เมื่อพูดถึงประเทศอิตาลี นอกจากบ้านเมืองที่มีสถาปัตยกรรมอันงดงามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจก็คือภูมิทัศน์แบบภูเขาสูงที่เหมาะสำหรับการเดินป่าสำรวจธรรมชาติ ในบทความนี้เราจะพาไปรู้จักกับ ทะเลสาบเออร์เดโมโล (Lago di Erdemolo) แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ในหุบเขาลึกชื่อว่า “Val dei Mocheni” ที่ระดับความสูง 2,036 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ในจังหวัดเตรนตีโนของประเทศอิตาลี ความน่าสนใจของที่นี่แน่นอนว่ามีเส้นทางเดินป่าที่สามารถใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงเพื่อไปสัมผัสป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ ตลอดจนชื่นชมความสวยงามของทะเลสาบที่ซ่อนอยู่ในหุบเขาลึก
ทริปเดินป่าในอิตาลีเป็นส่วนหนึ่งการขับรถเที่ยวทางไกลในยุโรปช่วงฤดูร้อนทั้งหมด 5 ประเทศด้วยกัน คือ ฝรั่งเศส โมนาโก อิตาลี ออสเตรีย และลิกเตนสไตน์ เราได้เขียนเล่าประสบการณ์รวมถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับการเที่ยวในประเทศเหล่านี้ไว้อย่างละเอียด ใครที่สนใจอย่าลืมแวะไปอ่านเพิ่มเติมได้ตามลิงก์แนบ
การเดินทางไปยังทะเลสาบเออร์เดโมโล (Lago di Erdemolo) เดินป่าในอิตาลี
สามารถเดินทางด้วยรถยนต์โดยใช้เส้นทางผ่านหมายเลข SS47 และ SP8 ไปยังเส้นทางเดินป่าในหมู่บ้าน Pal del Fersina ในเขต Vrottn จากนั้นจอดรถไว้ที่ Località Frotten แล้วเดินเท้าต่อด้วยเส้นทางหมายเลข 325 อีกประมาณ 1-2 ชั่วโมงก็จะถึงทะเลสาบเออร์เดโมโล (Lago di Erdemolo)
จากจุดจอดรถนักท่องเที่ยวสามารถใช้เส้นทางหมายเลข 325 ที่ตั้งอยู่ยังจุดเริ่มต้นเพื่อเดินเข้าไปยังทะเลสาบเออร์เดโมโล โดยช่วงแรกเป็นถนนคอนกรีต จากนั้นพอเดินไปประมาณ 20 นาทีจะต้องเลี้ยวขวาไปยังเส้นทางเดินเท้าที่เป็นพื้นดินแบบเต็มตัว บางช่วงมีสะพานขนาดเล็กสำหรับใช้ข้ามลำธาร
ใกล้กับลำธารยังเป็นที่ตั้งพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น (The Mine of ‘Erdemolo) ที่เคยเป็นเหมืองแร่ทองคำในอดีต เราไม่ได้เข้าชมเหมืองแร่เนื่องจากตั้งใจมาเดินป่าโดยเฉพาะ จึงเดินผ่านไปตามเส้นทางทุ่งหญ้าที่เป็นทางเดินแบบกรวดหินขนาดใหญ่และมีความชันในระดับหนึ่ง
จากทุ่งหญ้าสู่ป่าสน เดินป่าในอิตาลี
หลังจากเดินผ่านทุ่งหญ้ามาแล้วก็เริ่มเข้าสู่เส้นป่าสนที่มีความชันมากขึ้น (และพีคสุด ๆ ตอนใกล้จะถึงที่หมาย) ช่วงนี้ต้องใช้ทั้งแรงขาและแรงใจที่เยอะพิเศษเพื่อไม่ให้ตัวเองถอดใจไปก่อน พอรู้สึกเหนื่อยก็หยุดพักดื่มน้ำและขนมที่เตรียมมาด้วย หลังจากหายเหนื่อยแล้วก็ออกเดินทางกันต่อ เรียกได้ว่าใช้เวลาแบบไม่เร่งรีบและได้ชื่นชมธรรมชาติรอบตัวอย่างเต็มที่ ระหว่างทางไม่ต้องกลัวว่าจะหลงนะคะเพราะว่าที่นี่เขามีป้ายบอกทางและแต้มสีไว้ที่ก้อนหินตลอดจุดสำคัญเลย
สำหรับป่าไม้ที่นี่แม้จะเป็นในช่วงหน้าร้อนแต่ก็ยังเขียวขจีตลอดเส้นทาง ยกเว้นก็แต่สภาพอากาศที่ร้อนเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในช่วงสายใกล้จะเที่ยงแบบนี้ ควรเตรียมแว่นกันแดดหรือหมวกมาด้วย สำหรับใครที่ต้องการเลี่ยงอากาศร้อนแนะนำให้มาประมาณแปดโมงเช้า พอไปถึงทะเลสาบเออร์เดโมโลก็เป็นช่วงสาย ๆ พอดี แล้วก็เดินกลับลงมาช่วงบ่ายอ่อน ๆ มีเวลามีเหลือไปทำกิจกรรมอย่างอื่นได้อีก หรือถ้าใครที่อยากในเดินป่าที่นี่ในช่วงฤดูหนาวก็จะได้บรรยากาศที่แตกต่างไปอีกแบบ เพราะจะเต็มไปด้วยหิมะปกคลุม มองไปทางไหนก็เป็นสีขาว รวมถึงทะเลสาบที่จะกลายเป็นน้ำแข็ง
ทะเลสาบเออร์เดโมโล (Lago di Erdemolo) เดินป่าในอิตาลี
เดินกันมาเกือบสองชั่วโมง (ถ้าเดินเร็วกว่านี้อาจจะใช้เวลาประมาณหนึ่งถึงหนึ่งชั่วโมงครึ่ง) เราก็พากันมายืนอยู่บนโขดหินสูงซึ่งเป็นจุดที่มองลงไปด้านล่างแล้วก็พบกับกับไฮไลท์ของเรานั้นก็คือ ทะเลสาบเออร์เดโมโล (Lago di Erdemolo) ได้อย่างพอดี พอเดินลงไปข้างล่างจะได้ความงดงามของทะเลสาบแบบใกล้ชิด โดยมีขนาดใหญ่กว่าตอนที่เรามองมาจากโขดหินด้านบนเลย ส่วนน้ำในทะลสาบใสมาก ไม่ใช่ใสธรรมดาแต่เรียกได้ว่าใสจนเป็นสีเขียวมรกตกันเลยทีเดียว บวกกับแสงสะท้อนจากท้องฟ้าแล้วทำให้ทะเลสาบดูสวยเพิ่มขึ้นไปอีกสิบเท่าตัว
แน่นอนว่ามาถึงที่ทะเลสาบแห่งนี้นอกจากจะได้ชื่นชมความสวยงามแล้ว ยังสามารถนั่งปิกนิกทานน้ำดื่มและขนมที่เตรียมมาได้อีกด้วย ภาพทะลสาบที่เราเห็นอยู่ตรงหน้าตอนนี้ทำให้รู้สึกหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลย เหมือนกับดูหนังการผจญภัยสักเรื่องแล้วเราก็เดินทางมาถึงยังที่หมายสักที ความรู้สึกก็จะเป็นแบบเดียวกับในหนังเลย อีกอย่างคือใครจะคาดคิดว่าจะมีทะเลสาบตั้งอยู่สูง 2,036 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลแบบนี้ เอาเป็นว่าคุ้มค่ามากที่ตัดสินใจมาเดินป่าที่นี่
ใกล้กับโขดหินที่เรานั่งอยู่ก็ไม่ได้มีแค่เรากับแฟนแค่สองคนแต่ยังมีอีกหนึ่งครอบครัวที่พาลูก ๆ มาเดินป่าด้วยกัน เด็ก ๆ ก็ส่งเสียงเล่นกันอย่างสนุกสนานตามประสาเด็ก ๆ ส่วนพ่อกับแม่ก็นั่งมองลูก ๆ และก็ยังมีคุณป้ากับคุณลุงอีกหนึ่งคู่ที่ดูเหมือนว่าจะมีความเชี่ยวชาญในการเดินป่าเป็นพิเศษ เพราะมีอุปกรณ์เดินป่า เสื้อผ้าและรองเท้าครบครันเหมือนกับคนที่ไปเดินป่าบ่อย และตบท้ายด้วยอีกหนึ่งครอบครัวที่เราได้ยินเสียงมาแต่ไกลและใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ และคาดว่าจะมีอีกหลายครอบครัวที่พาเด็ก ๆ มาเดินป่าที่นี่ในช่วงฤดูร้อนแบบนี้
สำหรับใครที่อยากว่ายน้ำก็สามารถทำได้ (อย่าลืมเตรียมชุดว่ายน้ำมาเผื่อด้วยนะคะ) แต่น่าเสียดายวันที่เราไปนั้นท้องฟ้ามืดครึ้ม และฝนก็ตกลงมาพอดีตอนที่เรากำลังนั่งกินขนมอยู่ทำให้วิ่งหาที่หลบฝนแทบไม่ทัน แต่เอาจริง ๆ ก็ไม่มีที่หลบฝนเลย เพราะที่พักหลังเดียวที่อยู่ใกล้กับทะเลสาบก็ปิดในช่วงหน้าร้อน แต่ยังโชคดีที่ฝนตกไม่หนักมากทำให้เราไม่ต้องเปียกฝนกันเท่าไร
อีกด้านหนึ่งของทะเลสาบเออร์เดโมโลมีเส้นทางที่สามารถเดินขึ้นไปบนภูเขาอีกฝั่งได้ด้วยนะคะ เพราะว่าทะเลสาบเออร์เดโมโลจะอยู่ระหว่างเชิงเขา Pizzo Alto และ Monte del Lago ถ้าขึ้นไปข้างบนอีกฝั่งจุดสูงสุดที่ระดับความสูง 2264 เมตร ก็จะเห็นภาพบรรยากาศที่สวยงามไปอีกแบบ เรียกได้ว่าไม่ว่าจะเดินไปด้านไหนเมื่อมองกลับมาที่ทะเลสาบก็สวยทุกมุม
ขากลับเดินลงเขาจากทะเลสาบเออร์เดโมโล เดินป่าในอิตาลี
พอชื่นชมความสวยงามของทะเลสาบเรียบร้อยแล้วก็เตรียมออกเดินทางกันต่อ คราวนี้จะเป็นการเดินลงเขา เพราะว่าขามาเราใช้แรงขาไปเยอะแล้ว ขากลับก็จะเป็นการเดินแบบสบาย ๆ เส้นทางเดินกลับที่ใช้คือเส้นทางหมายเลข 324 ซึ่งจะเป็นการเดินไต่ไปตามภูเขา แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะหลงหรือไม่ปลอดภัยนะคะ เพราะเป็นเส้นทางที่มีคนเดินจนเป็นรูปเป็นร่างแล้ว บางช่วงอาจจะมีหวาดเสียวนิดหนึ่ง แต่ถ้าใช้ความระมัดระวังและไม่รีบจนเกินไปก็สามารถผ่านไปได้ด้วยดี
เส้นทางขากลับนอกจากจะเป็นเส้นทางเดินไปตามภูเขาแบบวงกลมแล้ว ยังเป็นเส้นทางที่ทำให้เรามองเห็นวิวด้านล่างอย่างชัดเจน ไม่มีป่าไม้สนบดบังทัศนียภาพ และที่สำคัญเราสามารถมองเห็นหมู่บ้าน Palù del Fersina ตามเส้นทางที่ขับรถมายังที่นี่ พอเห็นแบบนี้แล้วแทบไม่เชื่อตัวเองว่าเดินป่ามาไกลขนาดนี้ เป็นเส้นทางที่เหมาะจริง ๆ สำหรับคนที่ชอบการเดินป่าและได้ชมธรรมชาติรอบด้านแบบจุใจ
ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเราก็เดินลงเขามายังที่จอดรถ รวมแล้วใช้เวลาไปทั้งหมดประมาณ 5 ชั่วโมง ระยะทางรวมประมาณ 10 กิโลเมตรของทริปการเดินป่าในวันนี้ สิ่งที่ชอบมากที่สุดเลยก็คือทะเลสาบเออร์เดโมโล เหมือนเป็นจุดหมายปลายทางที่ซ่อนอยู่ในหุบเขาลึก เราต้องใช้ความพยายามในการเดินไป พอถึงแล้วก็ใช้ความพยายามในการเดินกลับอีก แถมได้ชมธรรมชาติรอบด้าน อาจจะไม่ได้สวยหวือหวาแต่ก็มีความสวยงามในแบบของตัวเอง และยังไม่ค่อยเห็นนักท่องเที่ยวพูดถึงที่นี่มากนัก แต่แน่นอนว่าเป็นอีกหนึ่งจุดปลายทางสำหรับการเดินป่าที่น่าสนใจทีเดียว
ที่พักแคมป์ปิ้งในเตรนตีโน (Trentino) ประเทศอิตาลี
หลังจากเดินป่าเสร็จแล้วเราก็เดินทางกลับมายังที่พักแคมป์ปิ้ง Camping Punta Lago ซึ่งอยู่ห่างจากเส้นทางเดินป่าประมาณ 30 นาที แคมป์ปิ้งตั้งอยู่ติดกับทะเลสาบ Lago Di Caldonazz ในจังหวัดเตรนตีโน (Trentino) หนึ่งในสถานที่ยอดนิยมของประเทศอิตาลีที่นักท่องเที่ยวชาวยุโรปนิยมมาออกแคมป์ปิ้งในช่วงฤดูร้อน
ภายในแคมป์ปิ้งมีที่พักทั้งแบบบ้านพักเป็นหลัง ๆ และจุดกางเต้นท์พร้อมลานจอดรถ มีห้องอาบน้ำแยกชายหญิง มาพร้อมที่ล้างจาน และสนามเด็กเล่นสำหรับผู้ปกครองที่พาลูก ๆ มาด้วย ราคาที่พักแบบกางเต้นท์จะถูกกว่าที่พักแบบเป็นบ้านพัก สามารถทำอาหารเองได้ แต่ต้องเตรียมอุปกรณ์การทำครัวมาให้พร้อม โดยรวมแล้วเป็นอีกหนึ่งแคมป์ปิ้งราคาประหยัดในอิตาลีที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนในช่วงฤดูร้อนประมาณ 3-5 วัน
