเข็นวีลแชร์ วอล์คเกอร์ช่วยเดินและรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าช่วยเคลื่อนที่ ด้านในรถมีความทันสมัยมาพร้อมที่นั่งหันหน้าสองทิศทาง มีประตูทางเข้าออก 4 ประตู รวมไปถึงเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติที่รองรับการชำระเงินด้วยบัตรเดบิต บัตรเครดิตหรือเหรียญ ผู้โดยสารสามารถซื้อตั๋วได้สูงสุด 5 ใบต่อครั้ง อย่างไรก็ตาม Avenio ไม่อนุญาตให้นำจักรยานขึ้นรถราง
เครือข่ายรถราง HTM – Avenio
- สาย 2 Den Haag Kraayenstein – Leidschendam
- สาย 9 Vrederust – Station Den Haag Centraal
- สาย 11 Scheveningen Haven – Station Den Haag HS
- สาย 15 Nootdorp – Station Den Haag Centraal
- สาย 16 Wateringen – Station Den Haag Centraal
- สาย 17 Wateringen – Kunstmuseum
RandstadRail (รถรางสีขาว-ฟ้า)
RandstadRail เป็นระบบขนส่งขนสาธารณะประเภทกึ่งรถรางและรถไฟ (ในที่นี่ขอเรียกว่ารถรางเบา) ใช้สำหรับการเดินทางในระยะไกลกว่ารถรางปกติแต่ยังช้ากว่ารถไฟเนื่องจากต้องหยุดรับส่งผู้โดยสารตามสถานีหลายจุดบนเส้นทางภูมิภาค
รถราง RandstadRail เชื่อมต่อการเดินทางระหว่างใจกลางเมือง The Hague, Rotterdam และ Zoetermeer ทั้งหมด 5 สาย คือ 2, 3, 4, 19 และ 34 ซึ่งสาย 2 และ 19 จะเป็นรถรางวิ่งในเมือง ส่วนสาย 2 จะวิ่งสลับกับรถราง Avenio ผู้โดยสารสามารถเปลี่ยนขบวนจากกรุงเฮกไปยังซูเทอร์เมียร์ได้ที่ป้าย Voorburg ‘t Loo และจากไลด์เซนดัมไปยังเดลฟท์ได้ที่ป้าย Leidschenveen Centrum ในขณะที่รถไฟใต้ดินสาย E วิ่งจากกรุงเฮกไปยังรอตเตอร์ดัมภายในเวลา 30 นาที

ภายในรถราง RandstadRail มีพื้นที่ทางเดินอยู่ในระดับความสูงเดียวกับป้ายหยุดในสถานีทำให้สะดวกต่อการขึ้นลงของผู้โดยสาร รวมไปถึงผู้พิการทุพพลภาพ และผู้ปกครองที่มีรถเข็นเด็ก มาพร้อมที่นั่งหันหน้าสองทิศทาง มีประตูทางเข้าออกกว้าง 5 บาน รวมไปถึงเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ สามารถนำจักรยานขึ้นรถราง RandstadRail ได้ฟรีในวันธรรมดาหลัง 19.00 น. และวันหยุดสุดสัปดาห์ (ไม่รวมรถราง R-net รุ่นใหม่)
เครือข่ายรถราง HTM – RandstadRail
- สาย 2 Den Haag Kraayenstein – Leidschendam
- สาย 3 Den Haag Loosduinen – Zoetermeer Centrum
- สาย 4 Den Haag De Uithof – Lansingerland Zoetermeer
- สาย 19 Station Delft – Leidschendam
- สาย 34 De Savornin Lohmanplein – Lansingerland Zoetermeer (วิ่งเฉพาะชั่วโมงเร่งด่วนและรองรับสาย 3 และ 4)
รถไฟใต้ดินสาย E
Metro E เป็นส่วนหนึ่งของรถไฟใต้ดินรอตเตอร์ดัมและ RandstadRail เส้นทางจาก Den Haag Centraal ไปยังสถานี Slinge ของ Rotterdam-Zuid ดำเนินการโดย RET รับส่งผู้โดยสารตามสถานี Den Haag Centraal via Leidschenveen, Pijnacker, Berkel en Rodenrijs, Rotterdam The Hague Airport, Blijdorp, Rotterdam Centraal, Rotterdam Centrum (Beurs), Zuidplein และ Slinge.
รถไฟใต้ดินสาย E วิ่งด้วยความถี่เฉลี่ย 6 เที่ยวต่อชั่วโมงในชั่วโมงเร่งด่วนของวันธรรมดา วันเสาร์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ส่วนชั่วโมงปกติวันธรรมดา วันเสาร์อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์วิ่งความถี่เฉลี่ย 4 เที่ยวต่อชั่วโมง ราคาตั๋วเริ่มต้น 4.50 ยูโรใช้เดินทางได้ 2 ชั่วโมง บัตรโดยสารรายวัน ราคา 9.50 ยูโร
ผู้ที่โดยสารรถราง RandstadRail สาย 3, 4 และ 34 จากสถานี Den Haag Centraal สามารถเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟใต้ดินสาย E ไปยังรอตเตอร์ดัมได้ที่สถานี Leidschenveen
GTL (รถรางสีแดง-เบจ)
รถราง GTL เป็นรถรางสายเก่าแก่ที่มีความสวยงามและสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของกรุงเฮกได้อย่างชัดเจนเนื่องจากภายในมีห้องผู้โดยสารแบบเปิด ให้บริการทั้งหมด 3 สาย คือ 1, 6 และ 12 เชื่อมต่อการเดินทางระหว่าง The Hague, Rijswijk, Voorburg, Leidschendam และ Delft
ในบางครั้งรถราง GTL อาจวิ่งบนเส้นทางรถรางสาย 2 ในตอนเช้าและชั่วโมงเร่งด่วนในตอนเย็น ภายในรถมาพร้อมเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติที่อยู่ตรงกลางขบวน รองรับการชำระเงินด้วยเหรียญ บัตรเดบิตหรือบัตรเครดิต มีที่นั่งหันหน้าทิศทางเดียว มี 5 ประตูทางเข้าออก
เครือข่ายรถราง HTM – GTL
- สาย 1 Delft Tanthof – Scheveningen Noord
- สาย 6 Den Haag Leyenburg – Leidschendam Noord
- สาย 12 Den Haag Duindorp – Station Den Haag HS

การเดินทางในกรุงเฮก ด้วยรถโดยสารประจำทาง (Bus)
รถบัส HTM ให้บริการในกรุงเฮกและภูมิภาคใกล้เคียงมากว่า 90 ปี มีรถรวม 123 คัน แบ่งออกเป็นรถโดยสารประจำทางที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ 115 คัน และรถโดยสารประจำทางที่ใช้ไฟฟ้า 8 คัน วิ่งตั้งแต่เวลา 06:00-24:00 น. ความถี่ของแต่ละสายขึ้นอยู่กับวันหรือชั่วโมงเร่งด่วน โดยเฉลี่ย 15 นาทีในในตอนกลางวัน ส่วนในตอนเย็นหลังเวลา 20:00 น. และในช่วงเช้าตรู่ของวันหยุดสุดสัปดาห์วิ่งทุก 30 นาที
สาย 23 และ 25 จะวิ่งบ่อยขึ้นนอกชั่วโมงเร่งด่วนและระหว่างวันในวันหยุดสุดสัปดาห์ สาย 20-26 วิ่งบ่อยขึ้นในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนในบางเส้นทาง (ทั้งหมดและ/หรือบางส่วน) ส่วนสาย 29 วิ่งทุกครึ่งชั่วโมงในชั่วโมงเร่งด่วนเท่านั้น
รถบัส HTM มีกี่ประเภท?
รถบัส HTM ในกรุงเฮก แบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก คือ
- รถบัสก๊าซธรรมชาติ
- รถบัสไฟฟ้า
- รถบัสกลางคืน
รถบัสก๊าซธรรมชาติ
HTM ให้บริการรถบัสที่ใช้ก๊าซธรรมชาติรวม 115 คัน มีทั้งหมด 8 สาย คือ 20, 21, 22, 23, 24, 25, 26, 28 และ 29 รถบัสแต่ละคันมีที่นั่งรวม 78 ที่นั่งและจุดยืน มาพร้อมหน้าจอบอกข้อมูลการเดินทาง รองรับจุดจอดรถเข็นสำหรับผู้พิการแบบใช้มือ วอล์คเกอร์ช่วยเดินและรถเข็น มีที่นั่งพิเศษสำหรับผู้พิการ ผู้สูงอายุ และสตรีมีครรภ์ ผู้โดยสารสามารถซื้อตั๋วได้ที่คนขับรถบัส รองรับการชำระเงินแบบแตะบัตรอ่านที่เครื่อง บัตรเดบิตหรือบัตรเครดิต
เครือข่ายรถบัส HTM ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ
- สาย 20 Duinzigt – Station Den Haag Centraal
- สาย 21 Vrederust – Scheveningen Noord
- สาย 22 Rijswijk De Schilp – Station Rijswijk
- สาย 23 Den Haag Kijkduin – Den Haag Colijnplein – Scheveningen Noord
- สาย 24 Den Haag Kijkduin – Station Den Haag Mariahoeve
- สาย 25 Vrederust – Grote Markt
- สาย 26 Den Haag Kijkduin – Station Den Haag HS – Station Voorburg
- สาย 28 Den Haag Zuiderstrand – Station Voorburg
- สาย 29 Station Rijswijk – Den Haag Oude Waalsdorperweg
*สาย 23 Den Haag Kijkduin – Den Haag Colijnplein ให้บริการเฉพาะช่วงฤดูร้อน **สาย 26 Den Haag Kijkduin – Station Den Haag HS วิ่งเฉพาะในตอนเย็นและวันหยุดสุดสัปดาห์
รถบัสไฟฟ้า
ตั้งแต่เดือนธันวาคมปี พ.ศ. 2561 HTM ได้ให้บริการรถบัสไฟฟ้ารวม 8 คันจำนวน 1 สาย คือ สาย 28 Den Haag Zuiderstrand – Station Voorburg ด้านในมีที่นั่งมาตรฐาน 24 ที่นั่งและเบาะที่สามารถพับได้จำนวน 7 ที่นั่ง มาพร้อมหน้าจอบอกข้อมูลการเดินทาง รองรับจุดจอดรถเข็นสำหรับผู้พิการแบบใช้มือ วอล์คเกอร์ช่วยเดินและรถเข็น มีที่นั่งพิเศษสำหรับผู้พิการ ผู้สูงอายุ และสตรีมีครรภ์ ผู้โดยสารสามารถซื้อตั๋วได้ที่คนขับรถบัส รองรับการชำระเงินแบบแตะบัตรอ่านที่เครื่อง บัตรเดบิตหรือบัตรเครดิต
รถบัสกลางคืน
HTMbuzz เป็นเครือข่ายรถบัสกลางคืนในกรุงเฮก มีทั้งหมด 6 สาย (N1-N6) วิ่งในคืนวันศุกร์และวันเสาร์ตั้งแต่เวลา 01:00-05:00 น. รถออกเดินทางทุก 1 ชั่วโมงจากใจกลางกรุงเฮกที่ป้ายรถเมล์ ‘Buitenhof’ และวิ่งไปจนถึงเช้าตรู่ไปยัง Scheveningen, Leidschendam-Voorburg, Rijswijk, Ypenburg, Leidschenveen, Zoetermeer, Nootdorp และ Delft
เครือข่ายรถบัส HTMbuzz
- N1 Den Haag Centrum (Buitenhof) – Mariahoeve/Scheveningen
- N2 Den Haag Centrum (Buitenhof) – Leidschendam/Voorschoten/Wassenaar
- N3 Den Haag Centrum (Buitenhof) – Loosduinen/Kraayenstein
- N4 Den Haag Centrum (Buitenhof) – Vrederust/Wateringen/Rijswijk
- N5 Den Haag Centrum (Buitenhof) – Ypenburg/Nootdorp/Pijnacker/Delft
- N6 Den Haag Centrum (Buitenhof) – Leidschenveen/Zoetermeer
หมายเหตุ: ตั้งแต่วันที่ 26 กุมภาพันธ์ รถบัสกลางคืน HTMbuzz หยุดวิ่งชั่วคราว สามารถติดตามประกาศเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ทางการ
อ่านต่อ | การเดินทางในอัมสเตอร์ดัมด้วยระบบขนส่งสาธารณะ

การเดินทางในกรุงเฮก ด้วยรถไฟ (Train)
กรุงเฮกมีสถานีรถไฟหลักคือ Station Den Haag Central สามารถเข้าถึงได้ง่ายจากจุดเชื่อมต่อสถานีรถรางและรถโดยสารประจำทางเพียง 1 นาที รวมไปถึงสถานีรถไฟที่เชื่อมต่อกับระบบขนส่งสาธารณะรูปแบบอื่น ๆ ที่ตั้งอยู่ทั่วกรุงเฮก คือ
- Station Den Haag HS
- Den Haag Mariahoeve Station
- The Hague Avenue of NOI
- The Hague Moerwijk
- Den Haag Ypenburg
การเดินทางด้วยรถไฟในเนเธอร์แลนด์ดำเนินการโดย NS แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ รถไฟประเภท Intercity วิ่งในระยะกลางและทางไกล เชื่อมต่อการเดินทางระหว่างเมืองใหญ่ (จำได้ง่ายด้วยสีฟ้าและสีขาว) และรถไฟประเภท Sprinter วิ่งในระยะสั้น ให้บริการบนเส้นทางท้องถิ่นและหยุดรับส่งผู้โดยสารทุกสถานีครอบคลุมทั่วประเทศเนเธอร์แลนด์ (จำได้ง่ายด้วยสีฟ้าและสีเหลือง)
ผู้ใช้งานสามารถเดินทางจากกรุงเฮกไปยังอัมสเตอร์ดัมได้ภายใน 50 นาที เดินทางไปเมืองรอตเตอร์ดัมในเวลา 25 นาที หรือจะขึ้นเหนือไปยังเมืองโกรนิงเงินและลงใต้ไปเมืองมาสทริชท์ใช้เวลาเพียง 2-3 ชั่วโมง
รถไฟ NS มีความทันสมัย ให้บริการระหว่างเวลา 05:00-00:30 น. และบริการช่วงกลางคืนซึ่งจะวิ่งหนึ่งครั้งต่อชั่วโมงตลอดทั้งคืน รถไฟกลางคืนขบวนแรกเริ่มวิ่งหลังจากขบวนสุดท้ายของวันออกไปจนถึงรถไฟขบวนแรกในตอนเช้า ในพื้นที่ Randstad รถไฟกลางคืนวิ่งทุกคืนจากเมือง Rotterdam แวะจอดที่เมือง Den Haag Hollands Spoor, Leiden, Schiphol Airport, Amsterdam Centraal และ Utrecht Centraal ส่วนภูมิภาคอื่น ๆ จะวิ่งเฉพาะในช่วงวันเสาร์อาทิตย์เท่านั้น
ตั๋วรถไฟ NS มีแบบไหนบ้าง?
การเดินทางด้วยรถไฟสามารถซื้อตั๋วเที่ยวเดียวได้ที่ตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติในสถานีรถไฟหรือเคาน์เตอร์บริการ NS ตั๋วเที่ยวมีมีค่าธรรมเนียมเพิ่ม 1 ยูโรจากราคาค่าโดยสารปกติ ซึ่งจะต่างจากบัตร OV-Chipkaart ที่มาแบบเติมเงินและใช้เดินทางได้เลย นอกจากตั๋วเที่ยวเดียวแล้ว NS ยังมีตั๋วเดินทางแบบพิเศษที่ช่วยให้คุณสามารถเดินทางได้ในราคาประหยัด ดังรายการ
- Day Ticket ใช้เดินทางรถไฟ NS แบบไม่จำกัดเที่ยวตลอดทั้งวัน จนถึงเวลา 04:00 น. ราคา 58.80 ยูโร (ที่นั่งชั้นสอง) และราคา 99.96 ยูโร (ที่นั่งชั้นหนึ่ง)
- Day Return Ticket ใช้เดินทางรถไฟ NS แบบไปกลับเส้นทางเดียวกัน โดยต้องระบุสถานีต้นทางและสถานีปลายทางพร้อมวันที่ต้องการเดินทาง ราคาขึ้นอยู่กับเส้นทางที่เลือก ตั๋วมีอายุ 28 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 00:00 น. ถึงวันถัดไปเวลา 04:00 น.
- Weekend Free Ticket ใช้เดินทางรถไฟ NS แบบไม่จำกัดเที่ยวในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ฟรี ราคา 34.95 ยูโร ตั้งแต่วันศุกร์เวลา 18:30 น. ถึงเช้าวันจันทร์เวลา 04:00 น.
- Railrunner Ticket ใช้เดินทางรถไฟ NS แบบครอบครัวและเด็กไม่เกินสามคน (เด็กแต่ละคนต้องมีตั๋วเป็นของตัวเอง) ราคา 2.50 ยูโร ใช้ได้ตลอดทั้งวัน
- Off Peak Group Ticket ใช้เดินทางโดยรถไฟ NS เที่ยวเดียวแบบเป็นกลุ่มตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ราคา 34 ยูโร 2 คน (17 ยูโรต่อคน) 34 ยูโร 3 คน (11.33 ยูโรต่อคน) 38 ยูโร 4 คน (9.50 ยูโรต่อคน) 42 ยูโร 5 คน (8.40 ยูโรต่อคน) 46 ยูโร 6 คน (7.67 ยูโรต่อคน) 50 ยูโร 7 คน (7.15 ยูโรต่อคน) สำหรับเดินทางได้ทุกวันนอกเวลาชั่วโมงเร่งด่วน ส่วนวันเสาร์อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์เดินทางได้ตลอดทั้งวัน (ไม่รวมวัน King’s Day 27 เมษายน)
ชั่วโมงเร่งด่วน คือ วันจันทร์ถึงวันศุกร์ ก่อนเวลา 06:30 น. ระหว่างเวลา 09:00-16:00 น. และหลังเวลา 18:30 น. ไม่สามารถเริ่มการเดินทาง เช่น เช็คอินเวลา 15.55 น. และนั่งอยู่ในรถไฟช่วงเวลาเร่งด่วน 16:00-18:30 น. (จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจตั๋วบนรถ)

บัตรเดินทาง OV-Chipkaart ในกรุงเฮกด้วยระบบขนส่งสาธารณะ
การเดินทางในกรุงเฮกด้วยระบบขนส่งสาธารณะนิยมใช้บัตร OV-chipkaart โดยต้องมีเงินในบัตรไม่ต่ำกว่า 20 ยูโรสำหรับการเดินทางด้วยรถไฟ และมีเงินในบัตรไม่ต่ำกว่า 4 ยูโร เมื่อเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทาง รถไฟใต้ดิน และรถราง เมื่อนำไปขึ้นรถต้องสแกนบัตรเพื่อเช็คอิน และสแกนบัตรอีกครั้งเพื่อเช็คเอาท์เมื่อเดินทางถึงที่หมาย ระบบจะหักค่าโดยสารอัตโนมัติและคำนวณออกมาเป็นเงินคงเหลือในบัตรโดยที่ผู้ใช้งานไม่ต้องซื้อตั๋วเที่ยวเดียวบ่อย ๆ
บัตรนี้ยังสามารถใช้ร่วมได้กับผลิตภัณฑ์การเดินทางอื่น ๆ เช่น ตั๋วรายชั่วโมง ตั๋วรายวัน รวมไปถึงตั๋วฤดูกาล ซึ่งผู้ถือบัตรต้องโหลดตั๋วเหล่านี้ลงในบัตรที่ตู้จำหน่ายตั๋วในสถานี และเมื่อนำไปเช็คอินครั้งแรกจะเป็นการเปิดใช้งานตั๋วโดยอัตโนมัติและสิ้นสุดลงเมื่อครบตามจำนวนเวลาที่กำหนดไว้
สามารถซื้อ Personal OV-chipkaart ได้ที่เว็บไซต์ทางการ ส่วนบัตรแบบไม่ระบุตัวตน (Anonymous OV-chipkaart) สามารถซื้อได้ที่ตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติที่มีสัญลักษณ์ของ HTM เคาน์เตอร์บริการ NS Service หรือ HTM ในสถานีรถไฟ Den Haag Centraal และ Den Haag HS รวมไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านค้าและร้านขายหนังสือพิมพ์ เช่น Albert Heijn, Bruna และ Primera ฯลฯ
หากไม่สะดวกซื้อบัตร OV-chipkaart สามารถซื้อตั๋วประเภทเที่ยวเดียว รายชั่วโมง รายวัน รวมไปถึงตั๋วการเดินทางประเภทอื่น ๆ ที่มาในรูปแบบชิปการ์ดใช้แล้วทิ้ง
โอวีเพย์ (OVpay)
ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปผู้ที่ต้องการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะในกรุงเฮกสามารถใช้โอวีเพย์ (OVpay) เพื่อเช็คอินและเช็คเอาท์ในระบบขนส่งมวลชนดัตช์ได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นรถโดยสารประจำทาง รถไฟ รถราง และรถไฟใต้ดิน ด้วยบัตรเดบิตแบบไร้สัมผัส บัตรเครดิต หรือโทรศัพท์มือถือตามความสะดวก
ซึ่งระบบนี้เป็นตัวเลือกการชำระเงินค่าโดยสารที่เพิ่มมากจากบัตร OV-Chipkaart และยังมีข้อดีหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นการที่ผู้ใช้งานไม่ต้องซื้อตั๋วเดินทางเที่ยวเดียว ไม่ต้องเติมเครดิตขั้นต่ำลงในบัตร หรือสมัครสมาชิกเพื่อใช้งานให้ยุ่งยาก ทั้งหมดนี้ไม่เพียงแต่รองรับการใช้งานแค่พลเมืองดัตช์เท่านั้นแต่ยังรวมไปถึงนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศอีกด้วย เรียนรู้เพิ่มเติม: การใช้งานโอวีเพย์ (OVpay)
ตั๋วเดินทางแบบชิปการ์ด HTM ในกรุงเฮกด้วยระบบขนส่งสาธารณะ
ประเภทตั๋วเดินทาง HTM ในกรุงเฮกด้วยระบบขนส่งสาธารณะ มีดังต่อไปนี้
HTM 2-Hour Ticket ราคา 4 ยูโร ใช้เดินทางด้วยรถรางและรถบัส HTM ได้ไม่จำกัดเที่ยวตลอดสองชั่วโมง
HTM Day Ticket ราคา 7.10 ยูโร ใช้เดินทางด้วยรถรางและรถบัส HTM ได้ไม่จำกัดเที่ยวตลอดทั้งวัน
HTM Day Ticket Child ราคา 1.50 ยูโร ใช้เดินทางด้วยรถรางและรถบัส HTM ได้ไม่จำกัดเที่ยวตลอดทั้งวันสำหรับเด็กอายุระหว่าง 4-12 ปี เด็กอายุต่ำกว่า 4 ปี เดินทางฟรี
HTM 3-Day Ticket ราคา 18 ยูโร ใช้เดินทางด้วยรถรางและรถบัส HTM ได้ไม่จำกัดเที่ยวเป็นเวลาสามวัน
HTM Night Bus Ticket ราคา 5 ยูโร ใช้เดินทางด้วยรถบัสกลางคืน ซื้อตั๋วได้ที่ HTM ticket app รับชำระด้วยบัตรเครดิตหรือ iDeal หรือกับคนขับรถบัส ชำระด้วยบัตรเดบิต หรือบัตรเครดิตประเภทวีซ่าและมาสเตอร์การ์ด
*** HTM Day Ticket และ HTM 3-Day Ticket รวมการใช้จักรยาน HTM ฟรี 1 คันต่อ 1 วัน โดยนำรหัสโปรโมชั่นที่ได้รับมาในอีเมล์หลังชำระเงินไปปลดล็อกใช้จักรยาน
ซื้อตั๋วเดินทาง HTM ได้ที่ไหน?
ตั๋ว HTM 2-Hour, Day Ticket และ Day Ticket Child สามารถซื้อผ่านทาง
- HTM ticket app: รับชำระด้วยบัตรเครดิตหรือ iDeal
- เครื่องขายตั๋วในรถราง: รับชำระด้วยเหรียญ บัตรเดบิต หรือบัตรเครดิตประเภทวีซ่าและมาสเตอร์การ์ด
- คนขับรถบัส ชำระด้วยบัตรเดบิต หรือบัตรเครดิตประเภทวีซ่าและมาสเตอร์การ์ด
- HTM Service Points: The Hague Central Station (OV Service Shop) เปิดวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 07:30-20:00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09:00-19:00 น. The Hague HS เปิดทุกวัน เวลา 09:00-17:00 น. Zoetermeer Center-West เปิดวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 07:00-17:00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ ปิดทำการ
- สำนักงานบริการข้อมูลท่องเที่ยว: VVV Den Haag Stadhuis และ VVV Delft Kerkstraat 3
- จุดขายในโรงแรม: The Hague, Scheveningen, Delft, Rijswijk, Leidschendam-Voorburg, Zoetermeer และ Nootdorp
ตั๋ว HTM 3-Day Ticket สามารถซื้อผ่านทาง
- HTM Service Points: The Hague Central Station (OV Service Shop) เปิดวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 07:30 – 20:00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09:00 – 19:00 น. The Hague HS เปิดทุกวัน เวลา 09:00 – 17:00 น. Zoetermeer Center-West เปิดวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 07:00 – 17:00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ ปิดทำการ
- สำนักงานบริการข้อมูลท่องเที่ยว: VVV Den Haag Stadhuis และ VVV Delft Kerkstraat 3
- จุดขายในโรงแรม: The Hague, Scheveningen, Delft, Rijswijk, Leidschendam-Voorburg, Zoetermeer และ Nootdorp
บัตรโดยสารแบบพิเศษในกรุงเฮกด้วยระบบขนส่งสาธารณะ
- Holland Travel Ticket สำหรับการเดินทางในเนเธอร์แลนด์แบบไม่จำกัดเที่ยวด้วยรถไฟชั้นสอง รถไฟใต้ดิน รถโดยสารประจำทางและรถราง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเที่ยวในเมือง Groningen, Maastricht, The Hague, Utrecht และ Rotterdam บัตรราคา 48 ยูโร ใช้เดินทางวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ก่อนเวลา 06:30 น. และจากเวลา 09:00 น. เป็นต้นไป ส่วนวันหยุดสุดสัปดาห์ใช้เดินทางได้ทั้งวัน บัตรราคา 70 ยูโร ใช้เดินทางได้ทุกวัน
- Tourist Day Ticket ราคา 15.50 ยูโร ใช้เดินทางแบบไม่จำกัดเที่ยวใน 1 วัน (ไม่ใช่แบบ 24 ชั่วโมง) ด้วยรถราง รถโดยสารประจำทาง รถไฟใต้ดิน และเรือโดยสารของผู้ให้บริการ RET, HTM, HTMbuzz, Arriva, Connexxion, EBS, QBuzz, Blue Amigo และ Water bus ในภูมิภาค Zuid-Holland, Rotterdam และ The Hague (เมือง Alphen aan den Rijn, Delft, Den Haag, Dordrecht, Drechtsteden, Gouda/Lisse, Leiden, Op Voorne Putten, Rotterdam, Zeeland และ Zoetermeer)
ตั๋ว Tourist Day Ticket สามารถซื้อผ่านทาง
- HTM Service Points: The Hague Central Station (OV Service Shop) เปิดวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 07:30 – 20:00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09:00 – 19:00 น. The Hague HS เปิดทุกวัน เวลา 09:00 – 17:00 น. Zoetermeer Center-West เปิดวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 07:00 – 17:00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ ปิดทำการ
- จุดขายในโรงแรม: The Hague, Scheveningen, Delft, Rijswijk, Leidschendam-Voorburg, Zoetermeer และ Nootdorp
- ร้านจำหน่ายตั๋ว Tourist Day Ticket หรือที่เว็บไซต์ Public Transport Holland
ตั๋วเดินทาง HTM แบบสมัครสมาชิก
นอกจากตั๋วแบบรายชั่วโมง รายวัน และรายสามวันแล้ว HTM ยังมีตั๋วเดินทางแบบสมัครสมาชิกรายสัปดาห์ รายเดือน และรายปี เหมาะสำหรับผู้ที่เดินทางเป็นประจำ ช่วยประหยัดค่าเดินทางพร้อมรับส่วนลดตามผลิตภัณฑ์ที่เลือก เช่น
- HTM Maandkorting ค่าสมัครสมาชิก 3 ยูโรต่อเดือน รับส่วนลด 20 % สำหรับการเดินทางด้วยรถบัสและรถราง HTM
- HTM Regio abonnement ค่าสมัครสมาชิกตามโซนการเดินทางในภูมิภาค The Hague, Rotterdam, Zoetermeer และ Leiden ตั้งแต่ 55-264 ยูโรต่อเดือน ใช้เดินทางได้ไม่จำกัดเที่ยวด้วยรถบัส รถราง และรถไฟใต้ดินของ HTM, Connexxion, RET, Qbuzz, EBS และ Arriva (ตามโซนที่เลือก)
- Altijd korting abonnement ค่าสมัครสมาชิก 20 ยูโรต่อเดือน รับส่วนลด 20 % สำหรับการเดินทางแบบไม่จำกัดเที่ยวด้วยรถราง รถโดยสารประจำทาง และรถไฟใต้ดินของบริษัทขนส่งสาธารณะทั้งหมดในเนเธอร์แลนด์
- Haagse Ooievaarspas (AOW-leeftijd) สมัครเดินทางฟรีด้วยบัตร OV-chipkaart ในราคา 7.50 ยูโร (จ่ายครั้งเดียว) สำหรับผู้ที่มีอายุบำนาญของรัฐ ใช้เดินทางด้วยรถรางและรถโดยประจำทางของ HTM
- Haagse Ooievaarspas (Jongeren 12 t/m 17 jaar) สมัครเดินทางฟรีด้วยบัตร OV-chipkaart สำหรับนักเรียนที่อายุระหว่าง 12-17 ปี ใช้เดินทางด้วยรถรางและรถประจำทางของ HTM (ยกเว้นรถบัสกลางคืน) ใช้ได้ในวันหยุดสุดสัปดาห์ (วันเสาร์และวันอาทิตย์) และวันหยุดโรงเรียนอย่างเป็นทางการ
อ่านต่อ | คู่มือการเดินทางในเนเธอร์แลนด์
เช่าจักรยานปั่นเที่ยวในกรุงเฮก
นอกเหนือจากการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานแล้ว การปั่นจักรยานก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด กรุงเฮกเป็นเมืองที่มีขนาดกะทัดรัด มีเส้นทางจักรยานที่ชัดเจนเหมาะสำหรับนักปั่นทุกเพศทุกวัย รวมไปถึงที่จอดรถจักรยานฟรีหลายแห่งครอบคลุมทั่วเมือง เราสามารถสนุกกับการปั่นจักรยานไปยังที่เที่ยวในกรุงเฮกได้ตลอดทั้งวัน
หากอาศัยอยู่ในกรุงเฮกระยะยาวอาจจะอยากได้จักรยานสักคันมาใช้งานในชีวิตประจำวัน จักรยานใหม่ราคาค่อนแพง อย่างไรก็ตามจักรยานมือสองเป็นที่นิยมใช้งานทั่วไปเนื่องจากราคาไม่แพง สามารถพบจักรยานมือสองในราคา 50-150 ยูโรได้ตามเว็บไซต์ Marktplaats หรือกลุ่มขายรถจักรยานมือสองตามเฟซบุ๊ค
นอกจากนี้ยังสามารถเช่าจักรยานรายสัปดาห์หรือรายเดือนด้วย Swapfiets ในราคาประหยัดเริ่มต้นเพียง 18.90 ยูโรต่อเดือน เมื่อเลือกจักรยานที่ต้องการและจ่ายเงินเรียบร้อยแล้วก็สามารถไปรับจักรยานที่สาขาของร้านมาใช้งานได้เลย ในกรณีที่จักรยานเสียสามารถติดต่อขอรับซ่อมหรือรับจักรยานคันใหม่ได้ภายใน 48 ชั่วโมง
หากเป็นนักท่องเที่ยวและอยากเช่าจักรยานในช่วงเวลาสั้น ๆ มีทางเลือกหลายอย่างที่สามารถทำได้ในราคาประหยัด เช่น การเช่าจักรยาน HTM Fiets, NS OV-fiets รวมไปถึงเช่าจักรยานร้านผู้ประกอบการอิสระ
เช่ารถจักรยาน HTM
จักรยาน HTM จำง่ายด้วยสีแดงขาวพบได้ตามโรงเก็บจักรยานใกล้กับสถานีขนส่งสาธารณะในพื้นที่ The Hague, Zoetermeer, Leidschendam-Voorburg และ Rijswijk หรือตามสถานที่ที่มีผู้คนพลุกพล่าน ข้อดีของจักรยาน HTM คือช่วยพาผู้ใช้งานไปยังที่หมายต่อจากสถานีปลายทางได้อย่างรวดเร็วในราคาประหยัด
ในตัวเมืองกรุงเฮกมีจักรยานรองรับการใช้งานกว่า 500 คัน สามารถเช่าจักรยานโดยใช้แอปพลิเคชัน HTM Bicycle จากนั้นสมัครบัญชีฟรีเพื่อค้นหาจักรยานที่อยู่ใกล้เคียง ระบบอนุญาตให้จองจักรยานล่วงหน้าได้ 15 นาทีหรือจองแบบทันทีแล้วสแกนรหัส QR เพื่อปลดล็อคจักรยานสำหรับนำไปใช้งาน และยังสามารถเติมเงินในบัญชีอัตโนมัติผ่าน iDeal และบัตรเครดิตเพื่อหักค่าบริการอัตโนมัติ
ค่าเช่าจักรยานถูกมากเพียง 1 ยูโร ต่อ 30 นาที สูงสุด 5 ยูโรต่อวัน สามารถเช่าจักรยาน HTM ได้สูงสุด 72 ชั่วโมง สำหรับการเช่า 3 วันติดต่อกันมีค่าใช้จ่ายสูงสุด 15 ยูโร เมื่อสิ้นสุดการใช้งานสามารถนำรถจักรยานไปคืนได้ตามดรอปโซนกว่า 215 แห่งตามแผนที่ตั้งในแอป
เช่ารถจักรยานขนส่งสาธารณะ (OV Fiets)
อีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเช่าจักรยานในกรุงเฮกราคาประหยัดเพียง 4.15 ยูโรต่อคัน ใช้งานได้นานถึง 24 ชั่วโมง นั้นก็คือการใช้รถจักรยานสาธารณะ (OV Fiets) ซึ่งเป็นโครงการของบริษัทรถไฟ NS มีร้านเช่ากว่า 300 แห่งทั่วเนเธอร์แลนด์ตั้งอยู่ตามสถานีรถไฟส่วนใหญ่ ใกล้ป้ายรถประจำทางและรถไฟใต้ดิน และที่ P+R
รถจักรยานขนส่งสาธารณะ (OV Fiets) เหมาะสำหรับผู้ที่มีบัตร OV-chipkaart ส่วนบุคคล (บัตรสีเหลือง) ถ้าใครยังไม่มีบัตรนี้สามารถสั่งซื้อได้ที่เว็บไซต์ทางการ มีค่าธรรมเนียม 7.50 ยูโร และรอรับบัตรภายใน 6 วันทำการ จากนั้นสมัคร OV-fiets season ทางออนไลน์ฟรีและโหลดตั๋วลงในบัตร OV-chipkaart และนำบัตรไปสแกนที่ประตูทางเข้าที่สาขาใกล้เคียงเพื่อรับรถจักรยานมาใช้งาน บางสาขาอาจมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก ค่าเช่าจักรยานจะถูกหักอัตโนมัติจากบัตร OV-chipkaart ส่วนใครที่มีตั๋ว NS Flex อยู่แล้วสามารถใช้งานได้เลย เมื่อใช้งานแล้วสามารถส่งจักรยานคืนได้ตามสาขาที่เช่ามาพร้อมกุญแจล็อคจักรยาน
รถจักรยาน OV Fiets รุ่นใหม่สามารถเปิดใช้งานได้ด้วยการสแกนบัตร OV-chipkaart บนเครื่องอ่านการ์ดที่ติดตั้งอยู่กับจักรยานโดยตรงแทนที่จะใช้กุญแจ ผู้ใช้งานยังสามารถตรวจสอบได้ว่าสาขาที่ต้องการไปรับรถจักรยานนั้นมีรถเหลืออยู่กี่คันด้วยแอปพลิเคชัน NS
สถานที่เช่ารถจักรยานขนส่งสาธารณะ (OV Fiets) ในกรุงเฮก
ที่สถานี Den Haag Centraal มีสถานที่เช่ารถจักรยาน OV Fiets อยู่ 2 แห่ง คือ
- Den Haag Centraal (Koningin Julianaplein 8) มีรถจักรยานให้เช่าประมาณ 290 คัน โรงเก็บรถเปิดทุกวัน ระหว่างจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 04:55 – 01:30 น. วันศุกร์ เวลา 04:55 – 02:15 น. วันเสาร์ เวลา 05:00 – 02:15 น. และวันอาทิตย์ เวลา 05:50 – 01:30 น.
- Den Haag Centraal Stichthage (Koningin Julianaplein 10) มีรถจักรยานให้เช่าประมาณ 10 คัน โรงเก็บรถเปิดทุกวัน ระหว่างจันทร์-พุธ เวลา 04:55 – 01:30 น. วันพฤหัสบดี-ศุกร์ เวลา 04:55 – 02:15 น. วันเสาร์ เวลา 05:00 – 02:15 น. และวันอาทิตย์ เวลา 05:50 – 01:30 น.
อ่านต่อ | อยากเช่าจักรยานปั่นเที่ยวในอัมสเตอร์ดัมต้องทำอย่างไร?
ข้อกำหนดทางกฎหมายและกฎจราจรสำหรับผู้ใช้จักรยาน
การปั่นจักรยานในกรุงเฮกมีความปลอดภัย อย่างไรก็ตามการใส่ใจเป็นพิเศษระหว่างการใช้จักรยานยังคงมีความสำคัญไม่แพ้เรื่องอื่น ๆ จักรยานที่นำมาใช้งานควรมีกระดิ่งที่สามารถได้ยินในระยะ 25 เมตร รวมไปถึงไฟหน้าสีขาวหรือสีเหลืองและไฟหลังสีแดง หากไฟจักรยานเสียอนุญาตให้เปิดไฟที่ไม่ยึดติดกับจักรยานและต้องมองเห็นได้อย่างชัดเจน โดยที่ไฟนั้น ๆ ต้องไม่แนบกับศีรษะหรือแขนขาของผู้ใช้งาน
การปั่นจักรยานใช้เลนขวาของถนนและต้องปั่นในเส้นทางจักรยานที่กำหนด สังเกตได้ง่ายด้วยเครื่องหมายวงกลมสีฟ้าภายในมีสัญลักษณ์รถจักรยาน หรือตามเส้นทางจักรยานที่มีป้ายสี่เหลี่ยมสีน้ำเงินพร้อมคำว่า ‘Fietspad’ เมื่อถึงทางแยกควรหยุดเพื่อกดปุ่มขอไฟจราจราจร และสามารถปั่นจักรยานได้เมื่อสัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียว
เมื่อต้องการเปลี่ยนทิศทางจะต้องส่งสัญญาณ เช่น ยื่นแขนขวาออกไปทางขวาในแนวนอนและส่งสัญญาณว่าต้องการที่จะเลี้ยวขวา หรือยื่นแขนซ้ายออกไปทางซ้ายในแนวนอนเมื่อต้องการเลี้ยวซ้าย และอย่าลืมมองข้ามไหล่ของเราเมื่อต้องการเปลี่ยนทิศทาง
ผู้ใช้รถจักรยานไม่ได้รับอนุญาตให้ขี่จักรยานบนเส้นทางที่กำหนดไว้สำหรับคนเดินเท้าในสวนสาธารณะ ป่าไม้ หรือพื้นที่สันทนาการ ผู้ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดสูงกว่า 0.5% ไม่อนุญาตให้ขี่จักรยาน ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2019 ผู้ขับขี่จักรยานจะไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขี่จักรยาน หากฝ่าฝืนมีค่าปรับมากถึง 95 ยูโร
ที่สำคัญเลยเวลาจอดรถจักรยานอย่าลืมล็อคอย่างเด็ดขาดโดยใช้โซ่เหล็กที่แข็งแรงคล้องกับตัวจักรยานกับชั้นวางจักรยาน ถ้าเป็นจักรยานรุ่นที่มีกุญแจล็อคในตัวให้ล็อคตัวนี้ก่อนแล้วคล้องโซ่อีกทีเพื่อความมั่นใจ อย่าลืมถ่ายรูปหรือจำว่าเราจอดจักรยานไว้ตรงไหนด้วยนะคะ เพราะเวลามาอยู่รวมกันเยอะ ๆ แล้วมันดูคล้ายกันไปหมด
นำจักรยานขึ้นระบบขนส่งสาธารณะได้ไหม?
สิ่งที่ควรคำนึงถึงสำหรับผู้ใช้จักรยานในกรุงเฮกไม่ใช่แค่กฎจราจรเท่านั้นแต่ยังรวมไปถึงการนำจักรยานเข้าระบบขนส่งสาธารณะเนื่องจากมีข้อกำหนดที่ต้องปฏิบัติตามดังรายการ
- รถราง: ผู้ใช้งานสามารถนำจักรยานขึ้นรถราง RandstadRail (สาย 2, 3, 4 และ 19) ได้ฟรีในวันจันทร์ถึงศุกร์หลังเวลา 00 น. และตลอดเวลาในช่วงสุดสัปดาห์(ไม่รวมรถราง GTL (รถรางสีแดง-เบจ) Avenio (รถรางสีแดง-เทาเข้ม) และรถราง R-net รุ่นใหม่)
- รถโดยสารประจำทาง: ไม่สามารถนำจักรยานขึ้นบัส HTM
- รถไฟ NS: อนุญาตให้ผู้ใช้งานสามารถนำจักรยานพับขึ้นรถไฟได้ฟรีในช่วงเวลาเร่งด่วน ส่วนจักรยานประเภทอื่น ๆ (ยกเว้นจักรยานคาร์โก้) สามารถนำขึ้นรถไฟได้นอกชั่วโมงเร่งด่วนและต้องมีตั๋วจักรยาน (Bicycle ticket off-peak) ส่วนวันเสาร์อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์และในช่วงเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมสามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวัน
ที่จอดรถจักรยานในกรุงเฮก
กรุงเฮกนอกจากจะมีเส้นทางจักรยานที่สะดวกสำหรับนักปั่นทุกเพศทุกวัยแล้ว ยังมีสถานที่อำนวยความสะดวกสำหรับการจอดจักรยานอยู่ทั่วเมือง แบ่งออกเป็นหลายแบบ คือ
- ที่จอดรถจักรยานฟรีตามพื้นที่สาธารณะ
- โรงจอดรถจักรยานฟรีใกล้ป้ายรถรางและรถโดยสารประจำทาง
- ที่จอดรถจักรยานคิดค่าบริการตามสถานีรถไฟ
- และโรงจอดรถจักรยานแบบมีล็อกเกอร์เพื่อความปลอดภัยสำหรับสมาชิก
ที่จอดรถจักรยานสาธารณะในกรุงเฮกตั้งอยู่ตามพื้นที่ต่าง ๆ เช่น หน้าซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหาร พิพิธภัณฑ์ หน้าทางเข้าสวนสาธารณะ ใกล้ป้ายรถรางหรือสถานีรถไฟ ผู้ใช้งานสามารถจอดรถได้ตามจุดที่มีเครื่องหมายกำกับไว้พร้อมล็อครถจักรยานด้วยกุญแจหรือโซ่เหล็กที่มีความแข็งแรง
ในกรุงเฮกยังมีที่จอดรถจักรยานฟรีที่ดำเนินการโดย Biesieklette ตั้งอยู่ตามพื้นที่ 22 แห่ง เปิดทำการทุกวันระหว่างเวลา 07:30-03:00 น. (ขึ้นอยู่กับสถานที่) ผู้ใช้งานสามารถจอดรถจักรยานฟรีได้ 1 วัน หากต้องการจอดข้ามคืนมีค่าบริการเพิ่มเติม 0.50 ยูโร (วันที่ 2) 3 ยูโร (วันที่ 3) และวันอื่น ๆ ตามลำดับ
เรายังสามารถจอดรถจักรยานฟรีได้ตามสถานที่อำนวยความสะดวกในพื้นที่ Gedempte Burgwal และ Wagenstraat รวมไปถึงอาคารสามชั้นบริเวณ Rijnstraat ระหว่างวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 07:00-19:00 น.
นอกจากนี้ยังมีที่จอดรถจักรยานคิดค่าบริการตามสถานีรถไฟ Den Haag Centraal, Den Haag Hollands Spoor, Den Haag Laan van NOI, Den Haag Mariahoeve และ Den Haag Ypenburg
โรงเก็บรถจักรยานที่มีล็อกเกอร์เพื่อความปลอดภัยตั้งอยู่ตามที่จอดรถจักรยานใกล้ป้ายรถรางและรถโดยสารประจำทางกว่า 115 แห่ง ตัวอย่างเช่น Melis Stokelaan (ปลายทางรถรางสาย 9) Jaap Edenweg (จุดสิ้นสุดรถราง RandstadRail สาย 4) Erasmusweg (จุดสิ้นสุดรถประจำทางสาย 25) ผู้ที่ต้องการใช้งานต้องสมัครสมาชิกโดยมีสัญญาอย่างน้อย 1 ปี หากไม่มีที่ว่างต้องลงทะเบียนในรายการรอและจะได้รับการแจ้งเตือนเมื่อมีที่จอดรถจักรยาน มีค่าบริการ 90 ยูโรต่อปี พร้อมค่ามัดจำ 40 ยูโร และต้องชำระทั้งสองส่วนก่อนเริ่มต้นใช้งานเสมอ
จักรยานหายในกรุงเฮกต้องทำอย่างไร?
ผู้ที่จอดรถรถจักรยานไม่ถูกต้องไม่ว่าจะเป็นกรณีที่อาจกีดขวางพื้นที่สาธารณะหรืออาจส่งผลให้เกิดอันตราย รวมไปถึงจอดนานเกิน 28 วัน (ทั่วทั้งเมือง) 7 วัน (ในเขตตัวเมือง) โดยไม่ได้ใช้งานในพื้นที่ The Hague, Delft, Leidschendam-Voorburg และ Pijnacker-Nootdorp อาจจะถูกถอดและนำไปเก็บไว้ในคลังจักรยาน Bicycle Depot Haaglanden
ผู้ที่จอดรถนอกชั้นวางหรือนอกพื้นที่โรงจอดรถใกล้กับ Grote Marktstraat และบริเวณโดยรอบอาจถูกนำไปเก็บไว้ที่ Biesieklette (Kranestraat) สามารถติดต่อขอรับจักรยานคืนได้ฟรีภายในวันเดียวกัน แต่ถ้าผ่านไปจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้นเทศบาลจะย้ายจักรยานไปไว้ที่ Bicycle Depot Haaglanden คุณสามารถค้นหาจักรยานหายในกรุงเฮกได้ที่เว็บไซต์ Fietsdepothaaglanden.nl และ Verlorenofgevonden.nl
จักรยานที่ถูกนำไปไว้ที่คลังจักรยานมีระยะเวลาเก็บที่แน่นอน หลังจากนั้นถ้าไม่มีเจ้าของไปรับคืนจะกลายเป็นกรรมสิทธิ์ของเทศบาล และอาจถูกส่งต่อไปยังศูนย์การเรียนรู้สำหรับผู้ที่มีโอกาสน้อยด้านตลาดแรงงานเพื่อฝึกฝนเป็นช่างซ่อมจักรยาน ส่วนจักรยานที่ยังมีสภาพการใช้งานที่ดีจะถูกขายให้กับผู้ค้าปลีกผ่านการประมูล ส่วนจักรยานที่ไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไปจะถูกนำไปรีไซเคิล
ระยะเวลาในการเก็บรักษาจักรยานที่คลังจักรยาน คือ
- จักรยานที่จอดไม่ถูกต้องจะถูกเก็บไว้เป็นเวลา 6 สัปดาห์
- จักรยานที่จอดนานเกิน 7 วันโดยไม่ได้ใช้งานจะถูกเก็บไว้เป็นเวลา 6 สัปดาห์
- จักรยานที่จอดนานเกิน 28 วันโดยไม่ได้ใช้งานจะถูกเก็บไว้เป็นเวลา 2 สัปดาห์
- จักรยานที่ถูกทิ้งร้างมากกว่า 3 วันจะถูกทำลายทันทีและรีไซเคิลส่วนที่นำกลับมาใช้งานใหม่ได้
- จักรยาน Swap bikes ที่พบทุกสัปดาห์จะถูกเก็บไว้เป็นเวลา 2 สัปดาห์ จากนั้นจะถูกส่งกลับไปยังบริษัทต้นทาง
ใครที่คาดว่าจักรยานของตัวเองถูกขโมยไปสามารถแจ้งตำรวจได้ที่ Politie.nl/aangifte-of-melding-doen หรือทางโทรศัพท์หมายเลข 0900-8844 (มีค่าบริการนาทีละ 2 เซน) และค้นหาจักรยานหายที่คลังจักรยาน ถ้าพบสามารถนัดไปรับคืนได้ฟรี หรือจัดส่งไปที่บ้านฟรีตามเขตเทศบาลที่เกี่ยวข้องหากไม่สามารถมารับด้วยตัวเองได้
ในกรณีอื่น ๆ สามารถมารับจักยานคืนได้พร้อมค่าใช้จ่าย 25 ยูโร (เฉพาะบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิต) และเอกสารยืนยันตัวตนเพิ่มเติม เช่น บัตรประจำตัวประชาชน ใบเสร็จสั่งซื้อจักรยานพร้อมหมายเลขเฟรม หรือกุญแจจักรยาน เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นจักรยานของคุณจริง
สำหรับใครที่ไม่มีหมายเลขเฟรมเฉพาะสามารถขอสลักได้ฟรีที่ Bicycle Depot Haaglanden คุณจะได้รับหมายเลขเฟรมที่ไม่ซ้ำใครพร้อมหลักฐานว่าเป็นจักรยานของคุณจริง ตัวเลขนี้ช่วยให้ค้นหาจักรยานได้ขึ้นหากถูกขโมย คลังจักรยานเปิดทำการปกติในวันจันทร์ พุธ และศุกร์ เวลา 08:30-17:00 น. วันอังคารและพฤหัสบดี เวลา 12:00-17:00 น.

ปั่นจักรยานในกรุงเฮกที่ไหนดี?
ในกรุงเฮกมีเส้นทางปั่นจักรยานให้เลือกหลากหลายและปั่นได้เกือบทุกเวลา นักท่องเที่ยวที่เช่าจักรยานมาแล้วสามารถเลือกปั่นได้ตามเส้นทางแนะนำดังรายละเอียด ย่านตัวเมืองจากสถานี Den Haag Centraal ไปยังที่เที่ยวยอดนิยมในกรุงเฮก เช่น Binnenhof, Mauritshuis Museum, Panorama Mesdag Museum, Prince William V Gallery Museum, The Peace Palace (Vredespaleis) และ Noordeinde Palace ผ่านย่านไชน่าทาวน์และย่านชอปปิงกรุงเฮก
หากชอบที่จะออกแรงมากขึ้นสามารถปั่นไปเที่ยวต่อที่เมืองจิ๋วจำลองมาดูโรดัม (Madurodam) โดยใช้เส้นทางเดียวกับรถรางสาย 9 เริ่มต้นที่สถานีรถไฟไปตามถนน Prinsessegracht ผ่านถนน Koninginnegracht ไปจนถึงสี่แยก Twee standbeelden van George Madura จะเห็นมาดูโรดัมตั้งอยู่ทางซ้ายมือ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10-15 นาที ระยะทางปั่น 3 กิโลเมตร
ถ้ายังไม่เต็มอิ่มมีอีกหนึ่งเส้นทางที่น่าสนใจนั้นก็คือ ชายหาด Scheveningen Beach ตั้งอยู่ห่างจากมาดูโรดัมเพียง 15 นาที ระยะทางปั่น 3 กิโลเมตร ใช้เส้นทาง Haringkade ผ่านถนน Gevers Deynootweg – Harteveltstraat – Scheveningseslag จะพบกับทางเข้าชายหาดทางด้านขวามือ
จากชายหาด Scheveningen Beach สามารถปั่นต่อไปยังชายหาด Wassenaar Beach ตั้งอยู่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ Meijendel ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของในอุทยานแห่งชาติ Hollandse Duinen National Park ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ระยะทางปั่นรวม 11.4 กิโลเมตร
ในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงกลางเดือนพฤษภาคมสามารถปั่นเที่ยวที่สวนดอกทิวลิปเคอเคนฮอฟ (Keukenhof) เป็นหนึ่งในสถานที่เที่ยวยอดนิยมของเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่ที่ชานเมืองลิซเซ่ (Lisse) ใกล้กับเมืองไลเด้น (Leiden) ใช้เวลาปั่นประมาณ 2 ชั่วโมง ระยะทาง 33 กิโลเมตร เหมาะสำหรับนั่งปั่นที่ชื่นชอบความท้าทายและมีเวลาเที่ยวแบบเดย์ทริป
เมืองใกล้เคียงกรุงเฮกอย่างซูเทอร์เมียร์ (Zoetermeer) ก็มีความน่าสนใจไม่น้อย เป็นที่ตั้งของ SnowWorld Zoetermeer ลานฝึกซ้อมสกีและสโนว์บอร์ดขนาดใหญ่ยาวถึง 300 เมตร ที่นี่เหมาะทีเดียวสำหรับคนที่ชื่นชอบกีฬาฤดูหนาว มีคอร์สเรียนทั้งแบบส่วนตัวและแบบกลุ่มทั้งเด็กและผู้ใหญ่
ถ้าตัดสินใจปั่นไปที่เมืองซูเทอร์เมียร์จะพบกับเส้นทางพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ (ในภาษาดัตช์เรียกว่า Groene Hart) ขึ้นชื่อเรื่องธรรมชาติผสมผสานกับการเกษตรครอบคลุมเทศบาล Zoetermeer, Alphen aan den Rijn, Gouda และ Woerden ระหว่างทางยังจะพบกับโรงสีเก่าแก่จำนวนสามหลังที่มีชื่อเสียง ได้แก่ Molendriegang Stompwijk, Midden molen Stompwijkseweg และ Ondermolen Nieuwe Driemanspolder ตั้งอยู่ท่ามกลางทัศนียภาพที่สวยงาม เส้นทางนี้ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ระยะทาง 8.5 กิโลเมตร
ห่างออกไปทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงเฮกยังเป็นที่ตั้งของเมืองเดลฟท์ (Delft) มีชื่อเสียงในด้านประวัติศาสตร์ราชวงศ์ดัตช์ เครื่องกระเบื้องสี บ้านเกิดของจิตกรชาวดัตช์ชื่อดัง Jan Vermeer เจ้าของผลงานภาพวาดชื่อดัง ‘The Girl with a Pearl Earring’ หญิงสาวสวมผ้าโพกหัวและต่างหูไข่มุก รวมถึงเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัย Delft University of Technology (TU Delft) สามารถปั่นไปที่เมืองนี้ได้ภายในเวลา 40-50 นาที ระยะทาง 10 กิโลเมตร
แอปช่วยนำทางปั่นจักรยานในกรุงเฮก
เพื่อป้องกันไม่ให้หลงทางและปั่นจักรยานในกรุงเฮกได้สะดวกและรวดเร็วมากขึ้นสามารถใช้แอปพลิเคชันเหล่านี้ช่วยในการนำทาง Efita cycling, Fietsknoop, Natuurroutes, MAPS.ME และ HERE WeGo
การเดินทางในกรุงเฮก ด้วยรถแท็กซี่ (Taxi)
การเดินทางระยะใกล้ในพื้นที่กรุงเฮกด้วยรถแท็กซี่อาจไม่เป็นที่นิยมเท่าไร อย่างไรก็ตามการเดินทางในระยะไกล เช่น จากสนามบินเข้าเมืองหรือออกจากเมืองไปยังสนามบินมักเป็นที่นิยม มีบริษัทผู้ให้บริการรถแท็กซี่หลายเจ้าในราคาที่ใกล้เคียงกับการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ
- HTMC Taxi Centrale บริการรถแท็กซี่ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคของกรุงเฮกตลอด 24 ชั่วโมง คุณจะพบรถแท็กซี่ HTMC ได้ที่จุดจอดบริเวณสถานี Den Haag Central และสถานี Den Haag Hollands Spoor (HS) รวมไปถึงมีจุดบริการอื่นๆ ในใจกลางเมืองและชายหาด Scheveningen ราคาค่าแท็กซี่คิดตามจำนวนกิโลเมตรที่เดินทาง สามารถจองแท็กซี่ล่วงหน้าได้ที่เว็บไซต์ทางการ หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ +31(0)70-3907722
- Taxi Centrale Haaglanden (TCH) เป็นอีกหนึ่งบริษัทของผู้ให้บริการรถแท็กซี่ในกรุงเฮกที่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการ จุดเด่นของแท็กซี่ TCH คือคิดราคาค่าโดยสารตามจำนวนกิโลเมตรและเวลาต่อนาทีของการเดินทาง เป็นไปตามกฎหมายรถแท็กซี่โดยกระทรวงคมนาคมโยธาธิการและการจัดการน้ำ คุณยังสามารถคำนวณค่าโดยสารในอัตราคงที่ได้ที่เว็บไซต์ทางการจะพบกับค่าแท็กซี่เดินทางจากสถานี Den Haag Central ไปยังสนามบิน Rotterdam-The Hague Airport ในราคา 47 ยูโร และสนามบิน Schiphol Airport ในราคา 69 ยูโร แท็กซี่ TCH รับบริการจองทางโทรศัพท์ตลอด 24 ชั่วโมงที่หมายเลข +31(0)70-3906262
สามารถใช้แอปพลิเคชันเหล่านี้เพื่อค้นหาแท็กซี่ในกรุงเฮก Uber Taxi, Viavan (รถแท็กซี่แบบแชร์กับผู้โดยสารที่เดินทางไปยังเส้นทางเดียวกัน) รถแท็กซี่อย่างเป็นทางการสังเกตง่ายด้วยป้ายสีฟ้า ราคาค่าโดยสารตามมิเตอร์ คนขับไม่ปฏิเสธรับผู้โดยสารและพาไปส่งยังจุดหมายปลายทาง รองรับการจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิตและมีใบเสร็จรับเงินให้
การเดินทางในกรุงเฮก ด้วยการเดิน (Walking)
แม้ว่าระบบขนส่งสาธารณะในกรุงเฮกจะมีความคล่องตัวไม่แพ้เมืองอื่น ๆ ในเนเธอร์แลนด์ แต่การเดินเที่ยวก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่สามารถทำได้ง่ายและช่วยประหยัดค่าเดินทางพร้อมออกกำลังกายไปในตัว ที่เที่ยวหลักในกรุงเฮก เช่น Binnenhof, Mauritshuis Museum, Panorama Mesdag Museum, Prince William V Gallery Museum, The Peace Palace (Vredespaleis) และ Noordeinde Palace สามารถเดินเที่ยวได้ภายในเวลา 2-3 ชั่วโมง หากต้องการเข้าชมภายในควรเผื่อเวลาไว้มากกว่านี้ ใจกลางเมืองคุณยังจะพบกับแหล่งชอปปิงรวมร้านค้าน่าเดินและไชน่าทาวน์แหล่งรวมร้านอาหารเอเชียที่น่าสนใจไว้มากมาย
นอกจากการเดินเที่ยวด้วยตัวเองแล้วยังมีทัวร์ภาษาอังกฤษเดินเที่ยวฟรีกับไกด์ทัวร์ในกรุงเฮกให้เลือกใช้บริการ Free Walking Tour The Hague มาพร้อมไกด์มืออาชีพที่จะพาเราไปยังสถานที่เที่ยวยอดนิยมในกรุงเฮกและเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของเมืองแบบเจาะลึกไปพร้อม ๆ กัน ทัวร์ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เมื่อเสร็จสิ้นทัวร์คุณอาจให้ค่าสินน้ำใจกับไกด์ตามความสมัครใจ
การเดินทางในกรุงเฮก ด้วยรถยนต์ (Car)
นักท่องเที่ยวสามารถใช้ใบขับขี่สากลขับรถในเนเธอร์แลนด์ได้สูงสุด 90 ส่วนคนที่ย้ายมาอยู่เนเธอร์แลนด์ด้วยวีซ่าระยะยาวหรือวีซ่าชั่วคราวสามารถขับรถในเนเธอร์แลนด์ด้วยใบขับขี่สากลได้ไม่เกิน 185 วัน หลังจากนั้นต้องทำใบขับขี่ดัตช์ให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อการขับขี่อย่างปลอดภัยสามารถอ่านกฎจราจรในเนเธอร์แลนด์รวมการทำใบขับขี่ดัตช์
สำหรับนักท่องเที่ยวถ้าอยากขับรถที่เนเธอร์แลนด์ต้องมีใบขับขี่สากล มีร้านสำหรับเช่ารถหลายแห่งตามสนามบินสคิปโฮล หรือตามตัวเมืองอื่น ๆ เช่น Europcar, Avis Budget, Enterprise Rent-A-Car, Hertz และ Sixt การเช่ารถต้องมีหนังสือเดินทางที่ยังไม่หมดอายุ ประกันการเดินทาง ฯลฯ ควรตรวจสอบรถและถ่ายรูปเป็นหลักฐานก่อนรับรถเพื่อไม่ให้มีปัญหาในตอนที่ส่งรถคืน
ที่จอดรถ P+R ในกรุงเฮก
ผู้ที่เดินทางด้วยรถยนต์ในกรุงเฮกสามารถหาที่จอดรถได้ตามจุดต่าง ๆ ทั่วเมือง ตัวเลือกที่คุ้มค่าและอยากให้ลองใช้งานกันนั้นก็คือ P+R ย่อมาจากคำว่า Park and Ride เป็นวิธีจอดรถราคาประหยัดในเนเธอร์แลนด์และเดินทางเข้าเมืองต่อด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ครอบคลุมถึงรถไฟ รถราง รถไฟใต้ดิน หรือรถจักรยาน สามารถจอดรถได้นานถึง 24 ชั่วโมง (หรือมากกว่านั้น) ที่จอดรถ P+R มักตั้งอยู่ตามชานเมืองใกล้ทางด่วนหรือสถานีระบบขนส่งสาธารณะ และมีประตูทางเข้าออกที่ใช้งานสะดวกและรวดเร็ว
ผู้ที่ต้องการส่วนลดค่าที่จอดรถมีเงื่อนไขว่าต้องเดินทางเข้าเมืองต่อด้วยระบบขนส่งสาธารณะโดยใช้บัตร OV-Chipkaart หรือตั๋วเดินทางไปกลับ P+R ที่หาซื้อได้ตามตู้ในที่จอดรถ ช่องทางออนไลน์หรือกับคนขับรถ (ขึ้นอยู่กับพื้นที่บริการ) โดยต้องซื้อตั๋ว P+R ภายในเวลาที่กำหนดหลังจากที่นำรถไปจอดแล้ว (ปกติมักอยู่ที่ 15 นาทีถึง 1 ชั่วโมง) หลังจากนั้นเมื่อเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะแบบไปกลับเรียบร้อย ต้องนำตั๋ว P+R มาชำระเงินที่ตู้ในที่จอดรถภายในหนึ่งชั่วโมงหลังจากเช็คเอาท์ออกจากขบวนรถ รองรับการจ่ายด้วยบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิตประเภทวีซ่าหรือมาสเตอร์การ์ด
ค่าที่จอดรถ P+R ในเดนฮาก (Den Haag)
ค่าที่จอดรถ P+R ในเดนฮากไม่มีราคาค่าคงที่เหมือนในอัมสเตอร์ดัม แต่แบ่งตามพื้นที่และมีบางแห่งเท่านั้นที่ใช้รวมกับตั๋ว P+R เดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะได้นั้นก็คือที่ P+R Hoornwijck มีตั๋วที่จอดรถ + ตั๋วเดินทางไปกลับ HTM ในราคา 5 ยูโร (1 คน) 6 ยูโร (2 คน) 7 ยูโร (3 คน) 8 ยูโร (4 คน) 9 ยูโร (5 คน) นอกจากนี้ที่ P+R Laan van NOI มีส่วนลดค่าโดยสารสูงสุดต่อวัน 6 ยูโร (ถ้าเดินทางด้วยรถไฟเข้าเมือง) ในเดนฮากยังมีที่จอดรถ P+R ฟรีหลายแห่ง ผู้ใช้งานไม่ต้องเสียค่าที่จอดรถ จ่ายแค่ค่าเดินทางเข้าเมืองในราคาประมาณ 1-3 ยูโรต่อเที่ยว
รายชื่อที่จอดรถ P+R ในเดนฮาก
- P+R Hoornwijck: เปิด 24 ชั่วโมง จอดรถ + ตั๋วไปกลับ HTM (สาย 1,5) ราคา 5 ยูโร (1 คน)
- P+R Mariahoeve: จอดฟรี เปิด 24 ชั่วโมง นั่งรถไฟเข้าเมืองประมาณ 6 นาที
- P+R Ypenburg: จอดฟรี เปิด 24 ชั่วโมง นั่งรถไฟเข้าเมืองประมาณ 8 นาที
- P+R Leidschenveen Haven: เปิด 24 ชั่วโมง ค่าจอดรถปกติ 1 ยูโรต่อชั่วโมง รายวันสูงสุด 10 ยูโร นั่งรถราง HTM สาย 3, 4 เข้าเมือง 15 นาที
- P+R Laan van NOI: เปิด 24 ชั่วโมง นั่งรถไฟเข้าเมืองประมาณ 5 นาที ส่วนลดค่าโดยสารสูงสุดต่อวัน 6 ยูโร
- P+R De Uithof: จอดฟรี เปิด 24 ชั่วโมง นั่งรถราง HTM สาย 4 เข้าเมืองประมาณ 15 นาที
- P+R ‘T Loo: เปิด 24 ชั่วโมง จอดฟรีในวันจันทร์-วันศุกร์ ตั้งแต่ 11:00-14:00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์จอดฟรีได้ไม่จำกัดเวลา นั่งรถราง HTM สาย 4 เข้าเมืองประมาณ 9 นาที
หมายเหตุ: ตัวเลขข้างต้นอาจมีการเปลี่ยนแปลง
การเดินทางจากสนามบินไปกรุงเฮก
ประเทศเนเธอร์แลนด์มีสนามบินทั้งหมด 5 แห่ง ท่าอากาศยานอัมสเตอร์ดัมสคิปโฮล (Schiphol Amsterdam Airport) เป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุด รองลงมาคือท่าอากาศยานไอนด์โฮเฟน (Eindhoven Airport ) ใช้สำหรับการเดินทางด้วยสายการบินราคาประหยัดและสายการบินขนาดเล็กของยุโรปจำนวนมาก
ส่วนท่าอากาศยานรอตเตอร์ดัมกรุงเฮก (Rotterdam The Hague Airport) เป็นสนามบินที่ใหญ่เป็นอันดับสามของเนเธอร์แลนด์ รองรับผู้โดยสารด้วยสายการบินราคาประหยัดเจ็ดแห่ง นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้ากรุงเฮกสะดวกด้วยระบบขนส่งสาธารณะภายในเวลา 40 นาที
การเดินทางจากท่าอากาศยานอัมสเตอร์ดัมสคิปโฮล
ระบบขนส่งสาธารณะ: นั่งรถไฟชั้นสอง NS ประเภท Intercity จากสนามบินอัมสเตอร์ดัมสคิปโฮลไปลงที่สถานี Den Haag Centraal ใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 33 นาที ค่าตั๋ว 9-10 ยูโร เพื่อความประหยัดสามารถใช้บัตรท่องเที่ยว Holland Travel Ticket สำหรับการเดินทางแบบไม่จำกัดเที่ยวด้วยรถไฟชั้นสอง
รถไฟชั้นสอง NS ประเภท Intercity จากสนามบินอัมสเตอร์ดัมสคิปโฮลมักออกจากชานชาลาที่ 5 หรือ 6 เสมอ การเดินทางไปยังสถานี Den Haag Centraal ใช้เวลาประมาณ 30-50 นาทีขึ้นอยู่กับวันและเวลาที่ออกเดินทาง แต่โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 35 นาที ซื้อตั๋วเที่ยวเดียวได้ที่ตู้จำหน่ายตั๋วหรือจุดบริการข้อมูลในสนามบิน ตั้งอยู่ใกล้กับจุดรับกระเป๋า (Arrival 3) หรือใช้บัตร OV-chipkaart ทั้งแบบส่วนบุคคลและแบบไม่ระบุข้อมูลส่วนบุคคลในการเดินทาง
การเดินทางจากท่าอากาศยานรอตเตอร์ดัมกรุงเฮก
ระบบขนส่งสาธารณะ: นั่งรถบัส RET สาย 33 จากท่าอากาศยานรอตเตอร์ดัมกรุงเฮกไปลงที่สถานีรถไฟใต้ดิน Meijersplein จากนั้นนั่งรถราง RandstadRail สาย E ไปยังสถานี The Hague Central Station ใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 40 นาที ค่าตั๋ว 4.60 ยูโร เพื่อความประหยัดสามารถใช้ตั๋ว RET 2 hours ราคา 4.50 ยูโร เดินทางได้ทั้งรถราง รถบัส และรถไฟใต้ดินของ RET
รถแท็กซี่: ที่บริเวณทางเข้าออกท่าอากาศยานรอตเตอร์ดัมกรุงเฮก คุณจะพบกับแท็กซี่บริการรับส่งไปยังกรุงเฮกและพื้นที่ใกล้เคียงตลอด 24 ชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15-30 นาที (ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร) ค่าโดยสารเฉลี่ย 45-60 ยูโร สามารถโทรเรียกแท็กซี่ได้ที่หมายเลข +31(0)10-2620406 หรือจองแท็กซี่ออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ Rotterdam-airport-taxi.nl
รถยนต์: ใช้เส้นทาง A13 ประมาณ 16 นาที
รับส่งที่สนามบิน: ใช้พื้นที่ Kiss & Ride ตั้งอยู่ใกล้อาคารสนามบิน ถ้าต้องการจอดรถมีที่จอดรถ P2 ฟรีไม่เกิน 10 นาที หากจอดนานกว่านี้มีค่าใช้จ่าย 2.50 ยูโร (30 นาที) 4 ยูโร (1 ชั่วโมง) 6 ยูโร (1.5 ชั่วโมง) 8 ยูโร (2 ชั่วโมง) ชั่วโมงที่ 3-10 บวกเพิ่ม 3 ยูโรต่อชั่วโมง จอดนานเกิน 10 ชั่วโมง 45 ยูโร และจอดรถได้สูงสุดไม่เกิน 24 ชั่วโมง
รถบัสสาย 33 ให้บริการทั้งหมด 19 ป้าย ใช้เวลาเฉลี่ยเดินทางตลอดสาย 32 นาที จากป้าย Rotterdam The Hague Airport ไปยัง Meijersplein หยุดรับส่งผู้โดยสาร 3 ป้ายใช้เวลารวม 7 นาที รถวิ่งทุกวันตั้งแต่เวลา 00:01-23:31 น. ในวันธรรมดาวิ่งทุก 10 นาที ส่วนในวันเสาร์อาทิตย์วิ่งทุก 30 นาที
รถราง RandstadRail สาย E ให้บริการทั้งหมด 15 ป้าย ใช้เวลาเฉลี่ยเดินทางตลอดสาย 54 นาที จากป้าย Meijersplein ไปยัง The Hague Central Station หยุดรับส่งผู้โดยสาร 11 ป้ายใช้เวลารวม 26 นาที รถวิ่งทุกวันตั้งแต่เวลา 00:17-23:52 น. ในวันธรรมดาวิ่งทุก 10 นาที ส่วนในวันเสาร์อาทิตย์วิ่งทุก 15 นาที
อ่านต่อ | วิธีเดินทางจากสนามบินสคิปโฮลอัมสเตอร์ดัมเข้าเมือง
แอปพลิเคชันช่วยวางแผนการเดินทางในกรุงเฮก
การเดินทางในกรุงเฮกนอกจากจะมีทันสมัยและสะดวกสบายแล้ว คุณยังสามารถเข้าถึงข้อมูลการเดินทางออนไลน์ได้ง่ายโดยใช้แอปพลิเคชันบนมือถือเพื่อช่วยวางแผนการเดินทางในกรุงเฮก แอปพลิเคชันหลักที่แนะนำ คือ
- HTM: ให้บริการข้อมูลระบบขนส่งสาธารณะในกรุงเฮกโดยเฉพาะ ช่วยค้นหาตำแหน่งของรถประจำทางหรือรถรางแบบเรียลไทม์ รวมไปถึงเวลาออกเดินทางปัจจุบันของป้ายที่ใกล้ที่สุดหรือป้ายที่ต้องการโดยอิงตามตำแหน่ง GPS ของผู้ใช้งาน และยังสามารถรับการแจ้งเตือนแบบพุชในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงขบวนรถหรือการหยุดชะงักชั่วคราว
- 9292: ช่วยวางแผนการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะดัตช์ จะขึ้นเหนือล่องใต้ก็ไม่มีหลง
- OV-chipkaart: รองรับการใช้งานสำหรับผู้ที่มีบัตร OV-chipkaart ทั้งแบบส่วนบุคคลและแบบไม่ระบุข้อมูลส่วนบุคคล สามารถตรวจสอบประวัติการเดินทางและเครดิตในบัตร OV-chipkaart ได้ง่าย รวมถึงค้นหาจุดบริการที่อยู่ใกล้เคียงได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย
นอกเหนือจากแอปพลิเคชันที่กล่าวไปข้างต้นแล้วยังมีแอปพลิเคชันอื่น ๆ สำหรับการท่องเที่ยวในตัวเมืองต่าง ๆ ของเนเธอร์แลนด์ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 19 แอปพลิเคชันตัวช่วยวางแผนการเดินทางในเนเธอร์แลนด์
สรุปการเดินทางในกรุงเฮก
การเดินทางในกรุงเฮกและเทศบาลใกล้เคียงด้วยระบบขนส่งสาธารณะมีความสะดวกรวดเร็ว ผู้โดยสารสามารถเดินทางโดยใช้บัตรโดยสารร่วมเพียงบัตรเดียวโดยไม่ต้องแบ่งประเภทการเดินทาง ก่อนออกเดินทางสามารถวางแผนล่วงหน้าได้ที่เว็บไซต์ HTM, 9292 และ NS ช่วยประหยัดเวลาและพร้อมสำหรับการเที่ยวในกรุงเฮก